Maddog Newsonline

Maddog Newsonline ข่าวออนไลน์

กระทรวงเกษตรฯ หนุน“โครงการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและแหล่งผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยได้มาตรฐาน จังหวังพระนครศรีอยุธ...
27/06/2022

กระทรวงเกษตรฯ หนุน“โครงการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและแหล่งผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยได้มาตรฐาน จังหวังพระนครศรีอยุธยา”หวังกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ สร้างรายได้แก่เกษตรกรอย่างยั่งยืน
ดร.ทองเปลว กองจันทร์ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดโครงการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและแหล่งผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยได้มาตรฐาน จังหวัดพระนครศรีอยุธยาพร้อมด้วยนายเข้มแข็งยุติธรรมดำรงอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรนายสัญญาแสงพุ่มพงษ์ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และผู้เกี่ยวข้องร่วมงานณ ร้านรักษ์นา คาเฟ่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา
จังหวัดพระนครศรีอยุธยาว่าโครงการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและแหล่งผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยได้มาตรฐาน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีวัตถุประสงค์เพื่อขับเคลื่อนและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กระตุ้นให้เกิดความร่วมมือระหว่างแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ในจังหวัดและผู้ผลิตสินค้าเกษตรและอาหารปลอดภัย ให้ครอบคลุมทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ขยายความร่วมมือด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการตลาดสินค้าเกษตรและการท่องเที่ยวเชิงเกษตรไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ท้องถิ่น
โดยการเปิดตัวโครงการในครั้งนี้ จัดขึ้น ณ ร้านรักษ์นา คาเฟ่ อยุธยา ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่สำคัญ และมีพิธีลงนามความเข้าใจ รวมทั้งจัดให้มีจุดจำหน่ายสินค้าเกษตรและอาหารปลอดภัยในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ มุ่งหวังให้เกิดการพัฒนาและยกระดับการท่องเที่ยวเชิงเกษตรให้มีมาตรฐาน มีความหลากหลาย เกิดการประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวได้รู้จัก ตลอดจนสร้างการรับรู้ให้แก่ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าเกษตรและอาหารปลอดภัยและผู้บริโภคได้รับทราบ นอกจากนี้ยังมีเกษตรกรใหม่ในโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการผลิตปลอดภัย นำสินค้ามาร่วมจำหน่ายในงาน จำนวน 20 ร้านค้า หมุนเวียนการจำหน่ายทุก ๆ วันเสาร์และวันอาทิตย์
“การจัดกิจกรรมครั้งนี้ เป็นกิจกรรมที่สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงเกษตรฯ และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในการส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยและลดต้นทุนการผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะในปัจจุบันที่ปัจจัยการผลิตมีราคาสูง ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งกระบวนการผลิตสินค้าเกษตรและอาหารปลอดภัย รวมทั้งการเชื่อมโยงการตลาดที่ดีจะก่อให้เกิดคุณภาพความปลอดภัยด้านอาหาร ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มรายได้ของเกษตรกร ส่งผลดีต่อเกษตรกรผู้ผลิตประชาชน นักท่องเที่ยว และผู้บริโภคทั่วไป โดยหลายภาคส่วน อาทิ ภาคราชการ ภาคเอกชน
ผู้ประกอบการการท่องเที่ยวเชิงเกษตร เกษตรกรผู้ผลิตสินค้าเกษตรและอาหารปลอดภัย ตลอดจนส่วนท้องถิ่น ได้มีความพยายามร่วมกันในการพัฒนาขับเคลื่อน และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ให้เชื่อมโยงสินค้าเกษตรปลอดภัยอย่างเป็นรูปธรรม จึงถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีอันจะทำให้เกิดการพัฒนาทั้งคุณภาพของการให้บริการและสร้างรายได้ให้แก่ประชาชน เกษตรกร และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่อย่างยั่งยืนอีกด้วย” ปลัดเกษตรฯ กล่าว
สำหรับจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีพื้นที่ทำการเกษตรกว่า 900,000 ไร่คิดเป็นร้อยละ 57 ของพื้นที่ทั้งจังหวัด ผลผลิตที่สำคัญได้แก่ข้าวไม่พ่นพืชผัก ไก่เนื้อไก่ไข่ และสัตว์น้ำที่สำคัญ เกษตรกรของจังหวัดฯ เป็นผู้มีศักยภาพ ในการผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยและได้มาตรฐาน ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และของรัฐบาล ประกอบกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีเชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยว
อยู่ใกล้เมืองหลวงเป็นเป้าหมายของการท่องเที่ยว เชิงวัฒนธรรม การท่องเที่ยววัด วัง เวียง มีวิวทิวทัศน์สวยงาม อาหารพื้นบ้านและขนมอร่อย ตลอดจนการท่องเที่ยวเชิงเกษตร คณะทำงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรจังหวัด
พระนครศรีอยุธยา จึงได้เห็นควรให้มีการจัดทำโครงการขึ้นโดยเป็นโครงการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร และแหล่งผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยได้มาตรฐาน

รมว.พม. เดินหน้ามอบแว่นตาให้กลุ่มเปราะบาง ในโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ "Giving Light มอบแว่นตา มอบแสงสว่างแห่งชีวิต" รุ่นที...
22/06/2022

รมว.พม. เดินหน้ามอบแว่นตาให้กลุ่มเปราะบาง ในโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ "Giving Light มอบแว่นตา มอบแสงสว่างแห่งชีวิต" รุ่นที่ 2
วันที่ 22 มิถุนายน 2565 นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว "Giving Light มอบแว่นตา มอบแสงสว่างแห่งชีวิต" รุ่นที่ 2
โดยมี นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ นางสาววนิดา สุทธิช่วย รักษาการผู้ช่วยผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ และคณะผู้บริหารกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมในพิธีเปิด ณ หอประชุมอาคาร 4 ชั้น 3 โรงเรียนสิริรัตนาธร เขตบางนา กรุงเทพฯ ทั้งนี้
การเคหะแห่งชาติยังร่วมจัดบูธ EM น้ำจุลินทรีย์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงให้ความรู้และทำความเข้าใจถึงประโยชน์ของ EM พร้อมทั้งแจกให้กับประชาชนที่มาร่วมในพิธีเปิดดังกล่าวนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย

