Station 101

22/12/2022

Money Money #23 : 9 นิสัยที่ทำให้คุณไม่รวยซะที

บางครั้งคุณอาจนึกไม่ถึงว่านิสัยส่วนตัวบางอย่างของเราก็เป็นสาเหตุสำคัญให้เราห่างไกลจากเป้าหมายของความร่ำรวย วันนี้เรามาลองสำรวจ 9 นิสัย แย่ๆ ที่เป็นปัญหาทำให้เราไม่ถึงฝั่งฝันของความร่ำรวยกัน

#มันนี่มันนี่ #การเงินส่วนบุคคล #วิธีจัดการการเงิน #อยากรวย #เคล็ดลับความรวย #วางแผนภาษี

17/12/2022

Money Money #22 : จะรวยหรือจะรุ่งริ่ง ขึ้นอยู่กับความรู้เรื่องวงจรชีวิตการเงิน

เพื่อช่วยชนชั้นกลางทั่วๆไปได้วางแผนเป้าหมายทางการเงิน นักวางแผนทางการเงินจึงได้พัฒนาแนวคิดเรื่องวงจรชีวิตการเงิน ผู้ที่เข้าใจจะสามารถใช้ชีวิตให้สอดคล้องไปกับระยะต่าง ๆ ในวงจรนี้ได้

สนับสนุนรายการโดย: หลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงไทย

#มันนี่มันนี่ #การเงินส่วนบุคคล #วิธีจัดการการเงิน #อยากรวย #เคล็ดลับความรวย #วางแผนภาษี

16/12/2022

ไม่อยากให้ชีวิตรุ่งริ่งทางการเงิน ต้องเข้าใจเรื่องวงจรชีวิตการเงิน มาเรียนรู้ระยะต่าง ๆ ในวงจร กับการใช้ชีวิตให้สอดคล้อง ในรายการ Money Money กับ Lady J. วันพรุ่งนี้ (เสาร์ที่ 17 ธ.ค. ) เวลา 20.00 น. ทาง page: Station 101

สนับสนุนโดย หลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงไทย

10/12/2022

Money Money #21 : รวมเทคนิคออมเงิน 9 วิธี แบบง่าย ๆ ทำได้จริง รวยได้จริง

สรุปเทคนิคการออมเงินแบบง่าย ๆ ใช้ได้จริง เพื่อสร้างวินัยทางการใช้จ่าย แบบเห็นคุณค่าของเงิน แบบเริ่มได้และเห็นผลลัพธ์ในทันที

วิธีที่ 1 เก็บก่อนใช้

วิธีที่ 2 เก็บจากเศษเงินเดือน

วิธีที่ 3 เลือกเก็บเหรียญหยอดกระปุก

วิธีที่ 4 เลือกเก็บแบงค์ที่กำหนด

วิธีที่ 5 การเก็บเงินตามวันที่

วิธีที่ 6 การใช้หนี้ตัวเอง

วิธีที่ 7 เลือกใช้กระปุกออมสินแบบเปิดไม่ได้

วิธีที่ 8 งดอาหารและสิ่งของสิ้นเปลืองประจำวัน

วิธีที่ 9 ก่อนตัดสินใจซื้อของที่มีมูลค่าสูง ให้เผื่อเวลาและทอดระยะเวลาก่อนจ่ายเงิน

สนับสนุนรายการโดย: หลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงไทย

#มันนี่มันนี่ #การเงินส่วนบุคคล #วิธีจัดการการเงิน #อยากรวย #เคล็ดลับความรวย #วางแผนภาษี

09/12/2022

ถ้าออมเงินไม่ได้ซะที มาลองดูเทคนิคง่าย ๆ 9 วิธี ที่ทำได้จริง รวยได้จริง ในรายการ Money Money กับ Lady J. พรุ่งนี้ (เสาร์ 10 ธ.ค.) เวลา 20.00 น. ที่นี่ page: Station 101

สนับสนุนโดย "หลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงไทย"

03/12/2022

Money Money #20 : รวยหรือยัง? วิธีตรวจสอบความรวยที่แท้จริง

คนส่วนใหญ่ล้วนใฝ่ฝันอยากเป็นคนร่ำรวย แต่เท่าไหร่ละ ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นคนรวย ส่วนใหญ่เรามักเชื่อกันว่าคนรวยคือคนที่มีเงินล้าน เพราะในอดีตเงินหนึ่งล้านบาทมีค่ามากกว่าปัจจุบันเยอะมาก ดังนั้นสำหรับคนไทยเศรษฐีต้องมีเงินล้านบาท แต่ถ้าเป็นเศรษฐีต่างชาติตัวเลขคงต้องเปลี่ยนเป็น ล้านเหรียญสหรัฐแทน ในความเป็นจริงแล้วการวัดความร่ำรวยเราต้องวัดจากความมั่งคั่งสุทธิ โดยเราสามารถหาความมั่งคั่งสุทธิได้จาก การนำสินทรัพย์ทั้งหมดของเรา – หนี้สินทั้งหมดที่เรามีอยู่ ดังนั้นเศรษฐีเงินล้านในความหมายที่แท้จริงต้องหมายถึงเงินล้านที่นับจากความมั่งคั่งสุทธิ

สนับสนุนรายการโดย: หลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงไทย

#มันนี่มันนี่ #การเงินส่วนบุคคล #วิธีจัดการการเงิน #อยากรวย #เคล็ดลับความรวย #วางแผนภาษี

02/12/2022

มีเงินเท่าไหร่ถึงจะนับว่าเป็นคนรวย ต้องมีเป็นหลักล้านหรือเปล่า? เราจะวัดกันอย่างไรว่ามีเท่านี้เท่านั้นถึงจะรวย?

