Media Alert MEDIA ALERT สะท้อนสื่อ สะท้อนสังคม
(8)

Media Alert เป็นโครงการภายใต้แผนการทำงานของสำนักงานกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ที่มีภารกิจในการนำเสนอผลการศึกษาวิเคราะห์สภาพการณ์สื่อและพฤติกรรมการเปิดรับและการใช้สื่อของสังคม โดยมุ่งหวังสร้างเสริมวัฒนธรรมการคิดวิเคราะห์ในการสื่อสาร การเปิดรับ และการใช้สื่อ เพื่อส่งเสริมนิเวศสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์

นับถอยหลัง 10 วัน...เชิญชวนอาจารย์ นิสิต-นักศึกษา และสื่อมวลชนส่งบทความเพื่อนำเสนองานประชุมวิชาการ TMF Journal วารสารกอง...
07/11/2024

นับถอยหลัง 10 วัน...
เชิญชวนอาจารย์ นิสิต-นักศึกษา และสื่อมวลชนส่งบทความเพื่อนำเสนองานประชุมวิชาการ TMF Journal วารสารกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ประจำปี 2567
ในหัวข้อ "สื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์เพื่อการขับเคลื่อนสังคม"

📅 วันที่ 1 ธันวาคม 2567
📍 ณ โรงแรม ทีเค. พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ

ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
รูปแบบการนำเสนอ: Onsite, Online, และ Poster
สมัครและส่งบทความตั้งแต่วันนี้ - 15 พฤศจิกายน 2567
ได้ที่ https://tmfjournal-conference2024.com

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
📞 โทร : 062-156-2415 , 095-369-6299
📧 Email : [email protected]

นับถอยหลัง 10 วัน...
เชิญชวนอาจารย์ นิสิต-นักศึกษา และสื่อมวลชนส่งบทความเพื่อนำเสนองานประชุมวิชาการ TMF Journal วารสารกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ประจำปี 2567
ในหัวข้อ "สื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์เพื่อการขับเคลื่อนสังคม"

📅 วันที่ 1 ธันวาคม 2567
📍 ณ โรงแรม ทีเค. พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ

ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
รูปแบบการนำเสนอ: Onsite, Online, และ Poster
สมัครและส่งบทความตั้งแต่วันนี้ - 15 พฤศจิกายน 2567
ได้ที่ https://tmfjournal-conference2024.com

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
📞 โทร : 062-156-2415 , 095-369-6299
📧 Email : [email protected]

จากยุค 90s สู่ T-Pop กับการก้าวกระโดดของวงการเพลงไทยบนเวทีโลก เกิดอะไรขึ้นกับวงการเพลง อะไรคือสิ่งที่ผลักดันให้เกิดการเป...
07/11/2024

จากยุค 90s สู่ T-Pop กับการก้าวกระโดดของวงการเพลงไทยบนเวทีโลก

เกิดอะไรขึ้นกับวงการเพลง อะไรคือสิ่งที่ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง มาร่วมถอดรหัสความสำเร็จและการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้กัน

หากย้อนเข็มนาฬิกากลับไปเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว คงต้องบอกว่า วงการเพลงไทยเป็นอีกหนึ่งวงการเพลงที่ได้รับการจับตามองจากทั่วทวีปเอเชีย และช่วงเวลาใน ยุค 90s คืออีกหนึ่งยุคทองของเพลงไทย ในช่วงเวลานั้น เป็นจุดเริ่มต้นของการกำเนิดศิลปินที่มีพรสวรรค์มากมายจนนำไปสู่ปรากฏการณ์ที่น่าจดจำของวงการเพลงป๊อปไทย

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ช่วงเวลานั้น ศิลปินไทยที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศยังมีจำนวนไม่มากเท่าไรนัก ซึ่งถือว่าแตกต่างและตรงกันข้ามกับจากยุคปัจจุบันที่โลกของดนตรีเปิดกว้างและไร้พรมแดน ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะโลกออนไลน์และอินเตอร์เน็ตที่ทำให้ศิลปะและงานสร้างสรรค์จากทุกๆประเทศใกล้ชิดกันมากขึ้น

จากยุค 90s สู่ T-Pop กับการก้าวกระโดดของวงการเพลงไทยบนเวทีโลก เกิดอะไรขึ้นกับวงการเพลง อะไรคือสิ่งที่ผลักดันใ....

“ #ดิไอคอนกรุ๊ป”  แซง “ #หมูเด้ง”  ขึ้นเป็นประเด็นอันดับ 1 ที่โลกออนไลน์สนใจและสื่อสารมากที่สุดในเดือนตุลาคม 67 🔔 Media ...
06/11/2024

“ #ดิไอคอนกรุ๊ป” แซง “ #หมูเด้ง” ขึ้นเป็นประเด็นอันดับ 1 ที่โลกออนไลน์สนใจและสื่อสารมากที่สุดในเดือนตุลาคม 67
🔔 Media Alert กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่วมกับ Wisesight สำรวจ 10 อันดับประเด็นการสื่อสารออนไลน์ของสังคมไทย ระหว่างวันที่ 1-31 ตุลาคม 2567 จาก 5 แพลตฟอร์ม ได้แก่ 1) Facebook 2) X 3) Instagram 4) YouTube และ 5) TikTok
ติดตามอ่านผลการศึกษาและบทวิเคราะห์เพิ่มเติมได้เร็ว ๆ นี้
#สะท้อนสื่อสะท้อนสังคม
#กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ #สื่อสร้างสรรค์เพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม

เปิดเบื้องหลังการปั้นตัวตน Influencer สาย “เล่าข่าว” เมื่อโซเซียลมีเดีย เปลี่ยนเกมสื่อสาร!อุตสาหกรรมสื่อสารมวลชนในยุคปัจ...
06/11/2024

เปิดเบื้องหลังการปั้นตัวตน Influencer สาย “เล่าข่าว” เมื่อโซเซียลมีเดีย เปลี่ยนเกมสื่อสาร!
อุตสาหกรรมสื่อสารมวลชนในยุคปัจจุบันต้องปรับตัวอย่างหนัก เพื่อตามทันกระแสเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังต้องเผชิญหน้ากับการเติบโตของ Influencer ซึ่งมีอิทธิพลสูงบนโลกออนไลน์ และผู้บริโภคหันมาติดตามข้อมูลข่าวสารจากInfluencer มากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้คาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดของ Content Creator และ Influencer ในประเทศไทยในปี 2567 จะสูงถึง 45,000 ล้านบาท ซึ่งแน่นอนว่า หนึ่งในกลุ่มที่น่าจับตามองคือ Influencer สาย "เล่าข่าว"

รายงานพิเศษ โดยทีมข่าวจุลสารราชดำเนินฯ อุตสาหกรรมสื่อสา […]

TikTok นำโด่ง วัยรุ่นยุคนี้เอาไว้เสพข่าวไหนๆ TikTok ก็มีท่าเต้นแบบ Gen Z แล้ว ถ้าให้เป็นแหล่งข่าวชั้นนำของคนรุ่นใหม่ด้วย...
05/11/2024

TikTok นำโด่ง วัยรุ่นยุคนี้เอาไว้เสพข่าว
ไหนๆ TikTok ก็มีท่าเต้นแบบ Gen Z แล้ว ถ้าให้เป็นแหล่งข่าวชั้นนำของคนรุ่นใหม่ด้วยจะเป็นไรไป?
ในปี 2024 39% ของชาวอเมริกันวัย 18-29 ปี เผยว่าใช้ TikTok เป็นแพลตฟอร์มในการรับข่าวสารประจำ ในขณะที่สัดส่วนของวัยอื่นๆ คือ
- 30-49 ปี: 19%
- 50-64 ปี: 9%
- 65 ปีขึ้นไป: 3%
นับตั้งแต่ปี 2020 TikTok จากแพลตฟอร์มวิดีโอธรรมดาๆ ก็ได้กลายเป็นแหล่งข่าวยอดฮิต โดยมีสัดส่วนการเสพข่าวเพิ่มขึ้นจาก 4 ปีที่แล้วกว่า 5 เท่า

39% ของชาวอเมริกันวัย 18-29 ปี เผยว่าใช้ TikTok เป็นแพลตฟอร์มในการรับข่าวสารประจำ ส่วนประเทศไทย แพลตฟอร์มที่พวกเรา.....