02/04/2022
21/08/2021
“รมช.มนัญญา” กำชับ อ.ส.ค. และสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนมเฝ้าระวังการแพร่ระบาด “โรคลัมปี สกิน” ไม่ให้กระทบอุตสาหกรรมโคนมประเทศ นำ...
28/05/2021

“รมช.มนัญญา” กำชับ อ.ส.ค. และสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนมเฝ้าระวังการแพร่ระบาด “โรคลัมปี สกิน” ไม่ให้กระทบอุตสาหกรรมโคนมประเทศ นำทีมผู้บริหารฉีดพ่นยาฆ่าแมลง ณ ฟาร์มโคนม อ.ส.ค. จ.สระบุรี
วันที่ 28 พ.ค. 2564 นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีเปิด "โครงการรณรงค์ป้องกันโรคลัมปี สกิน" (Lumpy Skin Disease) ณ ฟาร์มโคนมประสิทธิภาพสูง องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี พร้อมด้วย นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายสุชาติ จริยาเลิศศักดิ์ รองผู้อำนวยการ ทำการแทนผู้อำนวยการ
อ.ส.ค. ผู้บริหาร และหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วม โอกาสนี้ได้มอบสิ่งของเวชภัณฑ์/ยาฆ่าแมลง พร้อมถังฉีดพ่นให้กับสหกรณ์เขตภาคกลาง 15 แห่งที่ส่งน้ำนมให้ อ.ส.ค. และร่วมฉีดพ่นยาฆ่าแมลงซึ่งเป็นพาหะของโรคลัมปี สกิน ณ ฟาร์มโคนมประสิทธิภาพสูง อ.ส.ค. จากนั้นเดินทางไปตรวจเยี่ยมฟาร์มเกษตรกร พร้อมชมการฉีดพ่นยาฆ่าแมลง ณ ณัฎฐ์ฟาร์ม ตำบลมวกเหล็ก อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี
รมช.มนัญญา กล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคลัมปี สกิน (Lumpy skin disease) ที่ยังวิกฤติหนักในกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบือทั่วประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีฯ มีความห่วงใยต่อสถานการณ์อย่างมากและกำชับให้กระทรวงเกษตรฯ เร่งแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ตนในฐานะกำกับดูแล อ.ส.ค. มีความห่วงใยต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมและสหกรณ์โคนมที่ส่งน้ำนมดิบให้กับสหกรณ์ทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบัน
อ.ส.ค. มีสมาชิกส่งน้ำนมดิบให้กับ อ.ส.ค. ทั่วประเทศจำนวน 5,952 ราย มีจำนวนโครวม 174,658 ตัว ส่งน้ำนมดิบให้อ.ส.ค.ประมาณ 874 ตัน/วัน โดยพื้นที่ภาคกลางมีสหกรณ์โคนมที่ส่งน้ำนมดิบมากที่สุดคือ จำนวน 15 สหกรณ์ มีเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม 2,380 ราย และจำนวนโคนม 65,863ตัว จึงได้สั่งการให้ อ.ส.ค.เฝ้าระวังโรคในพื้นที่พร้อมติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด และให้รายงานสถานการณ์ให้ทราบอย่างเร่งด่วนและต่อ
เนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม “ปัจจุบัน ประเทศไทยมีเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมทั่วประเทศประมาณ 11,393 ครอบครัว จำนวนโคทั้งหมด 427,311 ตัว หากไม่เร่งยับยั้งการระบาดในพื้นที่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม อาจส่งผลกระทบต่อความเดือดร้อนของเกษตรกรและอุตสาหกรรมโคนมของประเทศในอนาคตได้ อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือไม่ให้มีการลักลอบเคลื่อนย้ายโค กระบือที่เป็นโรค ซึ่งจะสร้างความเดือด
ร้อนให้กับสหกรณ์และเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม หากโคนมติดโรคอาจทำให้น้ำนมลดลง กระทบรายได้ ทั้งนี้ ขอเป็นกำลังใจให้กับเกษตรกร และเชื่อมั่นว่าสามารถยับยั้งการระบาดของโรคได้ ซึ่ง รมว.เกษตรฯ ได้เร่งนำเข้าวัคซีนป้องกันโรคลัมปี สกินในโค กระบือ ลอตแรก 60,000 โดส นอกจากนี้ ตนเตรียมลงพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ และอำนาจเจริญ เพื่อติดตามสถานการณ์และมอบสิ่งของเวชภัณฑ์/ยาฆ่าแมลง ให้กับผู้เลี้ยงโคนม” รมช.มนัญญา
กล่าว ด้านนายสุชาติ จริยาเลิศศักดิ์ รองผู้อำนวยการ ทำการแทนผู้อำนวยการ อ.ส.ค. กล่าวว่า ปัจจุบัน อ.ส.ค. มีสหกรณ์และศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบในเขตพื้นที่ส่งเสริมของ อ.ส.ค.ทุกภูมิภาคจำนวน 52 แห่ง ปริมาณน้ำนมดิบ แยกเป็นพื้นที่ภาคกลางจำนวน 15 สหกรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 สหกรณ์ ภาคใต้ 8 สหกรณ์ ภาคเหนือตอนบน (เชียงใหม่) 3 สหกรณ์และภาคเหนือตอนล่าง (สุโขทัย) จำนวน 16 สหกรณ์ ซึ่งทั้งหมดจะส่งน้ำนมดิบสำหรับป้อนกำลังผลิตผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คเพื่อจำน่ายในรูปแบบนม
พาณิชย์และนมโรงเรียนประมาณวันละ 600-800 ตัน/วัน ซึ่งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคลัมปี สกิน ที่ส่งผลกระทบอยู่ในขณะนี้ ทำให้ อ.ส.ค. กำชับเจ้าหน้าที่กวดขันและเฝ้าระวังโรคอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเข้ามาในพื้นที่การเลี้ยงโคนมของ อ.ส.ค.อย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้สร้างความเสียหายต่อเกษตรกรและอุตสาหกรรมนมของประเทศ รวมทั้งกระทบต่อธุรกิจอุตสาหกรรมโคนมของ อ.ส.ค. ในอนาคตด้วย.

