SD Thailand

SD Thailand ESG, SDGs, Brand Purpose บริบทใหม่ของโลกและธุรกิจ เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกและการเติบโตอย่างยั่งยืน

Sustainable Development (SD), Social Enterprise (SE), SDG, ESG, BCG, Soft Power Marketing, Brand Purpose, Sustainable Brand

 #นันยาง นันยาง Nanyang  #ลดราคา รองเท้าผ้าใบสีดำ รุ่น   ชั่วคราวร่วม  #ถวายความอาลัย   #สมเด็จพระพันปีหลวง #น้อมส่งเสด็...
01/11/2025

#นันยาง นันยาง Nanyang #ลดราคา รองเท้าผ้าใบสีดำ รุ่น ชั่วคราว
ร่วม #ถวายความอาลัย #สมเด็จพระพันปีหลวง

#น้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย #สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ #พระบรมราชชนนีพันปีหลวง #พระพันปีหลวง #พระบรมราชชนนีพันปีหลวง #ถวายเป็นพระราชกุศล
🙏🙏🙏

นันยางขอแจ้งปรับราคาสินค้าชั่วคราว

'จาก 2 หมื่นตันต่อปีเป็นศูนย์' กลุ่มซีคอนฯ ปักหมุดศูนย์การค้า   แห่งแรกของประเทศไทย  #ซีคอน ประกาศความสำเร็จในการ​ลดปริม...
01/11/2025

'จาก 2 หมื่นตันต่อปีเป็นศูนย์' กลุ่มซีคอนฯ ปักหมุดศูนย์การค้า แห่งแรกของประเทศไทย

#ซีคอน ประกาศความสำเร็จในการ​ลดปริมาณ #ขยะฝังกลบ จากกว่า 2 หมื่นตันต่อปีให้กลายเป็นศูนย์ (Zero Waste to Landfill) ผ่านการขับเคลื่อนโครงการ 'Seacon Zero Waste : จากขยะ สู่พลังงาน สร้างอนาคตสะอาด' จับมือพันธมิตรร่วมส่งต่อขยะให้​ไปสร้างประโยชน์ต่อแบบจับต้องได้

-โครงการ Seacon Zero Waste ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมค้าปลีกไทย​ เพื่อลดขยะฝังกลบให้เหลือศูนย์อย่างยั่งยืนได้ทั้งระบบ ตั้งแต่การปลูกฝังค่านิยมให้พนักงาน – ร้านค้า การออกแบบพื้นที่แยกขยะที่ใช้งานง่ายสำหรับลูกค้า ไปจนถึงการแปรรูปขยะกลับมาเป็นทรัพยากรและพลังงาน ซึ่งไม่เพียงช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังช่วยสร้างพฤติกรรมใหม่ให้สังคมเดินหน้าไปสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน พร้อมสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

- ที่ผ่านมา กลุ่มซีคอนฯ ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อ #สิ่งแวดล้อม อยู่เสมอ โดยเฉพาะการส่งเสริม​​ #พลังงานสะอาด โดย​​เป็นศูนย์การค้าที่ใช้พลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ที่ผลิตจากแผงโซลาร์มากที่สุดในประเทศไทย ด้วยปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้รวมกันราว 10 .5 เมกะวัตต์ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% จากปริมาณ​​ไฟฟ้าทั้งหมดที่ใช้ภายในศูนย์​ ​ช่วยลดค่าไฟฟ้าลงได้กว่า 40 ล้านบาทต่อปี

- พร้อมต่อยอดสู่การ #แยกขยะ ภายในศูนย์ เพื่อลดปริมาณขยะที่ต้องทิ้ง​สู่หลุมฝังกลบจากทั้ง 2 ศูนย์ ที่มีปริมาณรวมกัน​กว่า 2 หมื่นตันต่อปี แต่ปัจจุบันไม่มีปริมาณขยะที่ต้องทิ้งลงบ่อฝังกลบแล้ว ซึ่งนอกจากลดค่าใช้จ่ายในการจัดการขยะของศูนย์แล้ว ยังสามารถช่วย กทม. ประหยัดงบประมาณ​​ในการจัดการขยะลงได้กว่า 20 ล้านบาทอีกด้วย​

- ปัจจุบันทั้ง 2 ศูนย์ของกลุ่มซีคอนฯ ทั้ง #ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ Seacon Square l ซีคอนสแควร์และ #ซีคอนบางแค Seacon Bangkae l ซีคอน บางแค สามารถปักหมุดสู่ ศูนย์การค้า Zero Waste ได้อย่างเต็มรูปแบบ ผ่านการแยกและจัดการขยะ 3 ประเภทหลัก ทั้งขยะอินทรีย์ ขยะรีไซเคิล และขยะเชื้อเพลิงอุตสาหกรรม

- ขยะส่วนใหญ่ราว 50% เป็นกลุ่ม #ขยะอินทรีย์ และ #ขยะอาหาร ได้ส่งมอบให้ ส่งต่อ​อาหารส่วนเกินให้ผู้ที่มีความต้องการ ส่วนเศษอาหาร ผักผลไม้ ได้ประสานงานผ่านเครือข่ายชุมชนโดยรอบ เพื่อมอบให้เกษตรกรนำไปเลี้ยงปลา หรือทำน้ำหมักและปุ๋ยอินทรีย์เพื่อให้เกษตรกรนำไปใช้ประโยชน์ในการทำเกษตร

- ยังมีขยะที่สามารถนำไป #รีไซเคิล ได้ เช่น พลาสติก ​กระดาษ ขวดแก้ว เหล็ก มีสัดส่วนประมาณ 10% ได้แยกประเภทและนำไปขายให้กลุ่มพันธมิตรที่เข้ามารับซื้อ เพื่อนำ​กลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลตามระบบ ช่วยลดการใช้ทรัพยากรใหม่ในการผลิตวัสดุแต่ละประเภทลงได้ ส่วนอีก 40% จะถูก​ส่งไปเป็นพลังงานเชื้อเพลิงอุตสาหกรรม ( ) ​เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับโรงงานที่ต้องการเชื้อเพลิงพลังงานสูง

