บุณยพร - หมอบุณย์ ยี่มี เพื่อแผนไทย

บุณยพร - หมอบุณย์  ยี่มี   เพื่อแผนไทย ผสมผสานศาสตร์อย่างแยบยล เพื่อรักษาชนทุกเชื้อชาติ โดยมีวิทยาศาสตร์เป็นตัวชี้วัด (การแพทย์แผนไทย)

■ สนุกสนานก่อนการเลือกตั้งกรรมการสภาวิชาชีพ  ยกระดับ  ปรับมาตรฐาน....งบประมาณเจ้าขา....คนชั่วช้าทำไมไม่ตาย
01/02/2025

■ สนุกสนานก่อนการเลือกตั้งกรรมการสภาวิชาชีพ ยกระดับ ปรับมาตรฐาน....งบประมาณเจ้าขา....คนชั่วช้าทำไมไม่ตาย

อะไรกันหนักหนา
17/01/2025

อะไรกันหนักหนา

คนแผนไทยใส่ใจธรรมบ้าง
13/01/2025

คนแผนไทยใส่ใจธรรมบ้าง

อกุศลกรรมที่เป็นเหตุให้ไปเกิดในอสุรกายภูมิ

• เกิดจาก โมหะ เป็นส่วนใหญ่ขาดปัญญาพิจารณาใคร่ครวญในสิ่งต่าง ๆ เมื่อมีทรัพย์ มีอำนาจ จึงมักใช้ไปในทางผิดๆ
• บุคคลใดเป็นคนมีคุณงามความดีควรยกย่องสรรเสริญ กลับกดขี่ข่มเหงดูถูกติเตียน
• ส่วนคนเลวประพฤติทุจริตผิดศีลธรรม กลับยกย่องสนับสนุน ทั้งนี้เป็นต้น

อ้างอิง เตภูมิกถา หรือไตรภูมิพระร่วง กรมศิลปากร
เรียบเรียงโดย เพจเกร็ดประวัติศาสตร์ v2

13/01/2025

ชั่วขั้นเทพ แต่คนช่วยปกปิดชั่วกว่า

》》ใกล้เลือกตั้งกรรมการสภาวิชาพการแพทย์แผนไทย  ความเคลื่อนไหวเริ่มเกิด《《■ ทีมที่ 1 อดีตแชมป์โยนหินถามทาง"ถามคนทั้งโลกแต่ท...
11/01/2025

》》ใกล้เลือกตั้งกรรมการสภาวิชาพการแพทย์แผนไทย ความเคลื่อนไหวเริ่มเกิด《《

■ ทีมที่ 1 อดีตแชมป์โยนหินถามทาง
"ถามคนทั้งโลกแต่ทำตามใจตน"
เป็นที่ปรึกษาใหญ่ ร่วมด้วยสถาบันศึกษา ก. หญ่ายๆๆ บางแห่ง ทีมนี้เราจะได้อดีตนายทหารเป็นนายก เลขาน่าจะเถไปเถมา..... น่าจะสูญเปล่าอีก 3 ปี

■ ทีมที 2 ผอ.จิ้งโจ้ เจ้าของฉายา"รั่วแต่ไม่ไหล" ได้รับการสนับสนุนจากสหายหมดอายุแต่หวังตำแหน่งบางตำแหน่ง"นี่คือนายก ส่วนเลขาเรื่องยังคา สสจ. ประกอบวิชาชีพเถื่อน ทีมนี่นายกกับเลขาชั่งรวมกันทั้งเข่งไม่น่าจะได้ 1 กิโลกรัม ต่อไปคงเป็น"รั่วไหลแต่ไม่ลงรู"

■ ทีมที่ 3 "เหล้าเก่าในขวดใหม่" คงเมาได้ที่หละ เคยร่วมตั้งวงกับคณะคุณนะทำ "ร้องนอกคี"เลยวงล่มสลาย ขับห้วหน้าวงออก ขับผู้จัดการวงออก ชุดนี้นายกติดใจรสชาดสกับว่าที่เลขา เลยทำตัวเป็นปาท่องโก๋ ชุดนี่มอตโต้...."เชื่อผม ฟังผมไม่ต้องไปเชื่อใคร... ผมรู้"....แหว๋ว

#ห่วงการแพทย์แผนไทย
์แผนไทย
#ธุระลงคะแนนเป็นของสมาชิกสภาฯ
#ปล่อยไปสนามหน้าพังกับพัง

สมุนไพรยิ่งใหญ่เสมอสำหรับคนพ้นความเป็นทาสทาส
11/01/2025

สมุนไพรยิ่งใหญ่เสมอสำหรับคนพ้นความเป็นทาสทาส

ขมิ้นชัน ฟ้าทะลายโจร ยาฆ่าพยาธิ

ไวรัสใหม่ เก่าระบาด อย่าลืม

1-ขมิ้นชัน และส่วนสารประกอบต่างๆปรากฏว่ามีปฏิกิริยาสู้กับไวรัสฝีดาษลิงได้จากการตรวจสอบ ด้วยกระบวนการทางโมเลกุลและการขัดขวางไวรัส

นอกจากนั้นมีรายงานมาเป็น 10 ปีแล้วตั้งแต่ช่วยบรรเทาและรักษาไวรัสเอดส์ ไวรัสไข้เลือดออก ไวรัสตับอักเสบ โควิด โดยสู้ได้กับทั้ง RNA และ DNA ไวรัส เช่น ฝีดาษลิง

2-ฟ้าทะลายโจรอีกเช่นกันซึ่งมีฤทธิ์ต้านไวรัสมหาศาลเช่นเดียวกัน

3-อีกทั้งมียาฆ่าพยาธิไอเวอร์เมคติน ซึ่งมีสรรพคุณฆ่าไวรัสได้มหาศาลเช่นกันและช่วยยาเคมีบำบัดรักษามะเร็งได้อีก

