18/05/2024
ภาพจำของเทือกเขาเอเวอเรสต์ นอกจากจะเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกแล้ว ปัจจุบันเทือกเขาแห่งนี้กลับถูกขนานนามว่าเป็น “บ่อขยะที่ใหญ่ที่สุดในโลก” ไปเสียแล้ว
ยอดเขาเอเวอเรสต์เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบความท้าทายผจญภัย อย่างไรก็ตาม จำนวนนักปืนเขาที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้พื้นที่ตั้งแคมป์กำลังเผชิญกับปัญหาขยะสะสมจำนวนมาก เศษอาหาร กระป๋อง กล่องพัสดุ อุปกรณ์ปีนเขา และมูลของเสียจากมนุษย์ ต่างสร้างความตกตะลึงให้กับนักสิ่งแวดล้อม
ทุกปีจะมีนักปีนเขาพยายามพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์กว่า 600 คน ซึ่งนักปีนเขาแต่ละคนใช้เวลาอยู่บนเขานานหลายสัปดาห์ ในระหว่างนั้น พวกเขาก็ได้สร้างขยะจำนวนมากระหว่างทาง กลายเป็นเรื่องน่ากังวลใจ เมื่อเห็นแนวโน้มนักปีนเขาที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี สาเหตุเพราะปริมาณขยะทั้งหมดบนภูเขาเอเวอเรสต์นั้นมหาศาล ซึ่งส่วนใหญ่จะยังคงอยู่ภายในอุทยานฯ จนกระจายออกมาจากธารน้ำแข็ง อีกทั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้หิมะและน้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นขยะที่ถูกทิ้งไว้ใต้ชั้นน้ำแข็งมานานหลายทศวรรษ
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปี 2023 มีปริมาณขยะที่ถูกเก็บบนยอดเขามากถึง 75 ตัน ซึ่งเท่ากับน้ำหนักของฮิปโป 50 ตัวรวมกัน แต่หากคำนวณแบบรายปี จะพบว่า มีการสร้างขยะปีละประมาณ 1,000 ตัน เลยทีเดียว ขยะเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ และก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านสุขภาพร้ายแรงต่อประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำของเทือกเขาเอเวอเรสต์
อย่างไรก็ตามทางรัฐบาลและองค์กรภายนอกพยายามแก้ไขปัญหานี้อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2019 รัฐบาลเนปาลได้ริเริ่มโครงการเก็บกวาดขยะบนภูเขาเอเวอเรสต์กว่า 10,000 กิโลกรัม (22,000 ปอนด์) นอกจากนี้ยังมีโครงการเก็บเงินมัดจำก่อนปีนเขาตั้งแต่ปี 2014 โดยนักท่องเที่ยวที่ต้องการปีนเขาเอเวอเรสต์จะต้องวางเงินประกัน 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว ๆ 150,000 บาทไทย ซึ่งจะได้รับเงินคืนเมื่อนักปีนเขาสามารถนำขยะลงมาได้ 8 กิโลกรัม (18 ปอนด์) ซึ่งเป็นปริมาณขยะเฉลี่ยที่นักปีนเขา 1 คน สร้างขึ้นระหว่างการปีนเขา มากไปกว่านั้น ยังมีการริเริ่มโครงการก๊าซชีวภาพจากยอดเขาเอเวอเรสต์ (The Mount Everest Biogas Project) โดยมีแนวคิดการแก้ไขปัญหานี้ในระยะยาว เริ่มจากการสร้างระบบพลังงานแสงอาทิตย์ที่จะเปลี่ยนมูลของเสียของมนุษย์ให้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับชุมชนท้องถิ่น เว็บไซต์ของโครงการระบุว่า วิธีนี้จะช่วยลดการทิ้งมูลของเสียไว้ตามหมู่บ้าน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของแหล่งน้ำ และสร้างงานให้กับคนในท้องถิ่นอีกด้วย
#ขยะ
ที่มา Trash and Overcrowding at the Top of the World, education nationalgeographic.
Mount Everest is turning into the world's highest garbage dump: Shocking map reveals the sheer scale of rubbish left on the mountain, dailymail.