Thaitv24.com

Thaitv24.com Contact information, map and directions, contact form, opening hours, services, ratings, photos, videos and announcements from Thaitv24.com, Media/News Company, .

06/11/2024

ชลบุรี - ครบรอบ 17 ปี วันสถาปนาสมาคมสื่อมวลชนศรีราชา

ที่ วัดรังษีสุทธาวาส(ไร่กล้วย) อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี นายไพบูลย์ เสริมศาสต์ นายกสมาคมสื่อมวลชนศรีราชา จังหวัดชลบุรี พร้อมด้วยกรรมการบริหารสมาคมฯ และสมาชิก ได้ร่วมกันจัดงานกิจกรรมเนื่องในวันสถาปนาสมาคมสื่อมวลชนศรีราชา จังหวัดชลบุรี ครบรอบ 17 ปี โดยมีนายนพรัตน์ ศรีพรหม นายอำเภอศรีราชา เป็นประธานในพิธีเปิดฯ พร้อมด้วยนางสาวศิริพร ชลวานิช ผู่ช่วยผู้อำนวยการ กองบริหารงานทั่วไป ท่าเรือแหลมฉบัง และมีผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

โดยกิจกรรมในช่วงเช้าได้จัดพิธีทำบุญเลี้ยงพระเพื่อความเป็นสิริมงคล และอุทิศส่วนบุญกุศลให้พี่น้องสื่อมวลชนที่ล่วงลับไปแล้ว และได้จัดเลี้ยงอาหารกลางวันให้เด็กนักเรียนในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดไร่กล้วย และพิธีรับมอบเงินสนับสนุนใน “กองทุนส่งเสริมและพัฒนา สมาคมสื่อมวลชนศรีราชา จ.ชลบุรี” จากหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ และมอบเกียรติบัตรให้กับผู้ที่ให้การสนับสนุนสมาคมฯด้วยดีเสมอมา

จากนั้นเวลา 18.00 น. ได้จัดงานเลี้ยงฉลอง ครบรอบ 17 ปี วันสถาปนาสมาคมสื่อมวลชนศรีราชา จังหวัดชลบุรี ณ โรงแรมเคป ราชา ภายใต้ธีมงานเทศกาลวันฮาโลวีน แต่งหน้าและแต่งกาย เป็นผีนานาชนิดกันอย่างสนุกสนาน โดยมีนายวีรชาติ พุทธรักษา ผู้ช่วยผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมด้วยนางสิริมา กีรตยาคม นักบริหาร 14 ประจำผู้อำนวยการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย เดินทางมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้อีกด้วย

ศูนย์ข่าวศรีราชา/รายงาน

ชลบุรี - บ.ยูนิไทย เปิดโครงการโครงการอบรมแนะแนวอาชีพช่างเครื่องยนต์ ช่างไฟฟ้า และช่างเชื่อมโลหะ ให้นักเรียนในพื้นที่    ...
05/11/2024

ชลบุรี - บ.ยูนิไทย เปิดโครงการโครงการอบรมแนะแนวอาชีพช่างเครื่องยนต์ ช่างไฟฟ้า และช่างเชื่อมโลหะ ให้นักเรียนในพื้นที่

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 ณ บริษัท ยูนิไทย ชิปยาร์ด แอนด์ เอนจิเนียริ่ง จำกัด มีนาย พันลึก กิตติสาเรศ กรรมการผู้จัดการและนาย อภิเชษฐ์ บุญเผื่อน ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ยูนิไทยชิปยาร์ด แอนด์ เอนจิเนียริ่ง จำกัด กล่าวเปิดงาน และนางสาว เพ็ญแข เสริมศรี ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดแหลมฉบัง ร่วมด้วยคณะครู นักเรียน และพนักงาน และยังให้เข้ามาเยี่ยมชมงานในสายอาชีพช่างต่างๆ ในบริษัท ยูนิไทยชิปยาร์ด แอนด์ เอนจิเนียริ่ง จำกัด

โครงการสอนทักษะวิชาชีพช่างเครื่องยนต์ ตามความประสงค์ของทางโรงเรียนวัดแหลมฉบัง ซึ่งต้องการขยายโอกาสให้กับนักเรียนมีความรู้ด้านทักษะวิชาชีพในหลักสูตรช่างเครื่องยนต์ ช่างไฟฟ้าอีเลคโทรนิค และหลักสูตรวิชาชีพช่างเชื่อมโลหะขั้นพื้นฐาน ซึ่งบริษัทฯ ได้ดำเนินโครงการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 จนถึงพ.ศ. 2563 เป็นจำนวน 9 รุ่น มีจำนวนนักเรียนที่ผ่านการอบรมไปแล้วทั้งสิ้น 599 คน และสามารถสอบเข้าเรียนต่อในสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงในจังหวัดชลบุรี ในสาขาวิชาช่างต่าง ๆ มีคะแนนสอบอยู่ในเกณฑ์ดีมากผ่านการสอบอยู่ในลำดับต้น ๆ

ซึ่งในปีนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นและให้ความสำคัญในเรื่องของการศึกษาของเยาวชนในท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง จึง มีความตั้งใจในการจัดให้มี “โครงการอบรมแนะแนวอาชีพช่างเครื่องยนต์ ช่างไฟฟ้า และช่างเชื่อมโลหะ” ให้กับนักเรียนโรงเรียนวัดแหลมฉบัง ระหว่างวันที่ 5-6 พฤศจิกายน 2567 โดยมีพิธีเปิดโครงการในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 ณ บริษัทยูนิไทยชิปยาร์ดฯ ต้อนรับนักเรียนเข้ามาเยี่ยมชมงานในสายอาชีพช่างต่าง ๆ และในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 ทีมครูอาสาได้เริ่มอบรมแนะแนวให้กับนักเรียน ณ โรงเรียนวัดแหลมฉบัง โดยแบ่งกลุ่มตามหลักสูตรช่างเครื่องยนต์ ช่างไฟฟ้า และช่างเชื่อมโลหะ เพื่อให้ความรู้ และรายละเอียดของงานในแต่ละสาขาอาชีพ

