Joinalifethailand

Joinalifethailand ท่องเที่ยวแบบไลฟ์สไตล์ สบายๆ ชิลล์ๆ เที่ยวทั่วไทย สบายๆ สไตล์เรา

ฟอร์ดเผย 10 ความลับการผลิตฟอร์ด เอเวอเรสต์ฟอร์ด เอเวอเรสต์ รถยนต์นั่งอเนกประสงค์ที่ถูกออกแบบ และพัฒนามาเพื่อส่งมอบประสบก...
01/02/2025

ฟอร์ดเผย 10 ความลับการผลิตฟอร์ด เอเวอเรสต์

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ รถยนต์นั่งอเนกประสงค์ที่ถูกออกแบบ และพัฒนามาเพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายสำหรับครอบครัว เปี่ยมไปด้วยสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมทั้งการขับบนถนนและแบบออฟโรด โดยฟอร์ด เอเวอเรสต์ ทุกคันถูกผลิตขึ้นที่โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย (เอเอที) และจัดจำหน่ายไปมากกว่า 110 ประเทศทั่วโลก

การเดินทางของฟอร์ด เอเวอเรสต์ 1 คัน จากสายการผลิตไปจนถึงส่งมอบรถถึงมือลูกค้านั้นมีขั้นตอนที่น่าทึ่งมากมายที่ผสมผสานระหว่างการใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยและความละเอียดแม่นยำ ตั้งแต่การควบคุมคุณภาพที่ขับเคลื่อนด้วย AI เทคนิคการประกอบรถยนต์ที่พิถีพิถัน ไปจนถึงการทดสอบสมรรถนะที่เข้มข้น และนี่คือ 10 เรื่องราวเบื้องหลังการผลิตฟอร์ด เอเวเรสต์ ที่จะทำให้คุณรู้จักรถยนต์คันนี้ได้มากขึ้น

ทุกๆ 2 นาที จะมีรถฟอร์ด เอเวอเรสต์ หนึ่งคันผลิตออกมาจากสายการผลิตที่โรงงานเอเอที
หุ่นยนต์ที่ใช้ มีทั้งแบบหุ่นยนต์ปฏิบัติงาน 320 ตัว และหุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงาน 25 ตัว ทำงานในสายการผลิตและประกอบตัวถัง เพื่อรักษาปริมาณการผลิตให้คงที่อยู่เสมอ
การเคลือบป้องกันสนิม ตัวถังของฟอร์ด เอเวอเรสต์ทุกคันมีจุดเชื่อมมากกว่า 3,600 จุด จึงต้องผ่านกระบวนการเคลือบกันสนิมด้วยการจุ่มตัวถังลงในอ่างสารเคมี 10 ครั้งก่อนเข้าสู่กระบวนการพ่นสี
กล้อง AI ในการผลิต มีมากกว่า 30 ตัว ทั้งในการผลิตตัวถังและกระบวนการประกอบชิ้นส่วนห้องโดยสาร การติดตั้งแชสซี และการตรวจเช็ครายละเอียดขั้นสุดท้ายก่อนออกจากสายการผลิต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและรับรองคุณภาพในกระบวนการผลิต
การทดสอบสมรรถนะ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ทุกคันจะต้องผ่านการทดสอบการขับขี่ผ่านอุปสรรคต่างๆ อาทิ การทดสอบเสียงรบกวนและการสั่นสะเทือน การทดสอบบนถนนขรุขระ โดยรถแต่ละคันจะต้องผ่านครบทุกการทดสอบอย่างเต็มรูปแบบก่อนจึงจะได้รับการอนุมัติให้ส่งมอบรถออกไปทั่วโลกได้
ตรวจสอบการรั่วซึมของอากาศ รถฟอร์ด เอเวอเรสต์ที่ออกจากสายการผลิตทุกวันจะถูกสุ่มตรวจสอบการรั่วซึมของอากาศ โดยจะสูบอากาศเข้าไปในห้องโดยสาร และใช้เซนเซอร์ที่ติดตั้งไว้รอบตัวรถตรวจวัด เพื่อให้มั่นใจว่ารถจะไม่มีการรั่วซึมเกินกว่าที่มาตรฐานกำหนด
การตั้งศูนย์ล้อและพวงมาลัย ฟอร์ด ทอสอบการตั้งศูนย์ล้อและพวงมาลัย รวมถึงตรวจเช็กให้ไฟหน้าส่องสว่างในทิศทางและระยะที่ต้องการ โดยจะสุ่มจากรถทุกรุ่นย่อยของฟอร์ด เอเวอเรสต์ ที่ออกจากสายการผลิตทุกวัน โดยใช้เลเซอร์และกล้องหลายตัวในการตรวจสอบการตั้งศูนย์ล้อและไฟหน้า ขณะเดียวกันการทดสอบการตั้งศูนย์พวงมาลัยจะแสดงให้เห็นว่าพวงมาลัยตรงกับล้อและรถเคลื่อนตัวตรงหรือไม่
การทดสอบด้วยน้ำ เป็นหนึ่งในขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพที่สำคัญ ซึ่งรถฟอร์ด เอเวอเรสต์ทุกคันจะถูกฉีดน้ำแรงดันสูงทุกทิศทางนาน 5 นาที เพื่อจำลองสภาพอากาศที่เลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้ จากนั้น ทีมงานจะตรวจสอบทุกรายละเอียด ตั้งแต่ตรวจสอบไฟท้าย ไฟหน้า และไฟตัดหมอกด้วยสายตา เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีน้ำรั่วซึมผ่านเข้าไปรถ จากนั้นทีมงานจะเปิดประตูทุกบานเพื่อตรวจสอบขอบยางว่ามีการรั่วซึมของน้ำหรือไม่ เพื่อให้มั่นใจว่าพื้นห้องโดยสารยังคงแห้งสนิท โดยจะใช้หัววัดพิเศษที่สามารถส่งสัญญาณเตือนเมื่อตรวจพบความชื้น นอกจากนี้ น้ำที่ใช้ในการทดสอบไม่ได้ถูกทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ แต่จะถูกนำกลับมาใช้ใหม่ในการทดสอบครั้งถัดไป
การตรวจสอบคุณภาพขั้นสูง ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ทุกคันจะได้รับการตรวจสอบโดยทีมงานที่ใช้กล้องความละเอียดสูง และอัลกอริทึม AI เพื่อตรวจสอบข้อบกพร่องทุกจุดอย่างละเอียด เช่น การตรวจสอบสติกเกอร์ ตราสัญลักษณ์ ชิ้นส่วนที่หายไป ชิ้นส่วนที่เกินมา ชิ้นส่วนที่ไม่ถูกต้อง ชิ้นส่วนที่ประกอบไม่เรียบร้อย หรือแม้แต่สีที่ไม่ตรงตามการควบคุมคุณภาพ
การผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่โรงงานเอเอทีใช้พลังงานแสงอาทิตย์ จากหลังคาโซลาร์เซลส์ และนวัตกรรมพลังงานแสงอาทิตย์แบบลอยน้ำที่อยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2568 นี้ ซึ่งถ้าแล้วเสร็จจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 14 เมกะวัตต์ และจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 10,236 ตันต่อปี ทำให้การผลิตรถฟอร์ด เอเวอเรสต์ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