‘Manifinsta’ การเจอกันของจิตวิญญาณและเทคโนโลยี ที่เปลี่ยนหน้าโซเชียลฯ เป็นพื้นที่ ‘อธิษฐาน’ความเชื่อทางจิตวิญญาณและโซเชี...
05/11/2024

‘Manifinsta’ การเจอกันของจิตวิญญาณและเทคโนโลยี ที่เปลี่ยนหน้าโซเชียลฯ เป็นพื้นที่ ‘อธิษฐาน’
ความเชื่อทางจิตวิญญาณและโซเชียลมีเดียมาบรรจบกันที่เทรนด์ 'Manifinsta' การใช้โซเชียลมีเดียอธิษฐานเป้าหมายในอนาคต ด้วยความเชื่อว่าเราจะไปถึงเป้าหมายนั้นได้ใจริง

ความเชื่อทางจิตวิญญาณและโซเชียลมีเดียมาบรรจบกันที่เทรนด์ 'Manifinsta' การใช้โซเชียลมีเดียอธิษฐานเป้าหมายในอนา....

เคยสงสัยไหม ทำไมผู้หญิงชอบเสพสื่อชายรักชาย?หากจะกล่าวว่า ช่วงหลายปีให้หลังมานี้เป็นยุครุ่งเรืองของสื่อชายรักชายคงไม่ผิดน...
05/11/2024

เคยสงสัยไหม ทำไมผู้หญิงชอบเสพสื่อชายรักชาย?
หากจะกล่าวว่า ช่วงหลายปีให้หลังมานี้เป็นยุครุ่งเรืองของสื่อชายรักชายคงไม่ผิดนัก ไม่ใช่แค่ในประเทศไทย แต่พื้นที่อื่นๆ อย่างญี่ปุ่น เกาหลี จีน ไต้หวัน ฯลฯ ก็ผลิตนิยาย การ์ตูน และซีรีส์ชายรักชายออกมามากมาย แม้กระทั่งเว็บไซต์อ่านแฟนฟิกชันที่ดังที่สุดในโลกอย่าง Archive of Our Own (AO3) ยังมีสถิติออกมาว่า จาก 100 อันดับคู่ชิปที่มีแฟนฟิกชันมากที่สุด เป็นคู่ชิปชาย-ชายไปแล้วถึง 64 คู่
อย่างที่เรารู้กันดี กลุ่มลูกค้าหลักของสื่อชายรักชายเป็นผู้หญิงมาตลอด ข้อมูลปี 2001 ระบุว่า ผู้อ่านการ์ตูนชายรักชายในไทยเป็นผู้หญิงมากถึง 80% ในปี 2005 ผู้เข้าร่วมงาน Yaoi-Con ในแคลิฟอร์เนียเป็นผู้หญิงกว่า 85% และในปี 2020 ผู้ชมซีรีส์ Boys’ Love (BL) ของไทยเป็นผู้หญิง 78%
ด้วยสถิติที่ล้นหลามขนาดนี้ทำให้เกิดคำถามว่า เพราะอะไรสื่อชายรักชายถึงดึงดูดผู้หญิงเหลือเกิน?

หากจะกล่าวว่า ช่วงหลายปีให้หลังมานี้เป็นยุครุ่งเรืองของสื่อชายรักชายคงไม่ผิดนัก ไม่ใช่แค่ในประเทศไทย แ...

‘เฮ้ย! ไปดูคอนเสิร์ตอีกแล้วเหรอ’ Collective Effervescence กับจิตวิทยาว่าด้วยความหลงใหลของเพื่อนรักนักจองตั๋วคอนฯ
04/11/2024

‘เฮ้ย! ไปดูคอนเสิร์ตอีกแล้วเหรอ’ Collective Effervescence กับจิตวิทยาว่าด้วยความหลงใหลของเพื่อนรักนักจองตั๋วคอนฯ

ไม่ว่าคุณจะไปดูคอนเสิร์ตคนเดียวหรือกี่คนก็ตาม ‘คุณไม่ได้อยู่คนเดียว’ เพราะประสบการณ์ทางอารมณ์ที่เกิดข....

ไม่โป๊ได้ไหมเพ่ ! วัยรุ่น Gen Z และ Alpha ไม่ปลื้มฉากเซ็กซ์ในหนังและซีรีส์ในขณะที่หนังและซีรีส์ในปัจจุบันต่างนำเสนอฉากเป...
04/11/2024

ไม่โป๊ได้ไหมเพ่ ! วัยรุ่น Gen Z และ Alpha ไม่ปลื้มฉากเซ็กซ์ในหนังและซีรีส์

ในขณะที่หนังและซีรีส์ในปัจจุบันต่างนำเสนอฉากเปลือยกายและเซ็กซ์กันโครมคราม ทั้งซีรีส์อย่าง ‘Game of Thrones’, ‘Babygirl’ หรือแม้แต่หนังเข้าชิงออสการ์อย่าง ‘Poor Things’ แต่จากการศึกษาล่าสุดอ้างอิงจากผลการศึกษาเรื่อง ‘Teens & Screens’ ของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียที่เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง 1,500 คนในช่วงอายุ 10-24 ปี กลับพบว่าเหล่าบรรดาผู้ชมรุ่นเยาว์คาดหวังกับการแสดงที่เหมาะสมกับบทบาทและการนำเสนอความสัมพันธ์ที่เรียบง่ายในสื่อบันเทิงมากกว่าเรื่องเซ็กซ์และฉากเปลือยกาย

เมื่อแบ่งการศึกษาในแต่ละประเด็นเราจะพบความน่าสนใจในเชิงของคอนเทนต์ที่โดนใจบรรดาวัยรุ่น โดย 63.5% จากกลุ่มตัวอย่างชอบเรื่องราวเกี่ยวกับการสร้างมิตรภาพและความสัมพันธ์ และ 62.4% ของกลุ่มตัวอย่างยังระบุด้วยว่าคอนเทนต์ที่เน้นเรื่องเซ็กซ์โจ๋งครึ่มไม่ได้มีความจำเป็นต่อการเล่าเรื่องเลยแม้แต่น้อย เมื่อเทียบกับผลการสำรวจเมื่อปีก่อน ๆ ถือว่าอัตราส่วนเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด โดยก่อนหน้านี้ผลสำรวจระบุว่า 51.5% ของกลุ่มตัวอย่างอยากเห็นเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่เรียบง่าย และ 47.5% ระบุว่าพวกเขาไม่สนใจคอนเทนต์ที่เอาเซ็กซ์มาเป็นจุดขายของเนื้อเรื่อง แต่กระนั้นก็ต้องหมายเหตุไว้หน่อยว่าผลสำรวจไม่ได้แสดงถึงความคิดเห็นของกลุ่มวัยรุ่นอายุ 10-13 ปี ในด้านมุมมองต่อคอนเทนต์ที่เอาเรื่องเพศเป็นจุดขายหลักแต่อย่างใด

