Keyman Insurance บริหาร วางแผนภาษีบริษัท

Keyman Insurance บริหาร วางแผนภาษีบริษัท ทีมผู้เชี่ยวชาญในการวางแผน บริหารจัดการภาษีนิติบุคคลและกรรมการอย่างถูกต้องตามกฏหมายด้วยประกัน Keyman

16/01/2025

บรรลุเป้าหมายเกษียณสบายด้วยการลงทุน 💰♥️

สรุปการลงทุนข้อมูลดีมากๆ ⭐️
01/11/2024

สรุปการลงทุนข้อมูลดีมากๆ ⭐️

สรุปสัมมนาสุดยิ่งใหญ่ Know The Markets Summit 2024 จัดพอร์ตการลงทุนรับเทรนด์โลก พร้อมสร้างผลตอบแทนในทุกสภาวะตลาด - MarketThink

ท่ามกลางประเด็นทางเศรษฐกิจ ที่นักลงทุนจากหลายประเทศทั่วโลกกำลังจับตามอง ไม่ว่าจะเป็น

- ผลการเลือกตั้งในประเทศสหรัฐอเมริกาจะเป็นอย่างไร ?
- การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา จะส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจมากแค่ไหน ?
- เศรษฐกิจประเทศไทยกำลังฟื้นตัวแล้ว จริงหรือไม่ ?
- บทบาทของ AI เข้ามาสร้างเอฟเฟกต์อย่างไรต่อเศรษฐกิจบ้าง ?

และประเด็นอื่น ๆ อีกมากมาย ที่นักลงทุนต่างกังวล และพยายามหาคำตอบให้กับประเด็นเหล่านี้
เพื่อหาช่องทางในการจัดการพอร์ตการลงทุนในอนาคตให้สอดคล้องกับตลาด และสร้างผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งประเด็นเหล่านี้ จึงเป็นที่มาของงานสัมมนาครั้งยิ่งใหญ่ “Know The Markets Summit 2024 : Shaping the Future”

งานสัมมนาที่เปิดมุมมองการลงทุนในอนาคต พร้อมแนะนำการจัดพอร์ตการลงทุนให้อยู่รอดทุกสภาวะตลาด
ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง KAsset และพันธมิตร J.P. Morgan Asset Management หรือ JPMAM ผู้นำระดับโลกด้านการจัดการลงทุน

โดยนำเหล่า Speaker ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนในด้านต่าง ๆ มาร่วมตอบคำถามในประเด็นที่นักลงทุนทั่วโลกต่างให้ความสนใจ

แล้วภายในงานสัมมนามีประเด็นอะไรที่น่าสนใจ และเป็นแนวทางให้นักลงทุนสามารถจัดสรรพอร์ตการลงทุนในอนาคตได้บ้าง ?
MarketThink สรุปออกมาให้เป็นข้อ ๆ

- เศรษฐกิจในประเทศจีนกำลังเติบโต จากแรงกระตุ้นโดยภาครัฐ

สรุปจากเซสชันของคุณ Tai Hui, Chief Market Strategist, Asia Pacific, J.P. Morgan Asset Management ได้ว่า

เศรษฐกิจในประเทศจีนยังคงมีความเสี่ยงจากภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังชะลอตัว ทำให้ภาครัฐต้องออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมทั้งในด้านการเงิน การคลัง และสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

และที่น่าสนใจคือ การเลือกลงทุนในประเทศจีน ไม่ใช่เพียงแค่การลงทุนในตลาดหุ้นโดยรวม
แต่ต้องเลือกลงทุนในหุ้น หรือธุรกิจที่เจาะจงเฉพาะส่วน

โดยจะสังเกตได้ว่า เมื่อเกิดวิกฤติขึ้น หุ้นจีนเกือบทั้งตลาดจะได้รับผลกระทบ เว้นแต่หุ้นกลุ่มธนาคาร
และโทรคมนาคม แม้จะได้รับเอฟเฟกต์ แต่ก็ยังคงเติบโตได้ดีอยู่

- เศรษฐกิจในประเทศสหรัฐอเมริกา แม้จะมีแนวโน้มเติบโตช้าลง แต่ยังคงโตเรื่อย ๆ

สรุปจากเซสชันของคุณวิน พรหมแพทย์, CFA ประธานกรรมการบริหาร, KAsset ได้ว่า

เศรษฐกิจในประเทศสหรัฐอเมริกา มีแนวโน้มขยายตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มเป็นขาลง จะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นและตราสารหนี้

เนื่องจากเมื่ออัตราดอกเบี้ยลด ผู้คนจะเคลื่อนย้ายเงินทุนออกจากการฝากธนาคาร มาสู่ตลาดทุนในรูปแบบอื่น ๆ แทน ซึ่งก็หนีไม่พ้นตลาดหุ้น และตราสารหนี้ที่จะได้รับความสนใจมากขึ้นหลังจากมีการลดอัตราดอกเบี้ยลง

ในด้านโอกาสของตลาดเกิดใหม่ คุณวินมองว่าตลาดหุ้นอินเดีย เวียดนาม และไทย ยังคงขยายตัว
และให้ผลตอบแทนดี

โดยมองว่าเศรษฐกิจในประเทศอินเดียมีแรงขับเคลื่อนหลักมาจากการบริโภคในประเทศ จากการเติบโตของประชากรภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น และบริษัทในอินเดียเองก็มีความสามารถในการทำกำไรสูง

ในด้านตลาดหุ้นเวียดนาม ก็ยังคงดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติอย่างต่อเนื่อง สามารถดูได้จากการเติบโตของสินเชื่อธุรกิจ และการบริโภคที่เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ จะช่วยหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
และการส่งออกให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

และสำหรับตลาดหุ้นไทย ยังคงมีมุมมองเชิงบวกจากการประเมินมูลค่าหุ้น ซึ่งอยู่ในระดับที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับในอดีต ประกอบกับเม็ดเงินใหม่ ที่จะเข้าสู่ตลาดหุ้นจากการตั้งกองทุนวายุภักษ์

ประกอบกับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่คาดว่าจะฟื้นตัวได้จากการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจของรัฐบาล
และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีซึ่งเป็น High Season

- AI ไม่ใช่ฟองสบู่ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงสู่อนาคต

สรุปจากเซสชันของคุณ Eric Ghernati, Portfolio Manager, J.P. Morgan US Technology ได้ว่า

โลกของเราจะมีการเกิดนวัตกรรมทางเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในทุก 10 ปี ซึ่งตั้งแต่ปี 2020
การพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Al) เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว สังเกตได้จากความสามารถในการตอบสนองของ AI ที่ใช้ระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี ก็สามารถพัฒนาจนมาเป็นผู้ช่วยในชีวิตประจำวันของเราได้แล้ว
พร้อมทั้งช่วยสร้างผลผลิตให้กับภาคธุรกิจได้รวดเร็วมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนหลายคนยังมีความกังวลว่า วัฏจักรการเติบโตของ GenAI จะเหมือนกับเหตุการณ์ Dot-Com Bubble ซึ่งเป็นวิกฤติที่นักลงทุนต่างให้ความหวังกับหุ้นเทคโนโลยีมากเกินไป จนทำให้ราคาหุ้นพุ่งสูงจนกำไรโตไม่ทัน และสุดท้ายก็จบด้วยฟองสบู่แตก ผลลัพธ์คือตลาดหุ้นตกจากจุดสูงสุด 78%

