หนังสือพิมพ์ ประเด็นรัฐ

หนังสือพิมพ์ ประเด็นรัฐ หนังสือพิมพ์ เพื่อเผยแพร่ ข่าวของก?

“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเพิ่มเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์โชว์ฝีมือในงานเวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า...
22/12/2024

“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเพิ่มเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์โชว์ฝีมือในงานเวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น แนะหลักสูตรสอบเทียบให้ผู้ที่เชี่ยวชาญ ลดขั้นตอนการอบรม เพิ่มค่าแรงสูงขึ้น ยินดีปรับแก้กฎหมาย – กฎระเบียบให้ทันสมัย เผย สธ.จัดระบบเฝ้าระวัง “อหิวาตกโรค” เมียนมาแล้ว

เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.ที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวการส่งเสริมและยกระดับอาชีพและวิชาชีพการนวดไทย โดยมี นายโฆสิต สุวินิจจิต คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการส่งเสริมและยกระดับการนวดไทย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ พท.ทค.วิเศษ แสงกาญจนวนิช นายกสภาการแพทย์ไทย นายนพพร วิสุทธิศักดิ์ชัย นายกสมาพันธ์หมอนวดไทย น.ส.ชวนัสถ์ สินธุเขียว ประธานสมาพันธ์สมาคมสปาแอนด์เวลเนสไทย ผู้บริหาร ข้าราชการกระทรวงเข้าร่วม

นายสมศักดิ์ แถลงว่า กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายส่งเสริมภูมิปัญญาการนวดไทย ด้วยการดำเนินการ "ส่งเสริมและยกระดับ อาชีพและวิชาชีพการนวดไทย" โดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางลือก กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และสภาการแพทย์แผนไทย ได้เร่งเดินหน้าเพิ่มความเชี่ยวชาญพิเศษให้กับหมอนวดไทยใน 7 กลุ่มอาการ ได้แก่ 1.กลุ่มปวดกล้ามเนื้อและเยื่อผังผืด (Office syndrome) 2. โรคหัวไหล่ติด 3.โรคนิ้วล็อก 4.ภาวะกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท (ปวดสลักเพชร) 5.หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท 6.อัมพฤกษ์ อัมพาต 7.กลุ่มระบบสืบพันธุ์ เพื่อมุ่งสร้างอาชีพและเพิ่มค่าตอบแทน สำหรับผู้ที่ประกอบอบอาชีพด้านการนวดไทย โดยในอนาคตจะขยายความเชี่ยวชาญเฉพาะทางให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ซึ่งครั้งนี้จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจสุขภาพ ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิต ยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศไทย ในฐานะศูนย์กลางสุขภาพระดับโลกความสำเร็จของ "การส่งเสริมและยกระดับ อาชีพและวิชาชีพการนวดไทย”จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนและในการผลักดัน ขับเคลื่อนให้ราบรื่น มีประสิทธิภาพ

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การนวดเป็นมรดกของชาติและเป็นงานที่บอกชาวโลกให้รู้ด้วยว่าเรื่องสุขภาพ หากไม่มีโรคภัยที่ฝังรากลึกในร่างกาย การนวดจะทำให้ผ่อนคลายยืดอายุการใช้งานอวัยวะได้ และการนวดมีความปลอดภัย นอกจากนี้อยากให้มาอบรมอาชีพ ถ้าไปรับจ้างทำการเกษตรขั้นต่ำ อาจได้ 200 บาทต่อวัน แต่ถ้ามาฝึกอาชีพนวด อาจได้มากถึง 1200 บาท ต่อวัน แตกต่างกับการใช้แรงงาน

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันผู้เชี่ยวชาญเสนอให้ฝ่ายราชการช่วยเรื่องการอบรมอาชีพ ซึ่งดำเนินการให้ หรือเรื่องการปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ การแก้กฎหมายที่มีความจำเป็นยินดีจะดำเนินการให้ทันที การขออนุญาต สมุนไพร หรือส่วนอื่น ยาสมุนไพรใน สปสช.ให้งบประมาณ 1,000 ล้านบาท แต่ได้ขอเพิ่มเป็น 1,500 ล้านบาท ในปีหน้าถ้าคึกคักมากกว่านี้ ตั้งใจเพิ่มให้เป็น 3,000 ล้านบาท กับยาไทย สมุนไพรไทย ในการดูแลรักษาพยาบาล ทั้งนี้ กลุ่ม 7 อาการ อยากให้ขึ้นทะเบียนลักษณะเหมือนสอบเทียบ วิชาหมอนวด เรียน 150 ชม.แล้ว ถ้าจะยกระดับให้เรียนเพิ่ม 300 ชม.หรืออาจจะให้มีการสอบเทียบ เพราะมีได้ประสบการณ์มาแล้วเก่งขึ้น ฝีมือถึงแล้วให้ขึ้นชั้นได้ ซึ่งกรรมการสอบก็ต้องชัดเจน ไม่ใช่ใครๆก็เทียบได้ เชื่อว่าการนวดจะสร้างรายได้มหาศาลให้ประเภท

นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจในแนวทางของแพทย์แผนไทยเรื่องของการนวด และดูเส้นทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับการนวด มีอะไรที่สามารถหยิบยกขึ้นมาให้เกิดประโยชน์ของผู้ประกอบการ และผู้ใช้แรงงาน เพื่อให้หมอนวดทั้งอาชีพและแบบวิชาการอยู่ได้อย่างมีหลักประกันในรายได้ที่ชัดเจนขึ้น การนวดต้องการฝึกเบื้องต้น นวดเพื่อสุขภาพใช้เวลาเรียน 150 ชั่วโมง แต่กรณีคนที่เรียนแล้วออกไปทำงานจนเกิดความชำนาญในด้านที่เรากำหนดไว้ตาม 7 กลุ่มอาการ ก็อยากให้กรมแพทย์แผนไทยฯ และสมาคมสภาแพทย์แผนไทยได้คุยกันและออกใบรับรองความสามารถของหมอนวดเพิ่มขึ้นเพื่อให้ค่าแรงสูงขึ้น