มาเรียนรู้วิธีตรวจเช็คความรวยของตัวคุณเองได้ในรายการ Money Money กับ Lady J. วันพรุ่งนี้ (เสาร์ 3 ธ.ค.) เวลา 20.00 น. ทาง page: Station 101 แห่งนี้

สนับสนุนโดย "หลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงไทย"

02/12/2022

วีซ่าเผยผลสำรวจเทรนด์การท่องเที่ยวต่างประเทศของนักเดินทางชาวไทยสำหรับปี 2023 (Thailand’s Travel Intentions Study 2023 – Outbound Edition) พบว่าจุดหมายปลายทาง 5 อันดับแรกที่นักเดินทางชาวไทยปรารถนาจะไปเยือนมากที่สุดได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และสหราชอาณาจักร



เหตุผลสามอันดับแรกของการเดินทางท่องเที่ยวในต่างแดนคือ
-เพื่อสำรวจสถานที่ใหม่ๆ ที่ไม่เคยไปเยือนมาก่อน (61%)
-ได้ใช้เวลาอันมีค่าร่วมกับครอบครัวและเพื่อนฝูง (42%)
-ได้ไปเยือนสถานที่ที่ชื่นชอบอีกครั้ง (36%)

โดยระยะเวลาท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมที่สุดสำหรับนักเดินทางชาวไทยเมื่อจะไปเที่ยวที่ต่างประเทศ คือ ระหว่าง 5-7 วัน (39%) ระหว่าง 8-10 (22%) และนานกว่า 2 สัปดาห์แต่ไม่เกิน 1 เดือน (12%)

และยังพบว่านักเดินทางชาวไทยคาดว่าจะมีการใช้จ่ายเฉลี่ยที่ราว 45,000 บาทกับเดินทางเพื่อการพักผ่อน ในขณะที่ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของการเดินทางเพื่อธุรกิจอยู่ที่ 40,000 บาท

01/12/2022

Money Money #19 : เปลี่ยน Mindset สู่ 4 ขั้นตอนการวางแผนการเงิน

เป้าหมายทางการเงินของคนส่วนใหญ่คือความร่ำรวย นี่คือเหตุผลว่าทำไมผู้คนจำนวนมากจึงมีความฝันที่จะมีรายได้สูงขึ้น สมมติฐานคือหากคนคนหนึ่งมีรายได้สูงขึ้น เขาก็จะมีเงินที่สูงขึ้นในอนาคตด้วย แต่ในความเป็นจริงมันไม่ได้เป็นแบบนี้เสมอไป อันที่จริงแล้วความมั่งคั่งในระยะยาวมีความสัมพันธ์กับการวางแผนทางการเงินอย่างสม่ำเสมอ คนที่ใส่ใจกับการเงินอย่างมีระบบและมีวินัยเป็นประจำทุกเดือน จะจบลงด้วยการมีฐานะร่ำรวยเมื่อเทียบกับคนที่ตรงกันข้าม

สนับสนุนรายการโดย: เคาน์เตอร์เซอร์วิส ชำระบิลค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ ตลอด 24 ชั่วโมง ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้าน 7-Eleven ได้แล้ววันนี้ ทุกสาขา

#มันนี่มันนี่ #การเงินส่วนบุคคล #วิธีจัดการการเงิน #อยากรวย #เคล็ดลับความรวย #วางแผนภาษี

01/12/2022

อดีตประธานาธิบดีเจียง เจ๋อหมิน ของจีน ได้ถึงแก่อสัญกรรมแล้วในวัย 96 ปี

อดีตประธานาธิบดีเจียง เจ๋อหมิน ของจีน ได้ถึงแก่อสัญกรรมแล้วในวัย 96 ปี จากโรคลูคีเมีย และอวัยวะหลายส่วนหยุดทำงาน ในนครเซี่ยงไฮ้ เมื่อเวลา 12.13 น. (เวลาจีน) วันที่ 30 พ.ย. 2022

เจียง เจ๋อหมิน ขึ้นสู่อำนาจเมื่อปี 1989 แทนประธานาธิบดีเติ้ง เสี่ยวผิง ในช่วงเวลานั้นจีนเพิ่งจะเริ่มเปิดประเทศและอยู่ในช่วงปฏิรูปเศรษฐกิจให้ทันสมัย ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากนานาชาติในเรื่องการใช้กำลังปราบปรามผู้ประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรัฐบาลของประธานาธิบดีเติ้ง เสี่ยวผิง

ดังนั้น การขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของเจียง เจ๋อหมิน จึงถูกวางภาพไว้ว่าเป็นผู้นำที่มีแนวทางประนีประนอม เพื่อสร้างความปรองดองระหว่างทั้งฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวาสุดโต่ง

เจียง เจ๋อหมิน กลายเป็นผู้นำจีนในช่วงที่เจ้าอาณานิคมอังกฤษมอบฮ่องกงคืนให้แก่จีนแผ่นดินใหญ่ในปี 1997, การเข้าเป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลกในปี 2001 ทำให้เศรษฐกิจจีนเป็นสากลมากขึ้น และในยุคสมัยของเจียง ปี 2001 จีนยังชนะสิทธิเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาวในปี 2008 อีกด้วย

นอกจากนี้ เขายังเสนออุดมการณ์ทางการเมืองของตัวเขาเองที่เรียกว่า “ทฤษฎีสามตัวแทน” (Three Represents theory) เพื่อปฏิรูปพรรคคอมมิวนิสต์ให้ทันสมัย และมีการพยายามกระชับความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ โดยเขาเดินทางไปเยือนหลายครั้ง และเสนอให้ความร่วมมือในการทำ “สงครามปราบปรามการก่อการร้าย” ภายหลังเหตุการณ์ 9/11

เมื่อหมดวาระและวางมือทางการเมืองแล้ว เจียง เจ๋อหมิน แทบไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณะ แต่ผู้คนยังคงนึกถึงเขาในฐานะผู้นำที่มีบุคลิกผ่อนคลายและมีสีสันมากกว่าผู้นำจีนคนอื่น ๆ ในอดีต หลายคนวาดภาพมีมล้อเลียนเขาด้วยความรักใคร่ เพราะแว่นตาขนาดใหญ่กับใบหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้เขาถูกเชื่อมโยงกับอึ่งอ่างหรือคางคก โดยคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบเขาก็มีคำศัพท์เรียกตัวเองว่า “ผู้บูชาคางคก”

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้สึกในเชิงบวกกับเจียง เจ๋อหมิน หลายคนวิจารณ์ว่าการบริหารงานของเจียงนั้นเป็นต้นตอที่นำไปสู่การทุจริตคอรัปชั่นที่กว้างขวางของจีนมาถึงปัจจุบัน

01/12/2022

เตรียมลงลึกเพื่อเปลี่ยน Mindset สู่ 4 ขั้นตอนการวางแผนการเงิน

พบกันในรายการ Money Money วันนี้ (พฤหัส 1 ธ.ค.) 20.00 น. ที่นี่ page: Station 101

สนับสนุนโดย: เคาน์เตอร์เซอร์วิส ชำระบิลค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ ตลอด 24 ชั่วโมง ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้าน 7-Eleven ได้แล้ววันนี้ ทุกสาขา

26/11/2022

Money Money #18 : อยากมีเงินเก็บแต่ยังมีหนี้ จะเริ่มต้นยังไงดี?

