สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปราจีนบุรี

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปราจีนบุรี องค์กรสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมในการประชาสัมพันธ์ "สื่อสร้างสรรค์ รู้เท่าทันดิจิทัล"

📌กษ. ประชุมทุกหน่วยงานในสังกัด ติดตามสถานการณ์อุทกภัยและฟื้นฟูเกษตรกรหลังน้ำลด สั่งการเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อช่วยเหลื...
03/09/2024

📌กษ. ประชุมทุกหน่วยงานในสังกัด ติดตามสถานการณ์อุทกภัยและฟื้นฟูเกษตรกรหลังน้ำลด สั่งการเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อช่วยเหลือเยียวยา
👉ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมสถานการณ์อุทกภัยและฟื้นฟูเกษตรกรหลังน้ำลด ปี 2567 โดยที่ประชุมได้มีการรายงานปริมาณฝนสะสมปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 29 ส.ค. 67 จำนวน 981.4 มม. ต่ำกว่าค่าปกติ -33.1 มม. คิดเป็น -3% และปริมาณฝนสะสมช่วงฤดูฝนปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค. - 29 ส.ค. 67 มีปริมาณฝน 800.1 มม. สูงกว่าค่าปกติ 91.9 มม. คิดเป็น 13% รวมถึงปริมาณน้ำเก็บกักอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ 470 แห่ง (ข้อมูล ณ วันที่ 1 ก.ย. 67) มีปริมาณน้ำ 47,805 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 63% สามารถรับน้ำได้อีก 28,532 ล้าน ลบ.ม. และปริมาณน้ำคาดการณ์ 1 พ.ย. 67 คาดว่าจะมีน้ำเก็บกัก 59,355 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 84%

📌ศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติฯ เผยสถานการณ์อุทกภัยปัจจุบันกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว 23 จังหวัด สั่งการให้เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อเข้าช่วยเหลือเยียวยา
👉ศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สรุปสถานการณ์อุทกภัยตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค. 67 - 1 ก.ย. 67 ปัจจุบันสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว 23 จังหวัด และยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยอีก 16 จังหวัด 64 อำเภอ สำหรับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ แบ่งเป็น ด้านพืช มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ รวม 758,376.80 ไร่ จำนวนเกษตรกร 121,708 ราย ด้านประมง พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้รับผลกระทบรวม 10,514.25 ไร่ กระชัง 80,806.50 ตารางเมตร จำนวนเกษตรกร 13,107 ราย ด้านปศุสัตว์ จำนวนสัตว์ได้รับผลกระทบรวม 3,290,033 ตัว แปลงหญ้า 2,476.55 ไร่ จำนวนเกษตรกร 54,026 ราย
👉รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดเร่งหามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรโดยบูรณาการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน และ
มอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายทั้งด้านพืช ประมง ปศุสัตว์ เพื่อประกาศเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติ พร้อมเร่งเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบต่อไป

📌พม.กำชับ “ทีม พม. หนึ่งเดียว” ฟื้นฟูเยียวยากลุ่มเปราะบางที่ประสบภัยต่อเนื่อง
👉นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงสถานการณ์ภัยพิบัติขณะนี้ว่า อุทกภัยที่กำลังเกิดขึ้นในช่วงแรกน้ำมาจากภาคเหนือ และกำลังลงมายังภาคกลาง โดยกระทรวง พม. มีหน่วยงานในสังกัด เรียกว่า “พม. หนึ่งเดียว” สนับสนุนงานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อที่จะเข้าไปดูแลกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ และเก็บข้อมูลมาวางแผนเรื่องฟื้นฟูเยียวยา ซึ่งเป็นบทบาทหลักของกระทรวง พม. โดยหลังจากน้ำลดลงและกลับสู่สภาวะปกติ กระทรวง พม. จะดำเนินการฟื้นฟูเยียวยา เช่นเรื่องอาชีพ การซ่อมแซมบ้าน และกรณีที่กลุ่มเปราะบางได้รับผลกระทบ โดยจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
👉ทั้งนี้ จากรายงานสถานการณ์ภัยพิบัติของกระทรวง พม. ตั้งแต่วันที่ 15 - 31 ส.ค. 67 พบว่า กลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติในพื้นที่ 24 จังหวัด มีจำนวน 47,192 ครัวเรือน 56,045 ราย แบ่งเป็น เด็ก 7,313 ราย เยาวชน 5,391 ราย คนพิการ 9,840 ราย ผู้สูงอายุ 28,619 ราย และผู้มีรายได้น้อย 4,882 ราย ขณะนี้ ทีม พม. หนึ่งเดียว ลงพื้นที่ช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางแล้วรวม 13,137 ราย และที่เหลืออยู่ระหว่างการดำเนินการช่วยเหลือ

