เชฟชายไทบ้านออสซี่-ChefChaithaibannausie

23/08/2024

หนุ่มๆคิดว่ามนุษย์เมนส์น่ากลัวแล้ว คุณเคยเจอมนุษย์ท้องแล้วหรือยัง
🤣🤣🤣

22/08/2024

🙏🥰

22/08/2024

🥰✅🙏

22/08/2024

ขอให้ทุกคนปลอดภัยครับ🙏🥰

22/08/2024

Spring roll หรือ ปอเปี๊ยะ อีกหนึ่งอาหารขายดี ออกบ่อย ครัวไทยในต่างแดน #เชฟชายไทบ้านออสซี่ #เชฟไทยในต่างแดน

21/08/2024

✅😊

21/08/2024

เปาหมายมีไว้พุ่งชน #เชฟชายไทบ้านออสซี่ #เชฟไทยในต่างแดน

20/08/2024

😊✅❤️

20/08/2024

🙏😊

ิิิิิิิิ

20/08/2024

งานพื้นฐาน ถ้าทำไม่ได้ จะเอาอะไร ไปสอนเด็กรุ่นใหม่😊 #เชฟชายไทบ้านออสซี่ #เชฟไทยในต่างแดน

20/08/2024

✅😊

🔎 ทองคำ “Spot Gold” พุ่งทะยานทะลุ 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยคาดว่าการปรับตัวขึ้นทะลุ All Time High ครั้งนี้มาจากปัจจัยความคาดหวังการลดดอกเบี้ยของ FED ที่เริ่มมากขึ้น หลังดัชนี CPI เริ่มส่งสัญญาณว่า “ฤดูกาลอันยาวนานของเงินเฟ้อ เริ่มผ่านพ้นไป”

คุณฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน เเอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านทาง Live สด กับ Business Tomorrow เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมากล่าวว่าทองคำยังพุ่งได้ไกลกว่านี้

เพราะแนวต้านที่สำคัญของทองคำมาโดยตลอด + เป็นจุดที่ทุกคนเฝ้ามองคือ 2,500 จุด คุณฐิภากล่าวว่าหากทองคำทะลุ 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ต่อไปเราอาจได้เห็นทองคำพุ่งไปถึง 2,650 ดอลลาร์ต่อออนซ์!

หรือประมาณ 41,750 - 44,000 บาท ต่อบาททองคำ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อว่าตอนนี้เราจะได้เห็นทองคำในราคาระดับ 4 หมื่นบาทไทยแล้ว

แต่ปัจจัยหนุนที่สำคัญสำหรับทองคำที่จะพุ่งไป 2,650 จุดได้คือ “FED ต้องลดดอกเบี้ย”

ผู้เขียน ปฏิพัทร์ ปรมัตถ์วรโชติ

ฟังบทสัมภาษณ์เต็มใน Comment

19/08/2024

ยอมถอยหลัง 1 ก้าว
เพื่อไห้ก้าวต่อไปได้ไกลกว่า
#เชฟชายไทบ้านออสซี่ #เชฟไทยในต่างแดน

19/08/2024

✅เร็ว ✅สะอาด✅เรียบร้อย
จงทำซ้ำให้เกิดนิสัย
#เชฟชายไทบ้านออสซี่ #เชฟไทยในต่างแดน

17/08/2024

จงบังคับตัวเองให้มีวินัย แล้วความสำเร็จจะตามมา #เชฟชายไทบ้านออสซี่ #เชฟไทยในต่างแดน

16/08/2024

ป่นปลาทู จาก ออสเตรเลีย #อาหารพนักงาน #เชฟชายไทบ้านออสซี่ #เชฟไทยในต่างแดน

16/08/2024

การลงทุนมีความเสี่ยงแต่ไม่คิดจะลงทุนอะไรเลย
เสี่ยงกว่าเพราะฉนั้น
100x100 มันได้น้อย
ต้อง 1000x1000ครับผม

15/08/2024

จังหวะชีวิตมันมีอยู่จริง #เชฟชายไทบ้านออสซี่ #เชฟไทยในต่างแดน

15/08/2024

มีโรคใหม่มาทดสอบ ภูมิต้านทาน อีกแล้วครับ✅😌

14/08/2024

ลาบหมูแบบเร่งด่วน 15 นาทีเสร็จ #กับแกล้ม #เชฟชายไทบ้านออสซี่ #เชฟไทยในต่างแดน

13/08/2024

ให้เลือดให้ชีวิต #เชฟชายไทบ้านออสซี่ #เชฟไทยในต่างแดน #ความสุขของผู้ให้ยิ่งใหญ่กว่าผู้รับเสมอ

