My Healthy (2024)

30/11/2016

กลับมาแล้นน เกิดมาไม่มีก้น พอหยุดเล่นก้นก็ยุบ😢 เราเลยต้องเล่นก้นเพื่อคงความเด้งเอาไว้นะคะ ท่านี้เล่นได้ทุกวันเลย เพราะเป็นท่าบริหารก้นรอบทิศทาง แถมสะโพก และต้นขาด้านหน้า-ข้าง-หลังไปด้วย เบถือดัมเบลข้างละ10lbs เบาๆค่ะ curtsy lunges เริ่มต้นท่ากางขาออกเท่าหัวไหล่ ไขว้ขา1ข้างไปด้านหลัง ย่อให้ลึก เข่าเกือบแตะพื้น แขม่วท้อง เก็บก้น หลังตรงตลอดนะคะ ย่อตัว-หายใจเข้า ขึ้น-หายใจออก ซ้าย-ขวา นับ1 15ครั้ง 4เซทค่า
เบเบ้

29/11/2016

เพิ่มแรงต้านด้วย resistance band (เริ่มแรกตัวเปล่าก่อนก็ได้นะคะ เหนื่อยเหมือนกัน แต่ถ้ามีแรงต้านก็จะช่วยสร้างกล้ามเนื้อได้ดีกว่า) เริ่มท่าด้วยการกางขาเท่าหัวไหล่ กระโดด2ที เวลาลงไม่กระแทกเข่านะคะ พยายามยืดหยุ่นเข่าตลอด ต่อด้วยก้าวไปข้างๆแล้วย่อลงเหมือนsquatค่ะ jump-jump-squatไปขวา-jump-jump-squatไปซ้าย นับ1 ทั้งหมด15ที 4เซทค่า ได้กล้ามเนื้อขา ก้น หน้าท้อง และheart rateค่า
เบเบ้

28/11/2016

มาๆจ้า ถูพื้นและสร้างก้น กระชับต้นขากันต่อ ใครก้นแบน ก้นปอด ทำท่านี้ช้าๆ ลงต่ำๆ ใครก้นห้อย ก้นเหี่ยวไม่กระชับ ทำท่านี้ไวๆ เกร็งขมิบก้นไว้ให้ได้ตลอดเซทนะคะ
หาเศษผ้ามา1ชิ้น ลงน้ำหนักลงขาที่เหยียบลงพื้นนะคะ ข้างที่อยู่บนผ้า เราแตะไว้เพื่อbalanceตัวเราค่ะ ย่อข้างที่เหยียบพื้นให้ลงลึกที่สุด โดยไม่ให้เข่าเลยปลายเท้านะคะ ถ้าเลย ถ่าย นน.กลับมาที่ส้นเท้าค่ะ
ขาที่เหยียบผ้า ตึงไว้ตลอด ห้ามงอ ลง-หายใจเข้า ขึ้น-หายใจออก แขน2ข้างยื่นไปด้านหน้าเพื่อbalance หรือเหยียดขึ้นข้างบนเหมือนช่วยดึงตัวเราขึ้นก็ได้ค่ะ ทำยังไงก็ได้ไม่ให้หัวทิ่มไปข้างหน้า😆 ทำข้างละ 15ที 4เซทค่า
เบเบ้

27/11/2016

คลิปที่แล้วที่อาจจะดูผาดโผนไปนิด คลิปนี้เลยขอแจกท่าสร้างกล้ามท้องแบบง่ายๆ ง่ายมากๆ ทำได้ทุกคน ทุกที่ ทุกเวลาค่า เพียงแค่หาขวดน้ำ หรืออะไรก็ได้มาตั้งเป็นหลักไว้นะคะ ยิ่งสูงยิ่งยาก นั่งบนเบาะหรือmat กันเจ็บก้น แขน2ข้างท้าวไว้หลังแนวก้นเล็กน้อย แค่กันหงายหลัง ไม่ลงน้ำหนักที่แขนทั้งหมด
เบเบ้

26/11/2016

คลิปนี้มาstretchingกันบ้าง หลายคนชอบลืมยืดกล้ามเนื้อ บางคนก็ขี้เกียจ แต่ไม่ได้นะคะ จำเป็นมากๆ วันนี้เลยมีท่ามาแชร์ stretch พร้อมบริหารขา-ก้น ไปในท่าเดียวกันเลย ยืนตรง ส่งขาข้างหนึ่งไปข้างหลังเหมือนทำ lunge แต่ว่าให้กว้างกว่า ขาข้างหลังตึง ก้าวถอยหลังตรงๆ ก้าวให้กว้างไว้ เวลาเราย่อลึกๆ ช้าๆ เข่าข้างหน้าจะได้ไม่เลยปลายเท้านะคะ ลึกแค่ไหนแล้วแต่คนนะคะ ให้รู้สึกตึงๆที่ต้นขาด้านใน และก้นค่า ตอนที่เราดึงตัวกลับขึ้นมา เกร็งหน้าท้องช่วย บาลานซ์ให้ดีค่า ซ้าย-ขวา นับ1 20ครั้ง 4เซทค่า
เบเบ้

25/11/2016

2ท่าติดกัน 4เซท ดิ้นเป็นกุ้งเต้นเลย😂 คลิปนี้ ท่าเบสิคมากๆค่า แต่ดีมากสำหรับท้องล่าง เตะขา20ครั้ง ลงแบบไม่สุดนะคะ เน้นที่จังหวะเตะ แบบนี้จะเหนื่อยกว่าแบบลงสุด เพราะจะเป็นแรงท้องล้วนๆ ไม่มีแรงเหวี่ยงมาช่วยเลย ต่อด้วยเตะสลับซ้าย-ขวา ข้างละ20ครั้งค่า กล้ามท้องมาแน่นวล