อีกหนึ่งผลงาน “5 ยุทธศาสตร์เฉลิมชัย” “อลงกรณ์” เผยพร้อมตั้งสภาเกษตรอินทรีย์พีจีเอส. เป็นครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมสร้างระ...
28/05/2021

อีกหนึ่งผลงาน “5 ยุทธศาสตร์เฉลิมชัย” “อลงกรณ์” เผยพร้อมตั้งสภาเกษตรอินทรีย์พีจีเอส. เป็นครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมสร้างระบบบิ๊กดาต้าออร์กานิค (Organic Big Data) ล่าสุดขยายพื้นที่เกษตรอินทรีย์เกือบ 4 แสนไร่ พร้อมเดินหน้าเกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง (Urban Farming) จัดตั้งกลไกขับเคลื่อนทั่วประเทศแล้ว
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเกษตรกรรมยั่งยืน เปิดเผยถึงผลการประชุม ครั้งที่ 3/2564 ผ่านระบบ ZOOM โดยมี นายวิชัย ไตรสุรัตน์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงเกษตรฯ นายมนัส กำเนิดมณี ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรฯ นายธีระ วงษ์เจริญ ประธานอนุกรรมการเกษตรทฤษฎีใหม่และเกษตรผสมผสาน ผู้แทนสภาเกษตรกรแห่งชาติ นายปริญญา พรศิริชัยวัฒนา ประธานอนุกรรมการเกษตรอินทรีย์ ประธานชมรมเกษตรอินทรีย์แห่ง
ประเทศไทย คณะอนุกรรมการวนเกษตรและเกษตรธรรมชาติตัวแทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชน และภาคเกษตรกร ร่วมหารือในประเด็นสำคัญ ในการติดตามความก้าวหน้าการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง การดำเนินงานของคณะทำงานด้านเกษตรอินทรีย์ ด้านวนเกษตรและเกษตรธรรมชาติ และด้านเกษตรทฤษฎีใหม่และ
เกษตรผสมผสาน เพื่อการพัฒนาภาคการเกษตรไทยตาม “5 ยุทธศาสตร์เฉลิมชัย” ของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารการพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืน ตามแนวทางศาสตร์พระราชา
สำหรับผลการประชุมในวาระสำคัญ สรุปได้ดังนี้
1.โครงการการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง (Sustainable Urban Agriculture Development Project) มีเป้าประสงค์ในการพัฒนาเกษตรกรรมและเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเขตเมืองพร้อมกับการพัฒนาการเกษตรในเมือง (Urban Farming) ภายใต้นโยบายการพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืน และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 17 ประการของสหประชาชาติเพื่อ
โลกอนาคต (UN Sustainable Development Goals : 17 aspects for future world) ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายที่ 11 การพัฒนาเมืองและชุมชนอย่างยั่งยืน (Sustainable cities and communities: Make cities inclusive, safe, resilient and sustainable) ซึ่งในปี 2562 ประเทศไทยมีประชากรในเมืองมากกว่าในชนบทเป็นครั้งแรกตามปรากฏการณ์การขยายตัวของเมือง (Urbanization) ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อภาวะความไม่มั่นคง
ทางอาหารยิ่งขึ้นโดยอาศัยหน่วยงานภาครัฐ เอกชน เกษตรกร และภาคประชาชน ร่วมบูรณาการขับเคลื่อนพร้อมกัน เพื่อการพัฒนาและเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมืองให้เกิดประสิทธิภาพและเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั่วประเทศ ทั้งในระดับเขต ระดับจังหวัด เขตปกครองท้องถิ่น พื้นที่อยู่อาศัย สถานที่สำคัญต่างๆ ให้เป็นแหล่งผลิตอาหารสร้างความมั่นคงทางอาหารในเมือง
และเพิ่มพื้นที่สีเขียวโดยพัฒนาให้เป็นแหล่งเรียนรู้ เช่น จัดทำ QR code ให้ความรู้เกี่ยวกับชนิดของพืช และสมุนไพร รวมทั้งการใช้ประโยชน์
โดยจัดตั้งกลไกการขับเคลื่อนโครงการการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง ดังนี้
1) คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง ระดับเขต ตามการแบ่งเขตตรวจราชการของกระทรวงฯ
2) คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง ระดับจังหวัด
3) คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมืองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
4) คณะทำงานขับเคลื่อนโครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมืองในพื้นที่วัด (Green Temple)
5) คณะทำงานขับเคลื่อนโครงการการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมืองในพื้นที่วิทยาลัย (Green College)
6) คณะทำงานขับเคลื่อนโครงการการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมืองในพื้นที่โรงเรียน (Green School)
7) คณะทำงานขับเคลื่อนโครงการการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมืองในพื้นที่มหาวิทยาลัย (Green Campus)
8) คณะทำงานขับเคลื่อนโครงการการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมืองในพื้นที่การเคหะแห่งชาติ
9) คณะทำงานขับเคลื่อนโครงการการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมืองระดับชุมชนและท้องถิ่น (Green Community) และ
10) คณะทำงานขับเคลื่อนโครงการการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในพื้นที่อาคารชุด (Green Condo)
2.การจัดตั้งสถาบันเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาของสำนักพัฒนาระบบบริหาร ก่อนการดำเนินการต่อไป
3.การจัดทำระบบฐานข้อมูลกลางเกษตรอินทรีย์ (Organic Big Data Center)โดยสามารถเข้าชมได้ที่ https://organicmoac.ldd.go.th ข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ 25 พฤษภาคม 2564 มีพื้นที่เกษตรอินทรีย์ในฐานข้อมูลออนไลน์ รวมทั้งสิ้น 397,037.24 ไร่
4.ความก้าวหน้าการจัดตั้งคณะกรรมการบริหารสภาเกษตรอินทรีย์ พี จี เอส แห่งประเทศไทย ขณะนี้พร้อมดำเนินการจัดตั้งโดยมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ ประกอบด้วย ประธานกรรมการ 1 คน กรรมการและเลขานุการ 1 คน โดยการคัดเลือกจากคณะกรรมการบริหารสภาฯ และกรรมการ จำนวน 20 คน แบ่งเป็น ผู้แทนองค์กรจัดระบบ (3 แห่ง) เกษตรกรเกษตรอินทรีย์ PGS 4 ภาค (8 คน), ผู้แทนสถาบันการศึกษา (4 แห่ง), ผู้ประกอบการด้าน
การผลิตเกษตรอินทรีย์ และจําหน่ายเกษตรอินทรีย์ PGS 4 แห่ง, เกษตรกรรุ่นใหม่ประเทศไทย (1 คน), สมาคม ผู้บริโภคอินทรีย์ไทย 1 แห่ง และผู้แทนภาครัฐ (1 แห่ง) โดยมีอำนาจหน้าที่หลัก ได้แก่ การกําหนดกรอบเกษตรอินทรีย์ระบบการรับรองแบบมีส่วนร่วม จัดระบบการกำกับดูแล และติดตาม การเทียบเคียง การยอมรับกระบวนการรับรองเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม
รวมทั้งสื่อสารประชาสัมพันธ์ จัดทําฐานข้อมูลเกษตรอินทรีย์ระบบการรับรอง แบบมีส่วนร่วม
5.ความก้าวหน้าโครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ ขณะนี้มีผลดำเนินโครงการไปแล้ว โดยมีเป้าหมาย 4,009 ตำบล 648 อำเภอ 75 จังหวัด จำนวนเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ 29,706 ราย และมีจ้างงานจำนวน 14,076 ราย
6.คู่มือสำหรับประชาชนในการปฏิบัติตามข้อตกลงบันทึกความเข้าใจการส่งเสริมการปลูกไม้เศรษฐกิจในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดยที่ประชุมมอบหมายให้จัดทำคู่มือสำหรับประชาชนในเรื่องการส่งเสริมไม้เศรษฐกิจเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่
7.นิยามใหม่ “วนเกษตร” ซึ่งผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการบริการการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนแล้วจะทำให้การพัฒนาวนเกษตรขยายตัวเพิ่มขึ้นหลังจากติดกรอบนิยามเดิมมาเป็นเวลานานหลายปี
8.เรื่องการจัดตั้งสถาบันเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) มีความคืบหน้าหลังจากคณะกรรมการบริหารการพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืนเห็นชอบในหลักการเมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบให้สํานักพัฒนาระบบบริหาร สํานักงานปลัดกระทรวงเกษตรฯ พิจารณาดำเนินการต่อไปแล้ว.

