07/01/2025
รัฐเราเอาหูไปน่เอาตาไปสวน
ความเป็นจริงของวัคซีนที่พิสูจน์แล้ว
และการปรึกษา chatGPT ถ้าไม่ป้อนข้อมูลให้ปัญญาประดิษฐ์แยกแยะได้แต่คำตอบพื้นๆ และการใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการได้ข้อสรุปคนถามต้องแม่นในข้อมูลหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และปัญญาประดิษฐ์จนถึงปัจจุบันนี้จะจนมุมกับข้อมูลที่ให้
จาก นพ อรรถพล สุคนธาภิรมย์
ถึง คณาจารย์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬา และกาชาด
จำได้ไหมว่าผมเคยถาม ว่า mRNA ฉีดแล้วไปไหนบ้างในร่างกาย หรือ pharmacodynamics เภสัชจลนศาสตร์ ของยา คำถามพื้นๆ ที่แพทย์และเภสัชกร ควรจะถาม ที่น่าสงสัย คือ ในเอกสารกำกับยา ของไฟเซอร์ บอกว่า “ไม่เกี่ยวข้อง” แต่ แพทย์กลับไม่ใส่ใจที่จะถาม ว่า ไม่เกี่ยวข้อง จริงๆหรือ?
ไม่เกี่ยวข้องได้อย่างไร ผมเอาบทความเรื่องดังกล่าวมาแปะไว้ให้อ่านอีกครั้ง
อย่างที่บอกครับ critical thinking เริ่มจากการตั้งคำถามที่ถูกต้อง ความจริงยังไงก็เป็นความจริงวันยังค่ำ ตอนนี้ มีงานวิจัยที่ตอบคำถามดังกล่าว แถมมีรายงานจาก fda ของออสเตรเลีย (TGA) ที่ยืนยันว่า มันกระจายไปทั่วร่างกาย ไปสมอง ไปไขกระดูก ไปที่รก ไปรังไข่ ไปอัณฑะ ไปต่อมน้ำลาย ไปต่อมน้ำเหลือง ไปตับ หัวใจ ไต ฯลฯ
และไม่ได้ไปเฉยๆ ไปสร้างปัญหา ทำให้เกิดการอักเสบใน อวัยวะนั้นๆด้วย มีงานวิจัยยืนยัน งานวิจัย
ที่อาจารย์ (…. คนที่ทำวัคซีน ได้ทุน 2000 ล้าน ก๊อปปี้จากไฟเซอร์โดยที่ไม่ได้ปรับเพื่อไม่ให้มีผลข้างเคียงแต่แล้วก็เลิกทำ ) คง ไม่อ่าน เพราะอาจารย์แกพึ่ง ChatGPT เป็นสรณะ😁) ที่ผมแนบลิงก์ให้ข้างล่าง
อย่างที่ ChatGPT บอกครับ ปัญหาของอาจารย์(คนนี้) ไม่ได้อยู่ที่ความ ไม่รู้ แต่รู้ทั้ง ก็ยังทำ แกเลยไม่กล้าขึ้นเวทีไงครับ กลัวความจริง ต่างกับคุณหมอ ….ที่กล้าถกแบบนักวิชาการจริงๆ
กลับมาที่งานวิจัยที่ว่า ผมเอาลิงค์มาแปะให้แล้ว ผมคิดว่า อาจารย์ยังมีความเป็นแพทย์ที่ใส่ใจในความปลอดภัยของผู้ป่วย จึงเชื่อว่าพี่จะไปอ่านงานวิจัยดังกล่าว อ่านแล้วได้ความว่าอย่างไรบ้าง มาสรุปให้ฟังก็ดีครับ
คำถาม ทางวิชาการ เกี่ยวกับเภสัชวิทยา ให้ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายช่วยตอบ
เฉลยคำตอบ ของคำถามที่หมอส่วนใหญ่ไม่สนใจ