การวางแผนการเรียนการสอนได้มีการทำงานร่วมกับท่านผู้อำนวยการโรงเรียน อาจารย์เพ็ญแข เสริมศรี และคณะครูโรงเรียนวัดแหลมฉบัง เพื่อพัฒนาหลักสูตร ในการให้คำแนะแนวอาชีพช่างในสาขาต่าง ๆ โดยครูอาสาจากทางบริษัท ที่จะมาถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์จริงให้กับนักเรียนที่เข้ารับการอบรม เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 ในการตัดสินใจศึกษาต่อในสายสามัญ หรือสายอาชีพ และวางแผนอาชีพในอนาคตต่อไป โดยโครงการดังกล่าว ยังคงมุ่งเน้นให้นักเรียนได้รับความรู้เกี่ยวกับหลักการ ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เพื่อให้สามารถเรียนรู้ถึงทักษะงานของช่างในแขนงต่าง ๆ เข้าใจง่าย และสามารถปฏิบัติได้จริง และยังประโยชน์สูงสุดให้แก่นักเรียนต่อไป

โจ ลำน้ำปิง/รายงาน
เด่น ลำปาง/ภาพข่าว

25/10/2024

Unithai-CUEL จัดกิจกรรมโครงการสร้างอาชีพใหม่ให้ชุมชน ประจำปี 2567 หลักสูตร หมูสะเต๊ะ สูตรบางซื่อ และบัวลอยเผือกมะพร้าวอ่อน

เมื่อวันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม 2567 บริษัท ยูนิไทยชิปยาร์ด แอนด์ เอนจิเนียริ่ง จำกัด ร่วมกับ บริษัท ซียูอีแอล จำกัด ได้จัดพิธีเปิดกิจกรรมโครงการสร้างอาชีพใหม่ให้ชุมชน ประจำปี 2567 โดยมี นายอภิเชษฐ์ บุญเผื่อน ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ยูนิไทยชิปยาร์ด แอนด์ เอนจิเนียริ่ง จำกัด เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยคณะบริหารบริษัท เข้าร่วมในพิธี

สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้เป็นไปตามเจตนารมย์ร่วมกันระหว่างบริษัทและท่านผู้นำชุมชนทั้ง 11 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนบ้านแหลมฉบัง ชุมชนบ้านอ่าวอุดม ชุมชนบ้านตลาดอ่าวอุดม ชุมชนบ้านทุ่ง ชุมชนบ้านนาเก่า ชุมชนบ้านนาใหม่ ชุมชนวัดมโนรม ชุมชนหมู่บ้านแหลมทอง ชุมชนบ้านทุ่งกราด ชุมชนบ้านหนองมะนาว และชุมชนบ้านบางละมุง

หลักสูตร หมูสะเต๊ะ สูตรบางซื่อ และบัวลอยเผือกมะพร้าวอ่อน ฝึกสอนโดย ครูน้อย ที่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจในชุมชน และมีความตั้งใจที่จะส่งเสริมการฝึกอบรมอาชีพให้กับสมาชิกในชุมชน ให้มีความรู้ และได้นำทักษะวิชาชีพที่ได้อบรมไปทำเป็นอาชีพใหม่ หรือเป็นอาชีพเสริม เพื่อเพิ่มพูนรายได้ และสามารถเลี้ยงดูครอบครัวตนเองได้โดยไม่ต้องพึ่งพาผู้อื่น โดยได้สมาชิกที่เคยได้เข้าอบรมในหลักสูตรการฝึกอาชีพ ณ ศูนย์ฝึกอาชีพและธุรกิจมติชน กรุงเทพฯ ตั้งแต่ ปี 2561 มาเป็นครูอาสาชุมชน ในการสร้างแรงบันดาลใจ ถ่ายทอดความรู้ที่ได้อบรมมาทำเป็นอาชีพ และเสริมสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว รวมถึงการมีจิตอาสาในการแบ่งปันช่วยเหลือ และสร้างสัมพันธ์อันดีให้เกิดขึ้นในชุมชนอีกด้วย ซึ่งมีสมาชิกในชุมชนที่ผ่านการอบรมไปแล้วจำนวนทั้งสิ้น 404 คน และปีนี้ถือเป็นปีที่ 7 ของการดำเนินกิจกรรมดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง

25/10/2024

นายกสมาคมคนพิการภาคตะวันออก หวั่นผู้พิการ-ผู้ป่วยติดเตียงเสียสิทธิ งดตัดกระแสไฟฟ้า 3 เดือน

AIS ผนึกกำลังสถาบันทางการเงิน ขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ด้วยสินเชื่อสีเขียว Green Loanครั้งแรกในอุตสาหกรรมโท...
25/10/2024

AIS ผนึกกำลังสถาบันทางการเงิน ขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ด้วยสินเชื่อสีเขียว Green Loan

ครั้งแรกในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย เดินหน้ายกระดับขีดความสามารถโครงข่าย 5G สู่ Green Network

AIS ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนที่มุ่งสร้างการเติบโตร่วมกันของผู้คน เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมในโลกดิจิทัล พร้อมผนึกกำลังร่วมกับสถาบันทางการเงินชั้นนำลงนามรับการสนับสนุนสินเชื่อสีเขียวเพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Loan) ครั้งแรกในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท ระยะเวลา 7 ปี จาก ธนาคารพันธมิตร ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อลงทุนยกระดับขีดความสามารถของโครงสร้างพื้นฐาน 5G สู่โครงข่ายสีเขียว Green Networkโดยใช้แหล่งพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ควบคู่กับแหล่งพลังงานหลักที่สถานีฐานทั่วประเทศในการดำเนินงานและส่งมอบประสบการณ์ดิจิทัลให้กับลูกค้าและประเทศไทย รวมถึงความร่วมมือครั้งนี้ยังเป็นการผสานกลยุทธ์ด้านการเงินในการขับเคลื่อนเป้าหมายการดำเนินธุรกิจของ AIS ที่จะสร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืน

นายมนตรี คงเครือพันธุ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวว่า “AIS มีความมุ่งมั่นและขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ที่มุ่งสู่การเป็นองค์กรโทรคมนาคมเทคโนโลยีอัจฉริยะ หรือ Cognitive Tech-Co ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนภายใต้แนวคิดSustainable Nation ที่นำขีดความสามารถของดิจิทัลเทคโนโลยีมาสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศบนเศรษฐกิจแบบร่วมกัน หรือ ECOSYSTEM ECONOMY ทั้ง ผู้คน สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมในโลกดิจิทัล ทำให้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเรามีความแข็งแกร่งในทุกมิติโดยเฉพาะสถานะทางการเงินจากผลการดำเนินงานและการลงทุนอย่างต่อเนื่องจนได้รับความเชื่อมั่นและการสนับสนุนสินเชื่อสีเขียวเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หรือ Green Loan จากสถาบันทางการเงินทั้ง 3 แห่ง

