Orawana Holistel Tel : +(0) 76 377 679, (0) 61-6594626
Fax : +66 (0) 76 377 679

29/03/2023

เปิดไทม์ไลน์ทั้งการศึกษาและความสำเร็จบางส่วน
ของคุณหมออรวรรณ ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี
ที่ทำให้เรามีความเชี่ยวชาญด้านการรักษาแบบองค์รวม
และที่สำคัญ คือการที่เรายังคงไม่หยุดศึกษาหาความรู้
และนวัตกรรมการรักษาแบบใหม่ ๆ ที่คัดสรรมาอย่างดี
Dr.Orawan พร้อมให้คำปรึกษา
การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม
ศึกษาเพิ่มเติมและติดต่อได้ผ่าน Inbox
หรือช่องทางต่าง ๆ
📍www.drorawan.com
📍Line: https://lin.ee/FPqYsmE
📍Youtube : https://shorturl.asia/I7NlT
📍TikTok : https://shorturl.asia/6V5TI
📍โทรศัพท์สาขากรุงเทพ : 061-656-2395, 02-6614431
สาขาภูเก็ต : 086-896-6103, 076-377679

โรคภัยไข้เจ็บของมนุษย์ และวิธีบำบัด1. โรคทางกาย (Physical Discase) เกิดเป็นบางคน = แพทย์ทั่วไปรักษา 2. โรคทางใจ (Phychol...
28/02/2023

โรคภัยไข้เจ็บของมนุษย์ และวิธีบำบัด

1. โรคทางกาย (Physical Discase) เกิดเป็นบางคน = แพทย์ทั่วไปรักษา

2. โรคทางใจ (Phychological Discase) เกิดเป็นบางคน = จิตแพทย์รักษา

3. โรคทางวิญญาณ ( Spiritual Discase) เป็นทุกคน = พระธรรมคำสอน

ความสุขของมนุษย์ 😊 ( Happiness)✨

1. ความสุขทางกาย (ความสุขที่เป็นรูปธรรม)
2. ความสุขทางใจ (ความสุขที่เป็นนามธรรม)
3. ความสุขทางจิตวิญญาณ (ไม่มีใครพูดถึงแต่รับรู้สัมผัสได้ด้วยตนเอง)

ระดับของความสุข 💐
(ทั้งรูปธรรม+นามธรรม) 6 ขั้น
ระดับ 1 ความสุขแบบ “สบาย” (ปกติสุข)
ถ้าต่ำกว่านี้มีความทุกข์ทันที
ระดับ 2 ความสุขแบบ “สนุก”
- ได้เสพ ได้เพลิดเพลิน เป็นความสุขที่เกินจากความสุขปกติ ได้จากการบำรุงประสาทสัมผัส ตา หู จมูก ลิ้น และกาย
- เป็นความสุขที่เสริมแต่งให้เลิศหรูหรา
- คนส่วนใหญ่บนโลกนี้กำลังแก่งแย่งกันเสพใช้เงินเป็นจานวนมาก
- ส่วนใหญ่ความสุขแบบสนุกจะเป็นทางกาย รูปธรรม

ระดับ 3 ความสุขแบบ “สันติ” หรือที่เรียกว่า สันติสุข หากดูผิวเผินจะคล้ายกับความ “สบาย” หรือปกติสุข แต่มันต่างกัน
ระดับ 4 ความสุขแบบ “สละ”หรือเรียกว่า “ปิติสุข” ที่เกิดจากการให้
ระดับ 5 ความสุขที่เกิดจากความสงบ หรือเรียกว่า “สงบสุข”
-เป็นความสุขจากภายใน
ระดับ 6 ความสุขระดับสุดท้าย คือ นิพพาน
เป็นความสุขที่เกิดจากการปฏิบัติและเรียนรู้ได้ด้วยการฝึกสมาธิฝึกจิตให้ปล่อยวาง และเกิดความสะอาด สว่างสงบ ได้ตลอดเวลา

การบำบัดด้วยศาสตร์การแพทย์องค์รวมจึงจะได้คำตอบที่สมบูรณ์ที่สุดสำหรับสุขภาพที่ต้องการความแข็งแรงทั้งกายใจจิตและสังคม

ด้วยความรคและปรารถนาดีจากแพทย์และทีมงานสถาบันสุขภาพครอบครัวองค์รวมดร.อรวรรณ
www.drorawan.com
📍E mail : [email protected]
📍Line: https://lin.ee/FPqYsmE
📍Fb: https://shorturl.asia/iSnF7
📍Youtube: https://shorturl.asia/I7NlT
📍TikTok: https://shorturl.asia/6V5TI
🎯Bangkok: 061-656-2395, 02-6614431
🎯Phuket: 086-896-6103, 076-377679
#องค์รวม #การบำบัด #แพทย์ที่ดีที่สุด #ความสุข #สุขภาพแข็งแรง #นิพพาน #สว่าง สะอาด สงบ # พระพุทธเจ้า #ดร.อรวรรณ

คุณประโยชน์ของมะม่วงมะม่วง เป็นผลไม้ที่มีไขมันอิ่มตัว คอเลสเตอรอล และโซเดียมต่ำ และยังเป็นแหล่งอาหารที่อุดมด้วยไฟเบอร์ ว...
27/02/2023

คุณประโยชน์ของมะม่วง

มะม่วง เป็นผลไม้ที่มีไขมันอิ่มตัว คอเลสเตอรอล และโซเดียมต่ำ และยังเป็นแหล่งอาหารที่อุดมด้วยไฟเบอร์ วิตามินบี 6 วิตามินเอ และวิตามินซี รวมทั้งโพแทสเซียม แมกนีเซียม และสังกะสี นอกจากนี้ก็ยังมีเควอซิทิน (Quercetin) เบต้าแคโรทีน (Beta Carotine) กรดโฟลิก และ แอสตรากาลิน (astragalin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีทรงพลัง ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคหัวใจ ริ้วรอยก่อนวัย โรคมะเร็ง หรือภาวะเสื่อมของอวัยวะต่าง ๆ ที่เกิดจากสารอนุมูลอิสระ
มะม่วง มีแร่ธาตุและวิตามินที่มีประโยชน์ขนาดนี้ จึงมีคุณประโยชน์ดังนี้

1. ช่วยควบคุมระดับความดันโลหิต มะม่วงเป็นผลไม้ที่สามารถลดระดับความดันโลหิตได้ เพราะในมะม่วงมีสารอาหารที่สำคัญต่อระบบการไหลเวียนของเลือดอย่ างโพแทสเซียมและแมกนีเซียม ทำให้ระดับความดันโลหิตถูกควบคุมให้อยู่ในระดับที่ปกติ

2.มะม่วงยังมีวิตามินอีที่ช่วยเสริมสร้างฮอร์โมนเพศและต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย

3. ป้องกันโรคมะเร็ง สารประกอบฟีนอล ที่พบในมะม่วงอย่างเช่น เควอซิทิน (Quercetin) ไอโซเควอซิทริน (isoquercitrin) แอสตรากาลิน (astragalin) ไฟเซติน (fisetin) เมทิลแกทเลท (methylgallat) มีฤทธิ์เป็นสารต้านนุมูลอิสระที่ทำหน้าที่ในการต่อต้านการเกิดโรคมะเร็ง นอกจากนี้ในมะม่วงก็ยังมีเพคติน (pectin) สูง และมีผลการวิจัยพบว่าสารเพคตินนี่ล่ะที่มีผลต่อการป้องกันการเกิดมะเร็งในระบบทางเดินอาหารได้

4. ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น เพราะในมะม่วงนั้นมีเอนไซม์ที่ช่วยย่อยสลายโปรตีนให้ง่ายต่อการ ดูดซึมของร่างกาย ขณะที่ไฟเบอร์ในมะม่วงก็สามารถช่วยในการย่อยอาหารได้อีกด้วย

5. ป้องกันโรคหัวใจ วิตามินเอและวิตามินอีในมะม่วงรวมทั้งซีลีเนียม (Selenium) สามารถช่วยป้องกันโรคหัวใจได้ ไม่เพียงเท่านั้นในมะม่วงยังมีวิตามินบี 6 ที่ช่วยป้องกันโรคหัวใจด้วยการลดระดับโฮโมซิสเตอีน (Homocysteine) เพราะโฮโมซิสเตอีนเป็นกรดอะมิโนที่สามารถสร้างความเสียหายให้กับผนังหลอดเลือดได้ อันเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหลอดเลือดหัวใจนั่นเอง

6. ลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) ในร่างกาย เพคตินและวิตามินซีในมะม่วงเป็นพระเอกที่ขาดไม่ได้เลย เพราะสารอาหารทั้ง 2 ชนิดนี้สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดีในร่างกายได้
สำหรับผู้มีโรคไขมันในเลือดสูงควรปรึกษาแพทย์ด้วย

7. บำรุงสมอง วิตามินบี 6 ในมะม่วงนอกจากจะช่วยป้องกันโรคหัวใจแล้ว ก็ยังช่วยป้องกันและสร้างเสริมการทำงานของสมอง เพราะวิตามินบี 6 นี้มีส่วนสำคัญในการทำงานของสารสื่อประสาทที่มีส่วนช่วยในการกำ หนดอารมณ์และรูปแบบในการนอนหลับ การเติมมะม่วงลงไปในอาหารจะช่วยให้ร่างกายได้รับกลูตาไมน์ (Glutamine) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยให้สมองสามารถจดจำและมีสมาธิดีขึ้น และยังทำให้เซลล์สมองตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย

8. รักษาโรคเบาหวานไม่ควรรับประทานมะม่วงสุกซึ่งเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง แต่ใบมะม่วงช่วยรักษาโรคเบาหวานได้ เพียงแค่นำใบมะม่วง 10-15 ใบแช่ลงในน้ำอุ่นและปิดฝาให้สนิททิ้งไว้ข้ามคืน จากนั้นในตอนเช้านำน้ำนี้มาดื่มในขณะที่ท้องว่าง จะสามารถช่วยลดปริมาณน้ำตาลในเลือดได้ วิธีนี้สามารถรับประทานได้ทั้งคนที่เป็นเบาหวานหรือไม่เป็นก็ได้หากผู้ที่มีสุขภาพปกติดื่มน้ำแช่ใบมะม่วงก็จะยิ่งช่วยป้องกันโรคเบาหวานได้ดียิ่งขึ้น

9. บำรุงสายตา มะม่วงมีวิตามินเอสูง ดังนั้นจึงช่วยบำรุงสายตาให้ยังใสปิ๊งปั๊งอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยป้องการการเสื่อมของจอประสาทตาเมื่ออายุมากขึ้นได้อีกด้วย

10. บำรุงผิวพรรณ เพราะวิตามินเอในมะม่วงนั้นมีคุณประโยชน์เพียบพร้อมจริง ๆ แม้แต่ในเรื่องผิวพรรณ การรับประทานมะม่วงทำให้เราได้รับวิตามินเอที่ช่วยกระตุ้นการไห ลเวียนของเลือดในเนื้อเยื่อและผิวหนัง ช่วยให้การอุดตันของรูขุมขนลดลงส่งผลให้ผิวพรรณเรียบเนียนได้ และต้านอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของความร่วงโรยของผิวหนังได้ดีอีกด้วย

11. รักษาสิว หากใครไม่ชอบทานมะม่วงแต่ก็อยากรักษาสิวให้หายโดยไม่พึ่งยาละก็ลองหันมาใช้มะม่วงในการรักษาได้ค่ะ เพราะเนื้อมะม่วงนี้แม้เราจะไม่ได้รับประทานแต่ก็สามารถใช้บำรุงผิวพรรณ ลดสิวบนใบหน้าที่กวนใจได้ เพียงฝานมะม่วงบาง ๆ วางใบหน้าทิ้งไว้ 30 นาที จากนั้นล้างออก วิตามินเอในมะม่วงก็ช่วยลดการเกิดสิวได้เป็นปลิดทิ้งเลย

12. รักษาโรคโลหิตจางในหญิงที่ตั้งครรภ์ มะม่วงเปรี้ยว ๆ ถือเป็นของที่ถูกใจว่าที่คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์เป็นอย่างมาก เพราะช่วยรักษาอาการแพ้ท้องได้เป็นอย่างดี และมะม่วงก็มีธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อหญิงที่กำลังตั้งครรภ์เช่นเดียวกันเพราะหญิงตั้งครรภ์นั้นมักจะเกิดภาวะโลหิตจางได้ง่าย และการรับประทานมะม่วงก็จะช่วยเสริมธาตุเหล็กอันเป็นสาเหตุของโรคโลหิตจางมีระดับสูงขึ้นอยู่ในเกณฑ์ปกติได้

13. สร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย มะม่วงมีสารเบต้าแคโรทีมเช่นเดียวกับผักผลไม้มีสีส้มและสีเหลือ งอื่น ๆ เช่น แครอท เป็นต้น โดยสารเบต้าแคโรทีนนั้นเป็นสารแคโรทีนอยด์อันมีคุณสมบัติในการสร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ฉะนั้นถ้าไม่อยากป่วยง่ายก็ควรจะรับประทานมะม่วงเป็นประจำ จะทำให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับสารพิษและแบคทีเรียต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น

ที่สำคัญคืออย่าลืมว่ามะม่วงสุกมีน้ำตาลสูง ไม่อยากอ้วนละก็อย่ารับประทานจนเกินพอดีละ ไม่อย่างนั้นจะได้รอบเอวหนา ๆ มาเพิ่มด้วย รวมทั้งผู้มีโรคเบาหวานต้องระวังทานแต่พอดีเน้นมะม่วงดิบจะปลอดภัยกว่าค่้ะ

