ฮาคนเมือง เรดิโอ

  • Home
  • ฮาคนเมือง เรดิโอ

ฮาคนเมือง เรดิโอ ข่าวสารความเป็นอยู่ วัฒนธรรม ประเว?

20/02/2018

นิทานแมงสี่หูห้าตา

เพลงโฟร์คซองล้านนา / Folk song Lanna

😞😔😢
15/09/2017

😞😔😢

23/05/2017
ตำฮามะเก่า
23/05/2017

ตำฮามะเก่า

คิดไงกับรูปนี้ครับ.???
13/04/2017

คิดไงกับรูปนี้ครับ.???

 #ต้นกำเนิดร้าน.  "ลาบต้นยาง" เจ้าดังของจังหวัดเชียงใหม่ร้าน ลาบต้นยาง ก่อกำเนิดเกิดขึ้นมาจาก ป้อเฒ่าหน้อยตั๋น คนบ้านห้ว...
07/04/2017

#ต้นกำเนิดร้าน.
"ลาบต้นยาง"
เจ้าดังของจังหวัดเชียงใหม่
ร้าน ลาบต้นยาง ก่อกำเนิดเกิดขึ้นมาจาก
ป้อเฒ่าหน้อยตั๋น คนบ้านห้วยเป้ง
ต.บ้านเอื้อม อ.เมือง จ.ลำปาง
ป้อเฒ่าหน้อยตั๋น มาสร้างครอบครัวครั้งแรก
ที่บ้านหนองห้า ต.ปงแสนทอง อ.เมือง จ.ลำปาง
ก็ได้มาฮู้จักกับป้อเฒ่าหนานศรีนวล-แม่เฒ่ามิ่ง
คนบ้านบ่อแฮ้ว (คุณตา-คุณยายของครูบาทอง)
ซึ่งป้อเฒ่าหนานศรีนวล-แม่เฒ่ามิ่ง
มีโรงย้อมผ้า ผลิตเสื้อผ้าหม้อฮ้อม
ออกจำหน่ายไปทั่วภาคเหนือ
ด้วยเป็นคนหัวค้าขาย ขยันขันแข็ง
หนักเอาเบาสู้ และชอบชีวิตเดินทางบุกเบิก
ในวัยหนุ่มแน่น ป้อเฒ่าหน้อยตั๋น
จึงไปรับเอาเสื้อผ้าหม้อฮ้อมจาก
โรงย้อมของป้อเฒ่าหนานศรีนวล-แม่เฒ่ามิ่ง
ขึ้นรถไฟจากลำปาง มาเจียงใหม่
มาเดินเร่ขายตามอำเภอต่างๆในจังหวัดเชียงใหม่
เมื่อป้อเฒ่าหน้อยตั๋นไปเร่ขายเสื้อผ้าหม้อฮ้อม
ที่อำเภอแม่แตง ก็ได้ไปพบรักกับ
สาวแม่แตงคนงามอีกคนหนึ่ง
ท่านจึงได้สร้างครอบครัวขึ้นมาอีก1ครอบครัว
และได้นำพาครอบครัวจากอำเภอแม่แตงนี้
อพยพมาอยู่ในตัวเมืองเจียงใหม่ มองหาทำเลค้าขาย
ป้อเฒ่าหน้อยตั๋น จึงได้เปิดร้านขายลาบเล็กๆ
ขึ้นที่ข้างๆกาดประตุเชียงใหม่
ตรงข้างน้ำคูเมืองด้านใน
ตรงหน้าร้าน มีต้นยางใหญ่ริมคูเมือง
ปลูกรุ่นสมัยเดียวกันกับ
ต้นยางข้างถนนเจียงใหม่-หละปูน
สมัยนั้น มี2ต้น สูงใหญ่มากกกกกกกก
จึงเป็นที่มาของชื่อร้านว่า "ร้านลาบต้นยาง"
ขวัญใจ๋คนจน สามล้อ-สี่ล้อ จอดกันยาวเหยียด
ยามเติงคาบเข้าตอน คนเจียงใหม่หลั่งไหล
กันมากินลาบร้านนี้อย่างมืดฟ้ามัวดิน
ยิ่งเป็นแลงวันพุธ จะยิ่งวุ่นวาย
เต็มไปด้วยรถจอดกันยาวเหยียด
คนเข้าแถวยืนรอ เพราะทุกแลงวันพุธ
ป้อเฒ่าหน้อยตั๋น จะทำ "หลู้เลือด"
ขาย วันเดียว เท่านั้น วันอื่น บ่าทำ
เพราะสูตรหลู้เลือดหมูของเปิ้นนั้น
ทำยาก ทำเมิน ทำละเอียด ทำสะอาด
ถ้าทำหลู้เลือดหมูขายทุกวัน
ป้อเฒ่าหน้อยตั๋นบอกว่า บ่าต้องทำอย่างอื่นกันพอดี
ทำวันเดียว มอกหื้อแฟนคลับได้กินได้ลิ้มลอง ปอละ
สาเหตุที่ร้านลาบต้นยางของป้อเฒ่าหน้อยตั๋น
โด่งดังก็เพราะเปิ้นมีสูตรเด็ดตรง "น้ำพริกลาบ"
โดยใช้น้ำพริกลาบสูตรเด็ด
เป็นสูตรน้ำพริกลาบจากลำปาง
ซึ่งจะหนักบ่าแหลบบ่าแขว่น
แตกต่างจากน้ำพริกลาบสูตรเจียงใหม่
จากวันนั้น ถึงวันนี้ หลายสิบปี ผ่านมา
ร้าน"ลาบต้นยาง" ก็ได้เจริญเติบโต
กลายเป็นร้านลาบคู่บ้านคุ่เมืองของจังหวัดเจียงใหม่
มาอย่างยาวนาน จะมีไผฮู้พ่องว่า
ร้านลาบอันโด่งดังนี้ จริงๆแล้ว เป๋นลาบสูตรลำปาง !!!!!!!!!
(ครั้งแรกในชีวิตครูบาทอง ได้มากินลาบ ร้านลาบต้นยาง เมื่อครูบาทองอายุได้ 10ขวบ เดินทางมากับคุณตา
ป้อเฒ่าหนานศรีนวล มาจากลำปาง มาแอ่วเจียงใหม่
แล้วคุณตาปามาแว่แอ่วหาป้อเฒ่าหน้อยตั๋น
ลวดเอาผ้าหม้อฮ่อมมาส่งหื้อเปิ้นขาย
ตามที่ป้อเฒ่าหน้อยตั๋นเขียนจดหมายสั่ง
เอามาเตรียมไว้ขายในช่วงเทศกาลปีใหม่เมืองเมษายน)
ไผสนิทกับลูกหลานร้านลาบต้นยาง
ลองเอาบทความนี้หื้อเปิ้นอ่าน แล้วถามเปิ้นว่า
แม่นตามที่ครูบาทองว่ามานี่ก่อครับ ลองผ่อเน้อ