• เป็นที่น่าสังเกตว่า ทำไมสมุนไพรเหล่านี้รวมทั้งยาฆ่าพยาธิจึงมีสรรพคุณครอบคลุมไวรัสได้เป็นโขยงนั่นเป็นเพราะสามารถออกฤทธิ์ที่กลไกหลายขั้นตอนในการขัดขวางไวรัสตั้งแต่ป้องกันการเกาะติดที่ผิวเซลล์การหวำ เข้ามาในเซลล์ ป้องกันการเพิ่มจำนวน ไม่ให้มีการสร้างโปรตีน ไม่ให้มีการรวมตัวเป็นตัวไวรัสและ หลุดออกไปจากเซลล์ที่จะแพร่ไปทั่ว
ดังนั้นไม่เหมือนกับยาปัจจุบันซึ่งออกฤทธิ์ตรงไปตรงมาในขั้นตอนเดียวและข้อสำคัญถ้าไวรัสมีการผันแปลพันธุกรรมก็จะดื้อต่อยา

ตัวอย่างบางส่วนที่เกี่ยวกับขมิ้นชันในการต่อต้านไวรัส (และมีส่วนช่วยสมองเสื่อมด้วย ไม่ได้แนบรายงานไว้ในที่นี้)

https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC10073709/

Curcumin as an Antiviral Agent
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC7693600/

Curcumin covid
https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S2405844023088564
https://www.mdpi.com/1999-4915/13/10/1914
https://www.cell.com/heliyon/pdf/S2405-8440(21)00455-2.pdf
Antiviral, anti-inflammatory and antioxidant effects of curcumin and curcuminoids in SH-SY5Y cells infected by SARS-CoV-2
https://www.nature.com/articles/s41598-024-61662-7
Antiviral Therapeutic Potential of Curcumin: An Update
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC8617637/
Antiviral food
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC10420791/

ยาฆ่าพยาธิ ไอเวอร์เมคติน มีรายงานในวารสาร Nature Scientific Report 2016 สามารถยับยั้งไข้หวัดนกได้ ในกลไก nuclear transport และน่าจะเป็นที่จับตามอง ถ้ามีการระบาดจริง

และ รายงานในวารสารอีกมากมายถึงประโยชน์ของ Ivermectin ในไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดโรค ไข้เลือดออก และไวรัสอื่นๆอีกหลายชนิด

และมีการนำไปใช้ในการซ่อมแซมสมองที่เกิดจากการอักเสบเรื้อรัง

The broad spectrum antiviral ivermectin targets the host nuclear transport importin α/β1 heterodimer
Sundy N Y Yang et al. Antiviral Res. 2020 May.

https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S0166354219307211?via%3Dihub

Antivirals that target the host IMPα/β1-virus interface
Alexander J Martin et al. Biochem Soc Trans. 2021.
And similar articles

https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/?linkname=pubmed_pubmed&from_uid=32135219

https://x.com/makismd/status/1809540107377971235?s=46&t=Pd2sCn9Dej9GlmSuERlElA

Ivermectin ลดภาวะความเสียหายของเส้นใหญ่ประสาทสมองส่วนสีขาวในหนู
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC10598811/

https://www.mdpi.com/1999-4915/16/4/593

https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S0166354219307211

ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
ศูนย์ความเป็นเลิศ ด้านการแพทย์บูรณาการและสาธารณสุข
และ
ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
มหาวิทยาลัยรังสิต

07/01/2025

คำถามที่ไม่มีใคีตอบ หนึ่งในกำลังใจคุณหมอครับ

รัฐเราเอาหูไปน่เอาตาไปสวน
07/01/2025

รัฐเราเอาหูไปน่เอาตาไปสวน

ความเป็นจริงของวัคซีนที่พิสูจน์แล้ว

และการปรึกษา chatGPT ถ้าไม่ป้อนข้อมูลให้ปัญญาประดิษฐ์แยกแยะได้แต่คำตอบพื้นๆ และการใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการได้ข้อสรุปคนถามต้องแม่นในข้อมูลหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และปัญญาประดิษฐ์จนถึงปัจจุบันนี้จะจนมุมกับข้อมูลที่ให้

จาก นพ อรรถพล สุคนธาภิรมย์

ถึง คณาจารย์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬา และกาชาด

จำได้ไหมว่าผมเคยถาม ว่า mRNA ฉีดแล้วไปไหนบ้างในร่างกาย หรือ pharmacodynamics เภสัชจลนศาสตร์ ของยา คำถามพื้นๆ ที่แพทย์และเภสัชกร ควรจะถาม ที่น่าสงสัย คือ ในเอกสารกำกับยา ของไฟเซอร์ บอกว่า “ไม่เกี่ยวข้อง” แต่ แพทย์กลับไม่ใส่ใจที่จะถาม ว่า ไม่เกี่ยวข้อง จริงๆหรือ?
ไม่เกี่ยวข้องได้อย่างไร ผมเอาบทความเรื่องดังกล่าวมาแปะไว้ให้อ่านอีกครั้ง

อย่างที่บอกครับ critical thinking เริ่มจากการตั้งคำถามที่ถูกต้อง ความจริงยังไงก็เป็นความจริงวันยังค่ำ ตอนนี้ มีงานวิจัยที่ตอบคำถามดังกล่าว แถมมีรายงานจาก fda ของออสเตรเลีย (TGA) ที่ยืนยันว่า มันกระจายไปทั่วร่างกาย ไปสมอง ไปไขกระดูก ไปที่รก ไปรังไข่ ไปอัณฑะ ไปต่อมน้ำลาย ไปต่อมน้ำเหลือง ไปตับ หัวใจ ไต ฯลฯ
และไม่ได้ไปเฉยๆ ไปสร้างปัญหา ทำให้เกิดการอักเสบใน อวัยวะนั้นๆด้วย มีงานวิจัยยืนยัน งานวิจัย
ที่อาจารย์ (…. คนที่ทำวัคซีน ได้ทุน 2000 ล้าน ก๊อปปี้จากไฟเซอร์โดยที่ไม่ได้ปรับเพื่อไม่ให้มีผลข้างเคียงแต่แล้วก็เลิกทำ ) คง ไม่อ่าน เพราะอาจารย์แกพึ่ง ChatGPT เป็นสรณะ😁) ที่ผมแนบลิงก์ให้ข้างล่าง