ในเมื่อการมีเงินออมเป็นสิ่งที่ดี แต่หนี้สินยังคงมีอยู่จนไม่เหลือเงินสำหรับการออม ก็ต้องเริ่มที่การปลดหนี้กันเสียก่อน การแก้ไขปัญหาหนี้สินอย่างเป็นระบบง่าย ๆ มี 3 ขั้นตอนคือ 1.การสรุปภาพรวมของหนี้ทั้งหมด 2.การวางแผนชำระหนี้ และ 3.การเจรจากับเจ้าหนี้

สนับสนุนรายการโดย: หลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงไทย

#มันนี่มันนี่ #การเงินส่วนบุคคล #วิธีจัดการการเงิน #อยากรวย #เคล็ดลับความรวย #วางแผนภาษี

25/11/2022

ทุกตำราการเงินบอกให้เรารีบออมเงิน

แต่ใครที่ยังไม่มีเงินออมเสียทีเพราะยังมีหนี้ที่ต้องคอยจ่ายอยู่ทุกเดือน

รอฟัง "3 ขั้นตอนแก้ไขปัญหาหนี้สินอย่างเป็นระบบ เพื่อให้มีเงินเหลือเก็บ"

พบกันพรุ่งนี้ (เสาร์ 24 พ.ย.) เวลา 20.00 น. ในรายการ Money Money กับ Lady J. ทาง page: Station 101

สนับสนุนโดย "หลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงไทย"

19/11/2022

Money Money #17: เช็คลิสต์ค่าลดหย่อน โค้งสุดท้ายบริหารภาษี

เนื่องจากใกล้ครบกำหนดสิ้นสุดการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีสำหรับปี 2565 ดังนั้นในตอนนี้เรามาลงรายละเอียดกันค่ะว่าเราสามารถวางแผนภาษีในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2565 กันได้อย่างไรบ้าง สำหรับผู้มีเงินได้ประจำเกิน 25,000 บาท ควรต้องพิจารณาเรื่องค่าลดหย่อนประกอบการวางแผนภาษีเนื่องจากมีรายได้สุทธิที่อาจจะเกิน 150,000 บาท ซึ่งอยู่ในช่วงอัตราภาษีที่ได้รับการยกเว้น

สนับสนุนรายการโดย: หลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงไทย

#มันนี่มันนี่ #การเงินส่วนบุคคล #วิธีจัดการการเงิน #อยากรวย #เคล็ดลับความรวย #วางแผนภาษี

18/11/2022

18/11/2022

สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เผยแพร่บทความเรื่อง “เวทีเศรษฐกิจเอเปค เพิ่มโอกาสการค้าไทย ดึงดูดการลงทุนสู่อีอีซี” มีเนื้อหาดังนี้

ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพงานประชุมองค์กรความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก : เอเปค (The Asia-Pacific Economic Cooperation : APEC) ระหว่างวันที่ 14-19 พ.ย.65 ได้วางวาระผลักดันการเจรจาใน 3 หัวข้อสำคัญ คือ เปิดกว้าง สร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกันสู่สมดุล (Open. Connect. Balance.) หมายถึง การเปิดกว้างด้านการค้าและการลงทุน ความเชื่อมโยงทุกมิติทางเศรษฐกิจ อาทิ การเดินทางและท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ความเชื่อมโยงข้อมูลทางดิจิทัล และการส่งเสริมการเติบโตที่เน้นสร้างความสมดุลโดยคำนึงถึงมิติด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายจัดทำเอกสารปฏิญญากรุงเทพฯว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG หรือBangkok Goals on Bio-Circular-Green (BCG) Economy เพื่อให้ที่ประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคให้การรับรอง

ประโยชน์ที่คาดว่าไทยในฐานะเจ้าภาพจะได้รับจากการประชุมเอเปค

บทบาทไทยในเวทีเศรษฐกิจโลก ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพการประชุมเอเปคครั้งนี้ จะได้แสดงศักยภาพให้นานาชาติได้เห็นถึง 1) ความพร้อมในการจัดงานระดับนานาชาติเพื่อต้อนรับผู้นำทั้งภาครัฐและเอกชนจากประเทศต่างๆ 2) ศักยภาพของประเทศไทยในการสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจของภูมิภาคและของโลก 3) การเสริมสร้างความเชื่อมั่นของนานาชาติที่มีต่อประเทศไทยในการมีจุดยืนไม่เลือกข้าง สร้างหุ้นส่วน ซึ่งประเทศไทยเชื่อว่าจะนำไปสู่การสร้างสมดุลเชิงยุทธศาสตร์ในภูมิภาคที่จะช่วยส่งเสริมสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน

การค้าระหว่างไทยกับเอเปคมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น การรวมกลุ่มของเอเปคเน้นความร่วมมือในการเปิดเสรีการค้าและการลงทุน การอำนวยความสะดวกการค้าและการลงทุนระหว่างกัน และการให้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการ โดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศรายงานว่าในปี 2564 การค้าระหว่างประเทศของไทยกับกลุ่มเอเปค มีมูลค่า 3.85 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 71.5% ของการค้าไทยกับโลก โดยไทยส่งออกไปเอเปค มูลค่า 1.95แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (72% ของการส่งออกรวม) และนำเข้าจากเอเปค มูลค่า 1.9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (71% ของการนำเข้ารวม) สำหรับในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ย. 2565) มูลค่าการค้ารวมระหว่างไทยกับกลุ่มเอเปค อยู่ที่ 3.14 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 68.7% ของการค้าไทยกับโลก

เอเปคสนับสนุนแนวทางภูมิภาคนิยมแบบเปิด (Open Regionalism) หมายถึงการให้สิทธิประโยชน์กับประเทศที่ไม่ได้เป็นสมาชิกเอเปคด้วย จึงเป็นการเพิ่มโอกาสการขยายห่วงโซ่อุปทานของไทยทั้งในและนอกภูมิภาคมากขึ้น และเพิ่มทางเลือกให้ผู้ประกอบการสามารถเลือกใช้ไทยเป็นแหล่งวัตถุดิบและฐานการผลิตที่มีความหลากหลายได้มากขึ้น คาดว่าจะดีต่อ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมเกษตรและเกษตรแปรรูป

พื้นที่อีอีซีมีแนวโน้มดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามามากขึ้น และต่อยอดให้ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนของภูมิภาค (Regional Hub) 5 ด้าน ได้แก่ Tech Hub ศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม, BCG Hub ศูนย์กลางการลงทุนเศรษฐกิจ BCG, Talent Hub ศูนย์รวมผู้มีศักยภาพจากทั่วโลก เช่น ผู้เชี่ยวชาญและบุคลากรทักษะสูง, Logistics Hub ศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค และ Creative Hub ศูนย์กลางอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ โดยอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ “ไทยแลนด์ 4.0” แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ 2566 – 2570) ของสภาพัฒน์ฯ และยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุน 5 ปี (พ.ศ. 2566 - 2570) ของบีโอไอ ได้แก่ ดิจิทัล BCG ไบโอเทค เมดิคัล สมาร์ทอิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์อัจฉริยะ รวมถึงกลุ่มสตาร์ทอัพ ทั้งนี้ เมื่อ BCG Economy Model ถูกประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติและเป็นแนวคิด(ธีม) หลักของการประชุมเอเปคครั้งนี้ ก็คาดว่าจะทำให้ผู้ประกอบการจำนวนมากให้ความสำคัญกับ BCG มากขึ้นและดึงคนรุ่นใหม่มาร่วมขับเคลื่อนเพื่อเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ใหม่ของประเทศ อีอีซีจึงน่าจะตอบโจทย์การเป็นประเทศชั้นนำด้านสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปมูลค่าสูง การมี SMEs ที่เข้มแข็ง แข่งขันได้ และเป็นเศรษฐกิจหมุนเวียนคาร์บอนต่ำ

ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพได้ชูโมเดลเศรษฐกิจ BCG เป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญภายใต้หัวข้อการสร้างสมดุลรอบด้าน (Balance.) ซึ่งประกอบด้วยเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy Model) สอดคล้องกับกระแสโลกที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ทั้งนี้ อุตสาหกรรมที่จะได้ประโยชน์จากการประชุมเอเปครอบนี้ ได้แก่ อุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน อาทิ อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ อุตสาหกรรมทางการแพทย์ครบวงจร อุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต (Future Food) ซึ่งขณะนี้มีเทรนด์ที่น่าจับตามอง คือ อาหารฟังก์ชัน อาหารนวัตกรรมใหม่ อาหารทางการแพทย์ และอาหารอินทรีย์ จะช่วยเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจไทย ทำให้ไทยเป็นแหล่งดึงดูดการลงทุนที่มีระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซีรองรับไว้แล้ว

ก่อให้เกิดความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการ ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์จากการถ่ายทอดเทคโนโลยี การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การพัฒนาการศึกษา การคลัง วิทยาศาสตร์ ตลอดจนประโยชน์ที่ได้รับจากการเข้าร่วมกิจกรรมคณะทำงานด้านต่างๆของเอเปค อาทิ โทรคมนาคม การขนส่ง การเกษตร การประมง การอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและป่าไม้ การท่องเที่ยว การสาธารณสุข การพลังงาน และกิจการสตรี อันจะเป็นผลดีต่อการพัฒนาความร่วมมือในสาขาต่างๆของเอเปค ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการกำหนดนโยบายและการปรับตัวด้านต่างๆทั้งภาครัฐและภาคเอกชน อันจะช่วยเสริมขีดความสามารถการแข่งขันในอนาคตเวทีเศรษฐกิจเอเปค … เพิ่มโอกาสการค้าไทย ดึงดูดการลงทุนสู่อีอีซี

15/11/2022

"การวางแผนภาษีนอกจากจะทำให้เสียภาษีน้อยลงแล้ว ยังเป็นช่องทางของการออมและลงทุนเพื่ออนาคตด้วย"

- Lady J. จากรายการ Money Money เรื่องของการบริหารการเงินส่วนบุคคล เข้าใจง่าย ๆ ทาง https://youtube.com/playlist?list=PL-Q4oGdXS2sbWzR6C6jCyYxS1b72MQi64

14/11/2022

จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-30 ต.ค. 65 ตามข้อมูลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มีจำนวนรวมแล้วกว่า 7.56 ล้านคน และใน 2 เดือนสุดท้ายของปีเป็นช่วงไฮซีซัน ททท. คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยในช่วงพ.ย.-ธ.ค. เดือนละ 1.5 ล้านคน ทำให้ปีนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 10 ล้านคน



ข้อมูลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) พบชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศ 7.56 ล้านคนนั้น ด้วยช่องทาง 3 อันดับแรกที่มีการเดินทางเข้า คือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 3.99 ล้านคน ท่าอากาศยานภูเก็ต 9.81 แสนคน และท่าอากาศยานดอนเมือง 5.83 แสนคน ซึ่ง 3 ท่าอากาศยาน คิดเป็นร้อยละ 73.51 ของจำนวนผู้เดินทางเข้าประเทศทั้งหมด ส่วนการเดินทางผ่านด่านทางบก ส่วนใหญ่เป็นการเดินทางผ่านด่านสะเดา จ.สงขลา 4.66 แสนคน และ ด่านหนองคาย 2.33 แสนคน

12/11/2022

Money Money #16: วางแผนภาษีปี 65 ยังไงให้มีเงินออม

สำหรับผู้มีเงินได้ที่มีเงินได้ทั้งปีอยู่ในเกณฑ์ต้องเสียภาษีเงินได้ให้กับภาครัฐ สามารถวางแผนภาษีเพื่อให้ชำระภาษีลดน้อยลงโดยอาศัยการวางแผนใช้ค่าลดหย่อนที่ได้รับตามกฎหมายซึ่งมีข้อดีคือนอกเหนือจากทำให้ชำระภาษีลดลงแล้ว ยังเป็นช่องทางในการวางแผนการออมและการลงทุนในอนาคตได้ด้วย โดยค่าลดหย่อนในส่วนนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในส่วนของเบี้ยประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ทั้งให้กับตนเองและบิดามารดา และยังรวมไปถึงการลดหย่อนภาษีด้วยกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) โดยกองทุนแต่ละแบบจะลดหย่อนได้แบบละไม่เกิน 30% ของรายได้รวมทั้งปี

#มันนี่มันนี่ #การเงินส่วนบุคคล #วิธีจัดการการเงิน #อยากรวย #เคล็ดลับความรวย

10/11/2022

หลักการเงินส่วนบุคคลที่ทุกคนควรรู้...แต่ไม่ใช่ทุกคนที่รู้

1. อย่าให้ใครยืมเงินก้อนที่คุณไม่พร้อมจะสูญไปตลอดกาล

คุณจะเสียทั้งเงินและความสัมพันธ์กับบุคคลนั้น

2. อย่าจำนองด้วยสกุลเงินที่แตกต่างจากสกุลเงินที่คุณได้รับเป็นรายได้หลักของคุณ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรายได้หลักของคุณเป็นสกุลเงินที่อ่อนกว่า