สถาบันสุขภาพครอบครัวองค์รวมดร.อรวรรณเน้นการใข้สารสกัดอาหารแทนยาในการดูแลสุขภาพ และบำบัดโรคมะเร็งและโรคเรื้อรังอย่างได้ผลมานานกว่าสามทศวรรษ เชิญรับคำปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่
www.drorawan.com
📍E mail : [email protected]
📍Line: https://lin.ee/FPqYsmE
📍Fb: https://shorturl.asia/iSnF7
📍Youtube: https://shorturl.asia/I7NlT
📍TikTok: https://shorturl.asia/6V5TI
🎯Bangkok: 061-656-2395, 02-6614431
🎯Phuket: 086-896-6103, 076-377679
#มะม่วง #อาหารแทนยา #องค์รวม #ดร.อาวรรณ

10 ข้อห้ามผู้สูงอายุดื้อเด็ดขาด❎1.ห้ามปีนที่สูง เวลาที่อยู่คนเดียว หรือไม่มีใครอยู่ด้วยที่บ้าน❎2.ห้ามลงเล่นน้ำหรือว่ายน้...
26/02/2023

10 ข้อห้ามผู้สูงอายุดื้อเด็ดขาด

❎1.ห้ามปีนที่สูง เวลาที่อยู่คนเดียว
หรือไม่มีใครอยู่ด้วยที่บ้าน

❎2.ห้ามลงเล่นน้ำหรือว่ายน้ำในสระโดยลำพัง แม้จะว่ายน้ำเป็นและเก่งก็ตาม

❎3.ห้ามล็อคห้องน้ำ เวลาเข้าห้องน้ำที่บ้าน หากเกิดอะไรขึ้นจะได้ช่วยทัน

❎4.ห้ามซื้อยากินเองตามคำแนะนำของใครก็ไม่รู้ที่ไม่ใช่แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ด้านการแพทย์แผนโบราณจริงๆ

❎5.ห้ามกินพิศดาร เหมือนเมื่อครั้งยังวัยหนุ่มสาว เพียงเพราะมีคนยุยง ว่าดีอย่างนั้น ดีอย่างนี้ เช่น เนื้อปลาปักเป้า เหล้าดองพิศดาร อุ้งตีนหมี ดีงู จู๋ช้างฯ

❎6.ห้ามซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า
เวลาไม่มีใครอยู่ที่บ้านด้วย
แม้จะมีความรู้เรื่องไฟฟ้าก็ตาม

❎7.ห้ามเปิดบ้านรับคนแปลกหน้า
เวลาไม่มีใครอยู่บ้านด้วย
เพียงเพราะข้ออ้างต่างๆนาๆของคนแปลกหน้า

❎8.ห้ามเดินทางไปในที่เปลี่ยว
หรือที่ทุรกันดารโดยลำพัง

❎9.ห้ามเข้าใกล้สัตว์อันตราย
หรือสัตว์มีพิษต่างๆ แม้จะไม่กลัวมันก็ตาม
ถ้าอยู่ตามลำพัง ห้ามไปยุ่งกับมันเด็ดขาด ให้โทรแจ้งคนในครอบครัวหรือหน่วยงานที่มีความชำนาญเฉพาะ ให้มาจัดการมันดีกว่า

10. ห้ามกดโอนเงินโดยไม่ปรึกษาลูกหลานเพราะปัจจุบันมีการหลอกลวงทางอินเตอร์เน็ตมากมาย

นี่คือ 10 ข้อห้ามเด็ดขาด
เมื่อเป็นผู้สูงวัยแล้ว..
อย่าดื้อนะคะ

ด้วยความรักและความห่วงใย ปรารถนาดีจากแพทย์และทีมงานสถาบันสุขภาพครอบครัวองค์รวมดร.อรวรรณ
www.drorawan.com
📍E mail : [email protected]
📍Line: https://lin.ee/FPqYsmE
📍Fb: https://shorturl.asia/iSnF7
📍Youtube: https://shorturl.asia/I7NlT
📍TikTok: https://shorturl.asia/6V5TI
🎯Bangkok: 061-656-2395, 02-6614431
🎯Phuket: 086-896-6103, 076-377679
#ข้อห้ามสำหรับผู้สูงอายุ #ห้ามดื้อ #องค์รวม #ดร.อรวรรณ

พระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไรภาพท่านพุทธทาสไปพุทธคยา ปี พ.ศ.2498  ประมาณ 68 ปีที่เเล้ว ชึ่งเป็นครั้งเดียวที่เดินทางไป ในสมัยนั้...
25/02/2023

พระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร

ภาพท่านพุทธทาส
ไปพุทธคยา ปี พ.ศ.2498 ประมาณ 68 ปีที่เเล้ว

ชึ่งเป็นครั้งเดียวที่เดินทางไป ในสมัยนั้นการเดินทางลำบากมาก ต้องเริ่มต้นที่เมือง กัลกัตต้า เเล้วเดินทางต่อด้วยรถไฟ

ผลงานของท่าน
หนึ่งในหนังสือคือ เรื่อง ( #)พระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร

พระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร
#คือบทความของพุทธทาสภิกขุ เป็นหัวใจคำสอนหรือหลักธรรมของพระพุทธเจ้า

เพื่อให้ชนทั่วไปเข้าใจพระพุทธศาสนาภายใน 10 นาที

แก้ไขปัญหาชาวพุทธเข้าไม่ถึงธรรมในพระพุทธศาสนา

จากหนังสือธรรมสมโภช
80 ปี ของพุทธทาส

จึงขออนุญาตในที่นี้นำ
”พระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร”

มาเผยแพร่แก่ชนทั่วไป
เพื่อให้เข้าถึงแก่นธรรม
ในพระพุทธศาสนา

(stars) 1.พระพุทธเจ้า
ตรัสรู้อะไร ?

อริยสัจ 4 คือ

# ทุกข์ คือ
ความไม่สบายกาย
ไม่สบายใจ

# สมุทัย คือ
เหตุที่ทำให้เกิดทุกข์

# นิโรธ คือ
ความดับทุกข์

# มรรค คือ
ข้อปฏิบัติเพื่อความดับทุกข์

(stars) 2. พระพุทธเจ้า
ทรงสอนเรื่องอะไร ?