13/08/2024

✅😌

สหรัฐจะเผชิญต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือไม่? และทองคำจะมีทิศทางอย่างไร

สัปดาห์ก่อนนักลงทุนเริ่มกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐ หลังจากที่การจ้างงานสหรัฐทั้ง ADP และ NFP ออกมาไม่ดี รวมถึงอัตราว่างงานก็พุ่งขึ้นเป็น 4.3% ซึ่งมีทฤษฎีหนึ่งที่มีความแม่นยำและได้รับการยอมรับเป็นวงกว้าง คือ กฎของ Sahm Rule

ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยกฎ Sahm จะส่งสัญญาณถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยเมื่อนำ“อัตราการว่างงาน” (Unemployment Rate) ระดับประเทศเฉลี่ยเคลื่อนที่ 3 เดือนย้อนหลัง ลบด้วยอัตราการว่างงานต่ำที่สุดในรอบ 12 เดือน

โดยมีค่าชี้วัดคือ 0.5% ถ้าค่าออกมา 0.5% หรือมากกว่า 0.5% จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยปกติแล้วหากตัวเลขดังกล่าวแตะ 0.5% มีโอกาสที่เศรษฐกิจจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ภายหลังจากนั้นประมาณ 6 เดือน

ซึ่งจากสถิติที่ผ่านมา ถ้าเราพิจารณาจากกราฟ ซึ่งสีเทาคือการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย พบว่า เส้นจาก Sahm Rule ได้มีการแตะค่า 0.5% หรือมากกว่านั้นไปทั้งหมด 12 ครั้งนับตั้งแต่ปี 1950 จะพบว่าได้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยตามมาหลังจากนั้นทั้งหมดไปกว่า 10 ครั้ง นั่นหมายความว่า กฎ Sahm Rule นั้นส่วนใหญ่แล้วจะมีความแม่นยำในการนำมาคาดการณ์ของภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้

📌 แล้วโอกาสที่สหรัฐจะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้มากน้อยขนาดไหน?

ซึ่งตรงนี้นักวิเคราะห์ และกูรูหลายท่านมีความเห็นที่ค่อนข้างแตกต่าง จากมุมมองความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดหลายท่านมีมุมมองที่ไม่เห็นด้วยว่าตัวเลขการจ้างงานสหรัฐที่ต่ำกว่าคาดจะหมายถึงเศรษฐกิจสหรัฐกำลังเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย รวมถึงมุมมองอีกหลายคน ได้แก่ CEO ของ MAERSK ที่ยังไม่เห็นสัญญาณของภาวะเศรษฐกิจถดถอย

เนื่องจากคำสั่งซื้อสินค้าทางเรือยังคงเพิ่มสูงขึ้น และ Demand ต่อสินค้าทางเรือยังเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่ง Demand ตู้คอนเทนเนอร์เป็นตัวบ่งชี้ Demand สินค้าในระดับมหภาค และสินค้าคงคลังสหรัฐ ณ ปัจจุบันมากกว่าสินค้าคงคลังในช่วงต้นปีนี้ด้วยซ้ำ

ด้านแบล็กร็อก ซึ่งเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์รายใหญ่ที่สุดในโลกคาดการณ์ว่า มองว่าตัวเลขจ้างงานที่อ่อนแอเกินคาดของสหรัฐนั้นเกิดจากการชะลอตัวของการจ้างงาน ไม่ใช่เกิดจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย และการที่อัตราว่างงานพุ่งขึ้นเกิดจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณแรงงานอันเนื่องมาจากแรงงานต่างชาติที่อพยพเข้าสู่สหรัฐ ไม่ใช่เกิดจากการเลิกจ้างของบริษัท แต่ก็มีความเห็นที่แตกต่างออกไป จาก JPMorgan เชื่อว่ามีโอกาส 35-40% ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป (soft landing) ซึ่งมีแนวโน้มมากที่สุดที่จะทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

อย่างไรก็ตาม ด้านกลุ่มฮั่วเซ่งเฮงมองว่า โอกาสที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยอาจยังไม่เกิดขึ้น อาจเป็นเพียง Soft Landing เท่านั้น เนื่องจากการจ้างงานสหรัฐที่มีการชะลอตัวลงเป็นเพียงชั่วคราวจากผลกระทบการเลิกจ้างงานชั่วคราว ด้วยผลกระทบจากพายุเฮอริเคน และอัตราว่างงานที่พุ่งสูงมาจากการยกเลิกการจ้างงานชั่วคราว และปัญหาแรงงานที่เพิ่มขึ้น จากปัญหาผู้อพยพเข้าสหรัฐจำนวนมาก ขณะที่ดัชนีภาคบริการยังคงดี และกำลังแรงยังคงเติบโต

