Media Alert MEDIA ALERT สะท้อนสื่อ สะท้อนสังคม

Media Alert เป็นโครงการภายใต้แผนการทำงานของสำนักงานกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ที่มีภารกิจในการนำเสนอผลการศึกษาวิเคราะห์สภาพการณ์สื่อและพฤติกรรมการเปิดรับและการใช้สื่อของสังคม โดยมุ่งหวังสร้างเสริมวัฒนธรรมการคิดวิเคราะห์ในการสื่อสาร การเปิดรับ และการใช้สื่อ เพื่อส่งเสริมนิเวศสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์

งานวิจัยพบ การเสพติดโซเชียลฯ อาจเป็นปัจจัย ที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติไม่ว่าจะ หนัง ละครที่ดูบนทีวี หรือคอนเ...
03/02/2025

งานวิจัยพบ การเสพติดโซเชียลฯ อาจเป็นปัจจัย ที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติ
ไม่ว่าจะ หนัง ละครที่ดูบนทีวี หรือคอนเทนต์ตลกๆ ที่เราชอบไถมาเจอบนโซเชียลมีเดีย อาจส่งผลถึงพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติของเราได้? เพราะงานวิจัยชิ้นล่าสุด กำลังชี้ให้เห็นความเชื่อมโยงระหว่างการใช้เวลาบนหน้าจอและโซเชียลมีเดียกับความเสี่ยงในการเป็นโรคการกินผิดปกติ (Eating disorder)
งานวิจัยที่สำรวจในช่วงเดือนกันยายน ปี 2023 ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า มีการใช้หน้าจอและโซเชียลมีเดียเพิ่มขึ้นทุกๆ หนึ่งชั่วโมง ที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงในการเกิดอาการผิดปกติทางการกินที่สูงขึ้น ขณะที่วัยรุ่นใช้เวลาบนโลกออนไลน์มากขึ้นก็มีแนวโน้มที่จะถูกล้อเลียน-กลั่นแกล้ง ซึ่งเป็นอีกปัจจัยเสี่ยงของโรคการกินผิดปกติ

BRIEF: งานวิจัยพบ การเสพติดโซเชียลฯ อาจเป็นปัจจัย ที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติ
ไม่ว่าจะ หนัง ละครที่ดูบนทีวี หรือคอนเทนต์ตลกๆ ที่เราชอบไถมาเจอบนโซเชียลมีเดีย อาจส่งผลถึงพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติของเราได้? เพราะงานวิจัยชิ้นล่าสุด กำลังชี้ให้เห็นความเชื่อมโยงระหว่างการใช้เวลาบนหน้าจอและโซเชียลมีเดียกับความเสี่ยงในการเป็นโรคการกินผิดปกติ (Eating disorder)
งานวิจัยที่สำรวจในช่วงเดือนกันยายน ปี 2023 ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า มีการใช้หน้าจอและโซเชียลมีเดียเพิ่มขึ้นทุกๆ หนึ่งชั่วโมง ที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงในการเกิดอาการผิดปกติทางการกินที่สูงขึ้น ขณะที่วัยรุ่นใช้เวลาบนโลกออนไลน์มากขึ้นก็มีแนวโน้มที่จะถูกล้อเลียน-กลั่นแกล้ง ซึ่งเป็นอีกปัจจัยเสี่ยงของโรคการกินผิดปกติ
ดร. เจสัน นากาตะ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านกุมารเวชศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย บอกว่า การดูทีวีติดต่อกันเป็นเวลานาน และการเลื่อนหน้าจอติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจส่งผลต่อการกินมากเกินไปได้เช่นกัน
ขณะที่งานวิจัยในปี 2021 ของนากาตะ พบว่า การใช้โซเชียลมีเดียเพิ่มขึ้นทุกๆ หนึ่งชั่วโมงมีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงในการเป็นโรคการกินมากเกินไปที่เพิ่มขึ้น 62% ในอีก 1 ปีต่อมา
คำถามต่อมาคือ ทำไมโซเชียลมีเดียถึงเชื่อมโยงกับอาการผิดปกติทางการกินได้มากขนาดนั้น? ซึ่งข้อนี้ นากาตะ บอกว่า มีหลายปัจจัย เช่น การเปรียบเทียบ การเปิดรับอุดมคติทางร่างกาย และพฤติกรรมหุนหันพลันแล่นที่เพิ่มมากขึ้น
ด้าน เอริน ไบเรลีย์ นักบำบัดของ Renfrew Center ซึ่งเป็นศูนย์บำบัดอาการผิดปกติทางการกิน บอกว่า เราทราบดีว่าโซเชียลมีเดียทำให้วัยรุ่นเข้าถึงแนวคิดต่างๆ ได้มากขึ้น และรวดเร็ว ซึ่งถือเป็นทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ดี
ไบเรลีย์ บอกว่า โซเชียลมีเดียทำให้คนมารวมกลุ่มกัน แต่บางทีก็อาจจะรวมถึงคนที่ไม่ได้คิดเรื่องอาหารและการดูแลสุขภาพที่ดีขนาดนั้น ดังนั้นพวกเขาอาจจะแบ่งปันพฤติกรรมที่เป็นอันตรายและอาจทำให้มันดูเป็นเรื่องปกติไปก็ได้
ผู้เชี่ยวชาญ บอกอีกว่า โซเชียลมีเดียทำให้เด็กๆ เห็นภาพ ที่อาจส่งเสริมอุดมคติที่ผอมบางเกินไป หรือลักษณะทางร่างกายที่ไม่มีประโยชน์ ซึ่งนอกจากรูปภาพที่ถูกนำเสนอแล้ว เหล่าอินฟลูฯ หลายคนยังได้รับเงินเพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมการลดน้ำหนักด้วย
นากาตะ บอกว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่สิ่งที่วัยรุ่นเห็นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเข้าใจว่าผู้อื่นสามารถเห็นพวกเขาได้ ไม่ว่าพวกเขาจะถูกกลั่นแกล้งหรือได้รับคำชมก็ตาม ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจนำไปสู่วงจรอุบาทว์และแรงกดดัน วัยรุ่นอาจใช้เวลาคิด หรือวางแผนโพสต์บนโซเชียลมีเดียมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดความวิตกกังวลและเครียดได้
อ้างอิงจาก

https://edition.cnn.com/2025/01/28/health/social-media-eating-disorders-wellness/index.html

https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/39231917/

#โรคการกินผิดปกติ

เปิด 50 อันดับ บริษัทในฝันของคนรุ่นใหม่’68 ต้องมี “พื้นที่สื่อ-ใช้เอไอ-ใส่ใจต่อสังคม”เปิดผลสำรวจ 50 องค์กรที่คนรุ่นใหม่ ...
03/02/2025

เปิด 50 อันดับ บริษัทในฝันของคนรุ่นใหม่’68 ต้องมี “พื้นที่สื่อ-ใช้เอไอ-ใส่ใจต่อสังคม”

เปิดผลสำรวจ 50 องค์กรที่คนรุ่นใหม่ อายุ 22-35 ปี จำนวน 12,559 คน อยากทำงานด้วยมากที่สุด ปี 2568 “กูเกิล ประเทศไทย” เต็งหนึ่ง ครองแชมป์ติดต่อกัน 5 ปีซ้อน การจะเป็นองค์กรที่ชนะใจวัยทำงานได้ในปีนี้ ต้องมีการสร้างแบรนด์ผ่านพื้นที่สื่อ ใช้เอไอ และใส่ใจต่อสังคม

เปิดผลสำรวจ 50 องค์กรที่คนรุ่นใหม่ อายุ 22-35 ปี จำนวน 12,559 คน อยากทำงานด้วยมากที่สุด ปี 2568 “กูเกิล ประเทศไทย” เต็งห.....

