Mewakin

Mewakin Hello! I'm mewakin from Thailand(mew-akin)I'm streaming Apex Legends on Friday - Monday ;D

เป็นบทสนทนาของอ.ริฟุจินกีบอ.ทัปเปย์ครับ บทสนทนาจะกล่าวประมาณว่า ต่างฝ่ายต่างสร้างแรงบันดาลใจให้กันครับ มีบทพูดอันนึงอ.ริ...
25/01/2021

เป็นบทสนทนาของอ.ริฟุจินกีบอ.ทัปเปย์ครับ บทสนทนาจะกล่าวประมาณว่า ต่างฝ่ายต่างสร้างแรงบันดาลใจให้กันครับ มีบทพูดอันนึงอ.ริฟุจินถามให้อ.ทัปเปย์ชมผลงานตัวเอง อ.ทัปเปย์บอกว่าคนส่วนมากบอกว่าClannadเปรียบได้กับชีวิต แต่สำหรับอ.ทัปเปย์Mushoku Tenseiต่างหากที่เปรียบเหมือนชีวิตได้ดีกว่า
*เว็ปพวกนี้ใช้คำทางการครับ กดแปลทั้งเว็ปก็พออ่านรู้เรื่องครับ

“人生”にして“Web小説界のキング”? 覇を競い合ったなろう作家2人が語る、「無職転生」の魅力

Chainsaw Man เขียนและวาดโดย Tatsuki Fujimoto  จนถึงตอนนี้มังงะได้ออกมาแล้ว 9 เล่มและกำลังจะจบลงในอีกไม่กี่เล่ม ตอนนี้ก็เ...
29/11/2020

Chainsaw Man เขียนและวาดโดย Tatsuki Fujimoto จนถึงตอนนี้มังงะได้ออกมาแล้ว 9 เล่มและกำลังจะจบลงในอีกไม่กี่เล่ม ตอนนี้ก็เข้าArcที่8แล้ว(control devil arc)

จากการเปิดตัวตอนที่ 91 ของมังงะ Weekly Shonen Jump ได้ยืนยันว่า Chainsaw Man ถึงจุดไคลแมกซ์แล้วและในวันที่ 9 พฤศจิกายนถัดไปจะเข้าสู่ช่วงตอนจบ ดังนั้นงานของ Tatsuki Fujimoto จึงอาจสิ้นสุดลงในช่วงปี 2020 ถึงปี 2021 ก่อนที่จะมีการประกาศการทำอนิเมะอย่างเป็นทางการ

เนื้อเรื่องตอนนี้ดำเนินไปเร็วจนตามไม่ทันเลย 5555 ตัวละครที่ไม่คิดว่าจะตายก็ค่อยๆตาย ตัวละครที่ดูน่าตายตั้งแต่แรกดันยังรอด5555 จุดสะเทือนใจเข้ามาไม่หยุดเลยตั้งแต่arcที่แล้ว

เรียกได้ว่าarcนี้เป็นการเริ่มจุดระเบิดจากความอึดอัดที่มีตั้งแต่arcที่แล้วเลย

Long PV แรกของJosee, Tiger and fish(หนังที่ถูกเลื่อนมาวันที่25ธันวา[วันคริสต์มาส]เพราะโควิด19)ปล่อยออกมาแล้ว !!***เพลงปร...
19/11/2020

Long PV แรกของJosee, Tiger and fish(หนังที่ถูกเลื่อนมาวันที่25ธันวา[วันคริสต์มาส]เพราะโควิด19)ปล่อยออกมาแล้ว !!

***เพลงประกอบ "Ao no Waltz" (The Blue Waltz) โดย Eve เพราะมากๆๆๆ

เรื่องราวโรแมนติกของการเติบโตที่เรื่องราวกล่าวถึงนักศึกษาวิทยาลัยซึเนโอะที่ไล่ตามความฝัน และ โจเซย์ผู้เพ้อฝันที่ต้องใช้ชีวิตของเธอติดอยู่บนรถเข็น โจเซย์ ชื่อนี้ตั้งตามนางเอกใน Wonderful Clouds ของFrançoise Sagan ทั้งสองได้มาพบกัน

⁃ เรื่องนี้ผมเคยรีทวิตในทวิตของผมไปแล้วทีนึง

เรื่องสั้นที่ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสาร Monthly Kadokawa ฉบับเดือนมิถุนายนปี 1984 ก่อนหน้านี้ทำเป็นภาพยนตร์คนแสดงที่กำกับโดย Isshin Inudo ในปี 2003

“”ตัวละครเสียงจะเหน่อเหมือนหนังนะครับ (โอกินาว่า)

Studio ที่ทำ : Bones (ผลงานเด่น my hero academia และ full metal alchemist) กำกับโดย Koutarou Tamura (จากเรื่อง Noragami)

ผู้เขียนบท : Sayaka Kuwamura (ไม่รู้จัก)

ผู้กำกับอนิเมชั่นและออกแบบตัวละคร : Haruko Iizuka ()(น่าจะมีคนรู้จักเยอะ เป็นคนออกแบบตัวละครของidolm@ster และ Horimiya)

Evan Call (จากเรื่อง Violet Evergarden) แต่งซาวนด์ประกอบ

การออกแบบโครงร่าง : Toshihiro Kawamoto (ผู้ออกแบบตัวละคร Kekkai Sensen)

การออกแบบสี: Hiroko Umezaki (เรื่องYozakura Quartet)

ผู้กำกับการถ่ายภาพ: Tsuyoshi Kanbayashi (Bungou Stray Dogs)

Long PV แรกถูกปล่อยมาแล้ว : https://youtu.be/UqroXVubLzI

PV 60 วิ อันแรก : https://youtu.be/P5LLhoKfI1E

Official Twitter : https://twitter.com/joseetora_movie/status/1329001860204691458?s=21

Re:zero Naruto IF (Fan fiction) ในสรุปผมไม่มีสปอยนะครับ [spoiler content] ตอนเยอะมาก555 ผมจะสรุปช่วงต้นๆให้นะครับ5555 ฉา...
12/11/2020

Re:zero Naruto IF (Fan fiction) ในสรุปผมไม่มีสปอยนะครับ [spoiler content]
ตอนเยอะมาก555 ผมจะสรุปช่วงต้นๆให้นะครับ5555 ฉากต่อสู้ฮาดีครับ เป็นwhat if ที่น่าติดตามเรื่องนึงเลย
โดยเรื่องจะเริ่มด้วยการที่นารูโตะข้ามมาต่างโลกแทนที่สุบารุ แล้วก็ตามเสต็ป เหมือนสุบารุเลย นารูโตะไปเจอสามโจรที่อยู่ในเนื้อเรื่องตอนแรกแต่นารูโตะจัดการทั้งสามคนได้อย่างง่ายดายครับ แล้วก็เห็นเฟลท์วิ่งผ่านไป จากนั้นก็ไปเจอเอมมิเลีย แล้วก็ช่วยเอมมิเลียหาตรา ระหว่างนั้นก็ไปเจอลูกสาวของเจ้าของร้านแอปป้า(555ตั้งชื่อผลไม้ได้สิ้นคิดมาก)แล้วก็ช่วยพาเจอแม่ จากนั้นก็ใช้เซนส์ของนินจาตามไปจนถึงสถาณที่แลกเปลี่ยน เจอเฟลท์กับปู่รอม เฟลท์เข้าไปสู้กับเอลซ่าแล้วโดนจัดการ นารูโตะเข้าไปสู้กับเอลซ่า หลังจัดการเธอได้ก็ดูเหมือนว่าเธอจะยังไม่ตายเพราะมีมานาหลงเหลืออยู่ เลยสร้างร่างเงาให้จับเอลซ่าไว้แล้วใช้กระสุนกงจักรใส่เอลซ่าจนตายจริงๆครับ555 เปลี่ยนเนื้อเรื่องหมดเลย แล้วก็ๆก่อนหน้านี้เอมมิเลียได้แนะนำตัวเองเป็นซาเทลล่าไป ครั้งนี้เลยหัวเราะนารูโตะที่ไม่กลัวแล้วบอกว่าจริงๆคือเอมิเลียฮาล์ฟเอล์ฟ นารูโตะยกโทษให้พร้อมกับพูดประมาณว่า ยกโทษให้เพราะ นั่นคือสิ่งที่ถ้าเป็นพวกพ้องกันจะต้องทำล่ะนะ 5555555

ตัดไปที่คฤหาสน์รอสวาล นารูโตะเจอเรมแรมเหมือนสุบารุเลยแล้วก็เดินไปตามโถงทางเดินแล้วตรวจจับมานาจากห้องเบียทริซได้เลยเข้าไป เบียทริซก็ทำเหมือนตอนสุบารุคือไปปั่นป่วนพลังเวทย์ในตัว (เรื่องนี้มานากับเกทน่าจะประมาณ จักระของนารูโตะนะครับ)
แต่เบียทริซไปเจออะไรบางอย่างในตัวนารูโตะ(คุรามะแหละนะ)แล้วก็ตู้มระเบิดใส่เบียทริซ หลังจากนั้นนารูโตะก็ไปทำท่ากายบริหารกับเอมมิเลีย และดูเหมือนครั้งนี้รอสวาลจะมาดูด้วยกันกับเบียทริซ แล้วก็นารูโตะอยู่ในคฤหาสน์นี้ฐานะแขกครับ ส่วนปู่รอมกับเฟลท์ก็หายไปไหนไม่รู้ แล้วก็ๆนารูโตะเข้าไปในคฤหาสน์แล้วสร้างความน่ารำคาญให้กับคนอื่นๆด้วยการไปอวดผ้าคาดหน้าผาก555555555 ประมาณว่ารู้มั้ยว่านี่คืออะไร นี่น่ะคือสัญลักษณ์ของหมู่บ้านโคโนฮะยังไงล่ะ5555555

แล้วก็เรื่องราวต่อจากนี้ถูกเปลี่ยนไปเยอะมากทั้งต้นไม้ฟลูเกลยังไม่ถูกทำลาย ทั้งการเลือกตั้งที่เฟลท์หายไป แล้วฝ่ายเอมมิเลียแข็งแกร่งขึ้นเยอะมาก(นารูโตะ) รอสวาลไม่พอใจสุบารุที่ฆ่าเอลซ่า

เอาเป็นว่าถ้าชอบก็ไปอ่านต่อในลิงก์ที่ผมจอใส่ไว้ในคอมเมนท์นะครับ5555
เขียนนารูโตะกับสุบารุสลับกันบ่อยมาก

สรุป Re : Natsuki Rem Life In Another World From Zero 2ตอนสุดท้าย [ตอนที่ 6 + ตอนพิเศษ]เข้าสู่บทสุดท้ายของ Sloth IF ความ...
10/10/2020

