เงาสยอง

  • Home
  • เงาสยอง

เงาสยอง เล่าเรื่องสยองขวัญชวนขน_ำลุก555

เรื่องสยองวิญญานหลอน แขกไม่ได้รับเชิญเรา มีประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับ จขกท. มาฝากเพื่อนๆ ที่ชอบอ่านเกี่ยวกับเรื่องหลอน...
18/09/2021

เรื่องสยองวิญญานหลอน แขกไม่ได้รับเชิญ

เรา มีประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับ จขกท. มาฝากเพื่อนๆ ที่ชอบอ่านเกี่ยวกับเรื่องหลอนนึ้เป็นกระทู้แรก หากผิดพลาดประการใดต้องขอโทษด้วยนะค่ะ

เราเป็นคนภาคอิสาน เรียนจบจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางภาคอิสาน พอเรียนจบเราได้มีโอกาสมาทำงานที่ โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งที่จังหวัดสมุทรปราการ โรงเรียนมีหอพักครูอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่อยู่หลังโรงเรียน หมู่บ้าน นี้ใหญ่มากมีซอยเยอะมาก ซึ่งหอพักครูจะอยู่ระหว่างซอยที่ 17-19 หอพักมีสองชั้น เราได้ห้องข้างล่างห้องที่สอง หลังห้องเราเป็นบ้านร้างไม่มีคนอยู่อาศัย ต้นไม้ขึ้นรกมาก หญ้าวัชพืชขึ้นปกคลุมบริเวณบ้าน และที่สำคัญร้านขายของชำอยู่ไกลมาก ถ้าจำไม่ผิดน่าจะอยู่ซอย 3 เวลาไปชื้อของก็ยืมจักรยานพี่ที่หอ

เรา ชอบปั่นจักรยานออกมาชื้อของเวลา 20.00-21.00 เป็นประจำ วันแรกที่เราปั่นจักรยานเพื่อที่จะไปชื้อของเราปั่นไปซอยที่ 19 ปั่นไปไม่ถึงครึ่งซอยก็มีสุนัขไล่กัดอย่างเอาเป็นเอาตาย และก็เห่า มันน่ากลัวมาก วันต่อมาเราก็ปั่นจักรยานไปชื้อของอีกแต่ทีนี้เราเปลี่ยนซอย เป็ซอยที่ 18 ปรากฏว่าไม่ต่างจากซอยที่ 19 เลย วันต่อมาเราก็ปั่นจักรยานไปชื้อของอีกเราปั่นซอยที่ 17 ในขณะที่ปั่นไปก็คิดว่าจะเป็นเหมือนกับ 2 ซอยที่ผ่านมาไหม ปรากฏว่าทุกอย่างเงียบกริบ ไม่มีสุนัขออกมาไล่กัดสักตัว เห่าก็ไม่มีบรรยากาศสองข้างทางเป็นเท้าว์เฮ้าท์สองชั้น มัดูรกร้างต้นไม้ขึ้น ใบไม้หล่นในบริเวณเท้าว์เฮ้าท์ มีคนอาศัยอยู่แค่ไม่กี่หลัง ทำให้ดูวังเวงมาก แต่เราก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะว่าเรารู้แล้วว่าซอยนี้ปลอดภัย หลังจากนั้นมาเราก็ปั่นจักรยานผ่านที่ซอยนี้ประจำ
เข้าเรื่องเลยนะ ค่ะ วันหนึ่งขณะที่เรากำลังนั่งเล่นเกมส์อย่างเมามันส์ เสียง msn ดังขึ้นเพื่อนเราทักมา บอกว่าให้เปิดกล้องคุยกัน เราก็เลยหยุดเล่นเกมส์แล้วเปิดกล้องคุยกับเพื่อน ตอนนั้นน่าจะเย็นมากล่ะ เราเปิดไฟในห้องไว้ ไฟตรงอื่นยังไม่ได้เปิด (เราลืมบอกไปเรานั่งเล่นคอมที่โต๊ะ หันหน้าไปที่บานเกล็ด ข้างหลังเราเป็นเตียง เราเปิดประตูหลังห้องและประตูห้องน้ำไว้ ประตูทางเข้าจะตรงกับประตูห้องน้ำพอดี ) ฝั่งเพื่อนมีกันอยู่ 5-7 คน เพื่อนถามว่าอยู่กับใคร เราบอกว่าคนเดียว พร้อมกับหมุนกล้องให้เพื่อนดู คุยกันได้สักพักเราเลยบอกเพื่อนว่าจะไปเข้าห้องน้ำ พูดเสร็จเราก็ลุกไปเข้าห้องน้ำพอกลับมาปรากฏว่าเพื่อนปิดกล้องไป แล้ว เราเลยถามว่าปิดทำไม เพื่อนเลยถามว่าอยู่กับใคร เราบอกว่าอยู่คนเดียว เพื่อนก็ถามย้ำอีกว่าอยู่กับใคร เราก็นืนยันว่าอยู่คนเดียวจริงๆ และเพื่อนก็บอกว่าตอนที่เราไปเข้าห้องน้ำ กล้องค้างตรงหน้าห้องน้ำแล้วเหงเรากำลังจะไปเข้าห้องน้ำเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ผมยาวใส่เสื้อสีขาวและกางเกงสีเทา เราไม่เชื่อที่เพื่อนพูด เพื่อนส่งรูปมาเป็นหลักฐาน ส่งเราก็อธิบายไม่ได้เหมือนกันว่ามันคืออะไร เรามีรูปให้เพื่อนๆได้พิจารณาด้วยนะค่ะ

ขอย้ำนะค่ะไม่มีการตัดต่อใดๆทั้งสิน พอตื่นเช้ามาเราไปกินข้าวที่ร้านป้า ข้างๆหอ ด้วยความที่อยากรู้เลยถามเอารูปให้ป้าดู ป้าดูได้สักพักก็ส่งให้คนในร้านข้าวดูบ้างทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ผู้หญิงคนนี้ เธอเป็นคนภาคอิสานมาทำงานที่จังหวัดสมุทรปราการพร้อมกับแฟนของเธอ เธอทำงานก่อสร้างสักแห่งในจังหวัดนี้ เธอพักที่เท้าว์เฮ้าท์ซอย 17 อยู่กันหลายคน แฟนเธอเป็นคนเจ้าชู้ มีเมียน้อยและไม่ค่อยกลับมาหาเธอ เธอทำได้แค่รอและคอนนี้เธอท้อง วันหนึ่งแฟนเธอกลับมา เธอบอกเขาท้อง แต่แฟนของเธอบอกให้เธอไปทำแท้ง แต่เธอไม่ยอม แฟนของเธอเดินออกจากบ้านไปและไม่กลับมาอีกเลย มันทำให้เธอคิดสั้น วันต่อมาเพื่อนๆของเธอออกไปทำงานกันหมดเหลือเธอคนเดียว เธอบอกว่าไม่สบายอยากพัก เพื่อนๆก็ไม่แอ๊ะใจอะไร พอเพื่อนออกไปได้สักระยะ เธอก็ผูกคอตายในเท้าว์เฮ้าท์นั้น กว่าเพื่อนจะรู้ก็ตอนที่กลับจากทำงานแล้ว เพื่อนของเธอเลยนำศพเธอกลับไปยังย้านเกิดของเธอ หลังจากที่เธอตายไปได้ไม่นาน เธอเฮี้ยนมาก หลอกคนที่อยู่ในละแวกนั่นบ่อยมากจนคนในซอยเริ่มทยอยย้ายไปทีละหลัง จนเหลือแค่ไม่กี่หลัง ป้าบอกว่าเธอเพิ่งหยุดเฮี้ยนไป 3 เดือนก่อนน่าเราจะมาอยู่ เราก็ไม่ได้คิดอะไร เราใช้ชีวิตเหมือนเดิม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

หลังจากนั้นไม่นานวันนั้นเป็นวันหยุดยาว ครูที่หอกลับบ้านกันหมด เหลือแค่เราคนเดียว ขณะที่เราเล่นเกมส์อยู่น่าจะห้าโมงเย็น เราได้ยินเสียงคนทุบประตูห้องน้ำ ปัง ปัง ปัง เสียงดังมาก มันดังมาจากห้องเราเอง เราได้ยินเราก็สะดุง ตกใจมาก แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจอะไร

หลายวันผ่านไปขณะที่เรานอนอยู่ เราได้ยินเสียงคนเดินในห้อง เดินไปมา เราก็ทำเป็นไม่ได้ยินแล้วนอนต่อ และก่อนนอนคืนหนึ่งเราพูดออกไปว่า ถ้ามีจริง แน่จริงคืนนี้ยอกหวยด้วยเข้าฝันก็ได้ แล้วอยากได้อะไรก็จะให้ พูดออกมาด้วยความโมโหไม่ทันได้คิดอะไร แล้วเราก็หลับไป