ขอบคุณเรื่องราวจากเพจครูบาทอง_พยุงศักดิ์ อัครเกื้อกูล

สัตว์น้ำสัตว์บก ตังนกอยู่ไม้ ก็เหงาเงียบให้ เววนบ่ร่ำร้อง ซอแซไซ้ขน กวงเรรน ต่ำก๊อยหม่นเหมี้ยงเพราะท่านไกล๋ จากวัดโต้งเอ...
22/03/2017

สัตว์น้ำสัตว์บก ตังนกอยู่ไม้ ก็เหงาเงียบให้ เววน
บ่ร่ำร้อง ซอแซไซ้ขน กวงเรรน ต่ำก๊อยหม่นเหมี้ยง
เพราะท่านไกล๋ จากวัดโต้งเอี้ยง ไกลเราไป คาดแคล้ว
ยินเสียดาย บ่ลืมบ่แล้ว พระผ่านแผ้วใจบาน
บ่ร่ำร้อง เถียงท่องเสียงหวาน บ่ขานนันเนือง โผมันมี่ก้อง
บ่ได้ยินเสียง สำเนียงทั่วห้อง ร่วมเรียมคอน คู่ชู้
ตัวเมียบ่ขัน เถี่ยงถ้องตัวผู้ บ่เหมือนก่อนกี้ตามเกย
พระท่านไธ้ พรากไปไกลเหย เมื่อใดเลย จักปิ๊กป๊อกเต้า
ศรีโคมคำ ต๋นหลวงพระเจ้า ตนโคดม พุทธะ
ไผจักมาเป็น ที่พิงเพิ่งพะ เหมือนก่อนกี้ ยามออน.................

หันละกึดเติงหาอุ้ยหม่อน
01/03/2017

หันละกึดเติงหาอุ้ยหม่อน

มาตอนค่ำๆครับ ไผมีหิ้วมาตวยเน่อ
26/02/2017

มาตอนค่ำๆครับ ไผมีหิ้วมาตวยเน่อ

กระเทียมดีอย่างไรมาดูกัน     สารอัลซิลิน (allicin) ที่มีในกระเทียมนอกจากจะมีสรรพคุณลดความดันโลหิตและลดไขมันในเลือดได้แล้...
22/02/2017

กระเทียมดีอย่างไรมาดูกัน

สารอัลซิลิน (allicin) ที่มีในกระเทียมนอกจากจะมีสรรพคุณลดความดันโลหิตและลดไขมันในเลือดได้แล้ว ก็ยังมีฤทธิ์ต่อต้านโรคเบาหวาน อีกทั้งมีการศึกษาพบว่าเอทานอลที่อยู่ในกระเทียมสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยเพิ่มการหลั่งของอินซูลินได้ ซึ่งถ้าอยากให้ได้ประโยชน์จากกระเทียมแบบเน้น ๆ อย่างนี้ก็ควรจะรับประทานกระเทียมแบบสด ๆ เพราะกระเที่ยมที่ผ่านความร้อนแล้วจะมีคุณค่าทางโภชนาการน้อยกว่ากระเทียมสดครับผม

ของลำยามค่ำ
15/02/2017

ของลำยามค่ำ

แม้ว่าชื่ออาจจะแปลกไปสักนิด แต่สรรพคุณในการลดระดับน้ำตาลในเลือดนั้นไม่มีบกพร่องเลยแม้แต่น้อย โดยมีการศึกษาในสัตว์ทดลองพบ...
09/02/2017

แม้ว่าชื่ออาจจะแปลกไปสักนิด แต่สรรพคุณในการลดระดับน้ำตาลในเลือดนั้นไม่มีบกพร่องเลยแม้แต่น้อย โดยมีการศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่า สารสกัดของใบตดหมูตดหมาสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ด้วยการเพิ่มการหลั่งของอินซูลินในร่างกาย อีกทั้งสมุนไพรชนิดนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอีกเพียบ และลดไขมันในเลือดได้ ขณะที่สรรพคุณทางยาพื้นบ้านก็ยังมีอีกไม่น้อย ไม่ว่าจะช่วยล้างพิษ แก้ท้องอืด ท้องผูก ถ่ายพยาธิ แก้อ่อนเพลีย ตกเลือด หรือแม้แต่แก้ปวดเมื่อยก็ช่วยได้เช่นกัน เป็นสมุนไพรพื้นบ้านไทยที่นำมาใช้แล้วไม่ผิดหวัง

หอม....
08/02/2017

หอม....