อย่างที่ ChatGPT บอกครับ ปัญหาของอาจารย์(คนนี้) ไม่ได้อยู่ที่ความ ไม่รู้ แต่รู้ทั้ง ก็ยังทำ แกเลยไม่กล้าขึ้นเวทีไงครับ กลัวความจริง ต่างกับคุณหมอ ….ที่กล้าถกแบบนักวิชาการจริงๆ

กลับมาที่งานวิจัยที่ว่า ผมเอาลิงค์มาแปะให้แล้ว ผมคิดว่า อาจารย์ยังมีความเป็นแพทย์ที่ใส่ใจในความปลอดภัยของผู้ป่วย จึงเชื่อว่าพี่จะไปอ่านงานวิจัยดังกล่าว อ่านแล้วได้ความว่าอย่างไรบ้าง มาสรุปให้ฟังก็ดีครับ

คำถาม ทางวิชาการ เกี่ยวกับเภสัชวิทยา ให้ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายช่วยตอบ

เฉลยคำตอบ ของคำถามที่หมอส่วนใหญ่ไม่สนใจ
• สืบเนื่องจากคำถามในโพสต์ข้างบน จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีผู้เชี่ยวชาญคนไหนมาตอบคำถามสำคัญนี้ ทำไมสำคัญ เพราะว่า เวลาที่เรา จะกิน หรือ ฉีดยาอะไรเข้าไปในร่างกาย มีคำถามที่ควรต้องตอบให้ได้ว่า ยาที่ฉีดนั้นไปที่ไหนบ้างในร่างกาย จะอยู่ในร่างกายเรานานแค่ไหน และมันจะไปทำให้เกิดอะไรขึ้นบ้างในร่างกายเรา

• คำถามเหล่านี้เขาเรียกกันว่า เภสัชจลนศาสตร์ (pharmacokinetics) กับ เภสัชพลศาสตร์ (pharmacodynamics) เป็นเรื่องที่แพทย์ และเภสัชกร รู้ดีว่าสำคัญเพียงใด

แต่น่าสนใจไหมว่า ในเอกสารกำกับยาของ โคเมอร์เนตี ข้อ 5.2 หน้า 22 กลับระบุว่าไม่เกี่ยวข้อง

• ที่น่าเศร้า คือ บรรดาผู้เชี่ยวชาญใน อย ก็ไม่ถาม ไม่สงสัยว่า mRNA ที่ฉีดนั้นไปที่ไหนบ้างในร่างกาย และจะอยู่ในร่างกายนานแค่ไหน ปล่อยให้บริษัทยา บอกง่ายๆว่า ไม่เกี่ยวข้อง

เอาครับทีนี้มาดูคำตอบของคำถามหล่านั้นกัน

1- mRNA (จริงๆแล้ว คือ ยีนสไปก์โปรตีนของไวรัส)อยู่ในร่างกายนานแค่ไหนหลังฉีด

ตอบ อยู่ได้เป็นเดือนๆ มีงานวิจัยที่พบ synthetic viral RNA gene (mRNA) ในต่อมน้ำเหลือง หลังจากที่ได้รับยาฉีดตัวนี้ไปเป็นเดือนๆ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่พบ synthetic viral RNA gene (mRNA) ในกระแสเลือดหลังฉีดเป็นสัปดาห์ ที่น่ากลัวคือ พบว่ามันเข้าไปแทรกในสารพันธุกรรม (DNA) ของเซลล์มนุษย์ได้ด้วย เพราะฉะนั้นที่มาหลอกกันว่า มันจะสลายตัวในเวลาไม่นานนั้นเป็นเรื่องโกหก

2-mRNA ไปที่ไหนบ้างในร่างกาย

ตอบ จากข้อ 1 คงจะพอเดาได้ว่ามันไปทั่วร่างกาย ไปตามกระแสเลือด ไปทางระบบน้ำเหลือง จากการวิจัยที่รัฐบาลญี่ปุ่นบังคับให้บริษัทยาต้องทำ โดยการศึกษาว่า นาโนลิปิด ไปที่ไหนบ้างในร่างกาย หลายคนอาจจะสงสัยว่า นาโนลิปิดเกี่ยวข้องอย่างไร นาโนลิปิดเปรียบเสมือนรถยนต์ ที่เอา synthetic viral RNA gene (mRNA) นั่งไปข้างใน รถยนต์ไปที่ไหนได้บ้างก็จะแปลว่าสิ่งที่อยู่ข้างในไปตามที่นั้นๆได้ด้วย เขาทำการวิจัยในหนู และพบว่า นาโนลิปิดไปได้ทั่วร่างกาย ไปในเลือด ไปที่สมอง ต่อมไร้ท่อ รังไข่ ระบบสืบพันธ์ุ ไขกระดูก หัวใจ ไต ม้าม ตับ เอาง่ายๆคือไปทั่วร่างกาย ไม่ได้อยู่แค่ที่หัวไหล่อย่างที่หลอกกัน

3 นาโนลิปิด ทำหน้าที่อะไร ทำไมต้องเอามาหุ้ม mRNA

ตอบ นาโนลิปิด ทำหน้าที่ห่อหุ้ม synthetic viral RNA gene (mRNA) ไม่ให้ร่างกายรู้ว่ามันเข้ามาในร่างกายเรา ทำไมต้องไม่ให้รู้?
เพราะว่า synthetic viral RNA gene (mRNA) หรือสารพันธุกรรมสังเคราะห์ยีนไวรัสนี้ เป็นสิ่งแปลกปลอม ถ้าร่างกายรู้ว่ามันเข้ามาในร่างกายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะลงมือทำลายมันทันที แต่เพราะว่า นาโนลิปิดที่เอามาหุ้มไว้ ทำให้ร่างกายคิดว่ามันเป็น “หยดไขมัน” ไขมันที่เป็นอาหารของเซลล์ทุกชนิดในร่างกาย ด้วยเหตุนี้ร่างกายจึงปล่อยให้ “ม้าโทรจัน” หยดไขมันที่ซ่อนสารพิษร้ายนี้ เข้าไปในร่างกาย ไปตามกระแสเลือด และเข้าไปในเซลล์ของเราได้

4- RNA ที่ฉีดนั้น เป็น rna spike protein 100% ไหม มี truncated RNA หรือ RNA ที่ขาดๆ ปนอยู่ไหม ถ้ามี พวกที่ขาดๆเนี่ยสร้างอันตรายได้ไหม