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้เป็นเจ้าภาพไทยพาวิลเลี่ยนในงานเวิลด์เอ็กซ์โป โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่นประมาณเดือนเมษายน 2568 เราอาจจะพิจารณานำฝีมือตรงนี้ไปโชว์ด้วย เป็นการเปิดตลาด

เมื่อถามถึงการควบคุมโรคอหิวาตกโรคที่ระบาดในเมียนมานั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ขอให้ปลัดกระทรวงเป็นผู้ชี้แจง
โดยนพ.โอภาสกล่าวว่า โรคนี้ยังไม่ได้อยู่ในประเทศไทย ส่วนใหญ่จะเกิดตามแนวชายแดนที่มีสุขาภิบาลไม่ดี แต่เราก็มีการป้องกันไม่ให้โรคเข้าไทย โดยมีการจัดระบบเฝ้าระวัง มีการส่งยาและทีมแพทย์ไปสนับสนุนในฝั่งเมียนมาร์ และมีการปรับปรุงสุขาภิบาลในประเทศไทยส่วนใหญ่หากจะมีการระบาดมากก็คือที่ตลาด ซึ่งเน้นย้ำเรื่องของการล้างตลาด ส่วนมาตรการส่วนบุคคลก็คือสิ่งที่รัฐมนตรีได้กล่าวไปแล้วกินร้อนช้อนกลางล้างมือ โรคนี้รักษาหายได้ถ้ามีอาการก็ขอให้รีบมาพบแพทย์ยืนยันคนไทยยังไม่มีใครเป็นโรคนี้มีเพียงทั้งฝั่งเมียนมาเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมศักดิ์ได้ทดลองนวดจากหมอนวดแผนไทยที่สามารถช่วยรักษาออฟฟิศซินโดรม โดยได้ชื่นมชมฝีมือการนวดที่ทำให้ผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี

💰

มท.4 ลงพื้นที่ด่านวังประจัน สตูล ชูศักยภาพการค้าชายแดนและการท่องเที่ยวธรรมชาตินางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว...
22/12/2024

มท.4 ลงพื้นที่ด่านวังประจัน สตูล ชูศักยภาพการค้าชายแดนและการท่องเที่ยวธรรมชาติ

นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดสตูลต่อเนื่องเป็นวันที่สอง (21 ธันวาคม 2567) โดยเดินทางไปยัง ด่านวังประจัน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล ซึ่งเป็นหนึ่งใน 16 ด่านชายแดนสำคัญของประเทศไทย เชื่อมโยงการค้าระหว่างไทยและมาเลเซีย

ด่านวังประจัน ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติทะเลบัน ด่านชายแดนแห่งเดียวในประเทศไทยที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ รายล้อมด้วยธรรมชาติอันร่มรื่นจากเทือกเขาบรรทัดและเทือกเขาสันกาลาคีรี ซึ่งเป็นพรมแดนธรรมชาติระหว่างสองประเทศ ด้วยบรรยากาศเย็นสบายและทิวทัศน์ที่งดงาม ด่านแห่งนี้จึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติยอดนิยมของทั้งชาวไทยและต่างชาติ และยังเป็นตลาดการค้าชายแดนที่สำคัญ เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00 - 18.00 น. นักท่องเที่ยวและประชาชนสามารถเลือกซื้อสินค้าคุณภาพดีในราคาย่อมเยา รวมถึงสินค้าพื้นเมืองและสินค้านำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน การค้าขายในพื้นที่สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนในพื้นที่

ในโอกาสนี้ นางสาวธีรรัตน์ได้พบปะส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชน และนักท่องเที่ยว เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะ โดยเฉพาะประเด็นการพัฒนาพื้นที่บริเวณด่านชายแดนให้มีความพร้อมมากยิ่งขึ้น ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน การอำนวยความสะดวกในการเดินทางข้ามแดน และการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักลงทุนในอนาคต

นางสาวธีรรัตน์กล่าวว่า “จังหวัดสตูลมีเสน่ห์อันน่าหลงใหล ด้วยแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและวัฒนธรรมที่โดดเด่น พร้อมทั้งเป็นศูนย์กลางการค้าชายแดนที่มีศักยภาพสูง รัฐบาล โดยการนำของนายกแพทองธาร ชินวัตร มุ่งมั่นสนับสนุนการพัฒนาการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ ดังนั้น จะต้องมีการสนับสนุนจังหวัดสตูลให้เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจให้ชุมชนมีรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนอย่างแน่นอน”

นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยยังเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวมาเยือนจังหวัดสตูล พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลจะเร่งผลักดันการพัฒนาด่านวังประจันและพื้นที่ใกล้เคียงให้เป็นทั้งจุดผ่านแดนและแหล่งท่องเที่ยวระดับภูมิภาค
🐳

รมว. พิพัฒน์ มอบ เลขา อารี ลงพื้นที่ จ.ระยอง เปิดอาคาร สปส. สาขาปลวกแดง สร้างความเชื่อมั่น พร้อมยกระดับการให้บริการ     ...
22/12/2024

รมว. พิพัฒน์ มอบ เลขา อารี ลงพื้นที่ จ.ระยอง เปิดอาคาร สปส. สาขาปลวกแดง สร้างความเชื่อมั่น พร้อมยกระดับการให้บริการ

ในวันที่ 22 ธันวาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีเปิดอาคารสำนักงานประกันสังคมจังหวัดระยอง สาขาปลวกแดง โดยมี นายกำธร เวหน รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม นายศักดินาถ สนธิศักดิ์โยธิน ผู้ช่วยปลัดกระทรวงแรงงาน ผู้บริหารและหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงาน หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดระยอง เข้าร่วมพิธี ณ ตำบลแม่น้ำคู้ อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง

นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผยว่า ตนมีความยินดีและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ ท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้เป็นประธานในพิธีเปิดอาคารสำนักงานประกันสังคมจังหวัดระยอง สาขาปลวกแดง โดยสำนักงานฯ จะรับผิดชอบให้บริการแก่นายจ้างและผู้ประกันตนในพื้นที่ 2 อำเภอ ประกอบด้วยอำเภอปลวกแดง และอำเภอนิคมพัฒนา ซึ่งมีนิคมอุตสาหกรรมถึง 11 แห่ง มีสถานประกอบการ จำนวน 3,620 แห่ง มีผู้ประกันตนมาตรา 33 จำนวน 276,412 คน ผู้ประกันตนมาตรา 39 จำนวน 8,686 คน ผู้ประกันตนมาตรา 40 จำนวน 23,401 คน รวมทั้งสิ้นจำนวน 308,499 คน มีนายจ้างขึ้นทะเบียนกองทุนเงินทดแทนในพื้นที่ จำนวน 3,900 แห่ง ลูกจ้าง จำนวน 276,834 คน ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่นายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตน และประชาชน ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ รวมถึง อำเภอในจังหวัดที่เป็นเขตรอยต่อ ก็สามารถเข้ารับบริการจากสำนักงานประกันสังคมจังหวัดระยอง สาขาปลวกแดง ได้เช่นกัน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาการให้บริการที่กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม เห็นถึงความสำคัญ และใส่ใจต่อผู้ประกันตน ให้สามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์จากสำนักงานประกันสังคม ในทุกพื้นที่

ด้าน นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า สำนักงานประกันสังคมได้รับจัดสรรที่ดินจากกรมชลประทาน โดยตั้งอยู่บริเวณอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล ตำบลแม่น้ำคู้ อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง เป็นเนื้อที่ 6 ไร่ 2 งาน 75 ตารางวา ในการก่อสร้างสำนักงานประกันสังคมจังหวัดระยอง สาขาปลวกแดง เพื่อให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่ผู้รับบริการด้านต่างๆ โดยได้เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งพิธีเปิดอาคารสำนักงานประกันสังคมจังหวัดระยอง สาขาปลวกแดง ในวันนี้ได้รับเกียรติจากคณะผู้บริหารในสังกัดกระทรวงแรงงาน คณะผู้บริหารสำนักงานประกันสังคม หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดระยอง หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงานทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวมถึงผู้บริหารสถานประกอบการ สถานพยาบาล เครือข่ายอาสาสมัครแรงงาน เครือข่ายประกันสังคม และผู้ประกันตนในพื้นที่ เข้าร่วมงาน ในโอกาสนี้ ขอขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่มาร่วมงาน เพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับสำนักงานประกันสังคม ที่มีเป้าหมาย ร่วมการขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงแรงงาน “สร้างหลักประกันทางสังคม เน้นทักษะทันสมัย ให้คนไทยมีงานทำ สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย เศรษฐกิจ และแรงงานไทยที่มั่นคง”
SSO
ศูนย์สารนิเทศ สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน

“สมศักดิ์” ยกระดับหมอนวดไทยเชี่ยวชาญพิเศษ 7 กลุ่มอาการ เพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วย หนุนเศรษฐกิจสุขภาพรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสา...
22/12/2024

“สมศักดิ์” ยกระดับหมอนวดไทยเชี่ยวชาญพิเศษ 7 กลุ่มอาการ เพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วย หนุนเศรษฐกิจสุขภาพ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เร่งส่งเสริมความเชี่ยวชาญพิเศษให้หมอนวดไทยใน 7 กลุ่มอาการ ทั้งปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด หัวไหล่ติด นิ้วล็อก กล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทอัมพฤกษ์ อัมพาต และระบบสืบพันธุ์ ช่วยผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สร้างมูลค่าเพิ่มให้เศรษฐกิจสุขภาพ และเสริมภาพลักษณ์การเป็นศูนย์กลางสุขภาพโลก

วันนี้ (22 ธันวาคม 2567) ที่ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าว “การส่งเสริมและยกระดับการนวดไทย” โดยมี ดร.โฆสิต สุวินิจจิต คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ดร.นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และคณะผู้บริหาร เข้าร่วม

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายส่งเสริมภูมิปัญญาการนวดไทย ด้วยการส่งเสริมและยกระดับอาชีพและวิชาชีพการนวดไทยให้มีมาตรฐาน สร้างความมั่นใจให้กับผู้รับบริการ และสนับสนุนให้นำมาใช้เป็นทางเลือกในการรักษาร่วมกับการรักษาแผนปัจจุบัน โดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และสภาการแพทย์แผนไทย ได้เร่งเดินหน้าเพิ่มความเชี่ยวชาญพิเศษให้กับหมอนวดไทย ใน 7 กลุ่มอาการ ได้แก่ กลุ่มปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด (Office syndrome) โรคหัวไหล่ติด โรคนิ้วล็อก ภาวะกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท (ปวดสลักเพชร) หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท อัมพฤกษ์ อัมพาต และกลุ่มระบบสืบพันธุ์ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยที่มีอาการเรื้อรังเหล่านี้ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบอาชีพนวดไทยที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านก็จะได้รับค่าตอบแทนหรือรายได้เพิ่มขึ้น

“นอกจากผลตอบแทนที่หมอนวดจะได้รับ การเพิ่มความเชี่ยวชาญพิเศษเฉพาะด้านของหมอนวดไทย ยังช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มทางด้านเศรษฐกิจสุขภาพ และส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางสุขภาพระดับโลกด้วย โดยในอนาคตจะขยายการพัฒนาทักษะความเชี่ยวชาญเฉพาะทางของหมอนวดไทยให้หลากหลายครอบคลุมมากยิ่งขึ้น” นายสมศักดิ์กล่าว

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตรวจเฝ้าระวังสายพันธุ์ “ไวรัสโนโร” เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค และสนับสนุนการควบคุมและป้องกันโรค ย้ำ!ไ...
22/12/2024

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตรวจเฝ้าระวังสายพันธุ์ “ไวรัสโนโร” เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค
และสนับสนุนการควบคุมและป้องกันโรค ย้ำ!ไม่ใช่โรคใหม่ ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก

นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสโนโร (Norovirus) เป็นเชื้อไวรัสก่อโรคอุจจาระร่วง สามารถรับเชื้อจากการปนเปื้อนในอาหาร น้ำดื่ม มือ หรือวัสดุสัมผัสอาหารและนำเข้าปาก ซึ่งพบผู้ป่วยได้ในทุกกลุ่มวัย โดยเฉพาะเด็กเล็ก และผู้สูงอายุ เนื่องจากร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่ำกว่าวัยอื่น ผู้ป่วยมักเริ่มแสดงอาการหลังได้รับเชื้อ 12-48 ชั่วโมง โดยจะมีอาการอุจจาระร่วง อาเจียน ปวดท้อง ส่วนใหญ่จะไม่มีเลือดปนมากับอุจจาระ บางรายอาจมีอาการไข้และปวดศีรษะร่วมด้วย และจะมีอาการประมาณ 1-3 วัน ในกรณีอาการรุนแรงมีความเสี่ยงต่อภาวะร่างกายขาดน้ำอาจเกิดการช็อก ความดันโลหิตต่ำ และอาจเสียชีวิตได้ โดยสถานที่มีคนอยู่จำนวนมากมักพบการระบาดมากที่สุด เช่น โรงเรียน และมักตรวจพบมากขึ้นในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากสภาวะอากาศที่เย็น ทำให้เชื้อสามารถแพร่กระจายได้ดี ส่งผลให้อาหารและน้ำดื่มมีโอกาสปนเปื้อนสูงขึ้น นอกจากนี้ยังทนต่อความร้อนและน้ำยาฆ่าเชื้อต่างๆ ได้ดี ทำให้แพร่กระจายเชื้อได้ง่ายและรวดเร็ว ดังนั้น ในช่วงฤดูหนาว มีโอกาสที่จะพบผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นได้
นายแพทย์ยงยศ กล่าวว่า ปัจจุบันการตรวจวิเคราะห์หาเชื้อไวรัสโนโร ส่วนใหญ่ใช้เทคนิคอณูชีววิทยา (Molecular) เนื่องจากไวรัสโนโรไม่สามารถเพาะเชื้อได้ ซึ่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ให้บริการตรวจวินิจฉัยไวรัสโนโร เพื่อการสอบสวนโรค ในตัวอย่างผู้ป่วย ได้แก่ อุจจาระ อาเจียน รวมถึงตัวอย่างบริโภค เช่น น้ำดื่ม อาหาร และรายงานผลการตรวจวิเคราะห์ ภายใน 2 และ 5 วันทำการ ตามลำดับ
นอกจากนี้ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ยังให้บริการตรวจอาหารปลอดภัยเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค โดยตรวจในตัวอย่างน้ำและอาหาร และบรรจุภัณฑ์อาหาร เช่น น้ำดื่ม น้ำแข็ง ผักและผลไม้สด หอยนางรม รายงานผลการตรวจวิเคราะห์ภายใน 10 วันทำการ ที่สำคัญกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์มีความพร้อมให้บริการตรวจเพื่อการสอบสวนโรค และเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค (ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ 15 แห่ง)
ทั้งนี้ จากข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 30 พฤศจิกายน 2567 สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้วิเคราะห์ตัวอย่างเพื่อการสอบสวนโรคอุจจาระร่วงใน 16 จังหวัด จำนวนทั้งสิ้น 175 ตัวอย่าง พบสารพันธุกรรมไวรัสโนโร 17 ตัวอย่าง คิดเป็น 9.71% ทั้งนี้ ไวรัสโนโรมีความหลากหลายทางพันธุกรรมและถูกจัดประเภทออกเป็นมากกว่า 10 กลุ่มย่อย (genogroups) ผลจากการติดตามเฝ้าระวังสายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโนโร ด้วยวิธี DNA sequencing พบไวรัสโนโรสายพันธุ์ GII.4, GII.3 และ GII.14 สัดส่วน 58.8%, 35.3% และ 5.9% ตามลำดับ เช่นเดียวกับทั่วโลก ที่พบไวรัสโนโรสายพันธุ์ GII.4 เป็นสาเหตุของโรคอุจจาระร่วงส่วนใหญ่ การติดตามสายพันธุ์และตรวจพบสายพันธุ์ที่เป็นสาเหตุการระบาดได้เร็ว เป็นสิ่งสำคัญในการประเมินแนวโน้มการระบาดตลอดจนการพัฒนาวัคซีน ช่วยสนับสนุนการควบคุมและป้องกันโรค


นายแพทย์ยงยศ กล่าวต่ออีกว่า ไวรัสโนโรไม่ใช่เชื้อโรคใหม่ มักพบมีการเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ว่ามีการระบาดหนักในโรงเรียนบ่อยครั้ง ซึ่งบางทีเป็นข่าวเก่าหรือข่าวปลอม วนมาส่งใหม่ทำให้เข้าใจผิด คิดว่ากำลังระบาด ดังนั้น ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก ควรติดตามข่าวสารข้อมูลจากแหล่งที่มาที่น่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญ ในการป้องกันตัวเองจากไวรัสโนโร คือ ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ให้สะอาด อย่างน้อย 20 วินาที เป็นวิธีที่ดีที่สุด (เนื่องจากแอลกอฮอล์ ไม่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสโนโรได้) โดยล้างมือทุกครั้งหลังเข้าห้องน้ำ และก่อนรับประทานอาหาร หรือประกอบอาหาร รับประทานอาหารปรุงสุก หากเป็นอาหารค้างมื้อ ควรอุ่นอาหารให้ร้อนจัดก่อนรับประทานทุกครั้ง และล้างผักผลไม้ให้สะอาดก่อนรับประทาน สำหรับเด็กที่ป่วยด้วยไวรัสโนโร ควรหยุดเรียน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
“ทั้งนี้ โรงพยาบาลสามารถติดต่อสอบถามและส่งตัวอย่างเพื่อสอบสวนโรค ได้ที่ ศูนย์ประสานงานการตรวจวิเคราะห์และเฝ้าระวังโรคทางห้องปฏิบัติการ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จ.นนทบุรี โทรศัพท์ 0 2951 0000 ต่อ 99248 หรือ 99614 หรือที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ ทั้ง 15 แห่ง ทั่วประเทศ สำหรับการส่งตัวอย่างน้ำ น้ำแข็ง อาหาร และบรรจุภัณฑ์อาหาร สามารถส่งตัวอย่างและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์รวมบริการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โทรศัพท์ 0 2951 0000 ต่อ 99968 หรือสำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร โทรศัพท์ 0 2951 0000 ต่อ 99561 มือถือ 09 5565 7780” นายแพทย์ยงยศ กล่าว