สรุป Re : Natsuki Rem Life In Another World From Zero 2ตอนสุดท้าย [ตอนที่ 6 + ตอนพิเศษ]
เข้าสู่บทสุดท้ายของ Sloth IF ความหลังของเทียและปมในใจของสุบารุ สุดท้ายแล้วเค้าจะยังหนีต่อไปเรื่อยๆอีกหรือไม่? จากครอบครัว จากสัญญา และทุกๆอย่าง สุดท้ายแล้วบาปของทางเลือกที่เขาเลือกไปคือความเกียจคร้านงั้นหรือ?
Rezero sloth if (ความเกียจคร้าน) รูทนี้แต่งโดยทัปเปย์ ปล่อยออกมาฉลองวันเกิดของเรมกับแรม
- Chapter 6 : เดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์
เรมในตอนนี้รู้สึกว่าจะคลอดได้ตลอดเวลาเลย จากความกังวลที่มีอยู่ทำให้เธอเริ่มนึกถึงอดีตที่เธอเป็นเด็กไม่ดีและน้องสาวที่แย่มากๆ เธอเริ่มคิดว่าบางทีแล้วเธออาจจะทำหน้าที่การเป็นแม่คนได้แย่มากๆเช่นกัน สุบารุพยายามปลอบเธอแต่แล้วคำถามที่เขาไม่คาดคิดก็ออกมาเธอถามสุบารุอีกครั้ง “คุณแน่ใจแล้วหรอคะ ว่าจะไม่เสียใจกับทุกๆอย่าง” สุบารุนิ่งไปชั่วครู่แล้วเขาก็ลืมตาขึ้น “ไม่ เรมมันไม่ใช่อย่างนั้น เธอช่วยฉันไว้นะ ชีวิตของฉันมันมีแค่หนี หนีมาโดยตลอด หนีจากครอบครัว ความจริง แม้แต่สัญญาที่ฉันสร้างขึ้นเอง ฉันทิ้งมันทุกอย่างแล้วหนีมากับเธอ แต่ว่าตอนที่ฉันได้ยินว่าเรากำลังจะมีลูก ฉันดีใจนะ แล้วก็นั่นแหละ..มันช่วยฉันไว้เลย” ไม่มีคำพูดออกมาจากปากเรม แก้มของเธอแดงขึ้นอีกจากที่แดงอยู่แล้ว น้ำตาเริ่มคลอ รอยยิ้มเล็กๆผุดขึ้นมาบนใบหน้าของเธอพร้อมกับบทพูดที่ว่า “คุณนี่มันบ้าราวกับยักษ์เลยนะคะ” [ประโยคเดียวกับซีซั่นหนึ่งช่วงที่เรมยิ้มพร้อมน้ำตาแล้วพูดกับสุบารุในช่วงแก้ไขปัญหาในคฤหาสน์รอสวาล]

…สุบารุถูกไล่ออกมาจากห้องแทบทันจะทันทีที่เรมพูดจบเพราะว่าเธอกำลังจะคลอดแล้ว สุบารุที่ถูกไล่ออกจากห้องเดินออกมาจากโรงพยาบาลแล้วพบกับHalibelที่รอเขาอยู่ “เรามีสิ่งที่ต้องคุยกัน” Halibelพูดขึ้น

เขาบอกว่ากำไรที่เขาให้กับเพียมีพลังอยู่ซึ่งเค้าเองก็มีกำไรนั้นอยู่เหมือนกัน มันถูกสร้างขึ้นให้เป็นคู่อยู่แล้วและตอนนี้พลังในกำไรนั้นหายไปแสดงว่าตอนนี้เทียกำลังเจอกับบางอย่างอยู่แน่ๆ พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะไปจัดการกับเทียและหญิงสาวเผ่ายักษ์นั่น พวกเขาได้เดินทางไปพบเทียกิโมโนดำ[ยักษ์นั่น]

ลมแห่งความตายทำลายล้างบริเวณรอบๆจนหมด มีดของHalibelไม่สามารถทำอันตรายต่อเธอได้เลย เธอที่ยุ่งอยู่กับการป้องกันมีของHalibelได้กลิ่นบางอย่าง กลิ่นที่ฟุ้งอยู่ในอากาศ กลิ่นของแม่มด! เธอไม่สามารถทนกับกลิ่นนี้ได้อีกต่อไป เธอพุ่งเข้าหาตัวสุบารุทันที “เธอจะน่ารักกว่านี้นะถ้าเธอยิ้ม บางทีอาจจะน่ารักเท่ากับภรรยาของฉันเลย!”สุบารุตะโกน “ตาย”เทียตอบกลับพร้อมกับยิงเวทย์ลมใส่เขา แต่Halibelก็บล็อคมันได้ด้วยมีดของเขาที่ถูกโยนมาเพื่อปกป้องสุบารุ พวกเขาไล่ล่ากันบนหลังคาบ้านแต่ละหลังไปเรื่อยๆ เทียกิโมโนดำเริ่มเอะใจถึงบางอย่างจึงเริ่มตรวจสอบความปลอดภัยรอบๆ แต่สุดท้ายเธอก็ไม่สามารถทำได้ “ฉันสามารถกลับมาจากความตาย”สุบารุโพล่งขึ้นมา กลิ่นสาปของแม่มดรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วจนเธอไม่สามารถรักษาสติไว้ได้ เทียกิโมโนดำสูญเสียการควบคุมตัวเองในทันที เธอพุ่งเข้าใส่สุบารุเร็วกว่าเดิมพร้อมกลับปล่อยพายุคือความตายใส่พวกเขา

Halibelโยนสุบารุขึ้นไปบนอากาศเพราะเขาไม่สามารถอุ้มสุบารุหลบพายุแห่งความตายที่รุนแรงนี่ได้ ในทางกลับกันเขาก็ไม่สามารถที่จะหลบการโจมตีนี้ได้หลังจากที่โยนสุบารุขึ้นไป “โทษทีนะ สุบารุ” ร่างของHalibelขาดเป็นชิ้นๆหลังจากโดนการโจมตีของเธอเข้าไป เทียกิโมโนดำหลังจากที่ยืนยันได้ว่าเขาตายจริงๆแล้ว ก็ยิ้มร่าพร้อมกับมองขึ้นไปหาสุบารุ “ฆ่า” เสียงที่ดังขึ้นในหัวเธอราวกับว่าเป็นคำสั่งให้เธอฉีกร่างสุบารุเป็นชิ้นๆ

“จัดการเลย!!”
สุบารุตะโกนสิ่งที่ไม่คาดคิดออกมา ทันใด้นั้นผ้าเปียกจำนวนมากก็พุ่งเข้าหาเธอ แต่เธอไม่ได้สนใจที่จะป้องกันตัวเองเลยสิ่งที่อยู่ในหัวเธอมีเพียงฆ่าสุบารุเท่านั้น เธอสามารถที่จะฆ่าเขาได้ในตอนนี้และHalibelก็ไม่สามารถช่วยเขาได้ทันด้วย

“ฉันไม่อยากให้เรมเกลียดฉัน!”
ทันใดนั้นเสียงข้างในหัวเทียกิโมโนก็เปลี่ยนไป เธอไม่สามารถขยับอะไรได้เลยราวกับว่าถูกแช่แข็งอยู่ ผ้าเปียกจำนวนมากพุ่งเข้าใส่เธอจากรอบทิศทางแล้วปกคลุมร่างกายเธอ เธอกรีดร้องโหยหวน ร่างกายของเธอหลอมละลายราวกับน้ำแข็ง สิ่งที่หลอมละลายมีเพียงรูปร่างของเธอเท่านั้น สิ่งที่เหลืออยู่ตอนนี้คือหญิงสาวเผ่ายักษ์ธรรมดาๆที่ไม่มีพลังของเทีย “โทษทีนะ” Halibelกล่าวพร้อมกับแทงทะลุหน้าอกของเธอด้วยมีดของเขา

“โทษทีนะ แต่ว่าฉันไม่ใช่ลัทธิแม่มดและฉันก็มภรรยาที่ต้องปกป้อง!” สุบารุพูดกับหญิงสาวเผ่ายักษ์ที่กำลังจะตาย แต่สิ่งที่เธอมองอยู่ไม่ใช่สุบารุ สายตาเธอไม่ได้จับจ้องที่ไหนบนโลกใบนี้เลย สิ่งที่เธอมองคืออดีตและความสุขที่ควรจะมี นั่นทำให้เธอเกลียดเรม ไม่สิ มันก็แค่ความริษยาเท่านั้นแหละ “เธอมีชื่อว่าอะไร” สุบารุถามคำถามสุดท้าย “รีส...”เธอไม่สามารถพูดจนจบประโยคได้ เขาตัดสินใจที่จะจดจำชื่อนี้ไว้ตลอดไป และจะไม่มีทางเอ่ยความริษยาของเธอให้ใครฟังอีกต่อไป

ทันใดนั้นลมก็พัดขึ้นพร้อมกับร่างสีขาวที่ลอยลงมาสู่พื้น เทียนั่นเอง

**********************************************************
ความหลังและเรื่องราวของเทีย Tia’s backstory

หลายร้อยปีที่แล้วที่ยังมีแม่มดและมังกรอยู่ มีวิญญาณระดับสูงอยู่ Zarestia เธอท่องเที่ยวไปยังทวีปสู่ทวีป มือของเธอจุดเปลวไฟ ขาของเธอขุดลงไปใต้ผืนดิน หางของเธอสร้างสายน้ำ และปากของเธอควบคุมสายลม วิญญาณระดับสูงคอยช่วยเหลือผู้คนด้วยความต้องการของเธอเองและพวกเขาก็ตอบแทนด้วยของขวัญมากมาย จนกระทั่งวันหนึ่งพวกเขาขอ”เปลวไฟ”Zarestia ยากที่จะมอบสายลมให้ด้วยเพราะสายลมคือสัญลักษณ์แห่งความอิสระ แต่ด้วยที่เปลวไฟและสายลมรวมเข้าด้วยกันจึงได้เกิดเพลิงไหม้ทำลายล้างเมือง เธอไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเหตุใดผู้คนจึงรังเกียจเธอ หลังจากนั้นเธอก็ถูกเชิญไปร่วมงานเฉลิมฉลอง พวกเขามอบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เธอ เธอไม่รู้ว่ามันคืออะไรจึงกินทุกๆอย่างที่พวกเขามอบให้ สติเธอเริ่มเลือนลาง ผู้คนที่รังเกียจเธอกำลังยินดีกับการแก้แค้นอยู่รอบตัวของเธอ

เธอตื่นขึ้นมา เธอพบว่าแขนขาของเธอหายไปแล้ว หางเองก็ด้วย “ร่างกายของฉัน!?..... อยู่ไหนกัน?.. เอาคืนมานะ!” เธอที่สูเสียพลังไฟ,น้ำและดินร้องขอร่างกายของเธอคืน แต่ผู้คนรอบข้างเธอไม่มีใครสนใจคำร้องขอนั่น พร้อมกับราดแอลกอฮอล์ใส่ แล้วจุดไฟเผาเธอทั้งเป็น