ตอบ มีรายงานพบว่า synthetic viral RNA gene (mRNA) ที่เอามาฉีดกันนั้นเป็นสารพันธุกรรมที่สมบูรณ์แค่ประมาณครึ่งนึง อีกครึ่งเป็นอันที่หักขาด ถ้าจะให้เข้าใจง่ายขึ้น อันสมบูรณ์ เทียบได้กับว่า เป็นคำสั่งที่ครบประโยค “จงสร้างสไปก์โปรตีน” แต่อันที่ขาดๆ อาจมีแค่ จงสร้าง “งสร้า ไปก์โปร รตีน ”ฯลฯ สารพันธุกรรมที่ขาดๆเหล่านี้ สามารถเข้าไปรบกวนการถอดรหัสพันธุกรรมตามปกติของเซลล์ได้ ทำให้การทำงานของเซลล์เหล่านั้นแย่ลง เกิดปัญหามากมายตามมาได้

5-นาโนลิปิด ช่วยให้synthetic viral RNA gene (mRNA) เข้าเซลล์ได้อย่างไร และเข้าเซลล์อะไรได้บ้าง

ตอบ ความจริงตอบไปแล้วในข้อ 3 แต่ตอบอีกทีว่า ไขมันนาโน หรือ นาโนลิปิดนี้ ไปหุ้ม synthetic viral RNA gene (mRNA) เอาไว้ทำให้เซลล์ของเรานึกว่าเป็นหยดไขมันธรรมดา ไขมันเป็นอาหารของเซลล์ เมื่อเซลล์คิดว่าไขมันเหล่านั้นเป็นอาหาร ก็เลยปล่อยให้ไขมันดังกล่าวเข้ามาในเซลล์ และเมื่อไขมันเป็นอาหารของทุกเซลล์มันจึงเข้าเซลล์ได้ทุกชนิด

6-synthetic viral RNA gene (mRNA) เข้าไปในเซลล์แล้วไปทำอะไร

ตอบ เนื่องจากมันเป็นยีนของไวรัส พอ synthetic viral RNA gene (mRNA) เหล่านั้นเข้าไปในเซลล์ก็ไปบังคับให้เซลล์เรา สร้างสไปก์โปรตีน โปรตีนของไวรัส ซึ่งเป็นโปรตีนแปลกปลอมในเซลล์ของเราเอง

7-สไปก์โปรตีนเป็นอันตรายไหม อย่างไร

ตอบ สไปก์โปรตีน คือ ส่วนที่อันตรายที่สุดของไวรัส ซาร์โควีทู (SARS CoV2) หรือไวรัสที่ทำให้เกิดโรคโควิด
สไปก์โปรตีนทำให้เกิดการอักเสบของผนังเส้นเลือด ทำให้เส้นเลือดตีบ แตก ตันได้ นอกจากนี้มันยังรบกวนการทำงานของไมโตคอนเดรียแหล่งสร้างพลังงานของเซลล์ ทำให้พลังงานในเซลล์ต่ำ ประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์ลดลง

8-ภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นจะ จะไปทำลายอะไรบ้างในร่างกาย

ตอบ คงจะพอรู้ว่า สไปก์โปรตีนที่เซลล์สร้างมานั้น จะไปกระตุ้นภูมิคุ้มกันของเราให้มาทำลาย สไปก์โปรตีน แต่นั่นเป็นคำตอบแค่ครึ่งเดียว เพราะนอกจากจะทำลายสไปก์โปรตีนที่ล่องลอยอยู่ในกระแสเลือดแล้ว สไปก์โปรตีนและชิ้นส่วนของมันยังติดอยู่ตามผนังเซลล์ที่สร้างมันด้วย ภูมิคุ้มกันต่อสไปก์โปรตีนจึงลงมือทำลายผนังเซลล์ ทำให้เซลล์แตก เซลล์ปกติของเราเองที่ถูกหลอกให้เอา synthetic viral RNA gene (mRNA) เข้าไปในเซลล์ จึงแปลว่ามันเข้าไปในเซลล์ได้ทุกชนิดในร่างกาย

9- nonneutralizing antibodies คือ อะไร ต่างจาก neutralizing antibodies อย่างไร nonneutralizing antibodies มีผลเสียอย่างไรบ้าง

ตอบ ภุมิคุ้มกันที่กันการติดเชื้อหรือ กันไม่ให้ไวรัสเข้าเซลล์ได้เรียกว่า neutralizing antibodies หรือ อาจจะเรียกได้ว่า คือ ภูมิคุ้มกันดี ในขณะที่ภูมิคุ้มกันชนิด non-neutralizing antibodies คือ ภูมิคุ้มกันที่มีมากก็ไม่มีประโยชน์ เพราะมันไม่สามารถกันให้ไวรัสเข้าเซลล์ได้ ภูมิคุ้มกันแบบนี้แหละที่อธิบายว่า ทำไมคนที่ไปฉีดวัคซีนมา พอเจาะดูค่า แอนตี้บอดี้ IgG สูง แต่ยังติดเชื้อได้ เพราะว่าภูมิคุ้มกันสูงเหล่านั้นเป็นภูมิคุ้มกันชนิด non-neutralizing antibodies หรือภูมิคุ้มกันไร้ประโยชน์

10- antigenic sin คือ อะไร ทำไมการกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์ดั้งเดิมก่อผลเสีย

ตอบ antigenic sin เป็นเรื่องของการที่เรากระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อเชื้อสายพันธ์ุเดิมๆซ้ำๆ จนทำให้พอเราเจอกับเชื้อสายพันธ์ุใหม่ แทนที่เราจะสร้างภูมิคุ้มกันกับสายพันธ์ุใหม่ เราดันกลับไปสร้างภูมิคุ้มกันต่อสา่ยพันธ์ุดั้งเดิมที่ไม่ช่วยป้องกันการติดเชื้อ

