KraSae วันนี้สะใจ วันต่อไปชดใช้กรรม
(3)

อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอนอ่วมอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ประสบเหตุอุทกภัยอ่วม หลังตรวจสอบและเตรียมให้การช่วยเหลือราษฎร ในขณะที่ปริมา...
18/08/2024

อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอนอ่วม

อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ประสบเหตุอุทกภัยอ่วม หลังตรวจสอบและเตรียมให้การช่วยเหลือราษฎร ในขณะที่ปริมาณน้ำในแม่น้ำปายได้เริ่มลดลงแต่ก็ยังสูงกว่าภาวะวิกฤติ ขณะที่พยากรณ์อากาศล่วงหน้ารายสัปดาห์เตือนรับมือฝนหนักไปจนถึง 22 สิงหาคมนี้

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2567 นายสังคม คัดเชียงแสน นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์เหตุอุทกภัยในพื้นที่อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ตนได้มอบหมายให้ปลัดอำเภอผู้รับผิดชอบ นำกำลังพลสมาชิก อส. ร้อย อส.อ.เมืองแม่ฮ่องสอน 2 สนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการติดตามสถานการณ์ระดับน้ำ และปริมาณน้ำฝนอย่างใกล้ชิด ระดับน้ำในพื้นที่ตำบลห้วยผา ตำบลปางหมู ตำบลผาบ่อง และตำบลห้วยโป่ง ทั้งนี้อำเภอฯ ได้ดำเนินการแจ้งเตือนให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้แหล่งน้ำ ให้เตรียมการป้องกัน และขนย้ายสิ่งของ หรือสัตว์เลี้ยง ให้ไปอยู่ในพื้นที่สูง นอกจากนั้นยังได้มอบหมายให้ อบต.ในพื้นที่ เร่งดำเนินการสำรวจความเสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศตั้งแต่วันนี้ – 22 สิงหาคม พ.ศ. 2567 (พยากรณ์อากาศล่วงหน้า) ร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และประเทศลาว เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ตลอดช่วง

ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออกมีฝนตกหนักบางแห่ง ในขณะที่ในช่วงวันที่ 16 – 17 ส.ค. 67 จะมีแนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้ในระดับบนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่

จึงขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยโดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย ตลอดช่วง

สำหรับพื้นที่ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จากสถานการณ์น้ำท่วมล้นตลิ่งในพื้นที่ดังนี้ เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2567 ได้มีฝนตกหนักตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ในทุกพื้นที่อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ประกอบกับมีฝนตกในพื้นที่อำเภอปาย และอำเภอปางมะผ้า ทำให้ระดับน้ำของแม่น้ำปายเพิ่มสูงขึ้น และลำห้วยสาขาต่าง ๆ ไหลหลากลงสมทบกับแม่น้ำปาย ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้อปายเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ได้รับรายงาน น้ำท่วม และความเสียหายเบื้องต้นจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ดังนี้

1. ตำบลห้วยผา ได้รับความเสียหาย ดังนี้
1) บ้านห้วยผา หมู่ที่ 1 น้ำเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร (นาข้าว) ได้รับความเสียหาย
2) บ้านห้วยผึ้ง หมู่ที่ 3 ตำบลห้วยผา เกิดเหตุดินสไลด์ ต้นไม้ล้มปิดทับเส้นทางคมนาคม ทางขึ้นไปจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนช่องทางบ้านห้วยผึ้งทำให้รถส่งสินค้าจุดผ่อนปรนสินค้าชายแดนทุกชนิด ไม่สามารถสัญจรไป - มาได้ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ได้เข้าสนับสนุนการช่วยเหลือโดยประสาน อบต.ห้วยผา และผู้ประกอบการฯ นำเครื่องจักร (รถไถ) ดำเนินการผิวจราจรเส้นทางดังกล่าวข้างต้น
3) บ้านนาปลาจาด หมู่ที่ 4 น้ำในลำห้วยต่างๆ ล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร (นาข้าว) ได้รับความเสียหาย
4) บ้านทุ่งมะส้าน หมู่ที่ 5 น้ำในลำห้วยต่างๆ ล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร (นาข้าว) ได้รับความเสียหาย
5) บ้านแม่สุยะใหม่ หมู่ที่ 6 ตำบลห้วยผา ระดับน้ำของแม่น้ำของ ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เข้าท่วมบริเวณคอสะพาน และถนนเข้าวัดป่าถ้ำวัว ผู้ใหญ่บ้าน ได้ประสาน อบต.ห้วยผา ช่วยกันซ่อมแซมคอสะพานเสร็จเรียบร้อย จำนวน 1 จุด คงค้างอีก 1 จุด เนื่องจากกระแสน้ำแรงมาก
6) บ้านห้วยส้านใหม่ หมู่ที่ 7 ตำบลห้วยผา ระดับน้ำของแม่น้ำของ ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เข้าท่วมพื้นที่การเกษตร (นาข้าว) ถนนคอนกรีตเข้าหมู่บ้านถูกน้ำกัดเซาะได้รับความเสียหาย
2. ตำบลผาบ่อง ได้รับความเสียหาย ดังนี้
1) บ้านห้วยเดื่อ หมู่ที่ 3 ตำบลผาบ่อง แม่น้ำปายได้เพิ่มสูงขึ้นล้นตลิ่ง เข้าท่วมบริเวณจุดท่าเทียบเรือ เข้าท่วมพื้นที่การเกษตร (นาข้าว, ข้าวโพด และงา) ของประชาชนในหมู่บ้านได้รับความเสียหาย
2) บ้านท่าโป่งแดง หมู่ที่ 5 ตำบลผาบ่อง แม่น้ำปายได้เพิ่มสูงขึ้นล้นตลิ่ง เข้าท่วมบริเวณจุดท่าเทียบเรือ,สะพาน, เข้าท่วมพื้นที่การเกษตร (สวนข้าวโพดและพืชผัก) ของประชาชนในหมู่บ้าน และแม่น้ำปายล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ของศูนย์บริการและพัฒนาลุ่มน้ำปายตามพระราชดำริ (ท่าโป่งแดง)
3) บ้านห้วยโป่งกาน หมู่ที่ 6 ตำบลผาบ่อง น้ำป่าไหลหลากเข้ากัดเซาะทำให้ถนนภายในหมู่บ้าน ฝายและพื้นที่การเกษตร (นาข้าว) ได้รับความเสียหาย ทำให้รถยนต์ทุกชนิดไม่สามารถสัญจรได้
4) บ้านห้วยแก้ว หมู่ที่ 7 ตำบลผาบ่อง ฝนตกหนักสะสมกันหลายวัน เป็นเหตุให้ดินสไลด์ปิดทับเส้นทางคมนาคม และมีไม้ใหญ่ล้มขวางทางถนนเข้าหมู่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านและคณะกรรมการได้ช่วยกันทำการตัดไม้ที่ล้มขวางทางถนนเป็นที่เรียบร้อย
5) บ้านผาบ่องเหนือ (หย่อมบ้านแม่จ๋า) หมู่ที่ 12 ตำบลผาบ่อง เนื่องจากมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำป่าเข้าบ้านเรือนประชาชน จำนวน 4 หลัง และน้ำจากลำห้วยเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร (นาข้าว) ของประชาชน
6) บ้านห้วยปูแกง หมู่บ้านท่องเที่ยวกะเหรี่ยงคอยาว เกิดน้ำท่วมได้เอ่อล้นท่วมห้องครัว ห้องน้ำที่โรงเรียนชุมชนห้วยปูแกง ชาวบ้านผู้นำจิตอาสาในหมู่บ้านจึงช่วยกันขนข้าวของขึ้นพื้นที่สูง
3. ตำบลปางหมู ได้รับความเสียหาย ดังนี้
1) บ้านกุงไม้สัก หมู่ที่ 2 ตำบลปางหมู น้ำแม่สะงา ได้ล้นตลิ่ง เข้าท่วมพื้นที่เกษตร (นาข้าว) บริเวณสะพานซูตองเป้ น้ำได้ท่วมขังมาเป็นเวลา 17 วัน
2) บ้านทุ่งกองมู หมู่ที่ 3 ตำบลปางหมู ระดับน้ำในแม่น้ำปาย ได้เพิ่มระดับสูงขึ้น เข้าท่วมพื้นที่การเกษตร (นาข้าว, สวนงา) เป็นวงกว้าง ได้รับความเสียหาย และระดับน้ำของแม่น้ำปาย เพิ่มสูงขึ้นจนไปถึงทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 128 จำนวน ครึ่งเลน บริเวณสะพานขามแม่น้ำปาย
3) บ้านสบป่อง หมู่ที่ 6 ตำบลปางหมู ระดับน้ำในแม่น้ำปาย ได้เพิ่มระดับสูงขึ้น เข้าท่วมพื้นที่การเกษตร (นาข้าว) และบริเวณท่าทราย
4) บ้านสบสอย หมู่ที่ 7 ตำบลปางหมู ระดับน้ำในแม่น้ำปาย ได้เพิ่มระดับสูงขึ้น เข้าท่วมพื้นที่การเกษตร (นาข้าว, สวนผัก) เป็นวงกว้าง ได้รับความเสียหาย
4. ตำบลห้วยโป่ง ได้รับความเสียหาย ดังนี้
1) บ้านป่าลาน หมู่ที่ 3 ตำบลห้วยโป่ง มีฝนตกหนักอย่างต่อเนี่อง เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 เวลา 23.30 ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร (ไร่, นาข้าว) ของชาวบ้านทำให้เสียหายเป็นจำนวนมาก
2) บ้านไม้ฮุง หมู่ที่ 5 ตำบลห้วยโป่ง มีฝนตกหนักอย่างต่อเนี่อง ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร (ไร่, นาข้าว) ของชาวบ้านทำให้เสียหายเป็นจำนวนมาก
3) บ้านไม้ซางหนาม หมู่ที่ 6 ตำบลห้วยโป่ง มีฝนตกหนักอย่างต่อเนี่อง ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร (ไร่, นาข้าว) ของชาวบ้านทำให้เสียหายเป็นจำนวนมาก

