THE STUDY TIMES สำนักข่าววัยเรียน
Teenage News Agency

(22 ม.ค.68) โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน ออกประกาศปิดการเรียนการสอนเป็นเวลา 2 วัน ตั้งแต่วันอังคารที่...
22/01/2025

(22 ม.ค.68) โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน ออกประกาศปิดการเรียนการสอนเป็นเวลา 2 วัน ตั้งแต่วันอังคารที่ 23 มกราคม ถึงวันพุธที่ 24 มกราคม 2568 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่และผลกระทบจากปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ซึ่งอยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของนักเรียนและบุคลากร
ประกาศดังกล่าวระบุว่ามาตรการที่โรงเรียนดำเนินการ ได้แก่:
1. ปิดการเรียนการสอนในวันดังกล่าว
2. งดกิจกรรมต่าง ๆ ที่มีการรวมตัวของนักเรียน
3. ให้นักเรียนเรียนผ่านระบบออนไลน์แทนการเข้าเรียนปกติ
4. บุคลากรปฏิบัติงานจากที่พักอาศัยของตนเอง (work from home) โดยพร้อมติดต่อประสานงานกับผู้ปกครองและนักเรียนตามความจำเป็น
ทั้งนี้ โรงเรียนยังได้แจ้งให้ผู้ปกครองเข้าร่วมประชุมในวันเสาร์ที่ 25 มกราคม 2568 ตามกำหนดเดิม เพื่อรับทราบสถานการณ์และแนวทางปฏิบัติในอนาคต
ทางโรงเรียนยืนยันว่าจะติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศอย่างใกล้ชิดและออกประกาศเพิ่มเติมหากมีการเปลี่ยนแปลง

#ฝุ่นpm25
#เรียนออนไลน์
#สาธิตปทุมวัน

(22 ม.ค.68) ในยุคที่ ภาษา กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยบนเวทีโลก โรงเรียนนานาชา...
22/01/2025

(22 ม.ค.68) ในยุคที่ ภาษา กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยบนเวทีโลก โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ซิตี้ แคมปัส ได้ประกาศเปิดตัว 'โปรแกรมฮั่นชิง' (Hanqing Bilingual Pathway) หลักสูตรใหม่ที่เน้นการเรียนรู้สองภาษา คือ จีนกลางและอังกฤษ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ปกครองและแนวโน้มของโลก
อแมนดา เดนนิสัน ครูใหญ่และครูผู้บริหารรุ่นก่อตั้งโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี เปิดเผยว่า หลักสูตรฮั่นชิงจะเริ่มเปิดการเรียนการสอนในปี 2568 โดยรับนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้น Early Years 1-2 (อายุ 3-4 ปี) หลักสูตรนี้จะมีการจัดสัดส่วนการเรียนการสอนเป็น ภาษาอังกฤษ 45% ภาษาจีน 45% และภาษาไทย 10% สอนโดยครูผู้เชี่ยวชาญที่มีคุณวุฒิเทียบเท่ากับใบรับรองการสอนของประเทศอังกฤษ
“โปรแกรมนี้มุ่งเน้นการปูพื้นฐานวิชาการให้กับเด็กตั้งแต่อายุยังน้อย โดยมุ่งหวังให้เด็กมีทักษะภาษาที่แข็งแกร่งในระดับเจ้าของภาษา” เดนนิสันกล่าว พร้อมเสริมว่า “ภาษาจีนเป็นหนึ่งในภาษาที่มีการใช้แพร่หลายทั่วโลก ขณะที่ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากล การเรียนรู้สองภาษานี้จะช่วยเปิดโอกาสและสร้างความได้เปรียบในอนาคต”
สำหรับนักเรียนที่เข้าร่วมโปรแกรมฮั่นชิง จะต้องเรียนจนจบระดับ Year 6 (เทียบเท่าประถมศึกษาปีที่ 6) โดยโรงเรียนตั้งเป้าหมายให้เด็กมีความสามารถด้านภาษาจีนในระดับ HSK 3-4 และพร้อมสำหรับการเรียนหลักสูตร IGCSE และ A-Level ในระบบการศึกษาอังกฤษ ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพในการแข่งขันในตลาดแรงงานระดับโลก
ผู้ปกครองให้ความสนใจสูง ค่าเทอมเริ่มต้น 6 แสนบาทต่อปี หลักสูตรฮั่นชิงได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากผู้ปกครอง โดยเฉพาะกลุ่มคนไทยที่มองว่าการเรียนรู้ 3 ภาษา ได้แก่ ไทย จีน และอังกฤษ จะช่วยสร้างอนาคตที่ดีให้กับลูก ในขณะที่ผู้ปกครองชาวจีนยังคงให้ความสนใจในหลักสูตรภาษาอังกฤษล้วนมากกว่า
ค่าเล่าเรียนสำหรับโปรแกรมฮั่นชิงมีราคาใกล้เคียงกับหลักสูตรภาษาอังกฤษ ได้แก่
Early Years 1: 662,100 บาทต่อปี

Early Years 2: 697,200 บาทต่อปี

Years 1-2: 783,300 บาทต่อปี

Years 3-4: 840,300 บาทต่อปี

Years 5-6: 869,400 บาทต่อปี
โรงเรียนยังมีแผนในอนาคตที่จะเปิดคอร์สสอนภาษาจีนสำหรับผู้ปกครอง รวมถึงขยายไปยังกลุ่มบุคคลทั่วไปที่สนใจเรียนรู้เพิ่มเติม เพื่อสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ที่ครอบคลุมทุกช่วงวัย การเปิดตัวโปรแกรมฮั่นชิงครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี ในการพัฒนาการศึกษาเพื่อรองรับโลกยุคใหม่ที่มีความซับซ้อนและการแข่งขันสูง

#โรงเรียนสองภาษา
#ภาษาจีน
#โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี

เมื่อวันที่ (19 ม. ค. 68) พรรคคอมมิวนิสต์จีนและคณะรัฐมนตรีจีนได้เผยแพร่ “แผนการสร้างประเทศด้านการศึกษา (2024-2035)” ซึ่ง...
20/01/2025

เมื่อวันที่ (19 ม. ค. 68) พรรคคอมมิวนิสต์จีนและคณะรัฐมนตรีจีนได้เผยแพร่ “แผนการสร้างประเทศด้านการศึกษา (2024-2035)” ซึ่งเป็นแผนการที่มีการกำหนดกลยุทธ์และแผนงานอย่างชัดเจนเพื่อสร้างประเทศที่มีระบบการศึกษาชั้นนำภายในปี 2035 ในช่วง 10 ปีข้างหน้า ด้านการศึกษาจะพัฒนาไปในทิศทางใด?
ตั้งแต่การปฏิรูปและเปิดประเทศมา พรรคคอมมิวนิสต์จีนและคณะรัฐมนตรีได้เผยแพร่เอกสารแผนการพัฒนาในรูปแบบของ “แผนการการศึกษา” ซึ่งในแต่ละช่วงเวลามีความสำคัญในการกำหนดทิศทางของกลยุทธ์ วันนี้แผนการสร้างประเทศด้านการศึกษา (2024-2035) ได้กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนสำหรับการสร้างประเทศที่มีระบบการศึกษาชั้นนำในโลก โดยมีการพัฒนาในหลายด้าน เช่น การพัฒนาคุณภาพการศึกษาที่สูงขึ้น การลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและการขยายโอกาสการศึกษาที่หลากหลาย
李永智 (Li Yongzhi) ผู้อำนวยการของ 中国教育科学研究院 (China Academy of Educational Sciences) ได้กล่าวว่า การลดช่องว่างระหว่างพื้นที่ในเมืองและชนบทระหว่างโรงเรียนต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การศึกษามีความสมดุลยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายในการสร้างความสมดุลทั้งในระดับเทศบาลและระดับจังหวัด ด้านการศึกษาในระดับประถมและมัธยม จะเน้นการพัฒนาคุณภาพการศึกษาระดับประถม โดยมีการพัฒนาโครงสร้างการศึกษาระดับปฐมวัยในช่วงอายุ 2 ถึง 3 ปี ในระดับการศึกษาปริญญาตรี การขยายจำนวนการรับนักศึกษาในมหาวิทยาลัยและการขยายการผลิตบัณฑิตในสาขาต่างๆ ก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลจีนจะมุ่งเน้น
แผนการสองขั้นตอนเพื่อสร้างประเทศการศึกษา แผนการนี้ได้กำหนดแผนที่สองขั้นตอนเพื่อบรรลุเป้าหมาย
ภายในปี 2027 จะมีการบรรลุผลสำเร็จในระยะหนึ่งของการสร้างประเทศด้านการศึกษา
ภายในปี 2035 ประเทศจีนจะสร้างการศึกษาที่มีคุณภาพและมีระบบการศึกษาที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก การปฏิรูปที่มีเป้าหมายในการแก้ไขปัญหา แผนการนี้ยังได้เสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาหลักที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาที่มีการขาดแคลนหรือไม่ตรงกับความต้องการของตลาด และการฝึกอบรมบุคลากรที่ไม่เพียงพอในหลายสาขา