• สืบเนื่องจากคำถามในโพสต์ข้างบน จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีผู้เชี่ยวชาญคนไหนมาตอบคำถามสำคัญนี้ ทำไมสำคัญ เพราะว่า เวลาที่เรา จะกิน หรือ ฉีดยาอะไรเข้าไปในร่างกาย มีคำถามที่ควรต้องตอบให้ได้ว่า ยาที่ฉีดนั้นไปที่ไหนบ้างในร่างกาย จะอยู่ในร่างกายเรานานแค่ไหน และมันจะไปทำให้เกิดอะไรขึ้นบ้างในร่างกายเรา
• คำถามเหล่านี้เขาเรียกกันว่า เภสัชจลนศาสตร์ (pharmacokinetics) กับ เภสัชพลศาสตร์ (pharmacodynamics) เป็นเรื่องที่แพทย์ และเภสัชกร รู้ดีว่าสำคัญเพียงใด
แต่น่าสนใจไหมว่า ในเอกสารกำกับยาของ โคเมอร์เนตี ข้อ 5.2 หน้า 22 กลับระบุว่าไม่เกี่ยวข้อง
• ที่น่าเศร้า คือ บรรดาผู้เชี่ยวชาญใน อย ก็ไม่ถาม ไม่สงสัยว่า mRNA ที่ฉีดนั้นไปที่ไหนบ้างในร่างกาย และจะอยู่ในร่างกายนานแค่ไหน ปล่อยให้บริษัทยา บอกง่ายๆว่า ไม่เกี่ยวข้อง
เอาครับทีนี้มาดูคำตอบของคำถามหล่านั้นกัน
1- mRNA (จริงๆแล้ว คือ ยีนสไปก์โปรตีนของไวรัส)อยู่ในร่างกายนานแค่ไหนหลังฉีด
ตอบ อยู่ได้เป็นเดือนๆ มีงานวิจัยที่พบ synthetic viral RNA gene (mRNA) ในต่อมน้ำเหลือง หลังจากที่ได้รับยาฉีดตัวนี้ไปเป็นเดือนๆ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่พบ synthetic viral RNA gene (mRNA) ในกระแสเลือดหลังฉีดเป็นสัปดาห์ ที่น่ากลัวคือ พบว่ามันเข้าไปแทรกในสารพันธุกรรม (DNA) ของเซลล์มนุษย์ได้ด้วย เพราะฉะนั้นที่มาหลอกกันว่า มันจะสลายตัวในเวลาไม่นานนั้นเป็นเรื่องโกหก
2-mRNA ไปที่ไหนบ้างในร่างกาย
ตอบ จากข้อ 1 คงจะพอเดาได้ว่ามันไปทั่วร่างกาย ไปตามกระแสเลือด ไปทางระบบน้ำเหลือง จากการวิจัยที่รัฐบาลญี่ปุ่นบังคับให้บริษัทยาต้องทำ โดยการศึกษาว่า นาโนลิปิด ไปที่ไหนบ้างในร่างกาย หลายคนอาจจะสงสัยว่า นาโนลิปิดเกี่ยวข้องอย่างไร นาโนลิปิดเปรียบเสมือนรถยนต์ ที่เอา synthetic viral RNA gene (mRNA) นั่งไปข้างใน รถยนต์ไปที่ไหนได้บ้างก็จะแปลว่าสิ่งที่อยู่ข้างในไปตามที่นั้นๆได้ด้วย เขาทำการวิจัยในหนู และพบว่า นาโนลิปิดไปได้ทั่วร่างกาย ไปในเลือด ไปที่สมอง ต่อมไร้ท่อ รังไข่ ระบบสืบพันธ์ุ ไขกระดูก หัวใจ ไต ม้าม ตับ เอาง่ายๆคือไปทั่วร่างกาย ไม่ได้อยู่แค่ที่หัวไหล่อย่างที่หลอกกัน
3 นาโนลิปิด ทำหน้าที่อะไร ทำไมต้องเอามาหุ้ม mRNA
ตอบ นาโนลิปิด ทำหน้าที่ห่อหุ้ม synthetic viral RNA gene (mRNA) ไม่ให้ร่างกายรู้ว่ามันเข้ามาในร่างกายเรา ทำไมต้องไม่ให้รู้?