สถานีอุทกวิทยา กรมชลประทาน บ้านท่าโป่งแดง ต.ผาบ่อง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ได้รายงานผลการตรวจวัดปริมาณน้ำในแม่น้ำปาย ล่าสุดวันนี้ ( 18 ส.ค.67 ) เมื่อเวลา 09.00 น.ปริมาณระดับน้ำในแม่น้ำปาย วัดได้ 3.45 เมตร โดยพบว่าปริมาณได้เริ่มลดลงอย่างช้า ๆ และยังอยู่ในระดับเกินวิกฤติ โดยระดับวิกฤติอยู่ที่ 2.75 เมตร

ฝนตกหนักประตูระบายน้ำเสียปิดกั้นทางน้ำทำน้ำไหนท่วม บ้านเรือนราษฎรวันที่ 18 ส.ค 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดฝนตกหนักทั้งค...
18/08/2024

ฝนตกหนักประตูระบายน้ำเสียปิดกั้นทางน้ำทำน้ำไหนท่วม บ้านเรือนราษฎร

วันที่ 18 ส.ค 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดฝนตกหนักทั้งคืนทำให้ มวลน้ำ ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ตำบลแม่ใส อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ตั้งแต่ช่วงเวลา 02.00 น.ซึ่งจนถึงตอนนี้มวลน้ำได้เริ่มสูงขึ้นและเริ่มเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่ทางการเกษตร วัดวาอาราม ชาวบ้านต้องรีบ เร่งย้ายสิ่งของ ขึ้นไว้ที่สูง เนื่องจากปริมาณน้ำเริ่ม ไหล มาเป็นจำนวนมากโดย ในบางส่วน น้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร อีกทั้งมูลเหตุที่ทำให้เกิดน้ำท่วมในครั้งนี้ เกิดจากประตูระบายน้ำที่มีขนาดเล็กและยังเกิดความเสียหาย เป็นเวลาหลายปีไม่มีการแก้ไข จึงทำให้เปิดได้บางส่วน และยังทำให้ ปิดกั้นทางน้ำไหลไม่ทันเกิดการล้นเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร

ทางเข้าวัดป่าถ้ำวัวขาดไม่สามารถสัญจรได้นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน นำทีมปลัดอำเภอและอส.รวมไปถึง อบต.ห้วยผา กำนันและผู้ใหญ่บ้...
17/08/2024

ทางเข้าวัดป่าถ้ำวัวขาดไม่สามารถสัญจรได้

นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน นำทีมปลัดอำเภอและอส.รวมไปถึง อบต.ห้วยผา กำนันและผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ลงพื้นที่ตรวจสอบที่วัดป่าถ้ำวัว พบเส้นทางเข้าวัดเสียหายหนักไม่สามรถสัญจรผ่านไปมาได้ รวมไปถึงพื้นที่ใกล้เคียงที่เสาไฟฟ้าโค่นล้มสะพานเสียหาย

เมื่อวันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม 2567 เวลา 10:30 น. ภายใต้อำนวยการของนายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนนายสังคม คัดเชียงแสนนายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอนพร้อมด้วยนายสิทธิพร หมั่นไชย ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานความมั่นคง /สมาชิก อส.กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอแม่ฮ่องสอนที่ 2 บูรณาการ ร่วมกับหน่วยงานองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยผา กำนันตำบลห้วยผา และผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.6 ต.ห้วยผา บ้านรุ่งอรุณ ลงพื้นที่สำรวจตรวจสอบความเสียหายเหตุอุทกภัยน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ตำบลห้วยผา อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ในพื้นที่ตามจุดต่างๆ

จากการลงพื้นที่ บริเวณวัดป่าถ้ำวัว บ้านรุ่งอรุณ ต.ห้วยผา อ.เมืองแม่ฮ่องสอน พบว่าได้รับความเสียหายเป็นอย่างมากโดยเฉพาะทางเข้าวัดป่าถ้ำวัว ทำให้เกิดคอสะพานมีรอยแตกร้าวรถยนต์ไม่สามารถเข้าได้ โดยได้ประสานกับหน่วยงาน องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยผา กำนันตำบลห้วยผา ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อให้รถสัญจรไปมาได้

นอกจากนั้นที่บ้านห้วยส้านใหม่ ตำบลห้วยผาอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอนจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เกิดเหตุน้ำตาไหลหลากทำให้ถนน และสะพานได้รับความเสียหายเป็นบางส่วน และเสาไฟฟ้าล้มหัก และได้ประสานกับหน่วยงานองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยผา และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการแก้ไขโดยเร่งด่วน

ส่วนที่บ้านรุ่งอรุณ ต.ห้วยผา อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่เกิดเหตุอุทกภัยน้ำป่าไหลหลาก ทำให้ถนนถูกตัดขาดรถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรไปมาได้ จึงได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการแก้ปัญหาต่อไป