#ปฏิรูปการศึกษา
#การศึกษา
#การศึกษาในจีน
#จีนแผนการสร้างประเทศด้านการศึกษา

(19 ม.ค. 68) ประกาศเปิดรับสมัครทุนการศึกษาระดับปริญญาโท เพื่อศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยซีอานเจียวทง สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจ...
19/01/2025

(19 ม.ค. 68) ประกาศเปิดรับสมัครทุนการศึกษาระดับปริญญาโท เพื่อศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยซีอานเจียวทง สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำปี 2568
มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เปิดรับสมัครทุนการศึกษาระดับปริญญาโท ในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวน 3 ทุน
สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ - 24 มกราคม 2568
สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.princess-it.org/.../2025-xjtu-announce-apply/
ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=929520192726155&id=100070045472538&mibextid=wwXIfr&rdid=9trYmYrNS3aiNG0v #


#มหาวิทยาลัยซีอานเจียวทง
#สาธารณรัฐประชาชนจีน
#ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท

(18 ม.ค. 68) ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ดร.รัตนา แซ่เล้า ผู้รับพระราชทานทุนอานันทมหิดล แผนกธรรมศาสตร์ ประจำปี 2549 ได้เด...
18/01/2025

(18 ม.ค. 68) ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ดร.รัตนา แซ่เล้า ผู้รับพระราชทานทุนอานันทมหิดล แผนกธรรมศาสตร์ ประจำปี 2549 ได้เดินทางไปทั่วประเทศกับรายการ 1 ในพระราชดำริ สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 Mcot HD โดยมีคุณเมษนี สถาวรินทุ เป็นโปรดิวเซอร์ เพื่อรังสรรค์สารคดีคุณภาพนำเสนอมุมมองด้านการศึกษาของประเทศไทย เป็นจำนวนกว่า 52 ตอน ผ่านบุคลากร, นักวิชาการ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่างๆ รวมถึงพลังบวกที่เกิดขึ้นในหลายโรงเรียนจากทั่วประเทศ ทำให้มองเห็นถึงภาพรวมของปัญหาที่เกิดขึ้น และยังได้เห็นถึงการปรับตัวในหลายโรงเรียนให้เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ ซึ่งการพัฒนาการศึกษาเป็นหน้าที่ของเราทุกคน ที่จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงก้าวไปข้างหน้า ที่สำคัญคือต้องทำอย่างต่อเนื่องและเชื่อมโยงในทุกระบบ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ สามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ได้มีบทสรุปจากการทำงาน ตกผลึกเป็นความเห็นที่น่าสนใจ
ดร.รัตนา แซ่เล้า กล่าวว่า “ตลอดการทำงานที่ผ่านมา ได้ทำให้เห็นพลังบวกที่มีอยู่ในโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศไทย แต่ที่ประทับใจมากที่สุดคือโรงเรียนอุดมสิทธิศึกษา อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เพราะถือเป็นกรณีศึกษาที่มีหลายมิติคือเป็นชุมชนมอญ กะเหรี่ยง และชุมชนไทย แต่อยู่ร่วมกันอย่างสันติ ภายใต้เมตตาคุณของหลวงพ่ออุตตมะ ที่ได้สร้างโรงเรียนด้วยการมอบที่ดินให้เมื่อ 49 ปีที่แล้ว ทำให้เด็กนักเรียนได้อ่านออกเขียนได้ โดยใช้ภาษาไทยเป็นเครื่องมือทำให้คนหลายชาติพันธุ์ได้สามัคคี และอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ซึ่งในปัจจุบันได้มีการนำเอาอาชีวะลักษณะที่ 3 เข้ามาใช้ เป็นการสร้างพื้นที่ให้กับนักเรียนได้มีงานทำ เกิดเป็นชุมชนที่เข้มแข็ง
นอกจากนี้ยังมีหลายโรงเรียนที่ได้น้อมนำพระราโชบายเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาใช้ เช่นที่โรงเรียนวังจันทร์วิทยา จ.ระยอง ซึ่งได้จัดทำ 25 ฐานการเรียนรู้ ก็ได้ทำให้นักเรียนสามารถพึ่งตัวเองอย่างยั่งยืน ซึ่งเราพบว่าในหลายโรงเรียนก็ได้นำเรื่องนี้ไปใช้ เพราะหัวใจหลักของการศึกษาคือต้องดูแลตัวเองและครอบครัวให้ได้ก่อน แล้วถึงจะไปดูแลสังคมและประเทศชาติได้
จากการทำงานมา 4 ปี ทำให้ได้บทเรียน 4 อย่างที่สำคัญคือ 1)สู้และไม่ท้อ การอยู่บนความขาดแคลนของทรัพยากร ซึ่งไม่เป็นความจริงเสมอไป หากเรารู้จักพัฒนาให้ได้ประโยชน์สูงสุด 2)หลักบวร การทำผ้าป่าได้แสดงให้เห็นความสามัคคีของชุมชน เหมือนที่โรงเรียนบ้านห้วยต้มชัยยะวงศาอุปถัมภ์ จ.ลำพูน ที่ได้อาศัยบารมีของหลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนามาพัฒนาโรงเรียน ทำให้ชาวปกาเกอะญอได้รับการศึกษา ซึ่งคือหลักบวร (บ้านวัดโรงเรียน) ที่เป็นอัตลักษณ์ที่น่าชื่นชมของประเทศไทย 3)การพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่น คือให้ท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษาของเด็ก คือเรียนในสิ่งที่สามารถนำมาใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน เช่น โรงเรียนวัดถนนกะเพรา จ.ระยอง ที่ได้สร้างนวัตกรน้อยเพื่อชุมชน การอยู่ในชุมชนประมง ทำให้คิดนำเอาเปลือกหอยมาผสมซีเมนต์ สร้างเป็นกระถางต้นไม้เพื่อนำไปขาย เป็นซอฟต์พาวเวอร์ของ อ.แกลง จ.ระยอง และ 4)การกระจายอำนาจ ทั้งในเรื่องหลักสูตร, งบประมาณ, บุคลากร และต้องให้ชุมชนมีอำนาจในการตัดสินใจของตัวเอง ซึ่งในปัจจุบันศูนย์กลางอำนาจยังอยู่ที่กระทรวงศึกษาธิการ ท้องถิ่นจะต้องมีบทบาทมากกว่านี้ เพราะเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับคนในชุมชนมากที่สุด”
ดร.รัตนา แซ่เล้า ยังได้กล่าวต่อไปว่า “ขอฝากไปยังทุกท่านในแวดวงการศึกษาไทย ให้มี 1)ความกล้า คือการกล้าที่จะทำสิ่งใหม่ให้กับชุมชน ทั้งในเรื่องหลักสูตรใหม่ๆ หรือการนำหลักสูตรท้องถิ่นมาใช้, การบริหารในทรัพยากรที่จำกัด, การเผชิญหน้ากับอุปสรรคต่างๆ 2)ศรัทธา คือการศรัทธาในตัวเด็ก ที่ในอนาคตเขาจะเป็นผู้ขับเคลื่อนประเทศชาติต่อไป และ 3)ความหวัง ต้องมีความเชื่อว่าสังคมในวันพรุ่งนี้เป็นวันแรกของชีวิตที่เหลืออยู่ ที่จะต้องมีสิ่งใหม่เกิดขึ้น อย่าจมปลักกับเรื่องหรือสิ่งเดิมๆ เราต้องสู้ไปด้วยกัน ทุกคนสามารถเป็นตัวผลักดันในการพัฒนาการศึกษาไทยได้ และสุดท้ายการทำงานด้านการศึกษาต้องทุ่มเทแบบ 360 องศา จึงอยากกราบขอบคุณสถาบันครอบครัว คือคุณพ่อกวงเม้ง และคุณแม่ปิติอร แซ่เล้า ที่เป็นกำลังใจเสมอมา”
ผู้สนใจสามารถเข้าไปชมคลิปการสัมภาษณ์เพิ่มเติม ได้ที่รายการ 1 ในพระราชดำริ ตอนความฝันอันสูงสุด สร้างพลังบวก เพื่อการศึกษาไทย ซึ่งทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 Mcot HD ร่วมกับทางมูลนิธิอานันทมหิดล ได้จัดทำขึ้น
โดยคลิกไปที่ https://www.youtube.com/watch?v=gVq2G-0B2YE&t=327s ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