ฝันว่าเห็น ตัวเองนอนอยู่บนเตียงแล้วได้ยินเสียงกร็อกแกร็ก ที่บ้านเกร็ดประตูหลังห้อง แล้วเราก็หันไปดู เห็นเป็นมือเหี่ยวๆ มีเล็บยาวมาก กำลังเอามือเข้ามาในบานเกร็ด ด้วยความที่ตกใจคิดว่าเป็นโจร เลยลุกจากที่นอนแล้วไปหยิบมีดมาฝันที่มือนั้น เราได้ยินเสียงกรี๊ดร้องสักพักก็หายไป แล้วได้ยินเสียงคนทุบประตูอยู่หน้าห้องแล้วเสียงก็เงียบ สักพักเห็นเป็นเงาดำๆ รูปร่างผู้หญิงผมยาวยืนอยู่ปลายเตียงแล้วพูดว่า อยากได้หวยไม่ใช่หรอ เราตอบว่าใช่ ผู้หญิงคนนั้นเลยให้หวยมาสองตัว พอเราตื่นมาตอนเช้าโทรให้น้องชื้อให้ เราก็ชื้อนะ 5 บาท เราไม่ชอบเล่นหวย พอวันหวยออกปรากฏว่าถูก เราโทรไปหาน้อง น้องบอกว่าลืมไม่ได้ชื้อให้ เราก็ไม่ได้อะไร หลังจากนั้นเราก็ลืมเรื่องนี้ไปเลย
ช่วงนั้นเราไม่ อยากกลับบ้านขนาดมีวันหยุดยาวเรายังไม่กลับ พอไปทำงานพี่ที่โรงเรียนทักว่า ทำไมช่วงนี้ดูคล่ำๆ หน้าหมองจัง โดนของหรือป่าว เราก็บอกว่าไม่หรอกมั้ง ช่วงนั่นเราไม่สบายบ่อยมาก เป็นๆ หายๆ มีอยู่วันหนึ่งอยู่ๆเราอยากกลับบ้านขึ้นมาสะงั้น เราเดินไปหาพี่บอกว่าอยากกลับบ้าน พี่เลยบอกว่ากลับด้วยกันไหม พี่จะกลับพอดี พรุ่งนี้ไปพร้อมกัน เราก็ตอบตกลงเพราะมีเพื่อนกลับ

พอ ไปถึงบ้านยายถามว่าทำไมผอมจัง น่าดูคล้ำมาก เดี๋ยวพรุ่งนี้พาไปวัด ตื่นเช้ามายายพาไปวัด วัดนี้เป็นวัดป่าและเป็นที่นับถือของคนในพื้นที่ พอเดินเข้าไปในศาลา พระพูดว่าโยมพาใครมาด้วย เราก็หันหลังกลับไปมองก็ไม่มีใคร พระบอกว่าโยมนั้นแหละ มีคนตามมาด้วย เราเลยลองเชิงพระรูปนั้นว่าที่ตามมาเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ท่านตอบว่าเป็นผู้หญิง เราถามว่าแล้วตามมาจากไหน ท่านตอบว่าตามมาจากที่ทำงาน เราถามว่าแล้วเขาต้องการอะไร ท่านตอบว่าแล้วโยมพูดอะไรกับเขาไว้ล่ะ เราก็นั่งคิดสักพักก็พูดขึ้นมาว่า อยากได้อะไรก็จะให้ ท่านเลยบอกว่านั้นแหละที่เจาตามโยมมา

เราถามว่า แล้วเขาต้องการอะไรท่านเลยบอกว่าเขาต้องการชีวิตของโยม ดีนะที่ดวงยังไม่ถึงคาด ป่วยบ่อยใช่ไหมเราตอบใช่ค่ะ ท่านบอกว่าไม่แปลกหรอกก็เขาไปไหนมาไหนกับโยมตลอด ยานถามพระว่าพอมีทางแก้ไหม ท่านเลยตอบว่ามี แต่ต้องทำภายในสามวันไม่งั้นตาย ไปรดน้ำมนต์ 7 วัดภายในวันเดียวต้องได้ 7 วัด และต้องทำภายใน 3 วันนี้เท่านั้นแล้วเขาก็จะไม่มากวนอีก

เรากับยายก็กลับบ้าน พอตื่นเช้ามาตากะยายพาไปรดน้ำมนต์ 7 วัดหลังจากนั้นมาเราก็ไม่เคยเจอเธออีกเลย

ขอบคุณเรื่องเล่าจาก : https://www.eventpop.me/blogs/686-7-ghost-pantip

12/01/2021

วันนี้ทางแอดมินเพจเงาสยองมีเรื่องราวสยอง ๆ มาฝากทุกท่านที่ติดตามได้มาอ่านกันครับ หลังจากที่ห่างหายกัยไปนาน.............................................................................................................................................เรื่องเริ่มต้นเมื่อปี พ.ศ.2561 ณ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในภาคอีสานตอนบน วันนั้น(จำวันที่ไม่ได้) เป็นการจัดกิจกรรมดาว-เดือน ของมหาวิทยาลัย ขณะช่วงพักเบรกขั้นการประกวดอยู่นั้น ก็จะมีวงดนตรีขึ้นแสดงระหว่างรอการประกวด ทุกคนกำลังสนุกสนานกับวงตรี เต้นกันอย่างเมามันและแล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นทุกคนที่กำลังสนุกอยู่นั้นก็ต้องหยุดสนุก เมื่อมีหญิงสาวคนหนึ่งได้ล้มลงไปนอนกองกับพื้นพร้อมกับอาการชัก ก่อนที่เขาจะหมดสติไป เพื่อนของเขารีบเขาไปดูอาการและร้องเรียกเพื่อนที่กำลังหมดสติ ก่อนที่หน่วยแพทย์ที่สแตนบายอยู่ในงานจะเข้ามาดูอาการ แต่มันก็สายเกินไปแล้วเพราะหญิงสาวคนนั้นได้หมดลมหายใจไปแล้ว ใช่ครับเขาตายคาที่ และกิจกรรมดาว-เดือนวันนั้นก็ได้ดำเนินการไปจนจบภายใต้สภาพจิตใจที่หดหู่กับเหตุการณ์การที่เกิดขึ้น ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดีไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่มันก็ไม่ใช่ ตั้งแต่มีการตายของหญิงสาวเกิดขึ้นเหตุการณ์ประหลาด ๆ ก็ได้ตามมา วันหนึ่งมีชายคนหนึ่งเขานั้นเป็นหลีดของคณะเขาได้เข้าไปทำการซ้อมในหอประชุมที่หญิงสาวคนนี้เสียชีวิต ขณะที่เพื่อนของเขานั้นทำการพักไปทำธุระเข้าห้องน้ำ แต่เขานั้นยังยืนซ้อมหน้ากระจกขณะที่เขากำลังวาดแขนขึ้น ก็ได้ประกดเงาหญิงสาวคนหนึ่งนั้นยืนอยู่ข้างหลังเข้า ใส่ชุดสีขาวผมยาวกล้มหน้า เขาได้ยืนนิ่งเพราะอาการกลัวและแล้วหญิงสาวคนนั้นก็วิ่งทะลุร่างเขาผ่านกระจกไปอย่างหน้าตกใจ ก่อนที่จะมีพี่ในคณะเดินขึ้นมาเรียกและผู้ชายคนนั้นก็ได้เล่าเรื่องทุกอย่างให้พี่ฟังแต่พี่ก็ได้พูดปลอมใจเขาไปว่าอย่าไปคิดมากเขาคงตาฟาด และนี้ไม่ใช่เหตุการณืเดียวที่มีคนเจอ ยังมีอีกหนึ่งเหตุการณ์ในสถานที่เดียวกัน วันนั้นช่วงเวลากลางคืนได้มีสาขาหนึ่งในมหาวิทยาลัยได้ทำการซ้อมละครสาขาเพื่อขึ้นแสดงในงานระดับมหาลัย ขณะที่ซ้อมอยู่นั้นเหตุการณืยังคงปกติจนกระทั้งใกล้เวลาเลิกซ้อมทุกคนมารวมตัวกัน และแล้วทุกคนก็ได้ยินเสียงประตูของหอประชุมด้านบนเปิดออกแบบช้า ๆ !!! ปกติแล้วถ้าไม่มีงานหรือกิจกรรมอะไรแล้วนั้นประตูข้างบนของหอประชุมแห่งนี้จะถูกล็อคไม่มีการเปิดทิ้งไว้ ขณะที่ทุกคนกำลังคุ้นคิดนั้นประตูก็ได้ปิดเข้าอย่างแรง ปัง!!!!! ทุกคนสะดุ้งและตกใจอย่างมาก จากนั้นก็มีพี่ฝ่ายกำกับมาจากการประชุมน้อง ๆ ที่ซ้อมละครก็เลยบอกให้พี่ไปเปิดประตูด้านบนหอประชุมดูเพื่อจะได้ไปประชุมข้างบนข้างล่างมันหนาว (มันเป็นอุบาย) เมื่อพี่ฝ่ายกำกับลองขึ้นไปเปิดดูปรากฎว่าประตูนั้นล็อคสนิทจากข้างใน เป็นสิ่งที่หน้าประหลาดใจและน่ากลัวมากสำหรับทีมสาขาที่ทำการซ้อมละครในวันนั้นหลังจากนั้นก็ไม่มีใครมาซ้อมละครที่หอประชุมแห่งนี้อีกเลย และนี้คือเรื่องความประหลาดและน่ากลัวของหอประชุมแห่งนี้.......