📌3 กันยายนนี้ พม. เตรียมปล่อยคาราวานช่วยน้ำท่วม ส่งเครื่องอุปโภคบริโภค ไป 5 จังหวัดภาคเหนือ
👉ในวันอังคารที่ 3 กันยายนนี้ เวลา 09.00 น. ที่กระทรวง พม. นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. จะเป็นประธานในการปล่อยคาราวานช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม เป็นขบวนคาราวานรถเพื่อนำเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ส่งไปช่วยเหลือชาวชุมชนผู้ประสบภัยในโครงการบ้านเอื้ออาทร จังหวัดแพร่ และกลุ่มเปราะบางผู้ประสบภัยในพื้นที่ จังหวัดอุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก และกำแพงเพชร ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถจะช่วยให้ผู้ประสบภัยใช้ยังชีพในเบื้องต้น ก่อนจะเข้าสู่ระยะการฟื้นฟูเยียวยา
👉ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ประสบอุทกภัยหรือภัยพิบัติอื่น ๆ หรือปัญหาด้านสังคม กระทรวง พม. มีศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) ทั่วประเทศ ซึ่งสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือมายัง สายด่วน พม. โทร. 1300

#กษประชุมทุกหน่วยงานในสังกัดติดตามสถานการณ์อุทกภัย #พมปล่อยรถคาราวานช่วยผู้ประสบภัย #กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ #กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ #นโยบายรัฐบาล20กระทรวง

✍️พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า (3 ก.ย. 67):   ร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียง...
03/09/2024

✍️พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า (3 ก.ย. 67): ร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง📌
อนึ่ง ในช่วงวันที่ 4-8 ก.ย. 67 คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าว เดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันและเวลาดังกล่าวนี้ไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า: ในช่วงวันที่ 3 – 7 ก.ย. 67 ร่องมรสุมกำลังปานกลางเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ ภาคตะวันออก และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ หลังจากนั้นในวันที่ 8-9 ก.ย. 67 ร่องมรสุมกำลังปานกลางจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านประเทศเมียนมา ลาว และเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะเริ่มมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย ในช่วงวันที่ 4 – 8 ก.ย. 67 จะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อนึ่ง พายุโซนร้อน “ยางิ” (YAGI) บริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะเคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนในช่วงวันที่ 3 – 4 ก.ย. 67 และจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรง และพายุไต้ฝุ่นตามลำดับ คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 7 – 8 ก.ย. 67 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย

ข้อควรระวัง: ในช่วงวันที่ 3 – 8 ก.ย. 67 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง ในช่วงวันที่ 4 – 8 ก.ย. 67

สถานการณ์แผ่นดินไหว(ในช่วงวันที่ 2 - 3 ก.ย. 67): ตรวจพบเหตุการณ์แผ่นดินไหว
ขนาด 4.2,4.9 มีศูนย์กลางอยู่ที่ตอนเหนือของหมู่เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย
และขนาด 2.1 มีศูนย์กลางอยู่ที่ต.ป่าแดง อ.เมืองแพร่ จ.แพร่
ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทยแต่อย่างใด
#กรมอุตุนิยมวิทยา

✍️จังหวัดปราจีนบุรี จัดชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดปราจีนบุรี สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออ...
02/09/2024

✍️จังหวัดปราจีนบุรี จัดชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดปราจีนบุรี สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกปฏิบัติการตามนโยบายป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ในการค้นหาผู้เสพและผู้ติดยาเสพติดในสถานประกอบการ📌
👉วันจันทร์ที่ 2 ก.ย. 67 ตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป ภายใต้การอำนวยการของ นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี
นายพงสิทธิ์ เนื่องจำนงค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี โดยนายวิธรัช รามัญ ปลัดจังหวัดปราจีนบุรี สั่งการให้ นายอลงกต เอี่ยมประไพ ป้องกันจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมด้วย "ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดปราจีนบุรี” บูรณาการกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จ.ปจ
ปฏิบัติการตามนโยบายป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ในการค้นหาผู้เสพและผู้ติดยาเสพติดในสถานประกอบการ (โรงงาน) ณ บริษัท เอสเอสดีซี (ไทเกอร์เท็ก) จำกัด สวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ กบินทร์บุรี หมู่ที่ 5 ตำบลนนทรี อำเภอกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
ผลการปฏิบัติ ตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะ พนักงาน จำนวน 320 คน พบผู้มีสารเสพติดในร่างกายจำนวน 2 คน นำตัวเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาต่อไป
#จังหวัดปราจีนบุรี

✍️สำนักงานพาณิชย์จังหวัดปราจีนบุรี จัดกิจกรรมจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาประหยัด ลดค่าครองชีพประชาชน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุท...
02/09/2024

✍️สำนักงานพาณิชย์จังหวัดปราจีนบุรี จัดกิจกรรมจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาประหยัด ลดค่าครองชีพประชาชน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี 🎈
👉สำนักงานพาณิชย์จังหวัดปราจีนบุรี จัดกิจกรรมจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาประหยัด ลดค่าครองชีพประชาชน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จังหวัดปราจีนบุรี ครั้งที่ 4 ในวันที่ 2 กันยายน 2567 ณ บริเวณตลาดศูนย์การค้าเทศบาลตำบลกบินทร์ ตำบลกบินทร์ อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี โดยนำสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นแก่การครองชีพของประชาชน อาทิเช่น ข้าวสาร ไข่ไก่ น้ำตาลทราย น้ำมันพืช น้ำปลา ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาล้างจาน ซอสหอยนางรม ซอสปรุงรสและอื่นๆ นำไปจำหน่ายในราคาต่ำกว่าท้องตลาด 20-30% ให้แก่ประชาชนในพื้นที่
- โดยสรุปผลการจำหน่ายสินค้าครั้งนี้ มีประชาชนมาใช้บริการ 350 คน มูลค่าจำหน่ายสินค้ารวม 76,580 บาท สามารถลดค่าครองชีพประชาชนรวม 29,128 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 27.56
#สำนักงานพาณิชย์จังหวัดปราจีนบุรี