- ขยะทั้งหมดของซีคอนฯ จึงมีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบทุกประเภท และไม่เหลือปริมาณที่ต้องนำไปฝังกลบโดยสมบูรณ์ รวมทั้งช่วย #ลดค่าใช้จ่าย ในการจัดเก็บขยะจากเดิมที่มีค่าใช้จ่ายต่อเดือนประมาณ 6 หมื่น​บาท ซึ่งหากไม่มีการแยกขยะอาจจะต้องเสียในอัตราใหม่ตามที่ กทม. ปรับเพิ่มมาอยู่ที่ราวกว่า 2 แสนบาทต่อเดือน

- ปัจจุบันซีคอนเสียค่า​จัดการขยะให้ กทม. ​ราว 5,000 บาทเท่านั้น สำหรับการจัดการขยะอันตรายต่างๆ เช่น หลอดไฟ หรือกระป๋องสี ซึ่งเป็นกลุ่มที่จำเป็นต้องมีการกำจัดอย่างปลอดภัยตามระบบ เพื่อป้องกันสารเคมี หรือสารพิษต่างๆ ​หลุดรอดปะปนไปใน​ธรรมชาติและเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมได้

- การขับเคลื่อนโครงการมาตลอด 3 ปี ทำให้ซีคอนฯ สามารถลดปริมาณขยะฝังกลบได้มากกว่าปีละ 2 หมื่นตัน พร้อม​​ลดการปล่อยคาร์บอนลงได้ 2.4 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (CO2e) เทียบเท่าการปลูกต้นไม้​ 2.5 แสนต้น ​​

- รวมทั้งนำปริมาณขยะประเภทต่างๆ ไปใช้ประโยชน์ทดแทนการฝังกลบ ทั้งขยะอินทรีย์ 3.6 ล้านกิโลกรัม (หลังคัดแยกน้ำ และส่วนของอาหารที่ยังรับประทานได้) ขยะรีไซเคิล 1.7 แสนกิโลกรัม และขยะเชื้อเพลิง RDF 2.7 แสนกิโลกรัม ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวมาจากความร่วมมือของผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ทั้งร้านค้าและพนักงานภายในศูนย์ รวมทั้งลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ​ที่ให้ความร่วมมือคัดแยก​ขยะก่อนทิ้งตั้งแต่ต้นทาง​

- ความท้าทายในการขับเคลื่อนโครงการช่วงแรก อยู่ที่การปรับ ของร้านค้าต่างๆ ให้เห็นถึงความสำคัญของการคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง พร้อมทั้งจูงใจด้วยการจัดกิจกรรมสะสมแต้มเพื่อแลกของรางวัลพิเศษ รวมทั้งการมอบใบประกาศ ให้ทางร้านค้าต่างๆ ที่เข้าร่วมโปรแกรมคัดแยกขยะ ซึ่งเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์ ให้ร้านได้อีกทางหนึ่ง เพื่อสร้างความร่วมมือและสร้างความต่อเนื่องในการปฏิบัติ จนนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ในที่สุด

- ​ขณะที่​ศูนย์เอง ได้ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อรองรับการขับเคลื่อน เช่น เปลี่ยนถังขยะภายในศูนย์ ให้สามารถ​แยกประเภทของขยะที่จะทิ้ง​ รวมทั้งการเปลี่ยนกระดาษชำระภายในห้องน้ำให้​เป็นแบบย่อยสลายได้เพื่อสามารถทิ้งลงไปในชักโครก ​ช่วยลดปริมาณขยะ​กระดาษชำระที่มีกว่าวันละ 700- 800 กิโลกรัม รวมถึงการมีนโยบายให้ร้านค้าภายในศูนย์ที่มีรวมกันกว่า 400 ร้าน ต้องมีการคัดแยกขยะและบริหารจัดการขยะภายในร้านได้อย่างเป็นระบบ เป็นต้น

- หลังบรรลุ Milestones สำคัญ ทั้งส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด และลดปริมาณขยะฝังกลบเป็นศูนย์ การขับเคลื่อนจากนี้จะเน้นทำงานเชิงรุกมากขึ้น ทั้งในส่วนพลังงานสะอาดที่มีแผนลงทุน​เพื่อติดตั้งแผงโซลาร์เพิ่มเติมเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าได้อีก 1-2 เมกะวัตต์ รวมทั้งในอนาคต มีแผนลงทุนเพื่ออัพเกรด​ประสิทธิภาพของแผงโซลาร์ในการผลิตไฟฟ้าได้เพิ่มมากขึ้น

- ส่วนการพัฒนาด้านการจัดการขยะภายในศูนย์ จะเพิ่มประสิทธิภาพในการแยกขยะให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น เพื่อสามารถเพิ่มสัดส่วนปริมาณขยะที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้เพิ่มขึ้น และลดสัดส่วนขยะที่จะนำส่งไปเผาเป็นเชื้อเพลิง RDF ให้ลดน้อยลง เพื่อสร้างประโยชน์และสนับสนุน​​การขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนได้มากขึ้น พร้อมทั้งเดินหน้าขยายผลโครงการ Zero Waste ไปยังมิติอื่นในอนาคต เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ด้านความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมค้าปลีกไทย

#ซีคอนสแควร์ #ซีคอนบางแค #ขยะ #ลดขยะ #ศูนย์การค้า #ยั่งยืน

พร้อมติดตามเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับความยั่งยืนเพิ่มเติม ได้ที่
Website : https://sdthailand.com/
Twitter (X) : https://twitter.com/sdthailand_TH