09/12/2020

ผู้ติดตาม2,000+ แต่เพจไม่เคยอัปเดตอะไร 555 ใครมีเรื่องหลอน ๆ มาเล่าใต้คอมเม้นหน่อยครับที่รัก♥️🥰😱

26/03/2020

ของจริงนะครับ

วันนี้มาทำความรู้จักกับกระสือกันครับกระสือ คือ ภูตชนิดหนึ่ง วิบากกรรมที่ทำให้เป็นภูต ตอนเป็นมนุษย์หากินทางมิชอบ คือ หลอก...
07/03/2020

วันนี้มาทำความรู้จักกับกระสือกันครับ
กระสือ คือ ภูตชนิดหนึ่ง วิบากกรรมที่ทำให้เป็นภูต ตอนเป็นมนุษย์หากินทางมิชอบ คือ หลอกลวงต้มตุ๋นเพื่อนมนุษย์ เช่น นำของปลอมมาหลอกขายเป็นของจริง หรือของโบราณ ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายก็ตาม ตายแล้วก็จะไปเป็นเปรตก่อน มีความหิวโหยมาก ชอบกินของบูดของเน่า เพราะวิบากกรรมมีพฤติกรรมสกปรก โลภอยากได้ทรัพย์ของผู้อื่นในทางมิชอบ พ้นสภาพจากเปรต หากกรรมยังไม่หมดก็จะมาเกิดเป็นภูต จะกินได้เฉพาะของสกปรก ของคาว ของเน่าเหม็น

เรื่องเล่าจากประสบการณ์กับบ้านพักสยองขวัญเรื่องเล่าสยองขวัญ เรื่องทีจะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องของความเชื่อ เรื่องลี้ลับ  ...
20/01/2020

เรื่องเล่าจากประสบการณ์กับบ้านพักสยองขวัญ
เรื่องเล่าสยองขวัญ
เรื่องทีจะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องของความเชื่อ เรื่องลี้ลับ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ดิฉันอายุ 32 ปี ทำงานเป็นพนักงานขายเครื่องสำอางยี้ห้อหนึ่ง ดิฉันมีโอกาศได้ไปทำงานต่างจังหวัดบ่อย ๆ แต่ละจังหวัดที่ไปทำงานนั้น เราจะต้องพักเป็นเวลาหลายวัน ซึ้งที่พักแต่ละที่นั้น มีทั้งดีแหละไม่ดี แต่มีสถานที่หนึ่งนั้น ทำให้ดิฉันลืมมันไม่ลง เป็นสถานที่ ที่ทำให้จำมันมาถึงทุกวันนี้

ดิฉันกับกลุ่มของเราได้รับหมอบหมายให้ไปประชาสัมพันธ์สินค้า ที่จังหวัดหนึ่งในภาคอีสาน เป็นเวลา 3 วัน ดิฉันได้ให้น้องในกลุ่มหาสถานที่พักเหมือนเคย แต่รอบนี้ หาที่พักยากเป็นพิเศษ เพราะเป็นช่วงเทศกาล หาเท่าไรก็ไม่ได้สักที จนมาเจอที่หนึ่ง เป็นที่พัก ทีห่างจากตัวอำเภอเมืองพอสมควร ที่พักชั้นล่างเป็นปูน ข้างบนชั้น 2 เป็นไม้ ดูรวม ๆ แล้วโอเค เราจึงตัดสินใจพักกันที่นี้ ดิฉันไม่คิดเลยว่า การตัดสินใจครั้ง เป็นการตัดสินใจที่พลาดที่สุดในชีวิต ..

ก่อนการเดินทางทุกครั้ง เราจะรวมกลุ่มกันไปทำบุญกัน เพื่อเป็นสิริมงคลในการเดินทาง เราเลือกไปทำบุญที่วัดหนึ่งย่านฝั่งธนบุรี ซึ้งเป็นวัดประจำที่เราทำบุญกันก่อนเดินทาง เราเตรียม สังขทาน ดอกไม้ สิ่งของอื่น ๆ ไปถวายพระ ก่อนจะกลับจากวัดนั้น พระท่านได้ทักว่า รอบนี้พวกเอ็งคงกลับมาไม่ครบทุกคนนะ แล้วแต่บุญวาสนา พวกเราหันหน้ามองกัน พี่คนในกลุ่มเลยถามพระว่า มีอะไรหรือป่าวหลวงพ่อ หลวงพ่อมองหน้า แต่ไม่ได้พูดอะไร หลวงพ่อได้หยิบขันพรมน้ํามนต์ มาพรมให้กลุ่มเรา แล้วก็พูดขึ้นว่า อาตมาเป็นพระ พูดอะไรมากไม่ได้หลอก แล้วแต่บุญ แล้วแต่กรรมของแต่ละคนในเวลานั้นพวกเราไม่ได้คิดอะไรเลย ยังแซ่วคนในกลุ่มว่า สงสัยพี่ในกลุ่มจะได้เมียเป็นคนอีสาน คงไม่กลับมาทำงานแล้วละ เราพูดคุยกันกันไปอย่างสนุกสนาน พอดิฉันกลับมาถึงบ้าน เตรียมเสื้อผ้า ของใช้ต่าง ๆ ลงกระเป๋า เพื่อการเดินทางวันพรุ่งนี้ ในช่วงเวลาที่ดิฉันกำลังจะนอนรู้สึกกำลังครึ่งหลับครึ่งตื่นนั้นไม่รู้ว่าฝันหรือป่าว ดิฉันเห็นภาพของยายของดิฉัน มาบอกว่า อย่าไปเลย พร้อมกับดึงมือของดิฉันไม่ให้ขึ้นรถตู้ พอพูดจบนั้น ดิฉันก็สดุ้งตื่น รู้สึกเจ็บข้อมือ รู้สึกปวด ๆ ดิฉันงงว่ามันคือความฝันหรือคิดมากไปเอง เพราะปกติดิฉันไม่เชื่อเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ดิฉันพยามยามไม่คิดอะไร

พอถึงตอนเช้าก่อนออกจากบ้านดิฉันเห็น รูปกลุ่มเราทีถ่ายด้วยกันหล่นพื้น กระจกแตก กระจาย แต่ด้วยรถตู้มารอรับที่หน้าบ้านแล้ว เลยตะโกนบอกแม่ เก็บให้ด้วย เพื่อนมารอรับแล้ว ดิฉันรีบเอาเครื่องใช้สัมภาระต่าง ๆ ขึ้นรถเดินทางทันที ก่อนที่จะถึงตัวจังหวัด ฟ้าก็เริ่มมืดลงทุกที เพื่อนๆต่างพากันนอนพักผ่อน ดิฉันก็เล่นโทรศัพท์มือถือไปเรื่อยเปลื่อยแต่รถก็ค่อย ๆ หยุดลง ข้างหน้าได้เกิดอุบัติเหตุขึ้น รถติดยาว และรถของเราก็ได้ขับผ่าน ได้เห็นอุบัติเหตุ รถเก๋งกับรถมอเตอร์ไซค์ชนกัน คนขับรถมอเตอร์ไซค์ โดนรถที่ขับตามมา เหยียบซ้ำ เหยียบไปครึ่งศรีษะ สมองไหล เป็นภาพที่สยด สยองมาก แต่ที่ผิดสังเกตไปกว่านั้นเราเห็นคนยืนใต้ต้นไม้ กำลังมองมาที่อุบัติเหตุ คนที่มองมาเหมือนคนขับมอเตอร์ไซค์มาก เราคิดว่าคงใช้แล้วละ ตอนนั้นเราไม่กล้าบอกใครว่าเราเห็น ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ข่มตาให้หลับ