เพราะว่า synthetic viral RNA gene (mRNA) หรือสารพันธุกรรมสังเคราะห์ยีนไวรัสนี้ เป็นสิ่งแปลกปลอม ถ้าร่างกายรู้ว่ามันเข้ามาในร่างกายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะลงมือทำลายมันทันที แต่เพราะว่า นาโนลิปิดที่เอามาหุ้มไว้ ทำให้ร่างกายคิดว่ามันเป็น “หยดไขมัน” ไขมันที่เป็นอาหารของเซลล์ทุกชนิดในร่างกาย ด้วยเหตุนี้ร่างกายจึงปล่อยให้ “ม้าโทรจัน” หยดไขมันที่ซ่อนสารพิษร้ายนี้ เข้าไปในร่างกาย ไปตามกระแสเลือด และเข้าไปในเซลล์ของเราได้
4- RNA ที่ฉีดนั้น เป็น rna spike protein 100% ไหม มี truncated RNA หรือ RNA ที่ขาดๆ ปนอยู่ไหม ถ้ามี พวกที่ขาดๆเนี่ยสร้างอันตรายได้ไหม
ตอบ มีรายงานพบว่า synthetic viral RNA gene (mRNA) ที่เอามาฉีดกันนั้นเป็นสารพันธุกรรมที่สมบูรณ์แค่ประมาณครึ่งนึง อีกครึ่งเป็นอันที่หักขาด ถ้าจะให้เข้าใจง่ายขึ้น อันสมบูรณ์ เทียบได้กับว่า เป็นคำสั่งที่ครบประโยค “จงสร้างสไปก์โปรตีน” แต่อันที่ขาดๆ อาจมีแค่ จงสร้าง “งสร้า ไปก์โปร รตีน ”ฯลฯ สารพันธุกรรมที่ขาดๆเหล่านี้ สามารถเข้าไปรบกวนการถอดรหัสพันธุกรรมตามปกติของเซลล์ได้ ทำให้การทำงานของเซลล์เหล่านั้นแย่ลง เกิดปัญหามากมายตามมาได้
5-นาโนลิปิด ช่วยให้synthetic viral RNA gene (mRNA) เข้าเซลล์ได้อย่างไร และเข้าเซลล์อะไรได้บ้าง
ตอบ ความจริงตอบไปแล้วในข้อ 3 แต่ตอบอีกทีว่า ไขมันนาโน หรือ นาโนลิปิดนี้ ไปหุ้ม synthetic viral RNA gene (mRNA) เอาไว้ทำให้เซลล์ของเรานึกว่าเป็นหยดไขมันธรรมดา ไขมันเป็นอาหารของเซลล์ เมื่อเซลล์คิดว่าไขมันเหล่านั้นเป็นอาหาร ก็เลยปล่อยให้ไขมันดังกล่าวเข้ามาในเซลล์ และเมื่อไขมันเป็นอาหารของทุกเซลล์มันจึงเข้าเซลล์ได้ทุกชนิด
6-synthetic viral RNA gene (mRNA) เข้าไปในเซลล์แล้วไปทำอะไร
ตอบ เนื่องจากมันเป็นยีนของไวรัส พอ synthetic viral RNA gene (mRNA) เหล่านั้นเข้าไปในเซลล์ก็ไปบังคับให้เซลล์เรา สร้างสไปก์โปรตีน โปรตีนของไวรัส ซึ่งเป็นโปรตีนแปลกปลอมในเซลล์ของเราเอง
7-สไปก์โปรตีนเป็นอันตรายไหม อย่างไร
ตอบ สไปก์โปรตีน คือ ส่วนที่อันตรายที่สุดของไวรัส ซาร์โควีทู (SARS CoV2) หรือไวรัสที่ทำให้เกิดโรคโควิด
สไปก์โปรตีนทำให้เกิดการอักเสบของผนังเส้นเลือด ทำให้เส้นเลือดตีบ แตก ตันได้ นอกจากนี้มันยังรบกวนการทำงานของไมโตคอนเดรียแหล่งสร้างพลังงานของเซลล์ ทำให้พลังงานในเซลล์ต่ำ ประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์ลดลง
8-ภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นจะ จะไปทำลายอะไรบ้างในร่างกาย
ตอบ คงจะพอรู้ว่า สไปก์โปรตีนที่เซลล์สร้างมานั้น จะไปกระตุ้นภูมิคุ้มกันของเราให้มาทำลาย สไปก์โปรตีน แต่นั่นเป็นคำตอบแค่ครึ่งเดียว เพราะนอกจากจะทำลายสไปก์โปรตีนที่ล่องลอยอยู่ในกระแสเลือดแล้ว สไปก์โปรตีนและชิ้นส่วนของมันยังติดอยู่ตามผนังเซลล์ที่สร้างมันด้วย ภูมิคุ้มกันต่อสไปก์โปรตีนจึงลงมือทำลายผนังเซลล์ ทำให้เซลล์แตก เซลล์ปกติของเราเองที่ถูกหลอกให้เอา synthetic viral RNA gene (mRNA) เข้าไปในเซลล์ จึงแปลว่ามันเข้าไปในเซลล์ได้ทุกชนิดในร่างกาย