สายลมพัดขึ้นอย่างรุนแรง เธอที่เหลือแค่หัวยังมีปากอยู่ ไม่มีใครสักคนรอดชีวิตไปได้ เธอฆ่าพวกเขาทั้งหมด สิ่งที่เธอต้องการมีเพียงการฆ่า ไม่ว่าจะเวลาๆใดๆ ทั้งยามสุขและยามเศร้า ตั้งแต่วันนั้นเธอก็ถูกเรียกว่า”ชินิกามิที่สวยงามที่สุด”

****************************************************
เรมผู้ซึ่งกำลังทรมาณกับความเจ็บปวด เธอในตอนนี้ไม่สามารถสัมผัสได้ถึงเขาของเธออีกแล้ว แต่เธอก็รวบรวมสมาธิไปที่การคลอดลูก เธอหลับตาพร้อมกับพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อลูกของเธอ

เมื่อลืมตาขึ้น เทีย ไม่ใช่ภาพหลอนอะไรทั้งนั้น เธออยู่ตรงนั้นจริงๆ เธอยิ้มพร้อมกับแผ่รังสีแห่งความตายออกมารอบๆ “คุณได้ทรงกลมแห่งแสงมาแล้วสินะ” เรมพูด เทียเริ่มเขินอายพร้อมกับหน้าที่แดงและการเล่นผมของเธอแล้วตอบรับอย่างเขินๆด้วยการพยักหน้า “เทียคุณจะฆ่าฉันหรือเปล่า” เรมพูด ท่ามกลางความเงียบที่ดำเนินต่อไป เทียก็พูดขึ้น “ฉันอยากจะ แต่ ฉันรักเธอ เพราะฉะนั้น ฉันจะไม่ฆ่าเธอ”

สุบารุไม่ถูกอนุญาตให้เข้าไปในโรงพยาบาล เขาจึงต้องนั่งอยู่กับHalibelและขอวอนต่อเทพทุกองค์ที่เขารู้จักแม้กระทั่งเทียที่ถูกเพิ่มเข้าไปในรายชื่อได้อย่างไรไม่รู้ Halibel ถามขึ้น “สุบารุ นายตั้งชื่อลูกไว้แล้วหรอ?” สุบารุตอบกลับว่าเขาตั้งชื่อไว้แล้วถ้าเป็นผู้หญิงจะตั้งชื่อว่าสปีกาแต่ถ้าผู้ชาย……

ประตูโรงพยาบาลถูกเปิดออก เรมก้าวออกมาพร้อมกับอุ้ม”ลูกชาย”ของเขาไว้

- Anniversary(วันครบรอบ) : บทส่งท้าย

“ไรเจล ได้เวลาไปโรงเรียนแล้ว”เรมผู้เป็นแม่พูดกับลูกชายของเขาซึ่งมีผมและดวงตาสีน้ำเงินเหมือนกับแม่ของเขาและเสยผมพร้อมกับใบหน้าเหมือนกับพ่อของเขา ไรเจลสามารถงอกเขาออกมาได้แต่แม่ของเขาไม่สามารถทำได้แล้ว นั่นทำให้เขารู้สึกผิดจึงเลือกที่จะไม่งอกเขาเวลาอยู่กับแม่ เรมกำลังจะท้องอีกครั้ง ซึ่งไรเจลก็ขอให้ได้น้องสาว ระหว่างทางไปโรงเรียนเขาก็เจอกับลุงHalibelที่คอยแอบสอนวิชาชิโนบิให้โดยไม่ขออนุญาตจากเรมและสุบารุ หลังจากที่คุยกับHalibelเขาก็ไปพบกับหญิงสาวที่ใส่กิโมโนสีขาว “อ้าาา ไรเจลสินะ น่ารักจังง>.

ไทยติดอันดับ2ของประเทศที่ใช้mangaplusเยอะที่สุดรองจากสหรัฐอเมริกา รายงานจากทวิตเตอร์บ.ก.mangaplusMangaplusเป็นแอพอ่านจัม...
08/10/2020

ไทยติดอันดับ2ของประเทศที่ใช้mangaplusเยอะที่สุดรองจากสหรัฐอเมริกา รายงานจากทวิตเตอร์บ.ก.mangaplus
Mangaplusเป็นแอพอ่านจัมป์หรือมังงะแบบถูกลิขสิทธ์ปัจจุบันมีสามภาษา(อังกฤษเป็นหลักแล้วก็มีไทยแค่สามเรื่อง)
โดยอันดับเรียงลงมาคือ
1.USA
2.ไทย
3.อินโด
4.เม็กซิโก
5.ฟิบิปปอนส์
6.สเปน
7.มาเลนเซีย
8.บราซิล
9.เปรู
10.เยอรมณี

Sakuga '作画' มีความหมายตามตัวอักษรเลยว่า 'งานวาด' ซึ่งในที่นี่ก็หมายถึง 'ภาพเคลื่อนไหว’  หรือพูดง่ายๆก็คือการวาดในงานอนิเ...
08/10/2020

Sakuga '作画' มีความหมายตามตัวอักษรเลยว่า 'งานวาด' ซึ่งในที่นี่ก็หมายถึง 'ภาพเคลื่อนไหว’ หรือพูดง่ายๆก็คือการวาดในงานอนิเมชั่นนั่นเอง

"ซาคุกะที่ดี" โดยพื้นฐานแล้วจะหมายถึงอนิเมชั่นซาคุกะที่ดูลื่นไหลหรือสมจริงเป็นพิเศษหรือดูเท่กว่าปกติ จนบางทีการตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องนี้จะเป็นสิ่งที่ค่อนข้างจะยากเพราะบางทีอาจจะใช้ความรู้สึกส่วนตัวมาปน

แอนิเมชั่นน่าหลงใหล ถึงแม้ว่าอุตสาหกรรมอย่างทีวีอนิเมะที่มีผลง่ายโดดเด่นเป็นจำนวนมาก ก็ไม่ใช่ว่าทุกฉากจะออกมาดีเสมอไป แต่หนึ่งในฉาก หนึ่งในตอน จากผลงานที่โดดเด่นนั่น สามารถตราตรึงใจและสะกดสายตาจนฝังอยู่ในความทรงจำของคนดูได้

การโกง ‘’cheat” ในงานอนิเมชั่นที่ปรากฎให้เห็นบ่อยๆ ในอนิเมะญี่ปุ่นคือการที่ทำให้ฉากฉากนั้นนิ่งแล้วเกิดการขยับเพียงแค่ส่วนเดียวเล็กๆ ยกตัวอย่าง เช่น การที่ตัวละครยืนอยู่นิ่งนิ่งแล้วขยับเพียงแค่ปากในฉากสนทนา

การใช้ ”Sakuga” ในฉากสำคัญ การวาดในทุกเฟรมของอนิเมชั่นอย่างที่ผมบอกว่าถึงแม้ว่าไม่ใช่ทุกฉากจะออกมาดีเสมอไปแต่หนึ่งในฉากนั้นถ้าเกิดสามารถสะกดและตราตรึงอยู่ในความทรงจำของคนดูได้ก็จะทำให้มุมมองต่อผลงานนั้นดีขึ้นมา โดยการวาดทุกเฟรมมักจะใช้ในฉากแอ็กชั่นหรือฉากที่ต้องใช้การเคลื่อนไหวเยอะๆ หรือไม่ก็เป็นฉากไฮไลท์สำคัญๆ

17 ฉากหรืออนิเมะที่ผมสามารถเรียกได้ว่ามีซาคุกะที่สุดยอดได้ [อันนี้มีแค่ที่ผมพอนึกออกครับ ใครคิดเห็นหรืออยากเสนอเรื่องไหนก็คุยกันในคอมเมนต์ได้เลยครับ]
1.Mob psycho ฉากม็อบสู้กับโคยามะ
2.Akira ฉากเท็ตสึโอะสูญเสียการควบคุมพลัง
3.Kimetsu No Yaiba
4.Lupin
5.Fate Series
6.kill la kill
7.อนิเมะสายหลัก เช่น My Hero Academia, Hunter X Hunter, One piece, Naruto
8.อนิเมะจากค่ายKyoani เช่น Hyouka ,K-on, Hibike! Euphonium, Tamako Love story (อื่นๆอีกเยอะเลย) [555 ผมเป็น Kyoani แฟนครับ]
9.Nichijou (เพราะมันฮาบวกฉากโอเวอร์เยอะเลยมีSakugaเยอะมากครับ)
10.หนังจาก Makoto Shinkai เช่น Your name, Weathering with you
11.Konosuba
12.Haikyuu!
13.Kekkai sensen
14.soul eater
15.Full metal alchemist
16.One punch man
17.Attack on titan

Extra : Rezero ก็มีซาคูกะเจ๋งๆเหมือนกันนะ อย่างตอนไรน์ฮาร์ดสู้กับเอลซ่า

ตอนนี้สร้างกลุ่มเกี่ยวกับSakugaขึ้นมาครับใช้ไทยได้อังกฤษได้ครับ : https://www.facebook.com/groups/915387758869899/?ref=share

Re : Natsuki Rem Life In Another World From ZeroRezero sloth if (ความเกียจคร้าน) รูทนี้แต่งโดยทัปเปย์ ปล่อยออกมาฉลองวันเ...
05/10/2020