Leapmotor C10 คว้าคะแนนระดับ 5 ดาว จาก Euro NCAP• ที่สุดของการออกแบบเพื่อผลลัพธ์อันยอดเยี่ยม C10 คว้าคะแนนสูงสุดในโปรแกร...
13/12/2024

Leapmotor C10 คว้าคะแนนระดับ 5 ดาว จาก Euro NCAP

• ที่สุดของการออกแบบเพื่อผลลัพธ์อันยอดเยี่ยม C10 คว้าคะแนนสูงสุดในโปรแกรมทดสอบการชนรูปแบบใหม่ของยุโรป
• D-SUV รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมโครงสร้างอันแข็งแกร่ง และระบบฟีเจอร์ขั้นสูงครบครัน เพื่อปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสารอย่างได้อย่างปลอดภัยมากที่สุด โดยมีคะแนนในด้านการปกป้องผู้ใหญ่ 89% และการปกป้องเด็ก 85% ตามการจัดอันดับของ Euro NCAP
• C10 ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ โดยเป็นรถไฟฟ้า 100% รุ่นแรก ที่พัฒนาภายใต้บริษัทร่วมทุนแบบ 51:49 ระหว่าง Stellantis และ Leapmotor เพื่อการเร่งและขยายการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีขั้นสูงของ Leapmotor ในตลาดต่างประเทศ



Leapmotor C10 พิชิตตลาดในแถบยุโรป ด้วยการคว้าคะแนนระดับ 5 ดาวในโปรแกรม Euro NCAP หรือ European New Car Assessment Programme (โปรแกรมประเมินรถยนต์ใหม่ตามมาตรฐานยุโรป) ซึ่งยืนยันได้ถึงคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมของรุ่นแรกจากความร่วมมือระหว่าง Stellantis และ Leapmotor ที่มีความมุ่งมั่นในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงในราคาที่เข้าถึงได้ในตลาดนอกประเทศจีน โดยได้รับประโยชน์จากเครือข่ายธุรกิจที่แข็งแกร่งของ Stellantis ในตลาดต่างประเทศ



สถาบัน Euro NCAP ได้ให้คะแนน Leapmotor C10 ไว้ดังนี้ การปกป้องผู้ใหญ่ที่ 89% การปกป้องเด็กที่ 85% การปกป้องผู้ใช้ถนนที่เปราะบางที่ 77% และระบบช่วยขับขี่ที่ 76% ซึ่งผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมนี้ ยังสะท้อนให้เห็นถึงการออกแบบทางวิศวกรรมอย่างพิถีพิถันและการทดสอบความปลอดภัยที่เข้มงวดมาโดยตลอด ซึ่งกระบวนการพัฒนารถยนต์ของ Leapmotor นอกเหนือจากระบบความปลอดภัยอันยอดเยี่ยมแล้ว Leapmotor C10 ยังมาพร้อมอุปกรณ์แบบพรีเมียมที่จะช่วยเพิ่มประสบการณ์ในการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย

คุณสมบัติเด่นด้านความปลอดภัยของ Leapmotor C10
กับตัวรถที่มีโครงสร้างที่แข็งแรง ออกแบบมาเพื่อดูดซับและกระจายแรงกระแทกอย่างมีประสิทธิภาพ ในกรณีเกิดการชน โดยวัสดุที่ใช้ผลิตโครงแชสซีและตัวถังได้รับการคัดเลือกมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้การปกป้องสูงสุดโดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพหรือความคุ้มค่าของรถยนต์ ในด้านระบบความปลอดภัย (Passive Safety) มาพร้อมถุงลมนิรภัยด้านคนขับ, ถุงลมนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า, ถุงลมนิรภัยด้านข้าวสำหรับที่นั่งคู่หน้า, ม่านถุงลมนิรภัย (แถว 1 และ 2, ด้านซ้ายและด้านขวา) และถุงลมนิรภัยด้านข้างของที่นั่งด้านใน

ในส่วนของเทคโนโลยีขั้นสูงที่เกี่ยวกับระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ (ADAS) ที่มีฟังก์ชันช่วยขับขี่มากถึง 17 รูปแบบ เช่น ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ, ระบบควบคุมรถให้อยู่กึ่งกลางเลน, ระบบตรวจสอบจุดอับสายตา และระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบแปรผัน ซึ่งระบบนี้รองรับโดยสถาปัตยกรรมอิเล็กทรอนิกส์ “Four-Leaf Clover” ที่พัฒนาโดย Leapmotor เป็นสถาปัตยกรรมที่รวมหน่วยประมวลผลกลางและหน่วยควบคุมไมโครเข้าไว้ด้วยกัน แล้วสร้างหน่วยประมวลผลซูเปอร์คอมพิวติ้งที่สามารถประสานการทำงานของระบบห้องโดยสาร ระบบขับขี่อัจฉริยะ ระบบพลังงาน และระบบตัวถังรถเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

อีกหนึ่งคุณสมบัติสำคัญ คือ ระบบจัดการเสถียรภาพการทรงตัวอิเล็กทรอนิกส์ (ESP) ซึ่งช่วยรักษาการควบคุมรถในสภาพการขับขี่ที่ยากลำบาก เช่น บนพื้นผิวลื่นหรือในกรณีที่ต้องหักหลบกะทันหัน ระบบนี้ทำงานร่วมกับระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) และระบบควบคุมการลื่นไถลเพื่อให้การขับขี่มีความปลอดภัยและมั่นคง นอกจากนี้ยังมีระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง (TPMS) ที่แจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อแรงดันลมยางผิดปกติ ช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุจากยางที่แบนหรือเสียหาย เพื่อเพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้น มาพร้อมไฟหน้าแบบ LED ที่มีความสว่างช่วยเพิ่มวิสัยทัศนที่ดีในทุกการขับขี่ พร้อมเซ็นเซอร์ช่วยจอดด้านหลังและกล้อง 360 องศา ที่จะทำให้การจอดรถในพื้นที่จำกัดสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น และยังลดความเสี่ยงที่จะเกิดจากการชนในขณะเคลื่อนที่รถด้วยความเร็วต่ำ

เกี่ยวกับ Leapmotor
Leapmotor จัดตั้งขึ้นในปี 2558 และเป็นบริษัทยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี โดยมี มร.จู เจียงหมิง เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทและยังเป็นวิศวกรไฟฟ้าที่มีประสบการณ์ด้านเทคนิคมาเป็นเวลากว่า 30 ปี

Leapmotor มีสำนักงานใหญ่ที่เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน บริษัทมีธุรกิจในด้านต่าง ๆ ตั้งแต่การออกแบบยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ การวิจัยและพัฒนา การผลิต การขับขี่อัจฉริยะ การควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้า การพัฒนาระบบแบตเตอรี่ และโซลูชันเครือข่ายยานยนต์ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของคลาวด์คอมพิวติ้ง

ในฐานะที่เป็นบริษัทด้านเทคโนโลยี ชิ้นส่วนหลักของ Leapmotor จึงถูกพัฒนาและผลิตขึ้นเองภายในบริษัท ซึ่งรวมถึงระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าและระบบอัจฉริยะ โดยสัดส่วนของชิ้นส่วนที่พัฒนาและผลิตขึ้นเองคิดเป็นสัดส่วน 60% ของต้นทุนยานพาหนะทั้งหมด บริษัทยังได้เปิดตัวเทคโนโลยีไฟฟ้าอัจฉริยะชั้นนำอย่างต่อเนื่อง เช่น ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า Eight-in-One เทคโนโลยี Cell-to-Chassis ที่ผลิตในระดับอุตสาหกรรมเป็นรายแรก รวมทั้งการออกแบบระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (E/E) แบบรวมศูนย์ที่เรียกว่า 4 โดเมนในหนึ่งเดียว (Four-Domain-in-One) ซึ่งเป็นครั้งแรกของวงการ