11-. ADE antibodies dependent enhancement คือ อะไร

ตอบ ภูมิคุ้มกันที่ไม่สามารถกันการติดเชื้อ ไม่สามารถกันการแพร่เชื้อเพราะเป็นภูมิคุ้มกันต่อสายพันธ์ุดั้งเดิมนี้ นอกจากจะไม่มีประโยชน์แล้ว ในบางครั้งมันยังช่วยทำให้เชื้อไวรัสเข้าเซลล์ได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะเซลล์ภูมิคุ้มกัน เซลล์เม็ดเลือดขาวและ เมื่อเข้าไปแล้วไวรัสก็จะไปทำลายเซลล์ภูมิคุ้มกันของเรา ทำให้อาการป่วยกลับรุนแรงมากขึ้น

12-. ภาวะภูมิคุ้มกันเหนื่อย immune fatigue คือ อะไร

ตอบ ภาวะภูมิคุ้มกันเหนื่อย คือ ภาวะที่มีการกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อเชื้อเดิมๆ ซ้ำๆ จนทำให้ร่างกายลดการตอบสนองลง อันเป็นผลให้ภูมิคุ้มกันลดลง ดังที่เห็นในปัจจุบันว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนหลายเข็มกลับมีโอกาสติดเชื้อเพิ่มมากกว่า คนที่ไม่ฉีดหรือฉีดน้อย การเกิดภาวะนี้ไม่ได้อธิบายด้วยปริมาณแอนตี้บอดี้ที่ผลิตขึ้น แต่เกี่ยวข้องกับการทำงานของ เม็ดเลือดขาวชนิด T Cell ที่ลดลง สร้างสารต้านไวรัส อินเตอร์ฟีรอน (interferon) ลดลง

13.- มรณา mRNA ที่เอามาฉีดตอนนี้ เป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อโควิดสายพันธุ์ไหน

ตอบ synthetic viral RNA gene (mRNA) ที่เอามาฉีดในปัจจุบันยังเป็น ยาฉีดสำหรับไวรัสสายพันธ์ุดั้งเดิมอยู่เลย ไม่แปลกที่มันเลยทำให้เกิดปัญหาตามที่เล่าให้ฟังข้างบนมากมาย และต่อให้เอาวัคซีนไบวาเลนท์ รุ่นใหม่มาฉีด เชื้อที่ระบาดตอนนี้ก็กลายพันธุ์ไปเป็นสายพันธ์ุใหม่ไปหมดแล้ว ไม่ใช่สายพันธ์ุโอมิครอนที่เอามาใช้ทำวัคซีน ที่น่าสนใจคือ synthetic viral RNA gene (mRNA) ไบวาเลนท์ รุ่นใหม่นี้กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้แย่กว่าแบบเดิม แถมไม่เคยทดสอบในคน ไม่ได้ทดสอบว่ากันการติดเชื้อได้ กันการแพร่เชื้อได้ไหม แค่ทำการทดลองในหนูแปดตัวเท่านั้น

ทั้งหมดคือ คำตอบ คำถามสำคัญเกี่ยวกับเภสัชวิทยาของยาฉีดยีนไวรัสสังเคราะห์ synthetic viral RNA gene (mRNA) ลองเอาไปให้ หมอ หรือ เภสัชที่ท่านรู้จักอ่านดู และถ้าอยากจะรู้ว่าผมมีเอกสารอ้างอิงไหม บอกให้เขาจัดเวทีเสวนาวิชาการผมจะเอาหลักฐานทั้งหมดไปกางให้ดูครับ

mRNA "vaccine" biodistribution, persistence, and adjuvant toxicity library
Creators
• Sass, Erik (Contact person)�
Description
Compiled by Dr. Martin Wucher, MSC Dent Sc (eq DDS), Dr. Byram Bridle, PhD, Erik Sass, et al.
Doi: 10.5281/zenodo.14559625
Last updated December 26, 2024. Corresponding author: [email protected]

ตัวอย่างของการเกิด exosome
Cutting Edge: Circulating Exosomes with COVID Spike Protein Are Induced
by BNT162b2 prior to development of
Antibodies:
Novel Mechanism for Immune Activation
by mRNA Vaccines

https://journals.aai.org/jimmunol/article/207/10/2405/234284/Cutting-Edge-Circulating-Exosomes-with-COVID-Spike

โปรตีนหนาม ของวัคซีนอยู่ในกระแสเลือดได้นานหลายปี และ สามารถ อธิบาย ปรากฏการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นไม่ยอมเลิกจนกระทั่งถึงปัจจุบัน
รายงานจากมหาวิทยาลัยเยล
ดร Iwasaki เป็นนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำ ที่มหาวิทยาลัยเยล เคยดำรงตำแหน่งเป็น ประธานสมาคมภูมิคุ้มกันวิทยาของอเมริกา ในช่วง 2023 ถึง 2024 รวมทั้ง เป็นผู้วิจัยหลักที่สถาบัน Howard Hughes medical institute และเป็น Sterling professor ทางด้าน immunobiology และ molecular, cellular and developmental Biology ที่ มหาวิทยาลัยเยล ทำวิจัยเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน innate, autophagy, inflammasomes ไวรัส herpes human papilloma virus โรคติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจโรคไข้หวัดใหญ่ ระบบภูมิคุ้มกัน T cell และลึกซึ้งในเรื่อง โควิด-19 และปรากฏการณ์ลองโควิด

ข้อมูลที่สัมภาษณ์และออกทาง Yale press มีความสำคัญมากในการพบว่าผู้ที่พิสูจน์แล้วว่าไม่ได้ติดโควิดยังคงมีโปรตีนหนาม ของวัคซีนอยู่ในกระแสเลือดได้นานหลายปี และ สามารถ อธิบาย ปรากฏการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นไม่ยอมเลิกจนกระทั่งถึงปัจจุบัน

Yale vaccine persistence for years

https://open.substack.com/pub/alexberenson/p/urgent-yale-researchers-have-found?r=3an661&utm_medium=ios

https://alexberenson.substack.com/p/urgent-yale-researchers-have-found?utm_source=substack&utm_campaign=post_embed&utm_medium=email

นำมาให้ทราบโดยทั่วกันครับ
05/01/2025

นำมาให้ทราบโดยทั่วกันครับ

ยาแก้ปวดแรงฤทธิ์ แต่มีพิษต่อหัวใจและสมอง

ในชีวิตนี้ใครไม่เคยปวดบ้างครับ ปวดหัว ปวดเข่า หลัง ข้อ กระดูก ต่างๆ นานา
รวมทั้งปวดประจำเดือน ในผู้หญิง

