TNN Tech ข่าวไอที Gadget เทคโนโลยี สมาร์ตโฟน คอมพิวเตอร์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม โลกยุคใหม่

ติดต่อทีมงาน TNN Tech ที่อีเมล [email protected]
(4)

ติดต่อลงโฆษณาที่
คุณธนิถา ยิ้มแย้ม
เบอร์ติดต่อ : 088-924-4942
email : [email protected]
LineID : PLuthanitha

วิธีจัดเก็บข้อมูลรูปแบบใหม่ได้รับแรงบันดาลใจจากตัวอักษรคูนิฟอร์มตัวอักษรคูนิฟอร์ม (Cuneiform) เป็นรูปแบบการเขียนที่เก่าแ...
02/01/2025

วิธีจัดเก็บข้อมูลรูปแบบใหม่ได้รับแรงบันดาลใจจากตัวอักษรคูนิฟอร์ม

ตัวอักษรคูนิฟอร์ม (Cuneiform) เป็นรูปแบบการเขียนที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ได้รับการนำไปปรับใช้ในเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลแบบใหม่โดยทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฟลินเดอร์ส (Flinders) ประเทศออสเตรเลีย นำโดยแอบบิเกล แมน (Abigail Mann) นักศึกษาปริญญาเอกในสาขาวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์

สำหรับอักษรคูนิฟอร์ม (Cuneiform) มีจุดเริ่มต้นในอารยธรรมเมโสโปเตเมีย (Mesopotamia) ประมาณ 3,400 ปีก่อนคริสต์ศักราช โดยถูกใช้งานครั้งแรกโดยชาวสุเมเรียน (Sumerians) ตัวอักษรคูนิฟอร์มมีลักษณะเป็นรอยบุ๋มรูปสามเหลี่ยมและเส้นสั้น ๆ ซึ่งเกิดจากการใช้แท่งไม้หรือเหล็กที่มีปลายเป็นทรงสามเหลี่ยมกดลงบนแผ่นดินเหนียว

แทนที่นักวิจัยจะใช้ดินเหนียวแบบดั้งเดิม เทคโนโลยีใหม่ที่พัฒนาขึ้นใช้ฟิล์มโพลีเมอร์ที่มีราคาย่อมเยา และผลิตจากกำมะถันผสมกับไดไซโคลเพนตาไดอีน ข้อมูลจะถูกเก็บในฟิล์มในรูปแบบของรอยบุ๋มขนาดเล็กระดับนาโน โดยหัวเข็มปลายแหลม ซึ่งใช้แรงกดในระดับอะตอมสำหรับสร้างรอยบุ๋มและอ่านค่าต่าง ๆ หลังการจดบันทึก

เทคโนโลยีใหม่นี้พัฒนาจากการใช้วิธีดั้งเดิมที่เป็นรหัสไบนารี ซึ่งมีสถานะข้อมูลเพียง 2 ระดับ คือ 0 และ 1 แต่สำหรับวิธีการใหม่นี้ใช้การเข้ารหัสแบบเทอร์นารีที่มี 3 ระดับ โดยหากไม่มีรอยบุ๋มแสดงเป็น 0 และหาพบว่ามีรอยบุ๋มลึก 0.3–1.0 นาโนเมตร จะแสดงเป็น 1 ในขณะที่รอยบุ๋มลึก 1.5–2.5 นาโนเมตร จะแสดงเป็น 2 ส่งผลให้ระบบมีความหนาแน่นของข้อมูลเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าจากการเข้ารหัสไบนารีแบบดั้งเดิม

จุดเด่นอีกประการหนึ่งของฟิล์มโพลีเมอร์นี้คือความสามารถในการเขียนใหม่ได้ หลังจากลบรอยบุ๋มโดยการให้ความร้อนที่อุณหภูมิ 140 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 10 วินาที ฟิล์มสามารถผ่านกระบวนการเขียนใหม่ได้ถึง 4 รอบ โดยยังคงประสิทธิภาพการทำงาน การพัฒนาใหม่นี้ยังช่วยลดการใช้พลังงาน เนื่องจากกระบวนการเขียนสามารถทำได้ที่อุณหภูมิห้อง ทำให้ระบบนี้มีความยั่งยืนและเหมาะสมกับการใช้งานในอนาคต

“การวิจัยนี้เปิดโอกาสใหม่ในการใช้โพลีซัลไฟด์หมุนเวียนที่เรียบง่ายสำหรับการจัดเก็บข้อมูลเชิงกล ซึ่งมีศักยภาพในการเป็นทางเลือกที่ใช้พลังงานต่ำกว่า ความหนาแน่นสูงกว่า และยั่งยืนกว่าเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบัน” แอบบิเกล แมน (Abigail Mann) กล่าวเพิ่มเติม

บทความเกี่ยวกับงานวิจัยนี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Advanced Science เร็ว ๆ นี้ ส่วนการนำไปใช้จริงในระดับอุตสาหกรรมยังคงต้องรอบริษัทเอกชนเข้ามาลงทุนหรือนำผลงานการวิจัยไปใช้ประโยชน์ต่อไป

ที่มาของข้อมูล https://newatlas.com/good-thinking/indent-data-storage/
ที่มาของรูปภาพ Reuters

#ข้อมูล #ฐานข้อมูล

01/01/2025

ก่อนจะหมดวันแรกของปี 2025
อยากขอบคุณแฟน ๆ TNN Tech ทุกท่าน ที่ติดตามข่าวสารเทคโนโลยี นวัตกรรมจากพวกเราเสมอมา พวกเราสัญญาว่าจะนำเสนอผลงานคุณภาพให้กับทุกคนต่อไป สวัสดีปีใหม่ค่ะ 🙏🏻

01/01/2025

เนื่องช่วงเทศกาลปีใหม่ จะพาคุณผู้ชมไปเติมอาหารสมอง กับเรื่องน่ารู้ของโลกและอวกาศใกล้ตัว ที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน เช่นทำไมรอยเท้าของคนเรา ถึงอยู่บนดวงจันทร์ได้นาน 100 ล้านปี และโลกของเรามีแหล่งผลิตออกซิเจนมากที่สุดคือที่ไหน? รับรองว่าจบคลิปนี้ ได้เกร็ดความรู้ดี ๆ ติดตัวไปแน่นอน !!

#รู้หรือไม่ #เกร็ดความรู้ #โลก #อวกาศ #สัตว์โลก #เทคโนโลยี #ข่าว

ก่อนเปิดตัวกลางเดือนมกราคมGalaxy S25 มีอะไรใหม่บ้าง ?Samsung ประกาศเตรียมเปิดตัวสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นใหม่ Samsung Galaxy S...
01/01/2025

ก่อนเปิดตัวกลางเดือนมกราคม
Galaxy S25 มีอะไรใหม่บ้าง ?