คณะผู้บริหารและพนักงานภาคเอกชน องค์กร บริษัทชั้นนำต่าง​ร่วมถวายความอาลัย  #สมเด็จพระพันปีหลวง ร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณา...
31/10/2025

คณะผู้บริหารและพนักงานภาคเอกชน องค์กร บริษัทชั้นนำต่าง​ร่วมถวายความอาลัย #สมเด็จพระพันปีหลวง ร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้

#สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเป็นที่รักและเทิดทูนของปวงชนชาวไทย ทรงเป็นศูนย์รวมดวงใจของคนไทยทั้งชาติ ตลอดพระชนม์ชีพกว่าเก้าทศวรรษ ทรงอุทิศพระองค์เพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกร พระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมพระราชทานความร่มเย็นเป็นสุขแก่ประชาชนชาวไทย และทรงเป็นแบบอย่างแห่งพระราชจริยวัตรอันงดงามที่เปี่ยมด้วยพระเมตตา

#น้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย #สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ #พระบรมราชชนนีพันปีหลวง #พระพันปีหลวง #พระบรมราชชนนีพันปีหลวง #ถวายเป็นพระราชกุศล
🙏🙏🙏

โอกาสธุรกิจ ‘ที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม’  #มนุษย์ทองคำ จากวิกฤต    ปัจจุบันผลกระทบจากปัญหา  #สภาพอากาศ และ  #สิ่งแวดล้อม ร...
30/10/2025

โอกาสธุรกิจ ‘ที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม’ #มนุษย์ทองคำ จากวิกฤต

ปัจจุบันผลกระทบจากปัญหา #สภาพอากาศ และ #สิ่งแวดล้อม รุนแรงมากขึ้น ทั้งในมิติของสุขภาพ คุณภาพชีวิต และการดำเนินธุรกิจ

- วิกฤตสภาพอากาศ ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน กระทบทุกคน ทุกพื้นที่ทั่วโลก
- หลายประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย เริ่มประกาศ สู่เศรษฐกิจสีเขียว
- ประเทศไทยขยับเป้าหมาย เร็วขึ้น พร้อมเร่งบังคับใช้ พ.ร.บ.โลกร้อน ภายในปี 2569

จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้เทรนด์ ‘ที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม’ เติบโต สะท้อนผ่านสัญญาณต่างๆ ต่อไปนี้ เช่น

- ผลประกอบการ ‘ธุรกิจที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม’ ในประเทศไทย ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2564 -2566) เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยใน ปี 2566 มีรายได้ 8,719 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,600 ล้านบาท ซึ่งเติบโตได้ถึง 23%

- การซื้อขาย #คาร์บอนเครดิต เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยใน​ปี 2567 มีราคาเฉลี่ย 125 บาทต่อตัน CO2e สูงที่สุดในรอบ 5 ปี

- แนวโน้มขาดแคลนบุคลากรสายสิ่งแวดล้อม ทั้งที่ปรึกษา ผู้ตรวจสอบ และผู้ทวนสอบ โดยบุคลากรในสายงาน อาทิ กลุ่มที่ปรึกษามีราว 530 ราย (ทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล), บุคคลผู้ตรวจสอบ หรือผู้ทวนสอบ มีราว 100 ราย และบริษัทผู้ตรวจสอบและผู้ทวนสอบ มีราว 20 ราย ขณะที่มีจำนวนนิติบุคคลมากกว่า 800,000 ราย ที่ต้องมีการจัดทำรายงานการปล่อยคาร์บอนและความยั่งยืน

ทั้งนี้ มีการประเมินความต้องการบุคลากรสายสิ่งแวดล้อมจะเพิ่มขึ้นถึง 50,000 ตำแหน่ง ภายในช่วง 3 ปีข้างหน้านี้

ทำไมต้องมี ‘ที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม’ ?
1. เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม
ช่วยให้ธุรกิจปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม ลดความเสี่ยงต่อการเสียค่าปรับหรือถูกดำเนินคดี

2. การประเมินและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ช่วยวิเคราะห์และประเมินผลกระทบของการดำเนินงานององค์กรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น GHG Emission การใช้น้ำ การจัดการของเสีย ​เพื่อหาวิธีลดผลกระทบเหล่านี้ให้มากที่สุด

3. การสนับสนุนและพัฒนาโครงการเพื่อความยั่งยืน
ช่วยองค์กรพัฒนาโครงการเพื่อความยั่งยืน เช่น การใช้พลังงานทดแทน การจัดการของเสีย หรือโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

4. การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับคาร์บอนเครดิตและการลดคาร์บอน
ช่วยองค์กรในการจัดการและซื้อขายคาร์บอนเครดิต รวมถึงการวางกลยุทธ์การลดคาร์บอนที่เหมาะสม ​เพื่อบริหารความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายด้านสิ่งแวดล้อมในอนาคต

5. การบริหารความเสี่ยงจากปัจจัยสิ่งแวดล้อม
​ปัญหาสภาพภูมิอากาศ การขาดแคลนทรัพยากร และกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม เป็นความเสี่ยงที่ธุรกิจต้องเผชิญ การมี​ที่ปรึกษาจะช่วยแนะนำ​การวางแผนรับมือและปรับกลยุทธ์เพื่อลดผลกระทบจากความเสี่ยงได้

6. ช่วยสร้างภาพลักษณ์และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
ธุรกิจที่ดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพช่วยเพิ่ม​ความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะในยุคที่ผู้บริโภคและคู่ค้าหันมาใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม​​​

โอกาสธุรกิจ 'ที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม'

'ที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม' มีบทบาทสำคัญ​ในการช่วยให้ธุรกิจและองค์กรสามารถลด #ความเสี่ยง ในดารดำเนินงาน โดยคำนึงถึงความยั่งยืน และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาวในหลากหลายมิติ

ส่งผลให้อาชีพในกลุ่มที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม มีโอกาสเติบโตอย่างมากในปัจจุบันและอนาคตอันใกล้ เนื่องจากกระแสการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหลายประเทศกำหนดขึ้นเพื่อควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

แต่จากปริมาณที่จำกัดของบุคลากร สร้างโอกาสให้กับ​ธุรกิจ 'ที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม' กลายเป็นที่ต้องการของตลาด เปรียบเทียบได้กับ'มนุษย์ทองคำ' ซึ่งเป็นที่ต้องการของทุกฝ่าย โดยเฉพาะใน4 กลุ่มงานหลักต่อไปนี้

1. กลุ่มงานพัฒนา #ความยั่งยืน องค์กร
- เจ้าหน้าที่พัฒนาความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม, สังคม, ธรรมาภิบาล

2. กลุ่ม #ที่ปรึกษา และ #นักวิเคราะห์ การจัดการก๊าซเรือนกระจก ได้แก่
ที่ปรึกษาด้านการประเมินก๊าซเรือนกระจก
- ที่ปรึกษาความเสี่ยงด้านสภาพอากาศ ออกแบบมาตรการลดผลกระทบ ( ) และการรับมือ ( )
- เจ้าหน้าที่โครงการพลังงานหมุนเวียน
- นักวิเคราะห์ด้านความยั่งยืน

3. กลุ่มตรวจสอบและทวนสอบรายงานการประเมินก๊าซเรือนกระจก หรือ
- ผู้ทวนสอบ ผู้เชี่ยวชาญ และประเมินรับรองโครงการลดก๊าซเรือนกระจก ( )

4. กลุ่มงานการจัดการและซื้อขาย #คาร์บอนเครดิต
- ผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจวัดบัญชีคาร์บอนเพื่อการลดและชดเชย
- ผู้จัดการด้านการซื้อขายคาร์บอนเครดิต

#ก๊าซเรือนกระจก #อาชีพ #องค์กร #คาร์บอนฟุตพรินท์ #ยั่งยืน

พร้อมติดตามเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับความยั่งยืนเพิ่มเติม ได้ที่
Website : https://sdthailand.com/
Twitter (X) : https://twitter.com/sdthailand_TH

  เร่ง​สปีด  #พลังงานหมุนเวียน เพิ่มมาตรการ ‘การเงินสีเขียว’ ​เดินหน้าขาย   ขยายตลาดเพิ่ม​ทั้งในไทยและภูมิภาคhttps://www...
30/10/2025

เร่ง​สปีด #พลังงานหมุนเวียน เพิ่มมาตรการ ‘การเงินสีเขียว’ ​เดินหน้าขาย ขยายตลาดเพิ่ม​ทั้งในไทยและภูมิภาค
https://www.sdthailand.com/2025/10/ckpower-expands-recs-business-model/

#ซีเคพาวเวอร์ #พลังงานหมุนเวียน #พลังงานสะอาด #พลังงาน #ก๊าซเรือนกระจก #โรงไฟฟ้า #ลงทุน #การเงินสีเขียว #ยั่งยืน

พร้อมติดตามเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับความยั่งยืนเพิ่มเติม ได้ที่
Website : https://sdthailand.com/
Twitter (X) : https://twitter.com/sdthailand_TH

การเปลี่ยนผ่านในธุรกิจพลังงาน​ (Energy Transitions) จากพลังงานฟอสซิลมาเป็นการใช้พลังงานสะอาดจากแหล่งพลังงานหมุนเวี.....

มุมมอง  #ศูนย์วิจัยกสิกรไทย  KResearch ต่อ​นโยบายการปรับเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์   ของประเทศไทยให้เร...
29/10/2025

มุมมอง #ศูนย์วิจัยกสิกรไทย KResearch ต่อ​นโยบายการปรับเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ของประเทศไทยให้เร็วขึ้น 15 ปี จากปี 2608 (2065) เป็น 2593 (2050) โดยกำหนดให้มีการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 370 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (CO2e) ต่อปี

ทั้งนี้ หากนายกรัฐมนตรีประเทศไทย ยืนยันเป้าหมายใหม่ดังกล่าวในการประชุม ที่กำลังจะมาถึง เชื่อว่า​รูปแบบเศรษฐกิจของประเทศไทย จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ

พร้อมมองว่าความสำเ​ร็จของนโยบายดังกล่าวนี้ จะขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ กฎระเบียบ การบริหารจัดการสินทรัพย์สูญค่าในอนาคต และช่องว่างด้านเงินทุน

1. กฎระเบียบจะเป็นแรงขับเคลื่อนหลักสำคัญของภาคเอกชน

กฎหมายสำคัญ 3 ฉบับ ที่มีบทบาทสำคัญให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมาย ประกอบด้วย พระราชบัญญัติอากาศสะอาด พระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า ( ) ฉบับปรับปรุง

– พ.ร.บ. อากาศสะอาด ถือเป็นก้าวสำคัญในการลดมลพิษโดยรวม และได้มีการนำเสนอเข้า ครม. แล้ว โดยกฎหมายฉบับนี้ได้กำหนดบทลงโทษสำหรับการปล่อยมลพิษเกินมาตรฐาน ทั้งการปรับ จนถึงดำเนินคดีอาญา ทำให้ผู้ผลิตส่วนใหญ่ต้องลงทุนระบบตรวจวัดและควบคุมมลพิษ

– พ.ร.บ. ลดโลกร้อน เป็นกฎหมายสำคัญ ที่กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมกำลังจัดทำเพือนำเสนอ ครม. โดยจะกำหนดกลไกทางกฎหมาย รวมถึงบทลงโทษ กองทุนเพื่อความยั่งยืน เพื่อบรรลุ Net Zero โดยเฉพาะประเด็นสำคัญคือ การสร้างตลาดคาร์บอนภาคบังคับ ซึ่งจะกำหนดให้บริษัทต่างๆ ต้องติดตามปริมาณการปล่อยคาร์บอนฟุตพรินท์ เพื่อลดการปล่อย และเพิ่มการซื้อขายคาร์บอนเครดิต