เอลิชา เจ ไฮนส์ (Alisha J. Hines) ผอ. ศูนย์วิจัยของ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียยังกล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อเทียบผลการสำรวจกับปีที่แล้วจะเริ่มเห็นเทรนด์ของเนื้อหาในสื่อบันเทิงที่วัยรุ่นต้องการที่จะเห็นเรื่องราวความสัมพันธ์ในหลากมิติที่สมจริงและเหมาะสม มากกว่าเรื่องราวโรแมนติกร้อนแรงที่ล้าสมัยที่พวกเขาไม่เคยรู้สึกเชื่อมโยงถึงชีวิตตัวเองแม้แต่น้อย

ไม่โป๊ได้ไหมเพ่ ! วัยรุ่น Gen Z และ Alpha ไม่ปลื้มฉากเซ็กซ์ในหนังและซีรีส์

ในขณะที่หนังและซีรีส์ในปัจจุบันต่างนำเสนอฉากเปลือยกายและเซ็กซ์กันโครมคราม ทั้งซีรีส์อย่าง ‘Game of Thrones’, ‘Babygirl’ หรือแม้แต่หนังเข้าชิงออสการ์อย่าง ‘Poor Things’ แต่จากการศึกษาล่าสุดอ้างอิงจากผลการศึกษาเรื่อง ‘Teens & Screens’ ของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียที่เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง 1,500 คนในช่วงอายุ 10-24 ปี กลับพบว่าเหล่าบรรดาผู้ชมรุ่นเยาว์คาดหวังกับการแสดงที่เหมาะสมกับบทบาทและการนำเสนอความสัมพันธ์ที่เรียบง่ายในสื่อบันเทิงมากกว่าเรื่องเซ็กซ์และฉากเปลือยกาย

เมื่อแบ่งการศึกษาในแต่ละประเด็นเราจะพบความน่าสนใจในเชิงของคอนเทนต์ที่โดนใจบรรดาวัยรุ่น โดย 63.5% จากกลุ่มตัวอย่างชอบเรื่องราวเกี่ยวกับการสร้างมิตรภาพและความสัมพันธ์ และ 62.4% ของกลุ่มตัวอย่างยังระบุด้วยว่าคอนเทนต์ที่เน้นเรื่องเซ็กซ์โจ๋งครึ่มไม่ได้มีความจำเป็นต่อการเล่าเรื่องเลยแม้แต่น้อย เมื่อเทียบกับผลการสำรวจเมื่อปีก่อน ๆ ถือว่าอัตราส่วนเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด โดยก่อนหน้านี้ผลสำรวจระบุว่า 51.5% ของกลุ่มตัวอย่างอยากเห็นเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่เรียบง่าย และ 47.5% ระบุว่าพวกเขาไม่สนใจคอนเทนต์ที่เอาเซ็กซ์มาเป็นจุดขายของเนื้อเรื่อง แต่กระนั้นก็ต้องหมายเหตุไว้หน่อยว่าผลสำรวจไม่ได้แสดงถึงความคิดเห็นของกลุ่มวัยรุ่นอายุ 10-13 ปี ในด้านมุมมองต่อคอนเทนต์ที่เอาเรื่องเพศเป็นจุดขายหลักแต่อย่างใด

เอลิชา เจ ไฮนส์ (Alisha J. Hines) ผอ. ศูนย์วิจัยของ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียยังกล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อเทียบผลการสำรวจกับปีที่แล้วจะเริ่มเห็นเทรนด์ของเนื้อหาในสื่อบันเทิงที่วัยรุ่นต้องการที่จะเห็นเรื่องราวความสัมพันธ์ในหลากมิติที่สมจริงและเหมาะสม มากกว่าเรื่องราวโรแมนติกร้อนแรงที่ล้าสมัยที่พวกเขาไม่เคยรู้สึกเชื่อมโยงถึงชีวิตตัวเองแม้แต่น้อย

นอกจากนี้ใน 36.2% ของกลุ่มตัวอย่างยังระบุอีกว่าชอบเนื้อหาที่ดำเนินเรื่องในโลกแฟนตาซีมากกว่าเรื่องราวของกลุ่มคนดังและร่ำรวยหรือประสบความสำเร็จ (ซึ่งมีเพียง 7.2% ของกลุ่มตัวอย่างเท่านั้นที่ชื่นชอบ) ในขณะที่กลุ่มตัวอย่างเพียง 13.9% ชื่นชอบเรื่องราวที่สร้างจากเหตุการณ์จริง, 24.2 % สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับปัญหาชีวิตของมนุษย์ และอีก 3.3% ที่ชอบดูหนังในตระกูลอื่นที่หลากหลาย และเมื่อดูผลสำรวจพฤติกรรมการเสพสื่อบันเทิงก็พบว่า 39.2% ชื่นชอบการเล่นวิดีโอเกม ในขณะที่ 33.3% ยังคงดูทีวีและไปโรงหนัง ส่วนอีก 27.5% ก็กลายเป็น ‘ชาวไถ’ แต่เป็นไถหน้าจอเล่นโซเชียลมีเดีย

และในส่วนของผลการสำรวจแพลตฟอร์มของสื่อดิจิทัล (Digital Media) ก็พบว่า 38.8% ของกลุ่มตัวอย่างคิดว่า YouTube คือแพลตฟอร์มบันเทิงที่ได้ใจเหล่าวัยรุ่นที่สุด ตามมาด้วย TikTok ที่ 36.3%, Instagram ที่ 28.3% ส่วนอีก 18.1% ชื่นชอบ X (ทวิตเตอร์)

ก่อนหน้านี้หนังอีโรติกอย่าง ‘Basic Instinct’ และ ‘Indecent Proposal’ อาจเคยสร้างตำนานหนังทำเงินบนบ็อกซ์ออฟฟิศ แต่หลังจากคืนวันหอมหวานของยุคหนังสุดร้อนแรงฉายโรงผ่านพ้นไป ในจอแก้วเองซีรีส์ที่สร้างในยุคหลังอย่าง ‘Game of Thrones’ หรือ ‘The Affair’ ก็มารับช่วงนำเสนอฉากเปลือยและเซ็กซ์ในระดับพ่อแม่ปิดตาลูกที่บ้านกันแทบไม่ทัน ฮอลลีวูดก็ดูจะลดการลงทุนกับเนื้อหาที่ล่อแหลมในหนังฉายโรงลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วงหลายเดือนและกลุ่มเป้าหมายก็กลายเป็นผู้ชมที่มีอายุมากซึ่งอาจช่วยเป็นเครื่องพิสูจน์อีกทางหนึ่งว่าผลการสำรวจน่าเชื่อถือเพียงใด

เรื่อง: มโน วนเวฬุสิต
ที่มา: Variety

เมื่อซีรีส์ยูริ ‘หญิงรักหญิง (Girl’s Love)’กลายเป็นเทรนด์ออนไลน์ที่น่าจับตามองและกำลังมาแรงคอนเทนต์บันเทิงโดยเฉพาะซีรีส์...
31/10/2024