สุดสลด! หนุ่มคนงานร้านรับซื้อของเก่าชาวเมียนมาหล่นลงในเครื่องอัดก้อนกระดาษ ถูกอัดดับคาเครื่อง เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 1...
17/08/2024

สุดสลด! หนุ่มคนงานร้านรับซื้อของเก่าชาวเมียนมาหล่นลงในเครื่องอัดก้อนกระดาษ ถูกอัดดับคาเครื่อง
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 17 ส.ค.67 ร.ต.อ.สุวิทย์ ภูดอนนาง พงส.สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีคนถูกเครื่องอัดก้อนกระดาษอัดร่างจนเสียชีวิต ภายในโกดังค้าของเก่าไม่มีชื่อหมู่ที่ 9 ต.ใสคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นโกดังค้าของเก่าปลูกอยู่บนเนื้อที่กว่า 1 ไร่ ภายในมีขยะรีไซเคิลต่างๆกองเป็นจำนวนมาก บริเวณด้านหลังโกดังพบเป็นสถานที่ตั้งเครื่องอัดก้อนกระดาษขนาดใหญ่แบบไฮดรอลิค กว้าง 2 เมตร ยาว 6 เมตรตั้งอยู่ ภายในเครื่องยังพบก้อนกระดาษที่อัดแล้วยังคาเครื่องอยู่ 3-4 ก้อนติดคาเครื่องอยู่และยังพบรองเท้าแตะของผู้ตายตกอยู่ 1 คู่ บริเวณข้างเครื่องพบร่างนาย HEIN NAUNG OO อายุ 34 ปี สัญชาติพม่า นอนหงายอยู่บนพื้นโกดัง สภาพศพสวมเสื้อยืดคอกลมแขนยาวสีดำ กางเกงขาสั้นสีน้ำเงินลายคลิบแดง-ขาว มีบาดแผลถลอกที่ต้นแขนซ้ายและต้นขาทั้ง 2 ข้าง หน้าอกยุบ
จากการสอบถามนายภิฤทธิ์ อายุ 43 ปี อยู่หมู่ที่ 6 ต.บุฤาษี อ.เมือง จ.สุรินทร์ เพื่อนร่วมงานเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนและผู้ตายได้ช่วยกันนำกระดาษมาใส่เครื่องอัดให้เป็นก้อนก่อนที่จะใช้ลวดมัดให้แน่เพื่อจัดเตรียมจัดส่งให้ลูกค้า โดยมีผู้ตายเป็นคนคุมเครื่อง ในระหว่างที่ตนกำลังก้มหน้ารอยลวดเข้าไปในเครื่องได้ยินเสียงผู้ตายร้องเรียกให้ช่วย ตนหันไปดูพบว่าผู้ตายลงไปอยู่ในเครื่องและถูกอัดติดคาเครื่องแล้ว ตนจึงรีบปิดเครื่องแล้วพยายามไปดึงร่างผู้ตายออกมาจากเครื่องพร้อมรีบปฐมพยาบาล ก่อนที่จะตะโกนเรียกเจ้าของร้านที่อยู่หน้าโกดังให้รีบมาช่วยเหลือพร้อมโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าทีกู้ภัยให้มาช่วยแต่ไม่ทันการณ์ผู้ตายเสียชีวิตก่อนหน้าเจ้าหน้าที่มาถึง ส่วนสาเหตุนั้นตนไม่ทราบว่าผู้ตายลงไปในเครื่องได้อย่างไรเพราะช่วงนั้นตนก้มหน้าดึงลวดอยู่จึงไม่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด มารู้อีกครั้งตอนที่ผู้ตายร้องเรียกตนช่วยดังกล่าว
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพและลงบันทึกประจำวันไว้เบื้องต้นพร้อมเชิญคนงานที่อยู่ในโกดังและเจ้าของร้านไปสอบสวนเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจก่อนมอบร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวชเพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายที่แท้จริงอีกครั้งต่อไป
คลิกอ่าน https://www.naewna.com/local/823208/preview
#สมุทรปราการ #อาชญากรรม #หนุ่มพม่า #รับซื้อของเก่า

ลูกสาวมีหนี้สินรุมเร้ารมควันในห้องนอนพร้อมแม่ นายจ้างมาพบช่วยได้ทันลูกสาวมีหนี้สินรุมเร้ารมควันในห้องนอนเพื่อลาโลกพร้อมก...
17/08/2024

ลูกสาวมีหนี้สินรุมเร้ารมควันในห้องนอนพร้อมแม่ นายจ้างมาพบช่วยได้ทัน
ลูกสาวมีหนี้สินรุมเร้ารมควันในห้องนอนเพื่อลาโลกพร้อมกับแม่ โชคดีนายจ้างมาตามเจอควันท่วมบ้านพบนอนหมดสติทั้งคู่จึงช่วยทันพบจดหมายลาตายเขียนว่า "ชดใช้หนี้ครั้งนี้ด้วยชีวิต"
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 17 ส.ค.67 พ.ต.ท.สุนันต์ มณีเทพ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองระยอง ได้รับแจ้งเกิดเหตุมีคนรมควันปลิดชีพตัวเอง แต่โชคดีมีคนพบก่อนจึงช่วยทันเหตุเกิดที่บ้านพื้นที่ ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง จึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลระยอง พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสว่างพรกุศล เดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบชาวบ้านกำลังช่วยเหลือสองแม่ลูกที่ยังคงมีอาการสะลึมสะลือ โดยอาการของคนเป็นแม่ยังมีอาการง่วงคล้ายกับกินยานอนหลับหลังปฐมพยาบาลเบื้องต้น นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลระยอง
จากการตรวจสอบภายในห้องเกิดเหตุ เป็นห้องนอนปิดมิดชิด กลิ่นควันไฟยังอบอวลอยู่ พบกระทะเหล็กและหม้อหุงข้าวที่ก่อถ่านไว้ จึงรีบนำออกมานอกตัวบ้าน และพบจดหมาย เขียนข้อความไว้ สรุปได้ว่า "ชดใช้หนี้ครั้งนี้ด้วยชีวิต" โดยถูกกดดันจากการนำเงินของคนอื่นมาปล่อยกู้ แต่ถูกโกงไปจนหมด เลยถูกกล่าวหาว่าเป็นมิจฉาชีพ และถูกยึดมือถือ บัญชีธนาคารไปตรวจสอบ ถูกล็อกกุญแจห้องขังไว้ กลัวจะหนีทั้งที่ไม่เคยคิดหนีจนไม่สามารถติดต่อใครได้ เมื่อแม่รู้มันบานปลายแล้วขออโหสิกรรมเพียงเท่านี้ ทำดี 100 ครั้งพลาดครั้งเดียวดูเลวตลอดขอให้มูลนิธิจัดการศพทั้งสองด้วยไม่ต้องบอกใคร เผาได้เลย
จากการตรวจสอบทราบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นแม่กับบุตรสาวโดยบุตรสาวชื่อ น.ส.วันวิสาข์ อายุ 33 ปี ส่วนมารดาชื่อนางนันทิยา อายุ 65 ปี
จากการสอบสวนนายจ้างได้ให้การว่า น.ส.วันวิสาข์ เป็นลูกจ้างของตนเองวันนี้เห็นหายไปจึงเดินทางมาตรวจสอบพบว่ามีควันไฟอบอวลอยู่ในบ้านจึงรีบเข้าไปในบ้านก็พบว่าทั้งสองแม่ลูกนอนหมดสติอยู่ภายในห้องจึงรีบเรียกชาวบ้านมาช่วยกันนำตัวออกมา พร้อมทั้งระบายควันไฟออกจากตัวบ้าน แต่ทั้งคู่ยังสะลึมสะลือจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มานำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนสาเหตุคงเกิดจากปัญหาการเงินที่ น.ส.วันวิสาข์ได้ก่อไว้ กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบบัญชี และยังตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องการลักทรัพย์ด้วย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมสอบสวนสองแม่ลูกหลังอาการดีขึ้น ซึ่งล่าสุดพ้นขีดอันตรายแล้วแต่ยังไม่สามารถให้การได้ ส่วนสาเหตุคงจะมาจากเรื่องหนี้สินตามที่ผู้ก่อเหตุได้เขียนไว้ในจดหมาย
คลิกอ่าน https://www.naewna.com/local/823174/preview
#รมควัน #ระยอง #อาชญากรรม #หนี้สิน