เบเบ้

24/11/2016

เบื่อsumo squatแบบเดิมๆ พี่เสือพาเล่นท่าใหม่ ได้กล้ามเนื้อทุกสัดส่วน ก้น ขา ท้อง ลำตัว แขน กระชับหมด ได้สีข้างด้วย และที่เพิ่มเติมคือฝึกการbalanceด้วยค่า ท่านี้เริ่มจากการกางขาปลายเท้าหันออก โดนตั้งแต่สะดือขึ้นมา บิดหันตรงไปหน้าห้อง ล่างสะดือลงไปหันทะแยงมุมไว้ค่า ฝึกตัวเปล่าก่อนก็ได้นะคะ ลงให้ลึก-หายใจเข้า ขึ้น-หายใจออก ข้างละ 20ครั้ง 4เซท ตัวเปล่า5เซทไปเลยค่า
เบเบ้

24/11/2016

ท่าแม่กบ (นี่คิดเอง อย่าเอาไปเรียกที่ไหนนะ อายเขา55) ท่านี้ปวดขามากกก ทำ 20ครั้ง 5เซทครบ รับรอง เดินไม่ตรงแน่นอนค่า😂 เริ่มเหมือนท่าsquat เปิดปลายเท้าได้เล็กน้อย แต่จังหวะลง ลงให้สุด ดันก้นไปด้านหน้า หลังตรงแขม่วท้องตลอด ถ่ายน้ำหนักมาส้นเท้า ตอนขึ้นไม่ต้องสุดนะคะ เราจะเน้นที่จังหวะลงและดันไปข้างหน้า ตอนลงจะได้ยืดกล้ามเนื้อต้นขาด้านใน-ด้านหลัง จังหวะขึ้นได้หน้าขาและหลังส่วนล่าง ใครเกร็งท้องตลอดก็ได้ท้องแถมด้วยน๊า ตอนนี้ขอตัวไปนวดก่อน บัยยย😥
เบเบ้

23/11/2016

เอาผ้าขี้ริ้วพันเท้าแล้วมัดยาง พร้อมแล้ว! ผ้าไม่หลุดไม่ปลิวแล้วค่า
ถูพื้นครั้งนี้ ได้กล้ามเนื้อ กระชับสัดส่วนทั่วทั้งตัวเลยค่ะ เป็น superset 2ท่าติดกันไม่พัก เริ่มจากท่าplank วาดขาเป็นครึ่งวงกลมทีละข้าง ซ้าย-ขวา 15ครั้ง ท่านี้ได้เรียวขา ก้น ท้อง หลัง เอวเน้นๆเลยนะคะ ส่วนแพลงค์ก็ได้หลัง แขน ไหล่อยู่แล้วค่ะ
ที่สำคัญคือพยายามกดก้นลงให้ตัวเป็นเส้นนอนตรง ก้นไม่โด่งนะคะ แขนตึง ขาตรง เกร็งหน้าท้อง กล้ามท้องมาแน่นอน
ต่อด้วย mountain climber exercise ย้ำหน้าท้องอีก 10ครั้ง ซ้ายและขวา ทั้งหมด 5เซทค่า ใครที่มีเวลาน้อย แต่อยากออกกำลังให้ได้ทุกสัดส่วน หรือใช้เป็นท่าสุดท้ายเพื่อเก็บกล้ามเนื้อแบบครบๆ แนะนำท่านี้เลยค่า หมดเซทแล้วอย่าลืมยืดกล้ามเนื้อด้วยนะคะ
เบเบ้

22/11/2016

ฝนตกไม่เป็นอุปสรรคต่อการออกกำลังกายเพราะยิมมีหลังคา😉 วันนี้เน้นหน้าท้องส่วนล่างและด้านข้างค่า เบเพิ่มน้ำหนักที่ข้อเท้า2kg เตะหน้าขาคู่ตรง-บิดเอวงอเข่าคู่ไปซ้าย-เตะหน้า-ไปขวา ทำแบบนี้10ครั้ง (=เตะ40ที) 4เซท ทุกครั้งที่เตะเป่าลมออกนะคะ ถ้าตัวไหลก็ดันตัวขึ้นมารีบเข้าท่าแล้วเตะต่อเลยค่า🤗
เบเบ้

21/11/2016

บริหารต้นขา ก้นกระชับ เป็นท่า back&side lunge โดยการสไลด์ขาไปด้านหลัง ขาหน้าย่อตั้งฉากพื้น 15ที ต่อด้วยสไลด์ขาข้างเดิมไปด้านข้างอีก 15ที แล้วเปลี่ยนไปทำอีกข้างนึงนะคะ ทั้งหมด5เซท ท่านี้ได้ทั้งการสร้างกล้ามเนื้อ กระชับ ยืดหยุ่น สร้างความแข็งแรง และบาลานซ์ด้วย ดีงามค่า
เบเบ้

21/11/2016

3ลูกนะคะรอบนี้ ต้นขากระชับชับชับแน่นอน

เบเบ้

20/11/2016

คลิปนี้มา cardio แบบ full body workout กันดีกว่า ได้ทุกสัดส่วนของร่างกายเลยจริงๆค่ะ เริ่มจากplank พยายามกดก้นลง แขม่วหน้าท้องไว้นะคะ กระโดดกางขา2ข้างแบบplank jack หุบขาคู่ แล้วกระโดดอีกครั้ง ขาคู่ไปหาแขนทั้ง2ข้าง กลับมาpositionแรก แล้วทำใหม่ ทั้งหมด 10ครั้ง 5เซทค่า ได้กล้ามเนื้อแขน หลัง ท้อง ก้น ขา ชอบมากๆ คือคุ้มเลย
เบเบ้