แน่นอนว่าการได้รับ Green Loan ในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของ AIS ที่จะขับเคลื่อนธุรกิจให้เกิดการเปลี่ยนแปลงผ่านการจัดหาเงินทุนอย่างยั่งยืนตาม AIS Sustainable Finance Framework ที่ได้รับการสอบทานจากผู้ชำนาญอิสระ บริษัท ดีเอ็นวี (ประเทศไทย) จำกัด โดยเราจะนำเงินกู้มาช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลและโครงข่าย 5G และยกระดับสู่การเป็น Green Network หรือ โครงข่ายสีเขียวที่ยืดหยัดเพื่อสิ่งแวดล้อม ผ่านการลงทุนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ที่สถานีฐาน ศูนย์ข้อมูลคอมพิวเตอร์และชุมสายทั่วประเทศ เพื่อผลิตพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ที่จะมาใช้ควบคู่กับพลังงานหลักในการดำเนินงานเพื่อส่งมอบประสบการณ์ดิจิทัลให้กับลูกค้าและคนไทย”

นายประกอบ เพียรเจริญ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ และวาณิชธนกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กรุงศรีให้การสนับสนุนด้านการเงินเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Finance) มาอย่างต่อเนื่อง ผ่านความร่วมมือกับ MUFG โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ส่งเสริมการปรับตัวของภาคธุรกิจสู่ความยั่งยืน และในครั้งนี้กรุงศรีมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ต่อยอดความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมในการสนับสนุนสินเชื่อเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับ AIS ซึ่งเป็นผู้นำด้านการสื่อสารของไทยที่มีความแข็งแกร่งทั้งทางการเงินและการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง ความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยให้ทั้งกรุงศรี และ AIS บรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และร่วมขับเคลื่อนประเทศสู่การพัฒนาและเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป โดยธนาคารมีความยินดีที่ได้รับโอกาสในการทำงานอย่างใกล้ชิดกับทั้งบริษัท AIS และ บริษัท ดีเอ็นวี (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อให้ AIS Sustainable Finance Framework ครอบคลุมโครงการเพื่อความยั่งยืนของธุรกิจโทรคมนาคมที่หลากหลาย และเป็นไปตามมาตรฐานสากล”

นายวัลลภ ว่องจิตต์วุฒิไกร รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า “ธนาคารกสิกรไทยดำเนินธุรกิจบนหลักการการเป็นธนาคารแห่งความยั่งยืน และพร้อมสนับสนุนลูกค้าให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน โดยตลอดหลายปีที่ผ่านมาธนาคารได้ให้การสนับสนุนลูกค้าธุรกิจทั้งสินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Loan) ผลิตภัณฑ์และบริการที่มากกว่าบริการทางการเงิน (Beyond Banking Solution) และองค์ความรู้ เพื่อช่วยส่งเสริมให้ลูกค้าเปลี่ยนผ่านไปสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ สำหรับการสนับสนุนวงเงินสินเชื่อเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับ AIS ซึ่งเป็นผู้นำด้านโทรคมนาคมของไทยในครั้งนี้ ธนาคารมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนภายใต้แนวคิด Sustainable Nation ของ AIS และร่วมยกระดับขีดความสามารถของโครงสร้างพื้นฐาน 5G สู่โครงข่ายสีเขียว Green Network ด้วยการใช้พลังงานสะอาด ซึ่งเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของไทย และเป็นก้าวสำคัญที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การโทรคมนาคมที่มีความยั่งยืนได้อย่างเต็มรูปแบบในอนาคต อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ประเทศไทยมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี ค.ศ. 2065”

นางศรัณยา อัสสมงคล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ธนาคารกรุงไทย ดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญของสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) พร้อมนำเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) มาปรับใช้ ทั้งในมิติการเพิ่มศักยภาพในการทำธุรกิจ และการสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยการร่วมสนับสนุนสินเชื่อ Green Loan ให้แก่ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค (AWN) ในกลุ่ม AIS เพื่อใช้ในการลงทุนติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) ในสถานีฐาน รวมถึงโครงการ ESG อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจโทรคมนาคมของ AWN นับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกรุงไทยและ AWN ในการลดผลกระทบ ทางสิ่งแวดล้อมควบคู่กับการส่งเสริมการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพและลดต้นทุนการดำเนินงาน เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจโทรคมนาคมของประเทศไทยไปสู่โครงข่ายสีเขียว (Green Network) ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และลดต้นทุนในการดำเนินงาน และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความสามารถของโครงสร้างพื้นฐาน 5G สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Economy) ตลอดจน ขับเคลื่อนธุรกิจและเศรษฐกิจประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน มุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนตามเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ตามแนวทางธนาคารยั่งยืนที่ธนาคารให้ความสำคัญเสมอมา เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นให้กับสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจของประเทศ ตามวิสัยทัศน์ "กรุงไทย เคียงข้างไทย สู่ความยั่งยืน"

ชลบุรี - กลุ่มไทยออยล์ สืบสานศาสนาทอดกฐินสามัคคี ร่วมกับชุมชนข้างเคียงในพื้นที่ ณ ใหม่เนินพยอม ยอดรวมกว่า 2.5 ล้านบาทกลุ...
20/10/2024

ชลบุรี - กลุ่มไทยออยล์ สืบสานศาสนาทอดกฐินสามัคคี ร่วมกับชุมชนข้างเคียงในพื้นที่ ณ ใหม่เนินพยอม ยอดรวมกว่า 2.5 ล้านบาท

กลุ่มไทยออยล์ สืบสานศาสนา จัดกิจกรรมทอดกฐินสามัคคี ร่วมกับบริษัทในกลุ่ม บริษัทคู่ค้า และชุมชนในพื้นที่รอบโรงกลั่น ณ วัดใหม่เนินพยอม ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ยอดกฐินรวม 2,532,405.43 บาท

วันนี้ (19 ต.ค.) บริษัทในกลุ่มไทยออยล์ และ บริษัทคู่ค้า ชุมชนในพื้นที่ และผู้มีจิตศรัทธาได้จัดกิจกรรมทอดกฐินสามัคคีขึ้น ณ วัดใหม่เนินพยอม ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เพื่อร่วมจรรโลงพระพุทธศาสนา ตลอดจนสืบสานประเพณี โดยมีนายบัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในพิธีพร้อมด้วย นางจินดา ถนอมรอด นายกเทศบาลนครแหลมฉบัง ผู้บริหารเทศบาลนครแหลมฉบัง คณะผู้บริหาร กลุ่มไทยออยล์ พนักงาน ร่วมกับผู้นำท้องถิ่น คณะกรรมการวัด ประธานและคณะกรรมการชุมชน และราษฎรผู้มีจิตศรัทธา ร่วมพิธี