ท่านใดเจอครูบาก่ร่วมถวายน้ำดื่มได้ครับ
08/02/2017

ท่านใดเจอครูบาก่ร่วมถวายน้ำดื่มได้ครับ

 #คำให้สัมภาษณ์เจ้านางองค์สุดท้ายของเชียงตุง เจ้าสุคันธา ณ เชียงใหม่  #ตอนที่ 4.....ท่านปกครองอย่างไรค๊ะ......เคยมีอยู่ค...
29/01/2017

#คำให้สัมภาษณ์เจ้านางองค์สุดท้ายของเชียงตุง เจ้าสุคันธา ณ เชียงใหม่ #ตอนที่ 4.....ท่านปกครองอย่างไรค๊ะ......
เคยมีอยู่ครั้งหนึ่ง ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ฝรั่งกำลังล่าเมืองขึ้น แคว้นสิบสองปันนาซึ่งเป็นพวกไทยลื้อ
ได้ถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน
และถูกครอบครองโดยคนสามชาติด้วยกัน เมืองย็อง เมืองแฮ่ เมืองขัน เมืองลื้อ เมืองหลุย ขึ้นกับอังกฤษ แต่ยกให้
เชียงตุงปกครอง เมืองเชียงรุ่ง เมืองน้า เมืองลา เมืองหัน นั้นขึ้นกับจีน ส่วนเมืองที่เหลือตกเป็นของฝรั่งเศส
ต่อมาเมืองทั้งห้าเมือง ที่เชียงตุงปกครองโดยเชียงตุงเกิดไม่พอใจขึ้นมาต้องการที่จะขึ้นกับอังกฤษ โดยตรง
ไม่อยากถูกปกครองโดยเชียงตุงอีกต่อไปคิดตั้งตัวเป็นกบฏ เจ้าฟ้ากองไตย พี่ชายของฉัน
ซึ่งเป็นอุปราชเมืองเชียงตุงในสมัยนั้น
จึงขอประทานอนุญาตจากเจ้าพ่อไปสืบราชการที่เมืองย็อง จากนั้นท่านก็จัดการแต่งตัวเป็นฝรั่ง
เดินทางไปกับคณะข้าหลวงของอังกฤษโดยไม่มีใครในเมืองทราบเลยว่าท่านคืออุปราช
ระหว่างที่พวกเจ้านายและข้าราชการเมืองย็องเข้าหารือกับข้าหลวงอังกฤษเรื่อง ขอขึ้นตรงกับอังกฤษ
วันนั้นเองที่พี่ชายฉันสั่งจับกบฏเมืองย็องได้ทั้งกลุ่ม
ภายหลังกบฏกลุ่มนี้ได้ถูกส่งไปติดคุกที่เมืองตองกี จำได้ว่าสมัยก่อนที่เจ้าพ่อปกครองโทษประหารของเชียงตุงคือ
การตัดหัวและแขวนคอ แต่เนื่องจากเจ้าพ่อถือศีลเลยลดโทษประหารซึ่งเป็นโทษหนักที่สุดเหลือเพียง
ติดคุกนานเพียงสิบปี สำหรับคดีฆ่าคนตาย
...............ท่านมีโอกาสไปเที่ยวไหนไกลๆไหมค๊ะ.....
ฉันไม่เคยไปเที่ยวไหนไกลๆหรอก แค่เมืองพม่าเท่านั้นเอง สมัยนั้นที่สนุกหน่อย
คือการได้มีโอกาสได้ติดตามเจ้าพ่อไปประชุมที่ต่องกี
เพราะเขามักจะมีงานเลี้ยงที่นั้นทุกคืน นอกจากนั้นก็ไปเที่ยวเมืองย่างกุ้ง และมัณฑะเลย์กับเจ้าแม่