19/11/2016

งานวันนี้ มีความทุ่มเทมากนะคะ
เบเบ้

18/11/2016

ต่อยมวยเช้า2วันติด ตัวเบาเยยยยย
เบเบ้

17/11/2016

คลิปนี้มาสร้างกล้ามท้องชัดๆกันค่า ปกติที่เรานอนราบกับเบาะและยกขาคู่ตรง 2ข้างแบบleg raiseเราจะได้หน้าท้องช่วงล่าง ท่านี้เพิ่มการบริหารหน้าท้องช่วงบนมาด้วย โดยยกขาตรง ก้นและหลัง ลอยขึ้นเหนือเบาะ ให้เป็นเส้นตรงชี้ขึ้นเพดานเป็นท่าshoulder standนะคะ แล้วcrunchโดยกดเข่าลงมา2ข้าง ยิ่งต่ำใกล้อกได้ ยิ่งดีค่า ซ้าย-ขวา จะได้หน้าท้องชิ้นบนและข้างด้วย ให้น้ำหนักอยู่บนบ่าและไหล่นะคะ ลงน้ำหนักผิดจะปวดหลังได้ 20ครั้ง 5เซท
เบเบ้

16/11/2016

ถูพื้นกันอีกแล้ว แต่ท่านี้ ถูไปดูลูก ดูทีวีไปได้ค่า นั่งยืดขาไปด้านหน้า ปลายเท้าเปิดออก45° มือยันลำตัว วางนิ้วมือชี้ไปด้านหน้า ยกก้นขึ้นเหนือพื้น วาดขา2ข้างออกจากกัน ก้นยกตลอดนะคะ แขม่วท้อง ล็อคหัวไหล่กดลงไว้ตลอดนะคะ ท่านี้ได้หลังแขน หัวไหล่ หน้าท้อง ก้น และสุดๆคือ ต้นขาด้านใน 20ครั้ง 5เซทค่า
เบเบ้

15/11/2016

บอกลาขาห้อยย้อย ผิวเปลือกส้มได้เลย ท่านี้*ยาก*นะคะ ใช้แรงเกร็งทั้งตัวทั้งแต่หัวไหล่ แขน แผ่นหลัง ลำตัว และที่เน้นสุดๆคือ ก้น และ ต้นขาด้านหลังค่ะ ให้ได้กล้ามเนื้อเส้นเรียวขาสวยๆ ค่อยๆฝึก แรกๆให้เพื่อนรับก่อนด้านหน้า พอแข็งแรงขึ้น stepต่อไปคือลงไปดันพื้นด้วยตัวเอง ท่านี้แขม่วท้อง กดก้นลงตลอดนะคะ ออกแรงที่ขาด้านหลัง เกร็งต้านไว้ ลงให้ช้าที่สุด 15ครั้ง 5เซทค่า
เบเบ้

14/11/2016

หนักกว่าดัมเบลล์ก็ท่อนแขนพ่อเสือนี่หละคะ sumo pulse squat 20ครั้ง 5เซทค่ะ ได้กล้ามเนื้อด้านในต้นขา ด้านหลังต้นขา และก้นค่ะ squatแบบครึ่งจังหวะแบบนี้ จะเน้นเรื่องความกระชับนะคะ burn ต้นขาและก้น ส่วนsquatแบบขึ้นสุดลงสุดช้าๆ และholdเอาไว้ จะช่วยเรื่องความแข็งแรงสร้างกล้ามเนื้อค่า
เบเบ้

14/11/2016

มากำจัดไขมันหน้าท้องด้วย 5 ท่าบริหารร่างกายบนเก้าอี้กันเถอะ!

ท่าที่ 1
ยกหัวเข่าขึ้นและลง ในขณะที่คุณดึงหัวเข่าขึ้นและลงนั้น ควรใช้กล้ามเนื้อตรงช่วงท้องเป็นตัวช่วย อาทิเช่น การเกร็งหน้าท้องไปพร้อมๆ กับการยกหัวเข่าขึ้น ซึ่งการเกร็งหน้าท้องจะช่วยให้คุณเผาผลาญไขมันได้ดีและรวดเร็วยิ่งขึ้น

ท่าที่ 2
วางขาทั้งสองข้างให้ขนานกัน จากนั้นค่อยๆ ยกขึ้นและลงให้พร้อมกัน ซึ่งในท่านี้จะค่อนข้างเหนื่อยกว่าท่าแรกเพราะจำเป็นต้องใช้กล้ามเนื้อช่วงท้องอย่างหนัก

ท่าที่ 3
จัดขาทั้งสองข้างของคุณให้อยู่ในแนวขนานเช่นเดิม แต่รอบนี้ให้คุณเอียงตัวไปด้านข้างและยกขาขึ้นเหมือนท่าที่ 2 การเอียงตัวเช่นนี้จะช่วยเผาผลาญไขมันบริเวณรอบเอวอีกด้วยค่ะ จากนั้นค่อยๆ เปลี่ยนข้างโดยการเอี้ยวตัวมาอีกข้างหนึ่ง และทำแบบเดิม

ท่าที่ 4
ในท่านี้จะใช้แขนเป็นอวัยวะหลักซึ่งเรียกว่าการหมุนรอบเอว โดยการตั้งแขนเป็นมุมฉากให้อยู่ในระนามเดียวกับศีรษะหรือใบหู จากนั้นค่อยๆ หมุนตัวไปทางด้านขวาและซ้ายสลับกัน พยายามตั้งแขนให้แข็งแรงและเกร็งไปพร้อมๆ กัน จะช่วยให้การบริหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ท่าที่ 5
จากท่าที่แล้ว ค่อยๆ กางแขนออก และโน้มตัวลง ยืดแขนให้ปลายนิ้วแตะเท้าอีกข้างหนึ่ง ในการออกกำลังท่านี้ควรระมัดระวังเป็นอย่างดี และควรจัดท่าทางการนั่งให้มั่นคงและปลอดภัยนะคะ

