Sport Science Service พัฒนานักฟุตบอลสู่ทีมอาชีพ

23/03/2025

Information 3-2-4-1
-Build up from back
-Finishing on final third
-Combination play on middle zone

18/03/2025

แบ่งปันกันนะครับพี่น้อง

ส่วนสไลด์นี้ผมจัดทำขึ้นเพื่อนำไปใช้ฝึกซ้อมนักฟุตบอลในช่วงที่เป็น Session ของ fitness ในส่วนของการทำ Prevention หรือ ช่วงทำ Recovery นะครับ

รายละเอียดผมคิดว่ามีครบ ทั้งความหนัก ปริมาณ การฝึกในแต่ละช่วงอายุของเด็ก

ผมตัดรูปนักฟุตบอลของทีมออกแล้วใส่ภาพอื่นแทน ยังไงพี่น้องแฟนเพจลองนำไปปรับใช้ดูได้เลยครับ หรือมีอะไรอยากเพิ่มเติมก็คอมเม้นไว้ได้เลยครับ

18/03/2025

"การสร้างแบบฝึกซ้อมให้สอดคล้องกันระหว่างสมรรถภาพร่างกายและกลยุทธิ์ฟุตบอล"
Tactical Technical and Physical Integration

ในการวางแผนการฝึกซ้อมส่วนใหญ่จะโฟกัสไปที่รายละเอียดของระบบพลังงาน เช่น
-ความสามารถในการใช้ออกซิเจน (aerobic capacity)
-พลังออกซิเจน (aerobic power)
-ความสามารถในการใช้ออกซิเจน (anaerobic capacity)
-พลังออกซิเจน (anaerobic power etc.)

ซึ่งสโมสรใหญ่ๆ จะใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ในช่วงปรีซีซั่นเพื่อเล่นเกมกระชับมิตรในสถานที่ต่างๆ หลังจากสัปดาห์แรกซึ่งจะเป็นโปรแกรมสำหรับการปรับสภาพร่างกายและเป็นการฝึกซ้อมทางยุทธวิธี โดยเราสามารถทำแบบฝึกซ้อมร่วมกับองค์ประกอบด้านความฟิตทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับความต้องการของทีมในด้านทางยุทธวิธีโดยอิงตามการแบ่งช่วงเวลาทางยุทธวิธี เราสามารถทำงานบนแบบจำลองการฝึกซ้อมเฉพาะฟุตบอล (principle of horizontal alternation in specificity) ผสมผสานกับการฝึกซ้อมทางสมรรถภาพร่างกาย เช่น ความแข็งแกร่ง ความทนทาน ความเร็ว และการฟื้นตัว ให้เป็นเป้าหมายในทุกการฝึกซ้อมของเซสชันในแต่ละวัน

อ้างอิงจาก
BALANCING PHYSICAL AND TACTICAL LOAD IN SOCCER: A HOLISTIC APPROACH // KYPRIANOU & FARIOLI

17/03/2025

#มีเรื่องมาให้อ่าน:
"BALANCING PHYSICAL AND TACTICAL LOAD IN SOCCER
การสร้างสมดุลระหว่างสมรรถภาพทางร่างกายและยุทธวิธีในฟุตบอล" EP3

Training Methods
-โค้ชฟิตเนสจะต้องทำงานอย่างไรให้สอดคล้องกับเฮดโค้ช ?
แน่นอนว่าในฐานะผู้ช่วยโค้ช เราต้องให้ข้อมูลและรายละเอียด โดยเริ่มต้นด้วยการวางแผนทั้ง Season และย่อยลงมาก่อนออกแบบเซสชันใดๆ และที่สำคัญโดยทั่วไปแล้ว โค้ชฟิตเนสควรทำรายละเอียดให้โค้ชทุกตำแหน่งเกี่ยวกับการออกแบบเซสชันโดยให้รายละเรื่องดังนี้
1.ความเข้มข้นหรือความหนักในการฝึกซ้อม (Intensity)
2.ปริมาตรงานทั้งหมดหรือพวกเวลา จำนวนรอบฝึก (Volume)
3.เวลาการพักระหว่างฝึก (Recovery)

เมื่อพิจารณาถึงรายละเอียดในการฝึกแล้ว จากนั้นก็สามารถนำไปใช้ในกระบวนการฝึกประจำวันของเราได้ ได้แก่
1. Traditional training ซึ่งจะเน้นที่การพัฒนาเป้าหมายหนึ่งอย่าง อาจจะเน้นไปที่ การฝึกซ้อมที่เน้นสมรรถภาพร่างกาย การฝึกซ้อมที่เน้นเทคนิค
หรือจะเน้นไปที่การฝึกซ้อมทางยุทธวิธี
2. Integrated training ซึ่งมีเป้าหมายในการฝึกซ้อมที่เน้นทั้งทางสมรรถภาพร่างกาย ทางเทคนิคและทางยุทธวิธีร่วมกันไปเลย
และ
3. Systemic training การฝึกการแบ่งช่วงเวลาทางยุทธวิธีจากโมเม้นต่างๆในการแข่งขัน ซึ่งจะนิยมใช้การฝึกซ้อมที่เป็นแบบจำลองเกมของเราเป็นข้อมูลอ้างอิงเมื่อออกแบบการฝึกซ้อมหรือเซสชันในการฝึกซ้อมนั้น

อ้างอิงจาก
BALANCING PHYSICAL AND TACTICAL LOAD IN SOCCER: A HOLISTIC APPROACH // KYPRIANOU & FARIOLI

16/03/2025

#มีเรื่องมาให้อ่าน:
"BALANCING PHYSICAL AND TACTICAL LOAD IN SOCCER
การสร้างสมดุลระหว่างสมรรถภาพทางร่างกายและยุทธวิธีในฟุตบอล" EP2

- Session แรกสำคัญมากๆในการฝึกซ้อมของแต่ละวัน ดังนั้นโค้ชฟิตเนสต้องถามเฮดโค้ชเสมอว่า ในแต่วัน Session หลักนั้น โค้ชจะเน้นไปที่แท็คติกใด ง่ายๆ การทำ Warm up นั้นต้องใช้การฝึกที่ Active และสอดคล้องกับแท็คติก ตัวอย่างเช่น
- Passing drill active warm up to build up play
- Offensives organize warm up
- Defensives organize warm up
- Explosive speed active warm up to transition play
- Speed agility active warm up to finishing
- Ball possession active interval aerobic training