ที่มัณฑะเลย์นั้นฉันกับเจ้าแม่ได้ไปนมัสการพระเจ้าละแข่งเป็นภาษาพม่า แปลว่าพระโพธิสัตว์ ยังจำได้ว่าทั่วทั้งองค์
เหลืองอร่ามงดงามไปด้วยทองเปลวจากการศรัทธาของบรรดา พุทธศาสนิกชน เขาว่ากันว่าศักดิ์สิทธิ์นัก
ถ้าเป็นคนบาปจะมองไม่เห็นองค์ท่านส่วนเจดีย์ชะเวดากองที่อย่างกุ้งนั้นไม่มี ตำนานอะไร แต่พอไปถึงที่นั่นจะมีคนตั้ง
แผงขายทองเปลวเป็นทองคำแท้หนักห้าบาท อยู่ทั้วบริเวณองค์เจดีย์ แต่พอซื้อแล้วคนขายจะเป็นคนนำขึ้นไปปิดองค์
เจดีย์ให้เราฉันกำลังจะได้ไป เที่ยวเมืองมะละแหม่งอยู่แล้วพอดีพี่สาวโทรเลขมาเรียกตัวกลับไป
เลยยังไม่มี โอกาสได้เห็นสักที
........ที่เชียงตุงมีงานเทศกาลบ้างไหมค๊ะ.....
แต่ละปีจะมีงานอยู่สอง ครั้ง งานหนึ่งคืองานที่โป่งน้ำร้อน ซึ่งอยู่ไกล้กับเมืองไทยห่างจากเวียงมาก
ประมาณสิบกว่ากิโลเมตร
ที่นั่นจะมีบ่อน้ำร้อนอยุ่สามบ่อ แต่ละบ่อกว้างเท่าห้องห้องหนึ่ง ขนาดใหญ่กว่าบ่อน้ำร้อนที่เชียงใหม่
เวลาที่น้ำเดือดแต่ละครั้งฟองอากาศจะกระเด็นสูงขึ้นไปเป็นเมตรแล้วไปตกลงใน ร่องที่เขาทำรองไว้
นอกจากนั้นเขายังทำร่องไว้อีกร่องหนึ่งเป็นร่องน้ำเย็นที่รองมาจากบ่น้ำอีก
แห่งหนึ่งต่อลงมายังที่อาบน้ำที่ทำเอาไว้ซึ่งหางจากบ่อน้ำร้อนประมาณกิโลเมตรหนึ่งได้
แล้วน้ำร้อนกับน้ำเย็นก็จะมาผสมกันพอดี
เจ้าพ่อโปรดให้สร้างห้องอาบน้ำสำหรับข้าราชบริพาร สามห้อง สำหรับเจ้าพ่อหนึ่งห้อง
สำหรับพวกเราผู้หญิงหนึ่งห้อง สำหรับราษฎรอีกหนึ่งห้อง
ห้องอาบน้ำไม่ได้ทำแบบหรูหราอะไรเพียงแต่ใช้ฟากไม้ไผ่มาทำเป็นฝกั้นพลับพลา
ภายในนั้นทำเป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่ลึกแค่เอว ใครมีชุดอาบน้ำก็ใส่รวมกันเป็นงานหน้าหนาวที่ใหญ่โต
และมีการละเล่นสนุกๆหลายอย่าง พอตกกลางคืนมีหนังมีละครตอนกลางวันมีซอ บางปียาวนานถึงเจ็ดวันบางปีก็ห้าวัน
แต่ถ้าปรกติไม่มีงานฉันกับน้องๆจะขับรถ ยนต์ไปที่นั่นด้วยตัวเองบ่อยๆ พอถึงเดือนห้าจะมีงานบอกไฟ เหมือนบ้องไฟ
อย่างเชียงใหม่ในงานนี้แต่ละหมู่บ้านจะแข่งกันทำบอกไฟแล้วนำมา จุดแข่งกันในวันนั้น บอกไฟของบ้านไหนที่ขึ้นได้
สูงสุดจะได้รับเงินรางวัลจากเจ้าพ่อ เป็นเงินแผ่นรูปกังสดาล เจาะรูตรงกลาง ร้อยด้าย ทำเป็นพวงคล้องคอผู้ชนะ........................
อ่านต่อตอนที่ 5