ร้อยทั้งร้อยเคยทานยาแก้ปวดมาทั้งนั้น ซึ่งก็บรรเทาเบาบาง หรือไม่ก็หายปวดเป็นปลิดทิ้ง (ทั้งนี้ไม่รวมปวดหัวใจเนื่องจากอกหัก)

ทำให้ต้องหันมาพึ่งยาแก้ปวดกันเป็นประจำ

หนำซ้ำบางรายยังไม่ทันปวด ทานไว้ก่อนเผื่อปวด และนี่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ต้องมีศูนย์ต่างๆตามโรงพยาบาล ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ศูนย์ปวดท้องอาเจียนเป็นเลือด ส่องกล้อง กลืนแคปซูล ถ่ายภาพจิ๋ว

และที่เราชอบมองข้ามไป คือ ไตวายครับ ยาแก้ปวดประดามีทำให้ ไตวายได้ ต้องล้างไต ฟอกเลือดกันเป็นแถว
ใน ค.ศ.2004 เป็นที่ฮือฮากันทั่วโลกเมื่อยาแก้ปวดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAID หรือ Non-Steroidal Anti-Inflammatory Drug) และออกฤทธิ์เฉพาะเจาะจงโดยยับยั้ง Cyclo-Oxygenase-2 (COX- 2 Inhibitor) ที่ชื่อว่า Vioxx (Rofecoxib) ถูกพบว่าทำให้เกิดคนตายจากหัวใจวายมากมาย

จนทำให้บริษัทต้องถอนยาออกจากตลาด และถูกฟ้องร้องกันทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา

ยาในกลุ่มนี้ยังมีอีกหลายตัวและอยู่ในตลาดของประเทศไทย ซึ่งก็มีคำเตือนกันมาตลอดว่ายากลุ่มนี้อาจจะไม่จริงที่ไม่กัดกระเพาะ

ดังนั้นจะเห็นได้ว่าเมื่อได้รับยากลุ่มนี้ก็มักจะได้แถมยาป้องกันโรคกระเพาะตามกันมาด้วย และก็มีผลต่อไตเช่นเดียวกัน

นอกจากนั้นผลข้างเคียงในการทำให้เกิดหัวใจวายก็ยังเกิดขึ้นได้ ยาในกลุ่มนี้นอกจาก Vioxx ที่ถอนจากตลาดไปแล้ว ได้แก่ Celebrex (Celecoxib) Arcoxia (Etoricoxib) Dynastat (Parecoxib) ยาในกลุ่ม NSAID และไม่ได้มีฤทธิ์เจาะจงต่อ COX-2 อย่างกลุ่มที่กล่าวข้างต้นมีหลายตัวเช่น Voltaren (Diclofenac) Indocid (Indomethacin) Clinoril (Sulindac) (Phenylbutazone) Ponstan (Mefenamic acid) Mobic (Meloxicam) Feldene (Piroxicam) Brufen (Ibuprofen) Naprosyn (Naproxen) Aspirin (Acetylsalicylic acid) (Nimesulide)

ในประเทศไทยยาเหล่านี้มีหลายชื่อทางการค้า ถึงแม้จะเป็นยาตัวเดียวกัน ถ้าผลิตจากต่างบริษัทกัน ซื่อในวงเล็บคือชื่อสามัญ

ดังนั้น เวลาใช้ต้องถามคนขายหรือเภสัชกรให้แน่ชัดว่า ซ้ำซ้อนกับยาที่ใช้อยู่หรือเปล่า

ยาในกลุ่ม NSAID ทั้งที่เจาะจงและที่ไม่เจาะจงกับ COX-2 นี้ เวลาใช้ต้องระวังหรือใช้ไม่ได้ในคนที่มีตับและไตไม่สมบูรณ์ด้วยโดยเฉพาะที่อยู่ในขั้นรุนแรง

เรื่องที่น่าตกใจเกี่ยวกับยาแก้ปวดกลับมาเป็นประเด็นอีกครั้ง เมื่อมีการตอกย้ำอันตรายที่กลัวกันให้เห็นกันได้ชัดเจนถนัดถนี่ยิ่งขึ้น

รายงานนี้มาจากมหาวิทยาลัย Bern ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในวารสารการแพทย์ของอังกฤษ (British Medical Journal) ในวันที่ 11 มกราคม 2011 โดย นายแพทย์ Sven Trelle และคณะ โดยมีนายแพทย์ Peter JÜni เป็นผู้นำคณะ
(และรายงานหลังจากนี้จนกระทั่งถึงปัจจุบันได้ผลลัพธ์ในลักษณะเดียวกันทั้งสิ้น)

ทางคณะทำการรวบรวมวิเคราะห์การศึกษาเกี่ยวกับยา NSAID ทั้งหมด 31 ชิ้น ซึ่งมีการติดตามผลกระทบหรือผลข้างเคียงต่อสุขภาพในผู้ป่วย 116,429 ราย

ที่ใช้ยา Naproxen Ibuprofen Diclofenac Celecoxib Etoricoxib Lumiracoxib Rofecoxib

ผลจากการวิเคราะห์พบความเสี่ยงเพิ่มขึ้นหลายเท่าต่อการเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจ เส้นเลือดสมองตีบ และการเสียชีวิตที่เกี่ยวกับระบบหัวใจและเส้นเลือดทั้งหมด (ซึ่งรวมหัวใจล้มเหลว จากกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแอลง หัวใจเต้นผิดปกติ ลิ่มเลือดอุดเส้นเลือดในปอดเข้าไปด้วย) ความเสี่ยงต่อการเกิดเส้นเลือดหัวใจตีบเรียงลำดับจากอันตรายมากมาหาน้อย ได้แก่