27/05/2021
"วันวิสาขบูชา" เป็นวันสำคัญยิ่งทางพระพุทธศาสนา เพราะเป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ คือเกิด ได้ตรัสรู้ คือสำเร็จ ได้ปรินิพพ...
26/05/2021

"วันวิสาขบูชา" เป็นวันสำคัญยิ่งทางพระพุทธศาสนา เพราะเป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ คือเกิด ได้ตรัสรู้ คือสำเร็จ ได้ปรินิพพาน คือ ดับ เกิดขึ้นตรงกันทั้ง 3 คราวคือ
ประสูติ เป็นวันประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ ณ ลุมพินีสถาน เมื่อวันเพ็ญเดือน ๖ ตรงกับวันศุกร์ขึ้น ๑๕ ค่ำ ปีจอ ก่อนพุทธศักราช ๘๐ ปี เมื่อพระนางสิริมหามายา พระมเหสีของพระเจ้าสุทโธทนะ แห่งกรุงกบิลพัสดุ์ ทรงพระครรภ์แก่จวนจะประสูติ พระนางได้รับพระบรมราชานุญาต จากพระสวามี ให้แปรพระราชฐานไปประทับ ณ กรุงเทวทหะ ซึ่งเป็นพระนครเดิมของพระนาง เพื่อประสูติในตระกูลของพระนางตามประเพณีนิยมในสมัยนั้น
ขณะเสด็จแวะพักผ่อนพระอิริยาบถใต้ต้นสาละ ณ สวนลุมพินีวัน พระนางก็ได้ประสูติพระโอรส ณ ใต้ต้นสาละนั้น ครั้นพระกุมารประสูติได้ ๕ วัน ก็ได้รับการถวายพระนามว่า "สิทธัตถะ" ซึ่งต่อมาพระองค์ได้ออกบวช จนบรรลุอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ (ญาณอันประเสริฐสูงสุด) สำเร็จเป็นพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า จึงถือว่าวันนี้เป็นวันประสูติของพระพุทธเจ้า
ตรัสรู้ เป็นวันที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ อนุตตรสัมโพธิญาณ ณ ร่มพระศรีมหาโพธิบัลลังก์ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม เมื่อวันเพ็ญเดือน ๖ ก่อนพุทธศักราช ๔๕ ปี การตรัสอริยสัจสี่ คือของจริงอันประเสริฐ ๔ ประการ ของพระพุทธเจ้า เป็นการตรัสรู้อันยอดเยี่ยม ไม่มีผู้เสมอเหมือน วันตรัสของพระพุทธเจ้า จึงจัดเป็นวันสำคัญ เพราะเป็นวันที่ให้เกิดมีพระพุทธเจ้าขึ้นในโลกชาวพุทธทั่วไป จึงเรียกวันวิสาขบูชาว่า วันพระพุทธ(เจ้า) อันมีประวัติว่า พระมหาบุรุษทรงบำเพ็ญเพียรต่อไป ที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์นั้น ทรงเริ่มบำเพ็ญสมาธิให้เกิดในพระทัย เรียกว่าการเข้า "ฌาน" เพื่อให้บรรลุ "ญาณ" จนเวลาผ่านไปจนถึง
ยามต้น : ทรงบรรลุ "ปุพเพนิวาสานุติญาณ" คือทรงระลึกชาติในอดีตทั้งของตนเองและผู้อื่น
* ยามสอง : ทรงบรรลุ "จุตูปปาตญาณ" คือการรู้แจ้งการเกิดและดับของสรรพสัตว์ทั้งหลาย
* ยามสาม : ทรงบรรลุ "อาสวักขญาณ" คือรู้วิธีกำจัดกิเลสด้วย อริยสัจสี่ ( ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ) ได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในคืนวันเพ็ญเดือน ๖ ซึ่งขณะนั้น พระพุทธองค์มีพระชนมายุได้ ๓๕ พรรษา
ธรรมะที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ (อริยสัจ ๔) หรือ ความจริงอันประเสริฐ ๔ ประการ ได้แก่...
1. ทุกข์ คือ ความลำบาก ความไม่สบายกายไม่สบายใจ
2. สมุทัย คือ เหตุที่ทำให้เกิดทุกข์
3. นิโรธ คือ ความดับทุกข์ และ
4. มรรค คือ ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับแห่งทุกข์
ทั้ง ๔ ข้อนี้ถือเป็นสัจธรรม เรียกว่า อริยสัจ เพราะเป็นสิ่งที่พระอริยเจ้าทรงค้นพบ เป็นสัจธรรมชั้นสูง ประเสริฐกว่าสัจธรรมสามัญทั่วไป
3. ปรินิพพาน เป็นวันปรินิพพานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ ร่มไม้รัง (ต้นสาละ) คู่ ในสาลวโนทยานของมัลลกษัตริย์ ใกล้เมืองกุสินารา เมื่อวันเพ็ญเดือน ๖ ก่อนพุทธศักราช ๑ ปี วันที่พระพุทธเจ้าเสด็จเข้าสู่ปรินิพพาน (ดับสังขารไม่กลับมาเกิดสร้างชาติ สร้างภพอีกต่อไป)
การปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ก็ถือเป็นวันสำคัญของชาวพุทธทั่วโลกเพราะชาวพุทธทั่วโลกได้สูญเสียดวงประทีป ของโลก เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่และครั้งสำคัญชาวพุทธทั่วไปมีความเศร้าสลด เสียใจและอาลัยสุดจะพรรณนา อันมีประวัติว่าเมื่อพระพุทธองค์ได้ตรัสรู้และแสดงธรรมมาเป็นเวลานานถึง ๔๕ ปี ซึ่งมีพระชนมายุได้ ๘๐ พรรษา ได้ประทับจำพรรษา ณ เวฬุคาม ใกล้เมืองเวสาลี แคว้นวัชชี ในระหว่างนั้นทรงประชวรอย่างหนัก
ครั้นเมื่อถึงวันเพ็ญเดือน ๖ พระพุทธองค์กับพระภิกษุสงฆ์ทั้งหลาย ก็ไปรับภัตตาหารบิณฑบาตที่บ้านนายจุนทะ ตามคำกราบทูลนิมนต์ พระองค์เสวยสุกรมัททวะที่นายจุนทะตั้งใจทำถวาย ก็เกิดอาพาธลง แต่ทรงอดกลั้นมุ่งเสด็จไปยังเมืองกุสินารา ประทับ ณ ป่าสาละ เพื่อเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ในราตรีนั้น ได้มีปริพาชกผู้หนึ่ง ชื่อสุภัททะขอเข้าเฝ้า และได้อุปสมบทเป็น
พระพุทธสาวกองค์สุดท้าย เมื่อถึงยามสุดท้ายของคืนนั้น พระพุทธองค์ก็ทรงประทานปัจฉิมโอวาทว่า "ดูก่อนภิกษุทั้งหลายอันว่าสังขารทั้งหลายย่อมมีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงยังกิจทั้งปวงอันเป็นประโยชน์ของตนและประโยชน์ของผู้อื่นให้ บริบูรณ์ด้วยความไม่ประมาทเถิด" หลังจากนั้นก็เสด็จเข้าดับขันธ์ปรินิพพาน ในราตรีเพ็ญเดือน ๖ นั้น