Re : Natsuki Rem Life In Another World From Zero
Rezero sloth if (ความเกียจคร้าน) รูทนี้แต่งโดยทัปเปย์ ปล่อยออกมาฉลองวันเกิดของเรมกับแรม …[ Interlude ]
• ช่วงพักระหว่างเรื่อง : ครบรอบวันตาย [เป็นเรื่องราวในอดีตของหญิงสาวเผ่ายักษ์]
เปลวไฟที่ลุกโชนในหมู่บ้าน เพื่อนบ้านและคนรู้จักรวมทั้งครอบครัวค่อยๆถูกฆ่าไปทีละคน ร่างที่สวมฮู้ดกำลังหัวเราะขณะที่ร่างกายของฉันกำลังถูกเผาในกองไฟ เสียงหัวเราะของผู้หญิงที่น่ารังเกียจดังขึ้นมา เธอหัวเราะอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับเทของเหลวบางอย่างลงบนตัวฉัน ทรมาน เจ็บปวด ไม่เพียงแค่ร่างกายแต่จิตวิญญาณของฉันเองก็ปฏิเสธของเหลวที่น่ารังเกียจนั่น “เสร็จซักที” เธอเปล่งเสียงด้วยความสบายใจแล้วเดินจากไปพร้อมพร้อมกับร่างที่สวมฮู้ด แต่แม้ว่าเธอจะจากไปแล้วแต่เสียงนั่นยังก้องกังวานอยู่ในหัวของฉันตลอดเวลา ประสาทสัมผัสการรับกลิ่นแม่มดพัฒนาขึ้น กลิ่นผู้ที่ทรมานฉัน กลิ่นผู้ที่เผาหมู่บ้านของฉัน วันนั้นฉันได้สัญญากับตัวเองว่าจะลงโทษพวกมันทั้งหมด
Time skip มาช่วงก่อนสุบารุเข้าเมือง
ฉันรับภารกิจมา ฉันใช้ศพของสมาชิกร่วมปาร์ตี้ในการ ผ่านลมแห่งความตายแล้วขโมยทรงกลมเห็นแสงมาได้สำเร็จ
Time skip มาตอนที่สอง สถานที่คือเมืองบานัน
คืนนั้นเป็นคืนแรกที่เริ่มได้กลิ่นแม่มด เด็กชายที่ปล่อยกลิ่นของแม่มดออกมากำลังเดินอยู่บนถนนกับหญิงสาวผมสีฟ้าเผ่าเดียวกับฉัน ฉันไม่อาจเข้าใจได้ว่าเหตุใดเผ่ายักษ์จึงรักกับบุคคลที่มีกลิ่นแม่มดได้เลย แต่สุดท้ายเธอก็สมคบคิดกับลัทธิแม่มดนั่นเพราะฉะนั้นฉันจึงตัดสินใจที่จะกำจัดทั้งสองคน
Timeskip มาปัจจุบัน Zarestiaไล่ตามหญิงสาวเผ่ายักษ์
หญิงสาวในชุดสีขาวกำลังพิงกำแพงหลังจากที่ถูกฉันเหวี่ยงกระเด็นไป ฉันดูดพลังทั้งหมดของเธอจนเธอค่อยๆกลายเป็นฝุ่นผง “ระ-เรม” เหมือนเธอกำลังพยายามพูดชื่อของใครบางคนแต่ฉันก็ไม่ได้สนใจ ร่างกายของเธอกลายเป็นฝุ่นผงและกระจัดกระจายไปตามสายลม เพียงเท่านี้ฉันก็ได้พลังทั้งหมดมาครอบครองแล้ว สิ่งที่ฉันต้องทำต่อไปก็คือฆ่าชายที่มีกลิ่นสาปแม่มดและหญิงสาวที่ติดตามเขาเพราะนี่คือหน้าที่ของฉัน...

ภาพ Capella Emerada Lugnica [ทำลายหมู่บ้านoni]
ภาพ Reize เป็นFA ของ

Re:Zero Lust IF [ฉบับถูกลบไปแล้ว]“The Butterfly Dream” summary by mewakinสรุปHarem IF แต่งวันที่ 1 เมษายนเหมือนรูทอื่นๆ ...
27/09/2020

Re:Zero Lust IF [ฉบับถูกลบไปแล้ว]“The Butterfly Dream” summary by mewakin
สรุปHarem IF แต่งวันที่ 1 เมษายนเหมือนรูทอื่นๆ รูทนี้ถูกลบในวันถัดมาหลังจากอัปโหลดโดยคนเขียน555 หายไปจากเว็ปหลักนั่นแหละ รูทนี้ผู้แต่งยังแต่งไม่เสร็จเลยด้วยซ้ำ5555 รูทนี้คือแต่งตอนเมาชัดๆ อย่างกับแต่งสนองตัณหาคนเขียนเอง55555 หลุดตีมRezeroไปไกลจนกระทั่งมีมีมว่านี่แหละคือisekaiปกติที่สุบารุควรจะเป็น รูทนี้ไม่ได้ถูกต่อว่าหรือถูกแฟนๆเกลียดแต่อย่างใด แต่คนเขียนลบเองแล้วลงข้อความข้างล่างนี่ลงไปแทน โดยผมขอพูดถึงข้อความที่ผู้เขียนปล่อยมาหลังจากลบรูทนี้ก่อนนะครับ เป็นการอุปมาเรื่องกับความฝันของผีเสื้อผ่านมุมมองของเอคิดโดน่านั่นคือเหตุผลว่าทำไมเรื่องถึงชื่อThe Butterfly Dream

ครั้งหนึ่งชายคนหนึ่งฝันว่าเค้าเป็นผีเสื้อ แต่เมื่อตื่นมาเค้าก็ไม่แน่ใจว่ามันเป็นความฝันหรือว่าเค้าเป็นผีเสื้อจริงๆเพราะว่าตอนนี้เค้าฝันว่าตัวเองเป็นมนุษย์ ไม่คิดว่ามันน่าหลงใหลมั่งหรอมมนุษย์ถูกบังคับให้ยอมรับโดยความฝัน ความฝันนั้นสำคัญมากจนทำให้ผู้นอนหลับสูญเสียความรู้สึกของความเป็นจริงไป แต่ว่าเค้าจะไม่รับรู้ว่าเป็นความฝันหรือไม่และแต่ละคนจะมีตัวละครเป็นของตัวเอง อันไหนคือความฝันและไหนคือความจริงฉันอยากจะอยู่ที่นั่นเพื่อค้นหามัน

เรื่องเริ่มด้วยการที่สุบารุเป็นราชาซะเองหลังจากแต่งงานกับสมาชิกที่สมัครเป็นกษัตริย์ทั้งห้าคนของราชวัง เขาอาศัยอยู่ในราชวังพร้อมกับฮาเร็มของเขา[เอาจริงไม่มีเนื้อเรื่องไรเลยนอกจากคิดไฟแช็คได้]
-ฉากแรก
เรื่องเริ่มต้นโดยเสียงปลุกของเพตร้าที่ใกล้ชิดกับหูของเขาเหลือเกิน ใช่แล้วเธอนอนหลับอยู่ข้างๆตัวสุบารุ สุบารุรู้ตัวในทันทีว่าตอนนี้สายแล้วเขาจึงจับมือเพตร้าแล้ววิ่งไปตามทางเดินของปราสาท “นายสายนะ” เสียงดุของคลูสต้อนรับสุบารุแล้วพยายามถามหาความจริงที่สุบารุชู้สาวกับเพตร้า(เด็ก12ปี) สุบารุพยายามหาข้ออ้างแต่ครูซมีพรแห่งสายลมที่สามารถจับการโกหกได้ สุบารุกอดครูซและจูบเธอเพื่อเป็นการขอคืนดี แล้วพวกเขาก็นั่งทานอาหารต่อราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในขณะที่ใบหน้าและหูของครูซเป็นสีแดง
จบฉากแรก [wtf]
-ฉากสอง
สุบารุนั่งอยู่ในห้องทำงานที่มีเอกสารอยู่ท่วมหัวเค้าพยายามขอร้องให้แรมช่วยแต่เธอดูไม่ค่อยเต็มใจ แรมเผลอเผยรอยยิ้มระหว่างการทำงาน ทำให้สุบารุบอกว่าเวลาที่เธอไม่ยิ้มเธอน่ารักมาจริงๆ แรมตอบสุบารุกลับด้วยคำสบประมาทตามปกติแต่ปกติตรงที่เธอไม่ได้แสดงอารมณ์ไม่พอใจเหมือนปกติ หลังจากนั้นประตูก็เปิดออกพริซเซลล่าเข้ามาแต่สุบารุเมินแล้วเอาแต่จดจ่ออยู่กับการทำงานทำให้พริซเซลล่าไม่พอใจแล้วเข้ามาตบโต๊ะ สุบารุอธิบายว่าเขายุ่งกับงานวิจัยเรื่องไฟแช็กอยู่พร้อมกับโชว์ให้ดูถึงการทำงานแต่คริสตัลไฟเกิดร้อนมากเกินไปจนระเบิด แต่พริซเซลล่าก็ปกป้องเขาได้ทันหลังจากนั้นเธอก็ดึงสุบารุเข้ามาใกล้แล้วพวกเขาก็สวมกอดกันแล้วก็จูบ
จบฉากสอง[ก็ปกตินิ]
-ฉากสาม
อนาสตาเชียที่นอนอยู่บนโซฟากำลังง่วนกับการจัดเอกสารเพราะการค้าระหว่างโฮชินกำลังรุ่งเรืองเพราะการขนส่งไปลูกนิก้าสามารถขนส่งได้อย่างอิสระแล้ว จู่ๆเธอก็เข้ามากอดแล้วจากนั้นสุบารุก็ลูบผมของอนาสตาเชียราวกับสัตว์ตัวน้อย แล้วก็คลอเคลียกันไป……… แล้วก็ไปห้องเฟลท์[เด็ก14ปีเห้ย]เขาเห็นกกนของเธอเนื่องจากเธอนนอนอยู่แล้วเธอก็พยายามจะต่อยสุบารุแต่สุบารุกลับกอดเธอไว้แล้วหลังจากนั้นก็กอด…แล้วก็จูบ…
จบ……
-ฉากสี่
เรมเตือนให้สุบารุระวังมากขึ้น เพราะสุบารุได้รับบาดเจ็บที่ตาขวา ซึ่งนั่นก็มาจากเฟลท์นั่นแหละ เขาลูบท้องของเธอ เรมท้องแล้วนั่นเอง
จบ…………
-ฉากห้า
ไปเยี่ยมเอมมิเลียที่ห้อง เขาคลายความเครียดในทันที เธอพาสุบารุเข้านอนแล้วก็จูบ……
จบ……………………

Re:Tsugihagu IF (Re:zero Gluttony Route) Translate By MewakinRe:ปะติดกันเข้าด้วยในชีวิตต่างโลก Story By Tappei Nagatsuki...
26/09/2020

Re:Tsugihagu IF (Re:zero Gluttony Route) Translate By Mewakin
Re:ปะติดกันเข้าด้วยในชีวิตต่างโลก Story By Tappei Nagatsuki
เริ่มเรื่องในช่วง Arc 6 ของ Web Novel นะครับ
ตอนที่ 1
ปะติดกัน ปะเข้าด้วยกัน จนเป็นรูปร่าง

ปะติดกัน ปะเข้าด้วยกัน ปั้นเป็นรูปร่างต่อไป

ปะติดกัน ปะติดกัน ต่อเติมสี

ปะกัน ปะ ปะ ปะ ปะต่อกันไปเรื่อยๆ เพื่อพาตัวเองให้เข้าใกล้ความสำเร็จ

ปะติดกันปะติดกันปะปะปะปะปะปะกันปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะกันปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะปะกัน , ปะติดกัน, ปะติดกัน, ปะติดกัน, ปะติดกัน, ปะติดกันนนน

ปะ ปะ ปะ ปะ ปะติดกัน ถึงแม้ตอนนี้จะยังปะติดกันไม่สมบูรณ์ก็ตาม

****************************************************

???: [―― นี่เธอรู้จักชื่อฉันไหม]

อามุเอะ เซียร์(Amue Sears)เด็กสาวตัวน้อยกลั้นหายใจเมื่อถามคำถามนั้น

มันเป็นคำถามธรรมดา ๆ โดยไม่มีความหมายโดยนัยแฝงอยู่ จึงน่าจะเป็นคำถามน่าเบื่อที่ไม่ต้องใช้เวลาเตรียมคำตอบมากนัก ถ้าคุณรู้คุณก็รู้ แต่ถ้าหากคุณไม่รู้คุณก็ไม่รู้