Rofecoxib (ถอนจากตลาดทั่วโลกตั้งแต่ปี 2004)(2.12เท่า) Lumiracoxib (2 เท่า) Ibuprofen (1.61 เท่า) Celecoxib (1.35 เท่า) Naproxen และ Diclofenac (0.82 เท่า) Etoricoxib (0.75 เท่า) เมื่อประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดอัมพฤกษ์หรือเส้นเลือดสมองตีบ ที่ลดหลั่นกันมาจากสูงไปหาต่ำ ได้แก่ Ibuprofen (3.36 เท่า) Diclofenac (2.86 เท่า) Lumiracoxib (2.81 เท่า) Etoricoxib (2.67 เท่า) Naproxen (1.76 เท่า) Celeloxib (1.12 เท่า) และ Rofelcoxib (1.07 เท่า)

และเมื่อรวมความเสี่ยงอันเกี่ยวเนื่องกับระบบหัวใจและเส้นเลือดทั้งหมด ตัวที่อันตรายที่สุด คือ Etoricoxib หรือ ชื่อการค้าคือ Arcoxia (4.07เท่า) Diclofenac หรือ Voltaren (3.98 เท่า) Ibuprofen หรือ Brufen (2.39 เท่า) Celecoxib หรือ Celebrex (2.07 เท่า) Lumiracoxib (1.89 เท่า) Rofecoxib หรือ Vioxx (1.58 เท่า) และ Naproxen หรือ Naprosyn (0.98 เท่า)

ทั้งนี้จะเห็นว่า ยาแก้ปวดไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม NSAID ชนิดออกฤทธิ์ เจาะจงหรือไม่เจาะจงกับ COX-2 ไม่มีกลุ่มใดหรือตัวใดปลอดภัยเลย โดยที่ถ้าไม่ทำให้เส้นเลือดหัวใจตีบก็เกิดเป็นอัมพฤกษ์จากเส้นเลือดสมองแทน หรือไม่ก็มีผลทางอ้อมต่อการตายอันเกี่ยวเนื่องกับระบบเหล่านี้

ถ้าตัด Rofecoxib ไป (เพราะไม่มีจำหน่ายแล้ว) Lumiracoxib คือยาอันตรายสุดต่อเส้นเลือดหัวใจ (2 เท่า) Ibuprofen เสี่ยงสูงสุดต่ออัมพฤกษ์ (3.36 เท่า) ตามด้วย Diclofenac (2.86 เท่า) Etoricoxib เสี่ยงสูงสุดต่อการตายทั้งหมดอันเกี่ยวเนื่องกับระบบหัวใจเส้นเลือด (4.07) ตามด้วย Diclofenac (3.98)

การที่ความเสี่ยงต่อโรคต่างๆที่กล่าวมาไม่มีความเจาะจงกับกลุ่มที่ออกฤทธิ์ต่อ COX-2 หรือไม่ อาจเป็นเครื่องแสดงว่ามีกลไกอื่นๆอีกที่ต้องทำการศึกษาต่อ เช่น ผลของยาแต่ละตัวต่อ prostacyclin thromboxane A2 ต่อการทำงานของหลอดเลือด และการสร้าง Nitric oxide ซึ่งมีผลต่อการหดขยายเส้นเลือด ผลต่อความดันโลหิต ต่อไต และการเก็บและขับน้ำและเกลือแร่จากร่างกาย

ในประเทศสหรัฐเองมีการวิเคราะห์ว่าคนไข้ที่ไปพบแพทย์ มีไม่ต่ำกว่า 5% ที่จะได้รับยาแก้ปวด แก้อักเสบเหล่านี้ ถ้ากลับย้อนดูในประเทศไทยน่าจะมีมากกว่านี้ ทั้งนี้ เพราะเป็นที่เคยมือของแพทย์ที่จะสั่งยาแก้ปวดให้คนไข้ที่มาด้วยอาการปวดเมื่อย ปวดข้อ กระดูก ปวดเข่า ปวดหัว

และมิหนำซ้ำ ยาเหล่านี้สามารถซื้อหาได้ทั่วไป และนี่เป็นบทเรียนอีกหนึ่งตัวอย่างที่ต้องพิจารณาให้ถ่องแท้ว่าต้องใช้ยาเมื่อมีความจำเป็น ยาที่ใช้เป็นการรักษาที่ต้นตอหรือสาเหตุ หรือเพียงเพื่อบรรเทาอาการ ยามีผลข้างเคียงหรือแทรกซ้อนอะไรบ้าง และคุ้มหรือไม่ที่จะนำมาใช้ รวมทั้งยามีผลขัดฤทธิ์เสริมฤทธิ์กับยาตัวอื่นที่คนไข้ใช้อยู่ประจำหรือไม่
ยาแก้ปวดจึงเป็นยาที่เพียบพร้อมมีอันตรายต่อกระเพาะ หลอดอาหาร กรดไหลย้อน ไต ตับ หัวใจ สมอง นึกถึงยาแก้ปวดเมื่อไหร่นึกถึง ICU ด้วยนะครับ

ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
มหาวิทยาลัยรังสิต

รูปจากพินเทอเรส

กรุณาติดตามอย่างกระชั้นชิด  นี่คือเกมส์ระดับโลก
05/01/2025

กรุณาติดตามอย่างกระชั้นชิด นี่คือเกมส์ระดับโลก

ขอบคุณผู้ติดตามใหม่ทุกคน! ดีใจที่มาติดตามกัน! C Vutt Sookjai, Civet Happy Farm
02/01/2025

ขอบคุณผู้ติดตามใหม่ทุกคน! ดีใจที่มาติดตามกัน! C Vutt Sookjai, Civet Happy Farm

วิชาชีพสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด  ไม่ใช่สักแต่ว่าจะทำ  แต่ผิดถูก  ชั่วดีชั่งมัน
04/11/2024

วิชาชีพสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด ไม่ใช่สักแต่ว่าจะทำ แต่ผิดถูก ชั่วดีชั่งมัน

ฉันมีผู้ติดตามถึง 500 คนแล้ว! ขอบคุณทุกคนที่ช่วยสนับสนุนฉันมาโดยตลอด ฉันคงมาถึงจุดนี้ไม่ได้หากไม่มีพวกคุณทุกคน 🙏🤗🎉
03/08/2024

ฉันมีผู้ติดตามถึง 500 คนแล้ว! ขอบคุณทุกคนที่ช่วยสนับสนุนฉันมาโดยตลอด ฉันคงมาถึงจุดนี้ไม่ได้หากไม่มีพวกคุณทุกคน 🙏🤗🎉