ส.ป.ก. อนุมัติเงินกู้ 270 ล้าน ให้เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 ระลอกใหม่(การประชุม อกก.คง. ครั้งที่ 2/2564) https...
09/03/2021

ส.ป.ก. อนุมัติเงินกู้ 270 ล้าน ให้เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 ระลอกใหม่(การประชุม อกก.คง. ครั้งที่ 2/2564) https://kasetsmartnews1.blogspot.com/2021/03/270-covid-19-22564.html

วันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2564 ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.)เป็นประ...

รมช.มนัญญา ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรที่สูงเพชรบูรณ์ ชูแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ชมชิมพืชผักเมือง...
08/03/2021

รมช.มนัญญา ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรที่สูงเพชรบูรณ์ ชูแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ชมชิมพืชผักเมืองหนาว มีกิจกรรมน่าสนใจตลอดปี
รมช.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับฟังการบรรยายสรุปผลการดำเนินงานที่สำคัญของศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรที่สูงเพชรบูรณ์ ต.สะเดาะพง อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ โดยมีผลงานวิจัยด้านพืชและเทคโนโลยีการเกษตรที่สำคัญ ทั้งการเปรียบเทียบและทดสอบพันธุ์ การรักษาอนุรักษ์พันธุ์ ฯลฯ ได้แก่ มะคาเดเมีย กาแฟอะราบิกา อะโวกาโด ชา สตรอเบอร์รี่ พริก พืชตระกูลกะหล่ำปลี ไม้ดอกไม้ประดับ เพื่อให้ได้สายพันธุ์ดีมีคุณภาพ และนำผลงานวิจัยมาใช้ประโยชน์ในการพัฒนาการเกษตรด้านต่างๆ อีกทั้ง ได้เดินชมแปลงสตรอเบอร์รี่ และแปลงชาโยเต้ด้วย
นอกจากนี้ จุดเด่นของศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรที่สูงเพชรบูรณ์ คือ โครงการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์การเกษตร เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ให้นักท่องเที่ยวได้รับความรู้ด้านการเกษตร ตั้งแต่การผลิตจนถึงการเก็บเกี่ยวและแปรรูป พร้อมเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ด้านการเกษตร โดยมีฐานเรียนรู้ศาสตร์พระราชาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ฐานเรียนรู้มะคาเดเมีย ฐานเรียนรู้กาแฟอะราบิกา ฐานเรียนรู้แปลงพืชผัก ฐานเรียนรู้แปลงสตรอเบอร์รี่ โดยมีปฏิทินท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่น่าสนใจตลอดทั้งปี โดยในเดือนมกราคม
- เดือนกุมภาพันธ์ ชมชิมพืชผักเมืองหนาว สตรอเบอร์รี่ เดือนมีนาคม - เดือนเมษายน ชมดอกกาแฟอะราบิกาบานสะพรั่ง เดือนพฤษภาคม - เดือนมิถุนายน เก็บเกี่ยวผลผลิตบ๊วย เดือนกรกฎาคม - เดือนสิงหาคม ชมชิมวะโวคาโดและพลับหวาน เดือนกันยายน - เดือนตุลาคม เก็บเกี่ยวผลผลิตกาแฟอะราบิกา มะคาเดเมีย และแปรรูปผลผลิต เดือนพฤศจิกายน – เดือนธันวาคม ชมไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาว และสัมผัสอากาศเย็น