กิจกรรมทอดกฐินสามัคคีดังกล่าวเริ่มตั้งแต่การตั้งองค์กฐิน ในช่วงเย็นวันที่ 18 ตุลาคม 2567 ตรงกับ (แรม 1 ค่ำ เดือน 11) ต่อเนื่องในวันที่ 19 ตุลาคม 2567 (แรม 2 ค่ำ เดือน 11) ประกอบด้วยกิจกรรมพิธีการทางศาสนา ระหว่างประชาชนในชุมชน และพนักงานในกลุ่มไทยออยล์ พร้อมทั้งมีรำวงย้อนยุค ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความสามัคคี ส่วนในเช้าวันนี้ได้การทำบุญ ถวายภัตตาหารเพลแด่ภิกษุ-สามเณร และถวายผ้ากฐิน ยอดกฐินรวมเงินจากผ้าป่า และประชาชนผู้มีจิตศรัทธา จำนวน 2,532,405.43 บาท ซึ่งในปีนี้วัดใหม่เนินพยอมมีความประสงค์จะนำเงินกฐินดังกล่าวไปก่อสร้างเจดีย์พิพิธภัณฑ์พระครูสาธรธรรมกิจ (อดีตเจ้าอาวาส) ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง

นอกจากนี้กลุ่มไทยออยล์ ยังคงร่วมทำบุญทอดกฐินสามัคคีกับวัดต่างๆ ในชุมชนรอบกลุ่มไทยออยล์อีกจำนวน 9 แห่ง ซึ่งดำเนินการเป็นประจำทุกปี เป็นการรักษาไว้ซึ่งประเพณีและวัฒนธรรมการทอดกฐิน อันเป็นประเพณีท้องถิ่นดั้งเดิม ด้วยการมีส่วนร่วมระหว่างบริษัทในกลุ่มไทยออยล์ และสถานประกอบการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงประชาชนในชุมชน คงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ และความเป็นเอกภาพในด้านการดูแลสังคมและวัฒนธรรมของชุมชน ท้องถิ่น ที่มีการประสานงานการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน เป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดี รักษาความ ผูกพันและความสมานฉันท์ให้คงอยู่สืบไป

10/10/2024

ชลบุรี - สมาคมสื่อมวลชนศรีราชา จังหวัดชลบุรี มอบกระเช้าต้อนรับ เรือโทยุทธนา โมกขาว ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง

ที่ อาคารบริหารท่าเรือแหลมฉบังตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เรือโท ยุทธนา โมกขาว ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง รับมอบกระเช้าดอกไม้แสดงความยินดี จาก นายไพบูลย์ เสริมศาสตร์นายกสมาคมสื่อมวลชนศรีราชา จังหวัดชลบุรี พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ เนื่องในโอกาสดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง ท่ามกลางบรรยากาศการต้อนรับอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง

โดย ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง ได้กล่าวขอบคุณพี่น้องสื่อมวลชน ที่เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีในวันนี้ ด้วยมิตรไมตรียิ่ง และถือเป็นโอกาสอันดีที่ได้ย้ายมาดำรงตำแหน่งที่ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งตนมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ มาทำงานอย่างเต็มกำลัง ความสามารถ และยินดีรับฟังความคิดเห็นในทุกเรื่อง ในการให้ข้อมูลข่าวสารต่อสื่อมวลชน เพื่อพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังไปสู่ความสำเร็จในทุก ๆ ด้าน และนับเป็นส่วนสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้านการขนส่งของประเทศไทย อีกด้วย

ศูนย์ข่าวศรีราชา/รายงาน

#ส่องข่าวทั่วไทย #ท่าเรือแหลมฉบัง

08/10/2024

ชลบุรี - ท่าเรือแหลมฉบัง มอบเงินเยียวยากลุ่มประมงเรือเล็ก และ กลุ่มผู้เพาะเลี้ยงหอยแมลงภู่ ผู้ได้รับผลกระทบการก่อสร้างเฟส 3

ที่ ห้องแตรทอง 1 ศูนย์สวัสดิการท่าเรือแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี นายวีกิจ มานะโรจน์ นายอำเภอบางละมุง เรือโทยุทธนา โมกขาว ผู้อานวยการท่าเรือแหลมฉบัง ร่วมเป็นประธานในพิธีมอบเงินค่าชดเชยเยียวยาให้กลุ่มประมงเรือเล็ก และ กลุ่มผู้เพาะเลี้ยงหอยแมลงภู่ ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 3 ปีงบประมาณ 2567 โดยมี นายวีรยุทธ สว่างแจ้ง รองผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง นางสิริมา กีรตยาคม นักบริหาร 14 ประจำผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย คณะทำงานพิจารณาข้อมูลผู้ที่ไดรับผลกระทบจากโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังขั้นที่ 3 ผู้นำชุมชน และผู้ที่ได้รับผลกระทบ ร่วมพิธีมอบเงิน

เรือโทยุทธนา กล่าวว่า การท่าเรือแห่งประเทศไทย มีนโยบายการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 3 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของท่าเรือแหลมฉบังในการรองรับเรือตู้สินค้าระหว่างประเทศ และเป็นการเพิ่มศักยภาพในการให้บริการ การขนส่งสินค้าทางทะเล โดยมีการดำเนินการตามมาตรการในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม สุขภาพ อนามัย คุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างรุนแรง โครงการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 3 (EHIA) ที่กำหนดให้มีการจ่ายค่าชดเชยเยียวยาให้กลุ่มประมงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการต่อเนื่องทั้งหมด 6 ปี โดยปีนี้เป็นปีที่ 4 แล้ว

สำหรับการมอบเงินค่าชดเชยเยียวยาให้กลุ่มประมงเรือเล็ก และกลุ่มผู้เพาะเลี้ยงหอยแมลงภู่ เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 181,640,677 บาท กลุ่มประมงเรือเล็กจำนวน 246 ราย ประกอบด้วย 1. กลุ่มประมงเทศบาลตำบลบางละมุง 2. กลุ่มประมงอนุรักษ์บ้านปากคลองบางละมุง 3. กลุ่มประมงบ้านบางละมุง 4. กลุ่มประมงบ้านนาเกลือ5. กลุ่มประมงบ้านแหลมฉบัง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 103,450,099 บาท กลุ่มผู้เพาะเลี้ยงหอยแมลงภู่ จำนวน 95 ราย ประกอบด้วย ประกอบด้วย 1. กลุ่มประมงบ้านบางละมุง 2. กลุ่มประมงอนุรักษ์บ้านปากคลองบางละมุง