อามุเอะ: 「 ―――― 」

แต่เสียงของอามุเอะก็ไม่ออกมาเพื่อตอบคำถามนั้นถึงแม้ว่าต้องเคยเห็นหน้าค่าตาก็ตาม

ชีวิตคือทางเลือกที่มากมาย นี่คือความจริงที่แม้แต่ อามุเอะ ซึ่งพึ่งมีอายุได้ 14 ปีก็ยังตระหนักได้ดีจากประสบการณ์ชีวิตอันแสนสั้นของเธอ

ในชีวิตต้องมีการตัดสินใจในทุกเรื่อง มันเริ่มต้นจากเรื่องเล็ก ๆ ธรรมดา ๆ หรืออาจเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ที่อาจมีผลต่อชีวิต แต่ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ชีวิตก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจทั้งสิ้น

และตอนนี้คำถามที่ใหญ่มากที่สุดในชีวิต 14 ปีของเธอก็ถูกถามขึ้น หรือบางทีนี่อาจเป็นการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเธอ คำถามที่ดูน่าเบื่อและไม่มีนัยสำคัญ ไม่มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับเรื่องนี้ ชีวิตที่เคยมีขึ้นก่อนหน้านี้กลายเป็นสิ่งที่ดีมากอยู่แล้ว

???: [―― เฮ้คุณรู้จักชื่อฉันไหม]

คำถามซ้ำๆนั่นทำให้คอของอามุเอะแน่นขึ้น อย่างไรก็ตามผู้ที่ตั้งคำถามดูเหมือนจะไม่ต้องการให้เกิดสิ่งนั้น มันเป็นความใจดีที่ให้ตอบคำถามซ้ำอีกครั้ง การพิจารณาเช่นนี้คงจะให้ความรู้สึกสมเหตุสมผลไม่ได้

หากแต่นี่เป็นคำถามหนึ่งที่สร้างความกังวลใจให้กับอามุเอะมากที่สุด ความจริงเธอเข้าใจว่าเขาแค่ต้องการคำตอบสำหรับคำถามนั้น และนั่นเป็นเหตุผลที่อามุเอะต้องควานหาวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมท่ามกลางตัวเลือกต่างๆโดยไม่มีคำแนะนำใด ๆ นอกเหนือจากสิ่งที่มีอยู่จากการไตร่ตรองภายในหัวของเธอ

―― คำตอบที่ถูกต้องคืออะไร?

รู้หรือไม่รู้.. คำถามใดที่ผู้ถามกำลังมองหา หรือบางทีมันอาจจะดีกว่าถ้าตอบว่าเธอรู้แม้ว่าเธอจะไม่รู้? หรือจะดีกว่าไหมหากตอบว่าเธอไม่รู้แม้ว่าเธอจะรู้ ―― หัวใจของอามุเอะกรีดร้องท่ามกลางทางเลือกที่น่าปวดหัวทั้งสอง

???: [―― เฮ้ เธอ รู้ จัก ชื่อ ของ ฉัน มั้ย?]

แต่ละส่วนของคำถามที่ถามซ้ำอีกครั้งถูกแยกออกจากความไม่อดทน ความกลัวถูกดึงขึ้นมาที่หน้าอกของอามุเอะ ความจริงแล้วเธอสามารถมั่นใจได้ว่าหากเธอไม่ตอบด้วยคำว่า“ ใช่” หรือ“ ไม่” ก็จะเป็นไปไม่ได้ที่จะตอบสนองความคาดหวังของผู้ถามอย่างแน่นอน

เธอไม่สามารถจบลงได้โดยไม่พูดอะไรหรือไม่ตอบสนองอะไรเลย และเธอก็จะไม่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระเช่นกัน ―― เรื่องนี้มันเป็นสิ่งที่ไม่ต้องสงสัยเลย

อามุเอะ: 「 ―――― 」

เสียงของเธอยังไม่ออกมา เธอกลับจ้องมองดวงตาสีดำคู่นั้นที่อยู่ตรงหน้าเธอ ภายในดวงตาสีดำที่ว่างเปล่าเหล่านั้นสามารถมองเห็นภาพที่น่ากลัวของอามุเอะที่ซีดเซียวจากในตาของเขา เธอไม่อยากยอมรับความจริงแต่ในนั้นรูปลักษณ์ของเธอ... เธอรู้สึกประหม่าในแบบที่เธอมองเห็น เธอกลายเป็นเพียงเงาของตัวเธอในอดีต

เมื่อเห็นภาพเธอรู้สึกหวาดกลัวอย่างยิ่งกับการครอบงำของผู้ถามต่อหน้าต่อตาเธอแล้วเธอก็กลัว

ใบหน้าของอามุเอะถูกดึงออกมาอย่างเหนื่อยล้าราวกับว่าเธอมีอายุหลายสิบปีในคราวเดียว ถ้าหากสิ่งต่างๆยังคงดำเนินต่อไปเธอก็อาจจะต้องตายเพราะเพียงแค่คำถามที่กดดันนี้

???: [―― เฮ้เธอรู้จักชื่อฉันไหม]

ความรู้สึกกดดันอย่างรุนแรงที่ทำให้เธอรู้สึกถึงความตายอย่างกะทันหันในทางตรงกันข้ามกลับเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดความหวังขึ้นภายในตัวอามุเอะ ในขณะเดียวกันอามุเอะได้สัมผัสกับความรู้สึกหายใจไม่ออกที่รู้สึกเหมือนว่าหน้าอกของเธอกำลังจะพังลง ลางสังหรณ์บอกว่าเธอต้องตอบคำถามและจากนั้นก็ถูกปล่อยให้เป็นอิสระ เมื่อเธอคิดอย่างนั้นเธอก็ตระหนักว่าความรู้สึกกลัวที่ครอบงำร่างกายของเธอเริ่มจางหายไป

ความรู้สึกหายใจไม่ออกมาจากความกดดันอันแรงกล้าจากความสงสัยของเธอเกี่ยวกับสิ่งที่เธอควรตอบ แต่เนื่องจากเธอต้องการที่จะเป็นอิสระเธอจึงต้องคลายความวิตกกังวลในคำถามนั้นบางทีมันอาจจะเป็นสัญชาตญาณในการป้องกันตัว แต่สำหรับอามุเอะในตอนนี้สิ่งนี้ดูเหมือนเป็นการเปิดเผยจากสรวงสวรรค์ เมื่อริมฝีปากของเธอยังสั่นอยู่เธอจึงจ้องกลับเข้าไปในดวงตาสีดำคู่นั้นอีกครั้ง

???: [―― เฮ้เธอรู้จักชื่อฉันไหม]

เธอจะได้รับการปลดปล่อยจากการหายใจไม่ออกในตอนนี้โดยเพียงตอบคำถามนั้น ด้วยความมุ่งมั่นทั้งหมดของเธอในที่สุดอามุเอะก็ขยับลิ้นที่สั่นไหวและสร้างคำตอบขึ้นมา

Amue: [ม…ไม่……]

ตามความในใจของเธออามุเอะตอบว่าเธอไม่รู้ เธอปลดปล่อยความคิดของเธอออกจากทางเลือกที่มีมาจนถึงตอนนั้นที่หมุนวนอยู่ในใจของเธออย่างไม่รู้จบ

เธอตอบคำถามด้วยความชัดเจนที่สุดของเธอ ในความเป็นจริงเธอไม่รู้ทั้งชื่อหรือใบหน้าของผู้ถามที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอด้วยซ้ำ

เมื่อพูดถึงเธอผู้ซึ่งอาศัยอยู่ในสถานที่ที่ควรเรียกว่าเขตแดนการพูดชนบทห่างไกลเหตุการณ์จากราชอาณาจักรแม้กระทั่งเหตุการณ์ร้ายแรงก็เป็นเหมือนข่าวลือจากดินแดนอันห่างไกล

ด้วยเหตุนี้ไม่ว่าเขาจะเป็นคนที่โด่งดังแค่ไหนสำหรับเธอเขาก็เป็นคนแปลกหน้าที่เธอไม่รู้จัก

???: [―― งั้นหรอ]

เป็นการตอบกลับสั้น ๆ เธอไม่สามารถบอกได้ว่ามีการตอบกลับด้วยอารมณ์หรือความหดหู่ใจลึก ๆ หรือไม่ แต่การตัดสินใจของอามุเอะได้ก่อตัวขึ้นแล้ว สิ่งที่ตามมาคือปัญหาของผู้ถาม

หากชีวิตเป็นชุดของการเลือกและการตัดสินใจสิ่งนั้นก็เหมือนกันสำหรับทุกคน เนื่องจากอามุเอะได้เลือก ผู้ถามก็จะต้องเลือกด้วยเช่นกัน

อามุเอะ: 「 ―――― 」

เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ อายุ 14 ปีรอตัวเลือกของผู้ถามอย่างเงียบ ๆ

―― เธอรอคำตอบของเขาเพียงลำพังในหมู่บ้านที่ไม่มีใครเหลืออยู่นอกจากเธอ

************************************

???: 『เฮ้ซูบารุ ยังไม่ถึงเวลาอาหารกลางวันเร็ว ๆ นี้เหรอ 』

เมื่อได้ยินเสียงเรียกนั้นนัตสึกิสุบารุก็ลูบท้องของเขา เวลาล่วงเลยไปถึงเที่ยงวันแล้วและตอนนี้เขาก็รู้สึกหิวอย่างแน่นอน สาเหตุที่เขาไม่สังเกตเห็นจนถึงตอนนี้เป็นเพราะเขาจดจ่ออยู่กับการเดินโดยไม่ได้ใส่ใจ ถนนสายหลักยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุดจนถึงขนาดที่เขาต้องมีสมาธิในการเดิน ถ้าเขาเพียงคิดว่าจะมุ่งหน้าไปที่ใดก็จะต้องรู้สึกหดหู่ใจ นั่นเป็นวิธีการเดินทางที่ยาวนานอย่างไร้เหตุผล

สุบารุ: 「 แต่การหยุดพักก็สำคัญนะเธอไม่คิดเหรอ? เอมิเลียตันของฉัน เหนื่อยมั้ย? 」

เอมิเลีย: 『ไม่เลยฉันสบายดี แต่ฉันเป็นห่วงซูบารุที่เดินอยู่ตลอดเวลามากกว่า ถ้าคุณไม่เป็นไรฉันก็สบายดี แต่…. 』

สุบารุ: 「โนนนโน่วววววว ใช่แล้วท้องของฉันก็สั่นเหมือนกัน ฉันอดอยากแทบขาดใจจนท้องแข็งใกล้จะติดหลัง แต่อันตรายแค่ไหนฉันก็ไม่เป็นไรหรอก」