“จิรพงษ์” เตือน ตระเวนรักษานำยามาขาย ติดคุกหัวโตแน่นอน ชี้ สปสช.มีข้อมูลผู้รักษาหมด ดำเนินคดีย้อนหลังได้ เผย กำลังติดตั้...
22/12/2024

“จิรพงษ์” เตือน ตระเวนรักษานำยามาขาย ติดคุกหัวโตแน่นอน ชี้ สปสช.มีข้อมูลผู้รักษาหมด ดำเนินคดีย้อนหลังได้ เผย กำลังติดตั้งระบบเตือนอัตโนมัติ เบิกยาถี่โดนแน่นอน เล็งชง ดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ.ยา

วันที่ 22 ธันวาคม 2567 นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ รองโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่มีผู้นำยาในโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ มาโพสต์ขายในโซเซียลว่า การแอบลักลอบจำหน่าย ตนขอเตือนว่า ติดคุกหัวโตแน่นอน ทั้งคนขายและคนซื้อ โดยจากการที่รัฐบาล พรรคเพื่อไทย ประกาศนโยบายทางด้านสาธารณสุข จาก 30 บาทรักษาทุกโรค ขยายเป็น 30 บาทรักษาทุกที่ เพื่อต้องการให้พี่น้องประชาชน สามารถเข้าถึงการรักษาตามโรงพยาบาลต่างๆของรัฐ รวมถึงโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการได้ทุกที่ ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้ขับเคลื่อนนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ โดยเชื่อมต่อระบบฐานข้อมูลของโรงพยาบาลที่สังกัดทุกกรมฯในกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งภายในปีนี้ จะแล้วเสร็จ และจะประกาศผลสำเร็จในเดือนมกราคม นี้

นายจิรพงษ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ กำลังดำเนินหลักการเชื่อมต่อการถ่ายโอนข้อมูลผู้ป่วยระหว่างโรงพยาลที่สังกัดใน สธ. กับหน่วยงานสาธารณสุขต่างๆ ที่ไม่ได้สังกัด สธ. เช่นกับทางสถานบริการสาธารณสุขในการกำกับของกรุงเทพมหานคร โรงพยาบาลในกำกับของกระทรวงการอุดมศึกษาฯ และโรงพยาบาลเอกชน เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายการรักษาข้อมูลส่วนบุคคล PDPA ส่วนเรื่องของการช๊อปปิ้งยานั้น ไม่ได้เกิดการกระทำผิดขณะนี้เท่านั้น แต่ได้เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ จากระบบประกันสุขภาพต่างๆของรัฐ และผู้กระทำผิดก็ถูกดำเนินคดี ทั้งทางแพ่งและอาญามาแล้ว

“ผมขอเตือนผู้ที่จะใช้ช่องว่างกระทำการดังกล่าวว่า การรับบริการของหลักประกันสุขภาพแห่งชาตินั้น ต้องใช้บัตรประชาชนในการลงทะเบียนพิสูจน์สิทธิ และข้อมูลการรักษาการเบิกค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ก็จะเข้าสู่ระบบการเงิน FDH ของ สปสช. ซึ่งสามารถตรวจทาน เพื่อตรวจจับผู้กระทำผิดได้ง่าย โดยขณะนี้ สปสช. ก็กำลังติดตั้งระบบเตือนอัตโนมัติเพิ่มเติม เพื่อรายงานความผิดปกติของจำนวนครั้งของการเข้ารับการรักษา และการเบิกยาของผู้ป่วย ทำให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถตรวจจับการเบิกจ่ายที่น่าสงสัยได้อย่างรวดเร็วขึ้น“รองโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าว

นายจิรพงษ์ กล่าวอีกว่า การทำที่ผิดกฏหมายดังกล่าวถือว่า เป็นความผิดตามประมวลกฏหมายอาญา หมวด 3 มาตรา 341-318 โทษจำคุกสุงสุดไม่เกิด 3-5 ปี ถ้าเบิกยาหลวงไป 10 ครั้งก็ติดคุก 50 ปีแน่นอน มากไปกว่านั้น ตนในฐานะอนุกรรมการในคณะอนุกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์การดำเนินงาน ภายใต้คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จะเสนอให้ สปสช. ดำเนินการแจ้งความผู้กระทำผิดในฐานการกระทำผิดตาม พรบ.ยา พ.ศ. 2510 ซึ่งการขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืนมาตรา 12 มีโทษตามมาตรา 101 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี รวมถึงบังคับใช้ความผิดตาม พรบ.คอมฯ อีกด้วย สำหรับผู้ซื้อยาจากผู้กระทำผิดขอให้ไปรับการรักษารับยาตามสิทธิฯที่ท่านมีอยู่ ไม่จำเป็นที่ต้องมาจ่ายเงินใดๆ โดยเฉพาะการใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกที่
💰

ปลัด สธ. สั่งตั้งศูนย์ EOC รับมือ "อหิวาต์" พร้อมให้การสนับสนุนทีมช่วย "เมียนมา" ควบคุมป้องกันโรค เข้มเฝ้าระวังจุดเสี่ยง...
22/12/2024

ปลัด สธ. สั่งตั้งศูนย์ EOC รับมือ "อหิวาต์" พร้อมให้การสนับสนุนทีมช่วย "เมียนมา" ควบคุมป้องกันโรค เข้มเฝ้าระวังจุดเสี่ยงในไทย

