14/05/2024
#ขอมอบคำสั่งสุดท้ายก่อนสิ้นลมหายใจ
พระสัจจะวาจาอมตะธรรมด้วย"พระบริสุทธิคุณ"พระเมตตาคุณ"พระปัญญาคุณ
#เมื่อเราเกิดมาแล้ว ชีวิตต้องพบกับความแก่ ความเจ็บป่วย และความตายเป็นธรรมดา สุดท้ายเราทุกคนก็คืนสภาพสู่ธรรมชาติ ตราบใดหากเรายังไม่สิ้นทุกข์ ปลดเปลื้องกิเลสได้ เราก็ต้องเวียนว่ายอยู่ในวงจรนี้ตลอดไป
คำสอนอันมีในครั้งสุดท้ายของพระพุทธองค์...
"วยธมฺมา สงฺขารา อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ
แปลว่า #สังขารทั้งหลาย มีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงยังประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่นให้ถึงพร้อม ด้วยความไม่ประมาทเถิด"
"โย โว อานนฺท มยา ธมฺโม จ วินโย จ เทสิโต ปญฺญตฺโต โส โว มมจฺจเยน สตฺถา. แปลว่า ดูกรอานนท์ ธรรมแลวินัยใด ที่เราได้แสดงแล้ว และบัญญัติแล้ว แก่เธอทั้งหลาย ธรรมและวินัยนั้น จักเป็นศาสดาของเธอทั้งหลาย ในเมื่อเราล่วงลับไป"
เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว ๘ วัน มัลละกษัตริย์แห่งเมืองกุสินารา พร้อมด้วยประชาชนและพระสงฆ์ มีพระมหากัสสปะเถระเป็นประธาน พร้อมกันกระทำการถวายพระเพลิงพุทธสรีระ ณ มกุฎพันธเจดีย์ แห่งเมืองกุสินารา เมื่อวันแรม ๘ ค่ำ เดือน ๖ ซึ่งนิยมเรียกกันว่า “วันอัฏฐมี”
หลังจากที่พระเพลิง ซึ่งเผาไหม้พระพุทธสรีระดับมอดลงแล้ว บรรดากษัตริย์มัลละทั้งหลาย จึงได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุทั้งหมด ใส่ลงในหีบทองคำแล้วนำไปรักษาไว้ภายในนครกุสินารา
ส่วนเครื่องอัฏฐบริขารต่างๆของพระพุทธเจ้า ได้มีการอัญเชิญไปประดิษฐานตามที่ต่างๆ อาทิ ผ้าไตรจีวร อัญเชิญไปประดิษฐานที่แคว้นธาระ บาตรอัญเชิญไปประดิษฐานที่ปาตลีบุตร เป็นต้น
สาธุ…วัดท่าไม้ โบสถ์ทองคำ 👏👏👏
Cr:ขอบคุณภาพและบทความ