ในส่วนของการ Warm up แบบ Dynamic และ static stretching นั้นให้ถือว่าอยู่ในส่วนของการทำ prevention training แทน ซึ่งอาจจะทำก่อนเริ่มเข้า Session แรก ประมาณ 15 นาที เพื่อเป็นการกระตุ้นกล้ามเนื้อและป้องกันอาการบาดเจ็บ

อ้างอิงจาก
BALANCING PHYSICAL AND TACTICAL LOAD IN SOCCER: A HOLISTIC APPROACH // KYPRIANOU & FARIOLI

15/03/2025

#มีเรื่องมาให้อ่าน:
"BALANCING PHYSICAL AND TACTICAL LOAD IN SOCCER
การสร้างสมดุลระหว่างสมรรถภาพทางร่างกายและยุทธวิธีในฟุตบอล" EP1

"เราจะสร้างโมเดลการฝึกซ้อมอย่างไรให้เหมาะกับการแข่งขัน?"
: ฟุตบอล เป็นกีฬาที่ต้องการสมรรถภาพทางร่างกาย โดยมีการเปลี่ยนแปลงความเร็วของการเคลื่อนไหวและทิศทาง เช่น การเดิน การวิ่งเหยาะ การวิ่งแบบเข้มข้น บวกกับทักษะฟุตบอลที่มีการเลี้ยงบอล การส่งบอล การยิง ฯลฯ เพื่อรวมกันเป็นยุทธวิธีของการเล่น เช่น สไตล์การเล่น การจัดวางตำแหน่ง การวางตำแหน่ง ฯลฯ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วผลลัพธ์ของการแข่งขันและประสิทธิภาพของทีมก็จะอ้างอิงมาจากแนวทางการฝึกซ้อมที่ต้องปรับใช้ในฟุตบอลโดยอ้างอิงจากเกมจริงเสมอ

1. วิเคราะห์และสร้างแบบฝึกจาก Game Model ของแต่ละตำแหน่งในรูปที่หนึ่ง โดยจะมี แบบจำลองเกม/ค่าเฉลี่ยทางกายภาพ/ลักษณะทางยุทธวิธีสูงสุดตามตำแหน่ง

2. วิเคราะห์และสร้างแบบฝึกจาก Moment of the game ซึ่งส่วนนี้มีที่สำคัญและสอดคล้องเชื่อมโยงโดยตรงกับโมเดลเกมที่เป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งของความสำเร็จของทีม คือการฝึกซ้อมให้เหมือนกับช่วงเวลาที่เกิดขึ้นของเกมแข่งขันจริง ซึ่งประกอบด้วย Moment open play โดยมีช่วงเวลาของเกมหลักๆ 5 ช่วง ประกอบด้วย
-เมื่อเริ่มตั้งเกม (ฺBuild up game)
-การเตะฟรีคิก การเตะมุม (Set play)
-การเล่นลูกทุ่มจากข้างสนาม (Throw-in)
-การยิงจุดโทษ (Penalty)
-การเปลี่ยนผ่านจังหวะ (Transition play)

ซึ่งในการสร้างสมรรถภาพร่าสงกายให้สอดคล้องกับโมเดลเกมของเรา เราควรมีปรัชญาที่ชัดเจนตั้งแต่รายละเอียดจากหลักการทั่วไปรวมไปถึงหลักการย่อยที่เกี่ยวกับสิ่งที่ทีมของเรากำลังทำในแต่ละขั้นตอน
ตัวอย่างเช่น ในการสร้างกลยุทธิ์ในการเล่นเกมรุกและเกมรับ ซึ่งหลักการทั่วไปของเราอาจเป็นการทำ Ball Possession เพื่อดึงให้ฝ่ายตรงข้ามขึ้นมาไล่บอล หรือการตั้งเกม Build up ขึ้นมาตั้งแต่ผู้รักษาประตู การรับ-ส่งบอลร่วมเล่นระหว่างแนวลึกและด้านกว้าง ซึ่งเราต้องทำแบบเดียวกันสำหรับทั้ง 5 ช่วงเวลา โดยอย่างน้อยหนึ่งในห้าช่วงเวลาของเกมควรมีอยู่เสมอในการฝึกซ้อมทุกครั้ง

อ้างอิงจาก
BALANCING PHYSICAL AND TACTICAL LOAD IN SOCCER: A HOLISTIC APPROACH // KYPRIANOU & FARIOLI

13/03/2025

ขอขอบคุณ เพจ BALLpootorn มากๆครับ

"โค้ชดม อุดม เอ็นดู"โค้ชฟิตเนสมาดเข้ม มากประสบการณ์ สายเลือดเมืองอู่ข้าวอู่น้ำ จังหวัดอ่างทอง โค้ชด้านสมรรถภาพทางกายของทัพม้าคะนองศึก สโมสรแพร่ยูไนเต็ด โค้ชดม มีจิตใจรักศาตร์ฟุตบอลและวิทยาศาสตร์การกีฬามาตั้งแต่เรียน ผูกพันและหลงไหลจึงได้ทำงานในสิ่งที่ตัวเองรักตัวเองชอบ โค้ชดม มีทักษะและเทคนิคการถ่ายทอดในด้านร่างกาย มีความเป็นภาวะผู้นำสูง
มีความเสียสละทุ่มเทต่องาน จริงจังจริงใจเมื่อลงปฏิบัติหน้าที่เสมอ การันตีฝีมือและความสามารถจากผลงานในการทำงานร่วมกับทีมฟุตบอล
คนหูหนวกทีมชาติไทย และทีมสโมสรฟุตบอลอาชีพมาหลายสโมสร ถือว่าเป็นโค้ชฟิตเนสที่น่าสนใจ และน่าเป็นแบบอย่างอีกคนหนึ่งในวงการฟุตบอลในประเทศไทย ฝากติดตามและให้กำลังใจด้วยนะครับ