คนไทยไปเรื่อย’ จริงไหม?ไม่ว่าจะเป็น ‘คริสติน่า แซ่แต้’ ดีว่าสาวตำแหน่งแชมป์ The Voice UK 4,000 สมัย ที่เดินเท้าจากเกาะอั...
30/01/2025

คนไทยไปเรื่อย’ จริงไหม?
ไม่ว่าจะเป็น ‘คริสติน่า แซ่แต้’ ดีว่าสาวตำแหน่งแชมป์ The Voice UK 4,000 สมัย ที่เดินเท้าจากเกาะอังกฤษเพื่อมาประกวด The Voice Thailand และล่าสุดยังมีสุนัขตำรวจที่ชื่อคริสติน่า คนจึงเติมนามสกุลให้น้องว่า แซ่โฮ่ง จนกลายเป็นไวรัลอีกด้วย หรือคลิปวิดีโอกลุ่มนักศึกชายติดลิฟต์ และร้องเพลง 10 20 30 40 ที่เคยเป็นไวรัลเมื่อหลายปีที่แล้ว หรือจะเป็นเทคนิคการขายเฉาก๊วยของพ่อค้าสุดฮาอย่างประโยค “เข้าถึงซิกเนเจอร์ เลเยอร์คัสตอม” ที่แสดงให้เห็นถึงความไปเรื่อยของคนไทยสุดๆ
เราจะเห็นว่าไม่ว่าประเทศจะเจอกับสถานการณ์อะไรก็ตาม เช่น ภัยพิบัติ โรคระบาด รถติด เศรษฐกิจแย่ คนไทยก็ยังหาแง่มุมขบขันมาเล่นจนกลายเป็นไวรัลได้เสมอ

MIND: ‘คนไทยไปเรื่อย’ จริงไหม?
ไม่ว่าจะเป็น ‘คริสติน่า แซ่แต้’ ดีว่าสาวตำแหน่งแชมป์ The Voice UK 4,000 สมัย ที่เดินเท้าจากเกาะอังกฤษเพื่อมาประกวด The Voice Thailand และล่าสุดยังมีสุนัขตำรวจที่ชื่อคริสติน่า คนจึงเติมนามสกุลให้น้องว่า แซ่โฮ่ง จนกลายเป็นไวรัลอีกด้วย หรือคลิปวิดีโอกลุ่มนักศึกชายติดลิฟต์ และร้องเพลง 10 20 30 40 ที่เคยเป็นไวรัลเมื่อหลายปีที่แล้ว หรือจะเป็นเทคนิคการขายเฉาก๊วยของพ่อค้าสุดฮาอย่างประโยค “เข้าถึงซิกเนเจอร์ เลเยอร์คัสตอม” ที่แสดงให้เห็นถึงความไปเรื่อยของคนไทยสุดๆ
เราจะเห็นว่าไม่ว่าประเทศจะเจอกับสถานการณ์อะไรก็ตาม เช่น ภัยพิบัติ โรคระบาด รถติด เศรษฐกิจแย่ คนไทยก็ยังหาแง่มุมขบขันมาเล่นจนกลายเป็นไวรัลได้เสมอ
แล้วทำไมคนไทยถึงเป็นคนตลกล่ะ?
การศึกษาทางจิตวิทยานั้นพบว่า การใช้ความตลกขบขัน (humor) เป็นหนึ่งในวิธีการจัดการอารมณ์ทางลบที่มนุษย์เราใช้กัน โดยเป็นการเปลี่ยนแปลงวิธีคิด หรือมุมมองที่เรามีต่อปัญหาและมีต่อความสามารถในการแก้ปัญหา ให้สถานการณ์ที่คุกคามความรู้สึกของเรา (threat) กลายเป็นสถานการณ์ที่เป็นความท้าทาย (challenge) และเมื่อเรามีมุมมองต่อปัญหาเปลี่ยนไป อารมณ์ทางลบที่ทำให้เรารู้สึกตึงเครียด ก็จะบรรเทาลงไปด้วย
การใช้ความตลกขบขันจึงเป็นเหมือนการเบี่ยงเบนความสนใจ โดยเมื่อเราได้ผ่อนคลายอารมณ์จากการคิดถึงปัญหาในมุมอื่น หรือจากการพยายามสร้างสรรค์มุกตลกต่างๆ ขึ้นมา จะช่วยให้เราสามารถโฟกัสกับปัญหาได้มากขึ้น และนำไปสู่การจัดการกับปัญหาได้ดีขึ้นด้วย
นอกจากนี้ การใช้ความตลกขบขันนั้นมักเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่เราไม่สามารถป้องกันหรือควบคุมได้ หรือไม่สามารถหลีกเลี่ยงหรือจัดการได้ในทันที ต้องรอเวลา ซึ่งสถานการณ์ในประเทศไทยส่วนใหญ่มักจะเป็นเช่นนั้น เช่น สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในขณะนี้ ที่เราไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง ทำได้แค่รอเท่านั้น
อย่างไรก็ดี ความตลกขบขันจะใช้ได้ผลก็ต่อเมื่อเราไม่ได้อยู่ในสภาวะอารมณ์ที่เข้มข้นมาก เพราะถ้าอารมณ์เข้มข้นมากก็คงจะตลกไม่ออก เช่นเมื่อต้องสูญเสียคนใกล้ชิด ความตลกขบขันก็อาจไม่ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้ ด้วยความเสียใจและสภาวะอารมณ์ที่เข้มข้น เราจึงไม่สามารถตลกได้ในสถานการณ์เหล่านี้
นักจิตวิทยายังเสนออีกว่า การใช้ความตลกขบขันมีความสัมพันธ์กับระดับความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional intelligence) ด้วย เพราะผู้ที่มีความฉลาดทางอารมณ์สูง คือผู้ที่มีความสามารถด้านการปรับตัวสูง โดยสามารถประเมินสถานการณ์ได้อย่างถูกต้อง ยอมรับและตระหนักในสิ่งที่เกิดขึ้น และรู้จักปรับเปลี่ยนวิธีคิด เพื่อการปรับอารมณ์โดยไม่ปฏิเสธปัญหา
ทั้งนี้ผู้ที่มีความฉลาดทางอารมณ์สูงจะใช้ความตลกขบขันในทางบวก (Adaptive humor) หรือตลกในทางสร้างสรรค์ ขณะที่ผู้ที่มีความฉลาดอารมณ์ต่ำจะใช้ความตลกขบขันในทางลบ (Maladaptive humor) หรือตลกไม่สร้างสรรค์ เช่น ตลกดูถูกตนเอง ตลกทำร้ายคนอื่น ตลกแบบที่คนอื่นไม่ตลกด้วย
ดังนั้นแล้วจึงอาจพอสรุปได้ว่า คนไทยเป็นคนที่มีระดับความฉลาดทางอารมณ์สูง เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศส่วนใหญ่เป็นปัญหาที่เราไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง เมื่อเกิดปัญหาเช่นนี้ซ้ำเข้าบ่อยครั้ง จึงเกิดการเรียนรู้ที่จะปรับเปลี่ยนมุมมองต่อปัญหาให้กลายเป็นเรื่องตลก เพื่อบรรเทาความตึงเครียดทางอารมณ์และส่งต่อสื่อสารกันเรื่อยมาจนเป็นไวรัล กระทั่งถูกมองว่าคนไทยมีความตลกอยู่ในสายเลือด และเกิดวลีเอาไว้แซวเล่นกัน อย่าง ‘คนไทยไปเรื่อย’ นั่นเอง