# “ทุกข์กับการดับทุกข์”

(stars) 3. ภาพรวมของ
พระพุทธศาสนา มีดังนี้

3.1 ให้มองโลก
ตามความเป็นจริง

(จริงขั้นสมมุติ=สมมุติสัจจ์, จริงแท้=ปรมัตถสัจจ์)

อาทิ ตัวเรามีอยู่
แต่หาใช่ตัวตนที่แท้จริงไม่

3.2 ให้ถือทางสายกลาง

# ทางตึง
(ทรมานกายให้ลำบาก) ก็ดี,
# ทางหย่อน
(ฟุ้งเฟ้อหลงใหล มัวเมา) ก็ดี,

มิใช่แนวทาง
ของพระพุทธศาสนา
แต่ของพระพุทธศาสนา
คือ มรรค มีองค์ 8
ทางสายกลางพอดี ๆ

3.3 ให้พึ่งตนเอง
มิใช่พึ่งเทวดา โชคชะตาราศี หรือ ดวงดาว ฤกษ์ยาม

3.4 ไสยศาสตร์
การบนบานศาลกล่าว อ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ การดูฤกษ์ยาม การเจิม ฯลฯ มิใช่พุทธศาสนา

3.5 สิ่งทั้งหลาย
เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย
(อิทัปปัจจยตา)
มิใช่เกิดขึ้นเองลอย ๆ หรือพรหมลิขิต จะดับทุกข์ได้ต้องดับที่เหตุ

3.6 โอวาทที่เป็นหลัก
เป็นประธาน
(hands together) โอวาทปาฏิโมกข์

คือทำกุศลให้ถึงพร้อม
ละเว้นทำชั่วทั้งปวง
และทำจิตให้บริสุทธิ์์

3.7 สิ่งทั้งหลายอยู่ภายใต้
กฎของไตรลักษณ์ คือ
อนิจจัง, ทุกขัง, อนัตตา,

แม้พระนิพพาน ก็เป็นอนัตตาเช่นกัน หาใช่อัตตาตัวตนไม่

3.8 ให้เชื่อในหลักธรรม คือ ทำดี-ได้ดี, ทำชั่ว-ได้ชั่ว

ให้ทำตนอยู่
เหนือดี เหนือชั่ว นั่นแหละ
จึงจะพบนิพพาน
(คือเหนือกรรม)

3.9 จุดหมายสูงสุด
ของพระพุทธศาสนา
คือนิพพาน
(ได้แก่สภาวะจิตที่สงบเย็น ปราศจากทุกข์)

3.10 สรุปธรรมทั้งปวง
รวมลงในเรื่องเดียว คือ

(hands together)“ความไม่ประมาท”

(stars) 4. การศึกษาธรรมะ 2 สมัย

4.1 สมัยปัจจุบัน
คือ รู้จัก กับ รู้จำ

อาศัยการฟัง อ่านค้นคว้า
จึงมีความรู้อยู่ในสมองและในสมุด พูดธรรมะคล่องแต่ปฏิบัติไม่ค่อยได้ จึงได้ผลน้อย

4.2 สมัยพุทธกาล
คือ รู้แจ้ง

โดยเมื่อฟัง – จำแล้ว
ลงมือปฏิบัติ ทำจริงในขณะนั้นทันที เกิดผลเป็นความรู้แจ้งเรื่องชีวิต ดับทุกข์ในขณะนั้นทันที

(stars) 5. วิธีศึกษาพระพุทธศาสนา

เมื่อแรกพุทธปรินิพานนั้น
สิ่งที่พระพุทธองค์ทรงสั่งให้ถือเอาเป็นศาสดาแทนพระองค์

มีเพียง 2 คือ
# ธรรม และวินัย

หลังจากนั้นมา 300 ปี
จึงเกิดมีพระไตรปิฎกขึ้น
(สุตตันตปิฎก วินัยปิฎก และอภิธรรมปิฎก)

บันนี้ล่วงกาลมาถึง 2500 กว่าปี คำสอนเดิม
ขั้นปรมัตถ์ค่อย ๆ หายไป หมดไป เกิดมีคำสอนใหม่ ๆ

เป็นพุทธศาสนาเนื้องอกจับใส่พระโอษฐ์ ว่าเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นอันมาก ดังนั้นในการศึกษาพระพุทธศาสนาพึงอาศัยหลักดังนี้

– ด้านปริยัติ (ความรู้เนื้อหา) อ่าน ฟัง คิด วิจัย ให้เข้าใจคือให้ปฏิบัติได้จริง

( #)หากสงสัย ให้อาศัย
หลักกาลามสูตร เข้าพิจารณาตัดสิน มิใช่เชื่อไปเสียหมด

– ด้านปฏิบัติ
การปฏิบัติทุกอย่างของพระพุทธศาสนา

การทำทาน รักษาศีล ภาวนา

พระพุทธองค์ทรงสอนให้
ทำเพื่อ “ละกิเลส”

มิใช่เพื่อ เอา หวังได้นั่นได้นี่ อันทำให้ยิ่งเพิ่ม โลภะ โทสะ โมหะ หาใช่พุทธศาสนาไม่

ทุกวันนี้ไหว้เพื่อเอา
เพื่อขอ ทำบุญเพื่อเอาสวรรค์ นิพพาน หวังผลทั้งชาตินี้ชาติหน้า ซึ่งกลายเป็นพอกกิเลสยาวนาน

– ด้านปฏิเวธ (ผล)
ทำเพื่อละ จะพบนิพพาน
จิตบริสุทธิ์ มีความสะอาด สว่าง สงบ
แต่ทำเพื่อเอา จะทำเพื่อเอา จะพบกิเลสในตนพอกพูนยิ่งขึ้น ๆ ยาวนาน และยิ่งมีทุกข์มาก

ดังนั้น จงมุ่งปฏิบัติ
เพื่อห่างไกลทุกข์โดยส่วนเดียว ให้ได้เห็นผลด้วยตนเอง
(สันทิฏฐิโก)

(stars) 6. จะศึกษาพุทธศาสนา
ได้ที่ไหน ?

ให้ศึกษาในร่างกายนี้
ที่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ

และมิใช่จะต้องศึกษากับพระ และในวัดวาอารามเท่านั้น

จึงศึกษาตนเอง
อย่ามัวศึกษานอกตัว
หรือมัวติดอยู่แค่พิธีกรรม หรือได้แต่ทำตาม ๆ เขาไป

จะเสียทีที่ได้มีโอกาสเกิดมาพบพระพุทธศาสนา ได้ลิ้มรสแค่เปลือกกระพี้

มิได้ชิมรสอันเป็นเนื้อใน
อันได้แก่ธรรมรสของความเย็นอกเย็นใจ (นิพพาน)

(stars) 7. เหตุแห่งทุกข์
และการดับทุกข์

เหตุ เกิดจากอุปทาน
คือ การเข้าไปยึดถือว่า นี่คือ ตัวตนของเรา นี่ของๆ เรา

การดับ โดยละอุปทานเสีย (โดยพยายามปฏิบัติให้
“เห็นอนัตตา”) เถิด

จะโดยบังคับจิตเป็นสมาธิ
(เจโตวิมุตติ) หรือ
โดยพิจารณาธรรมด้วยปัญญา (ปัญญาวิมุตติ) ก็ได้

(stars) 8. พุทธพจน์
“ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา”