– แผน​พัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า หรือ PDP ซึ่งประเทศไทยได้จัดทำแผน PDP ฉบับใหม่ในปี 2567 โดยมีเป้าหมายให้ผลิตพลังงานหมุนเวียน 51% ภายในปี 2580

ทั้งนี้ ​ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าจะมีการปรับปรุงแผนดังกล่าวอีกครั้ง โดยมีสาระสำคัญ​ เช่น ทยอยยุติการใช้ถ่านหินให้เร็วกว่าเดิม จากที่กำหนดไว้ในปี 2593 และไม่มีการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่, การเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และระบบกักเก็บพลังงาน เพราะต้นทุนตลอดอายุการใช้งาน ต่ำกว่าการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่ถึง 21-55% , การยกเลิกหรือปรับเปลี่ยนโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมเป็นเชื้อเพลิงไฮโดรเจน และการเพิ่มการลงทุนในเทคโนโลยีดักจับคาร์บอน ​

2. ทรัพย์สินสูญค่าในอนาคต (Stranded Assets) อุปสรรคสำคัญในการเปลี่ยนผ่าน

ทรัพย์สินสูญค่าในอนาคต หมายถึง การลงทุนที่สูญเสียมูลค่าก่อนเวลาอันควร ซึ่งเป็นผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบ เทคโนโลยี หรือการเปลี่ยนแปลงทางสังคม

โดยเฉพาะการเปลี่ยนผ่าน​ในภาคพลังงานและการขนส่ง ซึ่งถือเป็นแหล่งสร้างคาร์บอนไดออกไซด์หลักของประเทศ โดยมีสัดส่วนถึง 69% (พลังงาน 49% และการขนส่ง 20%) ขณะที่การขับเคลื่อนไปสู่ Net Zero จะมีการกำหนดให้ยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ภายในปี 2593 ซึ่งจะกระทบโดยตรงในทั้งสองภาคส่วน รวมทั้งยังมีสัดส่วนสินทรัพย์อีกจำนวนมากที่พึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล

ทั้งนี้ จากแผน PDP​ คาดว่า ภายในปี 2580 ยังคงมีโรงไฟฟ้าฟอสซิล 48% และยังมีรถบรรทุกที่ใช้น้ำมันดีเซลอยู่ถึง 97% ซึ่งภาคโลจิสติกส์ยังคงต้องพึ่งพาอยู่ โดยตามแผนที่วางไว้ให้ปี 2593 โรงไฟฟ้าถ่านหินทั้งหมดต้องถูกปลดระวางหรืออาจถูกเลื่อนให้เร็วขึ้น แต่โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติหลายแห่งทั้งที่ดำเนินการอยู่และอยู่ระหว่างวางแผน อาจยังต้องเดินเครื่องต่อไป หลังจากปี 2593 แต่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนให้เป็นพลังงานไฮโดรเจนเพื่อป้องกันความเสี่ยงในการเป็นทรัพย์สินสูญค่าในอนาคต

ส่วนภาคขนส่ง รถบรรทุกดีเซลรุ่นใหม่ มีอายุการใช้งานถึง 30 ปี ซึ่งนานกว่าระยะเวลาในการเปลี่ยนผ่านในปี 2593 รัฐบาลจึงจำเป็นต้องออกมาตรการเพื่อทยอยยุติการใช้งานหรือจำกัดจำนวนการซื้อ เพราะมูลค่าที่เหลือของรถบรรทุกเครื่องยนต์ดีเซลจะลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อใกล้ถึงกำหนดเวลาดังกล่าว

3. ช่องว่างด้านงบประมาณในระดับสูง
คาดว่าประเทศไทย ต้องใช้งบประมาณในการเปลี่ยนผ่าน 1.28 ล้านล้านบาทต่อปี (ในช่วง​ปี 2566–2578 คำนวณโดยธนาคารกสิกรไทย อ้างอิงข้อมูล UN, Swiss Re Institute, World Economic Forum, Trade Map) เพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่ Net Zero 2050 แต่ปัจจุบันมีการใช้งบประมาณเพียง 0.24 ล้านบาทต่อปี (เครือข่ายการเงินเพื่อการรับมือโลกรวน 2018 -2023) จึงจำเป็นต้องเพิ่มการลงทุนทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน ในสัดส่วนและตามกลุ่มอุตสาหกรรมที่แตกต่างกันตามความเหมาะสม

ประเทศไทยจำเป็นต้องอาศัยงบประมาณจำนวนมากจากภาครัฐเพื่อขยายการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้าเพิ่มเติม อาทิ ระบบกริด สถานีชาร์จ และระบบส่งไฟฟ้า ขณะที่ภาคเอกชนจะต้องเพิ่มการใช้ไฟฟ้าในภาคการขนส่ง และภาคการผลิต ​เช่น การใช้เตาในโรงงานเหล็กหรือปูนซีเมนต์ เป็นต้น

#ธนาคารกสิกรไทย #กสิกรไทย #คาร์บอน #โลกร้อน #พรบโลกร้อน #พรบอากาศสะอาด #พลังงาน #เปลี่ยนผ่าน #ยั่งยืน

พร้อมติดตามเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับความยั่งยืนเพิ่มเติม ได้ที่
Website : https://sdthailand.com/
Twitter (X) : https://twitter.com/sdthailand_TH

 #ติดโซลาร์ แถม  #เน็ตบ้าน ฟรี 1 ปี  #รีบเลย !! โปรแรงจาก 'วันอาทิตย์' by GULF1 ​เมื่อ​ติด  #โซลาร์รูฟท็อป แถม  #อินเตอร...
28/10/2025