Q : ประวัติของโค้ช
A : นายอุดม เอ็นดู ชื่อเล่น ดม
เกิดวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ.2533 อายุ 34 ปี
ภูมิลำเนา จังหวัดอ่างทอง

การศึกษา
- ปริญญาตรี คณะวิทยาศาสตร์การกีฬาและ
การออกกำลังกาย มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตกรุงเทพ

การอบรม
-AFC C license
สังกัดปัจจุบันสโมสรฟุตบอลแพร่ยูไนเต็ด

Q : จุดเริ่มต้นการเป็นโค้ชฟิตเนส แล้วมีหน้าที่รับผิดชอบอะไรบ้าง
A : เริ่มต้นจากการเป็นนักฟุตบอลแล้วมีอาการ
บาดเจ็บและมีโอกาสได้รับการรักษากับโค้ชฟิตเนสของสโมสรแห่งหนึ่งในขณะที่รักษาก็ได้รับความรู้จากโค้ชฟิตเนสที่ดูแลบังเอิญมันตรงกับที่ตัวเองได้เรียนพอดี จึงเกิดความสนใจและหลังจากนั้นก็ตั้งใจเรียนจนมีโอกาสได้เข้าทำงาน กับสโมสรฟุตบอลอ่างทองเอฟซี โดยเริ่มต้นจากการเป็นผู้ช่วยโค้ชฟิตเนสจนวันนึงก็ได้ขึ้นเป็นหัวหน้าโค้ชฟิตเนส
หน้าที่หลักๆก็จะดูแลเกี่ยวกับสมรรถภาพร่างกายของนักฟุตบอลในทีม

Q : ทำไมถึงชอบงานด้านฟิตเนส
A : จริงๆโค้ชฟิตเนสมันก็เหมือนกับนักฟุตบอล
เพราะเราก็ต้องดูแลตัวเองแล้วก็ต้องฝึกซ้อม
กับตัวเองก่อนเพื่อเป็นการทดสอบว่ามันโอเคไหมแล้วค่อยนำไปฝึกนักฟุตบอลและที่สำคัญที่สุด
คือมันทำให้เราได้คิดวิเคราะห์ ถึงโปรแกรมต่างๆ
ที่จะนำมาใช้กับนักฟุตบอล มันทำให้เราได้เรียนรู้
ในทุกๆวัน

Q : ทัวร์นาเม้นที่ประทับใจ
A : ทัวร์นาเมนต์ที่ประทับใจก็น่าจะเป็นระดับชาติ
ที่มีโอกาสได้เข้าไปช่วยงานของทีมฟุตบอล
คนหูหนวกทีมชาติไทยในการแข่งขันชิงแชมป์อาเซียนที่ประเทศมาเลเซียซึ่งเป็นครั้งที่หนึ่ง
เราเข้าชิงชนะเลิศกับเจ้าภาพมาเลเซีย
และเราได้แชมป์จำได้ว่าวันที่ได้แชมป์เป็นวันที่ในหลวง ร.10 ขึ้นครองราชพอดี เลยกล้าพูดว่า
การได้แชมป์ครั้งนั้นเป็นเหมือนการทำชื่อเสียงให้กับประเทศในขณะที่ในหลวง ร.10 ขึ้นครองราชพอดี

Q : ช่วยเล่าประสบการณ์การเป็นโค้ชฟิตเนส
A : ตลอดระยะเวลาที่ทำงานในด้านนี้ ก็มีโอกาสได้ทำงานในระดับชาติ ระดับฟุตบอลนักเรียน ระดับฟุตบอลอาชีพ ออกไปต่างประเทศก็ไปมาแล้ว พอมาถึงวันนี้ก็คิดว่าโอเคแล้วกับการทำงานที่เหลือต่อจากนี้ก็อยากจะเก็บประสบการณ์และความรู้ให้ได้มากที่สุดเพื่อถ่ายทอดแก่คนอื่นหากมีโอกาสนะ

Q : สิ่งที่อยากจะให้พัฒนายิ่งขึ้นในวงการฟุตบอล
A : จริงๆงานด้านฟิตเนสหรืองานด้านวิทยาศาสตร์การกีฬามันเป็นสิ่งที่สำคัญนะ
ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้หน่วยงานหรือสมาคมฟุตบอลก็ได้ช่วยเปิดอบรมในคอร์สเนี่ยให้มากๆ ต่อครู
ผู้ปกครอง นักฟุตบอลหรือผู้เกี่ยวข้องอื่นๆก็สำคัญไม่จำเป็นต้องโค้ชฟิตเนสที่จะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ผมคิดว่าทุกทุกคนควรให้ความสำคัญ
กับเรื่องนี้อย่างมาก

Q : เป้าหมายในการเป็นโค้ชฟิตเนส
A : เป้าหมายตอนนี้คิดว่าอยากจะกลับไปทำทีมชาติอีกสักครั้งนะถ้ามีโอกาส

Q : คิดว่าการเป็นโค้ชฟิตเนสให้อะไรบ้าง
A : แน่นอนว่าการเป็นโค้ชฟิตเนสมันเป็นอาชีพที่ดีเลยแหละยิ่งถ้าเรามีประสบการณ์มากค่าตอบแทน
ก็จะสูงไปด้วยและถ้าคุณทำทีมอาชีพคุณก็จะได้เดินทางเกือบทั่วประเทศ

Q : แนะนำเยาวชนให้มาสนใจการเป็นโค้ชฟิตเนส
A : จริงๆทุกคนสามารถเป็นได้นะไม่จำเป็นต้อง
เป็นนักฟุตบอลหรือเป็นนักกีฬามาก่อนก็ได้
ถ้าคุณสนใจและอยากที่จะพัฒนาตัวเองในทุกๆวันสามารถใช้ตรงนี่เป็นได้จุดเริ่มต้นก็เลือกเรียนใน คณะวิทยาศาสตร์การกีฬาที่เหลือก็ตั้งใจเรียนและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา

Q : รู้สึกยังไงกับคำว่า "เด็กภูธรสู้เด็กเมืองใหญ่ไม่ได้"
A : จริงๆ คำเนี่ย มันใช้ได้นะในยุคแรกๆ
เพราะเด็กภูธรแต่ก่อนไม่ค่อยได้รับโอกาสหรือ
อาจจะมีโอกาสแต่ก็มีข้อจำกัดอะไรหลายอย่าง
แต่ในปัจจุบันนี้คิดว่าโอกาสของทุกคนมันเท่ากันแล้วอยู่ที่ใครจะไขว้คว้าไว้ได้มากกว่ากันเท่านั้นเอง

Q : มีหลักหรือวิธีการถ่ายทอดความรู้ด้านฟิตเนสของกีฬาฟุตบอล อย่างไร
A : หลักการจริงๆมันก็ไม่มีอะไรนะแค่ตั้งใจเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลาแต่จริงๆ
ถ้าทำอะไรซักอย่างหนึ่งไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร
อยากให้ตั้งใจและทำให้มันเต็มที่ คิดว่ามันทำได้
ก็จะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก

Q : สไตล์ในการเป็นโค้ชฟิตเนส
A : ก็เหมือนการทำงานปกติทั่วไปในเวลางานก็จริงจังเพราะตำแหน่งนี้มันคือการนำนักกีฬาทำในสิ่งต่างๆมันไม่จำเป็นต้องเครียดมากแต่มันก็ไม่ได้สนุกสนานกันเกินไปจริงๆตรงนี้มันก็เหมือนเป็นศิลปะในการใช้ชีวิตอย่างหนึ่งในการพูดให้คนเข้าใจและทำตามมันไม่จำเป็นต้องวางมาดเข้มอะไรมากมายให้มันดูจริงจังจน เสียความเป็นตัวเองแค่ตั้งใจและจริงจังในช่วงที่ทำงานแค่นี้ก็พอ

Q : ฝากช่องทางการติดตาม
A : Facebook : Udom Endu
Fan page: Sport Science Service พัฒนานักฟุตบอลสู่ทีมอาชีพ


#สโมสรแพร่ยูไนเต็ด
BALLpootorn

01/03/2025

ฉันเพิ่งมียอดผู้ติดตามถึง 4.9 หมื่น คน! ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนฉันมาโดยตลอด ฉันคงมาถึงจุดนี้ไม่ได้หากไม่มีพวกคุณทุกคน 🙏🤗🎉

27/02/2025

Explosives speed and reaction agility with finishing.

27/02/2025

ต้องยอมรับตรงๆว่า ในฐานะผู้ฝึกสอนด้านนี้โดยตรงที่ยังไงมันย่อมหนีไม่พ้นแน่ๆ เรื่องของการฝึกสมรรถภาพร่างกายให้กับนักฟุตบอลใน Session ของ Strength training

จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นนักฟุตบอลในระดับไหนที่ไล่ตั้งแต่ นักฟุตบอลที่ยังอยู่ระดับ Academy ไปจนถึงระดับอาชีพ ในเรื่องของการฝึกความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อเพื่อเล่นฟุตบอลนั้นมันสำคัญมาก เรียกได้ว่า มันไม่จำเป็นต้องรอให้โตเต็มที่หรือเริ่มมีอาการบาดเจ็บมารบกวนก่อนค่อยเริ่มฝึกหรือเริ่มให้ความสำคัญ

คำถามใหญ่ๆ เลยก็น่าจะมี 2 ลักษณะ คือ เล่นทำไม? อันนี้ต้องขอตอบแบบกำปั้นทุบดินเลยว่า ก็เล่นเพื่อเสริมสร้างและพัฒนาความแข็งแรงไง ตรงตัวเลย ต่อให้เราไม่ใช่นักฟุตบอล เราก็ต้องรักษาและพัฒนากล้ามเนื้อเพื่อสุขภาพ แต่ในส่วนของเด็กนั้น คุณจะรอก็ได้ แต่ถ้าคุณฝึกให้เขา เด็กก็จะมีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง อันนี้ในส่วนของการใช้ชีวิตทั่วไป แต่จากที่เคยคลุกคลีกับผู้ปกครองเด็กที่อยากผลักดันให้ลูกๆมีพื้นฐานความแข็งแรงของกล้ามเนื้อร่างกายที่ดีนั้นแตกต่างออกไป เนื่องจากผู้ปกครองมองว่า การที่ลูกมีพื้นฐานร่างกายที่ดี ย่อมมีโอกาสให้ลูกสามารถต่อยอดและพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีที่รออยู่ในอนาคต

ลักษณะที่สอง คือ เล่นยังไง จึงจะเหมาะสม ? อันนี้ผมว่ามันเป็นสิ่งสำคัญนะ เพราะมันเหมือนเป็นต่อยอดการพัฒนา ทั้งผู้ปกครองและผู้ฝึกสอนให้ได้พูดคุยกันถึงการจะพัฒนาเด็กคนนึงให้มีศักยภาพทางร่างกายที่ดีขึ้น จริงๆแล้ว ทุกๆอย่างนั้นแหล่ะมันร่วมมือกันมากกว่า มานั่งหาพวกพ้องจับกลุ่มกันแล้วบอกว่า เล่นแล้วมันไม่ดี เล่นแล้วมันไม่เหมาะ

ผมมีคำถามที่อยากชวนให้ทุกท่านช่วยแสดงความคิดเห็นสักนิดครับ
1.การรับ-ส่ง ฟุตบอล ที่ต้องใช้การจัดระเบียบร่างกาย การวางเท้า น้ำหนักในการส่งออกไปในแต่ระยะ ถ้าจะให้เกิดคุณภาพที่ดี นั้นต้องมาจากการฝึกที่เรียกว่า เทคนิค ใช่ไหมครับ และย้อนกลับไปที่เรื่องเทคนิคที่ดี ก็ย่อมมาจากการที่เด็กจัดระเบียบร่างกายได้ดี มีบาลานซ์การทรงตัววางเท้าหลักได้ดี จนทำให้สามารถถ่ายน้ำหนักในการส่งบอลได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกระยะ หรือการขยับเคลื่อนที่ ทรงตัวไปรับฟุตบอลได้ดีแม้เพื่อนส่งให้ไม่ตรง ในลักษณะแบบนี้ ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมีผลต่อการมีเทคนิคของการเล่นฟุตบอลไหม?