Stellantis ได้ลงทุนใน Leapmotor เมื่อปี 2566 และช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2567 Stellantis และ Leapmotor ได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นมาในชื่อ Leapmotor International B.V. เพื่อขยายตลาดในต่างประเทศ

Leapmotor นำทัพสู่ความยั่งยืนในการเดินทาง พร้อมเปิดตัวรุ่น C10 ราคา 1,098,000 บาท ในงาน Motor Expo 2024สัมผัสสมรรถนะการข...
13/12/2024

Leapmotor นำทัพสู่ความยั่งยืนในการเดินทาง พร้อมเปิดตัวรุ่น C10 ราคา 1,098,000 บาท ในงาน Motor Expo 2024

สัมผัสสมรรถนะการขับขี่ที่ปรับจูนโดย Maserati และเทคโนโลยี Cell-To-Chassis 2.0 ข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้า 200 ท่านแรกที่จองรถ ในงาน Motor Expo 2024 พร้อมบริการเสริมสุดคุ้ม

บริษัท พระนครยนตรการ จำกัด (PNA) ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า แบรนด์ Leapmotor อย่างเป็นทางการในประเทศไทย พร้อมเปิดตัว Leapmotor C10 รถยนต์ไฟฟ้า SUV รุ่นใหม่ล่าสุด เข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญสำหรับ Leapmotor International บริษัทร่วมทุนระหว่าง Stellantis และ Leapmotor ในสัดส่วน 51:49 ที่มีเป้าหมายในการขยายยอดขายรของถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) จากจีน ที่มีนวัตกรรมอันล้ำสมัยออกสู่ตลาดโลกนอกประเทศจีน

Leapmotor ติดอันดับ 1 ใน 3 แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าแบบสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในตลาดของประเทศจีน และได้สร้างความเติบโตอย่างน่าทึ่ง ด้วยยอดที่ขายเกินกว่า 172,000 คัน ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 สำหรับความสำเร็จในครั้งนี้ ทำให้ Leapmotor ก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ชั้นนำที่พร้อมเดินหน้าสู่เวทีโลกผ่านเครือข่ายการขายและการให้บริการของ Stellantis

Leapmotor C10 มาพร้อมระยะทางการขับขี่สูงสุดถึง 477 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC) ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์เดี่ยวที่เพลาหลัง ภายในมีกว้างขวาง, เบาะที่นั่งแบบซิลิโคนที่มีความปลอดภัยต่อเด็กทารก มาพร้อมซอฟต์แวร์ four-leaf clover แบบศูนย์รวม Leap 3.0 และระบบจัดการแบตเตอรี่ด้วย AI

คุณธวัชชัย จึงสงวนพรสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พระนครออโตโมบิล จำกัด (PNA) กล่าวว่า “การเปิดตัว Leapmotor C10 ที่งาน Motor Expo 2024 นับเป็นก้าวสำคัญสำหรับเราอีกหนึ่งก้าว และถือเป็นการเปิดตัวครั้งแรกหลังจากที่ Stellantis แต่งตั้งให้เราเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ Leapmotor อย่างเป็นทางการ ในประเทศไทย สำหรับในงาน Motor Expo ในปีนี้ เรามีความภาคภูมิใจที่จะได้นำเสนอรถ SUV ไฟฟ้า 100% รุ่นใหม่ล่าสุด ที่เหมาะสำหรับตลาดแบบครอบครัวในไทย โดย C10 เป็นรถไฟฟ้าที่มีความ ล้ำสมัย อัจฉริยะ และระบบช่วยขับขี่มากมายเหมาะกับผู้บริโภคชาวไทย ซึ่งในงานนี้เราได้จัดแคมเปญพิเศษสำหรับลูกค้า 200 ท่านแรกที่จองรถในงาน Motor Expo โดยเป้าหมายในอนาคตของเรา พร้อมที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง และในอีก 4 ปีข้างหน้าอีกด้วย”

นาย Daniel Gonzalez ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ประจำภูมิภาค ASEAN ของ Stellantis กล่าวเสริมว่า “ในนามของ Stellantis ผมขอแสดงความยินดีกับพันธมิตรใหม่ของเราในวันนี้ ซึ่ง พระนครยนตรการ (PNA) ก็พร้อมที่จะเปิดตัวและเปิดราคารถยนต์ไฟฟ้า Leapmotor C10 รุ่นใหม่ล่าสุด ในงาน Motor Expo ในครั้งนี้ โดย Leapmotor ได้ทำการเปิดตัวเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ในแถบภูมิภาค ASEAN ไป เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยเริ่มจากประเทศมาเลเซียเป็นประเทศแรก และวันนี้ เราก็พร้อมที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า รุ่น C10 ให้กับลูกค้าในประเทศไทยได้สัมผัสคันจริงกัน ภายใต้แบรนด์ Leapmotor และเราก็มีความมุ่งมั่นที่จะเร่งการเปลี่ยนผ่านนำไปสู่การเดินทางที่ยั่งยืนในแถบ ASEAN และประเทศไทย ต่อไปในอนาคข้างหน้าอีกด้วย”

การออกแบบที่ล้ำสมัย

Leapmotor C10 ได้รับรางวัลการออกแบบระดับนานาชาติ ได้แก่ International CMF Design Award 2023 และ French Design Award 2024 ด้วยการออกแบบที่แปลกใหม่ ผสมผสานระหว่างเส้นสายแนวนอนและความโค้งมนอย่างลงตัว ไฟหน้า LED แบบ “Angel-Wing” มาพร้อม DRL แบบ Sequential ระบบ Active Grille Shutter (AGS) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแอโรไดนามิก และล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วลาย “Trident” เพื่อเพิ่มความลงตัวให้กับตัวรถมากยิ่งขึ้น

เทคโนโลยีแพลตฟอร์มและความปลอดภัยขั้นสูง

สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม Leap 3.0 และมีพื้นที่กว้างขวาง ปลอดภัย มีสมรรถนะในการขับขี่สูง ด้วยมิติรถขนาดใหญ่ ยาว 4,739 มิลลิเมตร, กว้าง 1,900 มิลลิเมตร, สูง 1,680 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,825 มิลลิเมตร ระยะห่างจากพื้น 190 มิลลิเมตร มาพร้อมแบตเตอรี่แบบ Lithium-Iron Phosphate (LFP) ขนาด 69.9 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง รองรับการชาร์จเร็ว 30%-80% ภายใน 30 นาที นอกจากนี้ Leapmotor C10 ยังมาพร้อมแชสซีที่ปรับจูนโดย Maserati เพื่อความสมดุลระหว่างความหรูหรา ความสะดวกสบายเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ส่วนการควบคุม เทคโนโลยีแบบ Cell-To-Chassis (CTC) 2.0 ช่วยเพิ่มความจุแบตเตอรี่ 17.5 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มความแข็งแกร่งของโครงสร้าง และปรับปรุงการจัดการความร้อนได้ดียิ่งขึ้น