เรือโทยุทธนา เผยอีกว่า ในฐานะผู้แทนการท่าเรือแห่งประเทศไทย ท่าเรือแหลมฉบังขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังจนประสบความสำเร็จในทุกวันนี้ โดยท่าเรือแหลมฉบังมิได้มุ่งเน้นเรื่องการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเพื่อขับเคลื่อน เศรษฐกิจเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ท่าเรือแหลมฉบัง ยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน ด้วยความรับผิดชอบ ใส่ใจต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 3 ที่เปรียบเสมือนคนในครอบครัว ดังคำที่ว่า “การท่าเรืออยู่ได้ ประชาชนก็ต้องอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขและยั่งยืน”

ศูนย์ข่าวศรีราชา/รายงาน

31 ตุลาคม 2567 ครบรอบ 17 ปี วันสถาปนา สมาคมสื่อมวลชนศรีราชา จังหวัดชลบุรี
08/10/2024

31 ตุลาคม 2567 ครบรอบ 17 ปี วันสถาปนา สมาคมสื่อมวลชนศรีราชา จังหวัดชลบุรี

นายอำเภอศรีราชา แจ้งเตือน 29 กันยายน - 3 ตุลาคม 67 เฝ้าระวัง !! ฝนฟ้าคะนองและลมกรรโชกแรง- ระวัง ฝนฟ้าคะนอง ลูกเห็บตก และ...
29/09/2024

นายอำเภอศรีราชา แจ้งเตือน 29 กันยายน - 3 ตุลาคม 67 เฝ้าระวัง !! ฝนฟ้าคะนองและลมกรรโชกแรง

- ระวัง ฝนฟ้าคะนอง ลูกเห็บตก และฟ้าผ่า
- หลีกเลี่ยงการอยู่พื้นที่โล่งแจ้งและต้นไม้ใหญ่
- สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน ผลิตผลทางการเกษตรเสียหาย
- ระมัดระวังอันตรายจากกระแสไฟฟ้ารั่ว

ขอให้ประชาชน ติดตามสถานการณ์และปฏิบัติตามประกาศแจ้งเตือนจากทางราชการอย่างเคร่งครัด และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้

📞สายด่วนนิรภัย 1784

27/09/2024

ชลบุรี - ท่าเรือแหลมฉบัง จัดงานเลี้ยงเกษียณอายุราชการ ประจำปี 2567

ที่บริเวณสนามหญ้าอาคารบริหารท่าเรือแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ว่าที่ร้อยตรี เอ รัฐกร เขียวไพศาล นักบริหาร 16 ประจำผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง เป็นประธานกล่าวเปิดงานแสดงมุทิตาจิตแด่ผู้เกษียณอายุราชการท่าเรือแหลมฉบัง ประจำปีงบประมาณ 2567 โดยมี นายวีระยุทธ์ สว่างแจ้ง รองผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง นายวีรชาติ พุทธรักษา ผู้ช่วยผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมด้วย ผู้บริหาร พนักงาน และบุคลากรช่วยปฏิบัติงานท่าเรือแหลมฉบัง ร่วมงานในครั้งนี้

โดยในปี 2567 นี้ ท่าเรือแหลมฉบัง มีพนักงานที่เกษียณอายุราชการจำนวน 4 คน ดังนี้ 1. เรือโท ธนเดช โสมนันทน์ ผู้อำนวยการกองการท่า 2.นายเจตน์ รีฮาเซ็น หัวหน้าแผนกบริการท่า กองบริการ 3.นายสุรนาถ นิลแย้ม เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป 6 แผนกรักษาความปลอดภัย 4.นายสุรัตน์ เทียนถวาย พนักงานเครื่องมือทุนแรง4 พนักงานขับรถขยะ หมวดรถบริการ แผนกช่างกล กองการช่าง

สำหรับการจัดงานเลี้ยงเกษียณครั้งนี้ เพื่อเป็นการแสดงมุทิตาจิตต่อผู้เกษียณอายุราชการ และเพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับพนักงานท่าเรือแหลมฉบังที่ได้ปฏิบัติงานมาตลอดระยะเวลายาวนาน และสร้างคุณความดี ให้กับหน่วยงาน โดยถือเป็นส่วนหนึ่งในการมีส่วนร่วมสร้างความสำเร็จให้กับท่าเรือแหลมฉบังอีกด้วย

21/09/2024

ชลบุรี - ท่าเรือแหลมฉบัง มอบเงินสนับสนุนค่าอาหารกลางวัน ให้โรงเรียนผู้งสูงอายุโดยรอบท่าเรือฯ

ที่อาคารบริหารท่าเรือแหลมฉบังอำเภอศรีราชาจังหวัดชลบุรี ว่าที่ร้อยตรี รัฐกร เขียวไพศาล นักบริหาร 16 ประจำผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง มอบเงินสนับสนุนค่าอาหารกลางวันให้กับโรงเรียนผู้สูงอายุในเขตพื้นที่โดยรอบท่าเรือแหลมฉบัง

ว่าที่ร้อยตรี รัฐกรฯ กล่าวว่า การมอบเงินสนับสนุนครั้งนี้ เป็นการมอบเงินสนับสนุนค่าอาหารกลางวันให้กับโรงเรียนผู้สูงอายุ จำนวน 5 โรงเรียน ได้แก่ 1. โรงเรียนผู้สูงอายุชุมชนบ้านนาเก่า 2.โรงเรียนผู้สูงอายุวิ’ลัยวัยหวาน บ้านแหลมทอง 3. โรงเรียนผู้สูงอายุชุมชนบ้านไร่หนึ่ง 4. โรงเรียนชากยายจีนสูงวัย 5. โรงเรียนผู้สูงอายุชุมชนบ้านทุ่งกราด รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 432,000.- บาท (สี่แสนสามหมื่นสองพันบาทถ้วน)

โดยการมอบเงินสนับสนุนครั้งนี้ เป็นไปตามมติที่ประชุม คณะอนุกรรมการพัฒนาชุมชนและสังคมรอบ ทลฉ. ครั้งที่ 3/2567 เมื่อวันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม 2567 ให้ท่าเรือแหลมฉบัง สนับสนุนงบประมาณค่าอาหารกลางวันให้กับโรงเรียนผู้สูงอายุ อีกด้วย