ฝนหลวงฯ ช่วยดับไฟป่า พื้นที่ภาคเหนือต่อเนื่อง นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า กรมฝนหลวงและ...
21/02/2021

ฝนหลวงฯ ช่วยดับไฟป่า พื้นที่ภาคเหนือต่อเนื่อง
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ยังคงดำเนินการวางแผนและเตรียมพร้อมปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้ง การเติมน้ำในเขื่อน และอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำน้อยกว่า 30% การบรรเทาปัญหาพายุลูกเห็บ รวมถึงการบรรเทาปัญหาหมอกควันไฟป่า ซึ่งได้รับความ
ร่วมมือจากกองทัพอากาศและกองทัพบก ในการสนับสนุนอากาศยานและกำลังพลเพิ่มเติม เพื่อให้การปฏิบัติการฝนหลวงเกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อพี่น้องประชาชน ซึ่งจากผลการปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวานนี้ (18 ก.พ. 2564) หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดเชียงใหม่ ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงโดยใช้เครื่องบิน Casa จำนวน 2 ลำ ปฏิบัติภารกิจในขั้นตอนที่ 3 (โจมตี)
เพื่อช่วยเหลือพื้นที่ประสบปัญหาหมอกควันและไฟป่า ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่ป่าไม้ อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย
นายสุรสีห์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการช่วยเหลือบรรเทาสถานการณ์หมอกควันและไฟป่า ทางกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้มีการปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าช่วยเหลือพื้นที่ภาคเหนือมาอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ ได้สนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 1 ลำ บรรทุกน้ำจำนวน 7,500 ลิตร ช่วยดับไฟป่าบริเวณเขาดอยหลวง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
จำนวน 15 เที่ยวบิน และวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2564 บรรทุกน้ำจำนวน 3,000 ลิตร ดับไฟป่าบริเวณเขาดอยหลวง อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 6 เที่ยวบิน ทั้งนี้ ภารกิจดังกล่าวเป็นการทำงานบูรณาการร่วมกันระหว่างกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกรมฝนหลวงและการบินเกษตร
อย่างไรก็ตาม หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงฯ 8 หน่วย ทั่วทุกภูมิภาค ยังคงติดตามสภาพอากาศเป็นประจำทุกวัน เพื่อวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำในทุกพื้นที่
ทั้งนี้ เกษตรกรและพี่น้องประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวง
และติดตามข้อมูลข่าวสารกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ทางเพจ Facebook, Line official account, Instagram, Twitter และเว็บไซต์กรมฝนหลวงและการบินเกษตร หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่ หรือหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100

ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ตรวจความพร้อมรบ ของเรือหลวงตากสิน เพื่อเตรียมการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2564วันที่ 11 กุมภาพันธ์...
12/02/2021

ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ตรวจความพร้อมรบ ของเรือหลวงตากสิน เพื่อเตรียมการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2564
วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 พล.ร.อ.สุทธินันท์ สมานรักษ์ ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ตรวจความพร้อมรบของ ร.ล.ตากสิน เพื่อให้มีความพร้อมในการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2564 ซึ่งมีการฝึกการปฏิบัติการของกองเรือเฉพาะกิจปฏิบัติการระยะไกล และการ
ฝึกยิงอาวุธที่มีความสำคัญ โดยเน้นย้ำในการฝึกให้กำลังพล มีความพร้อมทั้งด้านองค์บุคคล (ความรู้ ร่างกาย) องค์วัตถุ (ยุทโธปกรณ์) และยุทธวิธี (การปฏิบัติ) รวมทั้งรับทราบปัญหา ข้อขัดข้องในการเตรียมการฝึกของเรือ เพื่อให้กำลังทางเรือของกองเรือ
ยุทธการที่เข้าร่วมฝึก ได้มีความรู้ กำลังใจ กำลังกาย พร้อมต่อการฝึกต่างๆ ที่กำลังจะมาถึง เป็นกำลังทางเรือที่มีความพร้อมรบ และพร้อมปฏิบัติการในทุกภารกิจ และเป็นกองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ
CR : ลูกจันทร์

11/02/2021
ส.ป.ก. ประชุมคณะกรรมการจัดงาน วันคล้ายวันสถาปนา ส.ป.ก. ครบรอบ 46 ปี ครั้งที่ 2/2564 https://kasetsmartnews1.blogspot.com...
06/02/2021

ส.ป.ก. ประชุมคณะกรรมการจัดงาน วันคล้ายวันสถาปนา ส.ป.ก. ครบรอบ 46 ปี ครั้งที่ 2/2564 https://kasetsmartnews1.blogspot.com/2021/02/46-22564.html

พันจ่าเอกประเสริฐ มาลัย รองเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมกา...

ตำรวจนครบาล 191 แถลงผลการจับกุมอาวุธปืน ตามนโยบายรัฐบาล ให้เจ้าหน้าที่ของภาครัฐปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายทุกประเภท สืบเนื่องจ...
05/02/2021