Samsung ประกาศเตรียมเปิดตัวสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นใหม่ Samsung Galaxy S25 ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนมกราคม 2025 โดยมีสื่อที่ออกมาคาดการณ์รายละเอียดล่วงหน้า ก่อนที่ตัวสมาร์ตโฟนจะเปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการ

1. รุ่น Ultra จะมีขนาดตัวเครื่องที่ “บาง” กว่าสมาร์ตโฟนรุ่นอื่น ๆ ในท้องตลาด

2. รุ่น S25 และ S25+ จะมีสีให้เลือก 7 สี ประกอบไปด้วย Blue Black, Coral Red, Icy Blue, Mint, Navy, Pink Gold, และ Silver Shadow

3. รุ่น S25 Ultra จะมีสีให้เลือก 7 สีเช่นกัน ประกอบไปด้วย Titanium Black, Titanium Gray, Titanium Jade Green, Titanium Jet Black, Titanium Pink Gold, Titanium Silver Blue, และ Titanium White Silver

4. รุ่น S25 จะมาพร้อม RAM 12GB ชิป Snapdragon 8 Elite

5. กล้องจะมีการอัปเกรดเลนส์มุมกว้างเป็นความละเอียด 50 ล้านพิกเซล

ทั้ง 5 ข้อนี้เป็นข้อมูลทั้งหมดที่เปิดเผยออกมา และเป็นการคาดการณ์จากสื่อต่าง ๆ ซึ่งก็ต้องรอลุ้นกันว่าจะเป็นจริงตามที่คาดหวังกันหรือไม่

แหล่งที่มา : https://x.com/UniverseIce/status/1848906894959907222

#สมาร์ตโฟน #ข่าว
่อง16 #ซิงเกิลอิมเมจ
————
📲 อัปเดตข่าวเทคโนโลยีที่น่าสนใจบน Instagram กับ TNN Tech คลิก https://www.instagram.com/tnn_tech

รวมถึงแพลตฟอร์มน้องใหม่ Threads คลิกเลย
https://www.threads.net/

ติดตาม TNN Tech ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
• Youtube : https://bit.ly/TNNTechYoutube
• TikTok : https://www.tiktok.com/
• Line : https://page.line.me/tnntech
• Website : https://bit.ly/TNNTechWebsite�
หรือดูรายการ Live ได้ทาง
https://www.facebook.com/TNN16LIVE/

Meta AI เปิดใช้งานในไทยพูดไทยได้ สร้างภาพได้ ใช้ฟรี!!Meta ประกาศเปิดให้ใช้แชตบอตปัญญาประดิษฐ์ อย่าง Meta AI สำหรับผู้ใช้...
01/01/2025

Meta AI เปิดใช้งานในไทย
พูดไทยได้ สร้างภาพได้ ใช้ฟรี!!

Meta ประกาศเปิดให้ใช้แชตบอตปัญญาประดิษฐ์ อย่าง Meta AI สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook, Instagram, WhatsApp และ Messenger ใน “ประเทศไทย” ได้อย่างเป็นทางการแล้ว !

Meta AI ใช้โมเดลปัญญาประดิษฐ์ Meta Llama 3 เป็นพื้นฐานในการพัฒนาและให้บริการ รองรับความสามารถการใช้งานพูดคุยด้วยภาษาไทย ภาษาอังกฤษ บริการสอบถามข้อมูล ไปจนถึงการสร้างภาพตามคำสั่ง ทั้งแบบภาพนิ่ง ไปจนถึงภาพเคลื่อนไหว เหมือนแบบภาพ GIF ได้ฟรี ไม่จำกัดจำนวนครั้ง

ก่อนหน้านี้ Meta AI มีเปิดใช้งานเพียง สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย แคนาดา กานา จาไมกา มาลาวี นิวซีแลนด์ ไนจีเรีย ปากีสถาน สิงคโปร์ แอฟริกาใต้ ยูกันดา แซมเบีย และซิมบับเว โดยประเทศไทยถือเป็นประเทศล่าสุด ที่ได้ใช้งาน AI ดังกล่าว และสามารถใช้งานได้ฟรี

ที่มาข้อมูล : https://www.meta.ai/

#ข่าว
่อง16
—————————————————————————
ติดตาม TNN Tech ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
• Website : https://bit.ly/TNNTechWebsite
• Youtube : https://bit.ly/TNNTechYoutube
• TikTok : https://bit.ly/TNNTechTikTok
• Line : https://lin.ee/4fP2tltIo
หรือดูรายการ Live ได้ทาง
https://www.facebook.com/TNN16LIVE/ #

เที่ยวบินนี้เดินทางย้อนเวลา บินขึ้นในปี 2025 แต่ลงจอดในปี 2024ในช่วงเวลาแห่งการเคาท์ดาวน์ปีใหม่ทั่วโลกได้ร่วมกันเฉลิมฉลอ...
01/01/2025

เที่ยวบินนี้เดินทางย้อนเวลา บินขึ้นในปี 2025 แต่ลงจอดในปี 2024

ในช่วงเวลาแห่งการเคาท์ดาวน์ปีใหม่ทั่วโลกได้ร่วมกันเฉลิมฉลองการเข้าสู่ปีใหม่ 2025 ตามปฏิทินสากล แต่ในขณะเดียวกันก็มีหลายคนที่ต้องเดินทางข้ามประเทศ ทำให้เกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า เที่ยวบินเดินทางย้อนเวลา หรือเหตุการณ์ที่เครื่องบินโดยสารบินขึ้นในสนามบินของประเทศที่เข้าสู่ปี 2025 ไปแล้ว และเครื่องบินได้บินไปลงจอดในเขตประเทศที่ยังเป็นปี 2024

เรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่โดยเพจ Hflight ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับเครื่องบิน โดยเพจได้ตรวจสอบข้อมูลจากเว็บไซต์ Flightradar24 พบว่าเที่ยวบิน NH106 ของสายการบินออลนิปปอนแอร์เวย์ส (NH/ANA) ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติโตเกียว (ฮาเนดะ) (HND) ในเวลา 01.19 น. วันที่ 1 มกราคม 2568 หลังจากผู้โดยสารและลูกเรือบนเที่ยวบินได้เฉลิมฉลอง Countdown ต้อนรับปีใหม่ 2025 ที่โตเกียวไปเรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตาม เที่ยวบิน NH106 ซึ่งดำเนินการบินด้วยเครื่อง Boeing 787-8 หมายเลขทะเบียน JA828A กำลังมุ่งหน้าสู่การ "ย้อนเวลา" กลับไปในปี 2024 เนื่องจากมีกำหนดลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติลอสแอนเจลิส (LAX) สหรัฐอเมริกา ในเวลา 17.06 น. ของวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือบนเที่ยวบินนี้มีโอกาสฉลอง Countdown ต้อนรับปีใหม่ถึงสองครั้ง

สาเหตุที่เครื่องบินเดินทางย้อนไปปี 2024 ได้นั้นเกิดขึ้นจาก เวลาที่โตเกียว (UTC+9) เร็วกว่าเวลาที่ลอสแอนเจลิส (UTC-8) ถึง 17 ชั่วโมง ดังนั้น เมื่อเที่ยวบินนี้ออกเดินทางจากโตเกียวตอนตีหนึ่งของวันที่ 1 มกราคม 2025 เวลาที่ลอสแอนเจลิสยังเป็นช่วงเช้าเวลา 08.00 น. ของวันที่ 31 ธันวาคม 2024 และด้วยระยะเวลาบินประมาณ 9 ชั่วโมง ซึ่งเที่ยวบินต้องข้ามเส้นแบ่งเขตวันสากล (International Date Line) ไปทางทิศตะวันออก ทำให้เมื่อถึงจุดหมายปลายทาง เที่ยวบินจะลงจอดในช่วงเย็นของวันที่ 31 ธันวาคม 2567 หรือกล่าวได้ว่าเดินทางมาถึงก่อนเวลาที่ออกเดินทางจากโตเกียว