กระแส ‘อโยธยา’ กลับมาป๊อปอีกครั้ง เมื่อ ‘เว็บตูน’ ทำให้คนสนใจประวัติศาสตร์ไทยมากขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ในโลกออนไลน์มี...
29/01/2025

กระแส ‘อโยธยา’ กลับมาป๊อปอีกครั้ง เมื่อ ‘เว็บตูน’ ทำให้คนสนใจประวัติศาสตร์ไทยมากขึ้น
ในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ในโลกออนไลน์มีหลากหลายโพสต์ที่พูดถึงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์สมัยอโยธยาอยู่เนืองๆ ทำให้เกิดข้อสงสัยขึ้นมาว่าทำไมกระแสประวัติศาสตร์อโยธยาถึงกลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง?

อโยธยาเอยาวดี เป็นชื่อเรื่องของการ์ตูนสั้น bromance ย้อนยุคโดยมีแรงบันดาลจากประวัติศาสตร์สมัยอโยธยา ซึ่งปัจจุบันมียอดคนอ่านในเว็บ readAwrite มากถึง 1.85 ล้านคน

ผู้อ่านส่วนใหญ่รีวิวว่าชื่นชอบการ์ตูนเรื่องนี้มาก จนมีกระแสอื่นๆ ตามมา เช่น กระแสการแห่ซื้อน้ำหอมกลิ่นกุหลาบมอญและหยกพม่า

แม้นี่อาจดูเป็นเรื่องราวที่ดู ‘ไปเรื่อย’ แต่สิ่งเหล่านี้กลับสร้างกระแสประวัติศาสตร์อโยธยาได้สำเร็จอย่างน่าสนใจและยังสะท้อนถึงข้อจำกัดในการนำประวัติศาสตร์ไทยมาสร้างผลงานด้วย

ในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ในโลกออนไลน์มีหลากหลายโพสต์ที่พูดถึงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์สมัยอโยธยาอยู่เนืองๆ...

เรื่องตัวเองก็ไม่ใช่ แล้วทำไมเราถึงใส่ใจดราม่าคนดัง?ตอนแรกก็กะว่า รู้ไว้พอให้ทันข่าวบ้านข่าวเมืองเฉยๆ แต่ผ่านไปพักหนึ่ง ...
27/01/2025

เรื่องตัวเองก็ไม่ใช่ แล้วทำไมเราถึงใส่ใจดราม่าคนดัง?
ตอนแรกก็กะว่า รู้ไว้พอให้ทันข่าวบ้านข่าวเมืองเฉยๆ แต่ผ่านไปพักหนึ่ง ใครบอกอะไรเราก็ตามเก็บหมด จริงไม่จริงก็ขอฟังไว้เป็นข้อมูลก่อน กว่าจะรู้ตัวก็หมดไปครึ่งค่อนวันกับเรื่องของคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตัวเองเลย
มันมีอะไรอยู่ในดราม่าคนดัง ทำไมเราถึงหยุดตามข่าวสารประเภทนี้ไม่ได้? The MATTER ชวนเข้าใจกลไกสมองและมุมมองทางจิตวิทยาที่ช่วยอธิบายว่า ทำไมเราถึงใส่ใจข่าวหรือดราม่าของคนดังมากเป็นพิเศษ และมันส่งผลยังไงกับเรา พร้อมดูว่า ถ้าอยากลดนิสัยนี้ลง เราจะทำยังไงได้บ้าง

เรื่องของตัวเองไหมก็เปล่า แต่ทำไมเราถึงอินกับเรื่องของคนดังมากขนาดนี้นะ? ลำพังแค่เรื่องดราม่าของคนใกล้...

“สื่อต้องทำงานเลยไปก้าวสองก้าวมากกว่าสังคม แต่ตอนนี้สื่อทำงานเท่ากับสังคม สังคมเป็นอย่างไรสื่อเป็นแบบนั้น” นุ๊ก ผู้ประสา...
27/01/2025

“สื่อต้องทำงานเลยไปก้าวสองก้าวมากกว่าสังคม แต่ตอนนี้สื่อทำงานเท่ากับสังคม สังคมเป็นอย่างไรสื่อเป็นแบบนั้น” นุ๊ก ผู้ประสานงานและผู้ร่วมก่อตั้ง TransEqual
ปัจจุบันสื่อถูกนำเสนอในด้านเนื้อหาและช่องทางที่หลากหลาย แต่หนึ่งในความท้าทายในการเสนอประเด็นสิทธิความหลากหลายทางเพศกับสื่อมวลชนนั้นคือ ยังมีการนำเสนอภาพเหมารวม อคติ ตีตรา และผลิตซ้ำความเกลียดชัง
จนนำไปสู่การเลือกปฏิบัติและความรุนแรงอันมาจากความแตกต่างทางเพศ ซึ่งเป็นผลมาจากการขาดเครื่องมือและขาดพื้นที่สื่อ ในการสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างสื่อและผู้บริโภค
ดังนั้นแม้ว่าสังคมไทยจะยอมรับความหลากหลายทางเพศมากขึ้นแล้ว แต่ในปัจจุบันยังมีการรายงานข่าว ที่สร้างภาพจำที่ไม่ดีให้แก่คนกลุ่มนี้ เช่นกับผู้ที่เป็น ‘ทอม’ หรืออาจมีลักษณะที่เหมือนทอมในสายตาของสื่อ ด้วยการระบุว่าเป็น “ทอมโหด” “ทอมหึงแรง” “ทอมโรคจิต“ ผ่านการนำเสนอข่าว

ปัจจุบันสื่อถูกนำเสนอในด้านเนื้อหาและช่องทางที่หลากหลาย แต่หนึ่งในความท้าทายในการเสนอประเด็นสิทธิควา.....