ตำรวจนครบาล 191 แถลงผลการจับกุมอาวุธปืน
ตามนโยบายรัฐบาล ให้เจ้าหน้าที่ของภาครัฐปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายทุกประเภท สืบเนื่องจากพล.ต.ต.สมบูรณ์เทียนขาว ผบก.สปพ. เปิดถึงปฏิบัติการตรวจค้นจับกุมการครอบครองอาวุธปืน เครื่องกระสุน และส่วนประกอบอาวุธปืนผิดกฎหมาย เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 บก.สปพ.
ได้เปิดปฏิบัติการตรวจค้นจับกุมการครอบครองอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนและส่วนประกอบอาวุธปืนผิดกฎหมาย จากข้อมูลสืบสวนการจับกุมและขยายผลตลอดจนแหล่งรับซื้อ แหล่งจำหน่าย กระจายตามเป้าหมายยังพื้นที่กรุงเทพมหานครและเขตปริมณฑล โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น, พล.ต.ต.สำราญ นวลมา
รอง ผบช.น.ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเร่งรัดติดตามจับกุมผลการปฏิบัติดังนี้ จากการขยายผลและจับกุมเพจ AP-YANYON หรือนักเลงใจ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนหาข่าว งานสายตรวจ 3 กก.สายตรวจ บก.สปพ. จึงได้สืบสวนจนทราบว่ามีบุคคลลักลอบสะสมอาวุธปืนเถื่อนเป็นจำนวนมาก จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และได้รับคำสั่งให้ดำเนินการ
สืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อมาเมื่อวันที่ 4 ก.พ.64 เวลาประมาณ 11.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมนาย กฤศ ชณยชญ์ฯ อายุ37ปี ภายในบ้านเลขที่ 54/20 หมู่ที่3 ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรีพร้อมของกลางดังนี้
1.อาวุธปืน ยี่ห้อ Colt(ปืนแปลง) ขนาด.32 สีเทา-ดำพร้อมซองกระสุน จำนวน1 กระบอก
2.อาวุธปืน ยี่ห้อ Colt(ปืนแปลง) ขนาด 9 มม. สีเทา-น้ำตาล พร้อมซองกระสุน จำนวน1 กระบอก
3.อาวุธปืน ยี่ห้อZoraki914-td (ปืนแปลง) ขนาด 9มม. สีดำ พร้อมซองกระสุน จำนวน1 กระบอก
4.อาวุธปืน ยี่ห้อWilson combat(ปืนแปลง) ขนาด .380 สีดำ พร้อมซองกระสุน จำนวน1 กระบอก
5.อาวุธปืน ยี่ห้อgkolvolgaevil (ปืนแปลง) ขนาด .380 สีดำ พร้อมซองกระสุน จำนวน1 กระบอก
6.อาวุธปืน ยี่ห้อ Rambo (ปืนแปลง) ขนาด .380 สีดำ พร้อมซองกระสุน จำนวน1 กระบอก
7.อาวุธปืน ยี่ห้อZoraki M906-TD000279(ปืนแปลง) ขนาด .380 สีดำ พร้อมซองกระสุน จำนวน1 กระบอก
8. อาวุธปืน ยี่ห้อZoraki925-td (ปืนแปลง) ขนาด .380 สีดำ พร้อมซองกระสุน 2 ซอง จำนวน1 กระบอก
9.อาวุธปืน ยี่ห้อColt เลขทะเบียน ม.ค.2/33990ขนาด .22แม็คนัม สีเทา-เงินพร้อมซองกระสุน จำนวน1 กระบอก
10.เครื่องกระสุนปืนขนาด .30นิ้ว จำนวน 56 นัด
11.อาวุธปืน แบลงค์กัน ยี่ห้อ waltherรุ่นp22 สีดำพร้อมซองกระสุน จำนวน1 กระบอก
12.อาวุธปืน แบลงค์กัน ยี่ห้อ sigsauerสีดำ พร้อมซองกระสุน จำนวน1 กระบอก
13.อาวุธปืน แบลงค์กัน ยี่ห้อ zoraki m906 สีดำ พร้อมซองกระสุน จำนวน1 กระบอก
14.อาวุธปืน ยี่ห้อ CZ Shadowsขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก
15.อาวุธปืน ยี่ห้อ G***k 19X ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก
16.อาวุธปืน ยี่ห้อ G***k 43 ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก
17.อาวุธปืน ยี่ห้อ Bull arms. ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก
18.อาวุธปืน ยี่ห้อ Kimber ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก
19.อาวุธปืน ยีห้อ Kriss Vector ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก
20.อาวุธปืนลูกซอง Derya MK12 ขนาด 12g จำนวน 1 กระบอก
21.อาวุธปืน Rifle ยี่ห้อ P.O.F. ขนาด .308 จำนวน 1 กระบอก
22.เครื่องกระสุนปืน ขนาด 5.56 มม. จำนวน 1,180 นัด
23.เครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 150 นัด
24.เครื่องกระสุนปืนลูกซอง ขนาด 12g จำนวน 25 นัด
25.เครื่องกระสุนปืนลูกซอง ขนาด 12g จำนวน 1 ลัง 250 นัด
รวมทั้งสิ้น อาวุธปืนรวมทั้งหมด จำนวน 20 กระบอก และเครื่องกระสุนปืน จำนวน 1,661 นัด โดยกล่าวหาว่า“มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,ครอบครองปืนมีทะเบียนของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต, ครอบครองยุทธภัณฑ์ (กระสุนปืนขนาด .30นิ้ว)โดยไม่ได้รับอนุญาต” จากนั้นได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากการตรวจสอบประวัติ
อาชญากรรม ตรวจสอบแล้วไม่พบประวัติการกระทำความผิดแต่อย่างใด บช.น. ขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด - 19 แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและยาเสพติดอย่างเคร่งครัด พบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิด เกี่ยวกับการจำหน่ายยาเสพติด หรือสิ่งของผิดกฎหมายในโซเชียลมีเดีย โปรดแจ้งสายด่วน ๑๙๑หรือสถานีตำรวจท้องที่

ส.ป.ก. ร่วมประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนงานนโยบายสำคัญและการแก้ไขปัญหาภาคเกษตร ครั้งที่ 1/2564 https://kasetsmartnews1.blog...
05/02/2021

ส.ป.ก. ร่วมประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนงานนโยบายสำคัญและการแก้ไขปัญหาภาคเกษตร ครั้งที่ 1/2564 https://kasetsmartnews1.blogspot.com/2021/02/12564.html

นายสุริยน พัชรครุกานนท์ รองเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ได้รับมอบหมายจากท่านเลขาธิกา...

ส.ป.ก. ประชุมคณะกรรมการพิจารณาการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ปี 2564 https://kasetsmartnews1.blogspot.com/2021/02/2...
03/02/2021

ส.ป.ก. ประชุมคณะกรรมการพิจารณาการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ปี 2564 https://kasetsmartnews1.blogspot.com/2021/02/2564.html

พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย รองเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมก.....