สำหรับเส้นแบ่งเวลา (International Date Line หรือ IDL) ความจริงแล้วเป็นเส้นสมมุติที่ลากผ่านพื้นผิวโลก เพื่อแบ่งเขตเวลาของวันหนึ่งกับวันถัดไป โดยทั่วไปแล้วเส้นแบ่งเวลานี้จะอยู่ใกล้กับเส้นแวง 180 องศา (ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับเส้นเมริเดียนหลัก หรือ Prime Meridian ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ) แต่ไม่ได้ตรงกันทั้งหมด เนื่องจากปรับตามเขตแดนและประเทศเพื่อความสะดวกทางการปกครองและเศรษฐกิจ สำหรับประเทศไทยนั้นถูกกำหนดให้อยู่ในเขตเวลา UTC+7 (Coordinated Universal Time +7 ชั่วโมง) ซึ่งหมายความว่าเวลาของประเทศไทยเร็วกว่าเวลา UTC มาตรฐานอยู่ 7 ชั่วโมง

ที่มาของข้อมูล
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1141954953964923&set=a.805243730969382
https://www.timeanddate.com/time/dateline.html

ที่มาของรูปภาพ
https://www.flightaware.com/live/flight/ANA106
https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Boeing_777-381-ER,_All_Nippon_Airways_-_ANA_AN2087575.jpg

#สวัสดีปีใหม่

AI ตัวใหม่ตรวจผู้ป่วยพบอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ ก่อนที่จะมีอาการนักวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ประสบความสำเร็จในการพัฒนาเ...
01/01/2025

AI ตัวใหม่ตรวจผู้ป่วยพบอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ ก่อนที่จะมีอาการ

นักวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ประสบความสำเร็จในการพัฒนาเครื่องมือที่สามารถตรวจพบผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (Atrial Fibrillation - AF) ได้ก่อนที่ผู้ป่วยจะมีการแสดงอาการใด ๆ โดย AI นี้จะมีหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลจากประวัติการรักษาของผู้ป่วย เพื่อค้นหาสัญญาณเตือนล่วงหน้าที่อาจบ่งบอกถึงความเสี่ยงในการเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (Atrial Fibrillation - AF)

ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (Atrial Fibrillation - AF) เป็นภาวะที่หัวใจเต้นผิดปกติ และมีจังหวะการเต้นที่ไม่สม่ำเสมอ ทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ โดยผู้ป่วยโรคนี้มักจะมีอาการ ร่างกายอ่อนแรง หายใจไม่ทัน ใจสั่น และสามารถเป็นหนึ่งในสาเหตุของอาการหลอดเลือดในสมองอุดตัน (Stroke) อีกด้วย เพราะผู้ป่วยมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดลิ่มเลือดอุดตัน และหลุดไปอุดตันที่หลอดเลือดสมองได้

ปัญญาประดิษฐ์ AI ตัวใหม่นี้มีเป็นประโยชน์อย่างมากในวงการแพทย์ปัจจุบัน เพราะการตรวจพบภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (AF) ก่อนที่จะมีอาการนั้น ทำให้แพทย์สามารถให้การรักษาแก่ผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงที และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคแทรกซ้อนได้ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งจากสถิติชี้ให้เห็นว่าภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (AF) เป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองประมาณ 20,000 ครั้งต่อปีในสหราชอาณาจักร

จอห์น เพงเกลลี (John Pengelly) อดีตนายทหารยศกัปตันวัย 74 ปี ผู้เข้าร่วมการทดลอง จากหมู่บ้านแอปเพอร์ลีย์ บริดจ์ (Apperley Bridge) เมืองแบรดฟอร์ด (Bradford) สหราชอาณาจักร กล่าวว่าเขา "รู้สึกขอบคุณอย่างมาก" ที่ได้เข้าร่วมในการทดลองนี้ และตรวจพบภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (AF) เพราะขณะนี้เขารับประทานยาเป็นประจำทุกวัน เพื่อลดความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคหลอดเลือดสมองที่มีความอันตรายถึงชีวิตได้

วิธีการทำงานของ AI

ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์ของผู้ป่วยและปัจจัยต่าง ๆ เช่น อายุ เพศ เชื้อชาติ โรคประจำตัวอื่น ๆ ประวัติการเจ็บป่วย ผลการตรวจเลือด และข้อมูลทางพันธุกรรม AI นี้จะทำการค้นหาสัญญาณเตือนต่าง ๆ ล่วงหน้าที่สามารถบ่งชี้ได้ว่าผู้ป่วยมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะหรือไม่

จากการทดลองในผู้ป่วยที่ เวสต์ยอร์กเชียร์ (West Yorkshire) พบว่า AI สามารถตรวจพบผู้ป่วยภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (AF) ได้หลายราย ซึ่งผู้ป่วยเหล่านี้ไม่มีอาการใด ๆ มาก่อน แต่หลังจากได้รับการรักษา ก็สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้

ดร. ราเมช นาฑารา (Dr Ramesh Nadarajah) จาก โรงพยาบาลลีดส์ทีชิงส์ (Leeds Teaching Hospital) ภายใต้ NHS Trust กล่าวว่า "หวังว่าการศึกษาในเวสต์ยอร์กเชียร์ (West Yorkshire) ในครั้งนี้จะปูทางสำหรับการทดลองในครั้งต่อไปทั่วสหราชอาณาจักร และหวังว่าแนวทางนี้จะนำไปสู่การเพิ่มจำนวนผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (AF)ในระยะแรกและได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีเพื่อลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง"

การพัฒนา AI เพื่อตรวจพบภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของวงการแพทย์ ที่จะช่วยให้การดูแลสุขภาพของผู้ป่วยมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้ง AI นี้ยังมีความแม่นยำในการตรวจ และนักวิจัยคาดว่าเทคโนโลยีนี้จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญทางการแพทย์ในการคัดกรองผู้ป่วยโรคหัวใจในอนาคต ซึ่งสามารถช่วยลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยจากโรคหลอดเลือดสมองได้อย่างมีนัยสำคัญ

ที่มาของข้อมูล: BBC, Leeds Hospital NHS Trust UK, Sukumvit Hospital, Synphaet Hospital

#เทคโนโลยีการแพทย์ #โรคหัวใจ

องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NASA) ประกาศเลื่อนภารกิจ Interstellar Mapping and Acceleration Probe หร...
01/01/2025

องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NASA) ประกาศเลื่อนภารกิจ Interstellar Mapping and Acceleration Probe หรือ IMAP ภารกิจการปล่อยยานอวกาศ 3 ลำ เพื่อศึกษาดวงอาทิตย์ออกไป เนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับการเตรียมอุปกรณ์หลักของยานในภารกิจ โดยระบุว่าการเลื่อนครั้งนี้ คือ การให้เวลาเพิ่มเติมสำหรับการเตรียมระบบการบินของภารกิจ IMAP ก่อนส่งขึ้นสู่อวกาศ

🔵 ทำความรู้จักกับภารกิจ IMAP (Interstellar Mapping and Acceleration Probe)