ในที่สุดรถก็เข้ามาถึงตัวเมือง เราได้แวะซื้อของกัน ข้างทาง เพื่อนๆก็เห็นดิฉันทำหน้าไม่ดีไม่สบายใจ ก็พากันถามว่าเป็นอะไรหรือป่าว ดิฉันก็เลยบอกไม่มีอะไรหลอก ปวดหัวนิดหน่อย ไม่อยากทำให้เพื่อนไม่สบายใจ ในขนะนั้นเอง ดิฉันได้เห็นเหมือน พี่น้องแฝดในกลุ่ม ทั้ง 2 คน ไม่มีศรีษะ ดิฉันตกใจ ทรุดลงไปกับพื้น ตกใจกับภาพที่ได้เห็น ดิฉันเริ่มรู้สึกไม่ดี เลยขอไปนอนพักบนรถตู้ก่อน ทุกคนรีบซื้อของแล้วขึ้นรถตู้ เพราะเริ่มรู้สึกไม่ดีกันแล้ว ในขณะที่กำลังขับไปที่พักนั้น ก็ได้คุยกันว่าเกิดอะไรขึ้น ลุงคนขับตู้ก็บอกว่า รู้สึกไม่ดีตั้งแต่ขับเข้าจังหวัดแล้ว เหมือนมีอะไรสักอย่าง (ลุงคนขับรถตู้ เหมือนเป็นคนมีเซ้นส์เรื่องพวกนี้) เราเลยคุยกันว่ากลับกันก่อนไหม หลังเทศกาล ค่อยมาทำงานใหม่ แต่พี่หัวหน้าก็บอกว่ามาขนาดนี้แล้ว จะกลับทำไม อีกอย่างก็ใกล้ถึงที่พักแล้วด้วย หัวหน้ายังบอกอีกว่า วันนี้คงนั่งรถเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว กลับที่พักไปพักกันก่อน พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน สรุปเราจึงเดินทางกันต่อ

ทางเข้าที่พักของเรานั้น สองข้างทางมืดมาก แล้วไม่มีบ้านคนอยุ่แถวนั้นเลย บ้านที่เราพักอยุ่ในซอยเปลียว เรามาตามบ้านพักตามแผนที่ แต่หาเท่าไรก็ไม่เจอ มันก็ดึกมากแล้วด้วย เพื่อนทุกคนภายในกลุ่มก็กังวลกัน จนมาเจอบ้านหลังหนึ่งเราเลยจอดถามทางว่า ที่พักของเรานั้นไปทางนั้น ในขนะที่เราบอกชื่อที่พักนั้น ชาวบ้านก็ทำสีหน้าแปลก ๆ แล้วเอามือชี้ไปทางซ้าย บอกเลย 3 แยกไปก่อน บ้านพักอยู่ในซอยขวามือ แหละเราก็ขับตามที่ชาวบ้านบอกไป พวกเราทั้งหมดก็ตกใจกัน เมื่อกี้เราก็ผ่านตรงนี้มาแล้ว ทำไมไม่เจอ น้องในกลุ่มเริ่มสีหน้าไม่ดี เหมือนจะร้องไห้ บอกพี่หัวหน้า หนูไม่อยากพักที่นี้แล้ว รู้สึกไม่ดี แต่หัวหน้าก็ยืนยันคำเดิมว่าเรามาถึงที่นี้แล้ว เราคงต้องเข้าพักแล้ว

รถตู้ก็ได้มาจอดหน้าบ้าน เราก็พากันยกของ ลงจากรถเพื่อเข้าไปเก็บในบ้านขณะที่เดินเข้าบ้านเราสังเกตได้ว่า บ้านนี้เพิ่งถูก ตัดต้นหญ้า ทำความสะอาด เหมือนไม่มีคนมาอยุ่ที่นี้นานแล้ว เราก็จัดแจงแยกย้ายกันพักผ่อน เวลานั้นไม่คิดอะไรแล้ว เหนื่อย อยากพักผ่อนมากกว่า บ้านมีทั้งหมด 3 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ มีห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องนอนจะอยู่ข้างบนทั้ง 3 ห้อง ใช้ได้ 2 ห้อง อีกห้องหนึ่งเจ้าของบ้าน บอกไว้ ห้องนี้เป็นห้องเก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ เจ้าของบ้านได้ล็อกกุญแจห้องไว้ ห้องที่เราพักอยุ่บนชั้น 2 ติดกับห้องที่ล็อกกุญแจไว้ ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นห้องของพี่น้องฝาแฝด พวกหนุ่ม ๆนอนข้างล่างกัน ทุกคนก็แยกย้ายกันพักผ่อนปกติ เราก็อาบน้ำนอน เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเข้าไปทำงานในตัวเมือง..

ในขนะที่นอนอยุ่นั้น เราได้ยินเสียงเหมือนได้ยินเสียงคนเดิน อยู่ที่ห้องข้าง ๆ คนลากอะไรสักอย่าง ดิฉันคิดว่าคงโดนหลอกแล้ว เลยพูดในใจบอกว่า พรุ่งนี้ตอนกลับมาจะซื้อน้ำ ซื้อดอกไม้มาถวายให้ ผ่านไปสักพักเสียงเดินก็ค่อยๆหายไป ขณะที่นอนคลิ้มๆ ดิฉันรู้สึกเจ็บที่หน้าอก เหมือนมีคนมาหยีบ พยามที่จะขยับตัว แต่ก็ขยับไม่ได้ ดิฉันจะกลั้นใจฝืนลืมตาขึ้นมา เห็นผู้หญิง ใส่ชุดสีดำ นั่งยอง ๆ บนหน้าอกอยู่ คือตอนนั้นไม่ไหวแล้ว น้ำตาไหล สวดมนต์ ต่างๆให้เค้าไป อย่ามายุ่งกับดิฉัน แต่เค้าก็ไม่ไป เค้าก็นั่งโยกตัวอยู่บนหน้าอก แล้วก็พูดพึมพำ จากนั้นเราก็หมดสติไป มารู้สึกอีกทีได้ยินเสียงเคาะประตู ดิฉันเลยรีบลุกไปเปิดประตูห้องเห็นน้องผู้หญิงที่นอนกับดิฉัน ดิฉันรีบเข้ากอดน้องทัน ดิฉันร้องไห้ อยากจะกลับบ้าน พอเราทำอะไรเสร็จเราก็รีบลงมาข้างล่าง มาคุยกัน เราได้เล่าว่าเราเจออะไรบ้าง พอเราเล่าเสร็จ พีหัวหน้าที่นอนข้างล่างก็บอกว่า เมื่อคืน นอน ๆ อยู่ มองไปที่ข้างบน เห็นเหมือนตาคนมองลงมาที่ข้างล่าง ตาสีแดงกร่ำ พี่หัวหน้าเค้านอนที่ห้องนั่งเล่นซึ้งห้องนั่งเล่น อยู่ตรงกับห้องที่เจ้าของบ้านล็อกห้องไว้ แล้วบนชั้น 2 จะเป็นไม้ พี่เค้ามองทะลุ ช่องไม้ขึ้นไป ทุกคนต่างพากันตกใจ ว่าเกิดอะไรขึ้น มีอะไรอยู่ที่ห้องนั้นหรือป่าว เราเลยถามฝาแฝดว่าเจออะไรไหมนางก็บอกไม่เจอหลับสบายดี

ลุงขับรถตู้ ได้เอาเศษหนัง บางอย่างให้ดู ในเศษหนังอันนั้น เขียนเป็นอักขระ ลุงบอกเป็นภาษาเขมร ลุงเจอมันหลังบ้าน พี่หัวหน้าก็บอกว่า งั้นเด่ววันนี้เราไปทำงานกันก่อน เสร็จแล้วรีบไปวัดกัน หลังจากที่เราเคลียร์งานเสร็จ ก็รีบไปวัดกัน เล่าเรื่องทั้งหมดให้หลวงพ่อฟัง หลวงพ่อทำสีหน้าตกใจ แล้วบอกว่า รู้ไหมเค้าตามพวกเอ็งมาจากบ้าน ยังนั่งรอพวกเอ๊งอยู่ในรถ ทุกคนพากันเครียดหนัก เลยถามว่าหลวงพ่อมีวิธีไหม หลวงบอกเลยบอกว่า เด่วจะช่วยเท่าที่ช่วยได้แล้วกัน หลวงพ่อได้น้ำมนต์ไปพรมทั่วรถ ก่อนกลับได้แจกสายสิญจน์คนละอัน แล้วบอกว่า ขอให้มีสติ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด หลังที่เรากำลังจะกลับลุงขับรถตู้ได้บอกว่า เค้ามีญาติที่รู้จักกับพ่อหมอ เห็นเค้าบอกว่าอยู่จังหวัดนี้ ถ้าเราอยากไปเด๋วเค้าจะโทรไปถามทางให้ ทุกคนพากันตกลง เดินทางไปหาพ่อหมอ พอเดินทางไปถึงบ้านพ่อหมอนั้น สุนัข ได้พากัน หอน ตลอดทางเข้าบ้านพ่อหมอ พอถึงบ้านพ่อหมอ ได้มีหญิงชราแก่ ๆ คนหนึ่งเดินมารับ หญิงชราคนนี้ได้แต่งตัวชุดสีขาว เหมือนคนถือศีล หญิงชราได้บอกว่า พ่อหมอรออยู่ในเรือน รีบเข้าไปหาเค้า ดิฉันสังเกตได้ว่า หญิงชราคนนั้นได้แต่มองรถตู้ ทำสีหน้ากังวลอย่างชัดเจน เมื่อเราได้ขึ้นบ้านไปพบพ่อหมอ ในห้องของพ่อหมอ มีโต๊ะพระเครื่องชุดใหญ่ แล้วก็มีหุ่นแปลก ๆ ดูท่าทางน่ากลัว บรรยากศทำให้ขนลุก หมอเป็นผู้ชาย น่าจะอายุ 70-80 ปี พ่อหมอได้พูดขึ้นว่า พวกเอ็งรู้อยู่ป่าวว่าเล่นอยู่กับอะไร ทำไมพวกเอ็งถึงไปยุ่งกับเค้า พวกเอ็งอยากเจอดีกันใช้ไหม