ระบบดิจิทัลแบบขั้นสูง

Leapmotor C10 ใช้ชิป Qualcomm® Snapdragon™ 8155 พร้อม Leap OS 4.0 มีหน้าจอ Infotainment ขนาด 14.6 นิ้ว รองรับคำสั่งเสียง ระบบ OTA และหน้าจอแสดงข้อมูลขนาด 10.2 นิ้ว นอกจากนี้ยังมี กล้อง 360 องศา ไฟตกแต่งภายในที่ปรับเปลี่ยนได้ถึง 64 สี และระบบ ADAS ขั้นสูง อาทิ Adaptive Cruise Control (ACC), Automatic Emergency Braking (AEB), และ Lane Keeping Assist (LKA)

ภายในที่สะดวกสบายและทันสมัย

เบาะซิลิโคนที่ผ่านการรับรอง OEKO-Tex Standard 100® ปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายต่อเด็กทารก มาพร้อมกับหลังคา Panoramic Sunroof ขนาด 2.1 ตารางเมตร เบาะคนขับออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ พร้อมระบบระบายอากาศ, พื้นที่เก็บสัมภาระสูงสุด 1,410 ลิตร, พร้อมพอร์ต USB หลายจุด, การชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger และระบบเสียงรอบทิศทางด้วยลำโพง 12 ตัว

ข้อเสนอสุดพิเศษ

มอบข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้า 200 ท่านแรกที่จองรถในงาน Motor Expo 2024 และแคมเปญพิเศษรวมมูลค่ากว่า 120,000 บาท มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ฟรีประกันภัยปีแรก
ฟรีเครื่องชาร์จบ้านพร้อมติดตั้ง
ฟรีค่าจดทะเบียน
ฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 5 ปี
ฟรีแพ็กเกจบำรุงรักษา 5 ปี
รับประกันตัวรถ 5 ปี/100,000 กิโลเมตร
รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี/160,000 กิโลเมตร


สีตัวถัง และสีภายใน

สำหรับ Leapmotor C10 เรามีให้เลือกตัวถัง 5 สี ได้แก่ Glazed Green, Pearly White, Canopy Grey, Tundra Grey และ Metallic Black และภายในมี 2 สี คือ Criollo Brown และ Midnight Aurora

ราคาจำหน่าย

รถ Leapmotor รุ่น C10 ราคจำหน่ายอยู่ที่ 1,098,000 บาท

การขยายเครือข่ายการขาย

พระนครยนตรการ ตั้งเป้าและพร้อมเปิดโชว์รูม Leapmotor อย่างเป็นทางการทั้ง 15 แห่ง ภายในสิ้นปี 2567 โดยโชว์รูม Leapmotor สาขาลาดพร้าว และ Leapmotor สาขารัชโยธิน ที่พร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในปลายเดือนพฤศจิกายนศกนี้ และตั้งเป้าที่จะขยายโชว์รูมเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ในปี 2568 เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่สนใจรถ Leapmotor C10 อีกด้วย

สำหรับลูกค้าที่สนใจรถ C10 สามารถเข้าเยี่ยมชมรถคันจริงได้ที่โชว์รูม Leapmotor สาขาลาดพร้าว และสาขา รัชโยธิน หรือเข้ามาทดลองขับรถ C10 ได้ที่งาน Motor Expo 2024 ที่บูธ Leapmotor B15 ได้ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 จนถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2567 (วันธรรมดา เริ่มเวลา 12.00-18.00 น. และในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดราชการ เริ่มเวลา 11.00-18.00 น.) สนใจสามารถลงทะเบียนทดลองขับได้ที่ บูธ Leapmotor (พร้อมรับของที่ระลึก หมวก Leapmotor)

**สำหรับลูกค้า Leapmotor Thailand สามารถดูรายละเอียดขอ้มูลรถC10 หรือรายละเอียดของแคมเปญพิเศษต่างๆ ได้ที่ www.facebook.com/leapmotorthailand และ Instagram: leapmotorthailand อย่างเป็นทางการ

Leapmotor นำทัพสู่ความยั่งยืนในการเดินทาง พร้อมเปิดตัวรุ่น C10 ราคา 1,098,000 บาท ในงาน Motor Expo 2024สัมผัสสมรรถนะการข...
13/12/2024

Leapmotor นำทัพสู่ความยั่งยืนในการเดินทาง พร้อมเปิดตัวรุ่น C10
ราคา 1,098,000 บาท ในงาน Motor Expo 2024

สัมผัสสมรรถนะการขับขี่ที่ปรับจูนโดย Maserati และเทคโนโลยี Cell-To-Chassis 2.0
ข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้า 200 ท่านแรกที่จองรถ ในงาน Motor Expo 2024 พร้อมบริการเสริมสุดคุ้ม

กรุงเทพฯ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 – บริษัท พระนครยนตรการ จำกัด (PNA) ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า แบรนด์ Leapmotor อย่างเป็นทางการในประเทศไทย พร้อมเปิดตัว Leapmotor C10 รถยนต์ไฟฟ้า SUV รุ่นใหม่ล่าสุด เข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญสำหรับ Leapmotor International บริษัทร่วมทุนระหว่าง Stellantis และ Leapmotor ในสัดส่วน 51:49 ที่มีเป้าหมายในการขยายยอดขายรของถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) จากจีน ที่มีนวัตกรรมอันล้ำสมัยออกสู่ตลาดโลกนอกประเทศจีน

Leapmotor ติดอันดับ 1 ใน 3 แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าแบบสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในตลาดของประเทศจีน และได้สร้างความเติบโตอย่างน่าทึ่ง ด้วยยอดที่ขายเกินกว่า 172,000 คัน ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 สำหรับความสำเร็จในครั้งนี้ ทำให้ Leapmotor ก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ชั้นนำที่พร้อมเดินหน้าสู่เวทีโลกผ่านเครือข่ายการขายและการให้บริการของ Stellantis

Leapmotor C10 มาพร้อมระยะทางการขับขี่สูงสุดถึง 477 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC) ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์เดี่ยวที่เพลาหลัง ภายในมีกว้างขวาง, เบาะที่นั่งแบบซิลิโคนที่มีความปลอดภัยต่อเด็กทารก มาพร้อมซอฟต์แวร์ four-leaf clover แบบศูนย์รวม Leap 3.0 และระบบจัดการแบตเตอรี่ด้วย AI

คุณธวัชชัย จึงสงวนพรสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พระนครออโตโมบิล จำกัด (PNA) กล่าวว่า
“การเปิดตัว Leapmotor C10 ที่งาน Motor Expo 2024 นับเป็นก้าวสำคัญสำหรับเราอีกหนึ่งก้าว และถือเป็นการเปิดตัวครั้งแรกหลังจากที่ Stellantis แต่งตั้งให้เราเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ Leapmotor อย่างเป็นทางการ ในประเทศไทย สำหรับในงาน Motor Expo ในปีนี้ เรามีความภาคภูมิใจที่จะได้นำเสนอรถ SUV ไฟฟ้า 100% รุ่นใหม่ล่าสุด ที่เหมาะสำหรับตลาดแบบครอบครัวในไทย โดย C10 เป็นรถไฟฟ้าที่มีความ ล้ำสมัย อัจฉริยะ และระบบช่วยขับขี่มากมายเหมาะกับผู้บริโภคชาวไทย ซึ่งในงานนี้เราได้จัดแคมเปญพิเศษสำหรับลูกค้า 200 ท่านแรกที่จองรถในงาน Motor Expo โดยเป้าหมายในอนาคตของเรา พร้อมที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง และในอีก 4 ปีข้างหน้าอีกด้วย”