ภารกิจ Interstellar Mapping and Acceleration Probe หรือ IMAP ภารกิจสำรวจอวกาศภายใต้โครงการ สาขาวิทยาศาสตร์เฉพาะที่จำเป็นต่อความก้าวหน้าในการทำความเข้าใจพื้นฐานของดวงอาทิตย์และการเชื่อมต่อกับระบบสุริยะ (Solar Terrestrial Probes - STP) แผนก สุริยฟิสิกส์ (Heliophysics) ของ NASA ซึ่งภารกิจ IMAP ถูกออกแบบมาเพื่อหาคำตอบที่สำคัญของฟิสิกส์ อาทิเช่นการเร่งอนุภาคพลังงานสูง และปฏิสัมพันธ์ระหว่างลมสุริยะกับสสารระหว่างดวงดาว

ภารกิจ IMAP มีวัตถุประสงค์ในการศึกษา วิวัฒนาการในแง่ของเวลาและพื้นที่ของขอบเขตระหว่างลมสุริยะและสสารระหว่างดวงดาว กระบวนการปฏิสัมพันธ์ระหว่างสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์ และสสารระหว่างดวงดาว องค์ประกอบของสสารระหว่างดวงดาว คุณสมบัติของสสารระหว่างดวงดาว และกระบวนการที่เกี่ยวกับการเร่งอนุภาคใกล้ดวงอาทิตย์ ในชั้นเฮลิโอสเฟียร์ (Heliosphere) หรือสุริยมณฑล ที่มีหน้าที่ปกป้องระบบสุริยะของเราจากรังสีคอสมิก (Cosmic ray) มีลักษณะคล้ายฟองอากาศที่ห่อหุ้มระบบสุริยะของเราไว้ และเฮลิโอชีท (Heliosheath) หรือ บริเวณส่วนนอกของเฮลิโอสเฟียร์ ที่ลมสุริยะเริ่มอ่อนกำลังลงอย่างกะทันหัน ร้อนและหนาแน่นขึ้นแล้ว ซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสนามแม่เหล็กอย่างฉับพลัน

ภารกิจนี้เคยถูกประกาศว่าจะถูกส่งไปที่บริเวณจุดลากรองจ์ วัน (Lagrange L1) ซึ่งเป็นจุดที่จะเห็นดวงอาทิตย์ตลอดเวลาบนโลก โดยใช้จรวด Falcon 9 ของบริษัท SpaceX ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2025 โดยภารกิจ IMAP ปฏิบัติการจากจุด L-1 ระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ ห่างกัน 1.5 ล้านกิโลเมตร ในทิศทางของดวงอาทิตย์

หลังจากที่มีการเลื่อนภารกิจมาถึงสองครั้ง และผ่านกระบวนการทบทวนที่มีชื่อว่า "Key Decision Point D" จนสรุปได้ว่า "การเลื่อนในครั้งนี้ก็เพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าทีมในโครงการมีทรัพยากรที่เพียงพอสำหรับการจัดการกับความเสี่ยง และความซับซ้อนทางเทคนิคในระหว่างการรวมระบบและการทดสอบหรือไม่" ซึ่งก็เป็นการตัดสินใจเพื่อเพิ่มความมั่นใจว่าภารกิจนี้จะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และข้อมูลที่จะได้จากการสำรวจจะมีความแม่นยำที่สูงขึ้น

เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีจรวดของบริษัท SpaceX สามารถส่งดาวเทียมพร้อมกันได้หลายดวงในการปล่อยจรวดครั้งเดียว ทำให้การปล่อยจรวดที่จะเกิดขึ้นมีดาวเทียมในภารกิจอื่น ๆ เดินทางขึ้นไปพร้อมกันด้วย เช่น Carruthers Geocorona Observatory และ Space Weather Follow-On L-1 ซึ่งเป็นภารกิจที่จะศึกษาชั้นบรรยากาศโลกชั้นนอกสุด และตรวจสอบสภาพแวดล้อมของอวกาศ ที่โดยสารไปพร้อมกับภารกิจ IMAP ก็ต้องเลื่อนออกไปด้วยเช่นเดียวกัน

แม้ว่าการเลื่อนภารกิจการปล่อยยานอวกาศ IMAP จะทำให้แผนการสำรวจดวงอาทิตย์ล่าช้าออกไป แต่การตัดสินใจครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของนาซาในการทำภารกิจให้สำเร็จลุล่วงอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพที่สุด แต่คาดว่าเร็วสุด การเลื่อนภารกิจนี้จะถูกเลื่อนไปเป็นเดือนกันยายน ปี 2025 อย่างไรก็ตามข้อมูลที่เราจะได้จากภารกิจนี้จะเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติอย่างแน่นอน เพื่อให้เราทำเข้าใจจักรวาลและการปกป้องโลกที่เปรียบเสมือนของเรามากขึ้น

ท้ายนี้คุณคิดว่าการเลื่อนการปล่อยยานอวกาศครั้งนี้ จะส่งผลกระทบต่อการสำรวจอวกาศในอนาคตอย่างไร?

ที่มา Spacenews.com, NSSDCA NASA, NASA, Spaceth.co, NASA

#นาซา #อวกาศ #ดวงอาทิตย์ #วิทยาศาสตร์

อินเดียส่งดาวเทียม SpaDeX 2 ดวง ขึ้นสู่อวกาศทดสอบระบบเชื่อมต่อของสถานีอวกาศในอนาคตวันที่ 30 ธันวาคมที่ผ่านมา อินเดียประส...
01/01/2025

อินเดียส่งดาวเทียม SpaDeX 2 ดวง ขึ้นสู่อวกาศทดสอบระบบเชื่อมต่อของสถานีอวกาศในอนาคต

วันที่ 30 ธันวาคมที่ผ่านมา อินเดียประสบความสำเร็จในการส่งดาวเทียม 2 ดวง ขึ้นสู่อวกาศในเที่ยวบินทดสอบระบบเชื่อมต่อของสถานีอวกาศที่จะก่อสร้างในอนาคต โดยภารกิจดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อสาธิตเทคโนโลยีสำคัญที่ประเทศจำเป็นต้องใช้ในการสร้างสถานีอวกาศของตัวเอง รวมไปถึงภารกิจนำตัวอย่างจากดวงจันทร์กลับมายังโลก

องค์การวิจัยอวกาศอินเดียเปิดเผยดาวเทียมขนาดเล็ก 2 ดวงนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Space Docking Experiment (SpaDeX) การปล่อยตัวเกิดขึ้นตรงเวลา 11:30 น. ตามเวลาในประเทศอินเดีย จากบริเวณศูนย์อวกาศ Satish Dhawan ในบริเวณศรีฮารีโกตา รัฐอานธร ทิศตะวันออกของประเทศอินเดีย

"ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะประกาศความสำเร็จในการส่งจรวด PSLV 60 สำหรับภารกิจ SpaDeX จรวดได้นำดาวเทียมเข้าสู่วงโคจรที่ถูกต้อง หากทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ความพยายามในการเชื่อมต่อครั้งแรกอาจเกิดขึ้นภายในวันที่ 7 มกราคมนี้" ศรีธารา โสมนาถ (Sreedhara Somanath) ประธานขององค์การวิจัยอวกาศแห่งอินเดีย (Indian Space Research Organisation: ISRO) เปิดเผยความสำเร็จของภารกิจ