เมื่อซีรีส์ยูริ ‘หญิงรักหญิง (Girl’s Love)’กลายเป็นเทรนด์ออนไลน์ที่น่าจับตามองและกำลังมาแรง
คอนเทนต์บันเทิงโดยเฉพาะซีรีส์ แนว #หญิงรักหญิง (Girl’s Love) ที่เรียกกันว่า หรือยูริ (Yuri) กำลังกลายเป็นจุดสปอร์ตไลต์ สปอตไลต์ ที่ได้รับความสนใจจากสังคมมากขึ้น เป็นที่น่าสังเกตและชวนตั้งคำถามต่อว่า ปรากฏการณ์ความฮิตของซีรีส์ยูรินั้นมีต้นสายมาจากจุดใด
สิ่งยืนยันว่า ซีรีส์ยูริ ได้กลายเป็นที่สนใจนั้นก็คือเทรนด์ในโลกออนไลน์ของไทย จากงานการสำรวจการสื่อสารออนไลน์ของสังคมไทยตลอดปี 2567 โดย Media Alert กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่วมกับ Wisesight พบว่า คอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับยูริ ติดเข้ามาใน Top 10 ประเด็นออนไลน์ที่ได้รับความสนใจมากที่สุด จากช่วงกลางปีนี้

• เดือน มิ.ย. 2567 มีคอนเทนต์แนวยูริติด Top 10 จำนวน 2 อันดับ ได้แก่

ซีรีส์ Club Friday The Series: Love Bully รักให้ร้าย (16,413,533 engagement) อยู่ในอันดับที่ 5 นำแสดงโดย ‘อิงฟ้า วราหะ’ และ ‘ชาล็อต ออสติน’ เนื้อหาเป็นการสะท้อนปัญหาการทำร้ายจิตใจกันในสื่อสังคมออนไลน์ ผ่านการนำเสนอเรื่องราวความรักของผู้หญิงสองคน

ซีรีส์ปิ่นภักดิ์ (14,629,797 engagement) อยู่ในอันดับที่ 7 เป็นซีรีส์ Girl’s Love แนวพีเรียด นำแสดงโดยนักแสดงสาว ‘ฟรีน-สโรชา จันทร์กิมฮะ’ และ ‘เบ็คกี้-รีเบคก้า แพทรีเซีย อาร์มสตรอง’

• เดือน ก.ค. 2567 มีคอนเทนต์แนวยูริติด Top 10 จำนวน 2 อันดับ ได้แก่

ซีรีส์ใจซ่อนรัก (24,669,345 engagement) อยู่ในอันดับที่ 3 นำแสดงโดย ‘หลิงหลิง-ศิริลักษณ์ คอง’ และ ‘ออม-กรณ์นภัส เศรษฐรัตนพงศ์’ เนื้อหาเล่าถึงแพทย์ผิวหนังผู้มีปมในใจจากการถูกหญิงสาวที่เธอรักหักอกจนชีวิตแทบพัง เธอพยายามอยู่นานกว่าจะกลับมามีชีวิตปกติได้ แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลกให้ทั้งคู่ต้องกลับมาเจอกันอีกครั้ง อยู่ในอันดับที่ 3

งานเปิดตัวภาพยนตร์ยูเรนัส 2324 (14,679,970 engagement) อยู่ในอันดับที่ 10 ภาพยนตร์ไซไฟอวกาศเรื่องแรกของไทยที่ผสมเรื่องราวโรแมนติกดราม่าระหว่างนักบินอวกาศหญิงไทยคนแรกกับหญิงสาวผู้มีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักกีฬาดำน้ำ นำแสดงโดยฟรีน-สโรชา และเบคกี้-รีเบคก้า

• เดือน ส.ค. 2567 ซีรีส์ใจซ่อนรัก ยังคงมีกระแสต่อเนื่อง ได้ 21,045,173 engagement อยู่ในอันดับที่ 9

• เดือน ก.ย. 2567 ซีรีส์ปิ่นภักดิ์ กลับขึ้นมาติดอันดับอีกครั้ง ได้ 14,264,331 engagement โดยครั้งนี้อยู่ในอันดับที่ 4

สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องบ่งบอกว่าในโลกออนไลน์ไทยมีการพูดถึง ‘ซีรีส์ยูริ’ มากขึ้น และการรับรู้ถึงคำ ๆ นี้มีมากขึ้นและชัดเจนขึ้น

ปรากฏการณ์นี้มีที่มาที่ไปอย่างไร และทิศทางต่อไปข้างหน้าจะเป็นอย่างไร มาร่วมกันหาความหมายที่แท้จริงของซีรีส์ยูริ พร้อมเหตุผลเบื้องหลังว่า เหตุใดคอนเทนต์แนว ‘หญิงรักหญิง’ จึงกลายเป็นที่นิยมมากขึ้นในสังคมไทย
อ่านบทความ เมื่อซีรีส์ยูริ “หญิงรักหญิง (Girl’s Love)” กลายเป็นเทรนด์ออนไลน์ที่น่าจับตามอง และกำลังมาแรง : https://www.thaimediafund.or.th/article-30102024/
#สะท้อนสื่อสะท้อนสังคม
#กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ #สื่อสร้างสรรค์เพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม

ทำไมแฟนคลับศิลปินต่างชาติถึงยังเป็นได้แค่ “คนนอก” ในมุมมองของค่ายเพลงเกาหลีใต้ ?  “ฮง ซึงฮัน” สมาชิกวง “RIIZE” กลายเป็นห...
31/10/2024

ทำไมแฟนคลับศิลปินต่างชาติถึงยังเป็นได้แค่ “คนนอก” ในมุมมองของค่ายเพลงเกาหลีใต้ ?
“ฮง ซึงฮัน” สมาชิกวง “RIIZE” กลายเป็นหนึ่งในประเด็นที่ได้รับความสนใจในวงการ K-POP ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากต้องมาประกาศลาออกอย่างเป็นทางการจากกรณีที่เขามีพฤติกรรมไม่เหมาะสมและขัดต่อภาพลักษณ์ความเป็น “ไอดอลที่ดี” ของกลุ่มแฟนคลับ เช่น มีภาพหลุดกับแฟนสาว
แม้ว่าก่อนหน้านี้ซึงฮันจะถูกพักงานไปแล้วและกำลังจะกลับมาร่วมวงอีกครั้ง แต่ทางค่ายก็ถูกกดดันจากแฟนคลับที่ไม่พอใจต่อซึงฮัน แฟนคลับบางคนได้นำพวงหรีดไว้อาลัยพร้อมด้วยข้อความที่แสดงความเกลียดชังที่มีต่อซึงฮัน ไปวางไว้บริเวณหน้าบริษัท SM Entertainment ค่ายสังกัดของวง RIIZE เพื่อแสดงออกถึงจุดยืนที่ต่อต้านการกลับมาร่วมวงของซึงฮัน
ซึ่งเหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงปัญหาเรื้อรังที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรม K-POP ตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาในเรื่องการบริหารจัดการของบริษัทฯ ในช่วงวิกฤติที่ขาดประสิทธิภาพ ปัญหาการดูแลสวัสดิภาพของศิลปิน รวมถึงทัศนคติของกลุ่มแฟนคลับไอดอลที่ทำตัวเป็นเหมือนเจ้าของชีวิตของศิลปิน