ไม่ยากเลยใช่มั้ยล่ะสำหรับทั้ง 5 ท่าออกกำลังกายจากเก้าอี้ที่เรามาแนะนำในวันนี้ หวังว่าเพื่อนๆ จะนำไปประยุกต์ใช้กับไลฟ์สไตล์ของตนเองได้อย่างเหมาะสม และที่สำคัญ คุณควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ควบคู่กันไปด้วยนะคะ เพื่อรูปร่างที่สวยงามอย่างที่ทุกคนใฝ่ฝัน

My Healthy

13/11/2016

Bunny hop hop🐰 โดดทุกวัน เหนื่อยทุกวัน😅 ฟังเพลงละโดดไปด้วยค่ะ ตามจังหวะ เผลอแปปเดียวครบเซทละ เบโดดเซทละ5นาที ละพักไม่เกิน1นาที 5เซท ปกติชอบถอดรองเท้าโดด เพราะใส่แล้วชอบสะดุด แต่ก็มีตีนิ้วบ้างเหมือนกัน เจ็บ ทนค่ะ นิดหน่อย ไกลหัวใจ อิอิ
เบเบ้

13/11/2016

สาระน่ารู้ รับเช้าวันใหม่^^

12/11/2016

อินทผลัม ผลไม้อันดับ 1 ของโลกในการดูแลสุขภาพ !!!!

อินทผลัม พูดชื่อนี้ขึ้นมาหลายๆ คนอาจจะไม่คุ้นหูเท่าไหร่นัก เนื่องจากต้นกำเนิดของอินทผลัมนั้นมาจากดินแดนอาหรับนั่นเอง อินทผลัมนั้นมีหลากหลายสายพันธ์แต่มีรสชาติหวานจัดเหมือนนำไปเชื่อมน้ำตาล การปลูกอินทผลัมในประเทศไทยค่อนข้างทำได้ยาก เนื่องจากอยู่ในเขตร้อนชื้น จึงต้องมีการนำเข้าอินทผลัมควบคู่ไปด้วย จึงทำให้ผลไม้ชนิดนี้ไม่เป็นที่รู้จักและนิยมเท่าใดนัด แต่เชื่อมั้ยคะว่า อินทผลัม เป็นอาหารที่มีคุณประโยชน์สูงมากเลยทีเดียว เนื่องจากอุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายจำนวนมากที่สามารถช่วยบรรเทาปัญหาสุขภาพต่างๆ เช่น คอเลสเตอรอล ไขมันอุดตันเส้นเลือด หัวใจวาย และความดันโลหิตสูง นอกจากนี้อินทผลัมยังสามารถปกป้องคุณจากโรคต่างๆ ได้อีกมากมายด้วยสรรพคุณอันมากมายที่อัดแน่นอยู่ในผลผลิตลูกเล็กๆ ไม่ว่าจะเป็น

1. ช่วยควบคุมความดันโลหิต
ในผลอินทผลัมนั้นอุดมไปด้วยโซเดียม โพแทสเซียม และแมกนีเซียมซึ่งมีประมาณ 80 มิลลิกรัมต่ออินทผลัม 5-6 ลูก แร่ธาตุเหล่านี้จะช่วยให้เลือดกระจายตัวได้ทั่วบริเวณหลอดเลือด ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงจึงควรบริโภคอินทผลัมเป็นประจำเนื่องจากผลไม้ชนิดนี้จะช่วยลดความดันโลหิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. เสริมสร้างหัวใจให้แข็งแรง
นำผลอินทผลัมแช่น้ำข้ามคืนและสะเด็ดน้ำให้แห้งในตอนเช้า นำเมล็ดออกจากลูกและนำเนื้ออินทผลัมไปดัดแปลงเป็นเครื่องดื่มเพื่อเพิ่มความสดชื่น หรือจะรับประทานสดๆ ก็ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ค่ะ

3. บรรเทาอาการท้องร่วง ท้องเสีย
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้วว่าอินทผลัมอุดมไปด้วยโพแทสเซียมซึ่งมีส่วนช่วยบรรเทาอาการท้องร่วง และท้องเสีย โดยสรรพคุณของมันจะช่วยบรรเทาอาการและเพิ่มปริมาณแบคทีเรียชนิดดีในการกำจัดแบคทีเรียชนิดร้ายให้หมดจากท้องและลำไส้

4. มีธาตุเหล็กสูง
ธาตุเหล็กนั้นมีความสำคัญและมีประโยชน์ต่อภาวะโลหิตจางในกลุ่มเด็กและกลุ่มสตรีมีครรภ์ อินทผลัม 100 กรัมจะได้ธาตุเหล็กประมาณ 0.9 มิลลิกรัม ตามหลักโภชนาการแล้ว คุณควรบริโภคธาตุเหล็กปริมาณ 11% ต่อวัน ในส่วนของธาตุเหล็กจะช่วยแพร่กระจายออกซิเจนให้กับเลือด ซึ่งก่อให้เกิดผลดีต่อสารฮีโมลโกลบิน และเซลล์เม็ดเลือดแดง

5. รักษาอาการท้องผูก
หากคุณมักประสบปัญหาอาการท้องผูกเป็นประจำ อินทผลัมช่วยคุณได้อย่างแน่นอน เนื่องจากสรรพคุณอีกอย่างหนึ่งของอินทผลัมนั้นคือการเป็นยาระบายแบบอ่อนๆ เพียงนำอินทผลัมแช่น้ำทิ้งไว้ในตอนกลางคืน และนำมารับประทานควบคู่กับอาหารเช้า

6. ควบคุมน้ำหนัก
ลองรับประทานอินทผลัมก่อนมื้อเช้าจะช่วยคุณในการควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี เนื่องจากอินทผลัมเป็นผลไม้ที่ปราศจากคอเลสเตอรอล แต่ก็มีปริมาณน้ำตาลสูงเช่นเดียวกัน ฉะนั้นควรรับประทานในปริมาณที่พอดีเพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพนะคะ

7. ลดปริมาณไขมันอุดตันเส้นเลือด
อินทผลัมคือแหล่งของโพแทสเซียมอันมหาศาลที่จะเป็นแร่ธาตุอันสำคัญในการป้องกันสุขภาพจากภาวะไขมันอุดตันเส้นเลือด และช่วยดูแลรักษาระบบประสาทให้ทำงานเป็นปกติ คุณจึงควรที่จะบริโภคอินทผลัม การได้รับโพแทสเซียมปริมาณ 400 มิลลิกรัมต่อวันจะช่วยบรรเทาปัญหาดังกล่าวนี้ได้เป็นอย่างดี

หากใครอยากมีสุขภาพที่ดีโดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีจากยาบำรุงต่างๆ ก็ลองหันมารับประทานผลไม้มหัศจรรย์ชนิดนี้กันดูนะคะ ด้วยราคาที่สมเหตุสมผลและมีคุณค่าทางโภชนาการเต็มเปี่ยม การลงทุนเพียงไม่กี่บาทเพื่อบำรุงสุขภาพและยับยั้งสาเหตุต่างๆ ของโรคร้ายแรงในอนาคต ก็อาจจะมิใช่เรื่องที่สิ้นเปลืองเท่าใดนัก

My Healthy

12/11/2016

คลิปนี้ จัดไป ต้นขา ก้น สะโพก basic squat บวกกับท่า curtsy squat หรือsquatแบบขาไขว้ไปด้านหลัง ท่านี้จะได้ช่วงสะโพกและด้านข้างต้นขานะคะ โดยเริ่มจากท่าเบสิคตรงกลาง-ไปทางขวา-กลาง-ไปทางซ้าย เป็น1ครั้ง ทำทั้งหมด 15ครั้ง 5เซทค่า เมื่อยมากกกกก😢แต่เริ่ด กระชับแน่นอน
เบเบ้

11/11/2016

ความลับที่ซ่อนไว้ของ แอสไพริน ทำอะไรได้มากกว่าแก้ปวด !!!!

สำหรับยาแก้ปวดแอสไพรินนั้นจะมีฤทธิ์ที่ค่อนข้างแรงกว่าพาราเซตามอล เพราะในแอสไพรินจะมีกรดซาลิไซลิค (Salicylic Acid) ที่สามารถต้านการอักเสบของกล้ามเนื้อควบคู่ไปกับการแก้ปวด ลดไข้หรือใช้รักษาป้องกันภาวะหลอดเลือดสมองและหัวใจอุดตันได้ อีกทั้งยังมีฤทธิ์ที่ทำให้ผนังกระเพราะบางลง เนื่องจากถูกกัดกร่อนนั่นเอง ซึ่งแตกต่างจากพาราเซตามอลที่ใช้ในการลดไข้ แก้ปวดทั่วไปและแทบจะไม่มีผลข้างเคียงใดๆ

ในปัจจุบัน กรดซาลิไซลิค ได้กลายมาเป็นวัตถุดิบหลักของยาแก้ปวดแอสไพริน นอกเหนือจากการเป็นส่วนผสมที่สำคัญในยาแก้ปวดแล้ว กรดซาลิไซลิคยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อีกหลากหลายวิธีในการบรรเทาอาการต่างๆ ที่คุณอาจไม่คาดไม่ถึง

1. บรรเทาอาการปวดจากแมลงสัตว์กัดต่อย

เพียงนำแอสไพรินมาบี้ให้เป็นผงละเอียดหรือจะใช้ทั้งเม็ดมาโรยและถูบริเวณที่อักเสบและคันจากการโจมตีของแมลงและสัตว์ชนิดต่างๆ เพื่อเป็นการปฐมพยาบาลเบื้องต้น อย่างไรก็ตาม หากคุณมีอาการแพ้รุนแรง ควรรับไปพบแพทย์อย่างด่วนที่สุดจะดีกว่า

2. ช่วยรักษาสิว

พวกเราทุกคนล้วนผ่านช่วงเวลาแตกเนื้อหนุ่ม เนื้อสาวกันมาอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นช่วงที่ฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง และอาจส่งผลต่อผิวพรรณ อาทิ สิวบริเวณใบหน้าที่ผุดขึ้นมาอย่างไม่เกรงใจ วิธีรักษาคือ หักแอสไพรินออกเป็นสองซีกและผสมน้ำเพียงเล็กน้อยเพื่อให้แอสไพรินกลายเป็นเนื้อครีม จากนั้นนำไปแต้มบริเวณที่เป็นสิว และปล่อยทิ้งไว้ซักระยะหนึ่ง ล้างหน้าให้สะอาด ทำเป็นประจำจะพบว่ารอยแดง และสิวจะค่อยๆ หายไป

3. คืนความสดชื่นให้กับผิว

กรดซาลิไซลิคสามารถบรรเทารอยแดง สิว และอาการบวมน้ำได้ดี อีกทั้งยังช่วยจำกัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและความมันส่วนเกินบนใบหน้า วิธีนี้ใช้แอสไพรินทั้งหมด 5 เม็ด บี้ให้แตก นำไปผสมกับน้ำ 1 ถ้วย พร้อมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน

คุณสามารถนำไปชโลมได้ทั่วผิวกายหรือตรงจุดที่มีปัญหา ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีจากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่น หากใช้เป็นประจำผิวพรรณของคุณจะกระจ่างใสและชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น

4. ขจัดรังแค

นำแอสไพริน 2 เม็ดมาบดให้ละเอียดเป็นผงแป้ง และนำไปผสมกับแชมพูสระผม ในขณะที่คุณกำลังสระผมอยู่นั้น ลองหมักทิ้งไว้ซัก 2-3 นาทีจากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดให้เกลี้ยง วิธีนี้จะช่วยขจัดรังแคให้ไม่กลับมากวนใจและทำลายความมั่นใจของคุณอีก หากใช้เป็นประจำจะทำให้เห็นผลลัพธ์ที่เร็วขึ้น