กรมฝนหลวงฯ เปิดปฏิบัติการฝนหลวงสู้ภัยแล้ง ประจำปี 2564 พร้อมตั้งหน่วยปฏิบัติการทั่วประเทศ เร่งช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรแล...
02/02/2021

กรมฝนหลวงฯ เปิดปฏิบัติการฝนหลวงสู้ภัยแล้ง ประจำปี 2564 พร้อมตั้งหน่วยปฏิบัติการทั่วประเทศ เร่งช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและพี่น้องประชาชน
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายให้ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดปฏิบัติการฝนหลวงสู้ภัยแล้งประจำปี 2564 พร้อมด้วย นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ และ นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ณ สนามบินนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อแสดงถึงความพร้อมของหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงทุกหน่วยที่จะออกปฏิบัติการฝนหลวง และสร้างขวัญกำลังใจ
แก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ โดยในช่วงเช้าได้มีการจัดพิธีสงฆ์เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน หลังจากนั้นประธานได้ตรวจแถวชุดปฏิบัติการฝนหลวง 10 ชุด และคล้องพวงมาลัยให้กับนักบินที่ไปประจำการ ณ ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภูมิภาคต่าง ๆ ประกอบด้วย ชุดปฏิบัติการของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร 7 ชุด ชุดปฏิบัติการฝนหลวงกองทัพอากาศ 1 ชุด ชุดปฏิบัติการฝนหลวงกองทัพบก 1 ชุด และชุดอากาศยานปีกหมุน 1 ชุด หลังจากนั้นประธานในพิธีพร้อมด้วยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ร่วมกันปล่อยขบวนคาราวานเครื่องบินฝนหลวงออกปฏิบัติการทั่วประเทศ
ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวว่า ตามที่สถานการณ์ภัยแล้งในปี 2564 มีแนวโน้มที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นกว่าทุกปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะเกิดขึ้นเป็นระยะเวลานาน จึงทำให้ส่งผลกระทบเรื่องการขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคน้ำเพื่อทำการเกษตร รวมถึงเขื่อนและอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ ที่มีปริมาณน้ำน้อยในขณะนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้มอบหมายให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ในฐานะหน่วยงานดูแลบริหารจัดการน้ำในชั้นบรรยากาศ เร่งปฏิบัติ
การฝนหลวงเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้รวดเร็วมากขึ้น จากปกติที่มีการเริ่มปฏิบัติการฝนหลวงในวันที่ 1 มีนาคมของทุกปี มาเป็นวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ในวันนี้ โดยได้น้อมนำศาสตร์ตำราฝนหลวงพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็นแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้แก่เกษตรกรและผู้ใช้น้ำทั่วทั้งประเทศ รวมถึงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้กับระบบบริหารจัดการ
น้ำของประเทศด้วย ด้าน นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับในปี 2564 มีแผนปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่ประสบภัยแล้ง และสร้างความชุ่มชื้นให้กับป่าไม้ การเติมน้ำต้นทุนให้กับอ่างเก็บน้ำและเขื่อนต่างๆ ของประเทศ ป้องกันการเกิดไฟป่าและบรรเทาปัญหาหมอกควัน รวมทั้งสถานการณ์ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) เกินเกณฑ์มาตรฐานซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนทั่วไปพื้นที่ภาคเหนือ ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวัน
ออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก เฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกประจำปี 2564 ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2564ของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงประจำ 5 ภูมิภาค จำนวน 7 ศูนย์ ประกอบด้วย
1.ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือตอนบน ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดเชียงใหม่ ณ สนามบินกองบิน 41 อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีเครื่องบินกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ชนิด CASA จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกองทัพอากาศ ชนิด ALPHA JET จำนวน 1และตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดตาก ณ สนามบินท่าอากาศยานตาก อำเภอเมือง จังหวัดตาก โดยมีเครื่องบินกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ชนิด CASA จำนวน 2 ลำ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป
2.ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือตอนล่าง ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดพิษณุโลก ณ กองบิน 46 อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยมีเครื่องบินกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ชนิด CASA จำนวน 2 ลำ และชนิด Super King Air จำนวน 1 ลำ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป
3. ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคกลาง ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดนครสวรรค์ ณ สนามบินนครสวรรค์ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ โดยมีเครื่องบินกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ชนิด CARAVAN จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินของกองทัพบก ชนิด CASA จำนวน 1 ลำ และตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดกาญจนบุรี ณ สนามบินกาญจนบุรี ค่ายสุรสีห์ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีเครื่องบินของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ชนิด CARAVAN จำนวน 2 ลำ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป
4. ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดอุดรธานี ณ สนามบินกองบิน 23 อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี โดยมีเครื่องบินกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ชนิด CNจำนวน 1 ลำ และ ตั้งฐานเติมสารฝนหลวงจังหวัดขอนแก่น ณ สนามบินท่าอากาศยานขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป
5. ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดบุรีรัมย์ ณ ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีเครื่องบินกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ชนิด CARAVAN จำนวน 2 ลำ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป
6. ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออก ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดระยอง ณ สนามบินอู่ตะเภา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง โดยมีเครื่องบินกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ชนิด CARAVAN จำนวน 2 ลำ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป
๗. ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดสุราษฎร์ธานี ณกองบังคับการกองบิน 7อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีเครื่องบินกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ชนิด CN จำนวน ๑ ลำ และ ตั้งหน่วยปฏิบัติการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ณ ท่าอากาศยานหัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์โดยมีเครื่องบินกรมฝนหลวงและการบินเกษตรชนิดCARAVAN 2 ลำ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป
นายสุรสีห์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการจัดงานพิธีเปิดปฏิบัติการฝนหลวงสู้ภัยแล้ง ประจำปี 2564 กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้รับเกียรติจาก ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ผู้แทนผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ข้าราชการและแขกผู้มีเกียรติ ร่วมงานในครั้งนี้ ซึ่งทางกรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้มีการจัดงานภายใต้มาตรการป้องกันการ
แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด 19 มีการจัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดลงทะเบียนและตรวจวัดอุณภูมิผู้เข้าร่วมงาน การให้บริการเจลแอลกอฮอล์ประจำจุดต่าง ๆ การเว้นระยะห่างเพื่อป้องกันโรค และกำหนดให้ผู้ร่วมงานสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดทั้งงาน

ที่อยู่

Bangkok

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Maddog Newsonlineผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

วิดีโอทั้งหมด

แชร์

ตำแหน่งใกล้เคียง บริษัท สื่อ