คำว่า “เห็นธรรม”
คือ เห็นปฏิจจสมุปบาท

คือ วงจรที่ทุกข์เกิด
และดับ โดยเริ่มต้นจาก
อวิชชา จนเกิดทุกข์

(stars) 9. จุดหมายสูงสุด
ของพระพุทธศาสนา

คือ นิพพาน
(สภาวะจิตที่สงบเย็น) ปราศจากกิเลส
เครื่องร้อยรัดทั้งปวง
(ชาวบ้านพูดว่า เย็นอก เย็นใจ)

# หาพบได้ที่ใจตัวเอง

(stars) 10. สรุป ความทุกข์
เกิดที่จิต พึงรักษาจิตให้เป็นประภัสสรไว้เสมอ
ระวังการกระทบ (ผัสสะ)
ทางตา หู ฯลฯ ให้ดี

มีสติรู้ทันว่า…
เห็นสักว่าเห็น
ได้ยินสักว่าได้ยิน

อย่าให้เวทนา ตัณหา เกิดได้ แล้วท่านจะพบความสงบเย็นตลอดเวลา

ความทุกข์เกิดที่จิต
เพราะเห็นผิดเมื่อผัสสะ

ความทุกข์จะไม่โผล่
ถ้าไม่โง่เมื่อผัสสะ

ความทุกข์เกิดไม่ได้
ถ้าเข้าใจเรื่องผัสสะ

“ทุกสิ่งเกิดจากเหตุปัจจัย
ทุกข์เกิดที่ใดดับที่ตรงนั้น”

(จากธรรมสมโภช 80 ปี พุทธทาสภิกขุ) …

ด้วยความรักและปรารถนาดีจากแพทย์และทีมงานสถาบันสุขภาพครอบครัวองค์รวมดร.อรวรรณ
www.drorawan.com
📍E mail : [email protected]
📍Line: https://lin.ee/FPqYsmE
📍Fb: https://shorturl.asia/iSnF7
📍Youtube: https://shorturl.asia/I7NlT
📍TikTok: https://shorturl.asia/6V5TI
🎯Bangkok: 061-656-2395, 02-6614431
🎯Phuket: 086-896-6103, 076-377679
#ท่านพุทธทาส #พระพุทธเจ้าตรัสรู้ #นิพพาน #เห็นธรรม #จิตบริสุทธิ์ #สะอาด สว่าง สงบ #องค์รวม #ดร.อรวรรณ

The importance of good sleep.It's not just a matter of your mood: insufficient and interrupted sleep contributes to agei...
24/02/2023

The importance of good sleep.

It's not just a matter of your mood: insufficient and interrupted sleep contributes to ageing and all the medical conditions that come with it.

Humans are like other living creatures, requiring daily basic needs such as food, shelter, clothes, and medicine. But one thing that is frequently overlooked is our sleep quality. We spend one-third of our lives sleeping; it is a necessary daily routine that we must follow from birth to death. We slept a lot while we were young. When we grow up, our brain is more aware of our surroundings, so we tend to sleep less.

The sleep mechanism involves chemicals such as GABA, a sleep-promoting neurotransmitter in the brain. To initiate and maintain the sleep state, the sleep mechanism must suppress the wakefulness mechanism once daily by activating a cluster of brain cells near the optic nerve. Our brains begin to enter sleep mode between 3 and 6 pm. Light regulates circadian rhythms; exposure to late afternoon light will delay your sleep onset. Most of the time, we sleep 6–8 hours a day.

We feel refreshed if we have adequate quality sleep. Individual sleep requirements have a genetic basis. Some people may need more and some may need less. Morning coffee to wake you up is usually not necessary. If you merely want to enjoy the taste of it, drink one before 10 a.m. The caffeine in a cup of coffee can last up to 12 hours and interfere with your sleep onset and sleep maintenance. In addition, coffee can aggravate stomach acid reflux, which can also interrupt your sleep. Do not take sleeping pills if you cannot fall asleep. In the elderly, chronic benzodiazepine use can impair memory and increase the risk of falling at night. Try meditation, which can slow down your brain's activities. You may not easily fall asleep on the first try, but eventually you will succeed.

The body can partially compensate for a sleep deficit. However, if the sleep-wake cycles begin to fluctuate, it will affect one's quality of life. Sleep deprivation can lead to depression, hypertension, diabetes, heart disease, stroke, lower the immunity and obesity. When this is the case, you will need considerable help.

Classification of sleep disorders:
Sleep-related breathing disorders.
Sleep problems include insomnia, sleep disturbances, frequent awakenings, and delayed sleep onset.

Sleep-related movement disorders. Hyper somnolence a condition where an individual falls asleep quickly but has a hard time getting up.
Parasomnia is a sleep behavior disorder. Circadian rhythm disorder causes sleep disturbance.

Of the six groups, the first is the most frightening because the patient would stop breathing periodically during sleep, causing a drop in blood oxygen. The synthesis of the cellular energy currency, adenosine triphosphate (ATP), requires oxygen. At the same time, the body must dispose of the metabolic product, carbon dioxide (CO2), through exhalation. The higher the metabolic rate our body builds up, the more carbon dioxide and acidic byproducts it will release into our blood. The cellular acidic milieu will perturb physiologic mechanisms, more easily causing headaches, weakness, drowsiness, mood swings, heart attacks, brain diseases, diabetes and high blood pressure. For the assessment of a sleep disorder, it is necessary to perform a sleep test called polysomnography.

Non-invasive skin sensors record brain waves and other physiologic parameters throughout the night. The components of a sleep test are:

1. Brain wave recordings give information on the quality of your sleep, how long your REM (Rapid Eye Movement) sleep is, and whether you have seizure disorders. The variations in frequency and amplitude of brain wave patterns are classified as alpha, beta, delta, and theta waves. REM sleep is the time when vivid dreams occur. It is the period when the brain organizes and consolidates our memory. It is like a virtual metaverse of life.
During REM sleep, we dream of walking, jumping, working, or even having s*x with a stranger. The brain sends inhibitory signals to the spinal cord, preventing bodily movement.

If this circuit fails, we will movement. If this circuit fails, we will involuntarily act out the dream, just like you see in movies. We could sleepwalk or exhibit unusual behavior that may end in tragedy.
During the sleep test, the brain waves and muscle waves can provide the necessary information. A sleep test can tell us about the heart and breathing conditions during REM sleep. If you have sleep apnea, a potentially serious sleep disorder in which breathing repeatedly stops and starts, the blood oxygen level will drop and worsen during REM sleep.

2. The breathing exam assesses the changes in the temperature and airflow through the nostrils. Monitoring the chest and abdominal wall excursions can detect whether you stop breathing or not and whether the breathing cessation is due to brain lesions or airway obstruction.

3. The purpose of a heart exam is to check if you have arrhythmias or ischemic heart disease. The low blood oxygen level can cause the heart to overwork during sleep
Disease. The low blood oxygen level can cause the heart to overwork during sleep.