#ติดโซลาร์ แถม #เน็ตบ้าน ฟรี 1 ปี

#รีบเลย !! โปรแรงจาก 'วันอาทิตย์' by GULF1 ​เมื่อ​ติด #โซลาร์รูฟท็อป แถม #อินเตอร์เน็ตบ้าน ฟรี 1 ปี พร้อมสิทธิหย่อนภาษี สูงสุด 200,000 บาท ตามนโยบายภาครัฐ ในงาน #บ้านและสวนแฟร์2025 บ้านและสวน Baanlaesuan.com ภายใน​วันที่ 2 พฤศจิกายน 2568 นี้เท่านั้น

#วันอาทิตย์ by ผู้ให้บริการโซลาร์รูฟท็อปครบวงจร ตอกย้ำความพร้อมสู่ผู้นำตลาด ด้วยโซลูชั่นที่มุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพชีวิตและมอบ ‘พลังงานดีๆ’ ให้ทุกครอบครัว ภายใต้แนวคิด Smart Living – Smart Well-Being อย่างยั่งยืน

โอกาสทองเพียงครั้งเดียว! เมื่อจองติดตั้งโซลาร์บ้านกับ 'วันอาทิตย์' ภายในงาน รับข้อเสนอสุดพิเศษ 3 คุ้มทันที
คุ้มที่ 1 : ฟรี! Internet 12 เดือนเต็ม จาก AIS3BBFibre3
คุ้มที่ 2 : ลูกค้า AIS Postpaid รับเพิ่ม! AIS Points สูงสุด 1,500 คะแนน
คุ้มที่ 3 : Gift Set สมนาคุณ และสิทธิ์ลุ้นรับ Smart Gadget

นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถใช้ #สิทธิลดหย่อนภาษี ได้สูงสุดถึง 200,000 บาท ตามนโยบายส่งเสริมจากภาครัฐ

สำหรับ 'วันอาทิตย์' by GULF1 เป็นแบรนด์โซลาร์บ้าน ภายใต้กลุ่มบริษัท ​ที่มุ่งมั่น​ส่งมอบพลังงานดีๆ ให้​ทุกครอบครัว ด้วยระบบโซลาร์คุณภาพโดยคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุด เน้นการใช้อุปกรณ์มาตรฐาน Tier 1 ออกแบบโดยวิศวกรและติดตั้งโดยช่างผู้ชำนาญ ยิ่งไปกว่านั้น ยังยกระดับระบบโซลาร์ให้เป็นโซลูชันบ้านอัจฉริยะแบบครบวงจร ด้วยการร่วมมือกับผู้นำด้านเทคโนโลยีอย่าง AIS 3BB Fibre3 ทำให้สามารถรวมระบบ #พลังงานสะอาด เข้ากับระบบสื่อสารอินเทอร์เน็ต ที่มีเสถียรภาพ รองรับเทคโนโลยี IoT และระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะ ( ) เพื่อ​ให้การใช้พลังงานภายในบ้านเป็นไปอย่างชาญฉลาด คุ้มค่า และสะดวกสบายอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ การติดตั้งโซลาร์ยังถือเป็น 'การลงทุน' ในพลังงานสะอาดที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่า จากการประหยัดค่าไฟฟ้าในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อภาครัฐเตรียมประกาศมาตรการให้สิทธิลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ติดตั้งโซลาร์บ้านภายในสิ้นปี 2568 นี้ จะยิ่งทำให้ประชาชนตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

ขณะที่ 'วันอาทิตย์' ตั้งใจมอบประสบการณ์ที่ดีให้​ลูกค้าใน 4 ด้าน ต่อไปนี้
1. สบายซื้อ (ROI) ระบบคุณภาพสูงช่วยให้ประหยัดค่าไฟได้อย่างชัดเจน ทำให้คุ้มทุนในระยะเวลาอันเหมาะสม
2. สบายจ่าย (Easy to Own) โปรแกรมผ่อนชำระหลากหลาย ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกแผนการชำระเงินของลูกค้า
3. สบายใจ (WorryFree) ไร้กังวลเรื่องการดูแล มอบความอุ่นใจด้วยการรับประกันระบบที่ยาวนานและบริการบำรุงรักษาอย่างมืออาชีพ
4. ปลอดภัย (Safety) ให้ความสำคัญสูงสุดกับมาตรฐานความปลอดภัย ทั้งในขั้นตอนการติดตั้งและพร้อมให้คำแนะนำ/ ปรึกษาในช่วงการใช้งานระบบ

ผู้สนใจ​สามารถแวะมาที่บูธ 'วันอาทิตย์' by GULF1 ในงานบ้านและสวนแฟร์ฯ ได้ตั้งแต่วันนี้ – 2 พฤศจิกายน 2568 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ทีมงานผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษา ช่วยคำนวณขนาดการติดตั้ง หรือออกแบบ 3D เบื้องต้นฟรี เพื่อประเมินความคุ้มค่าและเลือกโซลูชันที่เหมาะสมกับการใช้งาน พร้อมชม 'บ้านตัวอย่าง' (Theme House) ที่ผสานเทคโนโลยีระบบโซลาร์เซลล์และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว ภายใต้แนวคิด Smart Energy, Smart Living, Smart Well-being

#โซลาร์บ้าน #กัลฟ์ #กัลฟ์วัน #พลังงานแสงอาทิตย์ #โซลาร์รูฟ #บ้านและสวนแฟร์ #บ้านและสวนแฟร์LivingFestival2025

พร้อมติดตามเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับความยั่งยืนเพิ่มเติม ได้ที่
Website : https://sdthailand.com/
Twitter (X) : https://twitter.com/sdthailand_TH

  -   ร่วมถวายความอาลัย  #สมเด็จพระพันปีหลวง ขยายสัญญาณ 5G, 4G และ Free WiFi  อำนวยความสะดวกประชาชน โดย  #เอไอเอส ได้ขยา...
27/10/2025