3. บัตรเครดิตไม่ใช่สิ่งชั่วร้าย เพียงต้องแน่ใจว่าคุณชำระยอดหนี้ของคุณได้ทุกเดือน

และอย่าไปฟังคำแนะนำของธนาคารที่ว่า “จ่ายแค่ยอดขั้นต่ำก็ได้” หนี้บัตรเครดิตมีอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุดในโลก

4. ถ้าคุณไม่ได้อยู่ใน 10% ของประชากรโลกที่ร่ำรวยไฮโซ ให้เลือก “ความไว้ใจได้” มากกว่า “ความฉูดฉาด” เมื่อซื้อรถคันแรก

ยิ่งรถมี 'ลูกเล่น' และส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์มากเท่าไร ก็ยิ่งมีสิ่งที่อาจพังเร็วได้มากเท่านั้น และนั่นหมายถึงค่าซ่อมแซมที่คุณต้องจ่ายทั้ง ๆ ที่ไม่จำเป็น

5. ในช่วงที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง (เช่นตอนนี้) หากคุณมีเงินกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยแบบผันแปร และคุณมีเงินเหลือเฟือที่จะเก็บไว้ อย่านำเงินพิเศษนั้นไปไว้ในเงินออม

ให้ใช้เงินก้อนนั้นค่อยๆ ชำระเงินต้นของยอดเงินกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง

6. จงมีกองทุนฉุกเฉินไว้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายอย่างน้อย 6 เดือน และควรเก็บไว้ในบัญชีที่มีความคล่องตัวสู

ถ้าคุณไม่สามารถมีถึง 6 เดือน ให้เริ่มด้วย 3 เดือนก่อน

หากคุณมีเป็นจำนวนสำหรับ 12 เดือนได้ แสดงว่าคุณกำลังเดินอยู่บนหนทางสู่อิสรภาพทางการเงินได้ดี

7. จงจ่ายเงินให้ตัวเองก่อน

หนึ่งในสิบของรายได้ที่ได้รับนั้นเป็นของตัวคุณเอง ให้หักเงินจำนวนนี้ไว้ก่อนทุกครั้งนำมาเก็บไว้โดยไม่ใช้จ่าย

ในที่สุด คุณจะได้เรียนรู้การใช้ชีวิตให้ได้ด้วย 90% ของรายได้ของคุณ

8. ทำความรู้จัก “กฎพาร์กินสัน” ที่บอกว่า 'ค่าใช้จ่ายของคุณจะเพิ่มขึ้นตามรายได้ของคุณเสมอ'

เคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมคุณถึงใช้ชีวิตมาได้ในปีที่ผ่านมาที่มีรายได้น้อย แต่พอมีรายได้มากขึ้นในปัจจุบัน คุณกลับใช้มันไปทั้งหมด

รู้จักกฎข้อนี้ให้ดีแล้วแหกกฎนี้ให้ได้

9. อย่ากู้เงินเพื่อนำมาใช้เป็นค่าครองชีพขั้นพื้นฐาน

คุณจะต้องจ่ายหลายครั้ง (เป็นการจ่ายดอกเบี้ยให้กับธนาคาร) เพื่อไลฟ์สไตล์ที่เกินตัวคุณตั้งแต่แรก

มันจะเป็นวัฏจักรที่ไม่สิ้นสุด ดังนั้นอย่าแม้แต่จะเริ่มต้น

10. ความจริงที่ว่าบางสิ่งบางอย่าง "ลดราคา" ไม่ได้หมายความว่าคุณควรซื้อมัน

ส่วนใหญ่คุณจะซื้อเพียงเพราะคุณคิดว่าคุณกำลังได้รับ "ข้อเสนอที่ดีกว่า"

หากคุณเข้าใจวิธีการทำงานของธุรกิจค้าปลีก คุณจะรู้ว่าคุณยังไม่ได้รับ "ข้อเสนอที่ดีกว่า" เลย

11. ผลิตภัณฑ์การเงินที่จะเพิ่มเงินให้คุณเป็นสองเท่าไม่มีอยู่จริง

หากโอกาสในการลงทุนใด ๆ ฟังดูดีเกินกว่าจะเป็นจริงได้ แสดงว่ามันไม่เป็นความจริง

12. หากคุณเป็นลูกจ้าง การเปลี่ยนงานมีแนวโน้มที่จะนำไปสู่การเพิ่มรายได้เมื่อเวลาผ่านไป มากกว่าอยู่กับนายจ้างคนเดิมและหวังว่าจะได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นไปมาก ๆ

13. ถ้าคุณอายุยืนยพอ สักวันหนึ่งการเกษียณอายุจะมาถึง

เมื่อถึงจุดนั้น คุณจะไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไป (เนื่องจากข้อจำกัดทางกายภาพ) หรือคุณจะต้องเกษียณอายุภาคบังคับและมีแนวโน้มว่าจะไม่มีรายได้ที่มั่นคงได้อีกแล้ว

ฉะนั้น เริ่มวางแผนเกษียณได้เลยตอนนี้

14. หากคุณกำลังดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดด้วยรายได้ปัจจุบันของคุณ อย่าเพิ่งวางแผนจะมีลูก

เด็กคนนั้นไม่สมควรได้รับความทุกข์ยากลำบากที่คุณกำลังจะมอบให้พวกเขา เพราะการเลี้ยงเด็กต้องใช้เงินเยอะ

15. ไลฟ์สไตล์บางอย่างมีราคาแพง

บางไลฟ์สไตล์ราคาแพงตามมูลค่าเงินเท่านั้น แต่บางไลฟ์สไตล์ก็มีราคาแพงตามมุมมองในเรื่อง "สุขภาพ"

แน่นอนว่าจงสนุกกับชีวิต แต่ถ้าความสนุกนั้นมันจะทำให้คุณเสียสุขภาพในอนาคต ให้คิดใหม่ดี ๆ

เพราะคุณจะต้องจ่ายคืน (พร้อมดอกเบี้ย) แล้วใคร ๆ ก็รู้ว่าค่ารักษาพยาบาลนั้นราคาไม่เคยสบายกระเป๋าเราเลย

08/11/2022

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมและการใช้จ่ายช่วงวันลอยกระทง 2565 ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 8 พฤศจิกายน พบว่าประชาชนกลุ่มตัวอย่าง