นาย Daniel Gonzalez ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ประจำภูมิภาค ASEAN ของ Stellantis กล่าวเสริมว่า
“ในนามของ Stellantis ผมขอแสดงความยินดีกับพันธมิตรใหม่ของเราในวันนี้ ซึ่ง พระนครยนตรการ (PNA) ก็พร้อมที่จะเปิดตัวและเปิดราคารถยนต์ไฟฟ้า Leapmotor C10 รุ่นใหม่ล่าสุด ในงาน Motor Expo ในครั้งนี้ โดย Leapmotor ได้ทำการเปิดตัวเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ในแถบภูมิภาค ASEAN ไป เมื่อเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา โดยเริ่มจากประเทศมาเลเซียเป็นประเทศแรก และวันนี้ เราก็พร้อมที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า รุ่น C10 ให้กับลูกค้าในประเทศไทยได้สัมผัสคันจริงกัน ภายใต้แบรนด์ Leapmotor และเราก็มีความมุ่งมั่นที่จะเร่งการเปลี่ยนผ่านนำไปสู่การเดินทางที่ยั่งยืนในแถบ ASEAN และประเทศไทย ต่อไปในอนาคข้างหน้าอีกด้วย”

การออกแบบที่ล้ำสมัย
Leapmotor C10 ได้รับรางวัลการออกแบบระดับนานาชาติ ได้แก่ International CMF Design Award 2023 และ French Design Award 2024 ด้วยการออกแบบที่แปลกใหม่ ผสมผสานระหว่างเส้นสายแนวนอนและความโค้งมนอย่างลงตัว ไฟหน้า LED แบบ “Angel-Wing” มาพร้อม DRL แบบ Sequential ระบบ Active Grille Shutter (AGS) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแอโรไดนามิก และล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วลาย “Trident” เพื่อเพิ่มความลงตัวให้กับตัวรถมากยิ่งขึ้น

เทคโนโลยีแพลตฟอร์มและความปลอดภัยขั้นสูง
สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม Leap 3.0 และมีพื้นที่กว้างขวาง ปลอดภัย มีสมรรถนะในการขับขี่สูง ด้วยมิติรถขนาดใหญ่ ยาว 4,739 มิลลิเมตร, กว้าง 1,900 มิลลิเมตร, สูง 1,680 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,825 มิลลิเมตร ระยะห่างจากพื้น 190 มิลลิเมตร มาพร้อมแบตเตอรี่แบบ Lithium-Iron Phosphate (LFP) ขนาด 69.9 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง รองรับการชาร์จเร็ว 30%-80% ภายใน 30 นาที นอกจากนี้ Leapmotor C10 ยังมาพร้อมแชสซีที่ปรับจูนโดย Maserati เพื่อความสมดุลระหว่างความหรูหรา ความสะดวกสบายเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ส่วนการควบคุม เทคโนโลยีแบบ Cell-To-Chassis (CTC) 2.0 ช่วยเพิ่มความจุแบตเตอรี่ 17.5 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มความแข็งแกร่งของโครงสร้าง และปรับปรุงการจัดการความร้อนได้ดียิ่งขึ้น

ระบบดิจิทัลแบบขั้นสูง
Leapmotor C10 ใช้ชิป Qualcomm® Snapdragon™ 8155 พร้อม Leap OS 4.0 มีหน้าจอ Infotainment ขนาด 14.6 นิ้ว รองรับคำสั่งเสียง ระบบ OTA และหน้าจอแสดงข้อมูลขนาด 10.2 นิ้ว นอกจากนี้ยังมี กล้อง 360 องศา ไฟตกแต่งภายในที่ปรับเปลี่ยนได้ถึง 64 สี และระบบ ADAS ขั้นสูง อาทิ Adaptive Cruise Control (ACC), Automatic Emergency Braking (AEB), และ Lane Keeping Assist (LKA)

ภายในที่สะดวกสบายและทันสมัย
เบาะซิลิโคนที่ผ่านการรับรอง OEKO-Tex Standard 100® ปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายต่อเด็กทารก มาพร้อมกับหลังคา Panoramic Sunroof ขนาด 2.1 ตารางเมตร เบาะคนขับออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ พร้อมระบบระบายอากาศ, พื้นที่เก็บสัมภาระสูงสุด 1,410 ลิตร, พร้อมพอร์ต USB หลายจุด, การชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger และระบบเสียงรอบทิศทางด้วยลำโพง 12 ตัว
ข้อเสนอสุดพิเศษ
มอบข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้า 200 ท่านแรกที่จองรถในงาน Motor Expo 2024 และแคมเปญพิเศษรวมมูลค่ากว่า 120,000 บาท มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ฟรีประกันภัยปีแรก
ฟรีเครื่องชาร์จบ้านพร้อมติดตั้ง
ฟรีค่าจดทะเบียน
ฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 5 ปี
ฟรีแพ็กเกจบำรุงรักษา 5 ปี
รับประกันตัวรถ 5 ปี/100,000 กิโลเมตร
รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี/160,000 กิโลเมตร

สีตัวถัง และสีภายใน
สำหรับ Leapmotor C10 เรามีให้เลือกตัวถัง 5 สี ได้แก่ Glazed Green, Pearly White, Canopy Grey, Tundra Grey และ Metallic Black และภายในมี 2 สี คือ Criollo Brown และ Midnight Aurora

ราคาจำหน่าย
รถ Leapmotor รุ่น C10 ราคจำหน่ายอยู่ที่ 1,098,000 บาท

การขยายเครือข่ายการขาย
พระนครยนตรการ ตั้งเป้าและพร้อมเปิดโชว์รูม Leapmotor อย่างเป็นทางการทั้ง 15 แห่ง ภายในสิ้นปี 2567 โดยโชว์รูม Leapmotor สาขาลาดพร้าว และ Leapmotor สาขารัชโยธิน ที่พร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ในปลายเดือนพฤศจิกายนศกนี้ และตั้งเป้าที่จะขยายโชว์รูมเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ในปี 2568 เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่สนใจรถ Leapmotor C10 อีกด้วย

สำหรับลูกค้าที่สนใจรถ C10 สามารถเข้าเยี่ยมชมรถคันจริงได้ที่โชว์รูม Leapmotor สาขาลาดพร้าว และสาขา รัชโยธิน หรือเข้ามาทดลองขับรถ C10 ได้ที่งาน Motor Expo 2024 ที่บูธ Leapmotor B15 ได้ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 จนถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2567 (วันธรรมดา เริ่มเวลา 12.00-18.00 น. และในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดราชการ เริ่มเวลา 11.00-18.00 น.) สนใจสามารถลงทะเบียนทดลองขับได้ที่ บูธ Leapmotor (พร้อมรับของที่ระลึก หมวก Leapmotor)
**สำหรับลูกค้า Leapmotor Thailand สามารถดูรายละเอียดขอ้มูลรถC10 หรือรายละเอียดของแคมเปญพิเศษต่างๆ ได้ที่ www.facebook.com/leapmotorthailand และ Instagram: leapmotorthailand อย่างเป็นทางการ