- ร่วมถวายความอาลัย #สมเด็จพระพันปีหลวง ขยายสัญญาณ 5G, 4G และ Free WiFi อำนวยความสะดวกประชาชน

โดย #เอไอเอส ได้ขยายขีดความสามารถของโครงข่าย AIS 5G, 4G และ Free WiFi ในพื้นที่ #ท้องสนามหลวง และบริเวณใกล้เคียง เพื่อให้ประชาชนสามารถติดต่อสื่อสารได้อย่างราบรื่น โดยได้จัดส่ง รถสถานีฐานเคลื่อนที่ เข้าประจำ 3 จุด ได้แก่ #สนามหลวง, #ถนนราชดำเนิน กองทัพภาคที่ 1 และ #แยกผ่านฟ้าลีลาศ พร้อมทั้งจัดทีมวิศวกรเฝ้าระวังคุณภาพสัญญาณแบบเรียลไทม์ 24 ชม. ผ่านระบบ เพื่อให้การสื่อสารของประชาชนเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ ตลอดช่วงเวลาการถวายความอาลัย

นอกจากนี้ เอไอเอสยังได้จัดตั้ง จุดบริการประชาชน ภายในพื้นที่ โดยมอบ น้ำดื่มเอไอเอส เพื่อให้บริการแก่ผู้เดินทางมาร่วมถวายความอาลัย พร้อมจัดเตรียม จุดชาร์ตแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ และเปิดให้ใช้บริการ Free WiFi เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน

ด้าน #ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้จัดส่งรถโมบายล์สถานีฐานเคลื่อนที่เร็ว หรือ Cell on Wheels ( ) ที่ปรับโทนสีรถให้เหมาะสมเข้าประจำพื้นที่ท้องสนามหลวง 2 จุด พร้อมตรวจสอบความพร้อมของเสาสัญญาณและปรับปรุง #โครงข่าย 5G, 4G และ WiFi ในจุดสำคัญของท้องสนามหลวง และพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อให้สัญญาณครอบคลุมและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

นอกจากนี้ ยังได้ปรับแต่งค่าพารามิเตอร์สัญญาณ ( ) ให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้งานจริง เสริมสัญญาณตามเส้นทางคมนาคมโดยรอบ และจัดทีมวิศวกรประจำศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายอัจฉริยะ ( ) ที่ใช้ระบบ AI ในการบริหารจัดการและตรวจสอบคุณภาพสัญญาณแบบเรียลไทม์ เพื่อให้การสื่อสารในพื้นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และสมพระเกียรติแห่งการถวายความอาลัยอย่างสูงสุด

#น้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย #สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ #พระบรมราชชนนีพันปีหลวง #พระพันปีหลวง

พร้อมติดตามเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับความยั่งยืนเพิ่มเติม ได้ที่
Website : https://sdthailand.com/
Twitter (X) : https://twitter.com/sdthailand_TH

 #ประกาศสำนักพระราชวัง การถวายสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง #สำนักพระ...
26/10/2025

#ประกาศสำนักพระราชวัง
การถวายสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

#สำนักพระราชวัง เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถวายน้ำสรงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ ซึ่งประดิษฐาน ณ​ ศาลาสหทัยสมาคมในพระบรมมหาราชวัง ทุกวัน เวลา 8.30 น. - 16.00 น. เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม 2568

พร้อมพระราชทานพระบรมราชาณุญาตให้ประชาชนได้เข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพ ณ​พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายหลังจากการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบ 15 วัน ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00 น. - 21.00 น. เริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน 2568

#น้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย #สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ #พระบรมราชชนนีพันปีหลวง #พระพันปีหลวง #พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
🙏🙏🙏

26 ตุลาคม : เวลา 16.26 น. ขบวนรถเชิญพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ออกจากโรงพย...
26/10/2025

26 ตุลาคม : เวลา 16.26 น. ขบวนรถเชิญพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ออกจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ไปยังพระบรมมหาราชวัง

#น้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย #สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ #พระบรมราชชนนีพันปีหลวง #พระพันปีหลวง #พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
🙏🙏🙏

เอ็นเทค   สวทช. (ศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ) พัฒนา 'SolaRE' (โซลาร์รี) เ...
26/10/2025

เอ็นเทค สวทช. (ศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ) พัฒนา 'SolaRE' (โซลาร์รี) เทคโนโลยีการผลิตโซลาร์เซลล์ชนิดแยกส่วนประกอบได้ ทำให้ #รีไซเคิล ได้ง่ายขึ้นหลังปลดระวาง​ ช่วยลดปริมาณ #ขยะ จากแผงโซลาร์เซลล์ในหลุมฝังกลบลงได้ 85-95%

ปี 2567 ประเทศไทยมีการติดตั้ง #แผงโซลาร์เซลล์ ​ราว 30 ล้านแผง ​คาดว่าภายใน 10 ปีข้างหน้า แผงเหล่านี้​จะกลายเป็นซาก #ขยะอิเล็กทรอนิกส์ หลักแสนตัน หากไม่มีวิธีจัดการที่เหมาะสม สารเคมีและโลหะหนักอาจปนเปื้อนสู่สิ่งแวดล้อมและส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตอย่างคาดไม่ถึง

ทีมวิจัยเอ็นเทค สวทช. National Energy Technology Center - ENTEC จึงได้พัฒนา เทคโนโลยีการผลิตโซลาร์เซลล์ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการ #รีไซเคิล ​โดยสามารถ​​แยกส่วนประกอบ​หลังปลดระวางได้ง่ายขึ้น สำหรับใช้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์ชนิดผลึกซิลิคอน (crystalline silicon)