4. Oxygen and carbon dioxide monitoring are used to quantify how much the body is affected by abnormal breathing.

5. Eye movement monitoring to check when you enter REM sleep. Your eyes quickly move back and forth during this sleep state. If you have abnormal movements during this period, you may have a degenerative brain condition such as Parkinson's disease.

6. Leg muscle movement exam check if any sleep movement disorders common in iron- deficient patients, such as pregnant women or those taking antidepressants, are present.

7. The snoring test is to assess if one needs an oral appliance. If one falls asleep or dozes off readily during the day, a workup for narcolepsy is essential. If left untreated, narcolepsy can lead to physical harm or a fatal accident because you may fall asleep at the wheel wire driving. A daytimeoral appliance. If one falls asleep or dozes off readily during the day, a workup for narcolepsy is essential.
If left untreated, narcolepsy can lead to physical harm or a fatal accident because you may fall asleep at the wheel while driving. A daytime sleep study, the Multiple Sleep Latency Test (MSLT), is crucial for diagnosing narcolepsy. In the test, you try to relax and take multiple naps spaced throughout the day. The average time it took to fall asleep and the occurrence of REM sleep were determined. The test can quantify sleepiness and test the alertness of pilots, commercial drivers, or those who do high-risk jobs.

Frequent urination at night is associated with sleep apnea from the extra secretion of heart natriuretic peptide because of stress caused by sleep-induced hypoxia, increasing urine output. Sleep apnea treatment can help reduce nighttime urine output, allowing you to sleep more deeply and uninterruptedly. Sleep is as essential as food, drink and medication. People who sleep less than 6 hours or more than 8 hours have a higher risk of chronic disease and death than those who sleep 6-8 hours daily. If you try all the sleep tricks and nothing works, you should consult a sleep specialist to get to the root of the problem. It is critical to address sleep disorders. As soon as possible because adequate sleep is necessary for good health.

If you have sleep problem , you can consult our specialist who can help you in holistic approaches start from finding the causes and help from the roots of the problems and do natural treatment from very easy and effective ways such as Aroma therapy, quantum energy therapy, HBOT Hyperbaric O2 Therapy, Acupuncture, Acupressure,
IV orthomolecular medicine, photobiology acupressure patch therapy, Terawave, Low Level Laser Therapy, Homeopathy etc.
Please contact @
www.drorawan.com
📍E mail : [email protected]
📍Line: https://lin.ee/FPqYsmE
📍Fb: https://shorturl.asia/iSnF7
📍Youtube: https://shorturl.asia/I7NlT
📍TikTok: https://shorturl.asia/6V5TI
🎯Bangkok: 061-656-2395, 02-6614431
🎯Phuket: 086-896-6103, 076-377679
Disorder tight Level Laser Care . Orawan

ยิ่งให้ยิ่งได้"ยิ่งหวงยิ่งหาย ยิ่งให้ยิ่งได้คืน จะเป็นแค่น้ำแก้วหนึ่ง หรือ เป็นลำธารหนึ่งสาย"รู้มั้ยทำไมน้ำตกถึงสวยงาม…?...
23/02/2023

ยิ่งให้ยิ่งได้

"ยิ่งหวงยิ่งหาย ยิ่งให้ยิ่งได้คืน จะเป็นแค่น้ำแก้วหนึ่ง หรือ เป็นลำธารหนึ่งสาย"

รู้มั้ยทำไมน้ำตกถึงสวยงาม…?

ที่น้ำตกสวยงามน่ะ เพราะ ไม่ยอมเก็บน้ำไว้ในชั้นของตัวเองไง

สังเกตไหมล่ะว่า… เวลาน้ำตก ตกลงมาจากชั้นหนึ่ง
แล้ว น้ำนั้นจะถูกส่งต่อลงไปอีกชั้นหนึ่งทันที

เพราะน้ำตกไม่เห็นแก่ตัว แต่ยอมส่งน้ำที่ตกลงมาจากชั้นอื่น

แล้วส่งต่อกันไปเรื่อย ๆ อย่างนี้ น้ำตกถึงสวย

ถ้าอยากให้ตัวเองเป็นคนที่งดงาม… ควรจะเป็นอย่างน้ำตก

หากมีสิ่งดี ๆ ตกมาถึงตัวเรา อย่าเก็บสิ่งดี ๆนั้นไว้คนเดียว…!!

ต้องเรียนรู้ที่จะ ‘แบ่งปัน’ ออกไปให้มากที่สุด

มีก็แต่คนที่ ‘ให้’ ออกไปเท่านั้น จึงจะเป็นคนที่ ‘ได้รับ’ อย่างแท้จริง

นี่คือความลับของฟ้า.. ที่คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ

ทุกครั้งที่คุณเริ่ม “ให้” คุณไม่เคยจนลง

มีแต่มั่งคั่งร่ำรวยขึ้น

เมื่อคุณเริ่ม “ให้” จะมีแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต

เมื่อคุณเริ่ม “ให้” กับ “ตัวเอง”

คุณจะมีความสุข และ ความภาคภูมิใจ

เมื่อคุณเริ่ม “ให้” กับ “คนที่รัก”

คุณจะได้รับความรักกลับมาร้อยเท่าพันทวี

และเมื่อคุณเริ่ม “ให้” กับ “ผู้อื่น”

จะมีผู้คนมากมายอวยพรให้คุณ และ ครอบครัว

เมื่อเราเริ่ม “ให้” โลกจะผลักคนที่ไม่ใช่แบบเดียวกับเรา ออกไปจากชีวิต และ ยิ่งไปกว่านั้น…

โลกจะดึงคนที่เป็นแบบเดียวกับเราเข้ามา

คุณ ต่อ ธนญชัย ผู้กำกับหนังโฆษณา อันดับ 1 ของโลกบอกว่า

“ความสุขที่แท้จริงของมนุษย์ คือ การเอาออก ไม่ใช่เอาเข้า”

คนประสบความสำเร็จทุกคนรู้ความลับเรื่องนี้

และ เขาจะ “ให้” กับคนที่สมควรจะได้… ไม่ใช่คนที่ร้องขอ

“ให้” ในที่นี้มิได้หมายถึง ทรัพย์สินเงินทองแต่เพียงอย่างเดียว

แต่หมายความถึง ให้ความรัก ให้ความรู้

ให้ความปรารถนาดี ให้ความเมตตาปราณี ให้อภัย ฯลฯ

พลังของการ “ให้” นั้นยิ่งใหญ่มาก แต่สิ่งสำคัญ

คือ… ต้อง “ให้” โดยไม่คาดหวังว่าจะได้อะไรตอบแทน

ให้แล้วทำใจให้มีความสุขกับการให้นั้น

เมื่อถึงเวลาหนึ่ง ถ้าเรา “ให้” มากพอ

โลกจะตอบแทนกลับมาอย่างสาสม ผมพิสูจน์เรื่องนี้มาแล้ว

อย่าลืมความลับของฟ้าเรื่องนี้นะครับ “หวงคือไล่ ให้คือเรียก ”
Cr: Phichet.sutduean