ลงไทย ‘เพื่อนคู่ใจ’ ยุคดิจิทัล! สตรีมมิ่งทะลุ 3 ล้านยูสเซอร์ กวาดรายได้พุ่ง 16% ในปีเดียว คาดปี 2030 มูลค่าทะลุ 3 หมื่นล...
24/01/2025

ลงไทย ‘เพื่อนคู่ใจ’ ยุคดิจิทัล! สตรีมมิ่งทะลุ 3 ล้านยูสเซอร์ กวาดรายได้พุ่ง 16% ในปีเดียว คาดปี 2030 มูลค่าทะลุ 3 หมื่นล้านบาท
ยุคทองของวงการเพลงไทยกำลังมาถึง ด้วยพลังของดิจิทัลสตรีมมิ่งที่ผลักดันให้อุตสาหกรรมดนตรีเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยปี 2023 ตลาดเพลงไทยขยายตัวสูงถึง 16% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
และที่น่าตื่นเต้นไปกว่านั้นคือการคาดการณ์ว่าภายในปี 2030 มูลค่าตลาดรวมจะพุ่งทะยานสูงถึง 3 หมื่นล้านบาท โดยแรงขับเคลื่อนหลักมาจากดิจิทัลสตรีมมิ่งที่คิดเป็น 88% ของการเติบโตทั้งหมด
ความสำเร็จครั้งนี้มาจากแรงหนุนของผู้ใช้งานสตรีมมิ่งที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2023 มีผู้ใช้งานถึง 3 ล้านคน เติบโตขึ้น 26% จากปีก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยพร้อมจ่ายเงินเพื่อ ‘ประสบการณ์ดนตรีระดับพรีเมียม’ มากขึ้น

UPDATE: เพลงไทย ‘เพื่อนคู่ใจ’ ยุคดิจิทัล! สตรีมมิ่งทะลุ 3 ล้านยูสเซอร์ กวาดรายได้พุ่ง 16% ในปีเดียว คาดปี 2030 มูลค่าทะลุ 3 หมื่นล้านบาท
ยุคทองของวงการเพลงไทยกำลังมาถึง ด้วยพลังของดิจิทัลสตรีมมิ่งที่ผลักดันให้อุตสาหกรรมดนตรีเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยปี 2023 ตลาดเพลงไทยขยายตัวสูงถึง 16% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
และที่น่าตื่นเต้นไปกว่านั้นคือการคาดการณ์ว่าภายในปี 2030 มูลค่าตลาดรวมจะพุ่งทะยานสูงถึง 3 หมื่นล้านบาท โดยแรงขับเคลื่อนหลักมาจากดิจิทัลสตรีมมิ่งที่คิดเป็น 88% ของการเติบโตทั้งหมด
ความสำเร็จครั้งนี้มาจากแรงหนุนของผู้ใช้งานสตรีมมิ่งที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2023 มีผู้ใช้งานถึง 3 ล้านคน เติบโตขึ้น 26% จากปีก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยพร้อมจ่ายเงินเพื่อ ‘ประสบการณ์ดนตรีระดับพรีเมียม’ มากขึ้น
แม้ค่าสมาชิกจะปรับตัวสูงขึ้นจาก 99 บาท เป็น 179 บาทก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าราคายังมีโอกาสปรับขึ้นได้อีกถึง 3 เท่า หากเทียบกับตลาดที่พัฒนาแล้ว แต่ก็เป็นเรื่องที่ท้าทายเหมือนกันว่าคนไทยจะยอมจ่ายในราคาที่ก้าวกระโดดหรือไม่
ที่น่าสนใจไปกว่านั้น การศึกษาของ Luminate Music Consumption Study เผยข้อมูลที่น่าตื่นเต้น เมื่อพบว่าคนไทยใช้เวลากับการฟังเพลงมากถึง 75% แซงหน้าทั้งการเสพคลิปสั้นบนโซเชียล 60% และการเล่นโซเชียลมีเดีย 56% สะท้อนให้เห็นว่าเพลงคือ ‘สื่อทรงพลัง’ ที่ครองใจคนไทยอย่างแท้จริง
เมื่อลงลึกถึงพฤติกรรมการฟังเพลง พบว่ารูปแบบที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือการดู MV ที่ 87% ตามมาด้วยการฟังผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่ 68% และการรับชมคลิป MV สั้นผ่านโซเชียลมีเดียที่ 61% ที่น่าแปลกใจคือแม้จะอยู่ในยุคดิจิทัล การฟังเพลงผ่านวิทยุและแผ่นซีดียังคงได้รับความนิยมอยู่ในอันดับ 4 และ 5
สะท้อนให้เห็นว่าเพลงคือ ‘Evergreen Content’ ที่ไม่มีวันตาย ไม่ว่าจะฟังผ่านช่องทางไหน ในรูปแบบใด เพลงก็ยังคงมีเสน่ห์ให้ผู้คนกลับมาฟังซ้ำและดูซ้ำได้ไม่รู้เบื่อ
ความพิเศษของเพลงอยู่ที่การเป็น ‘เพื่อนคู่ใจ’ ที่อยู่เคียงข้างผู้ฟังในทุกช่วงอารมณ์ ไม่ว่าจะสุข เศร้า เหงา หรือสนุกสนาน ด้วยเนื้อหา ท่วงทำนอง และความทรงจำที่สร้าง ‘คุณค่าทางใจ’ ที่ไม่มีวันเลือนหาย แม้เวลาจะผ่านไปนานเพียงใด ยิ่งในยุคดิจิทัล การเข้าถึงเพลงผ่านสตรีมมิ่งแพลตฟอร์มที่ง่ายและสะดวก ยิ่งทำให้เพลงฮิตสามารถเข้าถึงผู้ฟังได้อย่างกว้างขวางและต่อเนื่อง
‘ขุมทรัพย์’ สำคัญที่ผลักดันการเติบโตนี้คือ Music IP หรือทรัพย์สินทางปัญญาด้านดนตรีที่เปรียบเสมือนเหมืองทองคำที่ไม่มีวันหมด โดยเฉพาะค่ายเพลงที่มี Large Scale of Content จะได้เปรียบในการสร้างรายได้แบบยั่งยืน ไม่ต้องพึ่งพาศิลปินเพียงคนเดียว การมีคลังเพลงขนาดใหญ่ยังช่วยให้เข้าถึงกลุ่มผู้ฟังได้หลากหลายและตอบโจทย์ความต้องการได้ครบทุกมิติ
ปรากฏการณ์ที่น่าจับตามองคือการกลับมาของ ‘เพลงอมตะ’ ที่ยังคงสร้างรายได้ข้ามยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็นศิลปินระดับตำนานอย่าง The Beatles, Mariah Carey, Michael Jackson หรือศิลปินไทยอย่าง เบิร์ด ธงไชย, Bodyslam และ ปาล์มมี่ เพลงของพวกเขายังคงได้รับความนิยมและถูกฟังซ้ำอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นว่าเพลงคือ Evergreen Content ที่มีคุณค่าทางใจเหนือกาลเวลา
จากการวิเคราะห์ของ MIDiA คาดการณ์ว่ายอด Subscription ของประเทศไทยจะเติบโตสูงถึง 4 เท่าใน 7 ปี (2023-2030) จาก 3.2% เป็น 11% และยังมีโอกาสเติบโตได้อีกเท่าตัวเมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่ม Emerging Market อย่างญี่ปุ่นและเกาหลีที่มียอด Subscription Pe*******on อยู่ที่ 25% หรือกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วอย่างสวีเดนและสหรัฐอเมริกาที่มีอัตราการเข้าถึงสูงถึง 45%
ด้วยพลังของเทคโนโลยีดิจิทัล ทั้งแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง โซเชียลมีเดีย และนวัตกรรมใหม่ๆ ไม่เพียงช่วยให้ศิลปินเข้าถึงแฟนเพลงได้ง่ายขึ้น แต่ยังสร้างโอกาสทางธุรกิจที่ไม่มีที่สิ้นสุด ตัวเลขและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปเหล่านี้ ตอกย้ำว่าอุตสาหกรรมเพลงไทยกำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ จากธุรกิจที่เคยถูกมองว่าถดถอย สู่อุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้มหาศาลในยุคดิจิทัล
ภาพ: GBJSTOCK / Shutterstock