 #คำให้สัมภาษณ์เจ้านางองค์สุดท้ายของเชียงตุง เจ้าสุคันธา ณ เชียงใหม่   #ตอนที่ 3.......คุ้มใหญ่โตขนาดไหนค๊ะ.....เนื้อที่...
29/01/2017

#คำให้สัมภาษณ์เจ้านางองค์สุดท้ายของเชียงตุง เจ้าสุคันธา ณ เชียงใหม่ #ตอนที่ 3
.......คุ้มใหญ่โตขนาดไหนค๊ะ.....
เนื้อที่ของคุ้มกว้างประมาณสิบกว่าไร่ภายในนั้นนอกจากตำหนักของเจ้าพ่อและ ตำหนักของเจ้าย่าแล้ว
เจ้าพ่อยังสร้างบ้านไว้หลังหนึ่ง
สำหรับเจ้านางของเจ้าพ่อคลอดลูกเนื่องจากเมื่อก่อนลูกๆทุกคนของเจ้าพ่อคลอด
บนตึงใหญ่หรือตำหนักของเจ้าพ่อ แต่ท่านมีลูกหลายคน
ภายหลังจึงสร้างอีกหลังหนึ่งสำหรับเป็นที่คลอดโดยเฉพาะ
ตำหนักของเจ้าพ่อเป็นตึกสามชั้นแบบแขก ชั้นบนสุดเป็นที่ไว้หิ้งพระ
นอกนั้นเป็นที่ว่างเพราะไม่มีใครขึ้นไปอยู่พวกเราเด็กๆเลยชอบขึ้นไปเล่นกัน
ข้างบนนั้น มีอยู่วันหนึ่ง พี่ชายใหญ่ (เจ้าฟ้ากองไตย) กลับจากศาลากลางมาเห็นเข้า เลยโดนพี่ดุเสียยกใหญ่เลย
บนตำหนักมีห้องถึงเก้าห้อง แต่ละห้องใหญ่โตมากแบ่งออกเป็นสามปีกด้วยกัน ปีกซ้ายเป็นห้องของเจ้าพ่อ
ส่วนห้องโถงใหญ่ตรงปีกกลางนั้น เอาไว้สำหรับออกขุนนางเวลามีงานใหญ่งานโต ถัดไปทางด้านหลังอีกห้องหนึ่งเป็น
ห้องคลัง สำหรับเก็บเงินท้องพระคลัง ฉันยังจำได้ว่า เวลาที่พวกพนักงานเทเงินออกมานับ
บางทีเราโชคดีเราเล่นกันอยู่ข้างล่าง
จะมีเงินไหลลอดออกมาจากพื้นข้างบนได้มาครั้งละแถบๆ แต่เดี๋ยวนี้เค้าเรียกว่าเงินจ๊าดตามพม่าแล้ว
นอกจากนี้ยังมีห้องถัดไปทางหลังตึกอีกหนึ่งห้อง เป็นห้องของมหาเทวี ปีกขวาเป็นห้องของเจ้าจอมอีกสามห้อง
และห้องมหาดเล็กอีกหนึ่งห้อง ส่วนชั้นล่าง ที่ส่วนหนึ่งแบ่งไว้สำหรับต้อนรับเวลามีงานปีใหม่
หรือจะจัดงานเลี้ยงพวกเจ้าเมืองที่ขึ้นกับเมืองเชียงตุงเมื่อเข้ามาคารวะ เจ้าพ่อในพิธีคารวะ
...พิธีคารวะคืออะไรค๊ะ......
พิธีนี้จัดขึ้นปีละสองครั้ง ปีใหม่และออกพรรษาเป็นพิธีที่จัดขึ้นเพื่อแสดงความจงรักภักดี
ของเจ้าเมือง ต่างๆในอาณัติของเชียงตุง
พิธีนี้มีอยู่สองวันด้วยกัน วันแรกเรียกว่าวันกิ่นป๋าง เป็นวันที่เจ้าเมืองทุกคนจะรัปทานอาหารร่วมกับเจ้าพ่อ
โดยมีอาหารหลักเป็นพิเศษอยู่ห้าอย่างคือ แกงฮังเล น้ำซุปถั่วลันเตา ผักกุ่มดอง แคบหมูกับน้ำพริกอ่องและข้าวเหนียว
เสร็จจากนั้นวันที่สองถือเป็นวันคารวะ ในวันนี้เจ้าพ่องจะประทับบนแท่นแก้วส่วนพวกเจ้าเมืองจากสามสิบกว่าเมือง
จะทยอยกันเข้าไปในห้องพร้อมกับดอกไม้ธูปเทียนมาวางไว้ตรงหน้าแท่นที่เจ้าพ่อ ประทับคนละขัน
เชื่อไหมว่าเขาปักเทียนเล่มใหญ่อย่างกับท่อนไม้(ทำมือประกอบ) มาในขันที่ทำจากเงินแท้ ตีเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมบางๆ
เจาะรูตรงกลางประดับด้วยดอกบานไม่รู้โรยทั้งข้างบนข้างล่าง เสียบมาโดยรอบเทียนจำนวนห้าดอก
หลังจากนั้นเจ้าเมืองจะ " สูมา " หรือไหว้เจ้าพ่อ เจ้าพ่อให้พรตอบแล้ว
พวกช่างฟ้อนก็มาฟ้อนหางนกยูงให้พวกแขกบ้านแขกเมืองดู เป็นอันเสร็จพิธี
.......เจ้าพ่อของท่านดุไหมค๊ะ.....
ไม่ดุเพราะท่านเป็นอุบาสกที่เคร่งครัดมาก ยึดศีลห้าเป็นหลักประจำใจ สมัยนั้นถือเป็นกฏเลยว่า ถ้าใครไม่ถือศีลห้า
ไม่รับเข้าทำงานราชการ ลูกผู้ชายทุกคนต้องบวชเรียนเมื่อถึงเกณฑ์ จะบวชเณรหรือบวชพระก็ได้
เวลาเด็กคนไหนอายุครบยี่สิบเมื่อไหร่
จะต้องจัดงานบวชเณรให้และถ้าเป็นคน ธรรมดาสามัญ จะให้เณรนั่งแห่ไปบนม้าส่วนช้างนั้น เจ้าพ่อเท่านั้นจึงจะมีได้
ท่านมีช้างหลายเชือก เวลาปล่อยช้างออกมาเรียกว่าเต็มลานคุ้มเลย
เจ้าพ่อท่านเชี่ยวชาญมากสามารถปีนข้ามจากช้างเชือกหนึงไปอีกเชือกหนึ่งได้
โดยไม่ต้องลงมาที่พื้นและท่านจะมี " อาเปี่ยวต่อ"
หรือสาวใช้สามสี่คนคอยนั้งเฝ้ารับใช้ผู้ชายอีกสี่คนไว้สำหรับให้เจ้าพ่อ เรียกใช้
เรื่องคดีความอะไรในเชียงตุงเจ้าพ่อเป็นผู้ตัดสินเพียงผู้เดียว ฝรั่งไม่เกี่ยว เพียงแต่มาเป็นที่ปรึกษาเท่านั้น สมัยนั้น
ข้าหลวง รองข้าหลวง หมอ และนานทหารอังกฤษจะมาพักกันที่ดอยเหมย พวกอังกฤษชอบที่นี่มาก
เป็นสถานที่น่าอยู่ เนื่องจากเป็นดอยสูงที่สุดและสวยที่สุดในเชียงตุง....................