สำหรับภารกิจ SpaDeX ประกอบด้วยดาวเทียม 2 ดวง คือ Target และ Chaser ซึ่งมีภารกิจทดสอบเทคโนโลยีเชื่อมต่ออัตโนมัติในวงโคจร โดยทาง ISRO หวังที่จะทำมากกว่าแค่ทดสอบอุปกรณ์เชื่อมต่ออัตโนมัติ

ภารกิจนี้จึงมีการบรรทุกโมดูลรองที่มีการทดลอง 24 แบบ รวมถึงแขนกลขนาดเล็กซึ่งอยู่บนขั้นที่ 4 ของจรวด PSLV ซึ่งแยกจากดาวเทียม SpaDeX นักวิทยาศาสตร์อินเดียหวังที่จะทดสอบแขนกลและการทดลองอื่น ๆ เช่น การทดสอบการควบคุมยานอวกาศแบบคู่ และการถ่ายโอนพลังงานระหว่างยานอวกาศที่เชื่อมต่อกันบนอวกาศ

สำหรับแขนหุ่นยนต์ที่ถูกส่งขึ้นไปทดสอบบนอวกาศมีลักษณะเป็นแขนหุ่นยนต์รูปทรงคล้ายหนอนขนาดเล็กที่ปรับเปลี่ยนตำแหน่งได้คล้ายแขนหุ่นยนต์ CanadArm2 บนสถานีอวกาศนานาชาติ ISS โดยแขนหุ่นยนต์จะพยายามจับเศษชิ้นส่วนภายนอกยานเพื่อจำลองการจัดเก็บชิ้นส่วนขยะอวกาศ

"เทคโนโลยีนี้มีความจำเป็นต่อ เป้าหมายด้านอวกาศของอินเดีย เช่น การส่งตัวอย่างจากหินดวงจันทร์กลับโลก การสร้างและการดำเนินงานสถานี Bharatiya Antariksh (BAS) สถานีอวกาศบนวงโคจรของโลกโดยอินเดีย" องค์การวิจัยอวกาศแห่งอินเดียเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม

กระบวนการเชื่อมต่อ คาดว่าจะเกิดขึ้นในขณะที่ยานอวกาศ Target และ Chaser บินอยู่ในวงโคจรต่ำของโลกที่ระดับความสูง 290 ไมล์ หรือประมาณ 470 กิโลเมตร เหนือพื้นโลก คาดว่ายานอวกาศทั้ง 2 ลำ ซึ่งแต่ละลำมีน้ำหนัก 485 ปอนด์ หรือประมาณ 220 กิโลกรัม จะเริ่มทดสอบการปฏิบัติการนัดพบจากระยะห่างเพียง 12 ไมล์ หรือประมาณ 20 กิโลเมตร โดยยานอวกาศ Chaser จะเป็นฝ่ายเข้าใกล้มากขึ้นจนถึงระยะการเชื่อมต่อกับยานอวกาศ Target

ที่มาของข้อมูล
https://www.space.com/space-exploration/launches-spacecraft/india-spadex-space-docking-satellites-launch
ที่มาของรูปภาพ ISRO

#อินเดีย #อวกาศ #สถานีอวกาศ

31/12/2024
ทำไมสุนัขจึงกลัวเสียงพลุ เปิดเหตุผลด้านวิวัฒนาการทางกายภาพสุนัขเป็นที่รู้จักกันว่ามีประสาทสัมผัสการได้ยินที่เฉียบแหลมกว่...
31/12/2024

ทำไมสุนัขจึงกลัวเสียงพลุ เปิดเหตุผลด้านวิวัฒนาการทางกายภาพ

สุนัขเป็นที่รู้จักกันว่ามีประสาทสัมผัสการได้ยินที่เฉียบแหลมกว่ามนุษย์หลายเท่า คาดว่าสุนัขสามารถได้ยินเสียงตั้งแต่ 67-45,000 ถึง 65,000 เฮิร์ตซ์ ในขณะที่มนุษย์สามารถได้ยินเสียงในคลื่นความถี่ 64-23,000 เฮิร์ตซ์ เท่านั้น

นอกจากนี้สุนัขยังสามารถได้ยินเสียงที่มีระดับความดังต่ำถึง -15 เดซิเบล ทำให้สามารถรับรู้เสียงที่มนุษย์ไม่สามารถได้ยินได้ ทำให้สุนัขบางตัวสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในสิ่งแวดล้อมแม้จะเป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น การเกิดแผ่นดินไหวจากระยะไกล หรือการมาถึงของคนอื่น ๆ โดยฟังเสียงฝีเท้าจากระยะไกลมาก ๆ

ความสามารถในการได้ยินขั้นสูงของสุนัขเป็นผลสืนเนื่องจากวิวัฒนาการ และโครงสร้างทางกายภาพของหูสุนัขที่แตกต่างจากมนุษย์ หากย้อนไปในอดีตสุนัขต้องพึ่งพาการได้ยินเพื่อช่วยในการล่าเหยื่อ ทำให้จำเป็นต้องใช้ความสามารถในการฟังเสียงของสัตว์เล็ก ๆ เช่น หนูหรือกระต่าย การได้ยินเสียงในความถี่สูงจึงเป็นสิ่งสำคัญ

นักวิทยาศาสตร์คาดว่า หูของสุนัขมีกล้ามเนื้อ 18 มัด ขณะที่มนุษย์มีเพียง 6 มัด และเส้นประสาทมากกว่ามนุษย์ถึง 4 เท่า ซึ่งช่วยให้สุนัขสามารถปรับทิศทางของหูเพื่อรับฟังเสียงจากแหล่งต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งแตกต่างจากมนุษย์ที่ใบหูมีข้อจำกัดในการปรับทิศทางการได้ยิน

นอกจากนี้ยังพบว่า สุนัขมีสามารถในการรับฟังเสียงจากแหล่งกำเนิดเสียงที่แตกต่างกันได้ เช่น สุนัขอาจได้ยินเสียงหนึ่งด้วยหูซ้าย แต่ในขณะเดียวกันสุนัขก็สามารถได้ยินเสียงอื่นที่แตกต่างไปจากหูขวา ความสามารถนี้ทำได้ด้วยการเปิดและปิดหูชั้นในเป็นช่วง ๆ เพื่อกรองเสียงรบกวน และจดจ่อกับเสียงในทิศทางที่ต้องการฟัง

แม้ว่าความสามารถในการได้ยินจะเป็นประโยชน์กับสุนัข แต่ในบางสถานการณ์ เช่น เสียงพลุ หรือเสียงเครื่องจักรขนาดใหญ่ ก็อาจทำให้สุนัขรู้สึกตกใจและแสดงอาการเครียดจากเสียงดัง นอกจากนี้ สุนัขยังมีปฏิกิริยาเห่าหอนหลังจากถูกรบกวนจากเสียงอื่น ๆ ที่ถูกสร้างขึ้นมนุษย์ เช่น เสียงรถไซเรน หรือเสียงจากลำโพงเครื่องเสียง

ดังนั้น เสียงพลุในงานเฉลิมฉลองต่าง ๆ ที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ สำหรับพวกสุนัขแล้วอาจเทียบได้กับการได้ยินเสียงระเบิดรุนแรงในระยะใกล้ ๆ ได้เลยทีเดียว