#การศึกษา
#พลังบวก

(17 ม.ค.68) แนวคิดการห้ามนักเรียนใช้โทรศัพท์มือถือในช่วงเวลาเรียนได้รับการสนับสนุนอย่างรวดเร็วในหลายรัฐของสหรัฐฯ ทั้งจาก...
17/01/2025

(17 ม.ค.68) แนวคิดการห้ามนักเรียนใช้โทรศัพท์มือถือในช่วงเวลาเรียนได้รับการสนับสนุนอย่างรวดเร็วในหลายรัฐของสหรัฐฯ ทั้งจากพรรคการเมืองหลักทั้งสองฝ่าย โดยมีอย่างน้อย 8 รัฐ ได้แก่ แคลิฟอร์เนีย ฟลอริดา อินเดียนา ลุยเซียนา มินนิโซตา โอไฮโอ เซาท์แคโรไลนา และเวอร์จิเนีย ที่ได้ออกกฎหมายห้ามใช้โทรศัพท์มือถือในโรงเรียนภายในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และยังมีหลายรัฐที่กำลังพิจารณาข้อเสนอดังกล่าวในปีนี้
สำนักข่าวเอพี (AP) รายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา ว่า "การผลักดันห้ามใช้โทรศัพท์มือถือในโรงเรียนได้รับแรงผลักดันจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพจิตของเด็ก ๆ และการร้องเรียนจากครูที่พบว่าโทรศัพท์มือถือเป็นสิ่งรบกวนสมาธิในชั้นเรียน"
วิเวก มูรตี นายแพทย์ใหญ่ของสหรัฐฯ ซึ่งได้เรียกร้องให้สภาคองเกรสกำหนดให้มีการติดป้ายเตือนเกี่ยวกับผลกระทบจากการใช้โซเชียลมีเดียต่อชีวิตเยาวชน กล่าวว่า โรงเรียนควรกำหนดช่วงเวลาที่ปราศจากโทรศัพท์มือถือเพื่อช่วยให้เด็ก ๆ สามารถมีสมาธิในการเรียนรู้ได้เต็มที่
ข้อมูลจากศูนย์สถิติการศึกษาแห่งชาติระบุว่า 77% ของโรงเรียนในสหรัฐฯ ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือในโรงเรียนหากไม่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอน แต่ข้อมูลนี้อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด เนื่องจากไม่ได้หมายความว่านักเรียนทุกคนปฏิบัติตามข้อห้ามเหล่านี้ หรือว่าโรงเรียนทุกแห่งจะบังคับใช้ข้อห้ามอย่างเคร่งครัด


#โซเชียลมีเดีย
#นักเรียน
#โรงเรียนสหรัฐ

(16 ม.ค. 68) เว็บไซต์ TechCrunch รายงานว่าแพลตฟอร์มเรียนภาษาชื่อดัง Duolingo พบอัตราการสมัครเรียนภาษาจีนกลางของชาวอเมริก...
16/01/2025

(16 ม.ค. 68) เว็บไซต์ TechCrunch รายงานว่าแพลตฟอร์มเรียนภาษาชื่อดัง Duolingo พบอัตราการสมัครเรียนภาษาจีนกลางของชาวอเมริกันเพิ่มขึ้นถึง 216% ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสข่าวที่ TikTok อาจถูกแบนในสหรัฐฯ ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานบางส่วนหันไปใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจีนอย่าง Xiaohongshu หรือที่รู้จักในชื่อ RedNote แทน ซึ่งส่วนใหญ่มีคอนเทนต์ภาษาจีนเป็นหลัก อาจกระตุ้นทำให้ชาวอเมริกันสนใจเรียนภาษาจีนกลางเพิ่มขึ้น
ตามรายงานของ Duolingo การเรียนภาษาจีนกลางในสหรัฐฯ มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยยอดผู้เรียนเริ่มเพิ่มขึ้นตั้งแต่กลางเดือนมกราคม พร้อมกับจำนวนการดาวน์โหลดแอป Duolingo ที่เพิ่มขึ้นถึง 36% ในช่วงต้นเดือนเดียวกัน ซึ่งตรงกับช่วงที่สหรัฐฯ กำลังถกเถียงเรื่องการแบน TikTok นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ใช้จำนวนมากลงทะเบียนเข้าใช้งาน Xiaohongshu ส่งผลให้แพลตฟอร์มนี้ขึ้นเป็นอันดับ 1 บน App Store ในสหรัฐฯ
ในการสำรวจความคิดเห็นของผู้ใช้งานใหม่ Duolingo พบว่าหลายคนระบุว่าได้รู้จักแพลตฟอร์มผ่าน TikTok ซึ่งชี้ให้เห็นว่าแม้ TikTok จะเผชิญกับประเด็นทางกฎหมาย แต่ยังคงเป็นช่องทางสำคัญในการดึงดูดผู้ใช้งานใหม่
นอกจากนี้ Xiaohongshu ยังรายงานว่ามีผู้ใช้งานรายใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 700,000 บัญชีในเวลาเพียง 2 วัน แสดงถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นของโซเชียลมีเดียสไตล์จีนในสหรัฐฯ พร้อมสะท้อนว่าผู้ใช้งานชาวอเมริกันหลายคนไม่กังวลเกี่ยวกับประเด็นความเป็นส่วนตัวของข้อมูลมากนัก





#เรียนภาษาจีน

อย่างที่ทราบกันดีว่า การศึกษาคือรากฐานสำคัญของชีวิต และการได้เข้าเรียนในโรงเรียนชื่อดังคือจุดเริ่มต้นที่ดีและอาจเป็นความ...
16/01/2025

อย่างที่ทราบกันดีว่า การศึกษาคือรากฐานสำคัญของชีวิต และการได้เข้าเรียนในโรงเรียนชื่อดังคือจุดเริ่มต้นที่ดีและอาจเป็นความฝันของใครหลายคน แต่ใช่ว่าทุกคนจะสมหวังได้เข้าเรียนในโรงเรียนชื่อดังกันทุกคน เพราะโรงเรียนในฝันที่คาดหวังไว้นั้น ต่างเต็มไปด้วยคู่แข่งที่มีความคิดเช่นเดียวกัน กระทั่งกลายเป็นโรงเรียนที่เข้ายากที่สุดในไทย
ส่วนจะมีโรงเรียนไหนติดอันดับบ้างไปติดตามกันเลย

#โรงเรียนที่เข้ายากที่สุดในไทย

15/01/2025

🌍 จีนกับความสำเร็จด้านการศึกษา
จากการสอบ PISA ถึงการผลิตบัณฑิตปีละ 10 ล้านคน ทำไมจีนถึงกลายเป็นผู้นำด้านการศึกษาระดับโลก?
📚 การบ้าน ทรงผม เครื่องแบบ หรือการสอบหนักๆ ไม่ใช่ปัญหา แต่คือส่วนหนึ่งของความสำเร็จในแบบฉบับจีน


#การศึกษาจีน

#จีน
#ข่าวต่างประเทศ

(15 ม.ค. 68) รศ. ธีรวัฒน์ ประกอบผล อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง...
15/01/2025