✍️ผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี แจ้งเตือน ‼️ ในระหว่างวันที่ 3-9 กันยายนนี้ เฝ้าระวัง ฝนตกต่อเนื่องและฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้น้ำท่วมฉ...
02/09/2024

✍️ผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี แจ้งเตือน ‼️ ในระหว่างวันที่ 3-9 กันยายนนี้ เฝ้าระวัง ฝนตกต่อเนื่องและฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก📌
#กอ.ปภ.จ.ปราจีนบุรี #สายด่วน1784

✍️อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี ระดมพลังภาคีเครือข่าย ผู้นำท้องถิ่น-ท้องที่ และ อพม. นำกำลังใจ และสิ่งของอุปโภค-บริโภ...
02/09/2024

✍️อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี ระดมพลังภาคีเครือข่าย ผู้นำท้องถิ่น-ท้องที่ และ อพม. นำกำลังใจ และสิ่งของอุปโภค-บริโภค พร้อมเงินช่วยเหลือ ไปมอบให้ประชาชนกลุ่มเปราะบาง หวังช่วยเหลือเยียวยา และสร้างขวัญกำลังใจ📌
👉วันจันทร์ที่ 2 กันยายน 2567 เวลา 13.30 น. อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี นายเสฎฐวุฒิ วงศ์เลอวุฒิ นายอำเภอบ้านสร้าง ได้นำทีมภาคีเครือข่าย ลงพื้นที่พบปะเยี่ยมเยียน และช่วยเหลือประชาชน ทั้งกลุ่มเปราะบาง รวมถึงพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุสาธารณภัยต่างๆ จนได้รับการสบทบความช่วยเหลือจากภาคเอกชนเป็นจำนวนมาก
ช่วงบ่ายวันนี้ นายอำเภอบ้านสร้าง พร้อมด้วย นายก อบต.บ้านสร้าง, ทีม อพม. และฝ่ายปกครองท้องที่อำเภอบ้านสร้าง จึงได้นำสิ่งของอุปโภค-บริโภค และเงินช่วยเหลือ ลงไปมอบให้ประชาชนกลุ่มเปราะบางจากระบบ TPMAP และ ThaiQM ตลอดจนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย เพื่อช่วยเหลือดูแล และสร้างขวัญกำลังใจในเบื้องต้น โดยมีสิ่งของ ดังนี้
1. ชุดยังชีพ และเวชภัณฑ์ จาก บริษัท ที.ซี.ฟาร์มาซูติคอล อุตสาหกรรม จำกัด
2. เงินช่วยเหลือ จาก นายก อบต.บ้านสร้าง จำนวน 5,000 บาท
3. ผ้าอ้อมสำเร็จรูป จาก สำนักงาน พม.จังหวัดปราจีนบุรี
4. น้ำดื่ม จาก โครงการอาสาพาธรรมดี
5. นมถั่วเหลือง จาก กำนันตำบลบ้านสร้าง
#อำเภอบ้านสร้าง #จังหวัดปราจีนบุรี

📌กองทัพภาคที่ 2 ปรับปรุงสนามม้าโคราช (เดิม) เป็นสนามกีฬาทหารเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ประชาชนออกกำลังก...
02/09/2024

📌กองทัพภาคที่ 2 ปรับปรุงสนามม้าโคราช (เดิม) เป็นสนามกีฬาทหารเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ประชาชนออกกำลังกาย พักผ่อนหย่อนใจ และสถานที่ท่องเที่ยว

👉กองทัพภาคที่ 2 จัดทำโครงการปรับปรุงสนามกีฬาทหารเฉลิมพระเกียรติฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 บนที่ราชพัสดุ รวมพื้นที่ 19-1-99.17 ไร่ หรือสนามสนามกีฬาทหารกองทัพภาคที่ 2 หรือสนามม้าโคราช (เดิม) โดยจะปรับปรุงเป็นสวนสาธารณะลานกีฬาอเนกประสงค์ ได้แก่ ปรับปรุงลู่ม้าเดิม, ปรับปรุงสนามกีฬา, ก่อสร้างพื้นที่เป็นลานประติมากรรม, ก่อสร้างทางเดินเชื่อมภายในพื้นที่, ก่อสร้างสนามสำหรับจักรยานขาไถ, ก่อสร้างสวนสาธารณะ, ปรับปรุงพื้นที่สำหรับม้าเดิม, ก่อสร้างลานกิจกรรม เพื่อให้เป็นสถานที่ออกกำลังกาย พักผ่อนหย่อนใจ เป็นสถานที่ท่องเที่ยว และจัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสต่างๆ ให้กับประชาชนทั่วไป เพื่อให้กำลังพลและครอบครัว มีพื้นที่ในการประกอบอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ เสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี
👉สำหรับงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ ได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา โดยกองทัพภาคที่ 2 ให้การสนับสนุนกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เมื่อแล้วเสร็จจะได้ส่งมอบให้กองทัพบกเป็นผู้รับผิดชอบ

#พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา๖รอบ #โครงการปรับปรุงสนามกีฬาทหารเฉลิมพระเกียรติ #กองทัพภาคที่2 #สนามม้าโคราช #สนามกีฬาทหารเฉลิมพระเกียรติ #รัชกาลที่10 #ออกกำลังกาย #อาชีพเสริม

✍️จังหวัดปราจีนบุรี เปิดโครงการยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบโดยเครือข่ายชุมชน ผ่านการขึ้นทะเบียนแรงงานนอกระบบ เพื่อขับ...
02/09/2024

✍️จังหวัดปราจีนบุรี เปิดโครงการยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบโดยเครือข่ายชุมชน ผ่านการขึ้นทะเบียนแรงงานนอกระบบ เพื่อขับเคลื่อนการบูรณาการยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานอิสระโดยเครือข่ายชุมชนผ่านการขึ้นทะเบียนแรงงานอิสระ📌
👉วันที่ 2 ก.ย.2567 เวลา 9.30 น. ณ ห้องประชุม 403 (ทวารวดี) ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดปราจีนบุรี นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี มอบหมายให้ นายพงษ์สิทธิ์ เนื่องจำนงค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธานพิธีเปิดโครงการยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบโดยเครือข่ายชุมชน ผ่านการขึ้นทะเบียนแรงงานนอกระบบ(แรงงานอิสระ)จังหวัดปราจีนบุรี (ฝึกอบรมครู ข) สืบเนื่องจากกระทรวงมหาดไทยได้รับการประสานความร่วมมือจากกระทรวงแรงงาน ขอความร่วมมือบูรณาการเพื่อขับเคลื่อนการบูรณาการยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานอิสระโดยเครือข่ายชุมชนผ่านการขึ้นทะเบียนแรงงานอิสระ ซึ่งเป็นการบูรณาการในพื้นที่อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน โดยเป้าหมายแรกคือให้กำนัน ผญบ. อาสาสมัครแรงงานเป็นผู้ดำเนินการส่งเสริมการขึ้นทะเบียนแรงงานอิสระผ่านระบบ Mobile Application และเว็บไซต์ ให้กับแรงงานอิสระทุกคน ทุกครัวเรือน ทุกหมู่บ้าน โดยมีกำนัน ผญบ. และอาสาสมัครแรงงานในพื้นที่อำเภอเมืองปราจีนบุรี มาเข้ารับการอบรมในครั้งนี้
#จังหวัดปราจีนบุรี

✍️สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 2 ก.ย. 67 เวลา 7.00 น.📌1.ปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ : จ.พิษณุโล...
02/09/2024

✍️สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 2 ก.ย. 67 เวลา 7.00 น.📌

1.ปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ : จ.พิษณุโลก (89 มม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.อุบลราชธานี (160 มม.) ภาคกลาง : จ.นนทบุรี (105 มม.) ภาคตะวันออก : จ.ชลบุรี (95 มม.)
ภาคตะวันตก : จ.กาญจนบุรี (137 มม.) ภาคใต้ : จ.ระนอง (60 มม.)

สภาพอากาศวันนี้ : ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง
ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่ง

คาดการณ์ : ช่วงวันที่ 3-7 ก.ย. 67 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางประกอบกับ
มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้

2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 58% ของความจุเก็บกัก (46,585 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 39% (22,423 ล้าน ลบ.ม.)

3. ประกาศสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ :
ประกาศสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 13/2567 ลงวันที่ 1 ก.ย.67 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในช่วงวันที่ 3 – 9 ก.ย. 67 พบว่ามีพื้นที่เสี่ยงต้องเฝ้าระวัง ดังนี้
- พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และบริเวณชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำเนื่องจากระบายไม่ทัน บริเวณ จ.ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย บึงกาฬ
อุบลราชธานี นครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง และสตูล
- เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80
- เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของ แม่น้ำยม แม่น้ำแควน้อย แม่น้ำจันทบุรี แม่น้ำตราด โดยเฉพาะแม่น้ำเจ้าพระยา
บริเวณ คลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และแม่น้ำน้อย ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา

4. แนวทางการบริหารจัดการน้ำ : วานนี้ (1.ก.ย. 67) ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และคณะ พร้อมด้วย นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการ จ.พิษณุโลก
และนายวรพจน์ เพชรนรชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 3 กรมชลประทาน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำยม - น่าน รวมทั้งความพร้อมของ
โครงการบางระกำโมเดล ที่ใช้ทุ่งบางระกำเป็นพื้นที่หน่วงน้ำให้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตาม 10 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2567 และเป็นไปตาม พระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561
ทั้งนี้ เลขาธิการ สทนช. ได้กำชับให้กรมชลประทานบริหารจัดการน้ำทุ่งบางระกำ จ.พิษณุโลก ให้สัมพันธ์กับการบริหารจัดการน้ำทุ่งทะเลหลวง จ.สุโขทัย โดยต้องเฝ้าระวังระดับน้ำไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่
และให้ข้อแนะนำในการจัดเตรียมแผนงาน/โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการรับน้ำในพื้นที่ทุ่งบางระกำโมเดล เช่น การยกระดับถนนคันดิน สถานีสูบน้ำ ประตูระบายน้ำ โดยให้ปรับแผนต่าง ๆ ที่มีความพร้อมเพื่อเสนอเข้าแผน 3 ปี
ด้านทรัพยากรน้ำ พร้อมพิจารณาจัดทำแผนการรับน้ำเข้าทุ่งโดยจัดเตรียมเสนอพื้นที่ทุ่งรับน้ำเพิ่มเติม เพื่อช่วยบริหารจัดการน้ำหลากในช่วงฤดูฝนที่มีปริมาณน้ำมากเกินประสิทธิภาพการระบายน้ำ ซึ่งจะสามารถป้องกันและ
บรรเทาอุทกภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