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข สั่งตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน (EOC) ส่วนหน้า จ.ตาก รับมือสถานการณ์อหิวาตกโรค พร้อมสนับสนุนทีมช่วยสอบสวนโรค วางแนวทางการป้องควบคุมโรค ที่เมืองฉ่วยโก๊กโก่ "เมียนมา" เพื่อลดความเสี่ยงการระบาดมายังไทย ล่าสุดพบผู้ป่วย 2 รายเข้ารักษาที่แม่สอดและแม่ระมาด เข้มเฝ้าระวังผู้ป่วยอุจจาระร่วงในจุดเสี่ยงสูง ทั้งชุมชนชายแดน โรงงาน ศูนย์พักพิงชั่วคราวชายแดน ดูแลความสะอาดน้ำกินน้ำใช้

วันนี้ (22 ธันวาคม 2567) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์อหิวาตกโรคที่เมืองฉ่วยโก๊กโก่ จังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา ว่า อำเภอแม่ระมาดและอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ถือเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากอยู่ตรงข้ามกับเมืองฉ่วยโก๊กโก่ มีโรงงานจำนวนมาก และมีชาวต่างชาติอาศัยอยู่ร่วมกัน อีกทั้งช่วงปีใหม่จะมีการจัดงานรื่นเริง พบปะสังสรรค์และรับประทานอาหารร่วมกัน จึงได้สั่งการให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน (EOC) ส่วนหน้า จังหวัดตาก เพื่อยกระดับการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ โดยมีสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตาก เป็นศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า นพ.สุภโชค เวชภัณฑ์เภสัช รักษาการในตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 2 เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ และ นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เป็นที่ปรึกษา ซึ่งสถานการณ์ล่าสุดได้รับรายงานว่า เมืองฉ่วยโก๊กโก่มีผู้ป่วยรวม 300 ราย เสียชีวิต 2 ราย อยู่ระหว่างการรักษาในโรงพยาบาลฉ่วยโก๊กโก่ 56 ราย ส่วนประเทศไทย มีผู้ป่วยเข้ารักษา 2 ราย ที่โรงพยาบาลแม่สอด 1 ราย และโรงพยาบาลแม่ระมาด 1 ราย ยังอยู่ระหว่างรอผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ

นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังพร้อมให้การสนับสนุนทีมปฏิบัติการช่วยสอบสวนโรคและวางแนวทางการป้องกันควบคุมโรคในฝั่งเมียนมา เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดมายังประเทศไทย และเพิ่มความเข้มข้นในการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรค โดยให้ความรู้การป้องกันโรคแก่ชาวเมียนมา เฝ้าระวังคนไทยที่มาพบแพทย์ด้วยอาการท้องเสียหรืออุจจาระร่วง และเน้นการเฝ้าระวังเชิงรุกในจุดที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ชุมชนชายแดน โรงงาน ศูนย์พักพิงชั่วคราวชายแดน โดยให้ร้านยา ผู้นำชุมชนและอาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว (อสต.) คอยสอดส่อง หากพบผู้ที่มีอาการท้องเสียแม้เพียงเล็กน้อย ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันทีเพื่อเร่งตรวจสอบ พร้อมทั้งดูแลน้ำอุปโภคบริโภคให้สะอาด วัดและเติมคลอรีนให้เพียงพอตามมาตรฐาน และเฝ้าระวังการจัดกิจกรรมที่มีการขายอาหาร รวมถึงอาจให้มีการตรวจหาเชื้อในผู้ค้าหากจำเป็น ทั้งนี้ ได้ให้ศูนย์ปฏิบัติการฯ ทำการสำรวจยา เวชภัณฑ์ และวัสดุอุปกรณ์จำเป็น ทั้งยา น้ำเกลือ คลอรีน ชุดตรวจหาเชื้อในอุจจาระ และ Rapid test เพื่อขอรับการสนับสนุนเพิ่มเติมแล้ว
💰

ออกแล้ว !! ผลสลากกาชาดมหาดไทย 2567"อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์" เป็นประธานกรรมการออกสลากบำรุงสภากาชาดไทย กระทรวงมหาดไทยและสมาค...
22/12/2024

ออกแล้ว !! ผลสลากกาชาดมหาดไทย 2567

"อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์" เป็นประธานกรรมการออกสลากบำรุงสภากาชาดไทย กระทรวงมหาดไทยและสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ประจำปี 2567 รวม 31 รางวัล มูลค่ารวมกว่า 3.986 ล้านบาท

วันนี้ (22 ธ.ค. 67) เวลา 15.00 น. ณ เวทีกลาง งานกาชาด ประจำปี 2567 สวนลุมพินี เขตคลองเตย กรุงเทพฯ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานกรรมการออกสลากบำรุงสภากาชาดไทย กระทรวงมหาดไทยและสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ประจำปี 2567 โดยมี นายขจร ศรีชวโนทัย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นางจิรวรรณ เพ็ญพาส อุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย และประธานชมรมแม่บ้านกรมที่ดิน นายพุทธพงษ์ สุริยะสิงห์ ผู้อำนวยการกองคลัง และนายปริญ นิทัศน์เอก ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นกรรมการสักขีพยาน ดำเนินการหมุนวงล้อสลากโดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

นายอรรษิษฐ์ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย และสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ได้รับเกียรติจากสภากาชาดไทย ให้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดงานกาชาด ประจำปี 2567 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และร่วมสนองแนวพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง องค์สภานายิกาสภากาชาดไทย และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ในการสืบสาน พัฒนา สร้างสรรค์สังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการให้ที่ยั่งยืน ด้วยการหารายได้โดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทย ในการช่วยเหลือประชาชนผู้ตกทุกข์ได้ยาก ผู้ประสบภัยพิบัติ และช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ตามวัตถุประสงค์ของสภากาชาดไทยต่อไป

"กระทรวงมหาดไทยและสมาคมแม่บ้านมหาดไทย จึงได้จัดจำหน่าย “สลากบำรุงสภากาชาดไทย” ประจำปี 2567 ลุ้นชิงรางวัล 31 รายการ มูลค่ารวม 3,986,000 บาท ซึ่งขณะนี้ผลการออกรางวัลสลากกาชาดกระทรวงมหาดไทย ประจำปี 2567 ได้ออกรางวัลครบทุกรางวัลแล้ว ดังนี้