เอมิเลีย: 『งั้นเหรอ? นั่นคงเป็นสถานที่อันตรายสำหรับพวกเขาจริงๆใช่ไหม…. 』

เมื่อได้ยินคำตอบของซูบารุที่วางมือลงบนท้องของเขาอย่างเกินจริงหญิงสาวผมสีเงินเอมิเลียก็เอามือแนบปากแล้วหัวเราะคิกคัก เธอดูสวยที่สุดในโลกนี้และเสียงของเธอก็ค่อนข้างเหมือนกระดิ่งสีเงิน เมื่อใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มนั้นเข้ามาใกล้สุบารุก็เกาหัวของเขาและปล่อยให้ริมฝีปากของเขาแตกเป็นรอยยิ้ม และเสียงจากข้างๆสองคนนั้นก็ดังขึ้น

???: 『เลิกล้อเอมิเลียได้แล้ว ไม่ว่าท้องของนายจะสั่นแค่ไหนก็เป็นไปไม่ได้ที่ท้องของนายและหลังจะมาติดกัน 』

สุบารุ: 「อ๊ะ」

เมื่อเขาหันหน้าไปมองตามทิศทางของเสียง เบียทริซก็อยู่ที่นั่นสีหน้าสงบนิ่งอยู่บนใบหน้าของเธอและกอดอก จู่ๆซูบารุก็หรี่ตาลงเมื่อเห็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่สวมชุดสวย เมื่อเห็นอย่างนั้นเบียทริซก็ขมวดคิ้วและพูดว่า 『อะไรน่ะ?』

เบียทริซ: 『อะไร... 』

สุบานุ: 「มันน่ารักมากเลยเวลาเธอพูดรัว ๆ ช่วยพูดอีกครั้งทีีีีีี!"

เบียทริซ: 『กรรรรรรรรร! อย่ามาล้อเล่นกันนะ! 』

เบียทริซหันกลับมาพร้อมกับขู่ใส่สุบารุ สุบารุและเอมมิเลียต่างสบตากันและหัวเราะเมื่อเห็นว่าเบียทริซมีปฏิกิริยาอย่างไร แก้มของเธอป่องออกมา น่ารักจริงๆ ―― ไม่มีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้าเขาบอกเธอตรงๆเขาอาจจะทำให้เธออารมณ์เสียได้ หลังจากยืนยันได้เช่นนั้นสุบารุก็พับแขนเสื้อขึ้นหนึ่งข้างพร้อมกับคำว่า「เอาล่ะ! 」

สุขารุ: 「ถ้าอย่างนั้นเรามาใช้ประโยชน์จากความกังวลของเอมมิเลียตันแล้วเริ่มพักเที่ยงกันมั้ย? เอาล่ะ! ให้ฉันได้แสดงความสามารถของฉันดีกว่าา มีใครจะขออะไรมั้ย? 」

เอมิเลีย: 『อืมงั้นฉันอยากให้สุบารุใช้มายองเนส อ้ะ เเรมทำมายองเนสอีกแล้วใช่มั้ย 』

สุบารุ: 「แน่นอน! ฉันมีความสุขมากเลยล่ะที่ได้คำสั่งจากเอมมิเลีย! โชคดีมากเลยล่ะ ต้องขอบคุณของสะสมมากมายของแรม ในที่สุดเธอก็จำได้แล้วว่ามีมายองเนสสูตรพิเศษของ... 」

เเรม: 『―― เลิกพูดเรื่องงี่เง่าแบบนี้ได้แล้ว』

สุบารุ: 「อุหวะะ!? 」

หลังจากที่เขาวางกระเป๋าสัมภาระที่เขาแบกมาซูบารุก็เริ่มสร้างที่ตั้งแคมป์ห่างจากถนนสายหลัก เมื่อเห็นขาเรียวบางยืนอยู่ข้างๆเขานัยน์ตาสีชมพูอ่อนจ้องลงมาที่ซูบารุที่ประหลาดใจ ร่างนั้นยืนกอดอกของเธอเองทำท่าให้ดูน่าเกรงขาม หญิงสาวมีรูปลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงร่องรอยของการต้อนรับที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับชุดแม่บ้านที่เธอสวมใส่

สุบารุ: 「นั่นเป็นการทักทายแบบกะทันหันใช่ไหมแรม อย่างน้อยก็ขอให้ฉันได้พูดจนจบที

แรม: 『ฮ่าา![เสียงที่แรมชอบทำจนเป็นมีม] อย่าทำให้ฉันต้องหัวเราะเลย ที่ฉันช่วยทำมายองเนสนั้นเพราะเป็นมืออาชีพ จะให้เชื่อในการปรุงรสของนายได้หรอ ทั้งเปรี้ยวและขาวเลี่ยน น่าขยะแขยง 』

สุบารุ: 「การพูดว่าขยะแขยงนี่มันพูดเกินจริงเกินไปรึเปล่า! อย่างแรกเลยเธอไม่ควรปฏิเสธพลังของการใช้มายองเนสบนมันฝรั่งนึ่งของฉัน! ฉันจะทำให้เธอไม่สามารถพูดว่ารสชาติเป็นเรื่องโกหกได้เลย! 」

รสชาติที่เคลือบด้วยมายองเนสจำนวนมากบนมันฝรั่งนึ่งที่สดใหม่จากเตาอบซึ่งเต็มไปด้วยเกลือ ความหวานของรสชาติต้องห้ามที่ครอบงำลิ้นของใครคนใดคนหนึ่งคือสวนอีเดนที่คนรักมายองเนสควรลิ้มลองอย่างน้อยหนึ่งครั้ง ―― มันฝรั่งและมายองเนสมีความเข้ากันได้สูงสุดซึ่งไม่มีวันสูญเสียความมันวาว

สุบารุน้ำลายเริ่มไหลในขณะที่เขานึกถึงความลงตัวของรสชาตินั้น คนข้างๆ สุบารุจะจินตนาการถึงรสนิยมแบบเดียวกันหรือเปล่านะ? เขามองเห็นดวงตาของเอมิเลียและเบียทริซเป็นประกาย

สุบารุ: 「ดูนี่สิปฏิกิริยาของนักชิมผู้น่ารักสองคน! เห็นแบบนั้นแล้วยังจะใส่ร้ายมายองเนสของฉันได้ด้วยเหรอ!? 」

แรม: 『……อืม เป็นไปตามที่บารุสุบอก ความงดงามของมันฝรั่งนึ่งคือแม้แต่เครื่องปรุงรสแปลก ๆ อย่างมายองเนสก็สามารถเพิ่มมูลค่าได้ 』

สุบารุ: 「ไม่ใช่! ตรงข้ามกันเลย ไม่สิ ถึงแม้ว่าฉันจะพูดว่าตรงกันข้ามก็ไม่ถูก แต่เธอนี่ดื้อรั้นมากกว่าที่คิดนะเนี่ย ที่เธอพูดไม่ถูกต้องนะ เน่-ซามะ! 」

ในท้ายที่สุดแรมก็ไม่ยอมบอกว่ามายองเนสมีส่วนช่วยมากกว่ามันฝรั่งนึ่ง แม้ว่าสุบารุจะสะบัดมือไปมาใส่ท่าทีที่ดื้อรั้นนั้น แต่เอมิเลียก็หัวเราะออกมาอย่างแห้งๆ พร้อมกับพูดว่า“ เอาล่ะตอนนี้พอได้แล้ว” กับทั้งสองคน

เอมิเลีย: 『สุบารุใจเย็น ๆ ฉันชอบทั้งมายองเนสและมันฝรั่งนึ่งรวมถึงมายองเนสที่อยู่บนมันฝรั่งนึ่ง แล้วฉันก็ว่ามันเป็นความจริงนะที่ว่าแรมไม่สามารถแสดงความซื่อสัตย์ต่อรสชาติได้ 』

แรม: 『…… เอมมิเลีย-ซามะ ได้โปรดหยุดเป็นกังวลด้วยการพูดความคิดของแรมตามที่คุณคิด อายุเป้าหมายของแรมกำลังจะลดลงเรื่อยๆแล้วที่เอมิเลียซามะพูดแบบนั้น 』
[SFX: เอื่อออ]

เอมิเลีย: 『ขะ - ขอโทษ แต่อายุเป้าหมายหมายถึงอะไร…… .. ? 』

เอมิเลียงงงวยกับปฏิกิริยาที่ไร้เหตุผลและไม่เข้าใจของแรม อย่างไรก็ตามความรู้สึกที่แสดงออกมาในการสนทนาของทั้งสองไม่ใช่ของอารมณ์ขุ่นมัว แต่เป็นความรู้สึกของความรักและศรัทธาอันลึกซึ้งที่ไม่สามารถเข้าใจได้ แต่ในทางตรงกันข้ามเอมิเลียและแรมก็ได้สร้างความสัมพันธ์ที่สมบูรณ์แบบต่อกัน การเรียกมันว่าความสัมพันธ์ระหว่างนาย - บ่าวเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนเนื่องจากจากมุมมองของแรมเธอไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา แต่มีความผูกพันระหว่างทั้งสองคนมากกว่า และมีเพียงสุบารุเท่านั้นที่เข้าใจสิ่งเหล่านี้เป็นอย่างดี --

Subaru: 「ฉันรู้สึกเสียใจกับเน่-ซามะนะ แต่คำพูดของพระเจ้าอย่างเอมิเลียตันมีความสำคัญอย่างยิ่ง นั่นคือสไตล์ของปาร์ตี้นี้ ยังไงก็ตามมื้อเที่ยงของวันนี้จะเต็มไปด้วยมายองเนสก้อน! 」
[ถ้าเป็นอนิเมะคงมีฉากที่เรมทำสีหน้าขัดใจใส่สุบารุ555 ประมาณ ชิ!]