(15 ม.ค. 68) รศ. ธีรวัฒน์ ประกอบผล อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า
"สัมภาษณ์ TCAS68...น่าห่วงกับการศึกษาไทย"
หลาย ๆ อย่างผมอาจคิดไปเองก็ได้ นักเรียนที่มาสัมภาษณ์ส่วนใหญ่ความรู้ดี และเด็กไทยยุคนี้เกรด 4.00 แยะมาก เด็กส่วนใหญ่คะแนนสูง ๆ ทั้งนั้น แต่ผมก็อยากแนะนำไปถึงเด็ก ๆ และครูแนะแนวในการแนะแนวเด็กนักเรียนครับ
มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งจะมีการรับหลายรูปแบบ แม้ว่า TCAS รอบยื่นผลงาน แต่บางมหาวิทยาลัยอาจมีโครงการย่อยลงไปอีกที่แตกต่างกันไป ซึ่งนักเรียนควรศึกษาเรื่องแบบนี้ด้วย เพื่อเป็นช่องทางของตัวเอง
วันนี้ผมได้สัมภาษณ์ในส่วนของโครงการ "เด็กดีมีที่เรียน" และ "เด็กที่มีความสามารถพิเศษ" เมื่อเราจะยื่นโครงการลักษณะนี้ คำว่าเป็นเด็กดี เราก็ต้องแสดงออกมาว่าเราดีจริง ๆ และดีจนมหาวิทยาลัยอยากจะรับเรา การที่เราไปเป็นอาสาสมัคร หรือช่วยงานเป็นจ๊อบเล็ก ๆ เราก็ต้องดูว่าคู่แข่งของเรานั้นน่าจะมีผลงาน หรือทำดีมากกว่าเราอีกหรือไม่ การนำเสนอผลงานที่เราเป็นจราจรหน้าโรงเรียนนั้นเพียงพอหรือไม่ที่จะแสดงว่าเราเป็นเด็กดี ดังนั้นหลาย ๆ อย่างควรพิจารณา
การนำผลงานมาใส่ในแฟ้มผลงานก็ควรจะเลือก ให้ความสำคัญในแต่ละงาน เรื่องใดสำคัญมากกว่า มีงานเรื่องเป็นการประกวดภายในโรงเรียน มีบางเรื่องเป็นการแข่งขันนานาชาติ แต่เขามาจัดที่โรงเรียนเราโรงเรียนเดียว แล้วแข่งกับต่างประเทศนั้น ก็ลองคิดดูว่าการแข่งขันแบบนี้น่าจะถือว่าเป็นนานาชาติหรือไม่
เมื่อผมสัมภาษณ์ผมมักจะให้เด็กเขียนและแสดงความรู้ออกมา ว่าเรารู้เรื่องนั้นจริง การนำเสนอของนักเรียนบางคนมักจะเตรียมมาพูดมากกว่าจะให้กรรมการถาม แต่แม้ว่าเรามีผลงานออกมาดีเมื่อกรรมการถามสิ่งที่เกี่ยวข้องกันก็ควรจะตอบได้ เช่น มีผลงานการพัฒนาแอพ พัฒนาโปรแกรม แต่เมื่อกรรมการถามให้ลองเขียนโปรแกรมง่าย ๆ เช่น อัลกอริทึม หรือโปรแกรมคำนวณดัชนีมวลกาย หรือตรวจสอบว่าจำนวนนี้เป็นจำนวนเฉพาะหรือไม่ ก็ควรจะตอบได้
นักเรียนบางคนเรียนได้เกรดวิทย์ 4 หมด แต่ถามเรื่องโมเมนตัม เรื่องไฟฟ้ากระแสตรง ไฟฟ้ากระแสสลับพื้น ๆ กลับตอบไม่ได้ แต่กลับบอกสูตรได้ นำสูตรมาแทนค่าได้
ผมมักจะมองใบ ป.พ.1 ของนักเรียน ดูว่าเรียนอะไรกันมาบ้าง น่าเสียดายนักเรียนบางคนบอกว่าเรียนไม่ค่อยตรงกันที่ควรเรียน บางโรงเรียนวิทยาการคำนวณสอนแต่หุ่นยนต์ แต่ก็ต้องดูว่าเด็กทุกคนไม่ได้ชอบหุ่นยนต์ บางคนอยากไปแบบอื่น อยากเขียนโปรแกรมพื้นฐานให้ได้ ก็เขียนไม่ได้เลย เพราะครูสอนแต่หุ่นยนต์นั่นเอง
และเมื่อดูในใบ ป.พ.1 ซึ่งจะติดตัวนักเรียนไป ยังมีการเขียนที่แตกต่างกัน ซึ่งผมไม่รู้ว่าสะกดผิด หรือผมเข้าใจผิดเอง บางโรงเรียนมีสอนวิชาการเขียนโปแกรมไพทอน บางโรงเรียนก็ไพทรอน สะกดไม่เหมือนกัน บางโรงเรียนสอนวิชา STAM บางโรงเรียนสอนวิชาท่อน้ำ 1 ท่อน้ำ 2 ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าผมคิดผิดไปเอง หรือเขียนแบบนี้ถูก แต่ที่แน่ ๆ สิ่งนี้จะติดตัวนักเรียนไปตลอด
ทั้งนี้ทั้งนั้นผมอาจคิดไปเองก็ได้ เด็กส่วนใหญ่ตอบคำถามผมได้ดี แต่ก็มีบางคนที่ตอบไม่ได้อย่างที่ผมกล่าวมา
แต่ก็ถือว่าเป็นความสำเร็จของการศึกษาไทยในยุคนี้ละครับ ที่เด็กได้คะแนนเกือบ 4 กันเกือบทั้งหมดเลยครับ น่าชื่นชมจริง ๆ เด็กไทยเกรดสูง ไม่ค่อยมีตกซ้ำชั้น
ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=8994559163958779&id=100002143555738&rdid=5wQVMkfNR9RKG6uO



(14 ม.ค. 68) ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ 13 มกราคมว่า คณะบริหารของเขาจะยกหนี้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาข...
14/01/2025

(14 ม.ค. 68) ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ 13 มกราคมว่า คณะบริหารของเขาจะยกหนี้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาของผู้กู้อีกกว่า 150,000 คน โดยมีเป้าหมายหลักไปที่ผู้ที่เข้าเรียนในสถาบันการศึกษาที่มีพฤติกรรมหลอกลวง, ผู้พิการถาวร และพนักงานในภาครัฐ
ไบเดนกล่าวว่า ขณะนี้มีชาวอเมริกันมากกว่า 5 ล้านคนที่ได้รับการยกหนี้จากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาภายใต้การบริหารของเขา
ในแถลงการณ์ของประธานาธิบดีไบเดนระบุว่า ผู้กู้ 150,000 คนที่ได้รับการยกหนี้ในครั้งนี้ประกอบด้วย ผู้กู้เกือบ 85,000 คนที่เข้าเรียนในสถาบันการศึกษาที่ฉ้อโกง, ผู้กู้ 61,000 คนที่มีอาการพิการถาวร และพนักงานบริการสาธารณะอีกกว่า 6,100 คน
กระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ ยังได้เผยแพร่แถลงการณ์เพิ่มเติมในวันเดียวกันว่า การยกหนี้ในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการยกหนี้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา 28 ครั้ง โดยตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน คณะบริหารของไบเดนได้ประกาศยกหนี้ไปแล้วกว่า 1.836 แสนล้านดอลลาร์ และการยกหนี้ในครั้งนี้มีมูลค่ามากกว่า 4.2 พันล้านดอลลาร์
ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ รัฐบาลของไบเดนต้องเผชิญกับอุปสรรคทางกฎหมายจากพรรครีพับลิกันและศาลที่คัดค้านแผนการแบ่งเบาภาระหนี้สินของนักเรียน ซึ่งเป็นคำมั่นสัญญาที่ไบเดนให้ไว้ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2563



(11 ม.ค. 68) ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นั่งล้อมวงพูดคุยกับตัวแทนเด็กและเยาวชนโรงเรียนใ...
11/01/2025

