27/10/2024
“บิ๊กทัพเรือ” ทหารเก่า ค้าน “รัฐบาลเพื่อไทย“ เจรจาแบ่งผลประโยชน์ OCA พื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา เตือน อย่าหลงกล เขมร เด็ดขาด อย่า ยอมรับ เส้นไหล่ทวีป ที่เขมร อ้าง ”MOU 44“ ขีดเส้นลากผ่ากลางเกาะกูด ยัน พื้นที่ทับซ้อน ในทะเล ที่ เขมร อ้างสิทธิ์ 46.7 % ของพื้นที่ OCA ทั้งหมด เป็นของไทย 100% ไม่ควร ยอมรับ เส้นนี้ หวั่น เสียดินแดน แนะ ยกเลิก ”MOU 44” โดยพลัน
พลเรือเอกพัลลภ ตมิศานนท์ อดีต เสนาธิการทหารเรือ และอดีตสมาชิกวุฒิสภา ร่อนเอกสาร หลังฟังการให้สัมภาษณ์ของ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงและ รมว. กลาโหม กรณีพื้นที่ทับซ้อน OCA ไทย-กัมพูชา ว่า ผมในฐานะทหารเก่าแห่งราชนาวีก็ขอแสดงความเห็นถึง ปัญหาสำคัญเกี่ยวกับ OCA ไทย-กัมพูชาและแนวทางแก้ไข ว่า OCA ไทย-กัมพูชามีพื้นที่ 26,400 ตร.กม. เกิดจากการประกาศอ้างสิทธิ์ พื้นที่ไหล่ทวีปตามกฎหมายทะเลทั้งของไทย (ปี 2516) และกัมพูชา(ปี 2515) ในลักษณะอ้างสิทธิ์ฝ่ายเดียว (Unilateral claim) จึงเกิดพื้นที่อ้างสิทธิทับช้อน (Overlappine Claims Area : OCA) ขึ้น ถือว่ามีขนาดกว้างใหญ่มาก โดยมีสาเหตุ มาจากการที่กัมพูชาลากเส้นไหล่ทวีปด้านเหนือ ผ่ากลางเกาะกูด เปรียบเสมือนลากเส้นเขตแดนของประเทศหนึ่ง ผ่ากลางเกาะของอีกประเทศหนึ่ง ซึ่งเกินกว่าสิทธิ์ ตามกฎหมายทะเลและละเมิดอธิปไตยของไทย
ผลจากการที่กัมพูชาลากเส้นไหล่ทวีปผ่ากลางเกาะกูดในลักษณะ "เกินสิทธิ์"เช่นนี้ ทำให้เกิดพื้นที่อ้างเกินสิทธิ์ขึ้นใน OCA ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้ควรเป็นของไทย 100% กัมพูชาไม่มีสิทธิในพื้นพื้นที่ส่วนนี้เลย มีขนาด 12,331 ตร.กม. (พื้นที่ส่วนสีแดง) หรือกว่า 46.7 % ของพื้นที่ OCA ทั้งหมด ที่เหลืออีก 14.069 ตร.กม. หรือ 53.3% (พื้นที่ส่วนสีเขียว) จึงเป็นพื้นที่ทีแต่ละฝ่ายสามารถอ้างตามสิทธิ์ตามกฎหมายทะเลว่าเป็นเขตไหล่ทวีปของตน
หากไทยยอมให้นำทรัพยากรใน OCA (พื้นที่อ้างตามสิทธิ + พื้นที่อ้างเกินสิทธิ) มาแบ่งปันกับกัมพูชา ย่อมไม่ยุติธรรมกับไทย เพราะกัมพูชาย่อมไม่มีสิทธิใด ๆ เลย ในทรัพยากรในพื้นพื้นที่อ้างเกินสิทธิ์กว่า 46.7% ของ OCA (พื้นที่ส่วนสีแดง)
หลักเขต 73 พื้นที่อ้างเกินสิทธิ์ 12,331 ตร.กม. พื้นที่อ้างตามสิทธิ์ 14,069 ตร.กม.
แต่ที่สำคัญ หากไทยยอมให้นำทรัพยากรใน OCA มาแบ่งปันกับกัมพูชา ซึ่งเป็นข้อตกลงส่วนหนึ่งของ MOU44 เท่ากับไทยยอมรับความมีอยู่จริงของเส้นไหล่ทวีปที่ลากผ่านเกาะกูดนี้ ซึ่งจะสร้างความชอบธรรมให้กับกัมพูชา หากมีการเจรจาเส้นเขตแดนทางทะเลในอนาคต ให้สามารถใช้เป็นหลักฐาน หรือข้อพิสูจน์ในศาลระหว่างประเทศโดยอ้างสิทธิทางประวัติศาสตร์ (Historic Title) ตามกฎหมายทะเล เพื่อให้เส้นไหล่ทวีปที่ลากผ่านเกาะกูดนี้ เป็นเส้นเขตแดนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชาที่ถูกต้องสมบูรณ์และอาจนำไปสู่การเสียดินแดนของไทยต่อไป
สถานการณ์ ขณะนี้จึงอาจกล่าวได้ว่า ทั้ง OCA และ MOU44 เปรียบเสมือนกับดักไปสู่การเสียดินแดนของไทย
แนวทางแก้ไข คือ
1. ในทุกกรณีไทยต้องไม่ยอมตกลงแบ่งปันทรัพยากรใดๆ กับกัมพูชาในพื้นที่ OCA 26,400 ตร.กม.นี้ แต่จะต้องเจรจาแบ่งเขตแดนทางทะเลระหว่างกันให้แล้วเสร็จเสียก่อน หากไทยยอมตกลงแบ่งปันทรัพยากร ในพื้นที่ OCA ก่อนการเจรจาแบ่งเขตแดนแล้วเสร็จ เท่ากับว่าไทยกำลังเดินเข้าสู่กับดักการเสียดินแดน
2. ไทยควรประกาศยกเลิก MOU44 โดยเร็วที่สุด เพราะยิ่งเนิ่นนานไปไทยจะยิ่งเสียเปรียบ เนื่องจากบทบัญญัติของ MOU44 นั้น สื่อความหมายว่าไทยยอมรับการประกาศเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาเมื่อปี 2515 ซึ่งหมายถึงยอมรับความมีอยู่จริงและสร้างความชอบธรรมให้กับเส้นไหล่ทวีปกัมพูชาที่ลากผ่านเกาะกูดนี้ จะทำให้ไทยเสียเสียเปรียบในการเจรจาเส้นเขตแดนทางทะเลและอาจนำไปสู่การเสียดินแดนต่อไปในอนาคต
3. ไทยควรประกาศยืนยัน ไม่ยอมรับเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาที่ประกาศเมื่อปี 2515 และเสนอให้มีการเจรจาแบ่งเขตแดนทางทะเลระหว่างไทย-กัมพูชาต่อไป โดยสามารถใช้กฎหมายทะเลตามปกติเป็นกรอบการเจรจาได้เช่นเดียวกับ ที่ไทยดำเนินการกับประเทศอื่นๆสำเร็จลุลล่วงมาแล้ว เช่น มาเลเซียและเวียดนามเป็นต้น
https://www.facebook.com/share/p/GbJx7u6BfYM9dqLF/
#เกาะกูด #กองทัพเรือ #ไทย #ปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา #พื้นที่ทับซ้อน #ผลประโยชน์ทางทะเล #พื้นที่อ่าวไทย #ขุมทรัพย์ใต้พิภพ #เขตเศรษฐกิจ