15/09/2024

ชลบุรี - ครบรอบ 15 ปี บูรพานิวส์ @โรงเรียนวัดเขาฉลาก อำเภอศรีราชา

ชลบุรี - ทลฉ.ประชุม ร่วมกับ TICTA  หารือการปรับค่าธรรมเนียมพิเศษ ค่าไฟฟ้า ค่าแรงงาน และการปรับอัตราค่าภาระ ของ สมาคมผู้ป...
03/09/2024

ชลบุรี - ทลฉ.ประชุม ร่วมกับ TICTA หารือการปรับค่าธรรมเนียมพิเศษ ค่าไฟฟ้า ค่าแรงงาน และการปรับอัตราค่าภาระ ของ สมาคมผู้ประกอบการท่าเทียบเรือ

เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2567 นายวีระยุทธ์ สว่างแจ้ง รองผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง เป็นประธานการประชุมหาหรือ เรื่อง การปรับค่าธรรมเนียมพิเศษ ค่าไฟฟ้า ค่าแรงงาน และการปรับอัตราค่าภาระ ของ สมาคมผู้ประกอบการท่าเทียบเรือสินค้าและคอนเทนเนอร์ (TICTA) ณ ห้องประชุม 1 อาคารบริหารท่าเรือแหลมฉบัง

ในการประชุมครั้งนี้ ได้มีการพิจารณาทบทวนปรับปรุงแก้ไขอัตราค่าภาระใหม่ โดยอ้างอิงจากข้อมูลต้นทุนจริงของผู้ประกอบการท่าเทียบเรือ (TLC) รวมทั้ง การขอให้ ท่าเรือแหลมฉบัง ออกประกาศค่าธรรมเนียมพิเศษเพื่อชดเชยต้นทุนค่าไฟฟ้า และค่าธรรมเนียมพิเศษเพื่อชดเชยต้นทุนค่าแรงงาน เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในการประกอบกิจการของผู้ประกอบการ

โดยมี นายอาณัติ มัชฌิมา นายกสมาคมผู้ประกอบการท่าเทียบเรือสินค้าและคอนเทนเนอร์ นายสุขสวัสดิ์ นภาโชติ ผู้อำนวยการกองการช่าง นางนวรจ ใจดี ผู้อำนวยการกองการเงิน พร้อมด้วย สมาชิกสมาคมฯ ผู้บริหาร และพนักงานท่าเรือแหลมฉบัง เข้าร่วมการประชุม

26/08/2024

ชลบุรี - ท่าเรือแหลมฉบัง มอบทุนการศึกษาอย่างยั่งยืนแก่เยาวชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่โดยรอบ ปีการศึกษา 2567 ครั้งที่ 2 เกือบ 6 แสนบาท

เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2567 นางสิริมา กีรตยาคม นักบริหาร 14 ประจำผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย เป็นประธานเปิดพิธีมอบเงินสนับสนุนโครงการทุนการศึกษาอย่างยั่งยืนสำหรับเยาวชนในชุมชนรอบท่าเรือแหลมฉบัง ประจำปีการศึกษา 2567 ครั้งที่ 2 ณ หอบังคับการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง
โดยมี นางสาวนริศรา ทิพยางกูรปลัดอำเภอศรีราชา นายสุขุม อินแดง รองนายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง ตัวแทนเทศบาลบางละมุง พร้อมด้วย นางพรทิพา ทวีนุช ผู้อำนวยการกองบริหารงานทั่วไป ท่าเรือแหลมฉบัง คณะผู้บริหาร พนักงานท่าเรือแหลมฉบัง ผู้แทนชุมชนในพื้นที่รอบท่าเรือแหลมฉบัง และเยาวชนที่ได้รับทุนเข้าร่วมงาน

สำหรับการมอบเงินสนับสนุนโครงการทุนการศึกษาอย่างยั่งยืนสำหรับเยาวชนในชุมชนรอบท่าเรือแหลมฉบัง ประจำปีการศึกษา 2567 ครั้งที่ 2 แล้วให้เยาวชน ทั้งสิ้น 29 คน รวมเป็นเงิน 560,300 บาท โดยครั้งที่ 1 ได้มอบทุนการศึกษาไป เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2567 ที่ผ่านมาจำนวน 18 ทุน เป็นเงิน 363,500 บาท จากงบประมาณด้านความรับผิดชอบต่อสังคมของท่าเรือแหลมฉบัง

โครงการทุนการศึกษาอย่างยั่งยืนสำหรับเยาวชนในชุมชนรอบท่าเรือแหลมฉบังเป็นโครงการหนึ่งที่ได้กำหนดไว้ในกรอบการดำเนินกิจกรรมด้านสวัสดิการสังคม คุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมของคณะอนุกรรมการพัฒนาชุมชนและสังคมรอบท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งประกอบด้วยภาคประชาชนและหน่วยงานของรัฐ โดยได้พิจารณาร่วมกันอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2557 โดยมีการสนับสนุน มาแล้วทั้งสิ้น จำนวน 492 ทุน เพื่อมอบเป็นทุนการศึกษาสำหรับเยาวชนที่มีโอกาสเข้าศึกษาในระดับปริญญาตรีสถาบันอุดมศึกษา ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด โดยผ่านการคัดเลือกจากคณะอนุกรรมการพัฒนาชุมชนและสังคมรอบท่าเรือแหลมฉบัง

ศูนย์ข่าวศรีราชา/รายงาน

#ส่องข่าวทั่วไทย
#ไทยทีวี24

22/08/2024

ชลบุรี - ทลฉ. ร่วมหน่วยงานภาครัฐ-เอกชน จัดฝึกซ้อมการรักษาความปลอดภัย ประจำปี 2567

ที่ ศูนย์สวัสดิการท่าเรือแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เรือเอก จิรวัฒน์ โอจารุทิพย์ ผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติการ ท่าเรือแหลมฉบัง ปฏิบัติหน้าที่ผู้บัญชาการเหตุการณ์ พร้อมด้วย เรือโทธนเดช โสมนันท์ ผู้อำนวยการกองการท่า และนายณัฐพล บุญโชคช่วย ผู้ช่วยผู้อำนวยการกองการท่า นางศิริพร ชลวานิช ผู้ช่วยผู้อำนวยการกองบริหารงานทั่วไป และพนักงาน ทลฉ. เข้าร่วมฝึกซ้อมการรักษาความปลอดภัย ท่าเรือแหลมฉบัง ครั้งที่ 1 ประจำปี 2567 โดยมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมการฝึกซ้อม