แต่วัฏจักรการเติบโตของ GenAI มีความแตกต่างจาก Dot-Com Bubble เนื่องจากมีภาวะทางการเงินที่แข็งแกร่งกว่า รวมถึงการเติบโตของ AI ก็เป็นผลมาจากการลงทุนของภาคธุรกิจ ไม่ใช่แค่เพียงความคาดหวังของนักลงทุนเพียงอย่างเดียว

สรุปง่าย ๆ ก็คือ การเติบโตของ AI ไม่ใช่เหตุการณ์ฟองสบู่อย่างที่นักลงทุนหลายท่านกังวล
แต่เป็นการเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยีสู่โลกยุคใหม่ ซึ่งอุตสาหกรรมที่จะเกิดขึ้นใหม่ในอนาคต ต่างต้องนำเงินเข้ามาลงทุนใน AI

- นโยบายการเลือกตั้งในสหรัฐอเมริกา ที่แตกต่างอย่างสุดขั้ว คือตัวชี้ชะตากลุ่มธุรกิจ

สรุปจากเซสชันของคุณ Gabriela Santos, Chief Market Strategist, Americas, JPMAM ได้ว่า

จากพื้นฐานความเหลื่อมล้ำทางความมั่งคั่งและรายได้ที่สูงในสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้พรรคเดโมแครตมีแนวนโยบายที่มุ่งเน้นการจัดเก็บภาษีจากผู้มีรายได้สูงและบริษัทขนาดใหญ่

แต่ในทางกลับกัน พรรครีพับลิกันมีการชูนโยบายลดหย่อนภาษีบุคคล และนิติบุคคล รวมถึงเน้นนโยบายเข้มงวดต่อผู้อพยพ เนื่องจากการอพยพอาจส่งผลให้ชาวอเมริกันสูญเสียโอกาสในการทำงาน

และไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นเช่นไร ต่างก็สร้างเอฟเฟกต์ต่อประเทศอื่น ๆ เป็นลูกโซ่ เนื่องจากในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนย้ายเงินทุน การค้าระหว่างประเทศ รวมถึงฐานการผลิต ต่างก็เชื่อมโยงกันเป็นทอด ๆ

- การเพิ่มสินทรัพย์ทางเลือก จะช่วยลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุนได้

สรุปจากเซสชันของคุณ Kerry Craig, Global Market Strategist, JPMAM ได้ว่า

การเพิ่มสินทรัพย์ทางเลือก เข้ามาในพอร์ตการลงทุนเดิมที่มีเพียงหุ้น 60% เช่น

- Real Estate (อสังหาริมทรัพย์)
- Private Markets (การลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์)
- Infrastructure (การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ระบบขนส่งทางราง, ประปา, ไฟฟ้า, ถนน, สนามบิน)
- Hedge Funds (กองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์หรือหลักทรัพย์ที่หลากหลาย)

และเพิ่มตราสารหนี้อีก 40% จะสามารถช่วยลดความผันผวน และเพิ่มผลตอบแทนให้กับพอร์ตการลงทุนได้

- การลงทุนใน AI แม้ว่าจะแข็งแกร่ง แต่ก็ใช่ว่าจะสร้างผลตอบแทนเสมอไป

สรุปจากเซสชันของคุณ Leon Goldfeld, Head of Multi-Asset Solutions, Asia-Pacific ได้ว่า
แน่นอนว่าการมาของ AI สามารถช่วยเหลือในการทำงานและสร้างรายได้ให้กับหลายอุตสาหกรรม แต่การลงทุนใน AI ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสร้างผลตอบแทนได้เพียงอย่างเดียว
หากเราลองสังเกตดูให้ดี จะพบว่าผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากบทบาทของ AI จริง ๆ แล้วคือธุรกิจที่ดำเนินการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานของ AI เช่น NVIDIA ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปสำหรับ Generative AI
หรือธุรกิจที่พัฒนาผลิตภัณฑ์จาก AI เพื่อขายให้กับผู้ใช้งานทั่วไปโดยตรง เช่น บริษัทผลิตคอมพิวเตอร์อย่าง Intel, Dell เป็นต้น
ต่อมาคือ เรื่องปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ ปัญหาสำคัญที่ส่งผลต่อการค้าระหว่างประเทศ
ซึ่งส่วนใหญ่มักสร้างผลกระทบในระยะสั้น และทุกอย่างจะค่อย ๆ ปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติในแบบที่ควรจะเป็น
เพราะฉะนั้นยังไม่มีประเด็นอะไรที่น่ากังวลมากนัก

ประเด็นสุดท้ายที่น่าสนใจคือ แนวโน้มเงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกาที่ลดลง ทำให้การจัดพอร์ตการลงทุนที่มีทั้งหุ้นและตราสารหนี้ช่วยลดความเสี่ยงได้ดียิ่งขึ้น และหากลงทุนในระยะยาวจะช่วยลดความผันผวน และลดโอกาสในการขาดทุนได้

เพราะเราไม่สามารถคาดเดาได้ว่า การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจในอนาคต จะกระทบต่อภาคส่วนไหนบ้าง เพราะฉะนั้นควรกระจายความเสี่ยงไว้ในหลายสินทรัพย์ดีกว่า

- สรุปวิธีจัดพอร์ตด้วยกลยุทธ์ Core-Satellite เพิ่มโอกาสทำกำไรในอนาคต

สรุปจากเซสชันของคุณวจนะ วงศ์ศุภสวัสดิ์, Chief Investment Officer, KAsset ได้ว่า

ตลาดหุ้นในปีที่ผ่านมามีการเติบโตแบบกระจายตัวมากขึ้น ไม่ค่อยเติบโตแบบกระจุกตัว หรือเติบโตจากแรงบวกของหุ้นหลักในตลาดหุ้นเพียงไม่กี่ตัว

ซึ่งการเติบโตแบบกระจายตัว ส่งผลให้นักลงทุนสามารถหาโอกาสในการลงทุนได้มากขึ้น

โดยมองว่าอุตสาหกรรม Healthcare และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในครัวเรือน
มีแนวโน้มจะเป็นเทรนด์การเติบโตในอนาคต

โดยสรุป ณ สถานการณ์ของเศรษฐกิจตอนนี้ยังไม่มีความน่ากังวลเกิดขึ้น และจะมีความชัดเจนมากขึ้น
หลังจากการเลือกตั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากนั้นจึงค่อยมาดูมาตรการภาครัฐเป็นข้อ ๆ
ว่าจะส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจส่วนไหน อย่างไรบ้าง