ทุกคนพากันตกใจ พี่ในกลุ่มเลยพูดไปว่า พวกเรามาทำงาน ไม่ได้มารบกวนใคร ทำงานเสร็จแล้วเราจะรีบกลับบ้านกัน พ่อหมอก็บอกว่า พวกเอ็งไปอยู่ที่ของเค้า เค้าจะเอาพวกเอ็งไปอยู่ด้วย และลุงคนขับรถตู้ก็ได้หยิบหนังที่เก็บได้ให้พ่อหมอดู พ่อหมอได้สีหน้าเปลี่ยนไป แล้วบอกว่า หนังที่เก็บได้อันนี้ เป็นหนังของคนตายโหง คนที่ทำเกี่ยวกับพวกนี้เป็นคนที่เล่นของเขมร พ่อหมอได้นำหนังอันนั้นใส่ขัน ในขันมีน้ำมนต์ แล้วพ่อหมอก็สวดทำพิธี ขณะสวดมนต์อยู่นั้น ได้เกิดลมแรง ปิด ประตูหน้า หน้าต่าง เสียงดังหลายครั้ง หมาแถวนั้นก็พากันหอน ตลอด แล้วก็ได้กลิ่นแปลก ๆ คล้ายกลิ่นซากศพ ลอยมา พอทำพิธีเสร็จ ลมกับเสียงต่าง ๆ ก็ได้หยุดลลง พ่อหมอได้พูดอีกว่า เค้ายังไม่จบ เค้าจะเอาพวกเอ็งไปอยู่ ไปรับใช้เค้า พี่ในกลุ่มเลยพูดว่า งั้นเรากลับ กทม กัน ไม่อยู่ที่นั้นกันแล้ว พ่อหมอก็บอกอีกว่า เอ็งหนีไปพ้นหลอก ในเมื่อพวกเอ็งไปอยู่ที่ของเค้าแล้ว เค้าก็จะตามเอาเอ็งไปอยู่ด้วย

คือตอนนั้นเราทนไม่ไหวแล้ว ได้พูดกับพ่อหมอไป ดิฉันสับสนไปหมด กับเกิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพวกเรา ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้ด้วย เราไปทำอะไรให้เค้า เค้าถึงได้ตามมาเอาชีวิตเรา พวกเราทำอะไรผิด พูดจบ พ่อหมอได้หยิบเชือกให้ พ่อหมอบอกว่า ให้เอาเชือกนี้ไปพูกรอบบ้าน แล้วอย่าไปยุ่งกับที่ของเค้า เราก็ถามพ่อหมอว่าทีของเค้าคือบ้านหรือว่าอะไร ในตอนนั้นเราคิดขึ้นได้ทันที หรือว่าจะเป็นห้องที่เจ้าของบ้านใส่กุญแจห้องไหม เราเลยถามคนในกลุ่มเราว่ามีใครได้ไปยุ่งอะไรกับห้องนั้นไหม พี่น้องแฝดเลยบอกว่า เมื่อคืน ก่อนจะนอนได้ยินเสียงเหมือนอะไรอยู่ในห้องนั้น หลายรอบ คือน้องบอกว่ารำคาน นอนไม่หลับ เลยไปเคาะประตูห้อง แล้วเสียงนั้นก็เงียบไป น้องแฝดก็ไม่ได้คิดอะไร กลับห้องมานอนเหมือนเดิม

คือตอนนั้นในกลุ่มเราเข้าใจทันทีเลย ว่าต้องมีอะไรในห้องนั้นแน่ ๆ เลยถามพ่อหมอไป พ่อหมอเลยบอกว่าอย่าไปยุ่งทีของเค้า ต่างคนก็ต่างอยู่ไป ถ้าคืนนี้ผ่านไปได้ ก็ไม่มีอะไรแล้ว พวกเราทุกคนต่างพากันไหว้ ขอบคุณพ่อหมอแล้วกลับที่พักกัน พอกลับไปถึงที่พัก เปิดประตูเข้าไป ปุ๊บ กลิ่นซากศพลอยมาก่อนเลย ข้าวของ กระจัด กระจายเต็มห้อง ผนังห้องถูกเขียนด้วยลิปสติกสีแดง ลุงขับรถตู้บอกเป็นภาษาเขมร ทำให้ทุกคนกลัวกันเข้าไปใหญ่ ลุงขับรถตู้ก็พูดปลอบว่าไม่มีอะไรหลอก เด๋วเอาเชือกที่พ่อหมอให้มาไปผูกรอบบ้านก็คงไม่มีอะไรแล้วละ ทุกคนเลย ต่างพากันเก็บของทำความสะอาด ลุงขับรถตู้ได้เอาเชือกที่พ่อหมอให้ไปผูกไว้รอบบ้าน ลุงขับรถตู้ได้เล่าให้ฟังว่า ขนาดที่นำเชื่อไปผูกอยู่นั้น เค้าได้เห็น เงา ดำ ๆ อยู่บนต้นไม้ แล้วมองมาที่พวกเรา
หลังจากที่ช่วยกันเก็บของเสร็จ เราก็คุยกันว่า เด๋วเราแยกย้ายทำภาระกิจส่วนตัว แล้วลงมารวมกันที่ห้องนั่งเล่น ดิฉันกับน้องที่พักด้วยกัน ได้ขึ้นกลับไปที่ห้อง ต่างรีบเก็บเสื้อผ้า เครื่องใช้ส่วนตัว แล้วรีบโทรศัพท์หาแม่ ดิฉันก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้แม่ฟัง แม่ดิฉันเองก็ตกใจ แล้วบอกว่า รู้สึกไม่ค่อยดี นอนไม่ค่อยหลับ ตั้งแต่ที่ดิฉันเดินทางไปต่างจังหวัด แม่เล่าให้ฟังอีกว่า ฝันเห็นคุณยายของดิฉัน มาบอกว่ากำลังจะเกิดอันตรายกับคนในบ้าน ขณะที่คุยกับแม่อยู่ ได้ยินเสียง เหมือนแจกันตกพื้น ดังมาจากห้องข้าง ๆ แล้วหน้าต่างห้องดิฉันก็เปิดออก ลมก็พลัดเข้ามาในห้อง ดิฉันรีบวิ่งไปปิดหน้าต่าง ก็เหลือบไปเห็นหน้าต่างห้องข้าง ๆ เปิดอยู่ แล้วก็มี เงาดำ ๆ ยืนหน้ามองมาหา ดิฉันรีบปิดหน้าต่าง แล้วบอกน้องเรา 2 คนรีบลงไปรอข้างล่างกันเถอะ ขณะทีเรากำลังออกจากห้องกัน ได้ยินเสียง คนทุบประตูดังมาจากห้องข้าง ๆ เรารีบวิ่งลงมาข้างล่างกัน พี่ก็ถามว่าเป็นอะไรกันหรือป่าว ดิฉันก็เล่าให้พี่เค้าฟัง พี่หัวหน้าก็เล่าให้ฟังอีกว่า เมื่อกี้ตอนอาบน้ำ เหมือนมีคน มองอยู่ ข้างนอก ความรู้สึกเหมือนมีคนมาเดินอยู่รอบ ๆ

เราคุยกันไปได้สักพักน้องที่นอนห้องเดียวกับดิฉันก็มาบอกว่า ลืมโทรศัพท์ไว้ที่ห้อง ขึ้นไปเอาเป็นเพื่อนหนูหน่อยได้ไหม ดิฉันก็ อืมมม โอเคได้ เด๋วให้ลุงขับรถตู้ขึ้นไปเป็นเพื่อน ในขณะที่เรากำลังขึ้นบรรได ก็ได้ยินเสียงเหมือนบทสวดมนต์เป็นภาษาเขมร เรารีบหยิบโทรศัพท์แล้วรับออกจากห้อง ขณะที่กำลังจะเดินลงบรรได ฉันหันไปเห็นผู้หญิงที่เหยียบหน้าอกฉัน ยืนอยู่ที่มุมห้อง แล้วค่อย ๆ เดินมาหาพวกเรา
จบ......ขอบคุณเรื่องราวดีๆจากกระทู้pantip

19/01/2020

ขออภัยนะครับเนื่องจากช่วงนี้ แอดเตรียมตัวสอบเลยไม่ได่อัพเดตเรื่องราวความหลอนลงในเพจให้ทุกท่านได้อ่านขอประทานอภัยเป็นอย่างสูงครับ😂

เรื่องราวจาก คุณจ๊อด..........................................................................มีเรื่องที่ผมเคยเจอมาเมื่อ...
17/01/2020

เรื่องราวจาก คุณจ๊อด..........................................................................