(11 ม.ค. 68) ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นั่งล้อมวงพูดคุยกับตัวแทนเด็กและเยาวชนโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ จากกรุงเทพมหานคร นครปฐม และสมุทรปราการ จำนวน 40 คน และผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ จำนวน 6 คน จากภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ประกอบด้วย โรงเรียนอนุบาลสุราษฎร์ธานี โรงเรียนนารีนุกูลอุบลราชธานี โรงเรียนสมาคมพยาบาลไทยจังหวัดน่าน และโรงเรียนมัธยมพระราชทานเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน
นายกฯ กล่าวว่า พี่จบจากโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย เป็นโรงเรียนหญิงล้วน จบแล้วไปต่อจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปี 1 ถึงปี 4 และเรียนปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษ เรียนจบสาขาโรงแรมเพราะว่าที่บ้านทำธุรกิจโรงแรมก็เลยอยากทำต่อ สรุปมาทำการเมืองแทน ความจริงอะไรที่เราแพลนไว้ไม่ได้ตามที่เราแพลนทุกอย่าง คำขวัญวันเด็กถึงได้พูดว่าพร้อมปรับตัวสู่อนาคตวันนี้น้อง ๆ มีคำถามอะไรถามได้เลย
โดยนักเรียนจากโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ เขตพระนคร กรุงเทพฯ ถามนายกฯว่าเหนื่อยหรือเปล่ากับการทำงานในตำแหน่งนายกฯ ซึ่งนายกฯ ตอบว่า คิดว่าทุกตำแหน่งเหนื่อยคนละแบบ ความจริงเป็นนายกฯเหนื่อยแต่เหนื่อยปกติ อาจจะมีวันหยุดน้อยหน่อย เพราะเราหยุดอาจจะโดนว่าก็เลยทำให้ไม่ได้หยุด เป็นนายกฯหยุดอาจจะผิดเล็กน้อย แต่ความจริงไม่เหนื่อยเพราะมีกำลังใจที่ดีเวลาผลงานที่ทำออกไปแล้ว เราทำด้วยความตั้งใจเพราะเราตั้งใจทำ บางคนบอกว่าได้รับประโยชน์มันอิ่มใจ ใจมันฟู สิ่งที่พี่กำลังจะทำเรื่องของทุนการศึกษา ถ้ามีใครได้มีโอกาสในการศึกษาเพิ่มขึ้นจากรัฐบาลนี้ เป็นสิ่งที่ทำให้หายเหนื่อย เพราะฉะนั้นต้องตั้งใจทำงานให้นโยบายออกเยอะๆ ประชาชนได้ประโยชน์เยอะ ก็จะหายเหนื่อย
จากนั้นเด็กนักเรียนจากโรงเรียนหอวัง เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ถามว่าเป็นผู้นำหญิงที่อายุน้อยที่สุดคิดว่ามันยากหรือไม่ นายกฯ ตอบว่า ทุกอายุมีความสามารถ การเป็นนายกฯอายุน้อยที่สุดสร้างประวัติศาสตร์ให้ประเทศไทย ความจริงแล้วคิดว่าเนื้องานของการทำงานไม่ได้ต่างกับผู้ชาย แน่นอนมันก็ยังมีในเรื่องของความบูลลี่นิดนึงในความที่เราเป็นผู้หญิง อันนี้ถ้าสังคมเปิดกว้างขึ้น โลกเปิดกว้าง มีการพัฒนาตรงนี้มากขึ้น และเข้าใจมากขึ้นคิดว่าตรงนี้จะน้อยลง ซึ่งเคยอ่านหนังสือเขาบอกว่านักการเมืองหญิงทั่วโลกจะถูกบูลลี่ในเรื่องต่างๆ สมมุติว่าเป็นผู้หญิงทำไมใส่ชุดนี้ ชุดนั้น แต่ผู้ชายใส่ชุดสูทชุดเดียวจบ ก็เลยไม่มีใครสนใจ สิ่งที่ยากคือตรงนี้ เพราะเราเป็นผู้หญิงโดนบูลลี่ในเรื่องนี้ ถามว่าทำอย่างไร เราต้องรู้คุณค่าของตัวเราก่อน ต้องรู้ว่าเรามาทำตรงนี้ เพื่ออะไร มีความตั้งใจอย่างไร เรามีดีอะไรบ้าง เราอยากทำเรื่องดี ๆ ให้ใครบ้าง อันนี้คือสิ่งที่เราตั้งใจ และต้องมีสติเยอะ ๆ คำว่าสติสอนกันมาตั้งแต่ตัวเล็ก ๆ ว่าให้มีสติ เราฟังผ่านๆ แต่เมื่อโตขึ้น เมื่อชีวิตมีเรื่องที่ท้าทายมากยิ่งขึ้น เราก็จะคิดว่าคำนี้มันสำคัญ พี่ขอบอกไว้ก่อน เผื่อโตขึ้นไปจะรู้สึกว่าคำนี้สำคัญมากคือคำว่าสติ
ต่อมาเด็กนักเรียนจากโรงเรียนราชวินิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ อยากถามนายกฯว่าอะไรคือแรงบันดาลใจของนายกฯ โดยนายกฯ ตอบว่า แรงบันดาลใจมีหลายอย่าง แรงบันดาลใจที่หนึ่ง คือ คุณพ่อพี่เคยเป็นนายกฯเคยทำนโยบายไว้ให้ประเทศชาติ จนถึงทุกวันนี้คือนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ซึ่งเปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนขั้ว เปลี่ยนฝั่ง นโยบายนี้ยังอยู่ ยังได้ประโยชน์จากนโยบายนี้ ทำให้พี่รู้สึกว่าพี่อยากทำนโยบายนี้ ไม่ว่าตัวพี่ไปอยู่ที่ไหน แต่ประโยชน์นี้ยังอยู่ที่ประชาชนอยู่ ถ้าทำได้พี่จะรู้สึกมีความภูมิใจ และรู้สึกว่าเรื่องดีๆยังตกอยู่ที่ประชาชนไม่ว่ามันจะเปลี่ยนไปกี่ยุค กี่สมัยก็ตาม อันนี้คือแรงบันดาลใจแรก ส่วนแรงบันดาลใจที่สอง พี่คิดว่าจากที่เห็นประเทศชาติวุ่นวายแล้วเรามีโอกาสมานั่งอยู่ในตำแหน่งนี้ทำเรื่องต่าง ๆ ให้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีได้ และแรงบันดาลใจที่สาม คือลูก ๆ อย่างน้อย ๆ ในเทอมที่เป็นนายกฯ พี่ได้สร้างสิ่งดี ๆ ไว้ให้กับประเทศ นั่นก็เป็นการเตรียมพร้อมอนาคตส่วนหนึ่งให้กับลูก ๆ ด้วย
จากนั้นเด็กจากโรงเรียนสมาคมพยาบาลไทยจังหวัดน่าน ถามนายกฯว่าได้เห็นพี่อิ๊งค์ทำกับข้าวให้ลูก ๆ กิน คิดว่าพี่อิ๊งค์เป็นแม่ที่ใจดี และมีเมนูอาหารที่จะมาแนะนำพวกหนูหรือไม่ โดยนายกฯ ยิ้มเขินก่อนตอบว่า พี่ตอบเสร็จแล้วไม่ต้องเชิญพี่ไปออกรายการทำอาหารที่ไหน สมัยตอนที่พี่มีลูกคนแรกลูกสาว 4 ขวบตอนนั้นเป็นช่วงโควิด-19 ทำอาหารให้ลูกทานได้ 3 มื้อ เพราะว่าเราอยู่บ้านไปซูเปอร์มาร์เกตเอง ซื้ออาหารทำเอง แต่ว่าลูกยังพูดไม่ได้ก็เลยไม่มีคอมเมนต์ว่าเขาชอบหรือไม่ชอบ แต่พอทานได้อยู่ และเมนูโปรดที่ทำกับลูกคือทำอะไรที่เด็ก ๆ ชอบทาน ที่บ้านปลูกผักปลอดสารพิษให้น้องๆไปเก็บผักและนำมาทอดกรอบ เราเรียกกันง่าย ๆ ในบ้านว่า “บุ้งกรอบ” มันทำง่าย ๆ ก็แค่ผสมแป้งสำเร็จรูปและชุปให้เด็ก ๆ ทอด ซึ่งคนถามว่าไม่กลัวร้อนหรอ ซึ่งเด็กประมาณ 3-4 ขวบ เราบอกเขาได้ อย่าไปห้าม ไปตัดโอกาสเขาทุกอย่าง เขาบอกว่าเด็กอย่าไปตัด แต่ให้เติม ทั้งนี้ ที่ทำเมนูบุ้งกรอบเพราะเด็ก ๆ ชอบทานผักบุ้งทอดกรอบ เมื่อเขาทำเองจะได้มีความภูมิใจในการทอดทีละอัน และอีกเมนูหนึ่งที่ทำง่าย ๆ คือให้ฝึกทอดไข่เจียว ให้เลือกรสชาติที่ชอบ แต่แม่คอยย้ำว่าอย่าเค็มเกินไป แต่จะให้ตนทำเมนูที่ยากมากกว่านี้คงต้องไปเรียน อย่างแกงพะแนง และแกงเขียวหวานแม่ทำไม่เป็น
ต่อจากนั้นนายกฯถ่ายภาพกับนักเรียน Thailand Zero Dropout นักเรียนนอกระบบการศึกษาที่ได้รับการนำกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาอีกครั้ง และกลุ่มเยาวชนที่ชนะการแข่งขันกีฬาประเภทจักรยานทรงตัวในรายการแข่ง RSR Runbike Championship in Songkhla ทั้งนี้ตัวแทนนักเรียนได้มอบตุ๊กตาทำมือให้กับนายกฯด้วย
ขณะที่บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึกคัก มีเด็ก ๆ ขอถ่ายรูปและขอลายเซ็นนายกฯ
ที่มา : Thaipost