5. สถานการณ์น้ำท่วม : วันที่ 1 ก.ย. 67 ในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงราย (อ.เมืองฯ เทิง ขุนตาล พญาเม็งราย และเวียงแก่น) จ.เชียงใหม่ (อ.แม่ริม) จ.ลำปาง (อ.แจ้ห่ม และงาว)
จ.สุโขทัย (อ.เมืองฯ ศรีสัชนาลัย สวรรคโลก ศรีสำโรง ศรีนคร และกงไกรลาศ) จ.พิษณุโลก (อ.บางระกำ และพรหมพิราม) และ จ.หนองคาย (อ.เมืองฯ ท่าบ่อ ศรีเมืองใหม่ สังคม และรัตนวาปี)
#กรมอุตุนิยมวิทยา #กรมชลประทาน #สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ #กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

📌สปสช. เปิดช่องร้านยา โลโก้ 30 บาทรักษาทุกที่ ดูแลเจ็บป่วยเล็กน้อย 32 กลุ่มอาการ เริ่ม 3 ก.ย. นี้👉นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เ...
02/09/2024

📌สปสช. เปิดช่องร้านยา โลโก้ 30 บาทรักษาทุกที่ ดูแลเจ็บป่วยเล็กน้อย 32 กลุ่มอาการ เริ่ม 3 ก.ย. นี้
👉นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า สปสช.ได้ออกประกาศเรื่อง การจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขเพิ่มเติม สำหรับหน่วยบริการที่รับการส่งต่อเฉพาะด้านเภสัชกรรม พ.ศ. 2567 เผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยประกาศฉบับดังกล่าว มีสาระสำคัญคือการเพิ่มขอบเขตการให้บริการดูแลอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย (Common Illnesses) ของร้านยาคุณภาพที่เข้าร่วมเป็นหน่วยบริการของ สปสช. ให้สามารถจ่ายยาแก่ผู้มีสิทธิบัตรทองแล้วเบิกเงินชดเชยค่าบริการจาก สปสช. ได้ จากเดิม 16 กลุ่มอาการ เป็น 32 กลุ่มอาการ เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน 2567 เป็นต้นไป

📌ข่าวดี สิทธิบัตรทอง 30 บาท เจ็บป่วยเล็กน้อย 32 กลุ่มอาการ ปรึกษาเภสัชกรและรับยาตามอาการได้ที่ “ร้านยาคุณภาพ” ฟรี!
👉32 กลุ่มอาการที่ร้านยาคุณภาพสามารถให้บริการแก่ผู้มีสิทธิบัตรทองที่เป็นไปตามแนวทาง และมาตรฐานการให้บริการทางเภสัชกรรมปฐมภูมิโดยสภาเภสัชกรรม ประกอบด้วย 1) เวียนศีรษะ 2) ปวดหัว 3) ปวดข้อ/ปวดกล้ามเนื้อ 4) ปวดฟัน 5) ปวดประจำเดือน 6) ปวดท้อง 7) ท้องเสีย 8) ท้องผูก/ริดสีดวงทวาร 9) ปัสสาวะแสบขัด 10) ตกขาว 11) แผล 12) ผื่นผิวหนัง 13) อาการทางตา 14) อาการทางหู 15) ไข้ ไอ เจ็บคอ 16) ติดเชื้อโควิด 17) น้ำมูก คัดจมูก 18) มีแผลในปาก 19) ตุ่มน้ำใสที่ปาก 20) แผลน้ำร้อนลวกไม่รุนแรง 21) อาการคันผิวหนัง/ศีรษะ 22) อาการจากพยาธิ 23) อาการจากหิด เหา 24) ฝี หนองที่ผิวหนัง 25) อาการชา/เหน็บชา 26) อาการนอนไม่หลับ 27) เมารถ เมาเรือ 28) เบื่ออาหารโดยไม่มีโรคร่วม 29) คลื่นไส้ อาเจียน 30) อาการแพ้ยา/แพ้อาหารเล็กน้อย/แมลงกัดต่อย 31) อาการเจ็บป่วยจากการสูบบุหรี่ และ 32) เหงือกอักเสบ/มีกลิ่นปาก
👉ทั้งนี้ ร้านยาคุณภาพดูแลอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย 32 อาการ เป็นส่วนหนึ่งของ 30 บาทรักษาทุกที่ ประชาชนผู้มีสิทธิบัตรทองหากมีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยที่เข้าข่าย 32 กลุ่มอาการนี้ ไม่ว่าสิทธิบัตรทองจะอยู่ที่ไหนสามารถไปร้านยาคุณภาพใกล้บ้านที่เข้าร่วมเป็นหน่วยบริการกับ สปสช. ซึ่งจะมีตราสัญลักษณ์ 30 บาทรักษาทุกที่ หรือป้าย “ร้านยาคุณภาพของฉัน” ติดอยู่ที่หน้าร้าน เพื่อปรึกษาเภสัชกรและรับยาตามอาการโดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยใช้เพียงบัตรประชาชนใบเดียวเป็นหลักฐานในการยืนยันตัวตน สามารถค้นหาร้านยาคุณภาพที่เข้าร่วมกับสปสช. ได้ที่ https://mishos.nhso.go.th/nhso4/inno_nearby สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน สปสช. 1330 หรือช่องทางออนไลน์ Line: สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 /Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

