21/12/2024
หมดเวลาของการ “ไม่บอก” หรือ “บอกไม่หมด” หรือ “บอกไม่ครบ”
Netflix vs Privacy Notice
ปฏิเสธไม่ได้ว่า platform บันเทิงคดีด้านภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมเจ้าหนึ่งสมัยนี้ คือ “Netflix”
“Netflix” นั้นถือกำเนิดในสหรัฐอเมริกา 🇺🇸โดยบุรุษนามกระเดื่องที่ชื่อว่า “Reed Hastings” อดีตนักคณิตศาสตร์และวิศวกรประจำ Pure Software ครับ
ส่วนที่มาที่ไปของไอเดียการก่อตั้ง Netflix ก็มีเรื่องเล่าขานกันเพราะว่า นาย Reed คืนแผ่น DVD เรื่อง Apollo 13 ช้าไปหลายวัน
โดนร้าน Blockbuster ปรับเป็นเงิน $40 เหรียญสหรัฐ ทำให้เกิด painpoint และความคิดที่ว่าทำไมร้านเช่า DVD ถึงต้องมีการกำหนดระยะเวลาคืนแผ่น DVD 😡
(ปัจจุบันร้าน Blockbuster เหลือแต่ตำนานครับ)
ความคิดนั้นได้นับการพัฒนากลายมาเป็นระบบสมาชิก subscription แบบรายเดือน ซึ่งรู้หรือไม่ว่าระยะเริ่มต้น business model นั้นลูกค้าต้องกรอกข้อมูลส่วนบุคคลในเว็บไซต์และเลือกภาพยนตร์ได้เพียง 3 เรื่อง!
เมื่อกด submit ทาง Netflix ก็จะส่งแผ่น DVD มาให้ที่บ้าน (ส่งมาพร้อมกับซอง 3 ซองที่ติดอากรแสตมป์เรียบร้อย) เบื่อเมื่อไหร่ก็เข้าไปเลือกหนังใหม่ในเว็บไซต์และส่งแผ่น DVD (ใส่ซองที่เตรียมมาให้) กลับไปที่ Netflix
….โดยส่วนตัว ผมได้ผ่านประสบการณ์ การใช้ Netlfix ในยุคนั้น (ระหว่างปี 1999-2002) และกลับมาใช้อีกครั้งเมื่อกลับมาเมืองไทย ส่วนตัวผมนั้นชื่นชมบริษัทนี้และนาย Reed Hastings มากขอออกตัวไว้ก่อน
วันเวลาผ่านไปจนมาสหัสวรรษปัจจุบันครับ Netflix ได้เปลี่ยนโฉมเป็นยักษ์ใหญ่วงการภาพยนต์ มีหนังแบบออกทุนสร้างเอง (Netflix Original)
รวมถึงมีการทำการตลาดแบบ Personalization มีระบบ Algorithm ที่แนะนำภาพยนตร์ตามจริตของสมาชิก (users) ผู้ใช้อ่าน 
แน่นอนว่ามีการเฝ้าพฤติกรรม (monitoring) ติดตามพฤติกรรม (tracking) อย่างเป็นระบบและเป็นปรกติ
ปัญหาอยู่ตรงไหน?
ปัญหาอยู่ตรงที่หลังจากสหภาพยุโรป 🇪🇺 และโลกทั้งใบได้สมาทาน กฎหมายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตั้งแต่ปี 2018
แต่ Netflix เองกลับไม่ได้แจ้งให้ลูกค้าทราบอย่างเพียงพอว่าได้ดำเนินการอย่างไรกับข้อมูลของลูกค้า!!
เหตุการณ์มันสั่งสมจนสร้างความไม่พอใจให้ผู้บริโภค (ที่เรียกร้องสิทธิมากขึ้น)
นับจากปี 2019 หรือเกือบ 5 ปีที่ผ่านมาองค์กร nyob (ของ นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิความเป็นส่วนตัวนำโดยนายแม็ค ชแรมป์)
ได้ยื่นคำร้องต่อหน่วยงานกำกับด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเนเธอร์แลนด์ 🇳🇱 (AutoriteitPersoonsgegevens: AP) ซึ่ง Netlfix มีสำนักงานใหญ่ที่กรุงอัมสเตอร์ดัม
โดยได้ฟ้อง Netflix ในประเด็นที่ ไม่ได้แจ้งให้สมาชิกชาวยุโรปทราบว่ามีการดำเนินการใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า อย่างไร
คดีนี้ใหญ่ครับ…นำไปสู่การปรับโทษปกครองแก่ Netflix เป็นเงิน 4.75 ล้านยูโร (คูณ 35.66 ก็ประมาณ 169 ล้านบาท) 😱
โดยในสำนวนคดี กล่าวว่า Netflix ไม่ได้ให้ข้อมูลใน Privacy Notice ชัดเจนเพียงพอแก่ลูกค้าเกี่ยวกับการดำเนินการกับข้อมูลของลูกค้า
พูดง่ายๆ ภาษาชาวบ้านคือไม่ได้บอก หรือบอกไม่หมดว่า ฉันจะใช้ข้อมูลเธอเพื่อการใดบ้าง
Netflix ไม่ได้แค่ล้มเหลวในการ
1️⃣ ให้เหตุผลในการใช้ข้อมูลอย่างเพียงพอนะครับ แต่บริษัทยัง
2️⃣ไม่สามารถแม้กระทั่งจัดการคำขอผู้บริโภคที่มาใช้สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล (Right to Access) และขอสำเนาว่า Netflix ได้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอะไรไปบ้างได้อย่างครบถ้วนด้วยซ้ำ
บริษัทไทย ร้านค้าปลีกใด ที่มีระบบสมาชิก ระบบสะสมแต้ม หรือเก็บคะแนน ก็พิจารณาให้ดีนะครับ
หากท่านเป็น DPO ขององค์กร ต้องรู้กระบวนการธุรกิจ ต้องรู้การไหลของข้อมูล เพื่อนำไปเขียนประกาศความเป็นส่วนตัวให้ครบถ้วน
ส่วนตัวผมมองว่า หมดยุคของการ “ไม่บอก” หรือ “บอกไม่หมด” หรือ “บอกไม่ครบ” ว่าจะใช้ข้อมูลลูกค้าอย่างไรแล้วครับ