#สำนักนายกรัฐมนตรี
#งานวันเด็ก
#แพทองธารชินวัตร
#วันเด็กแห่งชาติ

เมื่อวานนี้ (10 ม.ค. 68) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้จัดกิจกรรมมอบทุนสนับสนุนและสิ่งของสนับสนุ...
11/01/2025

เมื่อวานนี้ (10 ม.ค. 68) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้จัดกิจกรรมมอบทุนสนับสนุนและสิ่งของสนับสนุนกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติให้กับโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดชลบุรี เนื่องในวันเด็กแห่งชาติประจำปีพุทธศักราช 2568 รวมทั้งสิ้น 19 โรงเรียน ประกอบด้วย โรงเรียนอนุบาลบ้านบึง โรงเรียนวัดคลองใหญ่ โรงเรียนวัดหนองชันจันทนาราม โรงเรียนบ้านบึงกระโดน โรงเรียนชุมชนบ้านอ่างเวียน โรงเรียนบ้านหนองปรือ โรงเรียนบ้านเขาแรต โรงเรียนบ้านหนองประดู่ โรงเรียนอนุบาลเกาะจันทร์ โรงเรียนบ้านห้วยกุ่ม โรงเรียนวัดหนองขาม โรงเรียนบ้านหัวโกรก โรงเรียนวัดเสม็ด โรงเรียนวัดใหม่เกตุงาม โรงเรียนวัดบางเป้ง โรงเรียนวัดบ้านแหลมแท่น โรงเรียนอนุบาลวัดกลางดอนเมืองชลบุรี โรงเรียนอ่างศิลาพิทยาคม โรงเรียนบ้านปากคลองโรงนาค ซึ่งมีนักเรียนตั้งแต่ระดับอนุบาลขึ้นไป รวมกว่า 1,000 คน โดยนายสุชาติฯ ได้มอบทุนการศึกษาให้แก่น้อง ๆ เยาวชนเพื่อให้มีกำลังทรัพย์ในการเล่าเรียน และยังเป็นการช่วยเหลือครอบครัวของเด็ก ๆ นอกจากนี้ ยังมีของเล่น อาทิ ตุ๊กตา ขนมต่าง ๆ อุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา อาทิ ลูกฟุตบอล เพื่อให้เด็ก ๆ ได้ใช้เรียนรู้ เพิ่มทักษะที่ตัวเองชอบ
นายสุชาติ กล่าวว่า “สำหรับงานวันเด็กในปีนี้ ผมขอมอบทุนการศึกษา และอุปกรณ์การเรียน การกีฬา เพื่อให้น้อง ๆ ทุกคนได้มีโอกาสในการเข้าถึงการศึกษา และได้มีโอกาสในการเพิ่มทักษะต่าง ๆ เพราะทุกโอกาส คือ การเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง"
ที่มา : Thaipost

#คำขวัญวันเด็ก
#งานวันเด็ก
#สุชาติชมกลิ่น
#วันเด็กแห่งชาติ

(11 ม.ค. 68) บรรยากาศการจัดงานวันเด็กแห่งชาติปี 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล คึกคักตั้งแต่เช้าตรู่ โดยมีการจัดงานภายใต้แนวคิด ‘...
11/01/2025

(11 ม.ค. 68) บรรยากาศการจัดงานวันเด็กแห่งชาติปี 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล คึกคักตั้งแต่เช้าตรู่ โดยมีการจัดงานภายใต้แนวคิด ‘ร่วมคิด ร่วมสร้าง ร่วมวางอนาคต’ มีเด็ก ๆ และผู้ปกครองมาต่อแถวรอเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งประตูเปิดตั้งแต่เวลา 08.00 น. - 15.00 น.
.
ไฮไลต์สำคัญวันนี้ คือ เปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้นั่งเก้าอี้ทำงานของนายกรัฐมนตรี และเข้าเยี่ยมชมตึกไทยคู่ฟ้า ที่ห้องทำงานนายกรัฐมนตรี รวมไปถึงจะได้ทดสอบการอ่านข่าวภาคภาษาไทย และภาคภาษาอังกฤษ สวมบทบาท ‘โฆษกรัฐบาล ..นิวส์จิ๋ว’ ที่ห้องแถลงข่าวทำเนียบรัฐบาล ตึกนารีสโมสรและบริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ที่มีการจำลองสวนสัตว์เปิดเขาเขียวมาไว้ที่ทำเนียบฯพร้อมนำสแตนดี้หมูเด้ง สูง 2.5 เมตร มาให้เด็ก ๆ ได้ถ่ายรูปด้วย นอกจากนี้ยังมีบูทกิจกรรมทั้งของภาครัฐและภาคเอกชน ที่มาร่วมจัดกิจกรรม ซึ่งมีของรางวัลแจกมากมาย
สำหรับเด็กที่เข้าทำเนียบฯคนแรก และจะได้นั่งเก้าอี้นายกฯคนแรกคือ เด็กชายพศุจน์ เปาอินทร์ อายุ 3 ขวบ หรือน้องพอร์ช ที่มากับคุณแม่ณัฏฐา เปาอินทร์ และคุณพ่อ รวมไปถึงน้องชายวัย 3 เดือน ซึ่งเดินทางมาจากจังหวัดกาญจนบุรี ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืน ก่อนที่จะมาถึงประตูทำเนียบฯ ในเวลา 03.30 น. ซึ่งคุณแม่บอกดีใจมาก และปีนี้มาทำเนียบฯเป็นปีที่ 2 ตั้งใจเดินทางมาเพราะอยากให้ลูกชายได้นั่งเก้าอี้นายกฯคนแรก ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมางานวันเด็กที่ทำเนียบฯสมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ซึ่งขณะนั้นอายุ 1 ขวบ
ที่มา : Thaipost

#คำขวัญวันเด็ก
#งานวันเด็ก
#ทำเนียบรัฐบาล
#ร่วมคิดร่วมสร้างร่วมวางอนาคต

โอกาสดีมาถึงแล้ว!!รัฐบาลญี่ปุ่นมอบทุนการศึกษาเต็มจำนวน (ค่าเรียน+ค่าครองชีพรายเดือน+ตั๋วเครื่องบินไปกลับ) แก่ผู้ที่สนใจไ...
10/01/2025