แต่อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ หรือก็คือปัญหาการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนที่ยังมีอยู่ จึงแนะนำให้จัดพอร์ตการลงทุนด้วยกลยุทธ์แบบ Core-Satellite

อธิบายง่าย ๆ ก็คือ

1. Core Portfolio 80% สินทรัพย์ที่มีความผันผวนต่ำ
เน้นลงทุนระยะยาวแบบ Asset Allocation หรือก็คือการกระจายการลงทุนในพอร์ตไปในหลายสินทรัพย์
โดยแนะนำกองทุน K-WealthPLUS Series ที่กระจายการลงทุนทั้งตราสารหนี้ หุ้น และสินทรัพย์ทางเลือก
โดยมีให้เลือกตามความเสี่ยงที่แตกต่างกัน

- K-WPBALANCED มีความเสี่ยงน้อย มีสัดส่วนหุ้นประมาณ 30%

- K-WPSPEEDUP มีความเสี่ยงปานกลาง มีสัดส่วนหุ้นประมาณ 65%

- K-WPULTIMATE มีความเสี่ยงปานกลางถึงสูง มีสัดส่วนหุ้นทั่วโลกประมาณ 85%

2. Satellite Portfolio 20% สินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง
เน้นลงทุนระยะสั้นแบบจับจังหวะตลาด (Market Timing)

ซึ่งกลยุทธ์การจัดพอร์ตลงทุนแบบ Core-Satellite จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไร ผ่านการลงทุนในธีมวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง เศรษฐกิจยืดหยุ่นสูง กำไรยังคงเติบโต และโอกาสการเติบโตของตลาดเกิดใหม่

โดยแนะนำกองทุนที่น่าสนใจคือ

- K-FIXEDPLUS ลงทุนตราสารหนี้ภาครัฐ และภาคเอกชน รวมถึงเงินฝากทั้งในประเทศและต่างประเทศ

- K-GSELECT ลงทุนหุ้นทั่วโลก โอกาสสร้างผลตอบแทนโดดเด่นได้ทุกช่วงเวลา

- K-INDIA ลงทุนหุ้นอินเดียคุณภาพดี โอกาสเติบโตสูง

- K-VIETNAM ลงทุนตรงในหุ้นเวียดนาม ที่ได้ผลประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนาม

- K-STAR ลงทุนในหุ้นไทยที่มีศักยภาพการเติบโตในระยะยาว

- K-PROPI ลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสารทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หรือกลุ่มกิจการโครงสร้างพื้นฐาน

เพิ่มเติม https://www.kasikornbank.com/k_40jE20I

คำเตือน :
- โฆษณาของ บลจ.กสิกรไทย นี้อาจอ้างอิงข้อมูลที่ J.P. Morgan Asset Management เผยแพร่โดยทั่วไป มิได้จัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะ หรือเป็นการให้คำแนะนำการลงทุน
- ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ข้อมูลเพิ่มเติม www.kasikornasset.com

ขอบคุณบทความดีๆค่ะ
14/10/2024

ขอบคุณบทความดีๆค่ะ

[ ] นี่คือ 6 นิสัยคนที่มั่งคั่ง เรียนรู้จากการสัมภาษณ์เศรษฐี 233 คน ยาวนานกว่า 5 ปี
💰 ‘ความมั่งคั่งไม่ใช่เรื่องของโชคชะตา’
กว่าใครสักคนจะร่ำรวยเป็นเศรษฐีมีเงินหลักล้านเหรียญต้องอาศัยการทำงานหนัก ความกล้า และกรอบความคิดแห่งที่พร้อมจะเรียนรู้เติบโต
นั่นคือบทเรียนที่ ทอม คอร์ลี (Tom Corley) เรียนรู้หลังจากสัมภาษณ์เศรษฐีเงินล้านกว่า 233 คน ยาวนานกว่า 5 ปี ซึ่งคนที่เขาสัมภาษณ์ส่วนใหญ่สร้างฐานะและความมั่งคั่งด้วยตัวเองทั้งสิ้น
จากข้อมูลที่เก็บรวบรวมมา เขานำมาสรุปเป็นหลักการ 6 ข้อที่คนเหล่านี้มีร่วมกัน เป็นนิสัยติดตัวที่ช่วยทำให้ประสบความสำเร็จได้ และที่สำคัญคือเราทุกคนสามารถนำมาปรับใช้เพื่อเป็นเข็มทิศนำไปสู่เส้นทางความสำเร็จของตัวเองได้ด้วยเช่นกัน
📚1. เรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ

เศรษฐีที่คอร์ลีได้สัมภาษณ์นั้นสิ่งแรกเลยที่ทุกคนมีเหมือนกันคือการให้ความสำคัญกับการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
49% บอกว่าพวกเขาใช้เวลาสองสามนาทีต่อวันเพื่อจะเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ
61% บอกว่าพวกเขาใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมงต่อวันในการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานอดิเรกหรือการเรียนออนไลน์ต่างๆ
63% บอกว่าระหว่างที่เดินทางไปทำงานนั้นจะฟังพวกหนังสือเสียงอย่างสม่ำเสมอ
71% บอกว่ามักจะอ่านหนังสือพัฒนาตัวเอง และเป็นเรื่องราวหรือประวัติของบุคคลที่ประสบความสำเร็จที่พวกเขาชื่นชอบ
👂2. ฟังมากกว่าพูด
กลยุทธ์หนึ่งที่คอร์ลีได้ยินเศรษฐีหลายๆ คนมักพูดถึงระหว่างสัมภาษณ์คือ “กฎการฟังแบบ 5:1”
ซึ่งกฎจะถูกนำมาใช้เมื่ออยู่ในวงสนทนากับคนอื่นๆ เมื่อเศรษฐีพูด 1 นาที พวกเขาจะฟัง 5 นาที ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ได้วัดกันแบบเป๊ะๆ แต่มันคือแนวทางสำหรับการวางตัวเมื่ออยู่ในวงสนทนา ฟังให้มากกว่าพูด เพราะการรับฟังแบบนี้จะช่วยทำให้ความสัมพันธ์กับคนอื่นแน่นแฟ้นมากขึ้น เข้าใจปัญหาหรือสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นด้วยนั่นเอง
81% บอกว่าพวกเขาจะติดตามฟีดแบ็กจากคนอื่นๆ ทุกวันด้วย ทั้งในที่ทำงานและคนรอบตัว
🤝3. สร้างทีมที่ดี
จากข้อมูลที่คอร์ลีเก็บมาตลอด 5 ปีนั้นพบว่า 86% ของเศรษฐีที่สามารถสร้างความมั่งคั่งได้ด้วยตัวทำงานสัปดาห์หนึ่งราวๆ 50 ชั่วโมง แต่พวกเขาไม่ได้ทำงานคนเดียว ส่วนใหญ่ประสบความสำเร็จเพราะว่าโฟกัสไปที่จุดแข็งของตัวเองและส่วนที่ทำได้ไม่ดีนักหรือต้องการคนช่วย ก็พยายามส่งงานเหล่านั้นออกไปให้คนอื่นทำ
ถ้ารู้ว่าทักษะไหนที่ทำได้ไม่ดี แต่เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ไปให้ถึงเป้าหมาย (อย่างเช่นสมมุติว่าอยากเขียนแอปฯสมาร์ตโฟน แต่ไม่รู้วิธีเขียนโค้ด ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็น) ก็ย้ายงานตรงนี้ออกไปให้คนที่มีความเชี่ยวชาญทำจะดีกว่า แล้วเราก็ไปทำอย่างอื่นที่ถนัด โฟกัสทั้งเวลาและพลังงานเพื่อจะทำงานนั้นให้ออกมาดีที่สุดจะดีกว่า
💭4. มีความฝันที่ใหญ่
อีกกลยุทธ์หนึ่งที่คนร่ำรวยใช้กันคือ “Dream-Setting” ซึ่งเป็นการใช้เวลากับตัวเอง แล้วจินตนาการและเขียนออกมาว่าชีวิตที่ ‘สมบูรณ์แบบ’ ในอีก 10 ปีข้างหน้าว่าจะเป็นยังไง จะไปอยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่
หนึ่งในเศรษฐีที่คอร์ลีไปสัมภาษณ์มีความหลงใหลในเรื่องไวน์และคิดว่าสามารถสร้างรายได้จากสิ่งที่เขาชื่นชอบตรงนี้ได้ เพียงแต่ไม่มีใครเชื่อว่ามันจะเป็นไปได้ แม้แต่ครอบครัวและเพื่อนสนิทของเขาก็ตาม แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกไขว้เขวจากสิ่งที่อยากจะทำเลย
ตลอด 15 ปีต่อมา เขาพยายามเรียนรู้เกี่ยวกับไวน์ให้มากขึ้น กลายเป็นนักสะสมไวน์ตัวยง และเป็นผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมที่มีแต่คนมาขอคำแนะนำ เขาสร้างรายได้มากกว่า 4 ล้านเหรียญ (ประมาณ 140 ล้านบาท) และตอนที่ซื้อบ้านในฝันบนหาดในรัฐฟลอริดา เขาก็ใช้เงินจากการขายไวน์ที่สะสมมาบางส่วนเพื่อซื้อด้วย
ทุกอย่างเกิดขึ้นได้เพราะเขาไม่ยกธงขาวกับความฝันของตัวเอง แม้มันจะดูใหญ่ แต่เขาก็เชื่อว่ามันจะเป็นไปได้
🏃‍♂️5. ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ
ไม่ว่าจะร่ำรวยแค่ไหน ถ้าสุขภาพคุณไม่ดี นอนอยู่โรงพยาบาลมากกว่าเตียงที่บ้าน เงินหามาเท่าไหร่ก็ไม่มีประโยชน์เลย
สุขภาพที่ดีทำให้เรามีชีวิตอยู่นานมากขึ้น นั่นหมายความว่าคุณจะมีเวลามากขึ้นในการสะสมความมั่งคั่งให้กับตัวเองด้วย
⏳ แม้แต่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) ยังบอกเลยว่า เพื่อนที่ดีที่สุดของนักลงทุนคือดอกเบี้ยทบต้นซึ่งเหมือนกับการสร้างความมั่งคั่งจากการกลิ้งลูกบอลหิมะ (Snowball) ลงเนินแล้วก้อนมันก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
“เริ่มให้เร็ว” บัฟเฟตต์บอก “ผมเริ่มสร้างก้อนหิมะบนยอดเขาที่เนินเขาทอดยาวมาก ๆ เคล็ดลับของการมีเนินเขาที่ยาวคือถ้าไม่เริ่มให้เร็วก็ต้องมีชีวิตอยู่จนแก่มาก ๆ นั่นแหละ”
เพราะฉะนั้นถ้าอยากมีความมั่งคั่งก็ต้องดูแลเรื่องสุขภาพและมีชีวิตอยู่นานๆ ด้วย
หนึ่งในคนที่คอร์ลีสัมภาษณ์เล่าให้เขาฟังว่าก่อนหน้านี้เธอน้ำหนักตัวเยอะมาก จนวันหนึ่งก็เริ่มเดินออกกำลังกาย วันแรกก็ระยะทางสั้นๆ แล้วก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนวันหนึ่งก็สามารถวิ่งมาราธอนได้ เธอบอกว่าความสำเร็จในชีวิตนั้นส่วนหนึ่งก็มาจากสุขภาพที่ดีขึ้นของเธอด้วย เพราะเธอรู้สึกมีพลังในแต่ละวันและสามารถโฟกัสได้ดีมากขึ้นด้วย
🍀6. สร้างโชคขึ้นมาด้วยตัวเอง
‘โชค’ สำหรับคอร์ลี ไม่ได้หมายถึงโชคที่มาจากการไปซื้อลอตเตอรี่หรือเล่นการพนันอะไรแบบนั้นนะครับ เพราะ 94% ของเศรษฐีที่เขาไปสัมภาษณ์ไม่เคยเล่นการพนันเลย (นั่นก็เป็นหลักการหนึ่งที่ควรทำตามนะครับ)
ในบริบทนี้ ‘โชค’ ไม่ใช่สิ่งที่แค่เหตุบังเอิญที่เกิดขึ้นลอยๆ แต่เป็นการกล้าที่จะลองเสี่ยงในโอกาสใหม่ๆ เศรษฐีหลายคนสามารถหาทางออกที่สร้างสรรค์กับปัญหาต่าง หาทางแก้เพื่อไปสู่ความสำเร็จ เห็นโอกาสในขณะที่คนอื่นรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ และแน่นอนความอดทนก็ทำให้เกิดโอกาสใหม่ๆตามมาด้วย
คอร์ลีบอกว่า “สุดท้ายโชคจะมาเยือนผู้ที่ไม่ยอมละทิ้งความฝันและเป้าหมายของตนเอง”
==========================
อย่าพลาดโอกาสที่จะเปลี่ยนชีวิตของคุณให้ดีขึ้น!
เตรียมพบกับ Make Rich Expo มหกรรมการลงทุนแห่งชาติ ที่จะพาคุณก้าวเข้าสู่โลกของการลงทุนที่ทันสมัยและเข้าใจง่ายกว่าที่เคย! ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หัดลงทุน หรือผู้ที่มีประสบการณ์ เรามีทุกสิ่งที่คุณต้องการเพื่อสร้างความมั่งคั่งในอนาคต
เข้าร่วมงานฟรี!!
ลงทะเบียนในคอมเมนต์
แล้วพบกันวันที่ 2 - 3 November 2024 เวลา 10.00 - 19.00 น. ณ Paragon Hall ชั้น 5 ศูนย์การค้า Siam Paragon
========================