ด้วยความรักและปรารถนาดีจากแพทย์และทีมงานสถาบันสุขภาพครอบครัวองค์รวมดร.อรวรรณ
www.drorawan.com
📍E mail : [email protected]
📍Line: https://lin.ee/FPqYsmE
📍Fb: https://shorturl.asia/iSnF7
📍Youtube: https://shorturl.asia/I7NlT
📍TikTok: https://shorturl.asia/6V5TI
🎯Bangkok: 061-656-2395, 02-6614431
🎯Phuket: 086-896-6103, 076-377679
#ยิ่งให้ยิ่งได้รับ #ความสุขจากการให้ #ไม่หวังผลตอบแทน #องค์รวม #ดร.อรวรรณ

สุขที่สุดกับชีวิตที่เรียบง่ายพอเพียงไม่ต้องเก่งกว่าใครหรอกแค่เป็นคนที่มีความสุขกับชีวิตที่ธรรมดาก็พอไม่ต้องมีความรักที่ด...
22/02/2023

สุขที่สุดกับชีวิตที่เรียบง่ายพอเพียง

ไม่ต้องเก่งกว่าใครหรอก
แค่เป็นคนที่มีความสุข
กับชีวิตที่ธรรมดาก็พอ

ไม่ต้องมีความรักที่ดีที่สุด
แต่จงรักคนที่อยู่ข้างๆ
ให้มากเท่าที่เราจะทำได้

ไม่ต้องรวยที่สุดในโลก
แค่มีเงินพอมีพอกิน
พอเก็บพอได้ใช้

ไม่ต้องมีรถแรงๆ
เพื่อให้คนอื่นอิจฉาหรอก
แค่มีจุดหมายที่อยากไป
และไปใช้ชีวิตกับมันก็พอ

ไม่ต้องไปสนคำพูดของใคร
แค่รู้ว่ามันดีกับเราก็ทำ
ไม่ให้คนอื่นเดือนร้อน

ชีวิตมันไม่ต้องมีอะไรมากหรอก
แค่ทำสิ่งที่มีให้เต็มที่
แค่นั้นก็มีความสุขแล้ว

Cr:เสียงที่ไม่ได้ยิน

ด้วยความรักและปรารถนาดีจากแพทย์และทีมงานสถาบันสุขภาพครอบครัวองค์รวมดร.อรวรรณ
www.drorawan.com
📍E mail : [email protected]
📍Line: https://lin.ee/FPqYsmE
📍Fb: https://shorturl.asia/iSnF7
📍Youtube: https://shorturl.asia/I7NlT
📍TikTok: https://shorturl.asia/6V5TI
🎯Bangkok: 061-656-2395, 02-6614431
🎯Phuket: 086-896-6103, 076-377679
#เรียบง่าย #สุขที่สุด #พอเพียง #องค์รวม #ดร.อรวรรณ

อาหารมื้อเย็น และ IF-Intermittent Fastingในชีวิตปกติ หากคุณไม่ได้รู้สึกหิวเมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้า นั่นหมายถึงว่า คุณสาม...
21/02/2023

อาหารมื้อเย็น และ IF-Intermittent Fasting

ในชีวิตปกติ หากคุณไม่ได้รู้สึกหิวเมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้า นั่นหมายถึงว่า คุณสามารถดลดปริมาณอาหารเย็นลงได้ครึ่งหนึ่ง

อย่าคิดว่าการกินอาหารเย็นอย่างไม่ถูกสุขลักษณะ จะไม่สร้างปัญหาให้คุณ ผู้เชี่ยวชาญทั้งในไต้หวัน และประเทศอื่นๆ พบว่า สาเหตุหนึ่งของโรคต่างๆ เกิดจากพฤติกรรมการกินที่ไม่เหมาะสมในตอนกลางคืน นั่นหมายถึงว่า หากคุณกินอาหารเย็นไม่ถูกหลัก โรคภัยก็จะเริ่มคืบคลานมาหาคุณ

☆ อาหารเย็นและโรคอ้วน

90% ของคนอ้วนกินอาหารดีเกินไปและมากเกินไป ประกอบกับช่วงกลางคืนไม่มีกิจกรรมให้ทำมากนัก ทำให้เผาผลาญแคลอรี่ได้น้อย แคลอรี่ส่วนเกินจะถูกสังเคราะห์เป็นไขมันโดยการทำงานของอินซูลิน โรคอ้วนจึงถามหา

☆ อาหารเย็นและโรคเบาหวาน

การรับประทานอาหารเย็นมากเกินพอดี มักจะกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน ทำให้แก่เร็ว และกระตุ้นให้เกิดโรคเบาหวานได้ง่าย และการรับประทานอาหารมื้อเย็นเลิศรสที่มากเกินพอดี จะทำให้คุณอ้วน และอาจนำไปสู่โรคเบาหวานได้

☆ อาหารเย็นและโรคมะเร็งลำไส้

หากรับประทานอาหารเย็นมากเกินไป โปรตีนย่อยสลายได้ไม่หมด การทำงานของแบคทีเรียในลำไส้ จะก่อให้เกิดสารพิษขึ้น ประกอบกับการเคลื่อนไหวของร่างกายในช่วงค่ำมีไม่มาก และเป็นช่วงเวลานอน การบีบตัวของผนังลำไส้ช้ากว่าปกติ จึงทำให้สารพิษตกค้างในลำไส้นานขึ้น เป็นเหตุให้เพิ่มอุบัติการณ์ของมะเร็งลำไส้ใหญ่

☆ อาหารเย็นและโรคนิ่วทางเดินปัสสาวะ

การขับแคลเซียมออกจากร่างกายจะทำได้ดีที่สุดช่วงประมาณ 4 - 5 ชั่วโมงหลังอาหาร หากรับประทานอาหารเย็นใกล้เวลาเข้านอน เมื่อถึงช่วงเวลาที่มีการขับแคลเซียมออกมา เราอาจจะเข้านอนแล้ว ดังนั้นปัสสาวะจึงอยู่ในท่อไต กระเพาะปัสสาวะ ท่อปัสสาวะ และทางเดินปัสสาวะอื่น ๆ ไม่สามารถขับออกได้ ส่งผลให้แคลเซียมในปัสสาวะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งง่ายต่อการตกตะกอนและก่อตัวเป็นผลึกขนาดเล็ก ซึ่งในระยะยาวจะทำให้ก่อตัวเป็นนิ่วได้