#สปสชเปิดช่องร้านยาดูแลเจ็บป่วยเล็กน้อย32อาการ #สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ #สปสช #กระทรวงสาธารณสุข #นโยบายรัฐบาล20กระทรวง

✍️ ไทยนั่งประธานการประชุม EXBO ผลักดันรู้เท่าทันสื่อ รับมือข่าวลวง และการสื่อสารในยุคดิจิทัลอย่างมืออาชีพ📌👉นางสุดฤทัย เล...
02/09/2024

✍️ ไทยนั่งประธานการประชุม EXBO ผลักดันรู้เท่าทันสื่อ รับมือข่าวลวง และการสื่อสารในยุคดิจิทัลอย่างมืออาชีพ📌

👉นางสุดฤทัย เลิศเกษม อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ในฐานะผู้นำคณะผู้แทนประเทศไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหาร (Executive Board: EXBO) ในวันที่ 31 สิงหาคม​ 2567 ณ กรุง​กัวลาลัมเปอร์​ ประเทศ​มาเลเซีย​ จัดโดยสถาบันพัฒนากิจการวิทยุ - โทรทัศน์แห่งเอเชีย – แปซิฟิก ซึ่งเป็นเวทีกำหนดยุทธศาสตร์ นโยบายการขับเคลื่อนการดำเนินงานของ AIBD โดยครั้งนี้ ประเทศไทยรับบทบาทนำในการขับเคลื่อน 3 ประเด็นสำคัญ ประกอบด้วย การขับเคลื่อนกิจกรรมและโครงการที่ส่งเสริมประโยชน์ให้กับสมาชิก การบริหารงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ และการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การทำงานของ AIBD ในอีกห้าปีต่อจากนี้ (ค.ศ. 2025-2029)

ในฐานะประธานฯ ไทยเน้นย้ำให้เห็นถึงการบริหารจัดการที่ให้ความสำคัญ​กับประโยชน์​ของสมาชิกอย่างครอบคลุม​ เช่น การสนับสนุนเรื่องฝึกอบรมในด้านการต่อต้านข่าวปลอม และการรู้เท่าทันสื่อ รวมทั้งประเด็นที่เป็นความท้าทายที่หลายประเทศรวมทั้งไทย โดยขอให้ AIBD เน้นถึงประโยชน์สูงสุดที่สมาชิกจะได้รับควบคู่ไปกับการเสริมสร้างบทบาทของ AIBD ให้เป็นที่ประจักษ์ ในการเป็นองค์กรชั้นนำด้านการส่งเสริมขีดความสามารถของสื่อมวลชนให้รู้รอบ รู้ลึก รู้จริง เชี่ยวชาญเทคโนโลยี และทันต่อสถานการณ์

คณะกรรมการบริหาร EXBO ที่เข้าร่วมประชุมในวันนี้มาจากหน่วยสื่อชั้นนำของ 7 ประเทศ ได้แก่ ภูฏาน กัมพูชา เนปาล ศรีลังกา อินโดนีเซีย มาเลเซีย และประเทศไทย โดยการประชุมประจำปีนี้ เปิดโอกาสให้ที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนความสำเร็จของการบริหารงานของคณะกรรมการบริหาร ทั้งในเรื่องการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ ซึ่งครบคลุมการสนับสนุนกิจกรรมระหว่างหน่วยสื่อ และองค์กรระหว่างประเทศ เช่น UNESCAP

นอกจากนี้ ในรอบปีที่ผ่านมา AIBD ยังประสบความสำเร็จในการจัดกิจกรรมฝึกอบรมที่เข้าถึงบุคลากรสื่อ ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญตามวิสัยทัศน์ของ AIBD รับทราบถึงสถานะทางการเงินของ AIBD และหารือถึงแนวทางการบริหารงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนพิจารณาแผนกลยุทธ์รอบ 5 ปี ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมกิจกรรม (action-oriented) และกำหนดกรอบกิจกรรมให้ครอบคลุมงานด้านสื่อสารมวลชน ได้แก่ 1) ข่าวและเหตุการณ์ปัจจุบัน 2) ความปลอดภัยในโลกไซเบอร์และเทคโนโลยี AI 3) การผลิตเนื้อหา (content) อย่างมีคุณภาพ 4) การออกอากาศแบบครอบคลุมผู้ชมทุกกลุ่ม และ 5) การบริหารจัดการภาวะวิกฤตและภัยพิบัติ เพื่อรักษาบทบาทของ AIBD ในการพัฒนาขีดความสามารถของชาติสมาชิกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

สำหรับประเทศไทย​ ได้รับความร่วมมือในการจัดโครงการ​และกิจกรรม​กับ AIBD มาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การจัดการประชุม​เชิงปฏิบัติการ​ด้านการสื่อสารในภาวะวิกฤติ​ การพัฒนา​ทักษะ​การผลิต​ผลงานสื่อคุณภาพให้กับสื่อมวลชนไทย​ การเป็นประธานคณะกรรมการบริหารถือเป็นโอกาสที่ดีของไทยในการแสดงบทบาท​นำ สร้างความเชื่อมั่น​ในสื่อของรัฐ และเปิดโอกาสในการพัฒนาความร่วมมือกับเครือข่ายสื่อในภูมิภาค​เอเชีย​แปซิฟิก​
#กรมประชาสัมพันธ์