ทั้งนี้นักลงทุนก็เริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยลงไปบ้าง ถึงแม้ว่าจะมีแรงเทขายทองคำในช่วงที่นักลงทุนมีความกังวลดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามราคาทองคำยังคงได้รับผลบวก หากภาวะเศรษฐกิจถดถอยเกิดขึ้น โดยผลตอบแทนเฉลี่ยของราคาทองคำในช่วงที่เกิดภาวะเศรษฐกิจที่ผ่านมานั้นเป็น 12.7% แต่การคลายความกังวลเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวก็อาจส่งผลเชิงลบต่อราคาทองคำ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มดอกเบี้ยขาลง และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ก็ยังคงสามารถหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นสู่ All-Time High ใหม่ได้

ราคาทองคำปรับตัวขึ้นจากบริเวณ Neckline ของรูปแบบ Double Top และสามารถยืนเหนือเส้น SMA ทุกเส้น ซึ่งทองคำยังคงมีแรงซื้อที่แข็งแกร่ง โดยราคาทองคำมีแนวรับ 2,400 ดอลลาร์ และมีแนวรับที่สำคัญที่ไม่ควรหลุด คือ 2,367 ดอลลาร์ แนะนำเข้าซื้อทองคำบริเวณแนวรับดังกล่าว โดยราคาทองคำมีแนวต้าน 2,450 ดอลลาร์ และแนวต้าน 2,480 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 40,200 บาท และ 40,000 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 40,800 บาท และ 41,000 บาท

เรียบเรียงจาก ฮั่วเซ่งเฮง

13/08/2024

กระเพราเศษเนื้อ Rib-eye เผ็ดๆ #อาหารพนักงาน #เชฟชายไทบ้านออสซี่ #เชฟไทยในต่างแดน

12/08/2024

🙏😊

12/08/2024

ระเบิดเวลา😌

วิกฤตหนี้สินคุกคามคนไทย คนส่วนใหญ่อาจไม่มีเงินใช้หลังเกษียณ

ปัญหาหนี้สินและการขาดเงินออมกลายเป็นวิกฤตที่คนไทยจำนวนมากเผชิญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนวัยทำงานและผู้สูงอายุ ผลสำรวจล่าสุดชี้ให้เห็นว่าคนไทยส่วนใหญ่มีหนี้สินเกินตัว รายได้ไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิต และไม่มีเงินออมสำรองไว้ใช้ยามฉุกเฉินหรือหลังเกษียณอายุ ทำให้เสี่ยงต่อภาวะ “แก่ก่อนรวย” หรือต้องดิ้นรนหาเงินใช้ไปจนถึงวัยชรา

- คนวัยทำงานเกินครึ่งออมเงินได้น้อย

- หนี้สินท่วมท้น: หลายคนแบกรับภาระหนี้บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล และหนี้บ้าน ทำให้รายได้ส่วนใหญ่ต้องนำไปชำระหนี้

- ค่าครองชีพสูง: ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตประจำวัน เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าเช่า ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เหลือเงินออมน้อยลง

- ขาดวินัยในการออม: หลายคนยังไม่มีวินัยในการออมเงินอย่างสม่ำเสมอ หรือไม่รู้จักวิธีการออมเงินที่เหมาะสม

- คนอายุ 60 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่ไม่มีเงินใช้หลังเกษียณ

- เงินบำนาญไม่เพียงพอ: เงินบำนาญที่ได้รับจากการทำงานไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตในวัยเกษียณ

- ค่ารักษาพยาบาลสูง: ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพเพิ่มสูงขึ้นตามอายุ ทำให้ต้องใช้เงินจำนวนมาก

- ไม่มีทรัพย์สิน: ไม่มีบ้านหรือที่ดินเป็นของตนเอง ทำให้ไม่มีแหล่งรายได้เพิ่มเติม

📌 แนวทางการแก้ไขปัญหา

- เพิ่มความรู้ทางการเงิน: ส่งเสริมให้คนไทยทุกกลุ่มเข้าถึงความรู้ทางการเงิน เพื่อให้สามารถวางแผนการเงินส่วนบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

- ส่งเสริมการออม: สร้างแรงจูงใจให้คนออมเงิน เช่น การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี หรือการจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

- ปรับโครงสร้างหนี้: ช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาหนี้สินในการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อลดภาระหนี้สินและเพิ่มโอกาสในการออม