มีเรื่องที่ผมเคยเจอมาเมื่อ 16ปีแล้วแต่พอจำได้
เคยได้ยินคนในหมู่บ้านพูดกัน ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาเจอกับตัวเอง

ตอนนั้นป.6 ผมเดินดูเบ็ดที่ตัวเองปักไว้ตามคันนาช่วงเที่ยงคืน-ตี1
ไปกัน3คน มีเพื่อนคนนึงเสร็จก่อนจนเดินไปเกือบจะถึงมอไซแล้ว
ส่วนผมระหว่างเดินกลับไปที่รถมอไซที่จอดไว้ห่างประมาน500เมตร…

ก็เจอเข้ากับแสงวูบวาบสีแดงดวงใหญ่ประมาณลูกวอลเล่ย์บอลลอยอยู่
เหนือกิ่งไม้ห่างจากผมไม่ไกลมากนัก แต่จะใกล้กับเพื่อนผมมากกว่า
ห่างจากเพื่อนผมประมาณไม่ถึงร้อยเมตร ผมหยุดดับไฟและพยามเพ่งมองดีๆ

ก็เห็นช่วงที่ดวงไฟนั้นกำลังสว่างเห็นเป็นด้านข้างคล้ายใบหน้าผู้หญิงคนนึง
ระหว่างเพ่งมองว่าใช่หรือไม่ ตอนนั้นคำตอบในใจมีอยู่แล้วเตรียมสับแล้ว55555
เห็นเพื่อนคนที่อยู่ใกล้กว่าส่องไฟจ้ำดิ่งวิ่งมาทางผมผมนี่ไม่มีรีรอวิ่งลืมเหนื่อยเลย 5555

ถึงรถบิดไปเจอกันที่บ้านเพื่อน ก็เลยถามเพื่อนคนที่อยู่ใกล้สุด มันบอกทีแรกก็ไม่เห็น
เพราะมัวแต่ก้มหน้าเปลี่ยนเหยื่อ แต่พอเงยหน้าหางตามันเหนแสงไฟสีแดงก็หันไปดู
ก็เห็นแสงไฟนั่นมีไส้มีเครื่องในพ่วงมาด้วย ตอนนั้นมันสติแทบแตก
เช้ามาก็ไปเก็บเบ็ดกันปกติ หลังจากนั้นก็ไม่เคยเจออีกเลย

แต่ลุงบ้านหน้าปากซอยแกเจอที่สวนของแก แกเล่าให้พ่อผมฟัง
และพ่อผมก็มาเล่าให้แม่กับผมฟัง ลุงแกเสียงไก่ร้อง เลยแอบถือมีดแอบย่องไปดู
ก็เห็นแสงไฟใบหน้าผู้หญิงคนนั้นอย่างขัดเจน แกเหนมันกำลังจะขโมยไก่ที่นอนบนกิ่งมะม่วง

ลุงแกเลยถือมีดพร้อมตะโกนด่าถ้าไม่ไปไกลๆ กูจะฟันคอฟันไส้ให้ขาดเลย
กระสือตัวนั้นก็ลอยหายไปแต่โดยดี แกบอกว่าเปนยายแก่ในหมู่บ้านอยู่คนเดียว
ไม่มีลูกหลานอยู่ด้วย แต่ไม่เอ่ยชื่อแกให้พ่อฟังแต่พ่อแม่ก็พอเดาออกปัจจุบัน
ยายคนนั้นเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว และคนในหมู่บ้านก็ไม่เคยมีใครพบเจอกระสืออีกเลย
Story by คุณจ็อด

17/01/2020

ใครใจดีช่วยแชร์เพจให้แอดหน่อยหนาาา😍😍😍 ปล.ตอนเย็นมีเรื่องเล่าหลอนจากคนในหมู่บ้านมาให้อ่านครับ🤗🤗🤗 อย่าลืมแชร์เด้อ5555

16/01/2020

IทักผีตายโหงI
ติดตามผลงานผ่านทางYoutube: https://youtu.be/H0k7Ju4_c9s................................................................................................
เรื่องเล่าเขย่าขวัญEp.3 IทักผีตายโหงI เปิดตำนานความเชื่อ ความลี้ลับ เรื่องราวเขย่าขวัญ เรื่องผีๆ เรื่องเล่าจากประสบการณ์จริงจากคนจริงๆ คุณคิดว่าผีมีจริงหรือไม่กับเงาสยองที่จะพาคุณเข้าสู่โลกอาถรรพ์และความลี้ลับในรายการเรื่องเล่าเขย่าขวัญ

เนื่องในโอกาสวันครู๑๖ มกราคม ๒๕๖๓🙏🙏🙏 #ครูไทย  #รักศิษย์  #คิดพัฒนา
16/01/2020

เนื่องในโอกาสวันครู๑๖ มกราคม ๒๕๖๓🙏🙏🙏
#ครูไทย #รักศิษย์ #คิดพัฒนา

ครูไทย รักศิษย์ คิดพัฒนา........................................
เนื่องในโอกาสวันครูที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓........................................
การสอนคนนั้นไม่ยาก แต่การสร้างคนนั้นแสนยาก
ครูคือวิศวะไม่ใช่เพื่อสร้างตึกหรืออาคารแต่ครูเป็นวิศวะที่ต้องใช้สร้างคน วิศวะที่สร้างฐานตึกไม่ดีตึกอาคารจะต้องพังในไม่นานฉันใด ครูผู้สร้างคนซึ่งเป็นฐานของสังคมและประเทศไม่ดีฉันใดประเทศก็จะวิบัติฉันนั้น ครูนั้นต้องพร้อมด้วยจิตวิญญาณ ครูนั้นคือผู้ให้ที่แท้จริง ทุกสาขาอาชีพกว่าจะประสบความสำเร็จนั้นล้วนแต่ต้องผ่านการฝึกอบรมจากครูมาทั้งสิ้นครูนั้นต้องเสียสละทั้งแรงกายแรงใจเพื่อพัฒนาศิษย์ของตนทุ่มเทในการทำงาน ครูนั้นจึงเป็นอาชีพที่มีเกียรติควรแก่การยกย่องสรรเสริญ.................................................................

กล้วยไม้มีดอกช้า ฉันใด
การศึกษาเป็นไป เช่นนั้น
แต่ออกดอกคราวไร งามเด่น
งานสั่งสอนปลูกปั้น เสร็จแล้วแสนงาม

#ดอกกล้วยไม้ดอกไม้ประจำวันครู....................................................................
"เป็นครูใช่ไหม ขอฝากเด็กๆด้วยนะ ช่วยสอนให้เขาเป็นคนดี"
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.๙
เมื่อคราวเสด็จประพาสภาคเหนือเป็นครั้งแรก
วันที่ ๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๐๑ อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย

สวัสดีครับชาวเงาสยองทุกท่านวันนี้เราก็มีเรื่องราวสุดยองเรื่องผีๆนำมาให้ทุกท่านได้อ่านกัน...................................
15/01/2020