ทำไมแฟนคลับศิลปินต่างชาติถึงยังเป็นได้แค่ “คนนอก” ในมุมมองของค่ายเพลงเกาหลีใต้ ?
“ฮง ซึงฮัน” สมาชิกวง “RIIZE” กลายเป็นหนึ่งในประเด็นที่ได้รับความสนใจในวงการ K-POP ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากต้องมาประกาศลาออกอย่างเป็นทางการจากกรณีที่เขามีพฤติกรรมไม่เหมาะสมและขัดต่อภาพลักษณ์ความเป็น “ไอดอลที่ดี” ของกลุ่มแฟนคลับ เช่น มีภาพหลุดกับแฟนสาว
แม้ว่าก่อนหน้านี้ซึงฮันจะถูกพักงานไปแล้วและกำลังจะกลับมาร่วมวงอีกครั้ง แต่ทางค่ายก็ถูกกดดันจากแฟนคลับที่ไม่พอใจต่อซึงฮัน แฟนคลับบางคนได้นำพวงหรีดไว้อาลัยพร้อมด้วยข้อความที่แสดงความเกลียดชังที่มีต่อซึงฮัน ไปวางไว้บริเวณหน้าบริษัท SM Entertainment ค่ายสังกัดของวง RIIZE เพื่อแสดงออกถึงจุดยืนที่ต่อต้านการกลับมาร่วมวงของซึงฮัน
ซึ่งเหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงปัญหาเรื้อรังที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรม K-POP ตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาในเรื่องการบริหารจัดการของบริษัทฯ ในช่วงวิกฤติที่ขาดประสิทธิภาพ ปัญหาการดูแลสวัสดิภาพของศิลปิน รวมถึงทัศนคติของกลุ่มแฟนคลับไอดอลที่ทำตัวเป็นเหมือนเจ้าของชีวิตของศิลปิน
การบริหารจัดการของบริษัทฯ เป็นปัญหาอย่างไร ? พฤติกรรมของแฟนคลับไอดอลที่ทำตัวเป็นเหมือนเจ้าของชีวิตของศิลปินเป็นอย่างไร ? ติดตามได้ในบทคิดด้วยพลเมือง ตอน “ ส่องวิกฤติบริษัทที่ว่าด้วยศรัทธาสาธารณะ และภาพมายาความเป็นเจ้าของชีวิต ‘ไอดอล’ ของแฟนคลับ” :
https://www.naewna.com/politic/columnist/60735
เรื่อง : เจษฎา จงสิริจตุพร
แค็ปชัน/ภาพ : Khana Research Curator
ที่มาภาพ :
https://bit.ly/4fkFC6K
https://bit.ly/4f6tS8q
https://bit.ly/4foeovZ
#ซึงฮัน #승한 #คิดด้วยพลเมือง

“การสื่อสารคือพลังของการเปลี่ยนแปลง”คือความเชื่อของ พลอย-สโรชา กิตติสิริพันธุ์ บรรณาธิการหญิงผู้ไม่มองเห็น ที่ก่อร่างสร้...
31/10/2024

“การสื่อสารคือพลังของการเปลี่ยนแปลง”
คือความเชื่อของ พลอย-สโรชา กิตติสิริพันธุ์ บรรณาธิการหญิงผู้ไม่มองเห็น ที่ก่อร่างสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในสังคมไทย ด้วยการปลุกปั้น ‘ผีเสื้อปีกบาง’ สำนักพิมพ์ของคนพิการ โดยคนพิการ เพื่อคนพิการ แห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศ
แม้ความทรงจำของสโรชาทั้งชีวิตคือภาพสีดำมืดสนิท เมื่อเธอต้องผ่าตัดนำดวงตาออกตั้งแต่แบเบาะ หลังเผชิญโรคร้ายคือมะเร็งขอบประสาทตา แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า เธอจะใช้ชีวิตแตกต่างจากคนทั่วไป
เติบโตด้วยการเป็นหนอนหนังสือ หลงใหลในตัวอักษร จนนำมาสู่การเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยในคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คือจุดประกายสำคัญที่ทำให้สโรชาเห็นว่า หนังสือเป็นมากกว่าสื่อสิ่งพิมพ์หรือกิจกรรมสันทนาการ แต่เป็นรากฐานของการพัฒนาคุณภาพชีวิต และคงจะดีไม่น้อย หากได้มีพื้นที่สำหรับคนพิการ ทั้งในการทำงาน และการสื่อสารเรื่องราวของตนเองออกไปสู่โลกภายนอก

“การสื่อสารคือพลังของการเปลี่ยนแปลง”
คือความเชื่อของ พลอย-สโรชา กิตติสิริพันธุ์ บรรณาธิการหญิงผู้ไม่มองเห็น ที่ก่อร่างสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในสังคมไทย ด้วยการปลุกปั้น ‘ผีเสื้อปีกบาง’ สำนักพิมพ์ของคนพิการ โดยคนพิการ เพื่อคนพิการ แห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศ
แม้ความทรงจำของสโรชาทั้งชีวิตคือภาพสีดำมืดสนิท เมื่อเธอต้องผ่าตัดนำดวงตาออกตั้งแต่แบเบาะ หลังเผชิญโรคร้ายคือมะเร็งขอบประสาทตา แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า เธอจะใช้ชีวิตแตกต่างจากคนทั่วไป
เติบโตด้วยการเป็นหนอนหนังสือ หลงใหลในตัวอักษร จนนำมาสู่การเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยในคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คือจุดประกายสำคัญที่ทำให้สโรชาเห็นว่า หนังสือเป็นมากกว่าสื่อสิ่งพิมพ์หรือกิจกรรมสันทนาการ แต่เป็นรากฐานของการพัฒนาคุณภาพชีวิต และคงจะดีไม่น้อย หากได้มีพื้นที่สำหรับคนพิการ ทั้งในการทำงาน และการสื่อสารเรื่องราวของตนเองออกไปสู่โลกภายนอก
สำนักพิมพ์ผีเสื้อปีกบางจึงถูกฟูมฟักจากความรักของสโรชา การสนับสนุนของคนรอบข้าง และคอมมูนิตีคนพิการ โดยสำนักพิมพ์กำลังเข้าสู่ปีที่ 3 พร้อมกับหนังสือเล่มแรกที่กำลังจะวางจำหน่ายในช่วงปลายปี 2567 คือ ชื่อสมชาย ผลงานของ ทิวทัศน์ นักเขียนผู้บกพร่องการมองเห็นที่สะกดคำไม่ได้ แต่ใช้วิธี ‘พูด’ ให้โปรแกรมพิมพ์แทน
นอกจากความสำเร็จก้าวแรกของสโรชาในฐานะบรรณาธิการประจำสำนักพิมพ์ ผีเสื้อปีกบาง สิ่งนี้ยังเป็นภาพสะท้อนว่า คนตัวเล็กสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับสังคมได้ ด้วยเหตุนี้ The Momentum จึงเลือกเธอเป็นหนึ่งในสปีกเกอร์ของงาน Drive the Momentum ในหัวข้อ Butterfly Effect: Opportunity for Disability - ‘เสริมพลัง’ และ ‘สร้างพลัง’ ให้กับผู้บกพร่องทางการมองเห็น และสังคมไทยจะช่วยอะไรได้บ้าง เนื่องในโอกาสครบรอบ 8 ปีของสำนักข่าว ที่เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนสังคม
จากนี้ไปคือบทสนทนาที่จะทำให้ทุกคนรู้จักสโรชามากขึ้น ทั้งในฐานะผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง และบรรณาธิการสำนักพิมพ์ผีเสื้อปีกบาง ผู้ขับเคลื่อนให้พื้นที่ของหนังสือและคนพิการเป็นเรื่องเดียวกัน
อ่านบทความ “การสื่อสารคือพลังของการเปลี่ยนแปลง” สโรชา กิตติสิริพันธุ์ - สำนักพิมพ์ผีเสื้อปีกบาง ได้ทาง https://themomentum.co/closeup-drive-momentum-sarocha-kittisiripa
สำหรับผู้ที่สนใจร่วมงาน Drive the Momentum: The Exclusive Talks สามารถลงทะเบียนได้ทาง https://forms.gle/AwKzTv5K7wAU6sVp7 รับจำนวนจำกัดเพียง 88 ที่นั่งเท่านั้น
สามารถดูรายละเอียด ทั้งตารางเวลา ประเด็นพูดคุย สปีกเกอร์ ได้ทาง https://bit.ly/8anv-tmmt
#สำนักพิมพ์ผีเสื้อปีกบาง #คนพิการ