โอกาสดีมาถึงแล้ว!!
รัฐบาลญี่ปุ่นมอบทุนการศึกษาเต็มจำนวน (ค่าเรียน+ค่าครองชีพรายเดือน+ตั๋วเครื่องบินไปกลับ) แก่ผู้ที่สนใจไปศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่น 2 ประเภททุน ดังนี้
ทุนญี่ปุ่นศึกษา (Japanese Studies Students) ทุนสำหรับนักศึกษาชั้นปีที่ 2-3 เอกภาษาญี่ปุ่น ที่สนใจไปแลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นระยะเวลา 1 ปี ที่มหาวิทยาลัยในประเทศญี่ปุ่น
https://www.th.emb-japan.go.jp/itpr_th/jis_study.html
ทุนฝึกอบรมวิชาชีพครู (Teacher Training Students)
ทุนสำหรับคุณครูที่มีประสบการณ์การสอนมาไม่น้อยกว่า 5 ปี ในระดับประถมศึกษาหรือมัธยมศึกษา ที่สนใจเข้าร่วมฝึกอบรมด้านการสอนระยะเวลา 1 ปีครึ่ง ที่มหาวิทยาลัยในประเทศญี่ปุ่น
http://bic.moe.go.th/.../3151-2568-teacher-training-students
เปิดรับสมัครถึงวันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลการสมัครได้จากเว็บไซต์หรือสแกน QR Code ได้เลย
ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=901103482184138&id=100068534828136&rdid=B69wd9Ekl3DDdDl1

#ทุนการศึกษา
#ญี่ปุ่น

ชื่นชม น้องอิน-น้องเอม อริณชย์ - อริสา ทองแตง สองเยาวชนคนเก่ง นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมรุ่นเยาว์ ผู้ก่อตั้ง Below the Tides...
09/01/2025

ชื่นชม น้องอิน-น้องเอม อริณชย์ - อริสา ทองแตง สองเยาวชนคนเก่ง นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมรุ่นเยาว์ ผู้ก่อตั้ง Below the Tides รับรางวัลเด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2568
เมื่อวันที่ (8 ม.ค. 68) สองเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2568 นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมรุ่นเยาว์ ที่มีผลงานด้านสิ่งแวดล้อม และได้รับรางวัลมากมายทั้งระดับชาติและระดับนานาชาติ น้องอิน อริณชย์ ทองแตง อายุ 17 ปี น้องเอม อริสา ทองแตง อายุ 15 ปี จากโรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury ผู้ก่อตั้ง Below the Tides เข้ารับรางวัลพร้อมรับฟังโอวาทจากนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยนายกฯ มอบโอวาท เด็กและเยาวชนดีเด่น และนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ขอให้ทุกคนภาคภูมิใจ มีสติ และรู้คุณค่าในตัวเอง รัฐบาลพร้อมสนับสนุนด้านการศึกษา และอาชีพ
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวมอบโอวาทให้กับเด็กและเยาวชนดีเด่น , เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติที่มีผลงานโดดเด่น จำนวน 1,292 คน จากทั่วประเทศ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2568 โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชื่นชมเด็ก และเยาวชน ทุกคนที่ได้รางวัลในสาขาต่าง ๆ ขอให้ทุกคนมีความภูมิใจในตัวเอง ถ้าทุกคนรวมกลุ่มกันคิดในเรื่องที่ดี ทำในเรื่องที่ดี จะเป็นกำลังสำคัญให้กับประเทศชาติอย่างแน่นอน และอยากให้รู้ว่าทุกคนมีคุณค่ากับประเทศชาติ เมื่อโตขึ้นไปจะเจอกับสิ่งที่ไม่คาดคิด สิ่งที่ไม่ได้วางแผนไว้ ดังนั้น ขอให้ทุกคนมีความยืดหยุ่นในตัวเอง และพร้อมที่จะปรับตัวอยู่เสมอ เพราะโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ส่วนตนเองที่มาอยู่ตรงนี้ก็ผ่านการเป็นเยาวชนมาแล้ว และเมื่อรู้คุณค่าของตัวเองอยู่เสมอ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเรียนเก่งที่สุด สวยที่สุด รวยที่สุด และอย่าลืมขอบคุณตัวเอง ซึ่งการที่ย้ำเตือนตัวเองอยู่เสมอว่ามีคุณค่า จะโตขึ้นไปด้วยใจที่แข็งแรง ไม่มีใครเข้ามาเปลี่ยนความคิดตรงนี้ได้ ทำให้รู้สึกด้อยค่า หรือไม่มีค่า จึงอยากให้ทุกคนมีต้นทุนตรงนี้ไว้ ซึ่งเป็นพื้นฐานที่จะดำรงชีวิตต่อไปได้อย่างเข้มแข็ง
ขณะเดียวกัน สังคมเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ต้องมีจิตใจที่เข้มแข็ง มีสติ เพราะเป็นกฎในการดำเนินชีวิตที่ถ้ามีสติก็จะเข้าใจปัญหานั้น และรับมือได้ดี ขอให้เติบโตขึ้นไปอย่างมีสติ รู้คุณค่าของตัวเอง และพร้อมที่จะพัฒนาประเทศชาติต่อไป มั่นใจว่า ทุกคนเป็นความภาคภูมิใจให้กับครอบครัว ขอให้นำความภาคภูมิใจนี้ไปต่อยอดขึ้นไปอีกในชีวิต พร้อมย้ำว่า รัฐบาลจะสนับสนุนทุกคนในเรื่องของการศึกษา การประกอบอาชีพ หรือหางานทำใหม่ ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลพยายามสนับสนุนอย่างรอบด้าน และปีใหม่นี้ขอให้ประสบความสำเร็จ อะไรที่ตั้งใจไว้ก็ขอให้สำเร็จ ขอให้มีความภาคภูมิใจในตนเองในทุกวัน ขณะที่ เด็กและเยาวชนที่ได้รับคัดเลือกรางวัลดีเด่นด้านกีฬา และนันทนาการ และด้านวิชาการ กล่าวว่า รู้สึกปลาบปลื้มดีใจ ภาคภูมิใจ ที่ได้รับรางวัล เพราะก่อนหน้านี้จะต้องพยายามฝึกฝนอย่างหนัก ลงแข่งในหลายสนาม เพื่อที่จะให้ผลการแข่งขันนั้นประสบผลสำเร็จ และอยากเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่อยากเล่นกีฬา อยากทำความดี ให้มีความกล้า มีความพยายาม และทำให้เต็มที่
ขณะที่ผู้แทนเด็กและเยาวชน ได้มอบของขวัญที่ระลึกให้กับนายกรัฐมนตรี เช่น สร้อยคอลูกปัดโนรา ภาพวาด ภาพถ่าย การ์ดอวยพร ตุ๊กตาลาบูบู้ที่สวมชุดแบรนด์เนม พร้อมข้อความว่า “น้ำอุ่นรักนายก” ขนมและผลิตภัณฑ์ชุมชน เป็นต้น โดยนายกรัฐมนตรี ได้เดินทักทายเด็กและเยาวชน และร่วมเซลฟี่ รวมถึงได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกที่บริเวณหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลอย่างเป็นกันเอง
ทั้งนี้ น้องอิน-น้องเอม อริณชย์ - อริสา ทองแตง สองเยาวชนคนเก่ง นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมรุ่นเยาว์ ผู้ก่อตั้ง Below the Tides กล่าวว่า มีความยินดีและภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ที่ได้รับรางวัลเด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2568 พร้อมยืนยันจะมุ่งมั่นเดินหน้าการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการทำสาธารณประโยชน์ในมิติต่างๆ ต่อไป
ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=1054750043333830&id=100063965325845&rdid=AHbAKGP8TYLrKVSG



#เยาวชนดีเด่น

(9 ม.ค. 68) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมมือกับ World Economic Forum เผยรายงาน Future of Jobs 2025 ชี้ให้เห็นว่าอีก 5 ปีข้าง...
09/01/2025