76% ระบุว่าจะไปลอยกระทงและทำกิจกรรมอื่นๆ นอกบ้าน เพราะต้องการคลายความเครียด ร่วมประเพณี และขอพร

43.3% ระบุว่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เพราะของแพง

และ 60.2% มองว่าลอยกระทงปีนี้จะสนุกสนานกว่าปีก่อน เพราะเปิดประเทศแล้ว

จึงประเมินว่าลอยกระทงปีนี้จะมีมูลค่าใช้จ่ายประมาณ 9.7 พันล้านบาท และขยายตัวประมาณ 6% ถือเป็นมูลค่ากับมาบวกอีกครั้งในรอบ 5 ปี และมีมูลค่าสูงสุดในรอบ 5 ปี แต่ในแง่อัตราขยายตัวสูงรอบใน 10 ปี

ทั้งนี้ประชาชนมีมุมมองต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจดีขึ้น จากเดิมกลุ่มสำรวจมองว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวครึ่งหลังปี 2566 สำรวจรอบนี้ส่วนใหญ่มองฟื้นตัวไตรมาส 2/2566 โดยเศรษฐกิจปี 2566 ขยายตัว 3.5% จากปี 2565 คาดขยายตัวเกิน 3% ผลต่อเนื่องจากความกังวลต่อโรคโควิดลดลง ปรับตัวกับการเป็นโรคประจำถิ่น เปิดประเทศ มีการเดินทางมากขึ้น การใช้จ่ายในห้างต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น น้ำมันดิบโลกทรงตัวไม่เกิน 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ค่าบาทอ่อนจูงใจเที่ยวไทยและดีต่อส่งออก จากนี้ประเมินจำนวนนักท่องเที่ยว เข้าไทยเดือนละ 1.5-2 ล้านคน

ขณะเดียวกันประชาชนยังกังวลต่อเรื่องค่าครองชีพสูง ธุรกิจยังกลับมาไม่เต็มที่ โดยยังอยู่ในโหมดของการระมัดระวังการใช้จ่าย เชื่อว่าสัญญาณการใช้จ่ายตามเทศกาลจากนี้จะดีขึ้นต่อเนื่อง และกลับมาฟื้นตัวถึงปีใหม่ อย่างไรก็ตามอยากให้รัฐช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะค่าครองชีพไม่สอดคล้องกับรายได้ สร้างความเท่าเทียมกันของคนในสังคม สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้คนในประเทศ และช่วยเหลือเงินทุนสำหรับธุรกิจที่มีเงินทุนน้อย

07/11/2022

Money Money #15: ค่าเงินบาทอ่อน-แข็ง กระทบใครบ้าง

เรื่องการอ่อนหรือแข็งค่าขึ้นของค่าเงินบาทล้วนส่งผลต่อพวกเราทุกคนในฐานะผู้บริโภค เนื่องจากในปัจจุบันที่เกือบทุกประเทศทั่วโลกต้องติดต่อทำมาค้าขาย มีการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการและใช้สกุลเงินต่างประเทศในการชำระค่าสินค้าและบริการระหว่างกัน การที่ค่าเงินของแต่ละประเทศเปลี่ยนแปลงไปย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศคู่ค้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

#มันนี่มันนี่ #การเงินส่วนบุคคล #วิธีจัดการการเงิน #อยากรวย #เคล็ดลับความรวย

เรื่องการอ่อนหรือแข็งค่าขึ้นของค่าเงินบาทล้วนส่งผลต่อพวกเราทุกคนในฐานะผู้บริโภค เนื่องจากในปัจจุบันท.....

07/11/2022

ประเทศไทยและกรุงเทพฯ ไม่ได้เป็นสถานที่น่าดึงดูดผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะที่ต้องการย้ายไปทำงานต่างประเทศมากนัก

จากการสำรวจประจำปีของ INSEAD ในหัวข้อ “ดัชนีความสามารถในการแข่งขันของผู้มีความสามารถระดับโลก” หรือ Global Talent Competitiveness Index (GTCI) ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 75 จากทั่วโลก

ในขณะที่สิงคโปร์ครองอันดับที่ 2 กลายเป็น “ประเทศ” เดียวในเอเชียที่ติด 10 อันดับแรกของรายงานนี้ (และแม้แต่20 อันดับแรกด้วยซ้ำ) ในทำนองเดียวกัน สิงคโปร์ก็เป็น “เมือง" เดียวในเอเชียที่ติดอันดับ 20 เมืองที่ดีที่สุดในการต้อนรับผู้มีความสามารถจากต่างประเทศ ขณะที่กรุงเทพฯ อยู่ในอันดับที่ 97

รายงานฉบับที่ 9 นี้ครอบคลุม 133 ประเทศและ 175 เมืองใน 79 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมทุกหมวดรายได้ เป็นรายงานการเปรียบเทียบประจำปีซึ่งวัดว่าประเทศและเมืองต่างๆ พัฒนา ดึงดูดและรักษาคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุด(ผู้เชี่ยวชาญ) อย่างไร



อันดับ “ประเทศ” ในดัชนีครั้งนี้


1) Switzerland
2) Singapore
3) Denmark
4) United States
5) Sweden
6) Netherlands
7) Norway
8) Finland
9) Australia
10) United Kingdom
11) Luxembourg
12) Iceland
13) Ireland
14) Germany
15) Canada
16) Belgium
17) Austria
18) New Zealand
19) France
20) Estonia

อันดับ “เมือง” ในดัชนีครั้งนี้

1) San Francisco (USA)
2) Boston (USA)
3) Zurich (Switzerland)
4) Seattle (USA)
5) Lausanne (Switzerland)
6) Singapore (Singapore)
7) Geneva (Switzerland)
8) Helsinki (Finland)
9) Munich (Germany)
10) Dublin (Ireland)

ที่มา:https://www.insead.edu/sites/default/files/assets/dept/fr/gtci/GTCI-2022-report.pdf

06/11/2022

ดูคลิปนี้แล้วเข้าใจวัยหัวเลี้ยวหัวต่อมากขึ้น!

