19/12/2023
พรุ่งนี้ (20 ธ.ค.66 ) เวลา 09.00 น. บันลังก์ 903 ศาลแพ่งกรุงเทพใต้นัดฟังคำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ กรณีฤทธิรงค์ ชื่นจิตร เหยื่อตำรวจซ้อมทรมานคลุมถุงดำ ฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เรียกค่าเสียหาย 13 ล้าน แม้ก่อนหน้านี้ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ฤทธิรงค์ เป็นจำนวนเงิน 3,380,000 บาท ส่วนคำขอให้ลบทะเบียนประวัติอาชญากรของโจทก์ให้ยกฟ้อง ในคดีหมายเลขดำ พ.949/2560 หมายเลขแดงที่ พ2003/2562
คดีนี้สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2552 นายฤทธิรงค์ ชื่นจิตร ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรีจับกุมและซ้อมทรมานทำร้ายร่างกาย โดยมีการใช้ถุงดำคลุมศีรษะให้ขาดอากาศหายใจ เพื่อบังคับให้รับสารภาพในคดีวิ่งราวทรัพย์ ซึ่งจากการสืบสวนในภายหลังพบว่าเป็นการจับผิด ขณะนั้นฤทธิรงค์มีอายุเพียง 18 ปี เท่านั้น ต่อมาปี 2558 ฤทธิรงค์ได้ฟ้องดำเนินคดีอาญาต่อเจ้าหน้าที่ผู้กระทำความผิดในกรณีดังกล่าวรวม 7 นาย
โดยในคดีนี้ ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาถือว่าถึงที่สุดว่า พันตำรวจโทท่านหนึ่ง(จำเลยที่ 3) กระทำความผิดจริง ตามประมวลอาญา มาตรา 157, 200 วรรคสอง, 295, 296, 309, 310 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 83 เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 จึงลงโทษฐาน “เป็นเจ้าพนักงานมีอำนาจหน้าที่สืบสวนสอบสวนคดีอาญา กระทำการเพื่อจะแกล้งให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดต้องรับโทษ” ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด
โดยลงโทษจำคุก 2 ปี และปรับ 12,000 บาท แต่ศาลลดโทษให้โดยเห็นว่าคำให้การของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 1 ปี 4 เดือน และปรับ 8,000 บาท เมื่อคำนึงถึงประวัติ อาชีพ และสภาพความผิดแล้ว และไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงให้รอการลงโทษเพื่อให้โอกาสจำเลยกลับตัว กล่าวคือรอลงอาญาไว้เป็นเวลา 2 ปี
ต่อมา ศาลชั้นต้น ได้อ่านคำพิพากษา ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ฤทธิรงค์ ประกอบด้วย ค่าเสียหายต่อชีวิตร่างกายและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ จำนวน 1 ล้านบาท ค่าเสียหายต่อการถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวตั้งแต่เวลา 15.00-19.00 น. จำนวน 8 หมื่นบาท ค่าเสียหายต่อชื่อเสียงโดยคำนวนจากสถานภาพของฤทธิรงค์ ขณะถูกทำร้ายและโอกาสในการประกอบอาชีพในอนาคต ให้ 3 แสนบาท และสุดท้ายค่าเสียหายต่อจิตใจ
โดยศาลได้พิจารณาจากคำเบิกความของแพทย์ที่รักษาโจทก์มาเป็นเวลาหลายปี ว่าโจทก์มีอาการทางจิตเวชหรือ PTSD หรือโรคเครียดอย่างรุนแรงจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญดังกล่าว จำนวน 2 ล้านบาท สตช.จึงต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวนเงินทั้งสิ้น 3,380,000 บาทแก่โจทก์ โดยให้คิดดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันทำละเมิดต่อโจทก์เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2552 จนถึงวันที่ 10 เมษายน 2564
หากรวมดอกเบี้ยถึงวันฟ้อง เป็นจำนวนเงิน 6,844,500 และให้คิดดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี นับแต่วันที่ 11 เมษายน 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระให้แก่ฤทธิรงค์ เสร็จสิ้น ให้ยกคำขอให้ให้ลบประวัติอาชญากรของฤทธิรงค์ และฤทธิรงค์ ยังไม่เห็นพ้องด้วยกับคำพิพากษาศาลชั้นต้น จึงได้ยื่นอุทธรณ์โต้แย้งคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้พิจารณาต่อไป
มูลนิธิผสานวัฒนธรรม จึงขอเชิญชวนสื่อมวลชน และประชาชนที่สนใจร่วมรับฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ตามวันเวลาที่กล่าวมาแล้วข้างต้น และร่วมให้กำลังใจครอบครัวฤทธิรงค์ ชื่นจิตร ว่าการต่อสู้มาตลอด 13 ปีที่ผ่านมา จะได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ ต่อไป
.
#ฤทธิรงค์ชื่นจิตร #คดีฤทธิรงค์ #พรบทรมานอุ้มหาย #ซ้อมทรมาน