ผมขอดักต่ออีกนิด ถ้าคุณกำลังบอกว่า สำหรับเด็กก็ฝึกพวก Body weight ไปก่อนสิทำไมต้องรีบให้เล่นกับน้ำหนักของวัตถุ (Weight training)

ผมจะบอกอย่างนี้นะครับว่า ก็ในเพื่อเราฝึกให้เด็กรู้จักเล่น Body weight แล้ว แล้วถ้ามันออกมามีคุณภาพดี ซึ่งมันมีผลโดยตรงต่อเทคนิคของฟุตบอล เราก็ฝึก Weight training ไปเลยสิครับ ทำไมมันจะไม่ได้ หรือคุณกำลัวนึกภาพว่า การฝึกเวทเทรนมันคือการแบกบาร์เบลล์หนักๆ ถ้าคิดแบบนั้นจริง นั้นมันไม่ใช้เหตุผลผลที่จะควรฝึกนะ เพราะ การฝึกเวทเทรนนิ่งให้เด็กมันขึ้นอยู่กับ ท่าฝึกและความหนัก ปริมาณและจำนวน และการพัก ซึ่งมัน คือองค์ความรู้ที่สำคัญมากๆ ในการพัฒนา

หรือที่บอกๆและเชื่อกันมานั้น ว่า เด็กเล่นเวทเทรนนิ่งไม่ดี มันเพราะเราไม่รู้ว่า
-ต้องฝึกท่าไหน
-กล้ามเนื้อมัดไหน
-ความหนักของวัตถุที่ใส่ต้องเท่าไหร่
-จำนวนครั้งในการเล่นและจำนวนรอบในการฝึกต้องเท่าไหร่
-การพักในท่าฝึกนี้ต้องกี่นาทีและควรพักกี่วันหลังเล่นไปแล้ว
-เล่นแล้วต้องกินอะไร
-ถ้ามีเอฟเฟ็คหลังจากการเล่นต้องทำอย่างไร
-ครบกี่เดือนแล้ว ต้องพัฒนาไปการฝึกส่วนไหนต่อ

ก็ถ้าไม่รู้จริงๆ ก็ไปศึกษาก่อนหรือปล่อยให้ผู้ที่เขาทำเป็นอาชีพ ให้เขาจัดการ แค่นั้นเอง.

24/02/2025

“ฟุตบอลเด็กต้องเน้นฝึกเรื่องสมรรถภาพร่างกายไหม?”

ต้องรับยอมว่า การทำทีมฟุตบอลสมัยใหม่ของโค้ชในแต่ละโรงเรียนนั้น เราจะเห็นรูปแบบการเล่นใหม่เกิดขึ้นเยอะมากมาย และที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ไม่มีคำว่า ทีมเล็กทีมใหญ่แล้ว เพราะฟุตบอลในปัจจุบันต้องบอกว่า ทันกันหมด

จากแต่ก่อนชื่อทีมจากโรงเรียนใหญ่ๆ ถ้ามีคัดเด็กฝีเท้าดีๆได้มากเท่าไหร่ โอกาสในการได้แชมป์ของแต่ละการแข่งขันก็มีสูงตามไปด้วย แต่ในปัจจุบัน มันกลับไม่ง่ายเลย เพราะเราจะมักเห็นทีมเล็กๆล้มทีมใหญ่ๆด้วยระบบและการวิ่งไล่บี้ไล่แย่งตั้งแต่นาทีแรกยันนาทีสุดท้าย

จากแต่ก่อนเราจะเห็นว่า ถ้าทีมใหญ่เมื่อเจอทีมเล็กที่คิดว่า ความสามารถตัวผู้เล่นเป็นรองกว่า โค้ชก็จะสั่งให้เด็กเล่นกดดันสูงไปเลยเพื่อไม่ต้องการให้คู่ต่อสู้มีเวลามีพื้นเล่น และจะได้ไม่ต้องเหนื่อยไล่บอลทีหลัง เรียกได้ว่า ให้ขึ้นไปแย่งเอาบอลมายิงประตูตั้งแต่แดนคู่ต่อสู้เลย แต่หลังๆมานี้ เราก็มักจะเจอทีมเล็กๆที่ความสามารถผู้เล่นเป็นรองนี่แหล่ะ ที่ขึ้นไปไล่บี้ไล่แย่งทีมใหญ่เพื่อไม่ให้เวลาเล่น มีเวลาต่อบอลมายิงประตูแทนก็มีเยอะแยะ หรือจะเป็นแบบกลับลงมารับต่ำในแดนเพื่อเอาพื้นที่เล่นโต้กลับก็มีเยอะ ตามระบบของโค้ชแต่ละคนก็แล้วแต่

เอาละ จะเข้าเรื่องเลยละกัน หลังจาก กล่าวนำมาหลายบรรทัดพอสมควร

ผมกำลังจะชวนคิดตามว่า ในทุกๆแท็คติกที่มานั้นล้วนเป็นการเล่นที่ใช้พละกำลังของผู้เล่นสูงมาก ความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะจะเริ่มเป็นเรื่องรองลงมาแล้วจากการทำทีมฟุตบอลในยุคแรกๆ

นับวันมันเริ่มกลายเป็นเรื่องยากในทีมที่ยังใช้ความสามารถเฉพาะตัวของเด็กให้เล่นกันเองหรือใช้แทคติกฟุตบอลสไตล์ที่เน้นครอบครองบอล เล่นแบบปลอยภัย ส่ง-กลับไป-กลับมา หาช่องหาพื้นที่ให้ได้ก่อนแล้วจึงเข้าโจมตี เพราะเมื่อทีมขนาดเล็กที่ไม่มีผู้เล่นคุณภาพดีเท่าไหร่ ก็จะเปลี่ยนวิธีการเล่นเป็น บีบพื้นที่ตรงกลางให้แน่น ปิดพื้นที่แนวลึกไม่ให้คู่ต่อสู้เข้าเจาะตรงกลางได้ง่ายๆ ให้ความสำคัญกับการยืนระยะห่างตำแหน่งที่ดีบีบพื้นที่ให้แน่นแล้วส่วนกลับจากความผิดพลาดของคู่ต่อสู้ที่เสียบอลเอง