ลงทุนพอร์ตเสี่ยงกลางหุ้น 60/ตราสารหนี้ 40พร้อมคุ้มครองชีวิต ด้วย Unitlinked ที่ AIA มีแผนให้เลือกมากทื่สฺด ตามความเหมาะส...
10/10/2024

ลงทุนพอร์ตเสี่ยงกลางหุ้น 60/ตราสารหนี้ 40
พร้อมคุ้มครองชีวิต ด้วย Unitlinked ที่ AIA มีแผนให้เลือกมากทื่สฺด ตามความเหมาะสมของแต่ละท่าน
พร้อมมีผู้จัดการกองทุนระดับโลก ดูแลจัด/ปรับพอร์ตให้ ตามสถานการณ์
เบี้ยบางส่วนลดภาษืได้
ทักมาคุยกันได้ค่ะ

ถ้าจั่วหัวว่าทำอย่างไรถึงรวยช้าๆ คงไม่มีใครอ่าน เพราะทุกคนอยากรวยเร็ว

แต่มีเด็กสองคน ที่คิดว่าจะรวยช้าๆ แต่ผลออกมารวยเร็วกว่าที่คาดมาก

หลายปีก่อนเคยอ่านหนังสือชื่อ “Quit like a Millionaire”

เรื่องของเด็กสองคน เรียนจบที่ Waterloo Canada พอเริ่มทำงาน เงินเดือนถือว่าดี แต่อยากมีอิสรภาพทางการเงิน

จากที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการลงทุนเลย ได้ศึกษาทฤษฎีแบบพื้นฐาน และทดลองนำมาใช้ดู

1/ ลงทุนจัดพอร์ตแบบ Classic 60/40:
60% ในหุ้น
40% ในตราสารหนี้

2/ ในสัดส่วนหุ้น 60% แบ่งเป็นสามส่วนเท่าๆกัน
20% S&P500 Index ของ US เพราะเป็นตลาดใหญ่ที่สุดในโลก
20% Canada Index เพราะเป็นคนแคนาดา (home-bias)
20% Market Index ประเทศอื่นๆ ทั่วโลก

3/ เหตุผลที่เลือก Index เพราะต้องการกระจายการลงทุน ไม่ต้องการรับความเสี่ยงหุ้นรายตัว ต้นทุนต่ำ และ "Index ไม่มีทางเป็นศูนย์"

4/ ทยอยลงทุนเพิ่มเติมทุกเดือน DCA (Dollar-cost average)

5/ แต่เคล็ดลับที่สำคัญที่สุดคือ มีการปรับพอร์ตเป็นระยะๆ (Rebalancing) เพื่อให้สัดส่วนกลับมาอยู่ตามเดิมที่ 60/40

ผลพลอยได้ของการเลือกลงทุนแบบนี้คือ ทั้งสองคน เริ่มมีเป้าหมายในชีวิต ทำให้ประหยัดมากขึ้น ใช้จ่ายอย่างมีสติ ชะลอการซื้อวัตถุชิ้นใหญ่ เพราะต้องการนำเงินมาลงทุนสร้างผลตอบแทนอิสรภาพทางการเงิน ให้เร็วที่สุด

สิ่งที่เกิดขึ้นคือ พอเริ่มลงทุนไปได้ไม่นาน เกิดวิกฤต Subprime Crisis ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลง 30-50% จนทั้งสองคนเกือบจะเลิก ยอม Cut-loss มอบตัว

แต่พอกลับไปอ่านทฤษฎีแล้วพบว่า การ Cut-loss ตอนนี้เป็นความผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุด ทั้งสองเลยเดือนหน้าลงทุน DCA ต่อ และทำการ Rebalancing ตามแผนที่วางไว้

เมื่อตลาดหุ้นลง ทำให้สัดส่วนในพอร์ตเปลี่ยนไปจากเดิม จาก หุ้น/ตราสารหนี้ 60/40 จนอาจจะกลายเป็น 40/60

พอมีการ Rebalance กลับเป็น 60/40 ตามเดิม เท่ากับว่า ทั้งสองคนกำลังโยกเงิน ไปซื้อหุ้นในยามที่ราคาถูก

ตลาดหุ้นปรับตัวลงปีกว่า พอขึ้นกลับไปสู่จุดสูงสุดใหม่ พอร์ตทั้งสองคนเติบโตขึ้นมากกว่าตลาดมาก และยังทยอยปรับสัดส่วนให้เป็น 60/40 เป็นระยะๆ “ตามระบบ” ซึ่งก็เท่ากับว่า กำลังขายหุ้นในราคาแพง

ระบบนี้ ถูกสร้างมาเพื่อ = กระจายความเสี่ยง + ซื้อถูก + ขายแพง

จากที่คาดว่าอีกหลายปีจะมี อิสรภาพทางการเงิน สุดท้ายผ่านไปไม่กี่ปี ก็สำเร็จตามเป้า

แน่นอนว่าเวลาผ่านไป ทั้งสองย่อมเรียนรู้มากขึ้น มีการวางพอร์ตให้ละเอียดหลากหลายมากขึ้น มีกลยุทธ์มากขึ้น มีเงินปันผล และกันส่วนเผื่อเหลือเผื่อขาด กรณีฉุกเฉิน

ปัจจุบัน ผ่านอิสรภาพทางการเงินมาหลายปีแล้ว ไม่รู้ว่าทั้งสองยังใช้ชีวิต ทำตามแผนที่ตั้งใจไว้แต่แรกหรือเปล่า

แต่สิ่งที่เรียนรู้ได้คือ มีตัวอย่างการวางแผนการเงินแบบหนึ่ง ที่พิสูจน์แล้วว่าใช้กับทุกคนได้ อาจจะไม่ทำให้รวยเร็วที่สุด แต่สามารถเติบโตช้าๆ อย่างมั่นคง มีการกระจายความเสี่ยงที่ดีมาก

และสุดท้าย อาจถึงเป้าหมายเร็วกว่าที่คาดครับ

มาวางแผนการทำงานที่เรารักให้มีประสิทธิภาพกันค่ะ
08/10/2024

มาวางแผนการทำงานที่เรารักให้มีประสิทธิภาพกันค่ะ

The lack of processes may be holding you back from achieving more and reaching your goals. Top of the Table member Corey Williams shares his processes for managing his day, week and year to achieve peak performance and long-term success.