เอมิเลีย: 『เย่่่่่!』

เอมิเลียปรบมือด้วยความยินดีและเเรมที่ถอนหายใจอย่างโกรธเคือง ถึงกระนั้นก็เพียงพอแล้วที่แรมจะไม่ยึดติดกับมันมากไปกว่านั้น เอมิเลียเองก็เข้าใจความอร่อยของมัน แน่นอนว่าเนื่องจากสุบารุเป็นคนรักรถมายองเนสตัวจริงและดื้อด้านเขาจึงเป็นผู้ตัดสินที่มีอคติสำหรับเมนูนี้

สุบารุ: 「แน่นอนว่าเบียโกะก็ชอบมายองเนสมากเหมือนฉัน มันอร่อยใช่มั้ย? 」

เบียทริซ: 『อันที่จริงฉันปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันอร่อย แต่ท่าทางที่ฉลาดรอบรู้ที่คุณพูดถึงมันช่างน่ารำคาญฉันคิดว่าน่ะ แล้วความโกรธของเบ็ตตี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ทำให้หาย เพราะฉะนั้นฉันอยากได้อาหารอร่อยๆ!』

สุบารุ: 「ฮี่ฮี่ ตามที่ต้องการเลย」

เบียทริซยื่นคำขอพิเศษที่น่ารักของเธอออกมา ซูบารุโค้งคำนับตามคำขอ หลังจากเห็นท่าทางที่น่าทึ่งและแน่ใจว่าเอมิเลียและคนอื่น ๆ พอใจแล้วพวกเขาก็เริ่มเตรียมอาหาร ถึงกระนั้นพวกเขาก็ไม่สามารถทำอาหารอย่างประณีตในที่โล่งได้ แน่นอนว่าถ้าพวกเขาใช้พลังของเวทมนตร์พวกเขาก็สามารถใช้ไฟและน้ำได้เช่นนั้น แต่

เอมิเลีย: 『ฉันขอโทษนะสุบารุที่ฉันช่วยอะไรคุณไม่ได้มากนัก 』

สุบารุ: 「เธอไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอก ถึงเวลาเปล่งประกายของเธอแล้วไม่คิดงั้นเหรอ? ในทางกลับกันมันก็ดีนะถ้าเธอมาตกหลุมรักฉันอีกครั้งเมื่อฉันแสดงทักษะการสร้างสรรค์ที่คาดไม่ถึง」

เอมิเลีย: 『ชิส์ คุณเป็นคนงี่เง่ามาก』

เมื่อคืนรอยยิ้มให้กับเอมิเลียที่ยังคงมีรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าของเธอ สุบารุก็เริ่มคิดบางอย่างเพื่อเตรียมอาหารพร้อมกับวัตถุดิบที่มีอยู่ในตอนนี้ อาหารคือสิ่งที่ให้พลังงานในแต่ละวัน เขาไม่อยากทำให้มื้ออาหารแต่ละมื้อเป็นสิ่งที่แย่ เมื่อตรวจสอบสิ่งของในกระเป๋าของเขาสุบารุก็ทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อเตรียมอาหารที่สามารถตอบสนองความต้องการของทุกคนได้ เพื่อที่ทุกคนที่มากับเขาจะได้รับอาหารที่อร่อยที่สุด

จนถึงตอนนี้เขาไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ แต่คงเป็นเรื่องน่ายินดีที่ทุกคนจะได้รับการปรุงอาหารรสเลิศที่เขาทำให้กิน นั่นก็เป็นแรงกระตุ้นให้เขาเช่นกันในขณะที่เขาทำอาหาร หากเขาสามารถทำสิ่งง่ายๆเช่นนี้ได้ดีนั่นก็น่าจะทำให้แม่ของเขาพอใจมากทีเดียว

เอมิเลีย: 『อืมมมม ……』

ในขณะที่ควบคุมอารมณ์เหล่านั้นไว้ที่มุมหนึ่งของจิตใจซูบารุก็มองออกไปใกล้ ๆ ในขณะที่กำลังยุ่งกับการทำอาหารและแก้มของเขาก็ผ่อนคลายเมื่อได้เห็นร่างที่ร่าเริงของเอมิเลียและคนอื่น ๆ แล้วเขาก็ได้ยินเสียงฮัมเพลง แปร่ง ๆ

???: 『โอ้โห วันนี้หน้าที่มื้ออาหารคือ โอนี่-ซา~ง ค่อนข้างน่าเป็นห่วง ~ วงนะเนี่ย. 』

(เมลลิ พอร์ทรูซ)[ก่อนหน้านี้เรียกเมย์ลี่เพราะคิดว่าในนิยายไทยน่าจะแปลงี้แต่ขอเรียกตามที่อ่านดีกว่าครับ]เมลลิปรากฏตัวขณะที่พวกเขากำลังเตรียมอาหาร เธอหันไปทางซูบารุ ท่าทางที่ดูไม่เหมาะกับวัยของเธอขณะที่เธอใช้นิ้วชี้สอดผ่านผมถักสีน้ำเงินเข้ม ซูบารุกลับจ้องมองเธอด้วยแววตาสงสัยเมื่อเห็นร่างที่ยิ้มหวานของเธอ

สุบารุ: 「น่าเป็นห่วงเหรอ? มีอะไรน่าเป็นห่วงด้วยหรอ ถึงเป็นเด็กสาวแต่ฉันก็ไม่มีทางปล่อยให้บอกว่าเป็นของไม่น่ากินหรอก! 」

เมลลิ: 『ว้าวถูกต่อ ~ อ่อว่าซะแล้ว ไม่ใช่ว่าเป็นแค่โอนี่-ซังที่พยายามจะใส่ทุกอย่างในมายอ ~ อองเนสส หรอ? ฉันไม่ค่อยชอบมันเลย 』

สุบารุ: 「อะ - อะไรนะ!? แม้แต่เธอเองก็ไม่รู้เสน่ห์ของมายองเนส……!? 」

เมลลิ: 『อย่าทำหน้าเหมือนโลกกำลังจะแตกสลายสิ

เมลลิถอนหายใจเมื่อเห็นสุบารุทำหน้าประหลาดใจ แต่ความตกใจที่สุบารุแสดงออกมาเมื่อได้ยินคำตอบของเธอนั้นมันเกืนกว่าจะเรียกว่าปกติได้ แม้ว่าจะไม่ใช่วันสิ้นโลก แต่ความตกตะลึงที่เขาได้รับก็เหมือนกับว่าเขาเพิ่งรู้ตัวว่าจะเกิดขึ้นในสิ้นปีนี้

???: 『ถึงอย่างนั้นฉันคิดว่าคุณจริงจังเกินไปหน่อย มิส เมลลิบอกแค่ว่าเธอไม่ได้ใช้ความยาวคลื่นเดียวกับคุณที่พยายามผสมมายองเนสลงไปในทุกๆอย่าง 』
[มุกประมาณไม่ได้ใช้สัญญาณค่ายเดียวกัน]

สุบารุ: 「ฮึ……」

จูเลียส ผู้ที่สนับสนุนคำพูดของ เมลลิ ขณะที่เธอแสดงท่าทีคัดค้านมายองเนส เขาเป็นผู้ชายที่หล่อเหลาซึ่งแสดงถึงความสง่างามแม้กระทั่งในการเดินของเขา จูเลียสที่เดินมาหาเขายิ้มให้ซูบารุในทันที

จูเลียส: 『ถ้าฉันอยากจะเพิ่มอย่างอื่น ฉันก็คงแสดงความคิดเห็นเช่นเดียวกับ มิส เมลลิ มายองเนสตามที่ฉันคิดเองก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นความประทับใจแรกพบจะลดลงนะ ถ้านายใส่มันลงไปในทุกสิ่ง นายต้องระวังด้วยนะรู้เอาไว้ 』

สุบารุ: 「คนขี้งกและน่าหนวกหูโผล่มาแล้วว สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้คือปัญหาระหว่างฉันกับเมลลิ คงจะดีไม่น้อยเลยถ้านายไม่ได้เข้ามา」

สุบารุ: 『ผมเดาว่าในบทบาทของผมในฐานะหนึ่งในสมาชิกที่นี่มันเป็นหน้าที่ของผมที่จะต้องรักษาสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพของกลุ่ม การเพิกเฉยต่อเมล็ดพันธุ์แห่งความไม่ลงรอยกันจะส่งผลให้มันผลิบานและเบ่งบานคุณจะสำนึกผิดและเสียใจมากเกินไป ผมมีหน้าที่ให้คำแนะนำก่อนที่จะกลายเป็นเช่นนั้น หลังจากได้ฟังทั้งหมดนี้แล้วคุณยังจะมีปฏิกิริยาแบบเดิมอยู่มั้ย 』

สุบารุ: 「นายมันเป็นคนเดียวที่ตรงข้ามกับฉันในทุกๆด้านเลยนะ จูเลียส! 」

การแสดงตัวตนในทางอ้อมของจูเลียสสะกิดความไม่สนใจแต่ละอย่างของซูบารุ ทำให้รู้สึกเหมือนถูกจนมุมด้วยคำพูดของเขาจนเสียงของสุบารุดังขึ้น

และเมื่อได้ยินการทะเลาะของพวกเขาเอมิเลียก็หัวเราะออกมา “ ฮิฮิ”

สุบารุ: 「เอมิเลียตัน? 」

เอมิเลีย: 『จูเลียสและซูบารุนี่เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเสมอเลยนะ』

ซูบารุทิ้งไหล่ลงอย่างหดหู่เมื่อเห็นการจ้องมองของเอมิเลียซึ่งดูเหมือนว่าเธอกำลังมองไปที่สิ่งที่น่าพอใจ ในมุมมองเดียวกันจูเลียสก็หลับตาข้างหนึ่งลง

คราวนี้ความคิดเห็นของสุบารุ และจูเลียส ดูเหมือนว่าพวกเขาจะขัดแย้งกัน แต่ดูเหมือนว่าจะมีความแตกต่างค่อนข้างมากระหว่างวิธีที่เอมิเลียได้รับความคิดเห็นนั้น เนื่องจากดวงตาสีอเมทิสต์ที่เหมือนอัญมณีของเธอดูเหมือนจะมองเห็นการทะเลาะระหว่างจูเลียสและซูบารุในตอนนี้ราวกับว่าเป็นการกระทำระหว่างเพื่อนสนิทสองคน

สุบารุ: 「อืมเอมิเลียตัน ฉันมักจะพูดแบบนี้ แต่มันคือ…. 」

เอมิเลีย: 『มันคืออะไร』

นั่นเป็นความเข้าใจผิดที่ยิ่งใหญ่เสมอไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร สุบารุพยายามอธิบายให้เอมิเลียที่จิ้มหัวด้วยความสงสัยฟัง

Subaru: 「มันคือ……」

เอมิเลีย: 『――――』

คำพูดที่เขาพยายามจะดำเนินต่อไปเพื่ออธิบายการเริ่มต้นของพวกเขาหยุดลงและริมฝีปากของซูบารุก็แข็งขึ้น

ตอนนี้การเคลื่อนไหวของเอมิเลียที่เอียงศีรษะและยิ้มต่อหน้าต่อตาก็หยุดนิ่ง ―― ไม่ไม่ใช่แค่เอมิเลียที่หยุดนิ่ง

รอบ ๆ บริเวณโดยรอบของสุบารุที่ทุกคนอยู่ท่ามกลางการปรุงอาหารจนถึงตอนนี้ทุกคนที่เคยพูดหยุดอยู่ในเส้นทางของพวกเขา ทุกคนเริ่มนิ่งสนิท ―― ราวกับว่าเวลาของโลกมาถึงจุดหยุดโดยสิ้นเชิงเพื่อรอการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของสุบารุ

แต่เสียงลมกลิ่นของต้นไม้เขียวขจีและน้ำเดือดบ่งบอกว่ามันไม่เป็นเช่นนั้น โลกไม่ได้หยุดนิ่ง ―― มีเพียงเอมิเลียและคนอื่น ๆ เท่านั้นที่เป็น ราวกับว่าซูบารุกำลังรอให้ภาพที่ตามมาทันเขาพยายามทำให้มันปรากฏขึ้นอีกครั้ง