รางวัลที่ 1 ทองคำแท่งหนัก 20 บาท 1 รางวัล ได้แก่ สลากหมายเลข 194877

รางวัลที่ 2 สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท 10 รางวัล ได้แก่ สลากหมายเลข 123034, 134077, 134657, 140572, 144134, 145420, 171392, 174517, 180369, 197739

รางวัลที่ 3 สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 20 รางวัล ได้แก่ สลากหมายเลข 110125, 112429, 114305, 131522, 132170, 133699, 133841, 139876, 152138, 155609, 156763, 158286, 168629, 169558, 171077, 177233, 178424, 186493, 191512, 199408

นายอรรษิษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทยและสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ขอแสดงความยินดีกับท่านผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลทุกท่าน โดยท่านสามารถติดต่อขอรับรางวัลได้ที่ กองคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ชั้น 1 อาคารศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย ถนนอัษฎางค์ แขวงวัดราชบพิธ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร หรือสำนักงานจังหวัด ณ ศาลากลางจังหวัด (สำนักงานจังหวัด) ทุกจังหวัด หรือตรวจสอบข้อมูลได้ที่ www.moi.go.th ภายในวันศุกร์ที่ 21 มีนาคม 2568 หากพ้นกำหนดถือว่าสละสิทธิ์ในการรับรางวัล และมอบรางวัลนั้นให้สภากาชาดไทย
@ผอ.สน.สป.มท.
กองสารนิเทศ สป.มท.

"พิพัฒน์" จับมือพันธมิตร ร่วมศูนย์ “ซ่อม สร้าง สุข” กรมพัฒน์จัดให้ช่วยคนสงขลา คลายทุกข์น้ำท่วมวันที่ 22 ธันวาคม 2567 นาย...
22/12/2024

"พิพัฒน์" จับมือพันธมิตร ร่วมศูนย์ “ซ่อม สร้าง สุข” กรมพัฒน์จัดให้ช่วยคนสงขลา คลายทุกข์น้ำท่วม

วันที่ 22 ธันวาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เยี่ยมชมศูนย์ “ซ่อม สร้าง สุข กรมพัฒน์จัดให้” เพื่อช่วยเหลือประชาชนและแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม จ.สงขลา ที่ผ่านมา โดยมีนายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดตั้ง ศูนย์ “ซ่อม สร้าง สุข” นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวต้อนรับและกล่าวรายงานพื้นที่ผู้ประสบภัยจังหวัดสงขลา และมีผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ ร่วมให้การต้อนรับ ณ ร้านไพศาลอิเล็กทรอนิกส์ สาขาหาดใหญ่ (คลองหวะ) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังเยี่ยมชมว่า ผมมีความรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา มีโอกาสพบปะให้กำลังใจพี่น้องประชาชนในยามทุกข์ยาก ซึ่งได้มอบหมายให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานเร่งให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนและแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในแต่ละจังหวัด สำหรับความช่วยเหลือในครั้งนี้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานโดยสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 12 สงขลา ร่วมกับจังหวัดสงขลา ไพศาล อิเล็กทรอนิกส์ เอ็กตร้า บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด เพื่อนช่างซ่อมดอทคอม ชมรมช่างอิเล็กทรอนิกส์ราชบุรี ทีมช่างบ้านหม้อโดยช่างแมว ช่างของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานจาก 14 จังหวัดภาคใต้ บุคลากรทางด้านการศึกษา และช่างจิตอาสา จำนวนกว่า 300 คน ให้บริการ ตรวจ เช็ค ซ่อม อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องมือทำมาหากิน และรถจักรยานยนต์ ให้กับประชาชนผู้ประสบอุทกภัยหลังน้ำลด ตั้งแต่วันที่ 20-22 ธันวาคม 2567 ที่ร้านไพศาลอิเล็กทรอนิกส์ ภายในงานมีการส่งมอบอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องมือประกอบอาชีพ และรถมอเตอร์ไซค์ คืนให้กับประชาชนจำนวน 50 คน ได้นำกลับไปใช้ในการประกอบอาชีพและใช้ในชีวิตประจำวันต่อไป โดยโมเดลนี้ถูกนำไปใช้ในจังหวัดต้องเผชิญสถานการณ์น้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมาเช่นกัน ทั้งเชียงราย เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช เป็นต้น

“จังหวัดสงขลาเจอกับสถานการณ์น้ำท่วมตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน -16 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนใน 16 อำเภอ ผู้ได้รับผลกระทบกว่า 7 แสนคน การดำเนินการจะช่วยแบ่งภาระในการซ่อมแซม ทำให้ประชาชนประหยัดสามารถนำรายจ่ายในส่วนนี้ไปใช้ในการยังชีพหรือเป็นต้นทุนในการประกอบอาชีพ เมื่อประชาชนต้องเผชิญกับความยากลำบากกระทรวงแรงงานพร้อมจะช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปให้ได้” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวทิ้งท้าย

ด้านนายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีประชาชนนำเครื่องใช้ไฟฟ้า, เครื่องยนต์เล็กเพื่อการเกษตรมาซ่อมแซมแล้ว รวม 2,492 ชิ้น 780 คน รถจักรยานยนต์ 180 คัน 180 คน รวมทั้งสิ้น 960 คน หลังจากนี้ หากประชาชนมีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เสียหาย สามารถส่งซ่อมได้ที่สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 12 สงขลา เบอร์โทร 0-7433-6052

นอกจากนี้ต้องขอขอบคุณ คุณไชยพันธ์ุ โชคไพศาล เจ้าของร้านไพศาล อิเล็กทรอนิกส์ ที่สนับสนุนสถานที่ในการจัดตั้งเป็น ศูนย์ “ซ่อม สร้าง สุข กรมพัฒน์จัดให้” โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ค่าแรง ค่าอะไหล่ รวมทั้งอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับซ่อม นอกจากนี้ยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่มสำหรับช่าง และทีมผู้ช่วยสนับสนุน เพื่อใช้สำหรับเป็นที่บริการประชาชนในครั้งนี้ด้วย อธิบดีกล่าวทิ้งท้าย