ประกอบด้วย ผู้บริหาร พนักงานท่าเรือแหลมฉบัง และผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ สำนักงานควบคุมการจราจรและความปลอดภัยทางทะเล กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจน้ำ ,ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 (ศรชล.),ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 2 จังหวัดชลบุรี ,สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชลบุรี ,เทศบาลนครแหลมฉบัง ,เทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ เทศบาลตำบลบางละมุง,ผู้ประกอบการท่าเทียบเรือ ,โรงพยาบาลต่าง ๆ เช่น โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ,โรงพยาบาลแหลมฉบัง ,โรงพยาบาลวิภาราม แหลมฉบัง ,โรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา และโรงพยาบาลบางละมุง โดยมี เจ้าหน้าที่ครูฝึกจาก WASHINGTON STATE PARTNERSHIP PROGRAM เข้าร่วมอีกด้วย

เรือเอก จิรวัฒน์ โอจารุทิพย์ กล่าวว่า การฝึกซ้อมครั้งนี้ โดยสมมุติเหตุการณ์ มีรถบรรทุกสารเคมีอันตราย ที่จะวิ่งเข้าที่บริเวณประตู 3 ท่าเรือแหลมฉบัง เกิดพลิกคว่ำ ทำให้สารเคมีเกิดการรั่วไหล และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าระงับเหตุ เพื่อไม่ให้เหตุการณ์บานปลาย เนื่องจากเป็นสารเคมีไวไฟ อาจเกิดเพลิงไหม้ได้ จึงสั่งปิดเส้นทางการจราจรบริเวณดังกล่าว เพราะหวั่นประชาชนและผู้ประกอบการขนส่งสินค้าที่สัญจรผ่านไปมาอาจจะได้รับอันตรายได้

เรือเอกจิรวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า การฝึกซ้อมครั้งนี้มีปัญหาอุปสรรคเพียงเล็กน้อยในเรื่องการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ปฎิบัติหน้างานกับศูนย์อำนวยการเท่านั้น ส่วนปัญหาอื่นๆไม่มี ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ต้องขอขอบคุณ หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ที่เข้าร่วมการฝึกซ้อมในครั้งนี้ ที่ประสบผลสำเร็จตามแผนงานที่วางไว้

ศูนย์ข่าวศรีราชา/รายงาน

10/08/2024

ชลบุรี - ทลฉ. จัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นภาคเอกชน (Market Sounding) สำหรับการให้เอกชนร่วมลงทุน โครงการท่าเทียบเรือ A1

ที่ห้องประชุม Dockyard 3 โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีท ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ว่าที่ร้อยตรี รัฐกร เขียวไพศาล นักบริหาร 16 ประจำผู้อำนวยการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง เป็นประธานเปิดงานสัมมนา โครงการศึกษาและวิเคราะห์ โครงการตามข้อกำหนดในพระราชบัญญัติการร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 โครงการท่าเทียบเรือ เอ1 โดยมีคณะผู้บริหารท่าเรือแหลมฉบัง ,ผู้ประกอบการในท่าเรือแหลมฉบัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมงานในครั้งนี้

ว่าที่ ร.ต.รัฐกร กล่าวว่า การจัดสัมมนาในครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อทดสอบความเข้าใจ ,ความพร้อมของภาคเอกชน รวมทั้งข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ เพื่อเป็นข้อมูลการประกอบการศึกษาโครงการท่าเทียบเรือ เอ 1 เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับของรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม

สำหรับท่าเทียบเรือ เอ 1 นั้น เป็นท่าเทียบเรือรองรับเรือชายฝั่งและเรือท่องเที่ยว ซึ่งจะสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในเร็วๆนี้ โดยก่อนจะสิ้นสุดสัญญาจึงต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 เพื่อให้ถูกต้องตามกฎระเบียบของรัฐบาล

ว่าที่ ร.ต.รัฐกร กล่าวถึง ทิศทางการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังในปัจจุบันและอนาคตนั้น ซึ่งปัจจุบันท่าเรือแหลมฉบัง ที่ท่าเรือเฟส 1-2 ที่รองรับตู้สินค้าได้ทั้งสิ้น 11 ล้าน TEU โดยมีทั้งเรือท่องเที่ยว ,เรือขนส่งตู้สินค้า และในอนาคตอีก 4 ปีข้างหน้านี้จะมีการเปิดท่าเรือ เฟส 3 ที่จะสามารถรองรับตู้สิ้นค้าได้เพิ่มขึ้นอีก 7 ล้าน TEU รวมทั้งสิ้น 18 ล้านTEU โดยจะรองรับเรือสินค้าที่มีขนาดใหญ่เพิ่มมากขึ้น เช่น เรือซุปเปอร์โพสพาราแม็ก ที่ใหญ่ท่าสุดระดับโลกก็สามารถเข้าได้

นอกจากนั้นในพื้นที่เฟส 3 ยังมีเส้นทางรถไฟ ที่สามารถเข้าได้ทั้ง 2 ด้าน ทั้งด้านฝั่งซ้าย คือ ท่าเรือ F และด้านฝั่งขวา คือ ท่าเรือ E ซึ่งเส้นทางรถไฟที่ดำเนินการนั้นจะรองรับตู้สินค้าได้จำนวน 4 ล้านTEU จะเป็นการลดต้นทุนด้านโลเจตสิกส์ ได้เป็นจำนวนมาก

ว่าที่ ร.ต.รัฐกร กล่าวต่อไปว่า สำหรับท่าเรือแหลมฉบังนั้น จะรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ด้านเรือสินค้า ,ด้านรถไฟ นอกจากนั้นยังได้พัฒนาการลดมลพิษทางอากาศ (กรีนพอร์ต) ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

03/08/2024

"วรัญชญ์ กรุ้ป" เปิดตัวผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ กาแฟสมุนไพร "MILIN COFFEE" -ไฟเบอร์ "SUTIDA FIBER PLUS"