ในฟุตบอลนักเรียนในแต่ละรายการเราเห็นหลายๆทีมสำหรับทีมที่มีขนาดเล็กหรือความสามารถเฉพาะตัวเป็นรองหรือถึงขั้นใช้เด็กอายุน้อยเป็นหลักมาเล่นหาประสบการณ์ก่อน จะเห็นได้เลยว่า ทีมเหล่านี้จะเล่นเน้นทั้งเกมรับและเกมรุกกันทั้งสองอย่าง วิ่งสู้ฟัดใส่แทบตลอดทั้งเกม

แต่ก่อนโค้ชมักคิดว่า ฟุตบอลเล่น 90 นาที จะยิงตอนไหนก็ได้ ค่อยๆเซต ค่อยๆหาช่องไป เดี๋ยวก็ได้ประตู เพราะคิดว่า การครอบครองบอลไว้กับตัวมันไม่เสียพลังงานเท่าการไม่มีบอลครอบครอง จนสุดท้ายจากจะเล่นสบายๆ ไม่เหนื่อย กลับพลาดท่าเสียบอลซะเอง จนถูกคู่ต่อสู้ตัดบอลได้และโต้กลับมายิงประตูซะงั้น ก็มีให้เห็นเยอะแยะ

จากประสบการณ์เลยที่ผมทำทีมเล็ก ที่คิดว่าในเมื่อทีมตัวเองไม่มีคุณภาพผู้เล่นที่ดีมากหนัก รู้ว่าเป็นรอง จากคอยตั้งรับในแดนเพื่อรอโดนยิงอย่างเดียว ก็เปลี่ยนเป็นกำหนดพื้นที่ในการเข้าบีบพื้นและกดดันแทน เมื่อตัดบอลได้ก็เล่นเกมรุกแบบรวดเร็ว พยายามสร้างโอกาสในจบสกอร์ให้ได้มากที่สุดเพื่อเป็นกดดันคืน แพ้ก็แพ้ แต่เล่นแบบนี้ผมว่ายังมีโอกาสสู้ และที่สำคัญฟุตบอลไม่น่าเบื่อ

ผมกล้าพูดเลยว่า สิ่งเหล่านี้มันเลยเป็นปัจจัยที่ทำให้ทุกๆทีม ทุกๆระดับ นิยมให้ความสำคัญกับระบบฟิตเนสมากขึ้นจากเดิม จากแต่ก่อนแทบจะไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เลย

21/02/2025

“ซ้อมแบบนี้ไม่ดี”

ในฐานะผู้ฝึกสอนด้านสมรรถภาพร่างกายนักฟุตบอล ผมอยากแสดงความคิดเห็นในมุมที่ได้ฝึกซ้อมและออกโปรแกรมด้านสมรรถภาพร่างกายให้กับนักฟุตบอลในทุกวัน

ผมอยากจะแชร์แนวคิดการทำงานแบบนี้ให้ทุกท่านได้ลองทำไปเป็นแนวทางในการทำงานดูนะครับ

หากวันนี้ท่านมีความรู้สึกว่า โปรแกรมที่ท่านทำอยู่มันผิดหรือมันถูก เนื่องจากท่านไปได้ยิน คำแนะนำ ของผู้ฝึกสอนท่านอื่นมา ที่ท่านคิดว่า เขามีไลเซ่นโค้ชที่ใหญ่กว่าท่าน หรือคิดว่า ผู้ฝึกสอนท่านนั้นอยู่ในทีมที่ใหญ่ด้วยชื่อเสียง พอฟังแล้วท่านรู้สึกว่า สิ่งที่เราฝึกซ้อมในอยู่มันผิด และเสียความมั่นใจ และคิดจะเปลี่ยนแนวทางการทำงานของตัวเอง

มาถึงตรงนี้ ผมขอให้ท่านคิดใหม่นะครับ โค้ชทุกคนมีแนวทางของตัวเอง ไม่มีใครผิดไม่มีใครถูก การมีไลเซ่นใบใหญ่ไม่ได้การันตรีความสำเร็จหรือเป็นดั่งผู้รู้ ถ้าท่านทำงานและมีโอกาสได้สอนนักฟุตบอลทุกวัน ตัวท่านเองนั้นแหล่ะ ที่จะบอกว่าได้ โปรแกรมที่ท่านซ้อมเหมาะสมไหม และที่สำคัญทีมที่ท่านทำอยู่นั้นแหล่ะจะเป็นกำหนดทิศทางแนวทางการทำงานของท่าน

เพราะโปรแกรมที่ดีต้องมาจาก การที่เราต้องรู้ข้อมูลของนักฟุตบอลของทีมเรา แทคติกของทีมเรา และศักยภาพของทีมเราเอง มาจากการพูดคุยกันในทีมงานว่า โปรแกรมนี้เหมาะสมกับช่วงเวลาไหม ศักยภาพของนักฟุตบอลที่เรามีเหมาะสมจะทำไหม

ยกตัวอย่างนะครับ สมมุติเราพยายามใช้การฝึกซ้อมแบบ “ ทีม A “ ทำเหมือนทุกอย่าง แต่ไม่มีทีมไหนทำได้เหมือนเป๊ะๆ ไม่ใช่เพราะโค้ชหรือนักฟุตบอลไม่เก่งหรือไม่ดีนะครับ แต่ผมคิดว่า ในเมื่อทีมเรามันไม่ใช่ ทำเท่าไหร่มันก็ไม่ใช่ เรามองเห็นแค่ส่วนนึงของทีมเขา แต่ลึกๆแล้ว ทุกโปรแกรมมันมีรายละเอียดของมันในตัว และในเมื่อเราไม่รู้รายละเอียดของทีมเขา เราจะพยายามไปลอกเขาทำไม ทำไมเราไม่ทำตามแนวทางของเราเอง ฝึกซ้อมวันนี้ไม่สำเร็จ พรุ่งนี้ปรับแก้ใหม่ ถ้าทำแล้วมันเหมาะ วันต่อไปก็เพิ่มรายละเอียดขึ้นไปจากเดิม เก็บไว้เป็น Logbook ตัวเองไว้ แค่นั้นเอง