(9 ม.ค. 68) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมมือกับ World Economic Forum เผยรายงาน Future of Jobs 2025 ชี้ให้เห็นว่าอีก 5 ปีข้างหน้า เทคโนโลยีจะเปลี่ยนโฉมตลาดแรงงานอย่างมหาศาล โดยอาชีพเก่าอาจหายไปถึง 92 ล้านตำแหน่ง ขณะเดียวกัน อาชีพใหม่ที่อาศัยทักษะด้าน AI และ Big Data จะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด มหาวิทยาลัยต้องเร่งปรับตัว โดยการออกแบบหลักสูตรระยะสั้น เพื่อสร้างบุคลากรที่มีทักษะเหนือกว่า AI
ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า รายงานนี้อ้างอิงจากการสำรวจบริษัทกว่า 1,000 แห่ง ครอบคลุมพนักงาน 14 ล้านคนใน 22 อุตสาหกรรม และ 55 ประเทศทั่วโลก โดยมีข้อมูลสำคัญดังนี้ ตำแหน่งงานใหม่ 170 ล้านตำแหน่ง จะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม, 92 ล้านตำแหน่งงานจะหายไป เนื่องจากระบบอัตโนมัติและการปรับตัวของเศรษฐกิจ, การเติบโตสุทธิของการจ้างงานทั่วโลก จะอยู่ที่ 7% หรือประมาณ 78 ล้านตำแหน่ง
อย่างไรก็ตาม งานบางส่วนที่ถูกดิสรัปไม่ได้หายไปโดยสิ้นเชิง แต่เปลี่ยนรูปแบบไปเป็นดิจิทัล โดยต้องการแรงงานที่มีทักษะรอบด้านและสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจัยสำคัญเปลี่ยนโฉมตลาดแรงงานในปี 2573 รายงานยังชี้ถึง 5 ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงในตลาดแรงงาน ได้แก่:
1. การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี เช่น AI หุ่นยนต์ และนวัตกรรมด้านพลังงาน
2. สิ่งแวดล้อม การรับมือกับสภาพภูมิอากาศสร้างความต้องการแรงงานด้านพลังงานหมุนเวียน
3. ความผันผวนทางเศรษฐกิจ ค่าใช้จ่ายและการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ
4. การเปลี่ยนแปลงด้านประชากร เช่น ประชากรสูงอายุในประเทศพัฒนาแล้ว
5. ภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก การค้าระหว่างประเทศและข้อจำกัดทางการค้า
ขณะที่ 10 ทักษะในอนาคตของประเทศไทยและประเทศต่างๆทั่วโลกภายในปี 2573 ประกอบด้วย
ทักษะด้าน AI และ Big Data
Analytical thinking ทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์
Creative thinking ทักษะการคิดอย่างสร้างสรรค์
Networks and cybersecurity ทักษะด้านเครือข่าย และความปลอดภัยทางข้อมูล
Leadership and social influence มีความเป็นผู้นำ และสร้างอิทธิพลต่อสังคมได้
Resilience, flexibility and agility ปรับตัวไว ทำงานอย่างยืดหยุ่น และคล่องตัว
Empathy and active listening มีความเห็นอกเห็นใจ และมีทักษะในการรับฟัง
Motivation and self-awareness มีความเข้าใจตนเอง และมีแรงจูงใจในการทำงาน
Talent management ทักษะด้านการบริหารจัดการคนเก่งในองค์กร
Curiosity and lifelong learning มีความช่างสงสัย ใฝ่เรียนรู้ตลอดชีวิต
ในปี 2573 ทักษะในอนาคตของประเทศไทยและประเทศต่างๆทั่วโลก โดยในไทย ทักษะที่โดดเด่น คือ ทักษะด้าน AI และ Big Data ทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์ ทักษะการคิดอย่างสร้างสรรค์ ทักษะด้านเครือข่ายและความปลอดภัยทางข้อมูล ในขณะที่ระดับโลกเน้นทักษะด้าน AI และ Big Data ทักษะด้านเครือข่ายและความปลอดภัยทางข้อมูล ความฉลาดในการใช้งานเทคโนโลยี และทักษะการคิดอย่างสร้างสรรค์
กลยุทธ์สำคัญ 4 ประการสำหรับประเทศไทย
1. สร้างการเปลี่ยนแปลง แบบ Holistic Skill Change:ยกเครื่องการ upskill ของบุคลากรในมิติไม่ใช่ทักษะใดทักษะหนึ่งเท่านั้น
2. สร้างองค์กร ให้เป็น Future-Ready Organization: มีระบบการพัฒนาทักษะอนาคตของบุคลากร
3. Human Replacement: งานที่ซ้ำชากควรเลิกใช้คนและทดแทนด้วยระบบ Automation
4. Enhancing Dynamic Work Role: มีการส่งเสริมให้ไม่ยึดติดกับบทบาทการทำงานในแบบเดิมๆ แต่มีการปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา
ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร กล่าวเพิ่มเติมว่า “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมุ่งสู่การเป็น The University of AI โดยมีเป้าหมายในการสร้าง คนพันธุ์ใหม่ หรือ ‘Future Human’ ที่ไม่เพียงแค่มีความเชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) แต่ยังต้องมีทักษะพิเศษอย่าง II (Instinctual Intelligence) หรือ ‘ปัญญาสัญชาตญาณ’ ที่สามารถสร้างสรรค์ความรู้ที่ไม่สามารถประดิษฐ์ขึ้นได้ การเป็น ‘คนพันธุ์ใหม่’ ไม่ใช่แค่การมีสมองที่เฉลียวฉลาด แต่ยังต้องมีหัวใจที่ดีงาม เพื่อใช้พลังของเทคโนโลยีในการสร้างคุณค่าทั้งต่อตนเองและสังคม”
ประเทศไทยยังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้นในการเรียนรู้และพัฒนา AI โดยให้ความสำคัญกับการ Reskill และ Upskill เพื่อเตรียมแรงงานให้พร้อมสำหรับ "งานแห่งอนาคต" ซึ่งบุคลากรต้องมีทักษะที่หลากหลายและสามารถนำไปใช้ได้จริง
“สิ่งที่สามารถเอาชนะปัญญาประดิษฐ์ได้คือปัญญาสัญชาตญาณ ความเข้าใจโลก และการฝึกฝนจนชำนาญ” ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ กล่าว
ดร.วิเลิศเน้นย้ำว่า มหาวิทยาลัยต้องเปลี่ยนบทบาทจากการสอนปริญญา 2-4 ปี มาเป็นหลักสูตรระยะสั้นที่ใช้เวลาเพียง 6 เดือน และมุ่งเน้นสร้าง “skill incubator” เพื่อพัฒนาทักษะที่จำเป็นในอนาคต โดยเน้นการสอนที่สามารถปรับตัวตามเทคโนโลยีและตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงาน
“มหาวิทยาลัยต้องสร้างบุคลากรที่ไม่เพียงแค่มีความรู้ แต่ต้องมีความฉลาดที่ไม่ล้าสมัย” ดร.วิเลิศ กล่าวเพิ่มเติม
ดร.วิเลิศระบุว่า ปัจจุบันหลักสูตรการศึกษาที่เน้นปริญญาและใช้เวลา 2-4 ปีไม่ตอบโจทย์ตลาดแรงงานในอนาคตอีกต่อไป มหาวิทยาลัยต้องจัดให้มีหลักสูตร Non-degree ที่เน้นการศึกษาระยะสั้น 6 เดือน เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการแรงงานที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยการถ่ายทอดความรู้ผ่านเทคโนโลยี AI และเข้าใจศักยภาพของผู้เรียน การเปลี่ยนสถาบันให้เป็น “skill incubator” จึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยต้องมุ่งบ่มเพาะพรสวรรค์และพัฒนาทักษะแห่งอนาคตให้แก่บุคลากร เพื่อให้พวกเขาเข้าใจศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่ มหาวิทยาลัยต้องเป็นสถาบันที่ไม่เพียงแต่สอนความรู้ แต่ต้องเน้นการพัฒนาความฉลาดที่สามารถนำไปปรับใช้ได้อย่างยั่งยืน
“วันนี้หากประเทศไทยต้องการคนที่มีทักษะใหม่ๆ ไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นจากปริญญาตรี แต่อาจนำคนที่จบปริญญาตรีแล้วมาพัฒนาทักษะเพิ่มในเวลา 6 เดือน การศึกษาของมหาวิทยาลัยไม่ใช่แค่การถ่ายทอดความรู้ แต่ต้องนำความรู้เหล่านั้นไปสู่สังคม ทั้งในหลักสูตร Degree และ Non-degree”


#จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

#ปัญญาประดิษฐ์
#หลักสูตรแห่งอนาคต
#แรงงานแห่งอนาคต

ที่อยู่

165 ซ. สุขุมวิท 62/1 แขวงบางจาก เขตพระโขนง
Bangkok
10260

เบอร์โทรศัพท์

+66814395533

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ THE STUDY TIMESผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง THE STUDY TIMES:

วิดีโอทั้งหมด

แชร์