สวัสดีครับชาวเงาสยองทุกท่านวันนี้เราก็มีเรื่องราวสุดยองเรื่องผีๆนำมาให้ทุกท่านได้อ่านกัน..............................................................................
ผีตายโหง คือคนที่เสียชีวิตแบบไม่ทันตั้งตัว หรือเสียชีวิตแบบไม่เป็นไปตามธรรมชาติ เช่น ถูกยิงตาย จมน้ำตาย รถชนตาย ฆ่าตัวตาย รวมไปถึงการตายทั้งกลมในท้องแม่ ก็ถือว่าเป็นการตายแบบตายโหงเช่นกัน
ผีตายโหงถือเป็นผีที่จิตไม่ปกติ เนื่องจากจิตหรืออารมณ์สุดท้ายก่อนตายยังคงติดอยู่กับความรู้สึกหวาดกลัว ความอาลัยอาวรณ์ ความอาฆาตแค้น หรือความตกใจ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ยังไม่ได้ตั้งใจจะตาย จึงทำให้ยังไม่สามารถทำใจกับการเสียชีวิตของตนเองได้ ผีตายโหงจึงมักติดอยู่ในบ่วงแห่งอารมณ์จนไม่มีความสงบสุข ถือเป็นวิญญาณที่ทรมาน และยังคงเที่ยวปรากฏกายให้คนที่ยังมีชีวิตอยู่พบเห็นตน และยิ่งถ้าเป็นผีตายโหงที่ตายในขณะที่ยังมีความอาฆาตพยาบาทต่อเรื่องใดเรื่องหนึ่งอยู่ ก็จะยิ่งมีความดุร้ายมากเป็นพิเศษโดยทั่วไป ผีตายโหงมักจะสิงสถิตอยู่กับในบริเวณที่ตัวเองตาย เช่น หากตามด้วยอุบัติเหตุ วิญญาณก็จะยังคงเฝ้าถนนบริเวณนั้นอยู่ เมื่อมีคนมาตายแทนที่ จึงจะสามารถไปผุดไปเกิดได้..............................................................................
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว เราเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่มีเพื่อนผู้ชายเยอะพอสมควร
แต่การที่คบเพื่อนผู้ชาย ไม่ได้หมายความว่าจะแรดนะ แต่แค่คิดว่า
เพื่อนผู้ชายมันจริงใจกว่าเพื่อนผู้หญิงบางคนหน่ะ มีอยู่วันนึงเราและเพื่อนๆอีกประมาณ4คน
ก็ไปนั่งกินหมูกระทะกันที่บ้านเพื่อนคนนึง ตอนนั้นเป็นตอนเย็นวันศุกร์
พวกเราก็นั่งกินกันไปเรื่อยๆ และแน่นอนการกินในครั้งนั้น ไม่ได้มีการกินแค่หมูย่างแน่ๆ
มันต้องมีกินเหล้า เบียร์ ตามประสาวัยรุ่น พวกเราก็กินกันไปได้สักพักหนึ่ง
แต่พวกเราก็สังเกตุได้ว่าเพื่อนเราคนนึง ขอใช้ชื่อย่อว่า น. ไม่กินเหล้าหรืออะไรก็ตาม
ที่เกี่ยวกับแอลกอฮอล์หรือยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขเลย พวกเราก็เลยถามว่า
“เห้ย ทำไมไม่กินเหล้าอะ” น.ก็ตอบว่าไม่กินอะ ไม่อยากกิน พวกเราก็ไม่ได้สนใจอะไร
ก็กินกันต่อ กินกันไปอีกสักพัก เราก็แบบเออเป็นคนขี้สงสัยก็อยากจะรู้จริงๆ
ว่าทำไมมันไม่ยอมกินของพวกนี้ เราก็เลยไปถาม น. อีก คราวนี้เหมือน
น.คงจะรำคาญแหละมั้ง เลยเล่าเรื่องทั้งหมดให้ทุกคนในวงนั้นฟังว่า
เมื่อก่อน ก่อนที่ น. จะย้ายเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ น.อยู่ภาคใต้มาก่อน และตอนนั้น
น.ก็เหมือนกินเหล้า สูบบุหรี่ ทำอะไรหลายอย่างที่ไม่ดีที่เด็กไม่ควรทำ
เกี่ยวกับอบายมุขทั้งหลาย มีอยู่วันนึง แม่ของ น. จับได้ว่า น. มีพฤติกรรมไม่ดีแบบนี้
เลยบอกกับ น.ว่า ปีหน้าก็จะต้องไปอยู่กรุงเทพฯแล้ว ถ้าทำตัวแบบนี้แล้วไปอยู่กรุงเทพฯ
คงจะเป็นหนักกว่านี้แน่เลย แม่ของ น. จัดการกับ น.ขั้นเด็ดขาด
โดยการที่เอา น.เหมือนพาไปทำพิธีในแบบของเค้าคือ เอา น.ไปฝากกับผีตายโหง
แล้วก็บอกว่า ถ้าต่อไปนี้ น.ไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้อีก
ให้ผีตายโหงเอาตัวไปได้เลย ตั้งแต่นั้น น.ก็เลยไม่ยุ่งเกี่ยวอีกเลย
พอ น.เล่าจบ เราก็สองจิตสองใจว่าจะเชื่อดีหรือไม่เชื่อดี ไอเราก็ปากพล่อย
พูดขึ้นไปเลยว่า “ผีตายโหงหรอ มีจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้” พอเราพูดจบเท่านั้นแหละ
ก็มีเหมือนใครเอาอะไรคว้างเข้ามาโดนกระจกหน้าต่างของบ้าน แต่บอกก่อนนะคะว่า
บ้านที่เราไปนั่งกินกัน จะมีหมาที่เลี้ยงไว้อยู่หลายตัว ข้างๆบ้านจะมีเนื้อที่ไว้จอดรถ
และหลังบ้านจะเป็นเหมือนพื้นที่ที่มีหญ้าขึ้นสูง แต่เสียงที่ได้ยิน
มันมาจากทางหน้าต่างหลังบ้าน ซึ่งมันมีโอกาสยากที่จะมีใครหรืออะไรเขวี่ยงมา
แต่เราก็ไม่ได้คิดอะไร ได้แต่นั่งเงียบและก็ทำตัวตามปกติ แต่ในใจนี่คิดแล้วแหละว่า
กูต้องโดนแล้วแน่เลย แต่ทำไงไม่อยากเสียฟอร์มว่าเราเริ่มกลัวเลยเฮฮากันตามปกติ
พวกเราก็กินกันต่อจนเริ่มดึกขึ้น แต่ในหัวสมองเราตอนนั้นยังคิดเรื่องผีอยู่นะคะ
เหตุการณ์บางอย่างมันเหมือนเป็นใจเหลือเกินในวันนั้น อยู่ๆไฟก็ดับ
พวกเราทุกคนมานั่งรวมตัวกัน แล้วมองไปทางหลังบ้าน ทางที่เรามองไปทางหลังบ้าน
จะมีเสาอยู่ต้นหนึ่ง มีเรา เพื่อนเราอีก1คน บอกว่าเห็นเหมือนมีคนยืนอยู่ข้างเสาเลย
คือเราเห็นสองคนพร้อมกันจริงๆ แต่เราไม่ได้ถามคนอื่นว่าเห็นกันมั้ย
การตาฝาดมันเป็นไปได้ถ้าเราเห็นคนเดียว แต่นี่เราเห็นกับเพื่อนเราสองคน
เลยคิดว่าไม่ได้ตาฝาดแน่นอน เรากับเพื่อนอีกสองคนก็เริ่มกลัวและแต่ต้องเงียบๆ
ไม่ให้เตลิดกันหมด สักพักเหมือนมีอะไรดลใจพวกเราทั้ง4คนหันไปทางกำแพงข้างบ้าน
พวกเราเห็นเหมือนกันหมดว่ามีคนเหมือนจะปีนเข้ามาในบ้าน แต่มองยังไงก็ไม่น่าใช่คน
แถวบ้านนี้ไม่มีคนสติไม่ดีนะ และก็เป็นบ้านที่เค้าจะอยู่กันแบบสันโดด ไม่มีใครยุ่งกับใคร
แล้วอีกอย่างเวลานั้นมันก็ดีกแล้วด้วย ตอนนั้นพวกเรากลัวมาก
ก็นั่งจับกลุ่มกันจนกระทั่งไฟมา แล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้านเลย
เวลาก็ผ่านไปเสาร์-อาทิตย์ สองวันนี้เรารู้สึกเหมือนมีคนมองเราตลอดเวลา
ไม่ว่าจะตอนก่อนนอน กำลังหลับตานอน อาบน้ำ หรือทำไรอยู่ก็ตาม
แต่มันเป็นแค่ความรู้สึก เราก็คิดว่าเราคงยังกลัวอยู่เลยคิดไปเองแล้วแหละ