04/11/2022

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงกรณีรัฐบาลออกกฎหมายเปิดทางให้ต่างชาติซื้อที่ดินในไทย โดยออกเป็นร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย พ.ศ. …. โดยระบุว่า

“เรื่องนี้ไม่ใช่การขายชาติ เพราะกฎหมายนี้ก็ออกมาตั้งแต่ปี 2542 ถ้าขายก็ต้องขายตั้งแต่ปี 2542 แล้ว เพราะกฎหมายออกปีนั้น และหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ก็กำหนดมาตั้งแต่ปี 2545 แล้ว”
ทั้งนี้ยืนยันว่า ในข้อกฎหมายต่างชาติซื้อที่ดินในไทย ที่ปรับเปลี่ยนในครั้งนี้ก็มีแค่เพียงเรื่องระยะเวลาการคงเงินลงทุน ซึ่งในมุมมองคงไม่จำเป็นที่จะต้องทบทวนอะไร แต่เนื่องจากเป็นการแก้กฎกระทรวงก็สามารถที่จะพิจารณาเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ใช่การแก้ไขในระดับ พ.ร.บ.ซึ่งเราก็ทดลองที่จะทำดู หากครบกำหนดระยะเวลาแล้วมีปัญหาก็สามารถที่จะปรับเปลี่ยนและยกเลิกได้เมื่อใช้ไปในระยะเวลาหนึ่ง

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องนี้ตนจะไปตอบกระทู้สดที่สภาผู้แทนราษฎร และพร้อมที่จะชี้แจงให้ทุกฝ่ายเข้าใจ โดยสาระสำคัญของกฎกระทรวงฉบับนี้ไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมเป็นเพียงการปรับเรื่องระยะเวลาจากการคงเงินลงทุนจากเดิม 5 ปีเป็น 3 ปี

ขณะเดียวกัน กฎกระทรวงฉบับนี้ยังมีความเข้มงวดมากขึ้น เพราะเป็นการพิจารณารวมกับเรื่องการให้วีซ่าระยะยาวกับชาวต่างชาติ (LTR) ซึ่งมีกลุ่มที่กำหนดไว้ 4 กลุ่ม ต่างจากเดิมที่ใครก็ได้ที่เข้ามาลงทุนตามเงื่อนไขแล้วซื้อที่ดินในไทยได้

ทั้งนี้ประเทศไทย ถือว่าเป็นประเทศส่วนน้อยที่วางกฎหมายเรื่องนี้ไว้เข้มงวด เมื่อเทียบกับหลายประเทศลองไปดูได้ว่าเขามีกฎหมายในเรื่องนี้ที่ผ่อนปรนมากกว่าไทยไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น สหรัฐฯ มาเลเซีย และสิงคโปร์

ส่วนกรณีที่มีข้อเสนอให้มีการปรับเปลี่ยนเป็นการเช่าที่ดินระยะยาวแทนได้หรือไม่ ยอมรับว่า สามารถทำได้แต่การเช่าที่ดินของต่างชาตินั้นมีการกำหนดเป็น พ.ร.บ. ที่ให้มีการเช่าที่ดินได้ 30 ปี และต่อได้อีก 30 ปี หากจะแก้ไขในส่วนนี้ก็ต้องแก้ พ.ร.บ.แทน แลต้องดูระยะเวลาในการเช่าที่เหมาะสมก่อนด้วย

03/11/2022

Money Money #14: ผลกระทบดอกเบี้ยขึ้นสำคัญอย่างไร

การประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายทั้งของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด (Federal Reserve - FED) และธนาคารแห่งประเทศไทย อาจจะทำให้เกิดคำถามสำหรับบางท่านว่า แล้วถ้าอัตราดอกเบี้ยปรับขึ้นจะกระทบอะไรกับชาวบ้านธรรมดาอย่างเรา ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการลงทุนในตลาดเงินและตลาดทุน เพราะไม่ได้มีเงินเหลือไปลงทุนมากมายเหมือนนักลงทุนรายใหญ่ ๆ แล้วทำไมทุกคนถึงดูจะกังวลกับสถานการณ์ดังกล่าว วันนี้เรามาหาคำตอบกันค่ะ

ติดตามรายการ Money Money ได้ทาง https://youtu.be/LCQJFr0j2EU

#มันนี่มันนี่ #การเงินส่วนบุคคล #วิธีจัดการการเงิน #อยากรวย #เคล็ดลับความรวย

การประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายทั้งของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด (Federal Reserve - FED) และธนาคารแห่งประเทศไทย อาจจะทำใ...

01/11/2022

เว็บไซต์ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมเผยแพร่บทความอ้างอิงจากบทความของสำนักกิจการยุติธรรม “5 เรื่องที่ลูกหนี้ต้องดู ก่อนเป็นหนี้” โดยมีเนื้อหาดังนี้

1. ดูสัญญาก่อนกู้เงิน

– กู้เงินเกิน 2,000 บาท ต้องทำหนังสือสัญญา พร้อมลายเซ็นลูกหนี้ จึงจะฟ้องร้องให้ชำระหนี้ได้
– เจ้าหนี้ต้องให้เงินแก่ลูกหนี้ หากไม่ให้เงินถือว่ากู้ยืมไม่สมบูรณ์ จะบังคับลูกหนี้ชำระหนี้ไม่ได้ ถึงแม้จะทำสัญญาไว้แล้ว

2. ดูวิธีลงชื่อในสัญญา

– ลายเซ็นหรือเขียนชื่อจริง – ชื่อเล่น
– พิมพ์ลายนิ้วมือต้องมีพยานลงชื่อรับรอง 2 คน

2.1 กรณีแก้ไขจำนวนเงิน

– ในสัญญาเงินกู้ ลูกหนี้ต้องลงชื่อกำกับ
– ในหลักฐานรับชำระหนี้ เจ้าหนี้ต้องลงชื่อกำกับ

3. ดูวิธีการใช้หนี้

3.1 ใช้หนี้ด้วยเงิน ต้องมีหลักฐานอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
– เขียนในหลักฐานว่า “เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้แล้ว” และลงชื่อกำกับไว้
– ขีดฆ่ายกเลิกสัญญา, เขียนว่า “เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้แล้ว” ในสัญญากู้ฉบับที่อยู่กับเจ้าหนี้
– เจ้าหนี้เขียน, ขีดฆ่าและลงชื่อกำกับไว้ในสัญญากู้ฉบับที่อยู่กับลูกหนี้

3.2 ใช้หนี้ด้วยทรัพย์สิน

– ลูกหนี้ยอมเอาทรัพย์สินแทนเงินที่กู้ ถือว่าลูกหนี้เป็นหนี้เท่ากับราคาทรัพย์สิน
– เจ้าหนี้ยอมเอาทรัพย์สินที่ลูกหนี้ใช้ชำระหนี้แทนเงิน ถือว่าเจ้าหนี้ยอมรับชำระหนี้เท่ากับราคาทรัพย์สินตามท้องตลาดในเวลาและสถานที่ส่งมอบ