TikTok เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของบริษัทเทคโนโลยีจีน ByteDance แอปดังกล่าวเป็นที่รู้จักในระดับโลกเพราะคลิปวิดีโ...
24/01/2025

TikTok เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของบริษัทเทคโนโลยีจีน ByteDance แอปดังกล่าวเป็นที่รู้จักในระดับโลกเพราะคลิปวิดีโอสั้นที่เราสามารถไถฟีดดูได้ไม่รู้จบ และคลิปไวรัลมากมายจากคนดังในโลกโซเชียล โดย TikTok มีผู้ใช้งานทั่วโลกถึงประมาณ 2 พันล้านคน เมื่อปี 2024

แต่แอปพลิเคชั่นที่ดูไม่มีพิษภัยและเต็มไปด้วยเนื้อหาสร้างความบันเทิงนี้ กลับถูกแบนในหลายประเทศทั่วโลก และล่าสุด TikTok ถูกแบนในสหรัฐอเมริกาไปชั่วคราวก่อนจะกลับมาให้ใช้บริการได้หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่อย่างเป็นทางการ

แม้นี่จะเป็นครั้งแรกที่สหรัฐฯ ประกาศแบน TikTok แต่หลายปีก่อน TikTok เคยถูกแบนมาแล้วในหลายประเทศด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป ทำให้หลายคนเกิดคำถามว่าแอปนี้มีปัญหาอะไรถึงถูกแบน

TikTok เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของบริษัทเทคโนโลยีจีน ByteDance แอปดังกล่าวเป็นที่รู้จักในระดับโลก แต่แอ.....

ซีรีส์วายไทยฮอตฮิต กลายเป็นคอนเทนต์ส่งออกไปในระดับโลกได้ ปัจจุบันมีชาวต่างชาติติดตามคอนเทนต์ซีรีส์วายจากไทยเพิ่มขึ้นเรื่...
24/01/2025

ซีรีส์วายไทยฮอตฮิต กลายเป็นคอนเทนต์ส่งออกไปในระดับโลกได้ ปัจจุบันมีชาวต่างชาติติดตามคอนเทนต์ซีรีส์วายจากไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศอย่างมีนัยสำคัญ
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไทยมีภาพยนตร์ ซีรีส์ และเรื่องสั้น Boy love / Girl love ที่ออกอากาศรวมแล้วมากกว่า 340 เรื่อง
สาเหตุหลักที่ทำให้ซีรีส์วายไทยได้รับความนิยมขนาดนี้ก็เป็นเพราะการแสดงออกถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครได้อย่างเปิดเผย จากวัฒนธรรมไทยที่ยอมรับความหลากหลายทางเพศและเปิดกว้างให้กับการแสดงออกถึงตัวตนของทุกเพศวัย
และการสร้างสรรค์ผลงานที่มีเนื้อเรื่องแปลกใหม่ โดยผู้ผลิตซีรีส์วายไทยได้สร้างสรรค์ผลงานที่แตกต่างและมีคุณภาพออกมาอย่างต่อเนื่องทั้งด้านเนื้อเรื่อง บทละคร และเทคนิคการถ่ายทำ จึงทำให้ซีรีส์วายไทยในทุกวันนี้มีตัวเลือกที่หลากหลายและน่าติดตามมากขึ้น

ซีรีส์วายไทยฮอตฮิต กลายเป็นคอนเทนต์ส่งออกไปในระดับโลกได้ ปัจจุบันมีชาวต่างชาติติดตามคอนเทนต์ซีรีส์วายจากไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศอย่างมีนัยสำคัญ
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไทยมีภาพยนตร์ ซีรีส์ และเรื่องสั้น Boy love / Girl love ที่ออกอากาศรวมแล้วมากกว่า 340 เรื่อง
สาเหตุหลักที่ทำให้ซีรีส์วายไทยได้รับความนิยมขนาดนี้ก็เป็นเพราะการแสดงออกถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครได้อย่างเปิดเผย จากวัฒนธรรมไทยที่ยอมรับความหลากหลายทางเพศและเปิดกว้างให้กับการแสดงออกถึงตัวตนของทุกเพศวัย
และการสร้างสรรค์ผลงานที่มีเนื้อเรื่องแปลกใหม่ โดยผู้ผลิตซีรีส์วายไทยได้สร้างสรรค์ผลงานที่แตกต่างและมีคุณภาพออกมาอย่างต่อเนื่องทั้งด้านเนื้อเรื่อง บทละคร และเทคนิคการถ่ายทำ จึงทำให้ซีรีส์วายไทยในทุกวันนี้มีตัวเลือกที่หลากหลายและน่าติดตามมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีความนิยมของสตรีมมิ่งแพลตฟอร์ม ทำให้ซีรีส์วายไทยเข้าถึงกลุ่มผู้ชมเป้าหมายในต่างประเทศได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ทำให้หลายเรื่องมีแฟนๆ ต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
TODAY Bizview พาไปดูมูลค่าทางเศรษฐกิจซีรีส์วายไทยกัน