ที่มาของข้อมูล
https://www.gcdogtraining.com/how-well-can-dogs-hear/
https://www.akc.org/expert-advice/lifestyle/sounds-only-dogs-can-hear/
https://hearingsense.com.au/dogs-cats-hear-better-humans/

#สวัสดีปีใหม่ #สุนัขหลง #สุนัขหาย #พลุปีใหม่ #พลุดอกไม้ไฟ

31/12/2024

ปี 2024 นับเป็นปีที่น่าตื่นเต้นสำหรับวงการหุ่นยนต์ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำให้หุ่นยนต์ทำหน้าที่ที่ซับซ้อนได้มากขึ้น จากการเป็นเพียงเครื่องจักร ตอนนี้หุ่นยนต์กำลังจะกลายเป็นเพื่อนร่วมงานของมนุษย์
วันนี้ TNN Tech ก็ไม่พลาดที่จะรวมเรื่องราวของหุ่นยนต์ที่น่าสนใจประจำปี ไปดูกันว่าปีนี้ มีผลงานหุ่นยนต์ที่น่าจับตาอย่างไรบ้าง

#หุ่นยนต์ #เครื่องจักร #เทคโนโลยีหุ่นยนต์ #มนุษย์ #หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์

31/12/2024

องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐ (FDA) ได้อนุมัติการใช้งานระบบกระตุ้นไขสันหลังแบบไม่ผ่าตัด ARC-EX System ช่วยฟื้นฟูการเคลื่อนไหวของผู้ป่วยอัมพฤกษ์ ด้วยการส่งสัญญาณทางไฟฟ้าไปยังไขสันหลัง ช่วยฟื้นฟูความแข็งแรง และฟื้นการรับสัมผัสให้กลับคืนมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณมือและแขน ซึ่งเป็นส่วนที่ผู้ป่วยอัมพฤกษ์ มักสูญเสียการควบคุม

#อัมพฤกษ์ #อัมพาต #ขยับไม่ได้ #กายภาพบำบัด #ไขสันหลัง #ฟื้นฟูการเคลื่อนไหว #ข่าว

สิ้นปีไม่รู้จะทำอะไร? ดู 10 คอนเทนต์ที่มีคนดูมากที่สุดบน TNN Tech ประจำปี 2024 กัน!หากใครกำลังอยู่ในช่วงรถติด หรือเป็น I...
31/12/2024

สิ้นปีไม่รู้จะทำอะไร? ดู 10 คอนเทนต์ที่มีคนดูมากที่สุดบน TNN Tech ประจำปี 2024 กัน!

หากใครกำลังอยู่ในช่วงรถติด หรือเป็น Introvert หรือปั่นงานข้ามปี แต่ก็อยากอัปเดตเทรนด์เทคโนโลยีไม่ให้ตกกระแส TNN Tech ได้รวบรวม 10 อันดับ คอนเทนต์ที่มีคนดูมากที่สุดบน Facebook ของ TNN Tech ประจำปี 2024 ตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นปีมาให้แล้ว

10. สหรัฐอเมริกาดัน “โดรน” + “เครื่องบินเจ็ต” แบบใหม่ของโลก หวังใช้ขนส่งทางทหารในอนาคต

เบลล์​ (Bell Helicopter) ทดสอบเครื่องยนต์แบบใหม่ที่สามารถเปลี่ยนไปมาระหว่างการบินแบบ “โดรน”​ กับ “เครื่องบินเจ็ต” ในความเร็วสูงได้เป็นครั้งแรกของโลก

https://www.facebook.com/share/v/188Fhttp74/

9. เผยความลับทำไมเรือลากจูง (Tugboat) ต้องฉีดน้ำใส่เรือบรรทุกสินค้า ?

ทำไม เรือลากจูงลำเล็ก ๆ ถึงต้องฉีดน้ำใส่เรือบรรทุกสินค้า ที่มาคืออะไรแล้วมีความหมายอย่างไรบ้าง

https://www.facebook.com/share/v/19iBpBsVEY/

8. Renault The Float “รถฟองสบู่ไร้ล้อ” ลอยได้โดยใช้แม่เหล็ก

ส่องแนวคิดรถลอยได้ เรโนลต์ เดอะ โฟล์ต (Renault The Float) รถยนต์ไร้ล้อที่ลอยได้ด้วยพลังแม่เหล็ก

https://www.facebook.com/share/v/193a3GPZfg/

7. เกาหลีใต้พัฒนาล้อรถปรับรูปร่างได้แบบเรียลไทม์ พร้อมเผชิญภูมิประเทศทุกรูปแบบ

นักวิทยาศาสตร์เกาหลีใต้เปิดตัวล้อรถแบบใหม่ที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปร่างได้แบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถเคลื่อนที่ไปตามพื้นผิวหลากหลายประเภทได้ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากหลักการทางธรรมชาติ

https://www.facebook.com/share/v/1D7SAUsqpn/

6. นักวิจัยใช้แผ่นกระจกเงาช่วยต้นกล้าในพื้นป่าเติบโตได้ดีขึ้น 175%

นักวิจัยใช้แผ่นกระจกเงาช่วยต้นกล้าในพื้นป่า พบต้นกล้าที่ได้รับการเสริมด้วยกระจกยังเติบโตได้สูงกว่าต้นไม้ในกลุ่มเดียวกันถึง 175% และมีอัตราการรอดชีวิตสูงกว่าถึง 161%

https://www.facebook.com/share/p/14mCs79pAY/

5. นักวิจัยญี่ปุ่นเจ๋ง พบตาข่ายสีแดงปกป้องพืชผลจากแมลงได้ดีที่สุด

นักวิจัยประเทศญี่ปุ่นค้นพบว่าตาข่ายสีแดงสามารถปกป้องพืชผลจากแมลงได้มีประสิทธิภาพสูงที่สุด ซึ่งแตกต่างจากตาข่ายที่ใช้กับแปลงปลูกผักแบบกางมุ้งในปัจจุบันที่มักเป็นสีดำ สีขาว สีเขียวหรือสีน้ำเงิน

https://www.facebook.com/share/p/1525CRP5Rj/

4. รู้จัก AWAV 8x8 รถหุ้มเกราะคนไทยผลงานบริษัท ชัยเสรี (Chaiseri)

AWAV 8x8 ผลงานบริษัท ชัยเสรี โดยส่งมอบรถหุ้มเกราะรุ่นนี้ให้กับหน่วยนาวิกโยธิน กองทัพเรือไทย สำเร็จแล้ว 7 คัน

https://www.facebook.com/share/p/161meNNna7/
https://www.facebook.com/share/r/19ezttoWdJ/ (คลิป Reels)

3. Tesla เปิดตัวรถตู้ไร้คนขับ ไร้ล้อที่มองเห็นได้ ฉีกภาพจำรถตู้เดิม ๆ นั่งได้สูงสุด 20 คน

Tesla เปิดตัว โรโบแวน (Robovan) รถตู้ไร้คนขับ ไร้ล้อที่มองเห็นได้ ราคาคาดการณ์ของ Robovan อยู่ที่ไม่เกิน 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ​ 1 ล้านบาท ในสหรัฐอเมริกา

https://www.facebook.com/share/p/1ApsZ4myD8/
https://www.facebook.com/share/r/17adZ5kEwH/ (คลิป Reels)