สลด!อดีตข้าราชการขนส่งจังหวัดระยองวัย 71 ปี พักอยู่คนเดียวปลิดชีพตัวเองในห้องพักคาดโรครุมเร้าเมื่อช่วงเวลา​ 09.00 น.​ วั...
17/08/2024

สลด!อดีตข้าราชการขนส่งจังหวัดระยองวัย 71 ปี พักอยู่คนเดียวปลิดชีพตัวเองในห้องพักคาดโรครุมเร้า
เมื่อช่วงเวลา​ 09.00 น.​ วันที่ 17 ส.ค.67​ ที่ผ่านมา​ ร.ต.อ. กฤษดา​ มูลวงษ์​ ร้อยเวร สอบสวน ​สภ.บ้านฉาง​ และนายเจษฎา​ สนั่นดัง​ ผู้ใหญ่บ้าน.6​ ต.บ้านฉาง​และมูลนิธิพุทธธรรมสงเคราะห์​บ้านฉาง ร่วมกันตรวจสอบที่เกิดเหตุในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 6​ ต.บ้านฉาง​ หลังรับแจ้งจากลูกบ้านว่าให้มาช่วยเปิดประตูบ้านพักของบุญยืน​ อายุ​ 71 ปีผู้เสียชีวิต ​หลังเพื่อนบ้านไม่เห็นออกมาจากบ้านหลายวันจึงให้ช่วยเรียกเพราะปิดประตูหน้า ต่างล๊อคไว้จึงตัดสินใจงัดหน้าต่างข้างบ้านเพื่อเปิดประตูเข้าไปตรวจสอบพบว่า​ผู้ตายนอนเสียชีวิตอยู่ในห้องนอนเล่นที่ปลายเท้ามีอาวุธปืนลูกโม่​ขนาด.38 หัวกระสุน​ 1 นัดทะลุที่กระจกหน้าต่าง สภาพศพมีรอยเขม่าดินปืนที่หน้าอกซ้ายคาดว่าเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า​ 8​ ชั่วโมง
จากการสอบสวนเพื่อนบ้านทราบว่าผู้ตายเป็นอดีตข้าราชการเกษียณสังกัดขนส่งจังหวัดระยองเป็นคนโสดไม่มีครอบครัว​และบุตร​พักอาศัยอยู่คนเดียวพอหลังเกษียณก็ใช้ชีวิตตามปกติคนเดียวนานๆ ถึงจะมีญาติจาก​ต่างจังหวัดมาเยี่ยม แต่ก็ไม่บ่อยรวมทั้งรู้มาว่าผู้เสียชีวิตป่วยมีโรคประจำตัวรุมเร้าคาดตัดสินใจใช้อาวุธปืนปลิดชีพตัวในที่สุด นอกจากนี้ยังพบห่อยาโรคประจำตัว​และใบแพทย์ตรวจสุขภาพในบ้านพัก
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานอย่างละเอียดไม่พบร่องรอยของการต่อสู้คาดว่าอาจเครียดจากอาการป่วยก่อนใช้ปืนปลิดชีพตัวเองช่วงดึกที่ผ่านมา เพราะเพื่อนบ้านไม่มีใครได้ยินเสียงปืนก่อนให้กู้ภัยเคลื่อนย้ายไปยังโรงพยาบาลบ้านฉาง​ และติดตามญาติที่ต่างจังหวัดมาให้ปากคำตามระเบียบต่อไป
คลิกอ่าน https://www.naewna.com/local/823165/preview
#อาชญากรรม #ระยอง #ขนส่ง

ฝนถล่ม 3 อำเภอฮ่องสอนหนักน้ำท่วมถนน พื้นที่การเกษตร บ้านเรือนประชาชนเกิดฝนตกหนักถล่มพื้นที่อำเภอปาย อำเภอปางมะผ้า และอำเ...
17/08/2024

ฝนถล่ม 3 อำเภอฮ่องสอนหนักน้ำท่วมถนน พื้นที่การเกษตร บ้านเรือนประชาชน
เกิดฝนตกหนักถล่มพื้นที่อำเภอปาย อำเภอปางมะผ้า และอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำปายไหลเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน พื้นที่การเกษตรและถนนหลวงสาย 128 ตำบลจองคำ-ตำบลปางหมู รวมไปถึงท่วมพื้นที่โครงการตามแนวพระราชดำริโป่งแดง
เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2567 สถานีวัดระดับน้ำท่าโป่งแดง บ้านท่าโป่งแดง ต.ผาบ่อง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ได้รายงานสถานการณ์น้ำในแม่น้ำปายว่า เมื่อเวลา 09.00 น.วัดปริมาณน้ำได้ 4.65 เมตร จากระดับวิกฤติ 2.75 เมตร ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำปาย ไหลท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ บ้านทุ่งกองมู และท่วมพื้นที่การเกษตร ตั้งแต่บ้านปางหมู, บ้านทุ่งกองมู , บ้านสบป่อง, บ้านสบสอย ต.ปางหมู, บ้านท่าโป่งแดง, บ้านห้วยเดื่อ ต.ผาบ่อง รวมไปถึงศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรแม่ฮ่องสอน สำนักวิจัยและพัฒนาเขต 1 แม่ฮ่องสอน ซึ่งตั้งอยู่ในศูนย์โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริโป่งแดง ต.ผาบ่อง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน น้ำจากแม่น้ำปาย ยังได้ไหลบ่าเข้าท่วมทางหลวงสาย 128 สายตำบลจองคำ - ตำบลปางหมูโดยน้ำได้ท่วมเข้ามาบนผิวถนนประมาณครึ่งเลน โดยทางแขวงทางหลวงแม่ฮ่องสอน ได้เข้าไปดำเนินการจัดการจราจรในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว
นอกจากพื้นที่ตามสองฝั่งแม่น้ำปายแล้ว ในพื้นที่อื่น ๆ เขตพื้นที่ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ได้แก่หมู่บ้านผาบ่องเหนือ (หย่อมบ้านแม่จ๋า) หมู่ 12 ต.ผาบ่อง เนื่องจากมีตกหนักอย่างต่อเนื่องจึงทำให้น้ำท่วม เมื่อเวลา 01.00 น.ของวันที่17 สิงหาคม 2567 น้ำท่วมเข้าบ้านจำนวน 4 หลัง พื้นที่เกษตรประมาณ 80ไร่ และที่บ้านไม้ฮุง เนื่องจากฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวันทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเป็นต้นข้าวโพดที่เริ่มสูงประมาณ 1.50 เมตร ถูกน้ำป่าหลากเข้าท่วมและทำให้ต้นข้าวโพดล้มลงกับพื้นที่ดินทำให้ได้รับความเสียหายเช่นกัน
สำหรับจังหวัดแม่ฮ่องสอนในปีนี้พบว่าปริมาณฝนที่ตกลงมา มีปริมาณมากกว่าทุกปีและตกต่อเนื่องนานนับเดือน ส่งผลกระทบต่อถนนเส้นทางสายต่างๆ พื้นที่การเกษตร บ้านเรือนที่อยู่อาศัยของประชาชน ซึ่งทางจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้พยายามเร่งแก้ไขปัญหาในการให้การช่วยเหลือประชาชนแล้ว แต่ทั้งนี้เหตุอุทกภัยที่เกิดอย่างต่อเนื่อง ทำให้การจัดเก็บข้อมูลความเสียหาย ไม่หยุดนิ่งและการให้การช่วยเหลือราษฎร ต้องช่วยอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
คลิกอ่าน https://www.naewna.com/local/823147/preview
#น้ำท่วม #อำเภอปาย #น้ำป่า #อำเภอปางมะผ้า #แม่ฮ่องสอน