☆ อาหารเย็นและภาวะไขมันในเลือดสูง

หากมื้อเย็นของคุณเป็นอาหารที่มีโปรตีนและไขมันสูง แคลอรี่ก็สูง จะกระตุ้นให้ตับผลิตไลโปโปรตีน ทั้งที่มีความหนาแน่นต่ำและต่ำมากออกมา ไตรกลีเซอไรด์ก็มีแนวโน้มจะสูงขึ้น จึงทำให้ไขมันในเลือดสูง

☆ อาหารเย็นและโรคความดันโลหิตสูง

หากคุณเน้นกินอาหารเย็นที่เป็นเนื้อสัตว์ โดยไม่สนใจว่าขณะนอนหลับ การไหลเวียนของเลือดจะช้าลง ไขมันในเลือดจำนวนมากจึงสะสมบนผนังหลอดเลือด ซึ่งจะทำให้หลอดเลือดแดงเล็กหดตัว ความดันของหลอดเลือดส่วนปลายจะเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน และเร่งให้เกิดการแข็งตัวของหลอดเลือดแดง

☆ อาหารเย็นและโรคหลอดเลือดอุดตัน โรคหัวใจ

หากอาหารมื้อเย็นของคุณเป็นอาหารที่มีไขมันและแคลอรี่สูง อาจทำให้คอเลสเตอรอลสูงขึ้น ซึ่งจะสะสมในผนังหลอดเลือด เป็นสาเหตุสำคัญของภาวะหลอดเลือดแข็งตัวและโรคหัวใจ

นอกจากนี้ สาเหตุหลักอีกประการหนึ่งของภาวะหลอดเลือดแข็งตัวคือ แคลเซียมที่ตกตะกอนในเส้นเลือด ดังนั้น การรับประทานอาหารเลิศรสอิ่มเกินไป และการรับประทานมื้อเย็นดึกเกินไป จึงเป็นสาเหตุของโรคหัวใจและหลอดเลือด

☆ อาหารเย็นและภาวะไขมันพอกตับ

หากคุณเพลิดเพลินกับความเอร็ดอร่อยของอาหารเย็นมากเกินไป น้ำตาลในเลือดและกรดไขมันจะเร่งการสังเคราะห์ไขมัน ขณะที่กิจวัตรหรือกิจกรรมในช่วงค่ำและช่วงกลางคืนมีไม่มาก ก็จะทำให้ร่างกายเร่งสร้างไขมัน ส่งผลให้เกิดภาวะไขมันพอกตับ

☆ อาหารเย็นและโรคตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน

หากมื้อเย็นของคุณมีทั้งอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมากและบ่อยครั้งเกินไป จะทำให้ เกิดภาวะตับอ่อนอักเสบเฉียบพลันได้ง่าย และอาจรุนแรงถึงขนาดที่ทำให้คุณช็อกและเสียชีวิตขณะ นอนหลับ

☆ มื้อเย็นและโรคสมองเสื่อม

หากคุณรับประทานอาหารเย็นมากเกินไปและต่อเนื่องเป็นเวลานาน ระบบทางเดินอาหารและอวัยวะใกล้เคียง เช่น ตับ ถุงน้ำดี และตับอ่อน ยังคงทำงานอยู่ในระหว่างการนอนหลับ ทำให้สมองไม่สามารถพักผ่อนได้ เลือดไปเลี้ยงสมองก็ไม่เพียงพอ ซึ่งจะส่งผลต่อการซ่อมแซมของเซลล์สมอง เป็นเหตุให้สมองเสื่อมไวขึ้น และนี่เป็นที่มาของข้อสรุปที่ว่า 1 ใน 5 ของนักชิมที่รับประทานอาหารเย็นมากเกินไปในช่วง วัยหนุ่มสาวและวัยกลางคน มีโอกาสเกิดภาวะสมองเสื่อมเมื่อมีอายุมาก

☆ อาหารเย็นและคุณภาพการนอนหลับ

มื้อเย็นที่รับประทานจนอิ่มเกินไป ย่อมทำให้อวัยวะต่างๆ เช่นระบบทางเดินอาหาร ตับ ถุงน้ำดี และตับอ่อน ฯลฯ ทำงานในระหว่างการนอนหลับ และส่งข้อมูลไปยังสมอง ทำให้สมองอยู่ในภาวะตื่นอยู่เสมอ ทำให้นอนฝัน หรือนอนไม่หลับเป็นต้น ซึ่งในระยะยาว อาจทำให้เป็นโรคประสาทแบบ neurasthenia (เป็นโรคประสาทอย่างหนึ่งที่มีอาการอ่อนเพลีย หงุดหงิดง่าย ปวดศีรษะ ซึมเศร้า นอนไม่หลับ ขาดสมาธิ และขาดความสามารถที่จะสนุกสนานรื่นเริง)

(thumbs up) ข้อแนะนำ 5 ประการ เพื่อการรับประทานอาหารเย็นที่ถูกสุขลักษณะ

1. รับประทานอาหารเย็นให้น้อยลง

2. รับประทานอาหารเย็นก่อน 4 หรือ 5 โมงเย็น เป็นผลดีต่อสุขภาพที่สุด

3. เน้นรับประทานอาหารมังสวิรัติให้มากขึ้น และรับประทานเนื้อสัตว์ให้น้อยลง

4. ลด ละ เลิกอาหารเย็นที่มีไขมันสูง แคลอรี่สูง แคลเซียมสูง และอาหารที่ทำให้ท้องอืดง่าย (เกิดแก๊สง่าย)

5. งดมื้อเย็นได้เลยจะมีผลดีต่อสุขภาพที่สุด ดังแบบอย่างที่พระพุทธเจ้าได้ทำเป็นกิจวัตร ตรงกับหลักวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ให้ทำIF intermittent Fasting งดอาหาร8-16ชม/วัน ช่วยให้สุขภาพดีขึ้น ร่างกายได้มีการจัดระบบระเบียบของอวัยวะต่างๆ เก็บกวาดขยะ ทำ5 ส ทำให้สุขภาพกลับมาแข็งแรง healthy, lean & clean อายุยืน อ่อนวัย เพิ่มภูมิต้านทาน และป้องกันโรคได้มากมายดังกล่าวข้างต้นค่ะ

ปรึกษาปัญหาสุขภาพองค์รวมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่สถาบันสุขภาพครอบครัวองค์รวมดร.อรวรรณ
www.drorawan.com
📍E mail : [email protected]
📍Line: https://lin.ee/FPqYsmE
📍Fb: https://shorturl.asia/iSnF7
📍Youtube: https://shorturl.asia/I7NlT
📍TikTok: https://shorturl.asia/6V5TI
🎯Bangkok: 061-656-2395, 02-6614431
🎯Phuket: 086-896-6103, 076-377679
#อาหารมื้อเย็น Fasting #เพิ่มภูมิต้านทาน
#ดร.อรวรรณ

ที่อยู่

92 – 92/4 Moo 2, Thep Kra Satri Road , Kohkaew
Amphoe Muang Phuket
83000

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Orawana Holistelผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

วิดีโอทั้งหมด

แชร์