2. สวิตเซอร์แลนด์ทำถนนแบบไม่ต้องปิดถนน ไม่ต้องกลัวรถติด ไม่ต้องกลัวของหล่นใส่

สำนักทางหลวงสวิตเซอร์แลนดพัฒนานวัตกรรมสะพานชั่วคราว แอสตรา บริดจ์ (ASTRA Bridge) ที่สามารถให้รถวิ่งผ่านได้แม้จะมีการซ่อมแซมถนนในช่วงใต้สะพาน

https://www.facebook.com/share/v/15PvXoFC3E/

1. ท่อส่งปลา “Salmon Cannon” ช่วยปลาอพยพข้ามถิ่นอย่างปลอดภัยความไวสูง

ชมนวัตกรรมไฮเปอร์ลูปสำหรับปลา ! กับผลงานสร้างท่อส่งปลา “Salmon Cannon” จากบริษัท Whooshh Innovations ช่วยปลาอพยพข้ามถิ่นฐานอย่างปลอดภัย

https://www.facebook.com/share/v/14nVKRpGVB/

#เทคโนโลยี #ยานพาหนะ #อวกาศ #วิทยาศาสตร์ #เรือ #นวัตกรรม ่อง16 #ซิงเกิลอิมเมจ
————
📲 อัปเดตข่าวเทคโนโลยีที่น่าสนใจกับ TNN Tech ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
• Instagram : https://www.instagram.com/tnn_tech
• Youtube : https://bit.ly/TNNTechYoutube
• TikTok : https://bit.ly/TNNTechTikTok
• Website : https://bit.ly/TNNTechWebsite
• Line OA : https://page.line.me/tnntech
• Threads : https://threads.net/
• X : https://twitter.com/TnnTech

จีนพัฒนา “ครีมกันแดด”ทำให้รู้สึกเย็น !!มหาวิทยาลัย Tsinghua ในประเทศจีน คิดค้นครีมกันแดดชนิดใหม่ นอกจากกันแดดได้ ยังทำให...
31/12/2024

จีนพัฒนา “ครีมกันแดด”
ทำให้รู้สึกเย็น !!

มหาวิทยาลัย Tsinghua ในประเทศจีน คิดค้นครีมกันแดดชนิดใหม่ นอกจากกันแดดได้ ยังทำให้ผิวหนังรู้สึกเย็นขึ้นด้วย

ครีมกันแดดทั่วไป มักมีส่วนผสมของอนุภาคนาโนไททาเนียมไดออกไซด์ (titanium dioxide) และซิงค์ออกไซด์ (zinc oxide) อยู่ในปริมาณเล็กน้อย อนุภาคเหล่านี้ทำหน้าที่ในการสะท้อนแสงอัลตราไวโอเลต หรือ UV จำนวนมาก ที่มีอยู่ในแสงแดด ทำให้แสงไม่สามารถส่องถึงและทำร้ายชั้นผิวได้

อย่างไรก็ตาม อนุภาคเหล่านี้มีขนาดที่เล็กเกินไป จึงไม่สามารถที่จะสะท้อนแสงอินฟราเรดที่ถ่ายเทพลังงานความร้อนจากดวงอาทิตย์ได้ ทำให้เวลาเราทาครีมกันแดด เราจึงรู้สึกอึดอัดหรือร้อนเป็นพิเศษ

รองศาสตราจารย์ Rufan Zhang และเพื่อนร่วมงานจากมหาวิทยาลัย Tsinghua พยายามเปลี่ยนแปลงสิ่งนี้ด้วยการปรับขนาดอนุภาคนาโนไททาเนียมไดออกไซด์ใหม่ เพื่อให้สามารถสะท้อนแสง UV กลับไปได้ ในขณะที่ยังสะท้อนแสงอินฟราเรดกลับไปได้ดังเดิม

วิธีการคือ การนำอนุภาคนาโนดังกล่าวไปผสมเข้ากับน้ำที่ผ่านการดีไอออนไนซ์ ( deionized water หรือ น้ำที่ผ่านการกำจัดไอออนต่าง ๆ ออกจากน้ำ ) , เอธานอล, ครีมบำรุงผิวของแบรนด์ Nivea, เม็ดสีผิว iron-oxide และโพลีเมอร์ซิลิโคนที่เรียกว่าโพลีไดเมทิลไซลอกเซน ที่มักใช้ในเครื่องสำอาง

ครีมกันแดดตัวใหม่นี้ ได้รับการทดสอบแล้วทั้งในหนูและมนุษย์ที่เป็นอาสาสมัคร ทางทีมวิจัยพบว่า สามารถลดอุณหภูมิผิวได้มากถึง 6.1 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับการใช้ครีมกันแดดทั่วไป และลดอุณหภูมิลง 6 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับตอนที่ไม่ทาครีมกันแดดเลย

ผลการทดสอบมองว่า ครีมกันแดดนี้มี SPF ประมาณ 50 สามารถกันน้ำได้ ใช้งานได้นานกว่า 12 ชั่วโมง และไม่มีผลทำให้ผิวระคายเคือง ทางทีมวิจัยคาดว่าครีมกันแดดนี้จะมีราคา ประมาณ 92 เซ็นต์ต่อ 10 กรัม หรือประมาณ 31 บาท

งานวิจัยนี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Nano Letters สามารถอ่านการวิจัยฉบับเต็มจากลิงก์นี้ >> https://pubs.acs.org/doi/abs/10.1021/acs.nanolett.4c04969

แหล่งที่มา : https://newatlas.com/health-wellbeing/cooling-sunscreen-reflects-solar-heat/

#จีน #ครีมกันแดด #อุณหภูมิ #ข่าว
่อง16 #ซิงเกิลอิมเมจ
————
📲 อัปเดตข่าวเทคโนโลยีที่น่าสนใจบน Instagram กับ TNN Tech คลิก https://www.instagram.com/tnn_tech

รวมถึงแพลตฟอร์มน้องใหม่ Threads คลิกเลย
https://www.threads.net/

ติดตาม TNN Tech ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
• Youtube : https://bit.ly/TNNTechYoutube
• TikTok : https://www.tiktok.com/
• Line : https://page.line.me/tnntech
• Website : https://bit.ly/TNNTechWebsite�
หรือดูรายการ Live ได้ทาง
https://www.facebook.com/TNN16LIVE/

เรียงลำดับ 10 ประเทศ เคาท์ดาวน์ปีใหม่ 2025เมื่อถึงช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองปีใหม่ บรรยากาศแห่งความสุขและเสียงพลุไฟที่สว่า...
31/12/2024

เรียงลำดับ 10 ประเทศ เคาท์ดาวน์ปีใหม่ 2025

เมื่อถึงช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองปีใหม่ บรรยากาศแห่งความสุขและเสียงพลุไฟที่สว่างไสวไปทั่วโลกก็เริ่มต้นขึ้น การเคาท์ดาวน์เข้าสู่ปี 2025 ในแต่ละประเทศล้วนมีความพิเศษและเอกลักษณ์เฉพาะตัว

นับตั้งแต่ดินแดนที่แสงอาทิตย์แรกของปีใหม่ขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิกจนถึงจุดหมายปลายทางอันเป็นที่นิยมทั่วโลก 10 ประเทศ ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสถานที่เคาท์ดาวน์ที่น่าจดจำที่สุดประกอบไปด้วยเมืองที่เต็มไปด้วยสีสัน วัฒนธรรม และความรื่นเริงไม่แพ้กัน