แม่น้ำสงครามใจร้าย นครพนม กลืนชีวิตเด็กหญิงวัย 10 ขวบ ไร้เดียงสาไม่รู้น้ำเชี่ยว เล่นกับเพื่อนจนออกนอกฝั่ง ถูกกระแสน้ำพัด...
17/08/2024

แม่น้ำสงครามใจร้าย นครพนม กลืนชีวิตเด็กหญิงวัย 10 ขวบ ไร้เดียงสาไม่รู้น้ำเชี่ยว เล่นกับเพื่อนจนออกนอกฝั่ง ถูกกระแสน้ำพัดจมดิ่งติดตอม่อ รอดเงื้อมือมัจจุราชสองคน
วันที่ 16 สิงหาคม 2567 เวลาประมาณ 16.30 น. สมาคมกู้ภัยสายธารสะพานบุญ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากหัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลตำบลสามผง อ.ศรีสงคราม ว่า มีเหตุเด็กจมน้ำสูญหายบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำสงคราม ซึ่งอยู่หลังวัดหลวงพ่อพระเนาว์ บ้านศรีเวินชัย หมู่ 6 ต.สามผง จึงประสานชุดประดาน้ำกู้ภัยสว่างศรีวิไลฯจุดเซกา จ.บึงกาฬ ร่วมตรวจสอบพื้นที่ซึ่งเป็นสะพานคอนกรีต สร้างข้ามลำน้ำสงครามไปยังบ้านขามเปี้ยน้อย ต.บ้านข่า อ.ศรีสงคราม มีชาวบ้านยืนมุงดูอยู่เต็ม พร้อมกับเสียงพูดคุยถึงเหตุการณ์ดังกล่าว
เบื้องต้นทราบว่ามีเด็กนักเรียนหญิง จำนวน 3 คน อายุ 10 ปีเท่ากัน หลังโรงเรียนเลิกได้ชวนกันมาเล่นน้ำบริเวณดังกล่าว และด้วยความไร้เดียงสาจึงไม่รู้ว่า ลำน้ำสงครามมีความเชี่ยวกราก ที่ไม่ควรลงไปเล่นในช่วงฤดูน้ำหลาก โดยเด็กทั้งสามเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน จนตัวเองออกจากฝั่งไปประมาณ 20 เมตร จึงถูกกระแสน้ำพัด จังหวะเดียวกันมีพลเมืองดีอยู่บริเวณนั้นเห็นเหตุการณ์ จึงโดดลงไปช่วยขึ้นจากน้ำได้ 2 คน หนึ่งในนั้นชีพจรไม่มีแล้ว แต่สามารถปั๊มหัวใจกู้ชีพจรกลับคืนมาได้ จึงรีบนำส่ง รพ.ศรีสงคราม อย่างเร่งด่วน ส่วนเด็กหญิงอีกคนถูกกระแสน้ำพัดจมหาย ทราบต่อมาว่าชื่อน้องเจน (นามสมมติ) อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนประจำหมู่บ้าน ชุดประดาน้ำจึงได้ลงจมหาร่างตรงจุดที่พยานชี้ ใช้เวลาไม่กี่นาที ก็พบร่างน้องเจนติดอยู่ที่ตอม่อสะพาน ในสภาพคว่ำหน้า ที่มีความลึกประมาณ 6 เมตร
ระหว่างนำร่างน้องเจน เด็กหญิงผู้เคราะห์ขึ้นมายังฝั่ง นางสว่างอายุ 61 ปี ผู้เป็นยายถึงกับเข่าทรุดแทบเป็นลม โผเข้ากอดร่างที่ไร้วิญญาณของหลานสาว ร่ำไห้ปริ่มจะขาดใจ พร้อมกับเล่าชะตาชีวิตของหลานผู้อาภัพ ว่า พ่อแม่แยกทางกันจึงนำน้องเจนมาฝากให้ตนเลี้ยง แม้จะเป็นภาระแต่ก็เลี้ยงดูหลานสาวเป็นอย่างดีตามอัตภาพ โดยปกติหลานก็จะช่วยงานบ้าน พอเสร็จก็จะออกไปเล่นกับเพื่อนตามประสาเด็ก ไม่คิดว่าจะมาเล่นน้ำกัน ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต แพทย์ลงความเห็นว่าขาดอากาศหายใจ หลังชันสูตรนางสว่างก็ได้นำร่างของน้องเจนไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ท่ามกลางความเศร้าสลดแก่ผู้พบเห็น ที่ยายอุ้มศพหลานไว้ในอ้อมอกร่ำไห้
ทางด้าน นายมานัต อาจมังกร ผู้อำนวยการสมาคมสายธารสะพานบุญ สาขานครพนม เปิดเผยว่าหลังรับแจ้งขอความช่วยเหลือจากเทศบาลตำบลสามผง ก็ประสานกับกู้ภัยสว่างศรีวิไลฯ อ.เซา จ.บึงกาฬ ให้จัดชุดประดาน้ำมาสมทบ ใช้เวลาไม่นานก็พบร่างน้องติดอยู่ตอม่อสะพาน ในความลึกที่ระดับ 6 เมตร โดยทางญาติไม่ติดใจการสาเหตุการเสียชีวิต
คลิกอ่าน https://www.naewna.com/local/823146/preview
#นครพนม #แม่น้ำสงคราม #จมน้ำ #กระแสน้ำพัด

17/08/2024

ไฟลุกพรึบกลางดึกร้านไอทีสำนักงานชื่อดังบุรีรัมย์วอด 4 ชั้นสูญกว่า 20 ล้าน

เกิดเหตุไฟไหม้ร้านค้าส่งอุปกรณ์ไอทีชื่อดังกลางเมืองบุรีรัมย์ เป็นอาคารพาณิชย์ 2 ห้อง 4 ชั้นไฟโหมไหม้ชั้น 2-4 ซึ่งเป็นที่เก็บคอมพิวเตอร์สำนักงานและอุปกรณ์ไอทีทุกชนิด เสียหายเกือบทั้งหมด พนักงานเผยตอนปิดร้านมีกลิ่นเหม็นไหม้แต่หาไม่เจอ มารู้อีกทีไฟไหม้แล้ว ยังประเมินมูลค่าไม่ได้แต่คาดว่าไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท

วันที่ 17 สค. 67 เวลาประมาณ 00.30 น. ร.ต.ท.ตรัยภูมิ นิธิชิษณุพงศ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ อ.เมืองบุรีรัมย์ รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ ร้านค้าส่งอุปกรณ์ สินค้าไอที บริเวณแยก บขส.ตำบลในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จึงประสานชุดดับเพลิงเทศบาลเมืองบุรีรัมย์, หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเขตใกล้เคียงเข้าสนับสนุนระงับเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น 2 คูหาเป็นร้านจำหน่ายอุปกรณ์สำนักงาน คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และอะไหล่ตั้งอยู่ถนนธานี อำเภอเมืองบุรีรัมย์ บริเวณชั้น 2 ของอาคารพบมีกลุ่มควันพุ่งออกมาเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมทีมชุดผจญเพลิงในอาคารและสนับสนุนรถน้ำประมาณ 20 คันเข้าระงับเหตุ แต่ทำงานด้วยความลำบากเพราะในตัวอาคารมีกลุ่มควันหนาแน่น จากนั้นไฟได้ลาม ในตัวอาคาร ขึ้นชั้น 3 และชั้น 4 อย่างรวดเร็ว

เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปในตัวอาคารได้ พบว่าไฟกำลังโหมลุกไหม้ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ไอที และสต็อคสินค้าไอที รวมถึงลังกระดาษ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีและคาดว่าน่าจะควบคุมเพลิงได้ยาก

รถดับเพลิงส่วนหนึ่งได้ระดมฉีดน้ำเพื่อไม่ให้ไฟลามไปยังอาคารห้องอื่น เจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 5 ชั่วโมง จึงสามารถระงับเพลิงได้ เบื้องต้นจากการตรวจสอบ พบว่ามีอุปกรณ์ไอที เช่น คอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค อุปกรณ์สำนักงาน ถูกไฟไหม้จำนวนมาก

สอบถามนายธวัชชัย อายุ 47 ปีพนักงานของร้าน เล่าว่า ช่วงเย็นก่อนปิดร้านมีกลิ่นเหม็นไหม้ แต่หาที่มาของกลิ่นไม่เจอ แต่ไม่ได้เอะใจอะไรจึงเข้าไปนอนพักผ่อนที่พักของพนักงานที่อยู่ด้านหลังร้านจนกระทั้งกลางดึกได้ยินเสียงชาวบ้านที่อยู่บริเวณดังกล่าว ตะโกนเรียกไฟไหม้จึงรีบลุกมาดูพบกลุ่มควันพุ่งออกมาจากชั้น 2 ของตัวตึกจำนวนมากจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ในครั้งนี้ได้ต้องรอชุดพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบอีกครั้งและยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้เท่าที่ทราบน่าจะมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท เพราะ หจก.ธงชัย โอเอฯเป็นร้านค้าส่งอุปกรณ์ไอทีให้กับสำนักงานหน่วยงานราชการทั่วจังหวัดบุรีรัมย์

ธีรยุทธ์ ชำนาญกอง
ทีมข่าวบุรีรัมย์ รายงาน
#ไฟไหม้ #บุรีรัมย์ #ไอที

ฝนถล่มระยองน้ำท่วมถนนสายหลังรถเล็กขับฝ่าน้ำเครื่องดับชนท้ายรถพังฝนถล่มระยองทั้งคืน ทำน้ำท่วมถนนสาย 36 ขาเข้า-ขาออกรถเล็ก...
17/08/2024

ฝนถล่มระยองน้ำท่วมถนนสายหลังรถเล็กขับฝ่าน้ำเครื่องดับชนท้ายรถพัง
ฝนถล่มระยองทั้งคืน ทำน้ำท่วมถนนสาย 36 ขาเข้า-ขาออกรถเล็กสัญจรไปมาไม่ได้ ขณะที่บางคันฝืนขับฝ่าน้ำทำให้รถดับกลางน้ำทำให้รถตามหลังมามองไม่เห็นชนท้าย แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ประชาสัมพันธ์ให้เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแทน พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำออกให้เร็วที่สุด
คลิกอ่าน https://www.naewna.com/local/823135/preview
#อุบัติเหตุ #น้ำท่วม #ฝนตก #ระยอง

แม่น้ำปายในเมืองแม่ฮ่องสอนเพิ่มสูงขึ้นอยู่ในระดับวิกฤติหลังฝนตกหนักเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่อำเภอเมืองแม่อ่องอสน อำ...
17/08/2024

แม่น้ำปายในเมืองแม่ฮ่องสอนเพิ่มสูงขึ้นอยู่ในระดับวิกฤติหลังฝนตกหนัก

เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่อำเภอเมืองแม่อ่องอสน อำเภอปาย และ อำเภอปางมะผ้า ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำปายในอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน น้ำเพิ่มสูงในระดับวิกฤติ และไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนของราษฎรที่อยู่ติดลำน้ำปายแล้ว ขณะที่เกษตรกรขนอุปกรณ์การเกษตรมาไว้บนที่สูงน้ำท่วมไม่ถึง

วันที่ 17 สิงหาคม 2567 สถานีอุทกวิทยาบ้านท่าโป่งแดง ต.ผาบ่อง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน รายงานปริมาณน้ำในแม่น้ำปายเมื่อเวลา 06.00 น.เช้าวันนี้ว่า ปริมาณน้ำในแม่น้ำปาย ได้สูงเกินระดับวิกฤติแล้ว โดยวัดปริมาณน้ำได้ 4.43 เมตร โดยค่าระดับวิกฤติ 2.75 เมตร ปริมาณฝน 47.6 มิลลิเมตร

นายทะนงศักดิ์ นิรากรณ์ ผอ.ห้องปฏิบัติการเฝ้าระวังและเตือนภัยน้ำหลาก-ดินถล่ม กองวิจัย พัฒนาและอุทกวิทยา (กวพ.) กรมทรัพยากรน้ำ (ทน.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) แจ้งข้อมูลการเตือนภัย วันที่ 17 สิงหาคม 2567 เวลา 01.50 น. เตือนภัยวิกฤติ (สีแดง) บ้านปางหมู ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ค่าระดับน้ำ 5.02 เมตร ระดับวิกฤติ 5.00 เมตร

นายทะนงศักดิ์ นิรากรณ์ ระบุสถานการณ์ ช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า เมื่อเวลา 21.47 น. 16 สค. 67 ที่บ้านห้วยผึ้ง ต.ห้วยผา มีฝนสะสม12ชม. เท่ากับ 71.5 มม. ฝนเบาลง ลำน้ำแม่สะงี อาจมีน้ำหลากลำน้ำแม่ปาย ในพื้นที่ตัวอำเภอปาย ขณะนี้ ยังมีน้ำอยู่ระดับตลิ่ง มีแนวโน้มลดลง ทางท้ายน้ำมีน้ำต้นทุนที่สูง มวลน้ำจะไหลลงไปท้ายน้ำในพื้นที่ ต.เมืองแปง อาจมีผลทำให้เกิดสภาวะน้ำล้นตลิ่งได้ ต้นน้ำแจ้งเตือนท้ายน้ำด้วยนะครับลำน้ำของ ที่บ้านห้วยส้านนอก ต.นาปู่ป้อม อ.ปางมะผ้า ระดับขึ้นสูง ที่ระดับ 4.03 ม. ระดับเตือนภัยอยู่ที่ 3.73ม. ข้อมูลสถานีโทรมาตรของ กรมชลประทาน ลำน้ำแม่ปาย ที่สะพานบ้านปางหมู ระดับเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วต่อเนื่อง เวลา 23.56น.อยู่ที่ระดับ 4.36ม.