ก.แรงงาน รวมพลังจัดกิจกรรม Big Cleaning Day ปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบกระทรวงฯ สร้างวินัยบุคลากรที่ทำงานสะอาด ปลอดภัย พร้อม...
22/12/2024

ก.แรงงาน รวมพลังจัดกิจกรรม Big Cleaning Day ปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบกระทรวงฯ สร้างวินัยบุคลากรที่ทำงานสะอาด ปลอดภัย พร้อมให้บริการประชาชน

วันที่ 22 ธันวาคม 2567 เวลา 09.00 น. นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในกิจกรรม “กระทรวงแรงงานรวมพลัง กิจกรรม Big Cleaning Day” โดยมี นางสาวบุณยวีร์ ไขว้พันธุ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน นายพิเชษฐ์ ทองพันธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน แม่บ้าน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 400 คน
ณ บริเวณอาคารกระทรวงแรงงาน

นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ผมรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับ มอบหมายให้มาเป็นประธานในกิจกรรม“กระทรวงแรงงานรวมพลัง กิจกรรม Big Cleaning Day” ในวันนี้ ปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมลพิษ เรื่องปัญหาขยะ การรักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นสิ่งจําเป็นและสําคัญอย่างยิ่งที่จะทําให้ช่วยลดปัญหาดังกล่าว กระทรวงแรงงานตระหนักถึงความสําคัญของสุขภาวะในองค์กร เพื่อให้บุคลากรมีสภาพแวดล้อมที่ดีในการทํางานที่เป็นระเบียบ สะอาด และปลอดภัย จึงได้ร่วมมือกันจัดกิจกรรม“กระทรวงแรงงานรวมพลัง กิจกรรม Big Cleaning Day”ในวันนี้ขึ้น มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมให้สถานที่ทํางาน สะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย สร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นในองค์กร เสริมสร้างวินัยการรักษาความสะอาด ตลอดจนให้สถานที่ทํางานมีความปลอดภัยสอดคล้องกับนโยบายกระทรวงแรงงานในการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย อันจะส่งผลต่อสุขภาพจิตและเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานโดยรวมของบุคลากรกระทรวงแรงงาน

รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวต่อว่า กิจกรรมในวันนี้ได้รับความร่วมมือจากผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน ตลอดจนแม่บ้าน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) รวมทั้งสิ้นกว่า 400 คน ได้มาร่วมกันทําความสะอาด เก็บขยะมูลฝอย ชะล้างคราบสิ่งสกปรกต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกอาคาร และปรับปรุงภูมิทัศน์ โดยรอบกระทรวงแรงงานให้สะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมให้บริการประชาชนผู้มาติดต่อราชการ ซึ่งต้องขอขอบคุณข้าราชการ บุคลากรของกระทรวงแรงงานทุกหน่วยงาน ที่ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมทำความสะอาดอาคารสถานที่ (BIG Cleaning Day) ขอบคุณกรุงเทพมหานครท่สนับสนุนรถน้ำแรงดันสูง และเจ้าหน้าที่มาอำนวยความสะดวกในกิจกรรมดังกล่าว ซึ่งจะทำให้พวกเราได้ร่วมกันทำความสะอาดพื้นที่ภายในและพื้นที่โดยรอบ ให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย สำหรับในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้

พิพัฒน์ดันโครงการปล่อยกู้ซ่อมบ้าน-ฟื้นฟูอาชีพ ลูกจ้างประสบภัยน้ำท่วมนายภูมิพัฒน์ เหมือนจันทร์ โฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว...
22/12/2024

พิพัฒน์ดันโครงการปล่อยกู้ซ่อมบ้าน-ฟื้นฟูอาชีพ ลูกจ้างประสบภัยน้ำท่วม

นายภูมิพัฒน์ เหมือนจันทร์ โฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ห่วงใยลูกจ้างและผู้ประกอบการที่ประสบภัยธรรมชาติโดยเฉพาะภัยน้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยในส่วนของกระทรวงแรงงานได้จัดทำโครงการเงินกู้เพื่อบรรเทาผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ เพื่อให้ลูกจ้างที่เป็นสมาชิกของสหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบการและรัฐวิสาหกิจได้รับความช่วยเหลือในการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหรือฟื้นฟูอาชีพหลังประสบภัย โดยสหกรณ์ออมทรัพย์หรือสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนในสถานประกอบการและรัฐวิสาหกิจในพื้นที่ประสบภัยหรือมีสมาชิกที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่ประสบภัย ตามประกาศของจังหวัดที่กำหนดเป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย เพื่อให้บริการเงินกู้แก่ลูกจ้างที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ สูงสุดไม่เกินสหกรณ์ละ 20 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี ระยะเวลาการส่งชำระคืนสูงสุดไม่เกิน 5 ปี

โฆษกกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ลูกจ้างที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์หรือสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนในสถานประกอบการและรัฐวิสาหกิจที่จะใช้สิทธิกู้เงินต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติและต้องนำเงินไปใช้ซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหรือฟื้นฟูอาชีพหลังประสบภัย โดยสหกรณ์จะคิดอัตราดอกเบี้ยกับลูกจ้างสมาชิกได้ไม่เกินร้อยละ 5 ต่อปี สำหรับสหกรณ์ออมทรัพย์หรือสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนที่ต้องการยื่นคำขอกู้สามารถยื่นผ่านระบบ e-service ของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน หรือติดต่อได้ที่กองสวัสดิการแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน โทรศัพท์ 0 2660 2180 และสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด

“ท่านพิพัฒน์ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด พร้อมย้ำว่าให้ทุกหน่วยงานของกระทรวงแรงงานดูแลแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของลูกจ้างและผู้ประกอบการให้มากที่สุด และยังให้ความสำคัญกับการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อนำไปใช้ในการซ่อมแซมความเสียหายของที่อยู่อาศัยหรือการฟื้นฟูอาชีพของลูกจ้างที่ได้รับความเดือดร้อนอีกด้วย” นายภูมิพัฒน์ กล่าวMOL (สป.)

ที่อยู่

160/419
Ban Bang Khu Wat
12000

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ หนังสือพิมพ์ ประเด็นรัฐผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์