วางแผนภาษีให้ดี ทั้งของตนเอง และกิจการ มีเงินเก็บเกษียณเพิ่มขึ้นได้นะคะ
14/09/2024

วางแผนภาษีให้ดี ทั้งของตนเอง และกิจการ มีเงินเก็บเกษียณเพิ่มขึ้นได้นะคะ

[ ] “เกษียณครั้งแรก” จัดการเงินยังไงไม่ให้ขัดสน 5 เคล็ดลับจัดการรายได้-รายจ่าย สำหรับมือใหม่วัยเกษียณ
ในช่วงวัยทำงาน เมื่อใช้เงินจนหมด ก็สามารถรอเงินเดือน เดือนถัดไปเข้ามา ก็มีเงินก้อนใหม่ใช้จ่าย แต่สำหรับผู้ที่เพิ่งเกษียณอายุจากการทำงานหมาดๆ และไม่ได้มีรายได้ประจำอีกต่อไป ถ้าใช้เงินอย่างเพลิดเพลิน อาจทำให้เงินเก็บก้อนสุดท้ายหมดลงอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่ปี และทำให้ไม่มีเงินเหลือเพียงพอต่อการดำรงชีวิต
มือใหม่วัยเกษียณบางคน มองดูจำนวนเงินที่ตัวเองเก็บมาในช่วงทำงาน และมั่นใจว่าเพียงพอต่อการใช้ชีวิต จึงผู้เกษียณไม่น้อยที่ช่วงแรกๆ หลังจากเกษียณ (อายุ 60 - 65 ปี) มีโอกาสใช้จ่ายเงินมือเติบ และเมื่อเปิดดูเงินในบัญชีอีกครั้งอาจเหลือเพียงเล็กน้อย ดังนั้น เพื่อไม่ให้สายเกินไป มือใหม่วัยเกษียณต้องจัดสรรและจัดการเงิน เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีเงินใช้อย่างสะดวกสบาย ไปจนถึงบั้นปลายชีวิต
📌 กำหนดเป้าหมายการเกษียณอายุให้ชัดเจน
ก่อนถึงวันเกษียณ ต้องมีความเข้าใจ และชัดเจนกับเป้าหมายการเกษียณอายุของตัวเอง ด้วยการพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ต้องการใช้ชีวิตที่จังหวัดไหน คาดว่าจะมีชีวิตจนถึงเท่าไหร่ วิถีชีวิตที่ต้องการในช่วงเกษียณ หรือบางคนอาจมีเป้าหมายเฉพาะ เช่น เดินทางท่องเที่ยว อาศัยบ้านพักผู้สูงอายุ เป็นต้น
📌 สำรวจแหล่งรายได้
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ให้ข้อมูลว่าในวันที่เกษียณ 'รายได้' เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้มีกินมีใช้ไปตลอดชีวิต ดังนั้น สิ่งแรกที่ต้องทำในวันที่เกษียณ คือ สำรวจแหล่งรายได้หลังเกษียณอย่างเป็นระบบ เพื่อให้รู้ว่าเรามีทรัพย์สินอะไร อยู่ที่ไหน อย่างละเท่าไหร่ แล้วคำนวณว่าหลังเกษียณจะยังมีรายได้จากแหล่งใดบ้าง จากนั้นก็จัดสรรเงินที่มีอยู่เพื่อให้สามารถมีใช้ในแต่ละเดือนได้อย่างไม่ขัดสนและพอใช้ไปตลอดชีวิต โดยแบ่งออกเป็น
➡️ เงินได้รายงวด (ประจำเดือน/ประจำปี)
สำหรับใช้ในแต่ละเดือนระหว่างเกษียณ หลักๆ ได้แก่
💰 เงินบำนาญ เช่น ประกันสังคม ประกันบำนาญ หรือบำนาญข้าราชการ เป็นต้น
💰 ผลตอบแทนจากการลงทุน เช่น ดอกเบี้ยเงินฝาก/หุ้นกู้ เงินปันผลจากการลงทุนหุ้น และกองทุนรวม เป็นต้น
💰 รายได้จากอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า เช่น คอนโดมิเนียม บ้าน ที่ดิน เป็นต้น
💰 รายได้จากรูปแบบอื่น ๆ เช่น รายได้จากการทำอาชีพเสริม เป็นต้น
➡️ เงินก้อนหลังเกษียณ
สำหรับสำรองใช้หลังเกษียณและเป็นที่มาของดอกผลจากการลงทุนด้วย ได้แก่
💰 เงินบำเหน็จจากสวัสดิการที่ทำงาน หรือเงินค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงานจากการเกษียณอายุหรือหมดสัญญาจ้าง
💰 เงินลงทุนที่เตรียมไว้สำหรับการเกษียณ เช่น เงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวม RMF กองทุนรวม SSF หรือ SSFX เป็นต้น
💰 เงินก้อนอื่น ๆ เช่น เงินครบกำหนดประกันชีวิต เงินฝากธนาคาร เป็นต้น
📌 คำนวณรายจ่าย
หลังจากสำรวจแหล่งรายได้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้คำแนะนำว่าจากนั้นก็คำนวณรายจ่าย โดยให้นึกถึงรายจ่ายที่คาดว่าจะเกิดขึ้นตามความเป็นจริงมากที่สุด และสามารถใช้ได้ในแต่ละเดือนอย่างไม่ขัดสน โดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 4 หมวด
➡️ รายจ่ายสำหรับใช้ชีวิต เป็นรายจ่ายทั่วไปในชีวิตประจำวัน เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ เป็นต้น เป็นรายจ่ายทั่วไปที่คนวัยเกษียณส่วนใหญ่นึกถึง มักจะเผื่อเงินสำหรับรายจ่ายส่วนนี้แล้ว
➡️ รายจ่ายด้านสุขภาพและค่ารักษาพยาบาล เป็นรายจ่ายที่คนส่วนใหญ่อาจมองข้าม และไม่ได้เตรียมไว้ รวมถึงเบี้ยประกันสุขภาพที่ต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นตามอายุอีกด้วย ดังนั้น เพื่อให้เกิดความสบายใจควรเตรียมเงินเผื่อค่าใช้จ่ายสำหรับค่ารักษาพยาบาล หรือจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพระหว่างที่เกษียณอายุ แต่ถ้ามีตัวช่วยค่ารักษาพยาบาลจากสวัสดิการข้าราชการ ระบบประกันสังคม หรือโครงการประกันสุขภาพทั่วหน้าของภาครัฐ ก็ทำให้การเตรียมค่าใช้จ่ายส่วนนี้น้อยลงได้
➡️ รายจ่ายเพื่อความสุขทางใจ วัยเกษียณควรเป็นช่วงชีวิตที่มีความสุขที่สุด มีเวลาว่างในการใช้ชีวิตจึงควรเผื่อค่าใช้จ่ายบางส่วนเพื่อทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ และเป็นประโยชน์กับสังคม เช่น ท่องเที่ยว ทำบุญ หรืออาจเป็นค่าใช้จ่ายให้กับลูกหลานที่มาดูแล ส่วนจะแบ่งเท่าไหร่ก็ตามความเหมาะสม
➡️ รายจ่ายอื่น ๆ ควรเตรียมเงินอีกก้อนหนึ่งสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายที่อาจนึกไม่ถึง เช่น ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย หรือซื้อของที่อยากได้ เช่น ทีวี ตู้เย็น เพราะเมื่ออายุมากขึ้น ที่อยู่อาศัยหรือทรัพย์สินต่าง ๆ ย่อมเสื่อมสภาพทรุดโทรมลงตามกาลเวลา หากไม่เผื่อค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาส่วนนี้ไว้ อาจจะต้องใช้เงินจากส่วนอื่นเพื่อมาใช้จ่ายแทน และอาจกระทบกับคุณภาพชีวิตได้
📌 จัดลำดับความสำคัญการใช้จ่าย
เมื่อเกษียณอายุแล้ว อาจมีโอกาสสร้างรายได้ประจำไม่มากเหมือนช่วงวัยทำงาน ดังนั้น จึงต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายทุกอย่างพร้อมจัดอันดับความสำคัญด้วย เริ่มจากค่าใช้จ่ายตัวเองและครบครัว (คู่สมรสและลูก) จากนั้นก็เป็นค่าใช้จ่ายพ่อแม่ และถ้ามั่นใจว่ามีเงินเก็บเพียงพอก็ค่อยนำไปช่วยเหลือพี่น้อง
📌 การปรับเปลี่ยนแผนการใช้จ่าย
ตรวจสอบและปรับแผนการใช้จ่ายเป็นระยะ ๆ ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง เช่น สถานะสุขภาพ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นไม่คาดคิดจนต้องแก้ไขการใช้จ่ายหรือจำนวนและระยะเวลาการถอนเงิน การวางแผนใช้จ่ายหลังวัยเกษียณ เป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ถ้าทำให้มีความสมดุลระหว่างการใช้ชีวิตและการเงิน จะทำให้มีความสุขไปตลอดชีวิต
#เกษียณอายุ #วางแผนเกษียณ #วัยเกษียณใช้จ่ายอย่างไรดี #การเงิน