เกี่ยวกับ Leapmotor
Leapmotor จัดตั้งขึ้นในปี 2558 และเป็นบริษัทยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี โดยมี มร.จู เจียงหมิง เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทและยังเป็นวิศวกรไฟฟ้าที่มีประสบการณ์ด้านเทคนิคมาเป็นเวลากว่า 30 ปี Leapmotor มีสำนักงานใหญ่ที่เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน บริษัทมีธุรกิจในด้านต่างๆ ตั้งแต่การออกแบบยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ, การวิจัยและพัฒนา, การผลิตการขับขี่อันอัจฉริยะ, การควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้า, การพัฒนาระบบแบตเตอรี่ และโซลูชันเครือข่ายยานยนต์ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของคลาวด์คอมพิวติ้ง

ในฐานะที่เป็นบริษัทด้านเทคโนโลยี ชิ้นส่วนหลักของ Leapmotor จึงถูกพัฒนาและผลิตขึ้นเองภายในบริษัท ซึ่งรวมถึงระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าและระบบอัจฉริยะ โดยสัดส่วนของชิ้นส่วนที่พัฒนาและผลิตขึ้นเองคิดเป็นสัดส่วน 60% ของต้นทุนยานพาหนะทั้งหมด บริษัทยังได้เปิดตัวเทคโนโลยีไฟฟ้าอัจฉริยะชั้นนำอย่างต่อเนื่อง เช่น ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า Eight-in-One, เทคโนโลยี Cell-to-Chassis ที่ผลิตในระดับอุตสาหกรรมเป็นรายแรก รวมทั้งการออกแบบระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (E/E) แบบรวมศูนย์ที่เรียกว่า 4 โดเมนในหนึ่งเดียว (Four-Domain-in-One) ซึ่งเป็นครั้งแรกของวงการ Stellantis ได้ลงทุนใน Leapmotor เมื่อปี 2566 และช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2567 โดยทาง Stellantis และ Leapmotor ได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นมาในชื่อ Leapmotor International B.V. เพื่อขยายตลาดในต่างประเทศอีกด้วย

ที่สุดของการออกแบบเพื่อผลลัพธ์อันยอดเยี่ยม C10 คว้าคะแนนสูงสุดในโปรแกรมทดสอบการชนรูปแบบใหม่ของยุโรป D-SUV รุ่นใหม่ ที่มา...
12/12/2024

ที่สุดของการออกแบบเพื่อผลลัพธ์อันยอดเยี่ยม C10 คว้าคะแนนสูงสุดในโปรแกรมทดสอบการชนรูปแบบใหม่ของยุโรป D-SUV รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมโครงสร้างอันแข็งแกร่ง และระบบฟีเจอร์ขั้นสูงครบครัน เพื่อปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสารอย่างได้อย่างปลอดภัยมากที่สุด โดยมีคะแนนในด้านการปกป้องผู้ใหญ่ 89% และการปกป้องเด็ก 85% ตามการจัดอันดับของ Euro NCAP C10

ที่สุดของการออกแบบเพื่อผลลัพธ์อันยอดเยี่ยม C10 คว้าคะแนนสูงสุดในโปรแกรมทดสอบการชนรูปแบบใหม่ของยุโรป D-SUV รุ...

บริษัท พระนครยนตรการ จำกัด (PNA) ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า แบรนด์ Leapmotor อย่างเป็นทางการในประเทศไทย พร้อมเปิดตัว Leapm...
12/12/2024

บริษัท พระนครยนตรการ จำกัด (PNA) ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า แบรนด์ Leapmotor อย่างเป็นทางการในประเทศไทย พร้อมเปิดตัว Leapmotor C10 รถยนต์ไฟฟ้า SUV รุ่นใหม่ล่าสุด เข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญสำหรับ Leapmotor International บริษัทร่วมทุนระหว่าง Stellantis และ Leapmotor ในสัดส่วน 51:49 ที่มีเป้าหมายในการขยายยอดขายรของถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) จากจีน ที่มีนวัตกรรมอันล้ำสมัยออกสู่ตลาดโลกนอกประเทศจีน

สัมผัสสมรรถนะการขับขี่ที่ปรับจูนโดย Maserati และเทคโนโลยี Cell-To-Chassis 2.0 ข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้า 200 ท่านแรกที่จองรถ ใ.....

“มาริโอ้-น้าเน็ก” นำทัพเหล่าคอลเลคเตอร์ระดับเซเลบริตี้ ทำกิจกรรม Pre Event ชวนร่วมงาน Chang Classic Car Revival  2024 สุ...
23/11/2024

“มาริโอ้-น้าเน็ก” นำทัพเหล่าคอลเลคเตอร์ระดับเซเลบริตี้ ทำกิจกรรม Pre Event ชวนร่วมงาน Chang Classic Car Revival 2024 สุดสัปดาห์นี้ที่บุรีรัมย์

ทัพนักแสดง-เซเลบริตี้ กลุ่มนักสะสมรถคลาสสิค นำโดย พระเอกหนุ่ม มาริโอ้ เมาเร่อ, น้าเน็ก-เกตุเสพย์สวัสดิ์ และภูริ หิรัญพฤกษ์ นำรถคันโปรดทำกิจกรรมโปรโมทจากโรงรถสู่แทร็กระดับโลก ชวนคนรักรถเข้าร่วมชมงาน Chang Classic Car Revival 2024 เทศกาลรวมพลรถคลาสสิค รถสะสม รถหายากแห่งปี ยิ่งใหญ่ที่สุดของไทย-อาเซียน หนึ่งปีมีครั้งกับการอวดโฉมรถ และประลองความเร็วของสายเก๋าจอมซิ่ง ปะทะกับงานยักษ์ของชาวสองล้อ Commander City พร้อมความบันเทิงอัดแน่น ครบเครื่อง ตลอด 2 วัน ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ เปิดให้เข้าชมฟรี

ล่าสุดเป็นกิจกรรมก่อนเข้าสู่โปรแกรมอย่างเป็นทางการในวันเสาร์และอาทิตย์ที่ 23-24 พ.ย. 2567 พระเอกหนุ่ม มาริโอ้ เมาเร่อ, น้าเน็ก-เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา และภูริ หิรัญพฤกษ์ ฯลฯ ร่วมกับกลุ่มนักสะสมรถคลาสสิคนำรถคันโปรดมาอวดโฉม ทดลองขับในแทร็กสนามช้างฯ , ต่อจากนั้นขบวนรถคลาสสิคนดัง ไปชมพระอาทิตย์ตกที่บริเวณริมอ่างเก็บน้ำห้วยจรเข้มาก ต.สะแกโพรง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและแหล่งชมนกกระเรียนพันธุ์ไทยหายาก และชมความสวยงามของไฟประดับวงเวียนรัชกาลที่ 1

Chang Classic Car Revival 2024 หรือ ช้าง คลาสสิค คาร์ รีไววัล เป็นงานใหญ่รับลมหนาว ส่งท้ายปลายปี จัดขึ้นเป็นปีที่ 5 โดยสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ร่วมกับ น้ำแร่ธรรมชาติ ตราช้าง ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ช้างเติมเต็มคำว่าเพื่อน” ชวนคนรักรถคลาสสิคร่วมนำรถคันโปรดมาอวดโฉม และประลองความเร็ว พิสูจน์สมรรถนะ ฝีมือกันในเซอร์กิตระดับโลก เปิดให้เข้าชมฟรี วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 23-24 พ.ย. 2567 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์