อย่างว่าคนมีความฮักครับ
29/01/2017

อย่างว่าคนมีความฮักครับ

สุดยอดบรรยากาศครับ
29/01/2017

สุดยอดบรรยากาศครับ

ลาบฟานตะคืนครับ
29/01/2017

ลาบฟานตะคืนครับ

ลาบปลามาเน่อครับ
29/01/2017

ลาบปลามาเน่อครับ

 #คำให้สัมภาษณ์เจ้านางองค์สุดท้ายของเชียงตุง ตอนที่ 2..........สมัยนั้นมีเพื่อนรุ่นเดียวกันที่สนิทๆไหมค๊ะ.....เพื่อนรุ่น...
28/01/2017

#คำให้สัมภาษณ์เจ้านางองค์สุดท้ายของเชียงตุง ตอนที่ 2
..........สมัยนั้นมีเพื่อนรุ่นเดียวกันที่สนิทๆไหมค๊ะ.....
เพื่อนรุ่นเดียวกันกับฉันสมัยนั้นเป็นลูกสาวเจ้าเมืองย๊อง ซึ่งเป็นเมืองขึ้นของเชียงตุงญาติทางเจ้าพ่อชื่อว่า
เจ้าเทพธิดา เดี๋ยวนี้เสียชีวิตแล้ว
เรากินนอนอยู่โรงเรียนเดียวกัน สมัยนั้นลูกของเจ้าพ่อที่ไปอยู่โรงเรียนเดียวกันมีสามคน คนใช้อีกสองคน
และเจ้าเทพธิดาอีกหนึ่งคน นอนห้องเดียวกัน
สมัยก่อน การคัดเลือกเด็กที่จะเอามาเป็นคนใช้เจ้านายนั้น เขาจะไม่เลือกจากเด็กที่เป็นลูกขุนนาง
แต่เลือกจากลูกของคนชั้นธรรมดา พวก " นาง " หรือ " ชาย " ในเชียงตุงมีคำเรียกคนตามชนชั้นต่างๆกัน
อย่างคำว่า " อุ๊นาง "
หมายถึงลูกสาวพระยา "อุ๊ไจ๊" หมายถึงลูกชายพระยา มาตอนหลังถึงไม่เรียก " อุ๊ " กันแล้วเพราะไม่เหลือคนที่มียศ
ตำแหน่งถึงขั้น " อุ๊ " เหลือแต่ นาง กับ ชาย เฉยๆ ขั้นต่ำลงมา จะเป็นไอ้ กับ อี
ส่วนพระนั้น มีหลายชั้น มีคำเรียกต่างกัน ตั้งแต่ ตุ๊ สิทธิ ครูบา จนถึง อายธรรม (อา-ยะ-ทำ)
อายธรรมคือตำแหน่งใหญ่ที่สุดเทียบได้กับสังฆราชของไทย แต่คำว่าพระในภาษาไทยหมายถึงเณรของเชียงตุง
........ที่ว่าเรียนจบมาช่วยเจ้าพ่อทำงานนั้น ทำอะไรบ้างค๊ะ.......
ฉันเรียนจบอายุได้สิบกว่าปี เจ้าพ่อให้เป็นเลขาฯของท่าน คอยรับใช้ท่านสลับกับพี่สาวอีกสองคน
เจ้าบัวสวรรค์ และเจ้าทิพเกสร
ผลัดกันทำงานคนละวัน สมัยนั้นเจ้าพ่อมีไร่กาแฟด้วย ฉันต้องทำหน้าที่เป็นคนคอยทำบัญชีว่าไร่แห่งนี้
มีต้นกาแฟกี่ต้น ให้ผลมาเท่าไหร่
สมัยชีวิตสาวๆของฉันสนุกมากกลางวันก็เล่นเทนนิส เนื่องจากเจ้าพ่อทรงดำริให้ สร้างสนามขึ้นในคุ้ม
บางครั้งก็มีภรรยาหมอฝรั่งและภรรยาข้าหลวงมาร่วมเล่นด้วย ส่วนคนอื่นๆในเวียงที่สามารถมาเล่นเทนนิสได้จะต้อง
เป็นพวกลูกสาวขุนนาง เพราะเจ้าพ่อไม่อนุญาติให้ผู้ชายเข้ามาภายในคุ้ม แต่ฉันเล่นไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่
น้องสาวฉัน เจ้าบุญฟองซิเล่นเก่ง
.........นอกจากเล่นเทนนิสแล้วมีกิจกรรมอย่างอื่นอีกไหมค๊ะ....
ฉันกับน้องๆชอบขับรถยนต์ไปเที่ยวตามในเวียง สมัยนั้นไม่มีใครในเชียงตุงมีรถยนต์ นอกจากเจ้าพ่อ ซึ่งมีอยู่ สองสามคัน
รวมทั้งพี่ชายใหญ่และเจ้าพรมลือ เวลาเราไปไหนด้วยรถยนต์จึงสะดวกสบาย แต่เนื่องจากพื้นทีในเวียงเป็นที่ดอน
ไม่เสมอกัน มีเนินสูงต่ำอยู่มากมาย เวลาขับรถยนต์จะต้องขับขึ้นลงเนิน บางทีขับไปแล้วเครื่องดับ
ตอนนั้นยังใช้ระบบเก่าอยู่
เป็นแท่งเหล็กหมุนเพื่อสตาร์ทเครื่องอยู่ มีบางครั้งที่เราหมุนไม่ไหว
ก็จะให้น้องสองคนที่ไปด้วยกันช่วยเข็นรถไปบนยอดเนิน
แล้วผลักรถลงมาเพื่อให้สตาร์ได้ง่ายขึ้น แต่บางครั้งแทนนิสก็อยากเล่านขับรถก็อยากขับ ต้องเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง..........................
อ่านต่อตอนที่ 3

 #คำให้สัมภาษณ์เจ้านางองค์สุดท้ายของเชียงตุง....เจ้านางจากเชียงตุงท่านนี้ชื่อว่า เจ้าสุคันธา ณ เชียงตุง  ต่อมาเป็น ณ เชี...
28/01/2017