ขอบคุณเพจ Fun Manager นะคะ สำหรับคำแนะนำเรื่อง asset allocation Unitlinked ประกันชีวิต ควบการลงทุนของ AIA มีทีมงานผู้เชี...
19/08/2024

ขอบคุณเพจ Fun Manager นะคะ สำหรับคำแนะนำเรื่อง asset allocation

Unitlinked ประกันชีวิต ควบการลงทุนของ AIA มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญจัดพอร์ต asset allocation ให้ตามความเสี่ยงที่รับได้
ครอบคลุมทั้งความคุ้มครองชีวิต และโอกาสที่เงินทุนจะเติบโตอย่างมั่นคงค่ะ

#จัดพอร์ตETF แบบ JPMorgan Guide to Market

ในรูปด้านล่างเป็นรูปที่แอดโพสต์บ่อย ทุกๆเดือน/ไตรมาส
ซึ่งสัดส่วนการลงทุนคือ หุ้น 55% ตราสารหนี้ 35% Commo 5% REITs 5%

มีนักลงทุนถามเข้ามาว่า มันอิงหรือมี ETF ยังไงได้บ้าง แอดเลยจัดให้ในรูปด้านซ้าย ใครสนใจไอเดียจัดพอร์ต ETF แบบในรูปด้านล่างก็เอาไปจัดพอร์ตแล้วทำ Rebalance ใหม่ทุกต้นปีให้ได้สัดส่วนเท่าเดิม

ลองเช็ค ETF อีกทีว่าตัวไหน ถูกแพง หรือ Tracking ตรงกับดัชนีไหมนะครับ

11/08/2024

AIA มีแบบประกัน Unitlinked หลากหลายแบบมากที่สุด วางแผนได้ครอบคลุม ปิดความเสี่ยงทุกด้าน และ AIA Investpro มีพันธมิตรและผู้เชี่ยวชาญการลงทุนระดับโลกดูแลพอร์ตการลงทุนให้

💙หน้าที่ของ Financial Advisor คีอทำให้ลูกค้าเข้าใจถึงความเสี่ยงและปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นจากการที่ลูกค้าไม่มีประกัน
31/07/2024

💙หน้าที่ของ Financial Advisor คีอทำให้ลูกค้าเข้าใจถึงความเสี่ยงและปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นจากการที่ลูกค้าไม่มีประกัน

Clients may not understand how they could be putting their family’s financial security at risk. It’s the job of financial advisors to help clients understand...

29/06/2024

พบกับ Quarterly Investment Insights Q1/2024 ที่นำเสนอเทรนด์ตลาดทุนของไตรมาส 1 พ.ศ. 2567 โดย บลจ.เอไอเอ ผ่านมุมมองของพันธมิตรด้านการลงทุนระดับโลกอย่าง BlackRock
ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับช่วงเวลาและขนาดของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed เพิ่มขึ้น เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ดีกว่าคาดและอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง มุมมองของ BlackRock ต่ออัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยเป็นอย่างไร?
BlackRock: “ข้อมูลเงินเฟ้อจนถึงขณะนี้ในปี 2024 ได้ยืนยันมุมมองของเราว่าการปรับลดลงของเงินเฟ้อในช่วง “ระยะสุดท้าย” ไปสู่ระดับเงินเฟ้อเป้าหมาย 2% ของ Fed นั้น จะเป็นเรื่องยากที่จะบรรลุผลสำเร็จ การจ้างงานที่แข็งแกร่งและราคาสินทรัพย์ที่ปรับตัวสูงขึ้นช่วยสนับสนุนการใช้จ่ายของผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังมีการใช้จ่ายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ล่าช้าจำนวนมากที่เพิ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่แท้จริง มันจึงเป็นเรื่องยากที่อัตราเงินเฟ้อจะเย็นลง ในขณะที่ยังคงมีสภาพคล่องมากมายที่ไหลผ่านทั้งตลาดการเงินและเศรษฐกิจที่แท้จริง”
“ในด้านอัตราดอกเบี้ย ความแข็งแกร่งของการเติบโตทางเศรษฐกิจ การจ้างงาน และอัตราเงินเฟ้อ ทำให้คณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐฯ (FOMC) และธนาคารกลางทั่วโลกอยู่ในสถานะที่ท้าทาย หลังจากที่ธนาคารกลางส่วนใหญ่ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะผ่อนคลายนโยบายการเงินในปี 2024 เราคิดว่าตลาดไม่สมเหตุสมผลนักเมื่อสะท้อนการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ย 6 ครั้ง ไปเมื่อต้นปีนี้ ซึ่ง ณ ระดับราคาปัจจุบันที่สะท้อนถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยประมาณ 1.5-2 ครั้ง เราประเมินว่าสมเหตุสมผลมากกว่า อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่ามีโอกาสที่ Fed อาจไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเลย หรืออาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ในปัจจุบัน”
อ่านฉบับเต็มต่อได้เลยที่ https://www.blockdit.com/posts/667be3eb64f4e36210628cbc