📍🦛 “ #หมูเด้ง” ขึ้นอันดับ 1 เดือน ก.ย. 67 อุทกภัยในภาคเหนือและภาคอีสานติดอันดับ 2 และอันดับ 10 ส่วนคดีทอง “แม่ตั๊ก-ป๋าเบ...
30/10/2024

📍🦛 “ #หมูเด้ง” ขึ้นอันดับ 1 เดือน ก.ย. 67 อุทกภัยในภาคเหนือและภาคอีสานติดอันดับ 2 และอันดับ 10 ส่วนคดีทอง “แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์” ขึ้นอันดับ 5 และ TikTok ยังคงเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยม

🔔 การสำรวจประเด็นการสื่อสารในโลกออนไลน์ 5 แพลตฟอร์ม ในเดือนกันยายน 2567 พบว่า หมูเด้ง ลูกฮิปโปแคระ เป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจสูงสุดอันดับที่ 1 ด้วยสัดส่วน Engagement มากถึง 34.24% ตามด้วยอุทกภัยทางภาคเหนือ เป็นอันดับ 2 ด้วยสัดส่วน Engagement ที่ 27.47% อ๋อม อรรคพันธ์ เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจ ติดอันดับ 3 ด้วยสัดส่วน 8.21% ซีรีส์ปิ่นภักดิ์เป็นอันดับ 4 ด้วยสัดส่วน Engagement ที่ 5.63% ด้านน้องหมีเนย หล่นจากอันดับที่ 5 เมื่อ ส.ค.67 เป็นอันดับที่ 8 ด้วยสัดส่วน 3.81%

🔺 สาเหตุที่หมูเด้ง เป็นประเด็นที่คนในสังคมออนไลน์ให้ความสนใจเป็นอันดับ 1 ในเดือนกันยายน 67 เริ่มจากเพจขาหมู แอนด์เดอะแก๊งโพสต์ภาพลูกฮิปโปแคระที่มีความน่ารักและมีเอกลักษณ์ คือ ชอบกระโดดเด้งไปมา ทำให้เกิดกระแสชื่นชอบบนสังคมออนไลน์ทั้งในไทยและต่างประเทศ จนกลายเป็นไวรัลในโลกโออนไลน์ และส่งผลให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปเยี่ยมชม หมูเด้ง ลูกฮิปโปแคระที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว

🔎 ข้อสังเกต คือ แม้เดือนกันยายน 67 เป็นเดือนที่มีเหตุการณ์สำคัญทางการเมือง เช่น โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี หรือมีคณะรัฐบาลเต็มรูปแบบ นายกรัฐมนตรีแพทองธารแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2567 ฯลฯ รวมถึงยังมีเหตุการณ์อื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น ฟุตซอลชิงแชมป์โลกที่ทีมชาติไทยได้เข้าร่วมแข่งขัน, ดราม่าครูเบญที่ชื่อหายไปจากประกาศผลการรับสมัครพนักงานราชการ, จำคุกครูไพบูลย์ นักแต่งเพลงชื่อดังข้อหาพรากผู้เยาว์ เป็นต้น แต่ประเด็นเหล่านี้กลับไม่ติด 10 อันดับแรก
#สะท้อนสื่อสะท้อนสังคม
#กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ #สื่อสร้างสรรค์เพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม

‘มหาสื่อครองเมือง’ สู่ ‘AI กำหนดเกม’ ส่องเทรนด์เสพสื่อของผู้บริโภครอบ 20 ปี
30/10/2024

‘มหาสื่อครองเมือง’ สู่ ‘AI กำหนดเกม’ ส่องเทรนด์เสพสื่อของผู้บริโภครอบ 20 ปี

MI Group วิเคราะห์ภูมิทัศน์สื่อรอบ 20 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ยุค ‘มหาสื่อครองเมือง’ สู่ ‘AI กำหนดเกม’ มุ่งทรานส์ฟอร์มร...

‘เลือกข้าง’ หรือ ‘แสดงจุดยืน’ทำไมสื่อต่างประเทศออกมาสนับสนุนแคนดิเดตในการเลือกตั้งสหรัฐอเมริกา?“การที่สื่อมวลชนมีความกล้...
30/10/2024

‘เลือกข้าง’ หรือ ‘แสดงจุดยืน’
ทำไมสื่อต่างประเทศออกมาสนับสนุน
แคนดิเดตในการเลือกตั้งสหรัฐอเมริกา?
“การที่สื่อมวลชนมีความกล้าหาญและให้ความรู้สาธารณชน ถือเป็นรากฐานในประชาธิปไตยของเรา และการละทิ้งการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว คือการละทิ้งหน้าที่ในฐานะนักข่าว บทบรรณาธิการเดอะการ์เดียน (The Guardian) จึงขอสนับสนุน กมลา แฮร์ริส (Kamala Harris) เป็นประธานาธิบดีอย่างจริงจัง และเราจะไม่หวาดหวั่นต่อผลลัพธ์ที่อาจตามมา”