“อย่าไปฟังมาก ผู้รู้อะ บางทีแม่งเองยังไม่มีทีมทำ”

07/02/2025

วิ่งรอบสนาม ทำให้ฟิตได้ครับ ถ้าใส่ละเอียดเรื่องความหนัก ปริมาณ การพัก เข้าไปให้ ศัพท์ทางวิทยาศาสตร์การกีฬาคือ (Intensity+Volume+Recovery)

มันก็เหมือนที่นักโภชนาการ ชอบบอกว่า กินมาม่า มันไม่มีประโยชน์ มันไม่โต

ใช่ครับ ถ้ากินมาม่าเปล่าๆ มันไม่ได้อะไรแน่นอน แต่ถ้าคุณใส่ผัก ใส่หมู ใส่ไข่ ลงไปมันก็มีประโยชน์

แล้วอีกอย่าง คุณไม่ได้กินทุกวัน จะกินก็ต่อเมื่ออยากกิน เช่นเดียวกันครับ วิ่งรอบสนาม คิดว่า โค้ชเขาก็ไม่ได้จับวิ่งทุกวันแน่นอน และอีกอย่างที่แน่ๆเลยคือ วิ่งก็คือพื้นฐานของการสร้างสมรรถภาพร่างกายแบบ Aerobic

06/02/2025

Dynamic stretching and mobility hip and goin movement + coordination

04/02/2025

“ทีมที่ประสบความสำเร็จและยืนระยะได้ เขาเริ่มต้นจากอะไร ? “

แน่นอนว่าการทำทีมให้ประสบความสำเร็จในยุคนี้ มันไม่ใช่เพราะการเป็นทีมที่มีต้นทุนทางธุรกิจหรือเงินที่มากกว่าทีมอื่นแล้วจะประสบความสำเร็จในภาพที่คิดได้ง่ายๆ แต่หากเรามองไปที่ต้นทางหรือการจัดการแบบลึกๆ ของยอดทีมเหล่านั้น จะเห็นได้เลยว่ามันเป็นเพราะทีมเหล่านั้นมีต้นทุนมาจาก วัฒนธรรมในทีมที่มีระเบียบ วินัยและความพยายามในการทำให้โค้ช เจ้าหน้าที่และนักฟุตบอล ปฏิบัติในกฏและระเบียบวินัยของทีม โดยที่ไม่มีใครยิ่งใหญ่มากกว่าคนอื่น ทุกคนมาทำเพื่อทีม เล่นเพื่อทีม ไม่ได้ถูกจ้างมาเพื่อทำคอนเทนต์ พอทีมชนะทุกอย่างดีหมด ทุกคนถือว่าตัวเองสำคัญตัวเองมีส่วนสำคัญ แต่พอทีมแพ้ขึ้นมา ไม่มีใครกล้ายืดอกรับ สุดท้ายก็ไปโพสต์ด่า โพสต์น้อยใจ กลับกลายเป็นว่า มีเงินก็ได้แค่เพื่อนกิน เงินหมดก็แยกย้าย

สำหรับทีมที่ไม่ได้มีทรัพยกรเงินตรามากมายและไม่ได้มีธุรกิจเป็นแหล่งขับเคลื่อนทีม หากรับฟังจากประสบการณ์ตรงจากคนที่เคยอยู่ในทีมเหล่านั้น มักจะรับรู้ไปในทางเดียวกันว่า พวกทีมเหล่านั้นมีบางสิ่งที่เหมือนกันคือ “วินัย” และ “กฏของทีม” ซึ่งมันไม่ใช่การทุ่มเททางจำนวนเงินอย่างหนักในช่วงแรกๆ ด้วยการจ้างซุปเปอร์สตาร์ฝีเท้าดีๆมารวมอยู่ในทีมเดียวและปล่อยให้เล่นจนสร้างความสำเร็จได้ แต่จริงๆแล้วมันเป็นการสร้างวัฒนธรรมของทีม สปิริตของทีมและแนวทางของทีมที่ชัดเจน ด้วยการลงมือทำอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งมันส่งผลลัพธ์กลับคืนมาในภายหลัง

การมีซุปเปอร์สตาร์ในทีมมากมาย แต่ไม่มีโค้ชที่มีบารมีมากพอมาควบคุมให้ทุกคนเล่นไปตามแทคติกตามปรัชญาของทีม มันก็เหมือนระเบิดเวลาที่มีหลายลูกรอวันระเบิด

เมื่อนักฟุตบอลให้เกรียรติแค่คนจ่ายเงิน โค้ชเอาใครมาก็คงอยู่ได้ไม่นาน เพราะโค้ชก็ลูกจ้าง นักฟุตบอลก็ลูกจ้าง แล้วทำไมนักฟุตบอลต้องฟังโค้ช ยิ่งถ้าคนจ่ายเงินหนุนหลังนักฟุตบอล ทีมก็รอวันพังได้เลย

และถ้าทำทีมเพื่อเพียงเน้นคอนเทนต์ ทีมก็จะได้แค่คอนเทนต์ คำว่า สปิริตทีมมันก็จะยิ่งไกลตัวไปเรื่อยๆ

วันที่ทีมมีเงิน มันก็ไม่ต่างจากบ่อทอง บ่อแร่ ที่ใครๆก็อยากมาขุด วันที่เงินหมด มันก็คือบ่อ…ที่ใครๆก็อยากหนีไปไกลๆ

ฟุตบอล…มันไม่ง่ายอย่างที่คิด

04/02/2025

นักวิทยาศาสตร์การกีฬา หรือ โค้ชฟิตเนส

"ก่อนอื่นให้เข้าใจก่อนว่า ตำแหน่งนี้ไม่ได้มีเพียงหน้าที่แค่พานักฟุตบอลเข้าฝึกซ้อมแค่เพียงในยิมเท่านั้น ถึงแม้ในบางสถานที่หรือบางองค์กรจะจำกัดขอบข่ายงานให้โค้ชฟิตเนสแค่นั้นก็ตาม แต่จริงๆแล้วด้วยศาสตร์วิชาที่แต่ละมหาวิทยาลัยได้เปิดสอนให้กับนักศึกษาคณะนี้นั้น ต่างก็จะมอบทักษะที่เกี่ยวกับการพัฒนาศักยภาพและรวมไปถึงให้ความรู้แก่การป้องกันการบาดเจ็บของนักฟุตบอลและการนำเทคโนโลยีต่างๆที่จะช่วยให้ทีมหรือนักฟุตบอลพัฒนาความสามารถขึ้นไปอีก"