#คำให้สัมภาษณ์เจ้านางองค์สุดท้ายของเชียงตุง
....เจ้านางจากเชียงตุงท่านนี้ชื่อว่า เจ้าสุคันธา ณ เชียงตุง ต่อมาเป็น ณ เชียงใหม่
เนื่องจากท่านเสกสมรสกับเจ้าอินทนนท์ ราชบุตรพลตรีเจ้าแก้วนวรัฐ เจ้าหลวงเชียงใหม่
ขณะเชียงตุงแตก ท่านพำนักอยู่ในเชียงใหม่และเสียชีวิตพ.ศ 2546 ไม่นานมานี่เอง
รูปท่าน ประวัติ วัง และการอวสานเชียงตุง เชิญชมอ่านดังต่อไปนี้
ต่อไปจะนำบทสัมภาษณ์ตอนที่ท่านยังมีชีวิตมาลงให้อ่าน

........ร่างเล็กในชุด เสื้อลูกไม้คอจีนแขนกระบอกสีขาวสะอาด และ ผ้าซิ่นยาวกรอมเท้าสีน้ำตาลเข้ม
นั่งสงบนิ่งอยู่บนเก้าอี้ยาวเก่าคร่ำ
มือเหี่ยวย่นขยับขึ้นลงตามตัวอักขระภาษาเขิน เป็นชื่อของตนเองก่อนจะส่งกระดาษแผ่นนั้น
มาให้คนรุ่นหลังอย่างเราๆได้เห็น เป็นบุญตา
จากนั้นจึงขานไขถึงวัยวันเก่าๆลงในเครื่องบันทึกเสียงที่ตั้งรออยู่ตรงหน้า
ด้วยน้ำเสียงเนิบช้าจนเป็นจังหวะเดียวกับการหมุนของแถบบันทึก
ที่ค่อยๆผ่านไปทีละคำทีละประโยค หางเสียงที่เล่าพริ้วสั่นนิดๆด้วยกรังสนิมแห่งกาลเวลา
หากแต่ดวงตาคู่นั้นเองที่ส่องประกายสุกใสนั้นก็ยิ่งเจิดจ้าควบคู่ไปกับรอย ยิ้มที่แต่งแต้มบนใบหน้า
" ฉันอายุเกือบร้อยแล้ว " คือคำกล่าวที่เจ้านางเชียงตุงมักย้ำเสมอคล้ายจะประกาศถึงหนทางอันยาวนานที่ ได้ล่วงผ่าน
ตั้งแต่ครั้งที่นครแห่งนี้ยังทรงศักดิ์และสิทธิ์ เป็นเมืองใหญ่อันดับหนึ่งแห่งรัฐฉาน
จวบจนกระทั่งมรสุมทางการเมืองที่โหมกระหน่ำเป็นเหตุให้ราชวงศ์เชียงตุงต้อง แตกกระสานซ่านเซ็นทุกวันนี้
.....สภาพเมืองเชียงตุงสมัยที่ท่านยังเล็กอยู่เป็นอย่างไรค๊ะ..
สมัยนั้นเชียงตุงมีเมืองบริวารเป็นเมืองเล็กๆประมาณยี่สิบกว่าเมือง เมืองใหญ่ๆอีกสิบเก้าเมือง
ชายแดนด้านหนึ่งติดกับแม่น้ำสาละวิน
ด้านหนึ่งติดกับแม่สาย ด้านหนึ่งติดกับแม่น้ำโขง
สมัยที่เจ้าพ่อ (เจ้าแก้วอินแถลง)ยังอยู่ ชีวิตก็สนุกสบายดี ฉันไม่ได้ไปเรียนที่เมืองนอกหรอก
เพราะว่าเป็นผู้หญิง เขาเลยไม่ส่งไป ส่วนผู้ชายส่งไปที่อังกฤษ หรือไม่ก็ไปเรียนที่ต่องกี
ซึ่งเป็นเมืองที่เจ้าผู้ครองนครไปประชุมกันทุกปี และเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยภูเขาสูง เลยทำให้อากาศหนาวมาก
เมืองนี้ยังเป็นที่ตั้งของรัฐบาลอังกฤษในสมัยนั้น เจ้าฟ้าของแต่ละเมืองจะทรงสร้างบ้านไว้องค์ละหลัง
เพื่อเป็นที่พักเวลาประชุมที่นั่น จำได้ว่าเวลามีประชุมที่นั่น เจ้าพ่อต้องออกงานเลี้ยงแทบทุกคืน
เดี๋ยวคนนั้นเลี้ยงเดี๋ยวคนนี้เลี้ยง
......แตกต่างจากเชียงใหม่ไหมค๊ะ...
อากาศที่เชียงตุงไม่ต่างจากเชียงใหม่เท่าไหร่ เนื่องจากมีภูเขามากเหมือนกัน แต่ถ้าเป็นหน้าร้อน
บางวันอากาศร้อนเหมือนกรุงเทพก็มี
พอย่างเข้าหน้าหนาวอากาศหนาวจนตัวสั่นเลย ตอนนั้นไฟฟ้าก็ยังไม่มี ต้องคีบถ่านแดงๆใส่เตาดิน
คล้ายๆเตาอั้งโล่มาตั้งไว้กลางห้อง
แล้วพวกเราพี่น้องก็นั่งวงล้อมคุยกันบางทีก็ทานขนมเส้นไปด้วย ขหนมเส้นมีอยุ่สองชนิดคือ คือขนมเส้นน้ำจ๋าง
และ ขนมเส้นน้ำเจ็ม น้ำเจ็มใส่หมูสับต้มกับมะเขือเทศ ส่วนน้ำจ๋างใส่เครื่องในหมูทอดกรอบ