ทั้งนี้ เทศกาลรถคลาสสิค รถสะสม รถหายาก จากโรงรถ สู่ท้องถนนไปจนถึงแทร็กระดับโลก และงานยักษ์ของชาวสองล้อ Commander City พร้อมทัพพาเหรดรีไววัลที่ยาวที่สุด ยิ่งใหญ่ที่สุดของไทย-อาเซียน ภายในงานมีกิจกรรมหลัก สำหรับชาวสองล้อ-รถยนต์สายเก๋าจอมซิ่ง ไม่ว่าจะ Classic Trackday กิจกรรมแทร็คเดย์ แบ่งเป็นรุ่น ได้แก่ Pro Modern Classic, Modern Classic, Super Classic, Sport Classic, Euro Classic, Mini Classic, VW Revival และ Classic Drag สุดมันส์, Classic Gymkhana Battle แข่งขันทักษะการขับขี่สไตล์จิมคาน่า นอกจากนี้ยังมี Volkswagen Village หมู่บ้านแคมป์ปิ้งสุดชิลของคนรักรถโฟล์ค ฯลฯ

รวมทั้งกิจกรรม Pit walk ที่สุดแสนละลานตาไปกับการชมรถสวยๆในพิต การาจ สัมผัสรถหายากมากมาย และกิจกรรม Grid Walk อีกหนึ่งสีสันที่จะได้ชมรถสวยๆนับร้อยคัน บริเวณกริดสตาร์ต บนสนามแข่งระดับโลก พร้อมถ่ายรูปสวยๆเป็นที่ระลึก ฯลฯ ภายในงานยังมีกิจกรรมความสนุกอีกมากมาย พร้อมการออกบูธสินค้าของตกแต่งรถ และร้านอาหารชั้นนำของจังหวัดบุรีรัมย์

นอกจากนี้ยังมีคอนเสิร์ตสุดยิ่งใหญ่ สนุกไปกับศิลปินระดับตำนาน ร่วมงานฉลองครบรอบ 22 ปี Commander City คืนวันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2567 ในงาน Commander City เทศกาลของชาว 2 ล้อที่ยิ่งใหญ่ สนุกไปกับคอนเสิร์ตคาราบาว,พยัพ คำพันธุ์และวง Freedom, ลูกทุ่งล้านวิว เม้ก อภิสิทธิ์ และมีนตรา อินทิรา ที่มาแบบเต็มวง

ทั้งนี้ ในส่วนของงาน Chang Classic Car Revival 2024 ในวันเสาร์และอาทิตย์ที่ 23-24 พ.ย. 2567 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ เปิดให้เข้าชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย หรือรับชมทางออนไลน์ได้ทางเพจ Chang Circuit Buriram

30/10/2024

สมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสารร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ผู้สนับสนุน จัดง...

30/10/2024

ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้าในประเทศไทย ครั้งแรกกับการจ...

30/10/2024

RIDDARA (ริดดารา) เผยโฉม RIDDARA RD6 รถกระบะไฟฟ้า 100% คันแรกของเมืองไทย ชูนวัตกรรม M.A.P (Multiplex Attached Platform) ผสานศักยภาพรถกระบะและรถยน....

29/10/2024
28/10/2024

บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด มุ่งมั่นส่งเสริมศักยภาพบุคลากรต่อเนื่อง จัดกิจกรรมการแข่งขัน ‘Punthai Barista Championship 2024’ เป...

ครองบัลลังก์! ศึกแพลน-บี จัด Champion day ฉลองแชมป์และมอบรางวัลสุดยอดนักบิดประจำปีสุดยิ่งใหญ่ศึก Plan-B Media BRIC Super...
10/09/2024

ครองบัลลังก์! ศึกแพลน-บี จัด Champion day ฉลองแชมป์และมอบรางวัลสุดยอดนักบิดประจำปีสุดยิ่งใหญ่

ศึก Plan-B Media BRIC Superbike ประกาศรายชื่อผู้ครองบัลลังก์สุดยอดนักบิดของไทย ประจำปี 2024 ในงาน “CHAMPIONS DAY” วันที่ 8 ก.ย. 67 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ พร้อมทั้งมอบสิทธิ์ไวลด์การ์ดไปแข่งขันรายการใหญ่ที่สุดของทวีป “เอเชีย โรด เรซซิ่งให้กับ 3 นักบิดไทยที่เป็นแชมป์ประจำปีใน 3 รุ่นการแข่งขัน ได้แก่ “บอล” จักรกฤษณ์ แสวงสวาท แชมป์ประจำปี จากรุ่นซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี เอสบี 1 โปร, นทีธาร ทองโคตร จากรุ่น ซูเปอร์ สต็อก 1,000 ซีซี เอสที 1 และต่อศักดิ์ นวลสาย จากรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี เอสเอส1 ด้านแม่ทัพใหญ่คนสำคัญ “ตนัยศิริ” เผยทิศทางปี 2025 พัฒนาไม่หยุด ยกระดับเรซต่อเนื่อง ต่อยอดสู่ภาคเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวของภูมิภาคและของประเทศไทย

ศึกซูเปอร์ไบค์ชิงแชมป์ประเทศไทย Plan-B Media BRIC Superbike ถือเป็นรายการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ ก้าวแรกของนักบิดไทยสู่เวทีระดับโลก ภายใต้แนวคิด anyone can be a hero ใครๆก็เป็นฮีโร่นักบิดได้ โดยที่ผ่านมามอเตอร์สปอร์ตในบ้านเรา เติบโตแบบก้าวกระโดด รายการนี้ได้สร้างฮีโร่นักบิดให้มายืนแถวหน้าของวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยและระดับโลกมากมาย ฤดูกาล 2024 ได้จัดการแข่งขันทั้งสิ้น 4 สนาม 5 เรซ หลากหลายรุ่นการแข่งขัน เพื่อให้นักบิดได้แสดงฝีมือได้อย่างเต็มที่ สนับสนุนให้ได้แข่งขันในสนามมาตรฐานระดับโลก ด้วยกติกาเดียวกันกับเอเชีย โรด เรซซิ่ง นอกจากนี้ยังมีซัพพอร์ตเรซจากค่ายรถจักรยานยนต์ชื่อดัง ฮอนด้าและยามาฮ่า ที่เพิ่มรุ่นการแข่งขันกันอย่างคึกคักให้โอกาสนักบิดหน้าใหม่ได้ลงแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็น Honda Thailand Talent Cup, Yamaha R-Series Cup และ Yamaha R3 bLU cRU Thailand Cup

ทั้งนี้ หนึ่งในแรงขับเคลื่อนไปสู่ความสำเร็จของ ศึก แพลน-บี มีเดีย บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปียนชิพ คือผู้สนับสนุนหลักอย่าง บริษัทแพลนบี มีเดีย จำกัด (มหาชน) รวมถึงพาร์ตเนอร์สำคัญอย่าง น้ำแร่ธรรมชาติ ตรา ช้าง , รถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้า, บริษัท ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด, บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด, บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน), บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), หมวกกันน็อกเรียล, ผ้าเบรคเน็กซ์เตอร์, บริดจสโตน โมโต ไทยแลนด์, ไออาร์ซี, โซ่ ดี.ไอ.ดี, การกีฬาแห่งประเทศไทย และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