5. กำจัดคราบเหงื่อไคล

วิธีง่ายๆ ในการกำจัดคราบเหงื่อไคลบนเสื้อผ้าตัวโปรดของคุณสามารถทำได้โดยการบดแอสไพรินจำนวน 2 เม็ดให้พอดี จากนั้นผสมกับน้ำปริมาณครึ่งถ้วย นำเสื้อผ้าที่มีคราบเหงื่อไคลแช่ลงในน้ำที่ผสมแอสไพริน ทิ้งไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง ดังนั้นการกำจัดคราบเหงื่อไคลก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น

6. ฟื้นฟูสีผม

หากคุณเป็นคนที่หลงใหลในการเปลี่ยนสีผมเป็นกิจวัตร น้ำที่มีคลอรีนมากจะทำลายเส้นผมของคุณให้มีสีที่ผิดเพี้ยนไป โดยเฉพาะโทนสีผมอ่อนๆ อย่างบลอนด์ แต่เดี๋ยวก่อน ต่อจากนี้คุณสามารถฟื้นฟูและซ่อมแซมให้สีผมกลับมาสดใส และเส้นผมมีน้ำหนักได้ด้วยตนเอง

นำแอสไพริน 6-7 เม็ดผสมในน้ำอุ่น รอให้ตัวยาค่อนข้างละลาย จากนั้นนำเส้นผมของคุณแช่ลงในน้ำดังกล่าว ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาทีก่อนที่จะล้างออก ทำความสะอาด

7. กำจัดคราบน้ำมันที่ติดอยู่กับเครื่องครัว

บดแอสไพรินจำนวนหนึ่งให้ละเอียด ผสมกับน้ำปริมาณเล็กน้อย จากนั้นใช้ส่วนผสมดังกล่าวนี้ไปขัดเครื่องครัวบริเวณที่มีคราบน้ำมันติดอยู่ เพียงเท่านี้คุณก็จะได้เครื่องครัวเหมือนใหม่กลับมา

8. บำรุงต้นไม้ให้มีอายุยืนยาวขึ้น

นำแอสไพรินที่บดละเอียดแล้วไปผสมควบคู่กับน้ำที่ใช้รดน้ำต้นไม้เป็นประจำนะคะ ตัวยาของมันจะช่วยยืดอายุของต้นไม้ที่กำลังจะเหี่ยวเฉาหรือตายและยังทำให้ต้นไม้ของคุณสามารถมีอายุยืนต้นได้นานขึ้น

ใครที่กำลังประสบปัญหาเหล่านี้อยู่ล่ะก็ ลองทำเอาไปใช้กันดูได้นะคะ นอกจากจะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าของคุณแล้วยังช่วยประหยัดเวลาได้อีกมากโขเลยทีเดียว เพียงเท่านี้ยาแอสไพรินก็จะมีบทบาทเพิ่มขึ้นอีกหลากหลาย ไม่ได้เป็นเพียงแต่ยาแก้ปวดที่เมื่อใช้ไม่หมดก็ได้แต่รอเวลาให้หมดอายุไป.

My Healthy

11/11/2016

ฝึกเข้านอน - ตื่นนอน ให้เป็น เวลา กันคะ^^

11/11/2016

เพิ่งได้ของเล่นมาใหม่จาก .athome เป็นPilates bar กับGym socks ออกกำลังได้สารพัดท่าเลยค่า คลิปนี้เบมาแชร์4ท่าก่อนละกันน๊า
ท่าที่1 เป็นท่ากระชับหน้าแขน
ท่าที่2 กระชับหลังแขน
ท่าที่3 สควอทได้ต้นขา และดันบาร์ขึ้นได้ไหล่และหลังค่ะ
ส่วนท่าสุดท้ายได้ก้นค่า
ทำท่าละ 15ครั้ง 5เซท ตัวสายยางสามารถม้วนเข้ากับบาร์ให้สั้นขึ้น เพิ่มแรงต้านได้นะคะ ยิ่งม้วนสั้น แรงต้านยิ่งเยอะ
เบเบ้

11/11/2016

ท่ากายบริหาร บอกลาไขมันที่ต้นแขน!

เพิ่มเติมเล็กน้อยสำหรับทริคง่ายๆ ในการกำจัดไขมันให้ได้ผลมากขึ้น มาดูกันค่ะว่าจะมีอะไรบ้าง

1. จัดตารางอาหารการกิน
“You are what you eat” ยังคงเป็นสำนวนที่ใช้ได้ทุกยุคสมัย เพราะถ้าคุณอยากมีสุขภาพและรูปร่างที่ดี การกินก็เป็นเรื่องที่ควรใส่ใจไม่แพ้กัน การกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์มีแต่จะส่งผลเสียต่อร่างกายทั้งสิ้น ฉะนั้นลองจัดแพลนการกินให้มีทั้งผักและผลไม้เพื่อลดปริมาณไขมัน เส้นใยอาหารจากผักและผลไม้จะช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ง่ายขึ้นด้วยนะ

2. ทานระหว่างมื้อ
พยายามหาของว่างมาทานในช่วงระหว่างมื้ออาหารหลัก เพื่อไม่ให้รู้สึกหิวบ่อยเกินไป และยังช่วยยับยั้งคุณจากการบริโภคไขมันเกินอัตรา

3. ต้องทานอาหารเช้าเสมอ
มื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดของวัน และอย่าลืมว่าอาหารเช้าควรเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่ามื้อเย็น การที่คุณไม่ทานอาหารเช้าก็แปลว่าคุณจะต้องกินไม่บันยะบันยั้งในมื้อเที่ยงอย่างแน่นอน