1. สาธารณรัฐคิริบาส เข้าสู่ปีใหม่เวลา 17.00 น. วันที่ 31 ธันวาคม ตามเวลาในประเทศไทย
2. นิวซีแลนด์ เข้าสู่ปีใหม่เวลา 17.15 น. วันที่ 31 ธันวาคม ตามเวลาในประเทศไทย
3. ฟิจิ เข้าสู่ปีใหม่เวลา 19.00 น. วันที่ 31 ธันวาคม ตามเวลาในประเทศไทย
4. ออสเตรเลีย เข้าสู่ปีใหม่เวลา 20.00 น. วันที่ 31 ธันวาคม ตามเวลาในประเทศไทย
5. ญี่ปุ่น เข้าสู่ปีใหม่เวลา 22.00 น. วันที่ 31 ธันวาคม ตามเวลาในประเทศไทย
6. จีน เข้าสู่ปีใหม่เวลา 23.00 น. วันที่ 31 ธันวาคม ตามเวลาในประเทศไทย
7. สิงคโปร์ เข้าสู่ปีใหม่เวลา 23.00 น. วันที่ 31 ธันวาคม ตามเวลาในประเทศไทย
8. ไทย เข้าสู่ปีใหม่เวลา 00.00 น. วันที่ 31 ธันวาคม ตามเวลาในประเทศไทย
9. อินเดีย เข้าสู่ปีใหม่เวลา 01.30 น. วันที่ 1 มกราคม ตามเวลาในประเทศไทย
10. อียิปต์ เข้าสู่ปีใหม่เวลา 05.00 น. วันที่ 1 มกราคม ตามเวลาในประเทศไทย

รู้หรือไม่ ? ประเทศสุดท้ายที่ได้ต้อนรับปีใหม่ คือ หมู่เกาะนีอูเอและอเมริกันซามัวทางตะวันตกเฉียงใต้ของคิริบาสในแปซิฟิกใต้ ตรงกับเวลา 19.00 น. วันที่ 1 มกราคม ตามเวลาประเทศไทย

ที่มาภาพประกอบ : Envato, Freepik, National Park of American Samoa

#สวัสดีปีใหม่ #ปีใหม่2025 #เคาท์ดาวน์

บริษัท แลนด์สเปซ (Landspace) รับเงินทุนสนับสนุนจากรัฐบาลจีนพัฒนาจรวดที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำบริษัท แลนด์สเปซ (Landspace) ...
31/12/2024

บริษัท แลนด์สเปซ (Landspace) รับเงินทุนสนับสนุนจากรัฐบาลจีนพัฒนาจรวดที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำ

บริษัท แลนด์สเปซ (Landspace) สตาร์ตอัปด้านอวกาศของจีน ได้รับเงินทุนสนับสนุนจำนวน 900 ล้านหยวน หรือประมาณ 4,212 ล้านบาทไทย จากกองทุนการเปลี่ยนแปลงและยกระดับการผลิตแห่งชาติของจีน เงินทุนนี้จะถูกใช้ในการพัฒนา การทดสอบ และการผลิตจรวดจูเชวี่ย (Zhuque) ซึ่งเป็นจรวดที่ใช้เชื้อเพลิงเหลวที่เป็นออกซิเจนเหลว-มีเทน และจรวดสามารถเดินทางกลับโลกเพื่อใช้งานใหม่ได้

🔵 ความสำเร็จที่ผ่านมาของบริษัท แลนด์สเปซ (Landspace)

ในเดือนพฤศจิกายน 2024 บริษัท แลนด์สเปซ (Landspace) ปล่อยจรวดจูเชวี่ย-2 (Zhuque-2) รุ่นปรับปรุงสำเร็จ ซึ่งสามารถขนส่งน้ำหนักบรรทุก 4,000 กิโลกรัม ขึ้นสู่วงโคจรที่ระดับความสูง 500 กิโลเมตร เหนือพื้นโลก

ในเดือนกันยายน 2024 บริษัท แลนด์สเปซ (Landspace) ประสบความสำเร็จในการทดสอบปล่อยและลงจอดในแนวตั้งที่ระดับความสูง 10 กิโลเมตร เหนือพื้นโลก

เป้าหมายในอนาคต จรวดจูเชวี่ย-3 (Zhuque-3) รุ่นใหม่จะถูกปล่อยขึ้นวงโคจรครั้งแรกในปี 2025 และจะเริ่มการกู้คืนและนำกลับมาใช้ใหม่ในปี 2026

สำหรับจรวดจูเชวี่ย-3 (Zhuque-3) มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 4.5 เมตร ความยาวรวม 76.6 เมตร และสามารถขนส่งน้ำหนักได้ถึง 21,000 กิโลกรัมในวงโคจรต่ำของโลก (LEO) โดยมีความยืดหยุ่นในการปรับขนาดการบรรทุกเมื่อมีการกู้คืนขั้นแรก

🔵 บทบาทในอุตสาหกรรมอวกาศของจีน

การพัฒนาเทคโนโลยีจรวดที่นำกลับมาใช้ใหม่ของบริษัท แลนด์สเปซ (Landspace) ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการส่งน้ำหนักมากขึ้นสู่วงโคจร และมีศักยภาพสำคัญในโครงการสร้างกลุ่มดาวเทียมขนาดใหญ่ของจีน นอกจากนี้ บริษัทมีแผนเริ่มภารกิจขนส่งสินค้าสำหรับสถานีอวกาศเทียนกงในปี 2026 โดยเป็นหนึ่งในสองบริษัทที่ได้รับเลือกจากหน่วยงานการบินอวกาศของจีน (CMSEO) ให้พัฒนาระบบขนส่งสินค้าเชิงพาณิชย์ต้นทุนต่ำ

🔵 การสนับสนุนจากกองทุนรัฐบาลจีน

กองทุนการเปลี่ยนแปลงและยกระดับการผลิตแห่งชาติ ได้สนับสนุนการก่อตั้งบริษัท แลนด์สเปซ (Landspace) ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2019 ด้วยทุนจดทะเบียน 147,200 ล้านหยวน มีเป้าหมายลงทุนในอุตสาหกรรมเชิงกลยุทธ์ เช่น วัสดุใหม่และเทคโนโลยีล้ำสมัย กองทุนนี้สะท้อนถึงนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมอวกาศของจีนผ่านการผ่อนปรนข้อกำหนดด้านใบอนุญาต และเพิ่มการเข้าถึงทรัพยากรสำหรับบริษัทเอกชน

การสนับสนุนเหล่านี้ยังช่วยส่งเสริมการพัฒนาสตาร์ตอัปอื่น ๆ เช่น Space Pioneer และ Orienspace ที่ระดมทุนได้ 207 ล้านดอลลาร์ และ 83.5 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ การเคลื่อนไหวของบริษัท แลนด์สเปซ (Landspace) ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในความพยายามของจีนที่จะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอวกาศเชิงพาณิชย์ระดับโลก

ที่มาของข้อมูล
https://spacenews.com/chinas-landspace-secures-state-backed-funding-for-reusable-rockets/

ที่อยู่

118/1 อาคารทิปโก้ ชั้น11 ถนนพระราม6 แขวงพญาไท เขตพญาไท
Bangkok
10400

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ TNN Techผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง TNN Tech:

แชร์