นางภัควลัญชญ์ ชำนิ ผู้บริหารกลุ่มบริษัท เอ็ม มารีน 2018 จำกัด เผยว่าปัจจุบันนอกจากกลุ่มบริษัทในเครือจะดำเนินธุรกิจหลายอย่างใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี แล้วขณะนี้ยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อเอาใจคนรักสุขภาพ หลังพบการเติบโตของธุรกิจความงามในพื้นที่ว่ายังไปได้ดี โดยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารซึ่งจะจัดจำหน่ายโดย บริษัท วลัญชญ์ มารีน จำกัด มีทั้งกาแฟสุขภาพภายใต้ชื่อ “MILIN COFFEE”

โดยจะเป็นผลิตภัณฑ์การแฟปรุงสำเร็จชนิดผง ที่ใช้กาแฟสายพันธุ์อราบิก้า ที่มีกลิ่นหอม ผสมกับสารสกัดจากสมุนไพร 19 ชนิดจนได้สรรพคุณในเรื่องของการช่วยบำรุงสายตา ผิวพรรณ กระดูกและลดน้ำตาลในเลือดเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิต และโรคหัวใจรวมถึงผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากใช้สตีวิออล ไกลโคไซด์ หรือสารสกัดจากหญ้าหวาน ซึ่งให้ความหวานแต่ไม่ให้พลังงาน

และยังมีกระชายดำ รวมทั้งสารสำคัญในน้ำมันรำข้าวเพื่อใช้แทนครีมเทียม ,สารสกัดจากอะเซโรล่าเชอร์รี่ ที่มีปริมาณวิตามินซีสูง ช่วยเร่งการสร้างเสริมสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวเต่งตึงดูอ่อนกว่าวัยและยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล

สารสกัดจากเห็ดหลินจือ หนึ่งในสมุนไพรที่ขึ้นชื่อว่าสามารถรักษาโรคได้อย่างดี ช่วยบำรุงร่างกายเสริมภูมิต้านทานและต้านการอักเสบของโรคต่างๆ,สารสกัดจากโสม ช่วยปรับสมดุลของร่างกาย(หยิน-หยาง) ยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็ง ,สารสกัดจากเจียวกู่หลาน ที่มีสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะ ลดไขมันในเส้นเลือดฯลฯ

นอกจากนั้นยังมีผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ภายใต้ชื่อ “SUTIDA FIBER PLUS” ที่มีรุกโตโอลิโกแซคคาไรด์ ซึ่งเป็นพรีไบโอติกที่สามารถเป็นอาหารของแบคทีเรียที่ดีในลำไส้ ช่วยลดจุลินทรีย์และเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย รวมทั้งยังช่วยปรับการเคลื่อนไหวของระบบทางเดินอาหารกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลําไส้ช่วยกำจัดของเสียและสารพิษ ทำให้การดูดซึมของลำไส้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น

ไม่เพียงเท่านั้นยังมี อินูลิน ที่ช่วยบรรเทาอาการท้องผูกจากคุณสมบัติความเป็นใยอาหาร ช่วยเพิ่มความถี่ของการขับถ่ายลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เนื่องจาก อินูลิน เป็นใยอาหารที่อุ้มน้ำได้ดี ช่วยเพิ่มปริมาตรของกากอาหารในลำไส้จึงกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ ทำให้ขับถ่ายสะดวกขึ้น

ผงไซเลียมฮักส์ ซึ่งเป็นเมล็ดของเทียนเกล็ดหอย ที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ที่มีลักษณะเป็นเจล และเซลลูโลสซึ่งจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและช่วยหล่อเลี้ยงลำไส้ที่เป็นทางผ่านของกากอาหาร ทำให้ช่องท้องและระบบต่างๆ ทำงานได้เป็นปกติ ฯลฯ
“ การเปิดตัวธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมาจากแรงบันดาลใจในการดูแลสุขภาพของทั้งตัวเองและคนที่รักด้วยหวังที่จะได้อยู่กับครอบครัวนานๆ ประกอบกับตัวเองก็เป็นผู้ที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟ แต่มีปัญหาในเรื่องคอลเรสเตอรอลและน้ำตาล รวมถึงปัญหาเรื่องระบบขับถ่ายจึงคิดที่จะผลิตกาแฟที่เหมาะกับตัวเอง รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูลำไส้ซึ่งน่าจะตรงใจผู้หญิงในยุคใหม่โดยได้ใช้เวลานานหลายเดือนในการคิดสูตรการทำกาแฟเพื่อสุขภาพ และทดลองรสชาติกาแฟสูตรต่างๆ ที่ผ่านการนำเสนอของนักโภชนาการจน ได้สูตรกาแฟ และไฟเบอร์ที่พอใจ จึงติดต่อโรงงานที่ได้มาตรฐานให้เป็นผู้ผลิต”

นางภัควลัญชญ์ ยังบอกอีกว่าขณะนี้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของบริษัทผ่านการรับรองจาก อ.ย.เป็นที่เรียบร้อยแล้วและการเปิดตัวครั้งแรกนี้บริษัทฯได้ผลิตกาแฟสมุนไพรจำนวน 1 ล้านกล่อง และไฟเบอร์ 2 กลิ่นคือ กลิ่นแอปเปิ้ลเขียวและกลิ่นสตอเบอรี่ อีก 6 แสนกล่อง โดยตั้งเป้าหมายการขายภายในระยะเวลา 2 ปี

ส่วนรูปแบบการทำตลาดจะเน้นการขายผ่านตัวแทนจำหน่ายซึ่งขณะนี้บริษัท วลัญชญ์ มารีน จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.9 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้เปิดรับผู้ที่สนใจจะเข้าร่วมเป็นตัวแทนขายแล้ว และเชื่อว่าจะสามารถตอบโจทย์ผู้ที่กำลังมองหางานและต้องการสร้างรายได้หลัก หรือได้เสริมในยุคเศรษฐกิจตกต่ำได้เป็นอย่างดีเช่นกัน

อนึ่ง กลุ่มบริษัท เอ็ม มารีน 2018 จำกัด ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเขต อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี มานานนับ 10 ปีและในช่วงโควิด19 ระบาดยังได้เปิดตัว โรงงานผลิตน้ำแข็งหลอดที่ได้มาตรฐานเพื่อรองรับความต้องการของผู้ประกอบการร้านอาหารและแหล่งท่องเที่ยวในช่วงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมทั้งยังมีร้านจำหน่ายอาหารสัตว์แบบครบวงจรเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่และชาวต่างชาติในพื้นที่อีกด้วย

Address


Alerts

Be the first to know and let us send you an email when Thaitv24.com posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Videos

Shortcuts

  • Address
  • Alerts
  • Videos
  • Claim ownership or report listing
  • Want your business to be the top-listed Media Company?

Share