4. ดูดอกเบี้ย

– ห้ามคิดดอกเบี้ยในดอกเบี้ยที่ค้างชำระ (ดอกเบี้ยทบต้น)
– ห้ามเจ้าหนี้ที่ไม่ใช่สถาบันการเงินเก็บดอกเบี้ยเกินร้อยละ 15 ต่อปี
– เจ้าหนี้คิดดอกเบี้ยทบต้นและคิดดอกเบี้ยในเงินต้นที่ทบเข้าไปได้ ถ้าลูกหนี้ค้างดอกเบี้ย 1 ปี ขึ้นไป แต่ต้องทำหนังสือ

5. ดูระยะเวลาชำระหนี้

5.1 กำหนดเวลาไว้ ลูกหนี้จะชำระก่อนกำหนดไม่ได้ ยกเว้น
– ลูกหนี้ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดตามกฎหมายล้มละลาย
– ลูกหนี้ไม่ให้หลักประกันตามที่ตกลงกันไว้
– ลูกหนี้ทำลายหรือทำให้หลักประกันที่ให้ไว้เสื่อมราคาลง
– ลูกหนี้ไม่ให้หลักประกันตามที่ตกลงกันไว้

5.2 ลูกหนี้ชำระหนี้ก่อนกำหนดได้ ถ้าเจ้าหนี้ไม่ได้ห้ามไว้

5.3 เจ้าหนี้จะเรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้เมื่อใดก็ได้ถ้าไม่ได้กำหนดเวลาไว้

29/10/2022

Money Money #13: มั่นคงไม่ได้แปลว่ามั่งคั่งและร่ำรวยเสมอไป

ก่อนที่เราจะมั่นคง เราควรต้องถามตัวเองก่อนว่า วันนี้เรามั่งคั่ง พอที่จะแสดงความมั่นคงให้โลกรู้แล้วหรือยัง อธิบายง่าย ๆ ความมั่งคั่งคือความสามารถในการที่เราจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ในระยะเวลาหนึ่งโดยที่เราไม่ต้องใช้แรงทำงาน แต่เรามีทรัพย์สินที่สามารถทำงานแทนเรา และทำให้เราสามารถหยุดใช้แรงทำงานแต่สามารถได้รับผลตอบแทนจากทรัพย์สินที่มีมาเป็นค่าใช้จ่ายจำเป็นในชีวิตประจำวันได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ เราจำเป็นต้องวางเป้าหมายของชีวิตซึ่งเป็นของเราให้ชัดเจน และวางแผนเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายนั้นอย่างมุ่งมั่นและตั้งใจ ไม่ใช่ปล่อยไปตามกระแสของโลกพาไป

ติดตามรายการ Money Money ได้ทาง https://youtu.be/LCQJFr0j2EU

#มันนี่มันนี่ #การเงินส่วนบุคคล #วิธีจัดการการเงิน #อยากรวย #เคล็ดลับความรวย

ก่อนที่เราจะมั่นคง เราควรต้องถามตัวเองก่อนว่า วันนี้เรามั่งคั่ง พอที่จะแสดงความมั่นคงให้โลกรู้แล้วหรือ...

27/10/2022

จริงหรือไม่? สถิติเด็กจีนฉลาดคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ที่สุดในโลก!!

จริงหรือไม่!! สถิติ เด็กจีนฉลาดคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ที่สุดในโลก!!
การจัดอันดับจากผลการสอบวัดความรู้นักเรียนนานาชาติ (PISA) โดยองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (ODCD) โดยประเมินความสามารถในการใช้ความรู้และทักษะของนักเรียนที่มีอายุ 15 ปี ในด้านการอ่านคณิตศาสตร์และวิทยศาสตร์
** ในปี 2018 เน้นการอ่านเป็นหลัก

ประเทศจีนส่งตัวแทนเป็นนักเรียนจากกรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ มณฑลเจียงซูและมณฑลเจ้อเจียง โดยนักเรียนจากจีนแผ่นดินใหญ่ได้คะแนนสูงสุดในการสอบทุกด้าน!!!!

อันดับรองลงมาเป็นนักเรียนจากสิงคโปร์ และเขตบริหารพิเศษคือมาเก๊าและฮ่องกง โดยนักเรียนจีนทำคะแนนด้านการอ่านได้สูงสุด คือ 590 คะแนนจาก 600 คะแนน ..................................................................
ซึ่งผลการประเมินยังพบว่า ตัวแทนนักเรียนจีนแผ่นดินใหญ่ร้อยละ 16.5 และนักเรียนสิงคโปร์ร้อยละ 13.8 ทำข้อสอบวิชาคณิตศาสตร์ระดับความยากสูงสุดได้ ในขณะที่นักเรียนจากประเทศอื่นๆ ทำได้ร้อยละ 2.4 เท่านั้น

ซึ่งผลการประเมินครั้งก่อนๆ
ในปี 2012 นักเรียนจีนแผ่นดินใหญ่ทำคะแนนสูงสุดทั้งสามรายวิชา
ในปี 2015 เขตบริหารพิเศษมาเก๊าและฮ่องกงมีคะแนนสูงสุดใน 10 อันดับแรกทั้งสามรายวิชา
**นักเรียนจากจีนแผ่นดินใหญ่มีคะแนนสูงสุดใน 10 อันดับแรกในรายวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์
**นักเรียนสิงคโปร์ครองอันดับ 1 ไปทั้งสามรายวิชาในปีนั้น..................................................................
ในปีนี้จะมีการประเมินอีกครั้งหลังจากที่เลื่อนจากปีที่แล้วมา โดยมีสัดส่วนของการประเมินคือ
ด้านคณิตศาสตร์ร้อยละ 60
ด้านวิทยศาสตร์ร้อยละ 20
ด้านการอ่านร้อยละ 20
**มีการสอบนวัตกรรมอีก 1 ด้าน คือ ด้านความคิดสร้างสรรค์ซึ่งต้องทำแบบทดสอบด้วยคอมพิวเตอร์อีกด้วย ซึ่งผลการประเมินจะเป็นอย่างไรต้องรอติดตามชมกันค่ะ

Credit from : https://www.xinhuathai.com/edu/57632_20191204
https://www.nakhonlocal.go.th/datacenter/doc_download/a_151021_141428.pdf
salika.co/2019/06/16/china-education/
https://www.thaipost.net/main/detail/52035
https://pisathailand.ipst.ac.th/news-8/

#ตงฮั้วเดลี่ #การศึกษาจีน #สอบวัดระดับจีน #ประเทศจีน #สิงคโปร์ #มาเก๊า #ฮ่องกง