ที่บ้านปางหมู และบ้านทุ่งกองมู ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน เกษตรกรในพื้นที่ ได้พากันขนย้ายสิ่งของและอุปกรณ์ทางการเกษตรขึ้นไว้บนที่สูงที่น้ำท่วมไม่ถึง เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้เคยมีเหตุน้ำท่วมทำให้อุปกรณ์ทางการเกษตรถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายมาแล้ว

ก่อนหน้านี้ วันที่ 16 สิงหาคม 2567 ที่สะพานท่าปาย อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยนายเอนก ปันทะยม นายอำเภอปาย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในลำน้ำปาย ซึ่งเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็วโดยนายอำเภอปายยืนยันว่าขณะนี้ระดับน้ำที่สะพานท่าปลา อยู่ที่ 3 .50 เมตร ขณะที่ ระดับน้ำวิกฤตจะอยู่ที่ระดับน้ำ 4 เมตร

ทั้งนี้นายอำเภอปาย ได้แจ้งเตือนให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชน ที่ประชาชนที่ตั้งบ้านเรือนอยู่ริม ลำน้ำปาย ในเขตอำเภอปาย ได้ติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากท่วมฉับพลัน จากฝนที่ตก หนักในช่วงนี้ ขณะที่ ห้องปฏิบัติการเฝ้าระวังและเตือนภัยน้ำหลาก-ดินถล่ม กองวิจัย พัฒนาและอุทกวิทยา กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) แจ้งข้อมูลการเตือนภัย วันที่ 16 สิงหาคม 2567 เวลา 20.13 น. เตือนภัยเฝ้าระวัง (สีเขียว) บ้านตาลเจ็ดต้น ตำบลเวียงเหนือ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ค่าระดับน้ำ 3.16 เมตร ระดับวิกฤติ 4.50 เมตร

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมที่บ้านกุงไม้สักต่อเนื่องไปถึงบ้านแม่สะงา โดยเฉพาะที่สะพานซูตองเป้ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง พบว่าจากฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ต่อเนื่องมาหลายสัปดาห์แล้ว สถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อต้นข้าวที่ถูกน้ำท่วมขังเกิน 1 สัปดาห์ต้องตายลง กระทบต่อเกษตรกรในพื้นที่อย่างหนัก

คลิกอ่าน https://www.naewna.com/local/823121/preview

ตม.มุกดาหารรวบหนุ่มปากีสถาน แอบลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมา          วันที่ 16 สค.67 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อ...
16/08/2024

ตม.มุกดาหารรวบหนุ่มปากีสถาน แอบลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมา

วันที่ 16 สค.67 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ต.ปิยะอนันต์ โตสกุลวงศ์ ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.สิทธิ์ ศิริกังวาลกุล รอง ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.มณุวัฒน์ กอสนาน รอง ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.พิทักษ์พงษ์ เจริญกุล ผกก.ตม.จว.มุกดาหาร, พ.ต.ท.ธนูศิลป์ ดวงแก้วงาม รอง ผกก.ตม.จว.มุกดาหาร และ ว่าที่ พ.ต.ท.พิชิต มัครมย์ สว.ตม.จว.มุกดาหาร

ตามนโยบายของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. ให้ X-ray พื้นที่สุ่มเสี่ยง และตรวจสอบบุคคลสัญชาติเป้าหมาย เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนฯ ตม.จว.มุกดาหาร จึงได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวจนทราบว่ามีคนต่างด้าวสัญชาติปากีสถาน แอบเข้ามาแฝงตัวอยู่ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร เมื่อวันที่ 13 ส.ค.67 เวลาประมาณ 20.00 น.เจ้าหน้าที่ฯได้ติดตามสะกดรอยจนพบนายมูฮาหมัด ซายิด อายุ 44 ปี สัญชาติปากีสถาน นั่งอยู่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อฯ ภายในปั๊ม ปตท.สาขาหอแก้ว ต.ศรีบุญเรือง อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร

เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และขอตรวจสอบเอกสารประจำตัว ปรากฏว่าผู้ถูกจับยื่นหนังสือเดินทางปากีสถานหมายเลข KW5148743 มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ฯ จากการตรวจสอบหนังสือเดินทางดังกล่าวไม่พบการตรวจลงตราอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักร

จากนั้นเจ้าหน้าที่ฯจึงเชิญตัวมาตรวจสอบเพิ่มเติม ณ ที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดมุกดาหาร เมื่อตรวจสอบจากระบบสารสนเทศสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (Biometrics) ปรากฏว่าไม่พบข้อมูลประวัติการเดินทาง แต่เมื่อตรวจสอบจากระบบ Blacklist พบว่าคนต่างด้าวดังกล่าวเป็นบุคคลต้องห้าม ไม่สามารถเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยได้

จากการสอบถามนายมูฮาหมัด ซายิด ผู้ถูกจับ รับว่าได้แอบลักลอบเข้ามาทางแนวตะเข็บชายแดนไทย-มาเลเซีย เจ้าหน้าที่ฯจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” จึงได้ควบคุมตัวเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และดำเนินการขยายผลหากลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือให้การช่วยเหลือต่อไป

ผู้ว่าฯนครพนมเตือนน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่ม  น้ำล้นตลิ่ง และล้นอ่างเก็บน้ำ ชาวประมงโอดหาปลายากขึ้นวันที่ 16 ส...
16/08/2024

ผู้ว่าฯนครพนมเตือนน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่ม น้ำล้นตลิ่ง และล้นอ่างเก็บน้ำ ชาวประมงโอดหาปลายากขึ้น

วันที่ 16 สิงหาคม 2567 นายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม เปิดเผยว่าจากกรณีสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศ พบมีร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และ สปป.ลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำ บริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ผนวกกับร่องมรสุมกำลังปานกลางจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน

ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้ในช่วงวันที่ 16 – 22 สิงหาคม 2567 จะมีฝนเพิ่มขึ้นและตกหนักในบางพื้นที่ บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคกลาง

รวมถึง จ.นครพนม จึงขอให้ประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม การเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็ก ที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 เฝ้าระวังระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน และน้ำล้นตลิ่งหรือท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณสายหลักและแม่น้ำสาขาในพื้นที่ รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวัง ในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองด้วย

ผวจ.นครพนม กล่าวต่อว่า ขอให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ระดับจังหวัด อำเภอ ท้องถิ่น ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ ให้เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์และติดตามข้อมูลสภาวะอากาศ และข่าวสารจากทางราชการ ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้กับประชาชนในการปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจากสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม สำหรับเกษตรกรควรป้องกันผลผลิตทางการเกษตรที่อาจได้รับความเสียหาย

ในส่วน ปภ.ฯให้เตรียมพร้อมกำลังพลและเครื่องมือ เครื่องจักรกลที่ใช้งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยบูรณาการร่วมกับส่วนราชการ หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือภาคส่วนอื่นๆในพื้นที่ที่สามารถสนับสนุนการปฏิบัติ เพื่อให้ความพร้อมในการช่วยเหลือประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง

กรณีสิ่งสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ ได้รับผลกระทบจนประชาชนในพื้นที่ไม่สามารถใช้งานได้ เช่น ต้นไม้ล้มทับเส้นทางสัญจร เสาไฟฟ้าโค่น หรือระบบท่อประปาได้รับความเสียหาย ขอให้ประสานหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบในพื้นที่เข้าดำเนินการแก้ไขให้สามารถกลับมาใช้งานได้เป็นปกติ และหากเกิดสถานการณ์ในพื้นที่ให้รายงานสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนมทราบโดยเร็ว ทางโทรศัพท์หมายเลข 042-51 1025 และรายงานสถานการณ์/การให้ความช่วยเหลือทุกระยะ

จากสถานการณ์ระดับน้ำโขงเพิ่มขึ้น ได้มีผลกระทบกับการหาปลา ชาวประมงท้องถิ่นวางข่ายได้ปลาน้อยลง โดยเฉพาะปลาใหญ่จับแทบไม่ได้ ประกอบกับปริมาณน้ำโขงขึ้นลง ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ ยิ่งทำให้ปลาหลงน้ำ และตั้งแต่มีการสร้างเขื่อนขวางลำน้ำโขง การหาปลาจึงมีความยากลำบากกว่าเดิมมาก

เร่งช่วย'ชาวบ้านแม่โกปี่'จังหวัดแม่ฮ่องสอนเตรียมประกาศเขตพื้นที่ประสบภัยสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ เตรียมจั...
16/08/2024

เร่งช่วย'ชาวบ้านแม่โกปี่'จังหวัดแม่ฮ่องสอนเตรียมประกาศเขตพื้นที่ประสบภัย

สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ เตรียมจัดส่งมอบชุดธารน้ำใจ สภากาชาดไทย ให้กับผู้ประเหตุอุทกภัยในพื้นที่อำเภอขุนยวม ขณะที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เตรียมประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน ด้านทีมควบคุมโรค ยังไม่พบการระบาดโรคจากอาหารและน้ำ
วันที่ 16 สิงหาคม 2567 นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ขณะนี้มีหลายหน่วยงานส่งความช่วยเหลือให้กับผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้จัดส่งความช่วยเหลือด้านต่างๆไปให้การดูแลประชาชนที่ประสบอุทกภัยทุกหลังคาเรือน โดยเฉพาะการเร่งซ่อมแซมเส้นทางคมนาคมเข้าหมู่บ้านต่างๆ ซึ่งปัจจุบันสามารถเข้าถึงทุกหมู่บ้านได้แล้ว โดยในตำบลแม่ยวมน้อย อบต.ร่วมกับ อบจ.แม่ฮ่องสอน ได้ดำเนินการนำเครื่องจักรปรับไถดินสไลด์ทับถนนจากบ้านหัวแม่ลาก๊ะใต้ หมู่ที่ 8 ถึงบ้านแม่โกปี่ หมู่ที่ 2 ตำบลแม่ยวมน้อย อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน รถสามารถสัญจรไป-มา ได้แล้ว ซึ่งจะเร่งฟื้นฟูหมู่บ้านและโรงเรียนที่ได้รับความเสียหายต่อไป

ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังกล่าวว่า นอกจากนั้น เหล่ากาชาดจังหวัดแม่ฮ่องสอน และกิ่งกาชาดอำเภอขุนยวม ได้จัดเตรียมชุดธารน้ำใจ สภากาชาดไทย สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ เพื่อส่งมอบให้กับผู้ประเหตุอุทกภัยในพื้นที่อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 438 ชุด เพื่อนำไปมอบให้ผู้ประสบภัย ในพื้นที่อำเภอขุนยวม ระหว่างวันที่ 16 - 17 สิงหาคม 2567 ทั้งนี้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จะนำสิ่งของพระราชทานและถุงยังชีพมามอบให้กับราษฏรผู้ประสบภัย เหตุอุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่อำเภอขุนยวม ในวันที่ 17 สิงหาคม 2567

โดยทางนายณรงค์พัชญ์ นาคทรัพย์ นายอำเภอขุนยวม ได้มีการลำเลียงความช่วยเหลือ เครื่องอุปโภค บริโภค ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม ไปส่งให้กับกับผู้ประสบอุทกภัยที่บ้านหัวแม่ลาก๊ะใต้ และบ้านแม่โกปี่ ตำบลแม่ยวมน้อย อำเภอขุนยวม เพื่อให้ครอบคลุมทั่วถึงทุกหลังคาเรือน โดยอำเภอขุนยวม มี 24 หมู่บ้าน 4 ตำบลได้แก่ ตำบลแม่ยวมน้อย ตำบล เมืองปอน ตำบลขุนยวม และตำบลแม่เงา ที่ประสบอุทกภัย

ขณะเดียวกัน ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานอำเภอขุนยวม ร่วมกับกิ่งกาชาดอำเภอขุนยวม ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ประสบอุทกภัยน้ำป่าไหลหลากในเขตพื้นที่บ้านหัวแม่ละก๊ะใต้ย่อม บ้านแม่ลาก๊ะ หมูที่ 8 ตำบลแม่ยวมน้อย และบ้านแม่โกปี่ 2 ตำบลแม่ยวมน้อย อำเภอขุนยวม โดยมอบสิ่งของอุปโภคและบริโภค

นอกจากนั้นจังหวัดแม่ฮ่องสอน เตรียมประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน ใน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอปางมะผ้า อำเภอแม่ลาน้อย และอำเภอขุนยวม 72 หมู่บ้าน 19 ตำบล เพื่อเข้าไปช่วยเหลือและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยอย่างเร่งด่วนต่อไป

ขณะเดียวกันเครือข่ายบริการสุขภาพอำเภอขุนยวม นำโดยนายอดิศร ปันเซ สาธารณสุขอำเภอขุนยวม และทีมแพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลขุนยวม ทีมสุขภาพจิต ทีมสิ่งแวดล้อม ทีมควบคุมโรค ได้ออกให้บริการตรวจสุขภาพประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลาก บ้านหัวแม่ลาก๊ะใต้ และบ้านแม่โกปี่ ตำบลแม่ยวมน้อย อำเภอขุนยวม มีผู้มารับบริการตรวจสุขภาพ ทั้ง 2 หมู่บ้านจำนวน 47 คน

ส่วนใหญ่เจ็บป่วยเล็กน้อยให้ยารักษาเบื้องต้น มีผู้ป่วยไหล่หลุด 1 รายนำส่งโรงพยาบาลขุนยวม สำหรับการคัดกรองสุขภาพจิต เป็นกลุ่มผู้ประสบภาวะวิกฤติที่มีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวัง 14 ราย มีภาวะเครียด 16 ราย ผู้ป่วยเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาทางจิต 1 ราย ภาวะซึมเศร้า 13 ราย ส่วนใหญ่ผู้ป่วยเครียด นอนไม่หลับ วิตกกังวลกับทรัพย์สินที่เสียหาย กลัวฝนตกหนักและดินโคลนถล่มไม่กล้าอยู่บ้านตนเอง ผู้ป่วยที่เครียด ให้คำปรึกษาให้ยาและกลับบ้านทุกคน ทั้งนี้ ทีมควบคุมโรคยังไม่พบการระบาดโรคจากอาหารและน้ำ

คลิกอ่าน https://www.naewna.com/local/823009/preview

ที่อยู่

ถนนวัดลาดปลาดุก ตำบลบางคูรัด อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี
Bang Bua Thong
11110

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ KraSaeผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง KraSae:

วิดีโอทั้งหมด

แชร์

KraSae(กระแส)

นำเสนอข่าวสารที่เป็นกระแสทั่วไป อย่าลืมกดติดตาม KraSae (กระแส)