4. ดื่มน้ำเยอะๆ
น้ำ เป็นสิ่งสำคัญต่อทุกๆ ระบบในร่างกาย ฉะนั้นคุณจึงควรดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน ของเหลวจะช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบเผาผลาญ เคล็ดลับอีกอย่างหนึ่งก็คือ ดื่มน้ำ 1 แก้วทุกครั้งก่อนรับประทานอาหาร จะช่วยให้คุณรับประทานอาหารในปริมาณที่พอดี

5. ชาเขียว ก็ช่วยละลายไขมันได้นะ
ดื่มชาเขียววันละ 1 แก้วทุกเช้าจะช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญให้กำจัดไขมันอย่างมีประสิทธิภาพ

6. เดินขึ้นบันไดกันเถอะ
หากคุณรู้ตัวว่าตัวเองยังไม่แก่เกินไปที่จะเดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์ก็จงอย่าขี้เกียจนักเลย แม้จะเสียเวลาไปซักหน่อย แต่ผลลัพธ์ที่ได้มันก็คุ้มค่าแก่การลงทุน

My Healthy

11/11/2016

สาระน่ารู้ รับเช้าวันใหม่ ^^

10/11/2016

กำจัดความเครียดด้วยการกดจุดบริเวณหน้าอกได้ง่ายๆ ด้วยตนเอง !!!!

เพื่อนๆ คงทราบกันดีอยู่แล้วว่า ด้วยเครื่องมือ เทคโนโลยี การพัฒนาด้านต่างๆ ในปัจจุบันก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงส่งผลให้วงการแพทย์มีความก้าวหน้าขึ้นด้วยเช่นกัน ไม่เว้นแม้แต่ แพทย์แผนจีน ที่มีการปรับเปลี่ยนและพัฒนาวิธีการให้มีความทันสมัย เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ต่างจากเดิมที่นิยมกันในเฉพาะกลุ่มเท่านั้น ด้วยประสิทธิภาพอันสูงส่ง และวิธีการดั้งเดิม ทำให้ผู้คนหันมาให้ความสนใจกันมากขึ้น

ในปัจจุบัน การนวด การทำสมาธิ โยคะ การรักษาด้วยยาจีน รำไทเก็ก และอาหารบำบัด ล้วนได้รับความนิยมจากผู้คนฝั่งตะวันตก นอกจากนี้ยังมี “การกดจุด” ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เนื่องจากเป็นการรักษาตามแพทย์แผนจีนโบราณที่มีคุณประโยชน์มากมาย ตั้งแต่แรกเริ่มนั้น การกดจุด มีขึ้นเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด ผ่อนคลายร่างกาย โดยการกดจุดที่สำคัญๆ บนร่างกาย ซึ่งวิธีดังกล่าวนี้มีการปฏิบัติสืบต่อกันมามากกว่า 2500 ปีเลยทีเดียว เพราะผลลัพธ์ของการกดจุดนั้นเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก

การรักษาแบบทั่วไปของทางตะวันออกจะขึ้นอยู่กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และกลุ่มยาเภสัชกรรม ทว่าการรักษาด้วยแพทย์แผนโบราณนั้นจะเน้นที่ธรรมชาติของแต่ละบุคคล การหลอมรวมร่างกาย สุขภาพของอารมณ์และจิตใจเป็นหลัก นอกจากนี้ วิธีการรักษายังง่ายเสียจนกระทั่งคุณก็สามารถทำได้เอง

พลังภายในของร่างกาย หรือที่เรียกกันว่า ชิ (Chi) จะเป็นช่องทางในการปลดปล่อยความเครียดความกังวล และช่วยรักษาสมดุลภายในร่างกาย ดังนั้นการกดจุดจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ร่างกายผ่อนคลาย บรรเทาความเจ็บปวด และคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ และนี่ก็เป็นวิธีง่ายๆ สำหรับการกดจุดที่คุณสามารถปฏิบัติเองได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน อุปกรณ์ก็มีเพียงแค่นิ้วมือของคุณเท่านั้น อ้อ! แล้วก็อย่าลืมตั้งสติและสมาธิให้ดีด้วยนะคะ

1. สำหรับการกดจุดในตำแหน่งแรก ให้คุณค่อยๆ ใช้นิ้วโป้งหรือนิ้วชี้กดลงไปบนพื้นที่ระหว่างคิ้วทั้งสองภายในเวลา 45 วินาที
2. เมื่อครบ 45 วินาทีแล้วค่อยๆ เลื่อนนิ้วขึ้นมายังจุดกึ่งกลางของหน้าผาก นวดๆ คลึงๆ อีกประมาณ 60 วินาที
3. เพื่อให้ผ่อนคลายมากขึ้น คุณควรลองควบคุมการหายใจ และค่อยๆ สูดลมหายใจเข้าให้ลึกที่สุด
4. จากนั้นเลื่อนนิ้วกลับมายังพื้นที่ระหว่างคิ้ว แต่ครั้งนี้ให้คุณค่อยๆ เลื่อนนิ้วลงมาทางจมูก ส่วนมืออีกข้างนั้นให้ลองกดลงไปที่บริเวณกึ่งกลางของสันหน้าอก หรือบริเวณใกล้ๆ ทรวงอกนั่นเอง

การกดจุดตามบริเวณต่างๆ บนร่างกายนั้นจะช่วยให้คุณผ่อนคลายจากความเครียด หรือบรรเทาอาการปวดศีรษะเนื่องจากการกระตุ้นการสูดลมหายใจเข้าออก และแรงกดจากบริเวณหน้าอกนั้นจะช่วยปรับเปลี่ยนอารมณ์ของคุณให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้น

My Healthy

10/11/2016

คลิปนี้ กับหน้าขา หลังขา ก้น หน้าท้อง และหลัง pulse lunges บาร์เบลหนัก 30lbs ถ้าไม่มีถือดัมเบลวางบนไหล่2ข้าง, กอดไว้ตรงอก, หรือถือดิ่ง 2ข้างแนบลำตัวได้ค่ะ ยืนตรง ก้าวขา1ข้างไปด้านหน้า ย่อตัวลง หลังตั้งตรง โดยขาที่ก้าวไปด้านหน้า เข่าและส้นเท้าตรงกัน เข่าของขาด้านหลังย่อจนเกือบถึงพื้น แต่ไม่โดนพื้นนะคะ จะเอาหมอน หรือม้วนแมทมารองหัวเข่าก็ได้ค่ะ ข้างละ20ครั้ง 5เซทค่า
เบเบ้

10/11/2016

สาวเฮลตี้ ต้องลองนะคะ^^

09/11/2016

สูตรลับรักษาโรคไขข้อและกระดูกอักเสบ ภายในไม่กี่สัปดาห์ !!!!