‘เลือกข้าง’ หรือ ‘แสดงจุดยืน’
ทำไมสื่อต่างประเทศออกมาสนับสนุน
แคนดิเดตในการเลือกตั้งสหรัฐอเมริกา?
“การที่สื่อมวลชนมีความกล้าหาญและให้ความรู้สาธารณชน ถือเป็นรากฐานในประชาธิปไตยของเรา และการละทิ้งการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว คือการละทิ้งหน้าที่ในฐานะนักข่าว บทบรรณาธิการเดอะการ์เดียน (The Guardian) จึงขอสนับสนุน กมลา แฮร์ริส (Kamala Harris) เป็นประธานาธิบดีอย่างจริงจัง และเราจะไม่หวาดหวั่นต่อผลลัพธ์ที่อาจตามมา”
ในห้วงเวลาที่การเลือกตั้งสหรัฐอเมริกา 2024 จะเริ่มต้นในอีกไม่ช้า นอกจากเหล่าเซเลบริตีที่ออกมาสนับสนุนแคนดิเดตท้าชิงเก้าอี้ผู้นำระหว่าง กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีและตัวแทนจากพรรคเดโมแครต (Democratic Party) กับโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) อดีตประธานาธิบดีและตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน (Republican Party)
การติดตามสำนักข่าวต่างประเทศและสื่ออเมริกัน ถือเป็นอีกไฮไลต์สำคัญในการเลือกตั้งที่หลายคนเฝ้ารอคอย ไม่ใช่แค่การวิเคราะห์ข่าวคราว ถอดรหัสคำพูด หรือภาษากายแคนดิเดตเท่านั้น เพราะยังมีธรรมเนียมสำคัญของสื่ออย่างการ ‘แสดงจุดยืน’ สนับสนุนตัวแทนของแต่ละพรรคผ่านบทบรรณาธิการ
ไม่ว่าจะเป็นนิวยอร์กไทม์ (New York Times) ที่ประกาศตรงไปตรงมาว่า ทรัมป์ไม่เหมาะสำหรับตำแหน่งผู้นำประเทศที่ต้องใช้สติปัญญาและความซื่อสัตย์ พร้อมระบุว่า แฮร์ริสคือตัวเลือกเดียวที่จะปกป้องประเทศ หรือแม้แต่เดอะการ์เดียนสื่ออังกฤษที่แสดงตัวว่า พร้อมยืนข้างแฮร์ริสและพรรคเดโมแครต ด้วยเหตุผลด้านการสนับสนุนระบอบประชาธิปไตยและเสรีภาพของสื่อ
ขณะที่นิวยอร์กโพสต์ (New York Post) ก็ไม่น้อยหน้าสำนักข่าวอื่นด้วยการประกาศว่า สนับสนุนทรัมป์เพื่ออนาคตในวันข้างหน้า โดยระบุเหตุผลทางด้านนโยบายต่างๆ หนึ่งในนั้นคือ สหรัฐฯ ต้องเป็นที่เกรงกลัวของศัตรูและได้รับเสียงชื่นชมจากพันธมิตร
เชื่อว่าจุดยืนข้างต้นอาจเป็นเรื่อง ‘ช็อกโลก’ สำหรับบางประเทศที่มีความเชื่อแรงกล้าว่า สื่อต้องเป็นกลางและไม่เลือกข้างทางการเมือง โดยเฉพาะการประกาศต่อต้านอีกฝ่ายอย่างตรงไปตรงมา และระบุเหตุผลชัดเจนในการสนับสนุนนักการเมือง
แต่ในอีกมุมหนึ่งนับว่าน่าสนใจไม่น้อยในการทำความเข้าใจปรากฏการณ์ดังกล่าว โดยเฉพาะความเป็นมาและเหตุผลสำคัญว่า เหตุใดสื่อมวลชนในสหรัฐฯ และต่างประเทศ จึงออกมาสนับสนุนแคนดิเดตเลือกตั้งได้อย่างเปิดเผย
The Momentum ชวนทุกคนไขคำตอบไปพร้อมกัน
อ่านบทความ ‘เลือกข้าง’ หรือ ‘แสดงจุดยืน’ ทำไมสื่อต่างประเทศออกมาสนับสนุน แคนดิเดตในการเลือกตั้งสหรัฐอเมริกา? ได้ทาง https://themomentum.co/analysis-why-media-supported-political-endorsement
เรื่อง: อัยย์ลดา แซ่โค้ว
ภาพ: ดลธร บุญปลอด
#สื่อมวลชน #เลือกตั้งสหรัฐฯ2024 #เลือกตั้งสหรัฐฯ #อเมริกา

‘นักศึกษาใช้ AI ทำงาน’ มหาวิทยาลัยจัดการอย่างไร กับโจทย์ท้าทายจริยธรรมวิชาการมหาวิทยาลัยต่างๆ จะรับมืออย่างไร เมื่อนักศึ...
29/10/2024

‘นักศึกษาใช้ AI ทำงาน’ มหาวิทยาลัยจัดการอย่างไร กับโจทย์ท้าทายจริยธรรมวิชาการ
มหาวิทยาลัยต่างๆ จะรับมืออย่างไร เมื่อนักศึกษาเริ่มหันมาใช้ ‘ปัญญาประดิษฐ์’ (AI) ในการทำงานส่งอาจารย์มากยิ่งขึ้น?
นี่คือเรื่องราวของนักศึกษาคนหนึ่ง นามสมมติ ฮันนาห์ ที่ตัดสินใจใช้ AI ช่วยเขียนเรียงความ และเกือบต้องโดนโทษไล่ออก
“เรามีกำหนดส่งงานสองงานในเวลาไล่เลี่ยกันและฉันก็หมดแรงไปเลย” ฮันนาห์ เล่า “ฉันรู้สึกเครียดมาก และรู้สึกกดดันมากที่จะต้องทำให้ดีที่สุด ฉันรู้สึกแย่มาก และสมองของฉันก็ยอมแพ้ไปเลย” ความสิ้นหวัง ประกอบกับความทุกข์ที่เผชิญจากการเป็นโรคโควิดไปด้วยในระหว่างนั้น ฮันนาห์จึงให้ AI ช่วยเขียนเรียงความหนึ่งเรื่อง

