
17/02/2025
MOODY: ‘Burnt Toast Theory’ เมื่อชีวิตเหมือนการปิ้งขนมปัง พลาดพลั้งในครั้งแรก แต่ครั้งต่อไปมันจะดีขึ้น
-------------------
คนเราทำผิดพลาดมากที่สุด อาจจะเป็นตอนทำอะไรก็ตามใน ‘ครั้งแรก’ แต่เพราะความผิดพลาดนั้นย่อมทำให้เราเรียนรู้ว่าครั้งต่อไปเราจะทำมันให้ดีขึ้น วันนี้ MOODY จึงอยากเล่าถึง ‘Burnt Toast Theory’ หรือ ‘ทฤษฎีขนมปังไหม้’ ที่เป็นไวรัลในสังคม TikTok ที่จะช่วยให้คนเรายอมรับความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ แล้วก้าวผ่านมันไปได้ง่ายขึ้น
อันที่จริงทฤษฎีนี้ไม่ได้มีคำนิยามตายตัวนัก เนื่องจากริเริ่มจากการแชร์ทัศนคติของ TikToker คนหนึ่ง ชื่อแอคเคาต์ว่า Ingrid () โดยเธออธิบายเอาไว้ในคลิปว่า “หากคุณปิ้งขนมปังก่อนไปทำงาน 5-10 นาที อาจทำให้รอดพ้นจากอันตรายบางอย่างที่รออยู่ก็ได้ เช่น การประสบอุบัติเหตุจากรถยนต์ หรือรอดจากคนที่ไม่อยากเจอ”
ด้าน คาเมรอน วิลเลียมส์ (Cameron Williams) นักจิตวิทยา ได้อธิบายเกี่ยวกับทฤษฎีขนมปังไหม้ที่ดึงดูดใจผู้คนในวงกว้างไว้ว่า “สัญชาตญาณของมนุษย์เราคือ การแสวงหาความหมายให้กับความสับสนวุ่นวายว่าเป็นโชคชะตาที่ถูกกำหนดไว้แล้ว” เพราะอาจเป็นไปได้ว่าเราบางคนไม่เชื่อเรื่องความบังเอิญ ดังนั้นจึงพยายามโต้แย้งสถานการณ์เหล่านั้นด้วยตรรกะสักอย่าง” นี่อาจเป็นนัยเริ่มต้นของทฤษฎีนี้
และอีกด้านหนึ่ง หากเราปิ้งขนมปังไหม้ก็อาจทำให้การเริ่มต้นเช้าวันใหม่ไม่ค่อยดีนัก แต่หากลองปิ้งอีกสักแผ่นเราจะลดระดับไฟลงและปรับระยะเวลาให้เร็วขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้ก็อาจเป็นขนมปังปิ้งแผ่นกรอบกำลังดีก็ได้
ทว่าประเด็นไม่ได้อยู่ที่ขนมปัง แต่อยู่ที่มุมมองของเราที่มีต่อสถานการณ์นั้นๆ ต่างหาก จากนั้นผู้คนต่างพูดถึงทฤษฎีนี้ และแชร์ในมุมมองของตัวเองว่าได้อะไรจาก Burnt Toast Theory บ้าง
เพราะทฤษฎีขนมปังไหม้ยังสนับสนุนให้คนเรายอมรับความพ่ายแพ้หรือความไม่ได้ดั่งใจบางอย่างในชีวิต แม้ ณ ตอนนี้มันช่างลำบากลำบน แต่เมื่อเราพยายามอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง ยิ่งพยายามฝึกฝน ฝ่าฝันเท่าไหร่ เชื่อว่าช่วงเวลาที่กำลังรอเราอยู่มันจะดีขึ้นแน่ๆ บางคนก็กล่าวถึงพลังแห่งจักรวาลที่แม้เราจะไปผิดทาง แต่จักรวาลจะนำพาเราไปในทิศทางที่ใช่เสมอ หากเราเชื่อมั่นจริงๆ
ซึ่งหากลองดูแก่นของ Burnt Toast Theory อันที่จริงมีความคล้ายคลึงกับทฤษฎีแรงดึงดูดของโลก แมนิเฟสต์ (manifestation) หรือวิธีการกำหนดอารมณ์ในทุกเช้าของแต่ละวัน รวมถึงแนวคิดด้านจิตวิทยาพื้นฐานที่ว่า ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบบนโลกใบนี้ ดังนั้น การยอมรับความผิดพลาดให้ได้จึงทำให้เราก้าวผ่านสิ่งเหล่านั้นไปสู่ชีวิตที่ต้องการได้
-------------------
สุดท้าย ข้อสังเกตที่ทำให้ Burnt Toast Theory กลายเป็นแนวคิดที่ไวรัลขึ้นมา อาจเพราะมันเห็นภาพได้ง่าย เชื่อมโยงได้กับทุกคนและสามารถจับต้องได้ จึงทำให้ดึงดูดความสนใจผู้คนได้นั่นเอง ดังนั้น ลองนำ Burnt Toast Theory ไปปรับใช้ดูกัน แล้วมาแชร์กันได้ในคอมเมนต์ว่าเวิร์กหรือเปล่า