📌กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยช่วง 7 เดือนแรก ปี 67 ต่างชาติลงทุนในไทย มูลค่ากว่า 9 หมื่นล้านบาท จ้างงานคนไทยกว่า 2,100 คน👉นาง...
02/09/2024

📌กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยช่วง 7 เดือนแรก ปี 67 ต่างชาติลงทุนในไทย มูลค่ากว่า 9 หมื่นล้านบาท จ้างงานคนไทยกว่า 2,100 คน
👉นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (พค.) เปิดเผยถึงยอดการลงทุนจากต่างชาติในไทยช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม - กรกฎาคม 2567 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 จำนวน 460 ราย (เพิ่มขึ้น 84 ราย เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566) เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 90,987 ล้านบาท เกิดการจ้างงานคนไทย 2,149 คน โดยชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุน 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา จีน และฮ่องกง
👉ทั้งนี้ ถือได้ว่าการเข้ามาประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวในไทยช่วงที่ผ่านมา มีส่วนช่วยในการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับเครื่องบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจแบบไร้สาย องค์ความรู้เกี่ยวกับการให้บริการคลาวด์ (Cloud Service) องค์ความรู้เกี่ยวกับการทำงานของระบบเครื่องยนต์ของเครื่องบิน องค์ความรู้เกี่ยวกับการทำงานของระบบที่เกี่ยวข้องกับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ เป็นต้น

📌การลงทุนในพื้นที่ EEC ในช่วง 7 เดือน มีมูลค่ากว่า 27,677 ล้านบาท
👉สำหรับการลงทุนในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ Eastern Economic Corridor (EEC) ของนักลงทุนต่างชาติ ในช่วง 7 เดือน (มกราคม - กรกฎาคม) ปี 2567 นั้น มีนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในพื้นที่ EEC 137 ราย คิดเป็นร้อยละ 30 ของจำนวนนักลงทุนต่างชาติที่ได้รับอนุญาตในปีนี้ (เพิ่มขึ้น 64 ราย เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566) มูลค่าการลงทุนในพื้นที่ EEC กว่า 27,677 ล้านบาท เป็นนักลงทุนจากญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง และประเทศอื่น ๆ โดยธุรกิจที่ลงทุน อาทิ 1) ธุรกิจบริการทางวิศวกรรม โดยเป็นการออกแบบทางวิศวกรรมสำหรับระบบต่าง ๆ ภายในโรงงานอุตสาหกรรม 2) ธุรกิจบริการรับจ้างตกแต่งชิ้นงาน ด้วยวิธีการตัด เจาะ กลึง ไส หรือทำเกลียวชิ้นงานตามแบบ 3) ธุรกิจบริการจัดเก็บสินค้า วัตถุดิบ สินค้าควบคุมอุณหภูมิ เคมีภัณฑ์ สารเคมีและวัตถุอันตราย เป็นต้น

📌กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยสถิติยอดจดทะเบียนธุรกิจ สะสม 7 เดือน แตะ 5.4 หมื่นราย
👉กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (พค.) เผยสถิติจดทะเบียนตั้งใหม่ประจำเดือนกรกฎาคม 2567 จำนวน 7,837 ราย เพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อนหน้า และยอดสะสม 7 เดือนแรกของปี 2567 (มกราคม - กรกฎาคม) จำนวน 54,220 ราย เพิ่มขึ้น 0.16% จากปีก่อนหน้า สะท้อนภาพรวมที่ธุรกิจยังสามารถขยายตัวต่อเนื่องบนปัจจัยหนุนด้านการท่องเที่ยวและความคืบหน้านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่คืบหน้าไปในหลายด้าน
👉การจัดตั้งธุรกิจใหม่สะสม 7 เดือนแรกของปี 2567 (มกราคม - กรกฎาคม 2567) มีจำนวน 54,220 ราย เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 เพิ่มขึ้น 86 ราย คิดเป็น 0.16% ทุนจดทะเบียน 168,783.20 ล้านบาท ลดลง 276,512.50 ล้านบาท คิดเป็น 62.10% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 ทั้งนี้ 7 เดือนแรกมีประเภทธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 4,189 ราย ทุนจดทะเบียน 17,621.98 ล้านบาท 2) ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 4,136 ราย ทุนจดทะเบียน 9,311.05 ล้านบาท และ 3) ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 2,472 ราย ทุนจดทะเบียน 5,151.41 ล้านบาท

#พคเผยตัวเลขต่างชาติลงทุนในไทย7เดือนแรก #กรมพัฒนาธุรกิจการค้า #กระทรวงพาณิชย์ #นโยบายรัฐบาล20กระทรวง

02/09/2024
✍️พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า (2 ก.ย. 67):   ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากา...
02/09/2024

✍️พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า (2 ก.ย. 67): ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง📌
อนึ่ง ในช่วงวันที่ 3-7 ก.ย. 67 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าว
เดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 4-7 ก.ย. 67
สำหรับพายุโซนร้อน “ยางิ” บริเวณประเทศฟิลิปปินส์มีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปทางตอนใต้ของเกาะไต้หวัน ประเทศจีน และเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบน ในช่วงวันที่ 3-4 กันยายน 2567