Do Thais enjoy social media just for fun? Evolving social media trends and Thai digital citizenshipMedia Alert กองทุนพัฒ...
23/01/2025

Do Thais enjoy social media just for fun? Evolving social media trends and Thai digital citizenship
Media Alert กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ขอชวนอ่านบทวิเคราะห์ผลการสำรวจ “ความสนใจและการสื่อสารของคนไทยในโลกออนไลน์” ระหว่างปี 2565 ถึง 2567 (ครึ่งปีแรก) ที่สะท้อนให้เห็นถึงประเด็นและเนื้อหาที่คนไทยสนใจและสื่อสารในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งสอดรับกับปรากฎการณ์ทางสังคมที่เกิดขึ้นจริงในขณะนั้น

The online sensation that is “Moo Deng” the Pygmy Hippo and the hashtag #ไฟไหม้รถบัส ( ), around vehicle safety standards following an accident that killed over 20 primary school students, show the dynamics in the Thai social media – raises an important quest...

Online Disinhibition Effect: เมื่อโลกออนไลน์ทำให้คนเกรี้ยวกราด ไม่ยั้งคิดภาวะนิรนามที่แยกจากความเป็นจริง (Dissociative A...
23/01/2025

Online Disinhibition Effect: เมื่อโลกออนไลน์ทำให้คนเกรี้ยวกราด ไม่ยั้งคิด
ภาวะนิรนามที่แยกจากความเป็นจริง (Dissociative Anonymity) หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้คนขาดความยับยั้งชั่งใจในโลกออนไลน์

‘นิรนาม’ (Anonymous) หมายถึง ไม่มีชื่อ หรืออย่างน้อยก็ไม่ได้ใช้ชื่อจริง แม้ว่าตอนสมัครโซเชียลมีเดียจะมีช่องให้กรอกชื่อจริงและนามสกุล แต่หลายคนก็เลือกที่ใช้นามแฝงหรือชื่อปลอมเพื่อปกปิดตัวตน ด้วยพฤติกรรมของผู้ใช้ในลักษณะนี้ทำให้โลกออนไลน์ตกอยู่ใน ‘ภาวะนิรนาม’ (Anonymity) เป็นส่วนใหญ่

ภาวะนิรนามทำให้คนกล้าทำสิ่งที่ไม่เคยทำในโลกจริง เนื่องจากคิดว่าคงไม่มีใครจับได้ว่าตัวเองเป็นคนทำ พูดง่ายๆ ก็คือ ภาวะนิรนามทำให้คนทำอะไรไม่ยั้งคิดมากขึ้น บางคนแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวระรานคนอื่น ทั้งๆ ที่ในโลกจริงไม่เคยทำพฤติกรรมเช่นนั้น

นอกจากนี้ คนที่มีพฤติกรรมในโลกออนไลน์ที่แตกต่างไปจากในโลกจริง เมื่อผ่านไปนานวันเข้าอาจประสบกับปัญหา ‘การแยกตัวจากความเป็นจริง’ (Dissociation)

กล่าวคือ ตัวตนในโลกจริงกับโลกออนไลน์แตกต่างกันมากจนเหมือนกลายเป็นคนละคน อีกทั้งยังเชื่อว่าพฤติกรรมในโลกออนไลน์ย่อมไม่เกี่ยวข้องกับตัวตนในโลกจริง ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาทางจิตใจและพฤติกรรมอื่นๆ ตามมาได้

‘โลกออนไลน์’ อาจทำให้คนหุนหันพลันแล่นมากขึ้น นักจิตวิทยาเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า ‘Online Disinhibition Effect’ หรือ ‘ปรากฏกา....

คิดไม่ตก แก้ไม่ออก ปรึกษาชาวเน็ตเมื่อผู้คนบนโลกออนไลน์กลายเป็นที่พึ่งพิงแรกที่หลายคนนึกถึงยามเผชิญปัญหาไม่ว่าจะน้อยหรือใ...
23/01/2025

คิดไม่ตก แก้ไม่ออก ปรึกษาชาวเน็ต
เมื่อผู้คนบนโลกออนไลน์กลายเป็นที่พึ่งพิงแรกที่หลายคนนึกถึงยามเผชิญปัญหาไม่ว่าจะน้อยหรือใหญ่แค่ไหนก็ตาม จนถ้อยคำ “ขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ…”กลายเป็นสิ่งที่เราพบเห็นได้แทบจะวันละหนึ่งครั้งเป็นอย่างน้อยบนไทม์ไลน์ที่สร้างโดยอัลกอริทึม

คำถามที่ถามใครไม่ได้ เก็บไว้ก็คิดมากจนไม่รู้จะหาทางออกยังไงดี เพราะบางทีก็เป็นเรื่องที่ไม่อยากให้คนใก....

คุณดูโทรทัศน์ครั้งสุดท้ายเมื่อไร? คลิปข่าวล่าสุดที่คุณได้ดู ดูจากช่องทางไหน?คำตอบของคำถามข้างต้น อาจเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำ...
22/01/2025

คุณดูโทรทัศน์ครั้งสุดท้ายเมื่อไร? คลิปข่าวล่าสุดที่คุณได้ดู ดูจากช่องทางไหน?
คำตอบของคำถามข้างต้น อาจเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ ‘ทีวีดิจิทัลไทย’ หลายช่องต้องเร่งปรับตัวอย่างหนักหน่วงในระยะหลัง โดยเฉพาะในปี พ.ศ. 2567 ที่ถือเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของธุรกิจทีวีไทย เมื่อเงินโฆษณา ‘รายได้หลัก’ เหลือไม่ถึงครึ่งของช่วงพีก ในขณะที่ใบอนุญาตจาก กสทช. จะหมดลงในอีก 5 ปีข้างหน้า
สื่อทีวีหลายเจ้า หันมาโฟกัสกับการทำคอนเทนต์ลงออนไลน์มากขึ้น - ในสนามแข่งที่วัดกันด้วยยอดวิว, ยอดเอ็นเกจเม้นต์
คำถามที่น่าสนใจก็คือ วิธีการเหล่านี้ จะทำให้สื่อทีวีเหล่านั้น ‘ไปรอด’ ในทางธุรกิจหรือไม่ และจะกระทบกับการรับรู้ข่าวสารของผู้ชมอย่างไรบ้าง ..ไปหาคำตอบพร้อม ๆ กัน
อ่านบทความ : เมื่อ “ทีวีดิจิทัล” เปลี่ยนสนามสู้ สู่ “ออนไลน์” คนดูจะได้หรือเสียอะไร https://www.thaimediafund.or.th/article-17012568/