ในปัจจุบัน องค์การเภสัชกรรมมีการพัฒนาก้าวหน้าขึ้นอย่างมาก มีการคิดค้นยารักษาโรคต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ทำให้ผู้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังไงก็ตามแล้ว ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ยาเหล่านี้ล้วนมีที่มาจากสารเคมี ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อร่างกายหากบริโภคเป็นเวลานานเกินไป

โดยธรรมชาติแล้ว เมื่อคุณมีอาการเจ็บปวด อันดับแรกที่คุณมักจะนึกถึงก็คือการรับประทานยาแก้ปวด เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดเหล่านั้นให้เร็วที่สุด ทว่ามันกลับไม่ช่วยให้ความเจ็บปวดหายไปถาวรและยังไม่ใช่วิธีที่ดีในการรักษา จึงมีผู้คนพยายามที่จะเสาะหาวิธีทดแทนการรักษาด้วยสารเคมีและการสังเคราะห์ต่างๆด้วยทางเลือกที่มีคุณภาพและประโยชน์มากขึ้น

วันนี้เราจะมาแนะนำสูตรธรรมชาติที่จะช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดอย่างมีประสิทธิภาพภายในไม่กี่สัปดาห์ ส่วนผสมหลักของสูตรดังกล่าวนี้คือ เจลาติน ซึ่งเป็นตัวช่วยที่สำคัญในกรณีที่คุณเจ็บป่วยจากโรคไขข้ออักเสบ โรคข้ออักเสบ หรือความเจ็บปวดจากข้อกระดูกที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ผู้สูงวัย

เจลาติน เป็นผลิตภัณฑ์ที่สกัดมาจากคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนธรรมชาติที่พบในเส้นเอ็น กระดูก และกระดูกอ่อนของสัตว์ เช่น ควาย หมู วัว ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้มักจะเป็นส่วนประกอบที่พบได้ในผลิตภัณฑ์จากนม เนื้อสัตว์ วุ้น หรือเยลลี่ และขนมขบเคี้ยวเล่นของเด็กๆ เช่น กัมมี่แบร์ ภายใต้ชื่อว่า E441

เจลาตินจึงมีผลต่อกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางอายุ (Aging Process) และช่วยให้เส้นใยต่างๆ ในร่างกายเชื่อมต่อกันได้เป็นปกติ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อในการเคลื่อนไหว ทำให้อวัยวะในร่างกายได้รับการบาดเจ็บน้อยลง จากข้อมูลดังกล่าวนี้ เหล่าผู้สูงอายุจึงจำเป็นต้องใช้เวลามากขึ้นในการบริหารร่างกาย และไม่สามารถออกกำลังกายได้เป็นปกติทั่วไป

ดังนั้น การใช้เจลาตินและสารอาหารของมันในสูตรยาวันนี้จะช่วยมอบผลลัพธ์อันน่าอัศจรรย์ในการรักษาและบรรเทาอาการจากโรคเราได้พูดถึงกันไปแล้วข้างต้น วิธีการเตรียมการนั้นก็ไม่ยากอย่างที่คุณคิดแน่นอน เพียงหยิบกระเป๋าสตางค์และไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ต เลือกสรรผลิตภัณฑ์เจลาตินคุณภาพสูง จะเป็นสูตรที่มีน้ำตาลหรือปราศจากน้ำตาลเป็นส่วนประกอบก็ได้ทั้งหมด เมื่อได้เจลาตินมาแล้ว นำเจลาติน 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำเปล่า 1 แก้ว หรือจะเป็น โยเกิร์ต กับน้ำผลไม้ที่คุณโปรดปรานก็ได้ผลดีเช่นเดียวกันค่ะ

ข้อควรสังเกตก็คือ อย่าปล่อยให้ผลิตภัณฑ์กลายเป็นเนื้อแข็ง หมั่นใช้ช้อนคนบ่อยๆ และนอกจากนี้คุณยังสามารถนำเจลาตินไปดื่มคู่กับนม หรือทานกับซีเรียล เพื่อความหลากหลายในการเลือกสรร เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ คุณควรบริโภคเป็นประจำทุกคืน ก่อนเข้านอน หรือในกรณีที่อาการเจ็บปวดทวีความรุนแรง ควรบริโภควันละ 2 ครั้งนะคะ เพียง 1 สัปดาห์ คุณจะสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดตามไขข้อ ข้อกระดูก และเส้นเอ็น ค่อยๆ หายไป ผู้สูงอายุ หรือแม้แต่บุคคลทั่วไปก็จะสามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างคล่องตัว

My Healthy

30/11/2016

29/11/2016

28/11/2016

27/11/2016

26/11/2016

25/11/2016

24/11/2016

24/11/2016

23/11/2016

22/11/2016

21/11/2016

21/11/2016

20/11/2016

19/11/2016

18/11/2016

17/11/2016

16/11/2016

15/11/2016

14/11/2016

14/11/2016

13/11/2016

13/11/2016

12/11/2016

12/11/2016

11/11/2016

11/11/2016

11/11/2016

11/11/2016

11/11/2016

10/11/2016

10/11/2016

10/11/2016

09/11/2016

Address

Website

Alerts

Videos

Shortcuts

Share