ทั้งนี้ กระบวนการผลิต #โซลาร์เซลล์ ทั่วไปจะมีการใช้วัสดุผสานหรือ encapsulant เพื่อยึดติดวัสดุแต่ละชั้นอย่างแน่นหนา ป้องกันกันความชื้นเข้า​ เพิ่มความทนทาน และยืดอายุการใช้งานของแผง ซึ่งการ​ผนึกติดแน่นของชั้นวัสดุทำให้การถอดแยกส่วนประกอบภายในแผงหลังหมดอายุการใช้งานเป็นไปได้ยาก เพราะต้องใช้สารเคมี ความร้อน และเครื่องจักรเฉพาะทางในการแยกชั้นวัสดุ

ทำให้ในปัจจุบันจึงนิยมรีไซเคิลเฉพาะส่วนกรอบอะลูมิเนียมและกล่องต่อสายไฟ ก่อนกำจัดส่วนแผงโดยการฝังในหลุมฝังกลบ #ขยะอันตราย ซึ่งอาจเกิดปัญหาการรั่วซึมของโลหะหนักปนเปื้อนในแหล่งดินและน้ำได้

กลไกที่ทำให้ SolaRE ถอดแยกส่วนประกอบได้คือ การเพิ่มชั้นฟิล์มโปร่งแสงชนิดพิเศษเข้าไปในโครงสร้างแผง ตอนนำไปกำจัดจึงถอดแยกวัสดุแต่ละชั้นไปใช้ประโยชน์ต่อได้ง่าย ไม่ต้องใช้สารเคมี ความร้อน และเครื่องจักรเฉพาะทางในการแยกชิ้นส่วน

จุดเด่นสำคัญคือ แผ่นฟิล์มโปร่งแสงชนิดพิเศษที่ใช้ในการผลิตแผง SolaRE ผลิตได้ในประเทศไทย และโรงงานประกอบแผงโซลาร์เซลล์สามารถใช้เครื่องจักรที่มีอยู่เดิมประกอบได้โดยไม่ต้องลงทุนปรับเปลี่ยนอุปกรณ์

สำหรับแผงโซลาร์ที่ประกอบด้วยเทคโนโลยี SolaRE มีสรรถนะการใช้งานเริ่มต้นระดับเดียวกับแผงโซลาร์ตามปกติทั่วไป รวมทั้งมีอายุการใช้งานใกล้เคียงกัน

แต่การใช้เทคโนโลยี SolaRE จะช่วยเพิ่มโอกาสในการรีไซเคิลวัสดุได้มากขึ้นจาก 10% เป็น 85–95% หรือมีมูลค่าเพิ่มขึ้นประมาณ 4 เท่า นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มช่วยลดปริมาณขยะฝังกลบจาก 90% ให้เหลือเพียง 5–15% เท่านั้น

ปัจจุบันทีมวิจัยได้จดอนุสิทธิบัตรเทคโนโลยีการผลิตเรียบร้อยแล้ว โดยเทคโนโลยี SolaRE รองรับการผลิตได้ตั้งแต่ขนาดแผง 0.30–1 ตารางเมตร เหมาะแก่การประยุกต์ใช้กับผลิตภัณฑ์ไฟส่องสว่างพลังงานแสงอาทิตย์ (solar lighting) ซึ่งประเทศไทยมีความต้องการใช้งานสูงและยังต้องนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ

ที่ผ่านมาทีมวิจัยได้ดำเนินการทดสอบใช้งานผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี SolaRE ในสภาวะจริงเป็นเวลา 2 ปี ผลการทดสอบพบว่ามีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมร้อนชื้นของประเทศไทย และปัจจุบันทีมวิจัยพร้อมแล้วที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยี SolaRE ทั้งในส่วนของกระบวนการผลิตแผ่นฟิล์มและการประกอบแผง รวมทั้งมีแผนร่วมกับภาคเอกชน ขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์สู่บัญชีนวัตกรรม เพื่อเพิ่มโอกาสในการจำหน่ายสินค้าให้แก่ภาครัฐในอนาคต

#พลังงาน #พลังงานสะอาด #พลังงานแสงอาทิตย์ #เทคโนโลยี #นวัตกรรม #ลดขยะ #ยั่งยืน

พร้อมติดตามเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับความยั่งยืนเพิ่มเติม ได้ที่
Website : https://sdthailand.com/
Twitter (X) : https://twitter.com/sdthailand_TH

แนวทางการไว้อาลัยและมาตรการช่วงไว้ทุกข์
25/10/2025

แนวทางการไว้อาลัยและมาตรการช่วงไว้ทุกข์

◾ สรุปแนวทางการไว้อาลัยและมาตรการช่วงไว้ทุกข์ ◾
▪️ ลดธงครึ่งเสา 30 วัน
สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐและสถานศึกษาทุกแห่ง เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. 2568
▪️แต่งกายไว้ทุกข์ 1 ปี
ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. 2568
▪️ขอความร่วมมือ 90 วัน
ประชาชนทั่วไปแต่งกายไว้ทุกข์สีดำ ตามความเหมาะสม
▪️ใช้ดุลยพินิจปรับรูปแบบกิจกรรมเพื่อความบันเทิง
• กรณีเตรียมการไปแล้ว ขอให้พิจารณาปรับรูปแบบให้เหมาะสมกับกาลเทศะและสมพระเกียรติ
• กรณียังไม่ได้ดำเนินการ ให้พิจารณาเลื่อนการจัดออกไปก่อน
*ไม่ได้มีคำสั่งห้ามหรือให้ระงับกิจกรรมใดเป็นการเฉพาะ
อ้างอิง : - ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต วันที่ 25 ตุลาคม 2568

Address


Alerts

Be the first to know and let us send you an email when SD Thailand posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Contact The Business

Send a message to SD Thailand:

  • Want your business to be the top-listed Media Company?

Share

Our Story

Sustainable Development (SD) : Future Requirements ...CSR, CSV, SE, HR, StartUp, Business News Website