แต่สิ่งที่สังเกตุว่ามันเริ่มไม่ปกติคือว่า เรากินอะไรก็ตาม เราจะกินเยอะมากกว่าปกติหลายเท่า
ปกติเรากินข้าวนะ เต็มที่เลยสั่งข้าวพิเศษจานเดียวก็อิ่มแล้ว แต่นี่กินพิเศษ2จาน
ยังรู้สึกไม่ตกถึงท้องเลย อยากกินขนมหวานๆตลอดเวลา เป็นอย่างนั้นอยู่สองวัน
พอมาถึงวันจันทร์จะต้องไปโรงเรียน เราก็อาบน้ำตอนเช้าเสร็จก็จะเข้ามาในห้องเพื่อจะแต่งตัว
ห้องเราถ้าเปิดประตูเข้ามาก็จะมีโต๊ะเขียนหนังสืออยู่ซ้ายมือ เตียงนอนอยู่ขวามือ
ตรงไปอีกหน่อยก็จะเป็นตู้เสื้อผ้า และก็หน้าต่าง เราเป็นคนอ่านหนังสือ
เกี่ยวกับสิ่งลี้ลับเกี่ยวกับผีนะ เราก็มีหนังสือผีอยู่เล่มนึงวางไว้บนโต๊ะ
บอกทุกคนก่อนนะคะว่า ตอนเราเข้ามาในห้อง เราไม่ได้เปิดพัดลม หรือหน้าต่างแต่อย่างใด
เรากำลังจะแต่งตัวและ อยู่ๆหนังสือผีเล่มนั้นที่วางไว้บนโต๊ะก็เปิดเอง
เราก็เดินไปดูว่ามันเปิดเองได้ไง พอเราเดินไปดูหนังสือมันก็เปิดไว้ที่หน้านึง
หน้านั้นมันมีตัวหนังสือเขียนว่า ผีตายโหง ชัดเจนมาก เราตกใจสุดๆ รวบรวมสติให้ได้มากที่สุด
แต่งตัวไปเรียน และทั้งวันนั้นเราไม่ค่อยมีจิตใจจะเรียนเลย มัวแต่คิดถึงเรื่องเมื่อเช้าอยู่
แต่เราก็ไม่ได้บอกเพื่อนเราอีก3คนที่ไปในวันนั้นนะว่ามันเกิดอะไรขึ้น
พอตกเย็นอยู่ๆน้าเราก็โทรมาบอกว่าให้เข้ามาหาปู่หน่อย
ใจเราตอนนั้นคิดและว่ามันต้องมีไรแน่นอน
(ปู่ของเรานี่หมายถึงปู่ฤาษีนะคะ น้าเราเป็นร่างทรงสื่อสารกับปู่ได้) พอเราเข้าไปหาปู่
เราก็เหมือนมีอาการแบบเกร็งๆ ไม่ค่อยอยากมองหน้าปู่สักเท่าไหร่ ปู่พูดกับเราว่า
“เคยสอนแล้วใช่มั้ยว่าอย่าปากไม่ดีกับสิ่งที่มองไม่เห็น” เราก็นึกขึ้นมาเลย
ว่าต้องเป็นเรื่องที่เราพูดเมื่อวันศุกร์แน่เลย เราทำอะไรไม่ได้นอกจากบอกปู่ว่า
“หนูขอโทษแต่หนูพูดออกไปแล้ว แล้วจะให้หนูทำยังไงหละคะ” ปู่เราก็เลย
เอาขันน้ำมนต์มาแล้วก็จุดเทียนแล้วก็ทำให้น้ำตาเทียนมันหยดลงในน้ำมนต์
บอกทุกคนนะคะว่าเทียนที่ใช้หยดเป็นเทียนสีขาว แต่น้ำตาเทียนที่หยดลงไปในน้ำ
มันกลายเป็นสีดำหมดเลยค่ะ เราเห็นว่ามันเป็นแบบนั้น เดาได้เลยว่า
มันต้องมีอะไรที่แย่แน่ๆ ปู่หยดเสร็จแกก็นั่งหลับตาทำปากพึมพรำๆอยู่สักพัก
แกก็ลืมตามาบอกเราว่า ตอนนี้มีผีตามเรา เข้าเป็นผีตายโหงนะ แต่ว่าตายท้องกลมด้วย
เค้าบอกว่าเอ็งไม่เชื่อหนิว่าเค้าไม่มีจริง เค้าเลยพยายามทำให้เอ็งรู้ไงว่าเค้ามีจริงๆ
เราก็ถามปู่เลยว่า ปู่รู้หรือเปล่าว่าเค้ามาจากไหน ปู่ก็หลับตาสักพัก
แล้วก็ลืมตามาพูดกับเราว่า มาจากทางใต้ของประเทศ แล้วปู่ก็บอกกับเราว่า
ของเค้าแรงนะ ทำไมเอ็งไม่เคยเชื่อปู่เลย อยู่ๆเราก็เริ่มไม่เป็นตัวของตัวเองคะ
เริ่มเกร็งแล้วก็เหมือนจะมีใครมาบังคับเราให้พูดหรือร้องไห้ประมาณนี่
ตอนนั้นเรายังพอมีสติเราก็เริ่มเถียงกับในใจของเราว่า เห้ยนี่เราเป็นเองหรือเปล่าวะ
หรือมีอะไรมาทำให้เราเป็นแบบนี้ เท่านั้นแหละปู่สั่งให้เรานอนหงายราบกับพื้น
เราตกใจมากเลย คือเราไม่เห็นด้วยตาตัวเองเราไม่เชื่อเลย
อยู่ๆท้องเราก็เริ่มใหญ่ขึ้นมาเอง และก็ปวดท้องมาก เริ่มร้องไห้ เริ่มคุมตัวเองไม่ได้
แต่เราจำเหตุการณ์ได้ทุกอย่าง ปู่หยิบไม้เท้ามากดที่ท้องเรา แล้วก็ท่องคาถาของปู่
เราก็เริ่มร้องหนักขึ้น อยากกรี๊ดอยากร้องระบายออกมา
แต่เรากลัวว่าคนแถวนั้นจะว่าเราบ้า เลยได้แต่กัดฟันแต่เหมือนเราจะทนไม่ไหว
เลยกรี๊ดออกมาจนได้ พอกรี๊ดจบ ท้องเราก็ค่อยๆแฟบลงๆ
เหมือนอาการอะไรหลายๆอย่างเริ่มเบาลง เราก็ลุกขึ้นนั่ง ปู่ก็กลับไปนั่งที่
แล้วทำน้ำมนต์ให้เรากิน เรากินไป ปู่บอกให้ไปเอาถุงดำมาใส่อ้วก
เราก็บอกปู่ว่า “หนูจะอ้วกได้ไงปู่ หนูไม่มีอาการแม้แต่จะคลื่นไส้หรืออยากอ้วกเลย”
แต่เราก็ต้องเดินไปหยิบมาเพราะมันเป็นคำสั่งปู่ เราหยิบถุงดำมาเท่านั้นแหละ
อยู่ๆเราก็อ้วกเลย คือแบบอ้วกออกมาเหมือนเราไม่เคยอ้วกมาก่อน
ในอ้วกเรามีเส้นผม มีเหมือนเศษผ้าสีขาวๆ และก็มีเป็นเหมือนลิ่มเลือดดำๆออกมาด้วย
ปู่บอกเสร็จแล้วให้เอาไปเผา พอเราทำอะไรเสร็จเรียบร้อย เรามานั่งคุยกับปู่ต่อ
เราก็เลยถามว่าตกลงเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ปู่ ปู่บอกว่า วันที่เอ็งไปพูดว่าเค้าไม่มีจริงนะ
ตั้งแต่ตอนนั้นเค้าก็ตามเอ็งมาเลย เค้าตายท้องกลมนะ โดนฆ่าตาย และศพไม่ได้เผา
อย่าไปพูดถึงเค้าอีก อย่าลบหลู่เค้า คนก็อยู่ส่วนคน ผีก็อยู่ส่วนผี
คราวหลังให้จำใส่หัวเอาไว้เลยว่า สื่งที่เราไม่เห็นมันมีจริงมีทุกที่แต่แค่เรา
มองด้วยตาเนื้อไม่ได้เท่านั้นเอง จำเอาไว้ แล้วพรุ่งนี้ไปใส่บาตรทำบุญเลย อุทิศให้เค้าด้วย
หลังจากวันนั้นมามันทำให้เราเข็ดและไม่กล้าพูดอะไรพล่อยๆออกจากปากเราอีกเลย
และเราก็ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับ น.ด้วย เพราะกลัวว่ามันจะหาว่าเราโกหก.................................................................................
ถ้าอ่านแล้วชอบใจอย่าลืมกดไลค์👍 กดแชร์↗️และติดตาม🔔เพจเงาสยองของเราด้วยนะครับท่านจะได้ไม่พลาดเรื่องราวหลอนๆสยองขวัญแบบนี้ในทุกสัปดาห์❤️❤️

Address


Website

Alerts

Be the first to know and let us send you an email when เงาสยอง posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Contact The Business

Send a message to เงาสยอง:

Shortcuts

  • Address
  • Alerts
  • Contact The Business
  • Claim ownership or report listing
  • Want your business to be the top-listed Media Company?

Share