แต่มีเพียงเอมิเลียและคนอื่น ๆ เท่านั้นที่หยุด

??? 「 ―― อาจารย์ ~! บ่าาดาาา ฉันไปตรวจสอบมาก่อนแล้ว ~! 」

สุบารุ: 「 ―――― 」

ทันใดนั้นการปรากฏตัวจากภายนอกได้ผลักตัวเองเข้าสู่โลกที่เงียบงันซึ่งหยุดนิ่ง มันเคลื่อนไปต่อหน้าต่อตาของสุบารุที่กำลังจุดไฟนั่งอยู่บนก้อนหิน ร่างนั้นกระโดดขึ้นอย่างรวดเร็วดำดิ่งเข้าหาเขาด้วยความรุนแรง

???: 「นี่คือการกลับมาของชอล่าที่รวดเร็ว! อาจารย์ได้โปรดชื่นชมฉันและกอดฉันและรักฉันที! 」

หญิงสาวสวยร่างสูงที่มีรอยยิ้มประดับรูปลักษณ์ของเธอหันไปทางซูบารุแล้วพูดแบบนั้น เธอเป็นคนที่เผยให้เห็นผิวขาวกระจ่างใสของเธอและมีผมสีน้ำตาลยาวมัดรวบไว้ เธออวดหุ่นเซ็กซี่แบบผู้หญิงโดยไม่ต้องอายใคร ชอล่าผู้หญิงที่ปล่อยให้รอยยิ้มไร้กังวลลอยอยู่บนใบหน้าของเธอ

สุบารุ: 「 ―――― 」

อย่างไรก็ตามปฏิกิริยาของสุบารุต่อรูปลักษณ์ของชอล่าค่อนข้างแย่ ก็ควรจะเป็นอย่างนั้นแหละ เธอเข้ามาในขณะที่เอมิเลียกำลังยิ้ม



การกระโดดที่มีชีวิตชีวาอย่างเต็มที่ของเธอทำให้เอมิเลียกระจัดกระจายและเธอก็ลบคนอื่น ๆ ทั้งหมดที่หยุดนิ่ง สุบารุขมวดคิ้วกับข้อเท็จจริงนั้น

ชอล่า: 「อะไรอะะ? กะ - เกิดอะไรขึ้นอาจารย์? ฉันอะไรทำผิดไปอีกหรือเปล่า? 」

สุบารุ: 「……ไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวลไป เธอไม่ได้ทำอะไรผิดหรอก

ชอล่า: 「งั้นเหรอ? ถ้าอย่างนั้นฉันไม่ต้องกังวล! อาา นอกจากนั้นอาจารย์ ฉันดีใจที่คุณเตรียมอาหาร! ฉันกำลังจะหิวตายแล้ว ~ 」

ในตอนแรกใบหน้าของชอล่าขุ่นมัวเมื่อเห็นสีหน้าของสุบารุแต่ทันทีที่เธอได้ยินการตอบกลับของสุบารุเธอก็เข้าไปกอดสุบารุใบหน้าของเธอที่มีร่องรอยของความวิตกกังวลก่อนหน้านี้หายไป

แม้ว่าเขาจะรู้สึกว่าร่างกายของชอล่ากดทับแขนของเขาและความนุ่มนวลที่น่ากลัวของเธอที่ข้อศอกและไหล่ของเขา สุบารุก็สะบัดเธอออกอย่างทื่อ 「เฮ้ ออกไปจากฉันเถอะ」

ชอล่า: 「อ๊ะ! อาจารย์ใจร้ายมาก… .. แต่ฉันไม่ยอมแพ้หรอก แบมแบมแบม! ด้วยการโจมตีคุณวิธีนี้ล่ะ ฉันจะซุ่มยิงหัวใจจิตวิญญาณและสัญชาตญาณของอาจารย์」

สุบารุ: 「ดูเหมือนว่าเธอกำลังเล็งตรงกลางนะ… .. อย่าไปจับแขนคนที่กำลังทำอาหารอยู่สิ เธอจะทำยังไงถ้าฉันเกิดมือไหม้ขึ้นมา? 」

ชอล่า: ถ้าเป็นเช่นนั้นฉันจะค่อยๆเลียส่วนที่ไหม้! ฉันจะเลียมันทั้งวันทั้งคืนโดยไม่หยุดเลย! 」

สุบารุ: 「นั่นคงไม่ช่วยอะไรหรอก.. 」

ชอล่ายืนกรานพร้อมยกแขนทั้งสองข้างขึ้นอย่างแรง สุบารุยักไหล่เมื่อเห็นท่าทีเช่นนั้นจากชอล่าแล้วหัวเราะเบา ๆ เมื่อเห็นเช่นนั้นชอล่าก็เลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับ: 「งะ งั้น! 」

ชอล่า: 「เมื่อกี้อาจารย์หัวเราะเหรอ? มีอะไรที่น่าตลกเกิดขึ้นหรอๆ? 」

สุบารุ: 「เธอนั่นแหละเป็นอะไรที่น่าตลกเอง แค่เธอนั่นแหละ」

ชอล่า: 「เอ่อนั่นคือ…ข้อเสนอการแต่งงาน… .. ? 」

สุบารุ: 「คุณมาถึงข้อสรุปนั้นได้ยังไง!? 」

เขาไม่รู้ว่าบทสนทนาข้ามไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร แต่สุบารุดีดชอล่าที่หน้าผากของเธอ (แก้มของเธอกำลังกระพือปีกย้อมเป็นสีแดง) ทำให้เขารู้สึกถึงการปฏิเสธและการคัดค้านของเธอ เมื่อได้รับสิ่งนั้นชอล่าก็คร่ำครวญว่า「 อวาา ~ 」

ชอล่า: 「 เอ้ะเอ้ะ ไม่ใช่การบอกว่า“ คุณเป็นผู้หญิงที่น่าขบขัน” เป็นสิทธิตามกฎหมายที่ชายและหญิงจะตกหลุมรักกันหรอ! หลังจากพูดแบบนั้นไม่ใช่ว่าคุณควรจะพูดต่อว่า“ เป็นผู้หญิงของฉัน”หรอ!? 」

สุบารุ: 「จริงเหรอนี่เธอได้ยินข้อมูลด้านเดียวแบบนี้มาจากไหน? รูปแบบการคิดแบบนั้นดูเหมือนจะเก่าแล้วสินะ ที่ถึงแม้ว่าจะมาจากไหนก็ตาม คงแทบจะไม่เห็นมันอีกต่อไป……. 」

บางทีมันอาจจะไม่บ่อยนักที่ตัวเอกชายจะจัดการเหตุการณ์ที่พบกันครั้งแรกเหล่านี้ในเกมที่มุ่งเป้าไปที่ผู้หญิงหรือในมังงะ Shoujo แต่สุบารุไม่รู้ว่าตอนนี้ยังใช้อยู่หรือเปล่า

ไม่ว่าในกรณีใดการอ้างถึงชอล่าว่าน่าขบขันไม่ได้ทำให้เขาสามารถเกลี้ยกล่อมเธอได้ แต่เท่าที่สุบารุ กังวลปฏิกิริยาของชอล่า ก็คือ

สุบารุ: 「 ―― สิ่งที่เธอพูดมันไม่คาดคิดมันว่าจะเป็นเรื่องใหม่เลยนะ」

Shaula: 「 ―――― 」

Subaru: 「นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการคุยกับเธอถึงไม่…แย่ขนาดนั้น ฉันไม่สงสัยเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้

เขาจะไม่พูดเป็นพิเศษว่าการพูดคุยกับคนอื่นที่ไม่ใช่ชอล่านั้นเจ็บปวด แต่เมื่อสุบารุ พูดคุยกับคนอื่นโดยธรรมชาติแล้วมักจะถูกทำให้ทราบถึงความไม่สมบูรณ์ของตัวเอง และนั่นก็เจ็บปวด ไม่ได้หมายความว่ามีใครเป็นฝ่ายผิด ―― คนที่ผิดก็คือตัวเขาเอง…เสมอมา

สุบารุ: 「คนที่ทำผิด…คือฉันเสมอ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม…. 」

ชอล่า: 「พูดอีกอย่างก็คือคราวนี้ขอแต่งงาน!? 」

สุบารุ: 「ห่าอะไรวะเนี่ย ไม่! 」

อารมณ์ที่มาพร้อมกับคำพูดที่จริงจังนั้นคงอยู่เพียงชั่ววินาทีชอล่าปล่อยให้ความไม่พอใจของเธอโปรยปรายใส่สุบารุที่ตะโกน เธอกระดิกมือและเท้าแล้วพูดว่า「 เอออ ~ 」

ชอล่า: 「 แต่ แต่”ในสถานที่ที่ฉันใช้เวลาอยู่ในที่สีเทาที่ว่างเปล่าคุณเป็นคนเป่าลมใหม่เข้ามา “ประมาณนี้แหละ ไม่ใช่ว่านี่ทำให้มันเป็นสิทธิทางกฎหมายแล้วหรอ ~? 」

สุบารุ: 「ไม่เลย แล้วแหล่งความรู้ที่ลำเอียงของเธอมาจากไหนบนโลกนี้เนี่ย….? 」

เขาตั้งใจที่จะสนทนาที่ค่อนข้างจริงจังต่อไป แต่ชอล่าได้ทำลายสิ่งนั้นโดยสิ้นเชิง สุบารุจึงล้มเลิกความคิดนั้น สุบารุกลับไปจดจ่ออยู่กับการทำอาหารของเขา

ข้างๆสุบารุที่กำลังทำอาหารอยู่ข้างถนนมีการเตรียมอาหารสำหรับทั้งสองคน สำหรับสุบารุ และชอล่า ―― สองคนไม่ใช่สำหรับคนที่ควรจะสนุกกับการสนทนาเช่น เอมมิเลีย, เบียทริซ, แรม, เมลลิ หรือแม้กระทั่งจูเลียส ท่ามกลางคนอื่น ๆ

―― พอตระหนักถึงความจริงอีกครั้งหน้าอกของสุบารุก็เจ็บปวดด้วยความเจ็บปวดอย่างโหดร้าย

※※※※※※※※※※※※※※

ปะติดกันปะเข้าด้วยกันจนเป็นรูปร่าง

ปะติดกันปะเข้าด้วยกันปั้นรูปร่างต่อไป

ปะติดกันปะติดกันต่อเติมสี

ปะกันปะปะปะปะต่อกันไปเรื่อย ๆ เพื่อพาตัวเองเข้าใกล้ความสำเร็จ

Address


Alerts

Be the first to know and let us send you an email when Mewakin posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Shortcuts

  • Address
  • Alerts
  • Claim ownership or report listing
  • Want your business to be the top-listed Media Company?

Share