ทำอะไรก็พากันตั้งแง่  หมอบุณย์จะเอานั่น  จะเอานี่  อยากได้ตำแห่งนั่นตำแหน่งนี่...  เลิกกันทีเหอะ...ให้ผมอยู่ของผมสบาย  ข...
13/05/2024

ทำอะไรก็พากันตั้งแง่ หมอบุณย์จะเอานั่น จะเอานี่ อยากได้ตำแห่งนั่นตำแหน่งนี่... เลิกกันทีเหอะ...ให้ผมอยู่ของผมสบาย ขอเพียงอย่าพาวิชาชีพลงทะเลเข้าป่าเป็นพอ เพราะผมเป็นได้เกินกว่าที่คุณคิด

15/04/2024

เชื้อกันบ้างก็ได้ครับ

ให้ความสำคัญกับอวัยวะสำคัญ  สายไปจะแก้ไขไม่ทัน
09/04/2024

ให้ความสำคัญกับอวัยวะสำคัญ สายไปจะแก้ไขไม่ทัน

ขอบคุณต้นเรื่อง
09/04/2024

ขอบคุณต้นเรื่อง

"แบคทีเรียกินเนื้อ ระบาดหนัก!!!"
ตอนนี้กำลังระบาดหนักที่ญี่ปุ่นเลยล่ะครับ 500 กว่ารายแล้ว แบคทีเรียมันไม่ได้มีปากมีฟันนะ แต่ที่เรียกแบบนั้นเพราะมันเป็นแผลลุกลามไปเรื่อยๆ เหมือนถูกแบคทีเรียกินนั่นเอง
แบคทีเรียกินเนื้อนี่มันได้กินซอยจุ๊ ลาบก้อยนะ 5555 เนื้อคนนี่แหละครับ เรียกอีกอย่าว่าโรคเนื้อเน่า (Necrotizing fasciitis)
แผลของบางคนก็อาจมีเชื้อได้หลายชนิด นึกว่าสวนสัตว์แบคทีเรีย
ตัวที่เจอบ่อยๆจะเป็นเชื้อสเตร็ปโตคอคคัสกรุ๊ปเอ(อันนี้ที่ญี่ปุ่นกำลังระบาด) เชื้อเคล็บเซลล่า เชื้อคลอสทริเดียม เชื้ออีโคไล วิบริโอ เชื้อสแต็ปฟิโลคอคคัส ออเรียส และเชื้อแอโรโมแนส ไฮโดรฟิลา โอ๊ยยย เยอะมั้ยล่ะ
ถ้าเป็นในต่างประเทศจะก็มักจะเจอแบคทีเรียตามน้ำทะเล และเข้าสู่ร่างกายคนผ่านการว่ายน้ำ ดำน้ำ หรือกินอาหารทะเลดิบหรือปรุงไม่สุก โดยเฉพาะพวกหอยต่างๆ อย่างหอยนางรม เพราะพวกนี้มันดูดซับแบคทีเรียไว้กับตัวได้ดี แล้วเป็นตัวที่เรานิยมกินดิบด้วยไง
ส่วนใหญ่โรคนี้มักจะเป็นที่ขาและเท้า อย่างบ้านเราก็เจอเยอะ เพราะชาวไร่ชาวนาต้องเดินลุยนาข้าว ลุยพงหญ้า ทำให้มีแผลใบไม้ใบหญ้าบาด เปลือกหอยบาด กิ่งไม้ตำ พอเป็นแผลเล็กๆก็เลยไม่ได้สนใจทำความสะอาด
บางคนก็ไปหาสมุนไพรมาพอกแผลเอง บ้างก็ย่ำโคลนตอนทำนา เชื้อโรคมันก็เลยเข้าไปในแผลได้ ทำให้อักเสบ ผิวหนังจะออกคล้ำๆ ลุกลาม หรือเชื้อเข้าสู่กระแสเลือด ตายก็มี
.
คนที่แข็งแรงสุขภาพดีก็มักจะไม่เป็นอะไรมาก แต่คนที่มีภูมิต้านทานต่ำเนี่ยสิครับ ค่อนข้างเสี่ยง เช่น คนที่เป็นเบาหวาน ไตวาย มะเร็งที่กำลังใช้เคมีบำบัด คนแก่ คนอ้วน คนที่กินยาสเตียรอยด์หรือยาชุด คนที่ดื่มเหล้าเป็นประจำ ถ้าไม่อยากเป็นโรคนี้ก็มาดูวิธีป้องกันดีกว่าครับ

1. รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ถ้าภูมิคุ้มกันต่ำเดี๋ยวเชื้อจะลุกลาม ติดเชื้อง่าย

2. อย่าย่ำน้ำย่ำโคลน ถ้าต้องทำงานก็ให้ใส่รองเท้าบูท อย่าให้แผลสกปรก ทำความสะอาดแผลด้วยน้ำสะอาด ฟอกสบู่ และใส่ยา

3. หลังทำไร่ทำนาย่ำน้ำย่ำโคลน ให้รีบอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายทันที

4. อย่ากินยาชุด ยาลูกกลอน พวกนี้ชอบใส่สารเตียรอยด์ มันจะไปกดภูมิต้านทานของร่างกาย ทำให้ติดเชื้อง่าย
และถ้าใครเป็นก็ให้รีบไปหาหมอ เชื้อจะได้ไม่ลุกลามจนพิการหรือเสียชีวิต

5. หลีกเลี่ยงการกินอาหารทะเลแบบปรุงไม่สุก

6. ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำ หลังสัมผัสกับอาหารทะเล

ใครที่สงสัยว่าตัวเองกำลังเป็น อย่าลืมรีบไปพบแพทย์ ปล่อยไว้นานจะยิ่งรักษายากนะค้าบ

ที่อยู่

4-4/1 สุขุมวิท 1 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา
Bangkok
10110

เบอร์โทรศัพท์

+66914462545

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ บุณยพร - หมอบุณย์ ยี่มี เพื่อแผนไทยผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง บุณยพร - หมอบุณย์ ยี่มี เพื่อแผนไทย:

แชร์