ในยุคที่โซเชียลมีเดียผลิบาน โลกเสมือนจริงกลายเป็นสิ่งที่ผู้คนใช้เวลาอยู่ในนั้น นานพอๆ กับการใช้ชีวิตในโลกจริง ศัพท์คำว่า...
22/01/2025

ในยุคที่โซเชียลมีเดียผลิบาน โลกเสมือนจริงกลายเป็นสิ่งที่ผู้คนใช้เวลาอยู่ในนั้น นานพอๆ กับการใช้ชีวิตในโลกจริง ศัพท์คำว่า Echo Chamber จึงถูกนำมาใช้ในอีกบริบท เพื่ออธิบายถึงสถานการณ์ หรือปรากฏการณ์ที่ผู้คนอยู่ในพื้นที่ที่พบเจอแต่ความคิดเห็นคล้ายกัน เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ราวกับอยู่ในห้องที่ได้ยินแต่เสียงสะท้อนย้ำๆ ซ้ำๆ

และเมื่อบวกกับพฤติกรรมมนุษย์ ที่มีแนวโน้มจะเลือกเชื่อแต่ข้อมูล หรือหลักฐาน ที่สอดคล้องกับทัศนคติของตัวเอง ก็ยิ่งทำให้ผู้คนหลงติดอยู่ใน Echo Chamber โดยไม่รู้ตัว

ทั้งนี้ การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่พบเจอแต่ความคิดเห็นคล้ายคลึงกับของตัวเอง จะทำให้ผู้คนยิ่งปักใจเชื่อในทัศนคตินั้น จนถูกหล่อหลอมให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า ‘ความจงรักภักดีต่อเผ่าพันธุ์เดียวกัน’ และ การแบ่งขั้วทางการเมืองอย่างสุดโต่ง

สิ่งที่ตามมาก็คือ เสรีภาพทางวิชาการ ถูกคุกคามอย่างรุนแรง เพราะคนที่ติดอยู่ในห้องเสียงสะท้อน จะไม่สามารถรับฟัง หรือยอมรับทัศนคติที่แตกต่างจากตัวเอง ซึ่งเท่ากับว่า บรรยากาศแห่งการอภิปราย หรือถกเถียง เพื่อนำไปสู่การหาทางออกของปัญหา จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้

คำว่า Echo Chamber หรือห้องเสียงสะท้อน ถูกนำมาใช้เพื่ออธิบายถึงสถานการณ์ หรือปรากฏการณ์ที่ผู้คนอยู่ในพื้นที่ที.....

เปิดข้อมูลทิศทางสื่อไทย ปี 2568 คอนเทนต์-อินฟลูเอนเซอร์เฉพาะทางกำลังมาแรง ต่อยอดผลงานสู่กิจกรรมออฟไลน์ได้ "พอดแคสต์" สื่...
22/01/2025

เปิดข้อมูลทิศทางสื่อไทย ปี 2568 คอนเทนต์-อินฟลูเอนเซอร์เฉพาะทางกำลังมาแรง ต่อยอดผลงานสู่กิจกรรมออฟไลน์ได้ "พอดแคสต์" สื่อม้ามืด ได้รับความสนใจจากทั้งผู้ผลิตคอนเทนต์และผู้ฟัง ขณะที่โทรทัศน์ยังเจอความท้าทาย ทั้งจำนวนผู้ชมที่ลดลง และเม็ดเงินโฆษณาที่หดตัว

เปิดข้อมูลทิศทางสื่อไทย ปี 2568 คอนเทนต์-อินฟลูเอนเซอร์เฉพาะทางกำลังมาแรง ต่อยอดผลงานสู่กิจกรรมออฟไลน์ได้ "....

ทำไมแฟนคลับถึงคุกคามศิลปิน เข้าใจพฤติกรรม ‘ซาแซง’ ผ่านมุมมองงานวิจัย
21/01/2025

ทำไมแฟนคลับถึงคุกคามศิลปิน เข้าใจพฤติกรรม ‘ซาแซง’ ผ่านมุมมองงานวิจัย

คำว่า ‘ซาแซง’ กลับมาเป็นคีย์เวิร์ดบนโลกออนไลน์อีกครั้ง จากกรณีที่ แสตมป์ – อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข ออกมาเล่....

โบกมือลา! สหรัฐฯ เริ่มแบน TikTok แล้ว หลังไม่ขายกิจการให้ บ.สหรัฐฯกฎหมายสหรัฐฯ ที่สั่งแบน TikTok เริ่มมีผลแล้ววันนี้19 ม...
20/01/2025

โบกมือลา! สหรัฐฯ เริ่มแบน TikTok แล้ว หลังไม่ขายกิจการให้ บ.สหรัฐฯ
กฎหมายสหรัฐฯ ที่สั่งแบน TikTok เริ่มมีผลแล้ววันนี้
19 มกราคม 2025 เป็นวันแรกที่ TikTok จะต้องถูกแบนและโบกมือลาผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกา หลังผ่านเวลามาแล้วกว่า 9 เดือน นับจากมีคำสั่งศาลว่า ByteDance บริษัทแม่สัญชาติจีนของ TikTok จะต้องตัดสินใจขายกิจการในสหรัฐฯ ให้กับบริษัทสัญชาติสหรัฐฯ เพื่อให้ดำเนินงานต่อไปได้
การแบนนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากความกังวลของสภาฯ สหรัฐฯ ว่าข้อมูลของชาวสหรัฐฯ อาจรั่วไหลไปสู่รัฐบาลจีนได้ แม้ ByteDance จะยืนยันอย่างหนักแน่นมาตลอดว่าพวกเขาไม่มีทางทำแบบนั้นก็ตาม
หลังจากนี้ ที่โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) กำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี โดยจะเข้าพิธีสาบานตนในวันพรุ่งนี้ (20 มกราคม 2025) ทรัปม์จะมีเวลาได้อีก 90 วันตามกฎหมาย ที่จะยืดเวลาการแบนออกไปได้ แต่หากสุดท้าย TikTok ไม่ขายกิจการ ก็ต้องโดนแบนอยู่ดี
สิ่งที่น่าติดตามต่อไปหลังจากนี้ คือแนวทางนโยบายระหว่างสหรัฐอเมริกากับต่างประเทศ โดยเฉพาะกับคู่ขัดแย้งอย่างจีน ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป และ TikTok เองจะมีโอกาสได้กลับมาเฉิดฉายในสหรัฐฯ อีกครั้งหรือไม่

ต้นเรื่องมันเป็นอย่างไร ใครออกมาขยับเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วบ้าง The MATTER ชวนไปเข้าใจ และรอติดตามก่อนจะถึงเส้....