9- nonneutralizing antibodies คือ อะไร ต่างจาก neutralizing antibodies อย่างไร nonneutralizing antibodies มีผลเสียอย่างไรบ้าง
ตอบ ภุมิคุ้มกันที่กันการติดเชื้อหรือ กันไม่ให้ไวรัสเข้าเซลล์ได้เรียกว่า neutralizing antibodies หรือ อาจจะเรียกได้ว่า คือ ภูมิคุ้มกันดี ในขณะที่ภูมิคุ้มกันชนิด non-neutralizing antibodies คือ ภูมิคุ้มกันที่มีมากก็ไม่มีประโยชน์ เพราะมันไม่สามารถกันให้ไวรัสเข้าเซลล์ได้ ภูมิคุ้มกันแบบนี้แหละที่อธิบายว่า ทำไมคนที่ไปฉีดวัคซีนมา พอเจาะดูค่า แอนตี้บอดี้ IgG สูง แต่ยังติดเชื้อได้ เพราะว่าภูมิคุ้มกันสูงเหล่านั้นเป็นภูมิคุ้มกันชนิด non-neutralizing antibodies หรือภูมิคุ้มกันไร้ประโยชน์
10- antigenic sin คือ อะไร ทำไมการกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์ดั้งเดิมก่อผลเสีย
ตอบ antigenic sin เป็นเรื่องของการที่เรากระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อเชื้อสายพันธ์ุเดิมๆซ้ำๆ จนทำให้พอเราเจอกับเชื้อสายพันธ์ุใหม่ แทนที่เราจะสร้างภูมิคุ้มกันกับสายพันธ์ุใหม่ เราดันกลับไปสร้างภูมิคุ้มกันต่อสา่ยพันธ์ุดั้งเดิมที่ไม่ช่วยป้องกันการติดเชื้อ
11-. ADE antibodies dependent enhancement คือ อะไร
ตอบ ภูมิคุ้มกันที่ไม่สามารถกันการติดเชื้อ ไม่สามารถกันการแพร่เชื้อเพราะเป็นภูมิคุ้มกันต่อสายพันธ์ุดั้งเดิมนี้ นอกจากจะไม่มีประโยชน์แล้ว ในบางครั้งมันยังช่วยทำให้เชื้อไวรัสเข้าเซลล์ได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะเซลล์ภูมิคุ้มกัน เซลล์เม็ดเลือดขาวและ เมื่อเข้าไปแล้วไวรัสก็จะไปทำลายเซลล์ภูมิคุ้มกันของเรา ทำให้อาการป่วยกลับรุนแรงมากขึ้น
12-. ภาวะภูมิคุ้มกันเหนื่อย immune fatigue คือ อะไร
ตอบ ภาวะภูมิคุ้มกันเหนื่อย คือ ภาวะที่มีการกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อเชื้อเดิมๆ ซ้ำๆ จนทำให้ร่างกายลดการตอบสนองลง อันเป็นผลให้ภูมิคุ้มกันลดลง ดังที่เห็นในปัจจุบันว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนหลายเข็มกลับมีโอกาสติดเชื้อเพิ่มมากกว่า คนที่ไม่ฉีดหรือฉีดน้อย การเกิดภาวะนี้ไม่ได้อธิบายด้วยปริมาณแอนตี้บอดี้ที่ผลิตขึ้น แต่เกี่ยวข้องกับการทำงานของ เม็ดเลือดขาวชนิด T Cell ที่ลดลง สร้างสารต้านไวรัส อินเตอร์ฟีรอน (interferon) ลดลง
13.- มรณา mRNA ที่เอามาฉีดตอนนี้ เป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อโควิดสายพันธุ์ไหน
ตอบ synthetic viral RNA gene (mRNA) ที่เอามาฉีดในปัจจุบันยังเป็น ยาฉีดสำหรับไวรัสสายพันธ์ุดั้งเดิมอยู่เลย ไม่แปลกที่มันเลยทำให้เกิดปัญหาตามที่เล่าให้ฟังข้างบนมากมาย และต่อให้เอาวัคซีนไบวาเลนท์ รุ่นใหม่มาฉีด เชื้อที่ระบาดตอนนี้ก็กลายพันธุ์ไปเป็นสายพันธ์ุใหม่ไปหมดแล้ว ไม่ใช่สายพันธ์ุโอมิครอนที่เอามาใช้ทำวัคซีน ที่น่าสนใจคือ synthetic viral RNA gene (mRNA) ไบวาเลนท์ รุ่นใหม่นี้กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้แย่กว่าแบบเดิม แถมไม่เคยทดสอบในคน ไม่ได้ทดสอบว่ากันการติดเชื้อได้ กันการแพร่เชื้อได้ไหม แค่ทำการทดลองในหนูแปดตัวเท่านั้น