หากย้อนกลับไปในช่วงแรกๆที่กีฬาฟุตบอลในประเทศไทยยังไม่บูมและไม่เป็นธุรกิจเต็มรูปแบบขนาดนี้ ทีมส่วนใหญ่ก็จะเน้นและให้ความสำคัญไปที่การฝึกเฉพาะแค่ในด้านเทคนิคและแทคติกของฟุตบอลเพียงอย่างเดียว เรียกง่ายๆว่า นักฟุตบอลก็จะซ้อมแต่เตะบอล ถึงเวลาแล้วก็ลงแข่งขัน โค้ชหลายๆท่านในยุคนั้นจะพยายามหลีกเลี่ยงการเข้ายิมเพื่อเล่นเวทเทรนนิ่ง เนื่องจากมีความเชื่อว่า การเล่นเวทเทรนนิ่ง จะทำให้ประสิทธิภาพในเล่นฟุตบอลลดลง เพราะทำให้กล้ามเนื้อล้า นักฟุตบอลจะเฉื่อย เสียความรวดเร็วลงไป และที่มักมีปัญหาบ่อยๆ คือ เสียเวลาในการซ้อม รวมถึงทำให้กล้ามโตไม่เหมาะสมกับการเป็นนักฟุตบอล

และเมื่อมีโค้ชต่างชาติเข้ามา อาจจะเป็นชาติบราซิลในช่วงนั้น ที่มีการนำโปรแกรมเวทเทรนนิ่งเข้ามาใช้กับทีมฟุตบอลเพื่อพัฒนากล้ามเนื้อให้นักฟุตบอลและเป็นโปรแกรมที่เฉพาะเจาะจงกับนักฟุตบอลโดยตรง ซึ่งจะเป็นลักษณะในการฝึกยกเวทร่วมด้วยกับการฝึกเทคนิคฟุตบอล และพบว่ามันเพิ่มศักยภาพของนักฟุตบอลตอนลงแข่งได้จริง ๆ และไม่ได้ทำให้กล้ามโตเหมือนนักเพาะกายอย่างที่กลัวๆ กัน โดยต่อมาถูกเรียกโปรแกรมนี้ว่า Strength and Condition training และยังถือว่า เป็นตำแหน่งที่ใช้เรียกโค้ชฟิตเนสในปัจจุบันด้วย

คราวนี้เรามาทำความเข้าใจในความหมายของ Strength and Condition กันครับ สำหรับการฝึกซ้อมและแข่งขันนั้น เรามักมีความคิดว่า การจะเป็นนักฟุตบอลที่มีโอกาสประสบความสำเร็จได้นั้น ความแข็งแรงต้องมาก่อน และแน่นอนว่าจะนำไปสู่การฝึกที่เน้นไปที่การยกเวท สร้างกล้ามเนื้อและพละกำลังเป็นส่วนใหญ่ แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป โลกของวงการฟุตบอลก็ค่อยๆ ได้เรียนรู้ว่า “แค่กล้ามเนื้อที่แข็งแรง ไม่อาจทำให้นักฟุตบอลและทีมเป็นแชมป์ได้” แต่ยังต้องมีองค์ประกอบอื่นๆ อีกร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็น
-ความอดทน(Endurance )
-ความเร็ว(Quickness)
-ความคล่องแคล่วว่องไว(Agility and Speed)
-การเคลื่อนไหวที่สมดุลและมีการประสานสัมพันธ์กันอย่างดี(Balance and Co-ordination)

คราวนี้เรามาขยายความคำว่า Strength ที่เรารู้กัน ก็คือการฝึกความแข็งแรง แต่ในเชิงรายละเอียดจะแยกย่อยไปได้อีกเป็น
-Power(พลังกล้ามเนื้อ)
-Strength(ความแข็งแกร่ง
-Endurance(ความอดทน)
ซึ่งนักฟุตบอลในแต่ละตำแหน่งก็ใช้ไม่เหมือนกัน เช่น กองหลังกับศูนย์หน้าก็จะใช้ Muscle Power เป็นสมรรถภาพหลัก ส่วนกองกลางหรือพวกริมเส้นก็จะใช้ Agility และ Endurance เป็นสมรรถภาพหลัก แต่จริงๆแล้วฟุตบอลมันใช้ทั้งหมดและเกี่ยวเนื่องกัน ซึ่งการฝึก Strength นั้นก็จะมีโปรแกรมที่นิยมทำกัน คือ
- Circuit(การฝึกแบบสถานี)
- HIIT (การฝึกแบบหนักสลับพัก)

คราวนี้มาที่คำว่า Condition เป็นการฝึกที่จะเสริมสร้างให้นักฟุตบอลอยู่ในสภาพร่างกายที่เหมาะสมกับการเล่นตามแทคติกและปรัชญาทีม คือ มีความพร้อมไม่บาดเจ็บง่าย มีการเคลื่อนไหวและข้อต่อต่าง ๆ และสมรรถภาพทางกายทุกด้านพร้อมที่จะเข้าแข่งขัน ซึ่ง Strength and Condition Training ไม่ได้มีรูปแบบตายตัว แต่เป็นการเสริมจุดแข็ง ลบจุดอ่อนให้แต่ละคน ซึ่งแต่ละวันก็จะฝึกไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับ Coach ที่จะออกแบบให้เหมาะสมกับแต่ละคน

ขอขอบคุณภาพจาก Phrae United

29/01/2025

ฟุตบอลระดับนักเรียนนอกจากจะมีปัญหาเรื่องความรุนแรงของผู้เล่นแล้ว จากผู้ตัดสินเองที่ถือได้ว่าเป็นส่วนที่หนักเช่นกัน

27/01/2025

4-2-3-1 : Build up from back and combination play to finishing on final zone