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า: ในช่วงวันที่ 3 – 8 ก.ย. 67 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของประเทศไทย
เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ ภาคตะวันออก และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง
ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ หลังจากนั้น ร่องมรสุมกำลังจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย ภาคใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง
ในช่วงวันที่ 2 – 3 ก.ย. 67 สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 4 – 8 ก.ย. 67 คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามัน มีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ข้อควรระวัง: ในช่วงวันที่ 2 – 8 ก.ย. 67 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง ในช่วงวันที่ 4 – 7 ก.ย. 67

สถานการณ์แผ่นดินไหว(ในช่วงวันที่ 1 - 2 ก.ย. 67): ตรวจพบเหตุการณ์แผ่นดินไหว
ขนาด 2.4 มีศูนย์กลางอยู่ที่ประเทศเมียนมา ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทยแต่อย่างใด
#กรมอุตุนิยมวิทยา

✍️มูลนิธิหัวใจบริสุทธ์ จับมือแรงงาน น่าน และภาคเอกชน มอบถุงยังชีพช่วยผู้ประสบอุทกภัย🎈 👉วันที่ 1 กันยายน 2567 นางเธียรรัต...
01/09/2024

✍️มูลนิธิหัวใจบริสุทธ์ จับมือแรงงาน น่าน และภาคเอกชน มอบถุงยังชีพช่วยผู้ประสบอุทกภัย🎈

👉วันที่ 1 กันยายน 2567 นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ ประธานมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ พร้อมด้วย นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มไทยสมายล์บัส เจ้าหน้าที่กลุ่มพลังงานบริสุทธิ์ กลุ่มไทยสมายล์กรุ๊ป ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ จำนวน 300 ชุด เพื่อช่วยเหลือและเยี่ยมให้ขวัญกำลังใจแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอเชียงกลาง จังหวัดน่าน โดยมี
นายเทวา ปัญญาบุญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นางสาวจำลองลักษณ์ ก่ายแก้ว แรงงานจังหวัดน่าน พร้อมหัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดน่าน นายอำเภอเชียงกลาง และชาวบ้านในพื้นที่ ร่วมให้การต้อนรับ ณ ที่ว่าการอำเภอเชียงกลาง จังหวัดน่าน

นางเธียรรัตน์ กล่าวว่า มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ กระทรวงแรงงาน กลุ่มพลังงานบริสุทธิ์ กลุ่มไทยสมายล์กรุ๊ป และพลังเครือข่ายภาคเอกชนมีความห่วงใยต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัย ในวันนี้มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์จึงได้นำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคซึ่งได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชน ได้แก่ บริษัท สหพัฒนพิบูลย์ จำกัด บริษัท ไบ่ลี่ เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด บจก. คิงส์แพ็ค อินดัสเตรียล บริษัท ไทย สมายล์ บัส กลุ่มพลังงานบริสุทธิ์ (E@) และเครือข่ายภาคเอกชน ที่ได้ร่วมบริจาคเครื่องอุปโภคบริโภค อาทิ ข้าวสาร น้ำดื่ม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง ข้าวโอ๊ต โจ๊กคัพ โดนัท อาหารแห้ง เป็นต้น มามอบให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดน่าน รวมทั้งมูลนิธิยังได้มอบเรือท้องแบน จำนวน 6 ลำ เพื่อมอบให้กับทางจังหวัดน่านไว้ใช้ประโยชน์ในการนำไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ นอกจากนี้ สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานน่าน ยังได้ให้บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
และซ่อมรถจักรยานยนต์ที่ได้รับผลกระทบเสียหายจากอุทกภัยแก่ประชาชนอีกด้วย

นางเธียรรัตน์ กล่าวต่อว่า ในวันนี้มูลนิธิยังได้มอบรถเข็นวีลแชร์ที่ได้รับการบริจาคจากกลุ่มไทยสมายล์กรุ๊ป ผู้ให้บริการรถและเรือโดยสารสาธารณะพลังงานไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งจากการที่มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ได้นำถุงยังชีพมามอบให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยและนำรถเข็นวีลแชร์มามอบให้ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ในครั้งนี้ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อน เติมกำลังใจ ให้แก่ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ในพื้นที่จังหวัดน่านได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถอยู่ร่วมในสังคมได้อย่างมีความสุข และถือเป็นกิจกรรมหลักที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของมูลนิธิในด้านการสร้างสาธารณประโยชน์ ต่อชุมชน สังคม ทั้งนี้ มูลนิธิฯ จะทยอยส่งต่อธารน้ำใจถึงผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ที่ต้องการความช่วยเหลือ ต่อไป
#กรมประชาสัมพันธ์

ที่อยู่

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปราจีนบุรี ถนนสุวินทวงศ์ ตำบลไม้เค็ด
อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี
25230

เวลาทำการ

จันทร์ 08:30 - 16:30
อังคาร 08:30 - 16:30
พุธ 08:30 - 16:30
พฤหัสบดี 08:30 - 16:30
ศุกร์ 08:30 - 16:30

เบอร์โทรศัพท์

+6637454058

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปราจีนบุรีผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปราจีนบุรี:

วิดีโอทั้งหมด

แชร์