BRIEF: ‘นักศึกษาใช้ AI ทำงาน’ มหาวิทยาลัยจัดการอย่างไร กับโจทย์ท้าทายจริยธรรมวิชาการ
มหาวิทยาลัยต่างๆ จะรับมืออย่างไร เมื่อนักศึกษาเริ่มหันมาใช้ ‘ปัญญาประดิษฐ์’ (AI) ในการทำงานส่งอาจารย์มากยิ่งขึ้น?
นี่คือเรื่องราวของนักศึกษาคนหนึ่ง นามสมมติ ฮันนาห์ ที่ตัดสินใจใช้ AI ช่วยเขียนเรียงความ และเกือบต้องโดนโทษไล่ออก
“เรามีกำหนดส่งงานสองงานในเวลาไล่เลี่ยกันและฉันก็หมดแรงไปเลย” ฮันนาห์ เล่า “ฉันรู้สึกเครียดมาก และรู้สึกกดดันมากที่จะต้องทำให้ดีที่สุด ฉันรู้สึกแย่มาก และสมองของฉันก็ยอมแพ้ไปเลย” ความสิ้นหวัง ประกอบกับความทุกข์ที่เผชิญจากการเป็นโรคโควิดไปด้วยในระหว่างนั้น ฮันนาห์จึงให้ AI ช่วยเขียนเรียงความหนึ่งเรื่อง
แต่หลังจากนั้น เธอกลับต้องเผชิญหน้ากับคณะกรรมการพิจารณาความประพฤติมิชอบทางวิชาการ ซึ่งมีอำนาจสูงสุดในการไล่นักศึกษาที่ ‘โกง’ ออกไป เริ่มจากอาจารย์ได้ใช้ซอฟต์แวร์ตรวจจับ AI สแกนเรียงความของเธอ และพบว่ามีเปอร์เซ็นต์เป็นไปได้สูงที่ฮันนาห์ใช้ AI ในการเขียนมันขึ้นมา
“ฉันได้คะแนนของงานนี้เป็นศูนย์ แล้วฉันก็ได้รับอีเมลจากอาจารย์ผู้สอนที่บอกว่า เราคิดว่ามีการประพฤติมิชอบทางวิชาการบางอย่าง” เดิมทีฮันนาห์คิดจะปฏิเสธ แต่เมื่อหลักฐานมันฟ้อง เธอจึงทนไม่ไหวและสารภาพว่าใช้ AI ช่วยเขียนเรียงความจริง
แต่ถึงอย่างนั้น คณะกรรมการได้ตัดสินว่าไม่มีหลักฐานเพียงพอที่เอาผิดเธอ แม้เธอจะยอมรับเองก็ตาม โดยฮันนาห์เล่าว่า “ฉันเสียใจมากกับการตัดสินใจของตัวเอง ฉันทำได้ดีมาตลอด ได้อันดับหนึ่งหลายครั้ง และฉันคิดว่านั่นอาจเป็นปัญหาด้วย เพราะฉันจำเป็นต้องรักษาระดับเกรดนั้นเอาไว้ และมันผลักฉันให้เข้าสู่จุดที่ต้องใช้ AI ช่วยจริงๆ”
เรื่องราวในลักษณะเดียวกันอาจไม่ได้กำลังเกิดแค่กับฮันนาห์เท่านั้น เพราะการมาถึงของ AI ได้กลายเป็นประเด็นท้าทายของสถานศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘Generative AI’ ที่อาศัยข้อมูลในอดีตจำนวนมหาศาล ในการประมวลผลออกมาเป็นชิ้นงานตามคำสั่งของมนุษย์ได้เพียงแค่พิมพ์คำสั่งลงไปผ่านปลายนิ้ว
นำมาซึ่งโจทย์ท้าทายว่า สถาบันการศึกษาจะทำอย่างไรให้นักศึกษามีความรู้เท่าทัน​​ AI แต่ก็นำมาใช้อย่างถูกวิธี?
มหาวิทยาลัยบางแห่ง มีมาตรการห้ามใช้ AI เว้นแต่จะได้รับอนุญาตโดยเฉพาะ บางแห่งอนุญาตให้ใช้ AI เพื่อระบุข้อผิดพลาดในไวยากรณ์หรือคำศัพท์ หรืออนุญาตให้ใช้เนื้อหา AI เชิงสร้างสรรค์ แต่จะต้องอ้างอิงอย่างครบถ้วน
สำหรับในประเทศไทย บางมหาวิทยาลัยได้ออกข้อกำหนดการใช้​ AI ในการศึกษาเช่นกัน
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ประกาศ ‘หลักการและแนวปฏิบัติในการใช้เครื่องมือทางปัญญาประดิษฐ์ของจุฬาฯ’ ในเดือนกรกฎาคม 2566 ระบุว่า หากรายวิชาใดอนุญาตให้นิสิตใช้ AI ผู้สอนควรออกแบบการประเมินผลให้เหมาะสม และหากมีการใช้ จะต้องอ้างอิงและระบุขอบเขตการนำมาใช้ให้ชัดเจน รวมถึงห้ามนำข้อมูลที่เป็นความลับ และข้อมูลส่วนบุคคล อัปโหลดเข้าระบบ AI โดยไม่ได้รับความยินยอม
มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ประกาศ ‘หลักการและแนวปฏิบัติในการใช้เครื่องมือทางปัญญาประดิษฐ์ในการจัดการเรียนการสอน’ ในเดือนพฤศจิกายน 2566 โดยระบุรายละเอียดไว้หลายประการ แต่ในภาพรวมมีมาตรการที่คล้ายคลึงกัน คือ จะต้องใช้ภายใต้หลักจริยธรรมทางวิชาการ และผู้สอนต้องอธิบายถึงขอบเขตที่ให้นักศึกษาใช้ในรายวิชานั้นๆ ได้ให้ชัดเจน
Universities UK ซึ่งเป็นองค์กรรองอธิการบดีและอธิการบดีของมหาวิทยาลัยต่างๆ กล่าวว่า “มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ตระหนักถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากเครื่องมือ AI ในการสอบและการประเมินผล […] ทั้งหมดมีจรรยาบรรณในการประพฤติตน มีบทลงโทษที่รุนแรงสำหรับนักศึกษาที่ส่งงานที่ไม่ใช่ของตนเอง”
โฆษกของกระทรวงศึกษาธิการสหราชอาณาจักร กล่าวว่า “Generative AI มีศักยภาพอย่างมากในการเปลี่ยนแปลงภาคการศึกษาระดับอุดมศึกษา และมอบโอกาสที่น่าตื่นเต้นสำหรับการเติบโต อย่างไรก็ตาม การบูรณาการ AI เข้ากับการสอน การเรียนรู้ และการประเมินผลจะต้องได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบ”
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/news/articles/cz04emrxp4xo
https://www.chula.ac.th/news/125160/
https://stang.sc.mahidol.ac.th/pdf/itlaw/mupk_25661127.pdf

#ปัญญาประดิษฐ์​ #นักศึกษา #มหาวิทยาลัย #วิชาการ

‘การมีแฟน’ ยังเป็นเรื่องต้องห้ามในวงการไอดอล ? ทำให้ความฝันของศิลปินต้องล่มสลายลงเพียงเพราะไม่ตรงตามความคาดหวังของแฟนคลั...
28/10/2024

‘การมีแฟน’ ยังเป็นเรื่องต้องห้ามในวงการไอดอล ? ทำให้ความฝันของศิลปินต้องล่มสลายลงเพียงเพราะไม่ตรงตามความคาดหวังของแฟนคลับ

ชวนแฟนคลับวงการ K-Pop และ T-Pop มาพูดคุยถึงประเด็น ‘การมีแฟนของศิลปินไอดอล’ ในภาพรวมของวงการนี้ ไม่เพียงแค่ในกร....

เพลงลูกทุ่ง: ภาพสะท้อนความจนกับความฝัน ท่ามกลางเศรษฐกิจ 4 ยุค“จากอีสานบ้านนา มาอยู่กรุง จากแดนทุ่งลุย ละ ๆ ล๊าย ๆ [ตืด ต...
28/10/2024

เพลงลูกทุ่ง: ภาพสะท้อนความจนกับความฝัน ท่ามกลางเศรษฐกิจ 4 ยุค
“จากอีสานบ้านนา มาอยู่กรุง จากแดนทุ่งลุย ละ ๆ ล๊าย ๆ [ตืด ตื๋ด ตื๊อ] ชัยภูมิบ้านเดิม ถิ่นเกิดไกล บ่ได้หมายจากจร”
‘คิดถึงทุ่งลุยลาย’ คือ เพลง Top Hit ของคอนเสิร์ตหน้าฮ้าน ที่ร้องเมื่อใด หลายคนเป็นอดรนทนไม่ได้ ต้องออกมาเต้นม่วน ๆ ตามเสียงดนตรีและจังหวะที่คุ้นเคย ให้พร้อมกับแดนเซอร์ที่ใส่ชุดกรุยกราย วิบวับ และตะโกนร้องเพลงไปตามนักร้องอยู่หน้าเวที
ทว่าเบื้องหลังความมันส์ของเพลง คือเรื่องราวของผู้สาวชัยภูมิที่ต้องจากบ้านมาอยู่กรุงเทพฯ ไม่ใช่เพราะพรหมลิขิตขีดเขี่ยให้มาอยู่เมืองกรุงหรอก หากแต่เป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจของประเทศในเกือบทุกยุคทุกสมัยที่ผลักไสไล่ส่งให้คนจากชนบทอย่าง ‘ชัยภูมิ’ อันห่างไกลจากกรุงเทพฯ เกือบ 400 กิโลเมตร จำต้องเข้ามาไขว่คว้าหางานทำ
เพลงลูกทุ่งที่ขับขานถึงการจากลาบ้านเข้ามาทำงานที่ต่างจังหวัด ไม่ได้มีแต่เพลงคิดถึงทุ่งลุยลายเท่านั้น ตลอดหลายยุคหลายสมัย เพลงที่บอกเล่าชีวิตที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนเหล่านี้ได้ถูกขับร้องและผลิตซ้ำแล้วซ้ำเล่าในทุกยุคของเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็น 1.0, 2.0, 3.0, และ 4.0

มองเพลงบทเพลงลูกทุ่ง ซึ่งเป็นภาพสะท้อนความจนกับความฝันประการเดียวท่ามกลางเศรษฐกิจ 4 ยุค

ที่อยู่

Bangkok
10400

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Media Alertผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Media Alert:

วิดีโอทั้งหมด

แชร์

ประเภท


สื่อ อื่นๆใน Bangkok

แสดงผลทั้งหมด