นายอานนท์ พรธิติ รองประธานอาวุโส บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯได้ก้าวขึ้นมาเป็นไตเติ้ลสปอนเซอร์ในปีนี้เป็นปีแรก โดยเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาและยกระดับนักบิดไทย จึงก้าวเข้ามาเป็นผู้สนับสนุน ร่วมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย โดยการแข่งขันในฤดูกาลนี้มีความชับเคี่ยวอย่างมาก หลายรุ่นต้องลุ้นแชมป์กันจนถึงในสนามสุดท้าย ทั้งนักบิดและทีมช่าง ทีมงานสามารถนำประสบการณ์นี้ไปพัฒนาต่อยอด และเป็นแรงผลักดันให้ก้าวสู่ระดับโลกได้ในอนาคต

นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต แม่ทัพที่เป็นเบื้องหลังความสำเร็จของศึกชิงแชมป์ประเทศไทย กล่าวว่า การก้าวเข้ามาเป็นไตเติ้ลสปอนเซอร์ของทาง บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจสื่อประชาสัมพันธ์ จะเป็นประโยชน์ในด้านการประชาสัมพันธ์การแข่งขันให้รับรู้ในวงกว้างยิ่งขึ้น

“รายการของเรามีความตั้งใจที่จะพัฒนาวงการแข่งขันรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยให้มีความทัดเทียมต่างประเทศ สร้างนักแข่งที่มีคุณภาพ ทีมแข่งที่มีศักยภาพ พัฒนาขึ้นมาต่อยอดไปสู่ระดับสากล โดยปีนี้เป็นปีที่ 10 เชื่อว่ารายการของเราเป็นรายการที่แข็งแรงไม่แพ้ใครในเอเชีย ส่วนทิศทางในปี 2025 นั้น เราจะเดินหน้าพัฒนาให้ดีขึ้นต่อไป เอาความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆจากนักแข่ง ทีมช่างมาพัฒนาปรับปรุง ให้รายการยกระดับขึ้น โดยเป้าในหลายปีที่ผ่านมา เรามี Road Map ที่ต้องการผลักดันให้รายการเป็นเรซอินเตอร์ ในแต่ละปีมีนักแข่งต่างชาติมาร่วมทำการแข่งขันมากมาย ในปีนี้จะเห็นนักแข่งจากไต้หวันเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งนักแข่ง จีน อินเดีย มาเลเซีย อินโดนีเซียและออสเตรเลีย ฯลฯ เหล่านี้เองที่แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมมอเตอร์สปอร์ต สามารถต่อยอดไปสร้างชื่อเสียง ต่อยอดไปสู่อุตสาหกรรมอื่น เช่น การท่องเที่ยว เศรษฐกิจทั้งของจังหวัดและประเทศไทยได้ ”

ภายในงานยังมีพิธีมอบแชมป์ มอบเงินรางวัลให้กับแชมป์ประจำปีในรุ่นต่างๆ มีของรางวัลพิเศษให้กับนักแข่ง ทีมแข่งและสื่อมวลชน ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาข้อมือ Coros, บัตรเติมน้ำมันของ พีทีที สเตชั่น และน้ำมันเครื่อง พีทีที ชาเลนเจอร์ ซูเปอร์ไบค์ ฯลฯ

นักบิดที่สามารถคว้าแชมป์ประจำปีรุ่นใหญ่ที่สุดอย่าง ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี เอสบี 1 โปร ได้แก่ “บอล” จักรกฤษณ์ แสวงสวาท จาก อีสต์ เอ็นเจที พีทีที ลูบริแคนท์ส เรซซิ่ง ทีม พร้อมรับสิทธิ์ไวลด์การ์ดไปแข่งขัน เอเชีย โรด เรซซิ่ง ส่วนซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี เอสบี 1 ได้แก่ วริทธิ์ ทองนพคุณ จาก อีสต์ เอ็นเจที พีทีที ลูบริแคนท์ส เรซซิ่ง ทีม, เอสบี 2 ได้แก่ ทรัพย์สถิต ศรีสุวรรณ จาก ยามาฮ่า ไรเดอร์ คลับ เรซซิ่ง ทีม , เอสบี 3 ได้แก่ สุพัฒน์ สะอาดรัตน์ จาก ยามาฮ่า ไรเดอร์ คลับ เรซซิ่ง ทีม

ส่วนแชมป์ประจำปีในรุ่น ซูเปอร์ สต็อก 1,000 ซีซี เอสที 1 และได้รับสิทธิ์ไวลด์การ์ดแข่งขันเอเชีย โรด เรซซิ่ง ได้แก่ นทีธาร ทองโคตร จาก ยามาฮ่า ทีเอ็นพี พีทีที ลูบริแคนท์ส, รุ่นเอสที 2 ได้แก่ ทรัพย์สถิต ศรีสุวรรณ จาก ยามาฮ่า ไรเดอร์ คลับ เรซซิ่ง ทีม กวาดชัยชนะไปทั้ง 5 เรซ, เอสที3 ได้แก่ ภาณุวัฒน์ ฤกษ์มงคล จาก ยามาฮ่า ไรเดอร์ คลับ เรซซิ่ง ทีม

แชมป์ประจำปี ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี เอสเอส1 และได้รับสิทธิ์ไวลด์การ์ดแข่งขันเอเชีย โรด เรซซิ่ง ได้แก่ ต่อศักดิ์ นวลสาย จาก ยามาฮ่า ทีเอ็นพี พีทีที ลูบริแคนท์ส คว้าชัยชนะ 5 เรซ ไร้พ่ายตลอดฤดูกาล, เอสเอส2 ได้แก่ พงศ์ภัค ดีจันทร์ จาก ยามาฮ่า ทีเอส เรซซิ่ง

แชมป์ประจำปี ซูเปอร์สปอร์ต 400 ซีซี เอสเอส1 โปร ได้แก่ “ฟอง" คณาทัต ใจมั่น จาก ไฮสปีด เรซซิ่ง ทีม, รุ่นเอสเอส 1 ได้แก่ กันตภัทร แยบการไถ จาก ไฮสปีด เรซซิ่ง ทีม, เอสเอส2 ได้แก่ ชนะชัย บุญงาม จาก แบล็ก ฮันเตอร์ สมาร์ทสปอร์ต ไออาร์ซี ดีไอดี เอลฟ์ เจ.เอ. เรซซิ่ง

แชมป์ประจำปี สปอร์ต โปรดักชั่น 400 ซีซี เอสพี ได้แก่ สุทธิพจน์ พัชรีธร , เอสพี จูเนียร์ ได้แก่ ภูริทัต จันจาด จาก เคแอล เพาเวอร์การ์ด ไทยแลนด์ วีอาร์ แร็ป เรซซิ่ง ทีม

ที่อยู่

Bang Kapi

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 17:00
อังคาร 09:00 - 17:00
พุธ 09:00 - 17:00
พฤหัสบดี 09:00 - 17:00
ศุกร์ 09:00 - 17:00

เบอร์โทรศัพท์

+66952488920

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Joinalifethailandผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Joinalifethailand:

แชร์