ถ้าไม่ใช่ขนมเส้นก็อาจจะทานข้าวเหนียวกับผักอีกสองสามอย่าง เพื่อเป็นการแก้เบื่อเวลาที่ต้องนั่งนานๆ
........แล้วเรื่องภาษาหล่ะค๊ะ.....
ที่เชียงตุงใช้ภาษาเขินเป็นภาษาพูดและภาษาพม่าเป็นภาษาเขียน
ซึ่งลักษณะของภาษาเขินไม่แตกต่างจากภาษาไทยเหนือสักเท่าไหร่
ทั้งคำพูดและตัวอักษร อย่างภาษาไทย ท่อง ก-ฮ ว่า กอ ไก่ ขอ ไข่ แต่เขินจะท่างว่า กะ ขะ
ภาษาเขินพูดคำว่ากินข้าวเหมือนกับภาษาเหนือ
สุมาแอ่ว แปลว่า มาเที่ยว สู แปลว่า เธอ เฮา แปลว่าฉัน แต่ถ้าเป็นไทยลื้อจะเรียกตัวเองว่าข้อย
.......ท่านคงจะมีพี่น้องหลายคน.....
พี่น้องที่เป็นพ่อเดียวแม่เดียวกันมีทั้งหมด ห้าคน แม่ของฉันเป็นลูกข้าราชการในเชียงตุง
ส่วนยายฉันเป็นลูกพระยาแขก ก็เพราะว่าท่านจะคอยทำหน้าที่เป็นผู้นำเจ้าฟ้าเมืองต่างๆ เข้าถวายคำนับเจ้าพ่อ
เจ้าพ่อท่านจ้างครูไทยสองคนมาอยู่ที่คุ้ม ชื่อแม่ครูแจ่ม กับแม่ครุบุญชุบ เป็นครูไทยที่มาจากเชียงใหม่นี่แหละ
ให้คอยหัดละครไทยให้ใครก็ได้ที่อยากจะเรียน สมัยนั้นตั้งเป็นวงละครไทยเลยนะ เพราะคนไปหัดกันมากเต็มที
ส่วนละครพม่านั้นมีอีกวงหนึ่ง สอนโดยคนพม่าอีกเหมือนกัน แต่ละครพม่านั้นมีในเชียงตุงมานานแล้ว
เวลาในคุ้มมีงานอะไรสำคัญจะเล่นละครพม่า
ตอนที่ฉันอายุได้หกขวบเจ้าพ่อจ้างครูมาสอนพิเศษภาษาเชียงตุงให้พวกพี่ๆด้วย ความเป็นเด็ก
ฉันเลยเข้าไปนั่งเรียนร่วมกับเขาด้วย ทำให้รู้ภาษาเชียงตุงก่อนเข้าโรงเรียน ทั้งที่สมัยก่อนเด็กอายุหกขวบ
ถือว่ายังเล็กมาก ไม่เหมือนเดี๋ยวนี้
สามขวบก็อ่านหนังสือได้แล้ว พออายุได้เก้าขวบก็เข้าโรงเรียนกินนอนที่โรงเรียนมาแมร์ ซึ่งเป็นโรงเรียนแม่ชี
ที่สอนโดยมาแมร์จากอิตาลี่เด็กในเชียงตุงทุกคนต้องเรียนสองภาษาคือ ภาษาพม่า และภาษาอังกฤษ
นอกไปจากภาษาท้องถิ่น
สมัยนั้นมีโรงเรียนอยู่สองโรงเรียน โรงเรียนหนึ่งคือ โรงเรียนแม่ชี ซึ่งรับเด็กผู้หญิงชาวเขามาเรียนหนังสือ
และสอนปักเสื้อผ้าไปด้วย ส่วนพวกชาวเมืองมาเรียนแบบเช้าไปเย็นกลับโดยแยกห้องเรียนกับพวกเรา
ฉันเลยไม่มีโอกาสได้เรียนรู้ภาษาชาวเขา ส่วนอีกโรงเรียนหนึ่งคือโรงเรียนบาทหลวง
โรงเรียนนี้รับเด็กผู้ชายชาวเขามาเรียนด้วยเหมือนกัน
ถ้าหากตอนกลางคืนมีขโมย หรือเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นที่โรงเรียนแม่ชี มาแมร์จะเป็นคนตีฆ้อง เสียงดัง ง้อง ง้อง
แล้วพวกเด็กนักเรียนโรงเรียนบาทหลวง
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กชาวเขาจะวิ่งมาช่วยที่นี่ฉันต้องไปกินนอนอยู่ที่นั่น ตั้งหลายปี จนกระทั่งเรียนจบชั้นหก
ถึงได้ออกมาช่วยเจ้าพ่อทำงาน..........................
อ่านต่อตอนที่ 2

วันนี้ลาบฟานครับเลือกเอาเน่อ
27/01/2017

วันนี้ลาบฟานครับเลือกเอาเน่อ

Address


Alerts

Be the first to know and let us send you an email when ฮาคนเมือง เรดิโอ posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Shortcuts

  • Address
  • Alerts
  • Claim ownership or report listing
  • Want your business to be the top-listed Media Company?

Share