- สร้างรายได้เพิ่มเติม: สนับสนุนให้ผู้สูงอายุมีกิจกรรมสร้างรายได้เพิ่มเติม เช่น การทำงานพาร์ทไทม์ หรือการขายสินค้าออนไลน์

ปัญหาหนี้สินและการขาดเงินออมเป็นปัญหาเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของคนไทยเป็นอย่างมาก ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหานี้ โดยการให้ความรู้ทางการเงินแก่ประชาชน ส่งเสริมการออม และช่วยเหลือผู้ที่ประสบปัญหาหนี้สิน เพื่อให้คนไทยทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและมีเงินออมเพียงพอสำหรับใช้ในยามเกษียณ

#หนี้สิน #เงินออม #การเงินส่วนบุคคล #วินัยทางการเงิน #เกษียณ #แก่ก่อนรวย #รายได้ #ค่าครองชีพ #เศรษฐกิจไทย #หนี้บัตรเครดิต #สินเชื่อส่วนบุคคล #หนี้บ้าน #เงินเดือนน้อย

12/08/2024

สัญญาณไม่ค่อยดีแล้วนะครับ มันจะหนักกว่า ปี40 เพราะรอบนี้โดนทั้งระบบ✅

สินค้าจีนท่วมตลาดไทย ขาดดุลการค้าพุ่งสูง กกร. ร้องรัฐบาลควรเร่งแก้ไขด่วน!

สถานการณ์การค้าระหว่างไทยกับจีนกำลังเป็นที่จับตามองอย่างใกล้ชิด หลังจากพบว่าปริมาณการนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ไทยขาดดุลการค้ากับจีนในระดับที่น่าเป็นห่วง ซึ่งตอนนี้ไทยขาดดุลการค้าจีนไปแล้ว 7 แสนล้านกว่าบาท เพิ่มขึ้น 15% จากปี 2566 ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อภาคการผลิตอุตสาหกรรม 23 กลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจีนที่เข้ามาแข่งขันในตลาดไทยอย่างดุเดือด ทำให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ของไทยได้รับผลกระทบอย่างหนัก

“คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน” หรือ กกร. เสนอให้รัฐบาลเข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจสอบคุณภาพของสินค้าที่นำเข้าจากจีนให้เข้มงวดมากขึ้น เนื่องจากพบว่าสินค้าบางชนิดไม่ได้มาตรฐานและอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้บริโภค นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาปรับโครงสร้างภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยสามารถแข่งขันกับสินค้าจากจีนได้อย่างเป็นธรรม

เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว รัฐบาลควรดำเนินการในหลายด้าน ดังนี้

- เข้มงวดการตรวจสอบคุณภาพสินค้า: ตรวจสินค้าที่นำเข้าจากจีนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานเข้าสู่ตลาด

- ปรับโครงสร้างภาษี: พิจารณาปรับอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนบางประเภท เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและส่งเสริมการผลิตในประเทศ

- สนับสนุน SMEs: ให้การสนับสนุนด้านเงินทุน เทคโนโลยี และการตลาดแก่ SMEs เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

- เจรจาการค้า: เจรจาการค้ากับจีน เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาการค้าที่ไม่เป็นธรรม

หากปล่อยให้ปัญหาการค้าระหว่างไทยกับจีนยังคงเป็นอยู่ในภาวะเช่นนี้ อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในระยะยาว ดังนี้

- การสูญเสียรายได้ของรัฐ: รัฐบาลจะสูญเสียรายได้จากภาษีนำเข้า

- การว่างงานเพิ่มขึ้น: ผู้ประกอบการ SMEs อาจต้องปิดกิจการลง ส่งผลให้เกิดการว่างงานเพิ่มมากขึ้น

- การขาดดุลการค้าเรื้อรัง: ปัญหาการขาดดุลการค้าอาจกลายเป็นปัญหาเรื้อรังและส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ

- ความเสียหายต่อผู้บริโภค: ผู้บริโภคอาจได้รับสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานและได้รับความเสียหายจากผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ไม่ได้คุณภาพ

ปัญหาสินค้าจีนบุกตลาดไทยและส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ SMEs เป็นปัญหาที่ซับซ้อนและต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการแก้ไข รัฐบาลควรต้องเร่งดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน

#สินค้าจีน #ขาดดุลการค้า #อีคอมเมิร์ซ #รัฐบาล #ภาษีนำเข้า #คุณภาพสินค้า

12/08/2024

ถ้าใจสู้ทำอะไรก็ง่าย #เชฟชายไทบ้านออสซี่ #เชฟไทยในต่างแดน

12/08/2024

ป่นปลาทู😊😊 #อาหารพนักงาน #เชฟชายไทบ้านออสซี่ #เชฟไทยในต่างแดน