เริ่มวางแผนการเงินระยะยาว กับ AIA InvestPro บริการผู้เชี่ยวชาญที่ช่วยดูแลการลงทุนจาก AIA และ บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) พร้อมด้วยพันธมิตรด้านการลงทุนระดับโลก อาทิ BlackRock ผ่านกรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุน เอไอเอ ยูนิต ลิงค์ ที่เหมาะกับคุณได้แล้ววันนี้
ติดต่อตัวแทน เอไอเอ หรือดูรายละเอียดได้ที่ : https://www.aia.co.th/th/our-products/save-invest/unit-linked
คำเตือน:
• ผู้ขอเอาประกันภัยควรทำความเข้าใจรายละเอียด เงื่อนไข ความคุ้มครองและข้อยกเว้น ก่อนตัดสินใจทำประกันภัย รวมทั้งศึกษาทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงจากการลงทุน ก่อนตัดสินใจลงทุน
• ข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครองจะระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยที่ออกให้กับผู้ถือกรมธรรม์
• ผลการดำเนินงานในอดีต/ ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

งานดีๆที่มื 3 i AIA Financial Advisor Impact ทื่ดืกับสังคม สร้างความคุ้มครอง ความมั่นคงทางการเงินให้กับครอบครัวลูกค้าInd...
29/06/2024

งานดีๆที่มื 3 i AIA Financial Advisor

Impact ทื่ดืกับสังคม สร้างความคุ้มครอง ความมั่นคงทางการเงินให้กับครอบครัวลูกค้า

Independent ทำงานอิสระ วางแผนจัดการเวลาเองได้ มี work-life balanced ใช้ชีวิตได้ตามต้องการ แตกต่างจากงานประจำ

Income รายได้ทื่ดี มีธุรกิจเป็นของตัวเองโดยมีระบบของ AIA สนับสนุน ยิ่งทำงานที่เป็นประโยชน์ มีคุณค่ากับผู้คนได้มาก รายได้ก็สูงตาม
ไม่ต้องมีเงินลงทุน

#ทำงาน5ปีโบนัส5ล้าน
ี5ล้าน

💰ธุรกิจเสี่ยงได้เพื่อผลตอบแทนในระยะยาว 🥰มั่นใจครอบครัวอยู่สบายไม่กระทบถ้ามีเหตุร้ายเกิดขึ้น ⭐️อิสระปรับเปลี่ยนได้ เบิกถอ...
28/06/2024

💰ธุรกิจเสี่ยงได้เพื่อผลตอบแทนในระยะยาว
🥰มั่นใจครอบครัวอยู่สบายไม่กระทบถ้ามีเหตุร้ายเกิดขึ้น
⭐️อิสระปรับเปลี่ยนได้ เบิกถอนได้ถ้าฉฺกเฉิน

🧑‍💼คิดทำธุรกิจ ต้องปิดความเสี่ยงรอบด้าน ไม่ให้กระทบคนข้างหลัง
ให้ประกันชีวิตควบการลงทุนเป็นเบาะรองรับเมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิด ไม่ว่าจะในชีวิตหรือธุรกิจของคุณ
💵 กรณีฉุกเฉินสามารถเบิกถอนบางส่วน รวมถึงสามารถหยุดพักชำระเบี้ยได้*
💵 มีโอกาสได้ผลตอบแทนเพิ่มจากการลงทุน ให้คุณส่งต่อความมั่งคั่งสู่คนข้างหลัง
💵 ยืดหยุ่นกว่าประกันชีวิตทั่วไป สามารถปรับความคุ้มครองชีวิตได้สูงสุด 250 เท่า**
สมัครเลย🔔AIA Issara Plus (Unit Linked)
ประกันชีวิตควบการลงทุนยืดหยุ่นสูง ปรับความคุ้มครองได้ตามความต้องการของคุณ
สมัครเลย https://aiathailand.info/fbconjun24no6
#ประกันชีวิตควบการลงทุน #ประกันยูนิตลิงค์ #อิสระพลัสประกันสำหรับคนรักอิสระ
หมายเหตุ:
*ภายใต้เงื่อนไขที่ระบุในกรมธรรม์
**ปรับเพิ่มจำนวนเงินเอาประกันภัยได้สูงสุดถึง 250 เท่า ขึ้นอยู่กับเพศและอายุ ทั้งนี้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด
• การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ (aia.co.th)
• ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
• ผู้ขอเอาประกันภัยควรศึกษาทำความเข้าใจรายละเอียดข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครอง รวมทั้งข้อยกเว้นไม่คุ้มครองของผลิตภัณฑ์ประกันภัย และเงื่อนไขที่เอไอเอประกาศ ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
• ข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครองจะระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยที่ออกให้กับผู้ถือกรมธรรม์

ประกันโรคร้ายแรง รับค่าชดเชยเป็นเงินก้อนถ้าเป็นโรคร้าย มีหลายแบบ หลายราคาให้เลือกค่ะ
26/06/2024

ประกันโรคร้ายแรง รับค่าชดเชยเป็นเงินก้อนถ้าเป็นโรคร้าย มีหลายแบบ หลายราคาให้เลือกค่ะ

23/06/2024

ประกันชดเชยโรคร้ายแรงที่ดีที่สุด จาก AIA
เจอ จ่าย หลายจบ
เบื้ยไม่จ่ายทิ้ง คุ้มครองถึง 99 ปี

ไม่อยากซื้อประกัน เพราะ🩷ลงทุนเก่งอยู่แล้วได้ผลตอบแทนสูงกว่า🩵มีกิจการส่วนตัวผลกำไรสูงกว่า 🥰การใช้ประกันชีวิตปิดความเสี่ยง...
26/05/2024

ไม่อยากซื้อประกัน เพราะ
🩷ลงทุนเก่งอยู่แล้วได้ผลตอบแทนสูงกว่า
🩵มีกิจการส่วนตัวผลกำไรสูงกว่า
🥰การใช้ประกันชีวิตปิดความเสี่ยงด้านความผันผวนการลงทุนได้ดี ตามนี้ค่ะ

https://www.set.or.th/th/education-research/education/happymoney/post-retirement?utm_id=happymoney-spotlight-setorth-202...
16/04/2024

https://www.set.or.th/th/education-research/education/happymoney/post-retirement?utm_id=happymoney-spotlight-setorth-2024&utm_source=facebook&utm_medium=ppc&utm_campaign=happymoney&utm_content=happymoney-cam01-banner-prpackgagecontent-20240403

“4 Steps บริหารเงินหลังเกษียณ” ที่จะเป็นแนวทางจัดการเงินก้อนหลังเกษียณ เพื่อให้อยู่อย่างสบายไปจนถึงวันสุดท.....

ที่อยู่

24 Serithai
Bangkok
10230

เวลาทำการ

จันทร์ 08:00 - 21:00
อังคาร 08:00 - 21:00
พุธ 08:00 - 21:00
พฤหัสบดี 08:00 - 21:00
ศุกร์ 08:00 - 21:00
เสาร์ 09:00 - 17:00
อาทิตย์ 09:00 - 17:00

เบอร์โทรศัพท์

+66922539039

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Keyman Insurance บริหาร วางแผนภาษีบริษัทผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Keyman Insurance บริหาร วางแผนภาษีบริษัท:

แชร์