เทรนด์โซเชียลมีเดีย ปี 2568 พฤติกรรมคนไทยเปลี่ยนไปอย่างไร และคอนเทนต์แบบไหนที่น่าสนใจในยุคที่ใครก็เข้าถึงโลกโซเชียล ทั้ง...
16/01/2025

เทรนด์โซเชียลมีเดีย ปี 2568 พฤติกรรมคนไทยเปลี่ยนไปอย่างไร และคอนเทนต์แบบไหนที่น่าสนใจ
ในยุคที่ใครก็เข้าถึงโลกโซเชียล ทั้งสื่อ ความบันเทิง และความรู้ต่างๆ คนไทยเกือบ 100% คุ้นชินกับการใช้และยอมรับว่ามีบทบาทในชีวิตค่อนข้างมาก ดังนั้น การเติบโตของคอนเทนต์และอินฟลูเอนเซอร์ในแต่ละด้านถือเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายใหม่ที่ต้องทำความเข้าใจ

เทรนด์โซเชียลมีเดีย ปี 2568 พฤติกรรมคนไทยเปลี่ยนไปอย่างไร และคอนเทนต์แบบไหนที่น่าสนใจ
ในยุคที่ใครก็เข้าถึงโลกโซเชียล ทั้งสื่อ ความบันเทิง และความรู้ต่างๆ คนไทยเกือบ 100% คุ้นชินกับการใช้และยอมรับว่ามีบทบาทในชีวิตค่อนข้างมาก ดังนั้น การเติบโตของคอนเทนต์และอินฟลูเอนเซอร์ในแต่ละด้านถือเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายใหม่ที่ต้องทำความเข้าใจ
‘ดาต้าเซ็ต’ เป็นผู้ให้บริการด้านมีเดียอินเทลลิเจนซ์ ได้เผยแพร่รายงาน Thailand Media Landscape 2024-2025 เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในวงการสื่อและโซเชียลมีเดีย รวมไปถึงภาคธุรกิจ, พอดคาสต์ และอินฟลูเอนเซอร์
โดยได้อธิบายเพิ่มว่า ความนิยมของคนไทยที่ชอบเสพคอนเทนต์เฉพาะด้าน เช่น สัตว์เลี้ยง, อสังหาริมทรัพย์, การลงทุน, การพัฒนาตัวเอง ฯลฯ ล้วนทำให้เกิดเป็นโอกาสให้อินฟลูเอนเซอร์และคอนเทนต์ครีเอเตอร์ พัฒนาศักยภาพและต่อยอดผลงานได้
หากดูจากตัวเลขของ มูลค่าตลาดโฆษณาผ่านอินฟลูเอนเซอร์ ระหว่างปี 2567-2572 ถือว่ามูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลของ Statista ระบุว่า ปี 2567 มูลค่าตลาดโฆษณาเกือบ 69 ล้านดอลลาร์สหรัฐโดยในปี 2572 เพิ่มขึ้นมากถึง 112 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
[ คนไทยชอบช้อปปิ้งใน TikTok มากขึ้น ]
หลายๆ ปีย้อนหลังต้องยอมรับว่า Facebook ยังเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายที่คนไทยคุ้นเคยและนิยมซื้อ แต่นับตั้งแต่ที่ TikTok เริ่มปฎิวัติฟีเจอร์ใหม่ๆ ผันตัวเองเป็น E-marketplace มากขึ้น พร้อมทั้งสนับสนุนให้ครีเอเตอร์ที่มียอดติดตามเกิน 1,000 คนสามารถไลฟ์ได้ นั่นจึงทำให้วัฒนธรรมการไลฟ์และช้อปปิ้งในกลุ่มคนไทยเจนใหม่ๆ เกิดขึ้น
โดย Top 5 แพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ที่คนไทยเลือกใช้มากที่สุด ก็คือ
1. Shopee 75%
2. LAZADA 67%
3. TikTok 51%
4. Facebook 39%
5. LINE 24%
จากสถิติของ Priceza.com ระบุว่าในสัดส่วน 71% ของผู้ใช้ TikTok ตัดสินใจซื้อสินค้าทันทีในขณะที่กำลังดูคอนเทนต์
อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เรียกว่า ยังถูกจริตคนไทยในการใช้งาน เลือกดูคอนเทนต์ต่างๆ กลับเป็น Facebook มาเป็นอันดับ 1 ประมาณ 33.4% ตามด้วย TikTok ราว 28.5% และ LINE ประมาณ 14.4%
[ พอดคาสต์-วิดีโอพอดคาสต์ ม้ามืดมาแรง ]
มีข้อมูลเดือนสิงหาคม 2567 ของแอปสตรีมมิงชื่อดัง Spotify เผยว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาจนถึงปี 2567 จำนวนการผลิตรายการพอดคาสต์ในประเทศไทยเติบโตขึ้นถึง 81% สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจอย่างมากจากทั้งผู้ผลิตคอนเทนต์และผู้ฟัง
ส่วนหนึ่งเพราะว่า เป็นสื่อต้นทุนต่ำ ผลิตได้ง่ายและเร็ว อีกทั้งยังสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคนี้ที่เลือกฟังรายการที่ตนเองชื่นชอบ ฟังไปด้วย ทำกิจกรรมอื่นไปด้วย เป็นต้น
โดย 4 ประเภทคอนเทนต์บนพอดคาสต์ที่จะมาแรงในปี 2568 ได้แก่
1. ข่าวทั่วไป และข่าวเชิงลึก แนววิเคราะห์
2. แนวทางการพัฒนาตัวเอง เพิ่มศักยภาพตัวเอง
3. สุขภาพ how to ต่างๆ ที่ทำให้ตัวเองสุขภาพกาย และใจดีขึ้น
4. สังคมสูงวัย เช่น วิธีการรับมือ
สิ่งที่น่ากังวลในแง่ของผู้ผลิต และธุรกิจที่เกี่ยวข้องก็คือ เรตติ้งการรับชมทีวีผ่านสตรีมมิ่งเพิ่มขึ้นเป็น 54% แซงหน้าการรับชมผ่านทีวีดั้งเดิมที่ลดลงเหลือ 46% ภายในระยะเวลาแค่ 1 ปี (ปี 2566-2567) ขณะที่เม็ดเงินโฆษณาทีวี ถึงแม้ว่าในตอนนี้ยังครองสัดส่วนสูงสุดที่ 50.13% ของงบโฆษณาสื่อทั้งหมด แต่ก็หดตัวลง 2% และมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ

ที่อยู่

Bangkok
10400

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Media Alertผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Media Alert:

วิดีโอทั้งหมด

แชร์

ประเภท