ทั้งหมดคือ คำตอบ คำถามสำคัญเกี่ยวกับเภสัชวิทยาของยาฉีดยีนไวรัสสังเคราะห์ synthetic viral RNA gene (mRNA) ลองเอาไปให้ หมอ หรือ เภสัชที่ท่านรู้จักอ่านดู และถ้าอยากจะรู้ว่าผมมีเอกสารอ้างอิงไหม บอกให้เขาจัดเวทีเสวนาวิชาการผมจะเอาหลักฐานทั้งหมดไปกางให้ดูครับ
mRNA "vaccine" biodistribution, persistence, and adjuvant toxicity library
Creators
• Sass, Erik (Contact person)�
Description
Compiled by Dr. Martin Wucher, MSC Dent Sc (eq DDS), Dr. Byram Bridle, PhD, Erik Sass, et al.
Doi: 10.5281/zenodo.14559625
Last updated December 26, 2024. Corresponding author: [email protected]
ตัวอย่างของการเกิด exosome
Cutting Edge: Circulating Exosomes with COVID Spike Protein Are Induced
by BNT162b2 prior to development of
Antibodies:
Novel Mechanism for Immune Activation
by mRNA Vaccines
https://journals.aai.org/jimmunol/article/207/10/2405/234284/Cutting-Edge-Circulating-Exosomes-with-COVID-Spike
โปรตีนหนาม ของวัคซีนอยู่ในกระแสเลือดได้นานหลายปี และ สามารถ อธิบาย ปรากฏการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นไม่ยอมเลิกจนกระทั่งถึงปัจจุบัน
รายงานจากมหาวิทยาลัยเยล
ดร Iwasaki เป็นนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำ ที่มหาวิทยาลัยเยล เคยดำรงตำแหน่งเป็น ประธานสมาคมภูมิคุ้มกันวิทยาของอเมริกา ในช่วง 2023 ถึง 2024 รวมทั้ง เป็นผู้วิจัยหลักที่สถาบัน Howard Hughes medical institute และเป็น Sterling professor ทางด้าน immunobiology และ molecular, cellular and developmental Biology ที่ มหาวิทยาลัยเยล ทำวิจัยเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน innate, autophagy, inflammasomes ไวรัส herpes human papilloma virus โรคติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจโรคไข้หวัดใหญ่ ระบบภูมิคุ้มกัน T cell และลึกซึ้งในเรื่อง โควิด-19 และปรากฏการณ์ลองโควิด
ข้อมูลที่สัมภาษณ์และออกทาง Yale press มีความสำคัญมากในการพบว่าผู้ที่พิสูจน์แล้วว่าไม่ได้ติดโควิดยังคงมีโปรตีนหนาม ของวัคซีนอยู่ในกระแสเลือดได้นานหลายปี และ สามารถ อธิบาย ปรากฏการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นไม่ยอมเลิกจนกระทั่งถึงปัจจุบัน
Yale vaccine persistence for years
https://open.substack.com/pub/alexberenson/p/urgent-yale-researchers-have-found?r=3an661&utm_medium=ios
https://alexberenson.substack.com/p/urgent-yale-researchers-have-found?utm_source=substack&utm_campaign=post_embed&utm_medium=email