11/01/2022
เราควร cbet ที่ flop บ่อยแค่ไหน เมื่อเรา Out of Position?
การ cbet ที่ flop ในฐานะที่เราเป็น preflop aggressor (คนที่ raise เป็นคนสุดท้ายของ preflop) เป็นกลยุทธ์พื้นฐานทั่วไป ที่ผู้เล่นโป๊กเกอร์ส่วนใหญ่มักนำมาใช้ โดยเฉพาะเมื่อตัวเอง In Position (เช่น เจอกับผู้เล่นในตำแหน่ง Blind) แต่ถ้าเราต้องเล่นแบบ Out of Position ซึ่งเสียเปรียบด้านตำแหน่งล่ะ เรายังจะสามารถ cbet ได้บ่อยเท่าเดิมไหม?
เรื่องจริงที่เกิดขึ้นก็คือ คนส่วนใหญ่ cbet ที่ flop เมื่อเล่น heads up โดยที่ตัวเอง OOP บ่อยเกินกว่าที่ควรจะเป็น (เมื่อเทียบกับ GTO) ซึ่ง solver แนะนำว่า โดยเฉลี่ย เรามีโอกาสที่จะ cbet ได้ประมาณ 33-40% เท่านั้น (ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เปิด ยิ่งเปิดจาก early ยิ่ง cbet ได้น้อยกว่า เพราะ range ยิ่งแคบกว่าการเปิดจากตำแหน่ง late) นั่นแปลว่า หากเจอคู่แข่งที่ IP ที่เล่นเก่งๆ และรู้ว่าเรา cbet มากเกินพอดี เขาก็จะสามารถปรับตัวเพื่อ exploit จุดนี้ที่เป็น leak ของเราได้ (โดย fold น้อยลง call/raise บ่อยขึ้น)
วันนี้ผมจึงมาขอสรุปผลการศึกษาเบื้องต้นจาก solver เพื่อดูว่า บอร์ดแบบไหนที่เราสามารถ cbet ได้? ด้วย bet size ไหน? และแฮนด์ประมาณไหนได้บ้าง? สำหรับการเล่น heads up / single raised pot โดยใช้ตัวอย่างการศึกษาจาก LJ open vs BTN flat
(ตัวย่อในการอ่าน : H = High คือประมาณ A-T, M = Medium คือประมาณ T-6 และ L = Low คือประมาณ 6-2)
แต่ก่อนอื่น เรามาดูกันก่อนดีกว่า บอร์ดแบบไหนบ้างที่เรา “ไม่ควร cbet” หรือควรจะ check ก่อนให้มากๆ
=================================
บอร์ดที่เราควร check เมื่อ OOP
1. บอร์ดตั้งแต่ MMM ลงไป (MMM, MML, MLL, LLL) ที่ไม่ใช่ tripled (เลขเดียวกันทั้ง 3 ตัว) เช่น 986, 864, 754, 643 หรือ 887, 775, 644, 433 : เพราะบอร์ดกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มที่ preflop aggressor โดยเฉพาะจาก early position มักจะไม่มี range และ nut advantage (เนื่องจากมักจะมีสัดส่วนของ High card พวก A-J อยู่ใน range มากกว่า ขณะที่ perflop caller จะมีสัดส่วนของแฮนด์กลุ่มนี้อยู่ใน range สูงกว่า)
2. บอร์ด HXX (HMM, HML, HLL) ที่มี complete straight/flush หรือมี draw เยอะ เช่น KT9, J87, T54 : แม้จะมี High card มา 1 ใบ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้ range ของ preflop aggressor มี advantage มากขึ้นเท่าไหร่ เพราะ caller เองก็มี high card พวกนี้อยู่ใน range เช่นเดียวกัน และเมื่อยิ่งเป็นบอร์ดที่ทั้ง wet และ dynamic แบบนี้ ก็ยิ่งเป็บบอร์ดที่อันตราย แม้แต่ over pair สูงๆอย่าง pocket QQ-AA ก็อาจจะไม่ดีพอที่จะ call เมื่อโดน raise แรงๆ ได้อย่างสบายใจ ดังนั้น จึงต้องเล่นแบบรัดกุมมากๆไว้ก่อน
=================================
ดังนั้น บอร์ดที่เรามีโอกาสจะ cbet ได้บ่อยๆ จึงมักจะเป็นบอร์ดที่ต้องมี High Card อย่างน้อย 2 ตัว (HHX หรือ HHH) หรือ 1 ตัว แต่อีก 2 ตัวนั้นไม่ใช่เลขที่เรียงกัน (เป็นบอร์ดที่ dry และ static) ซึ่ง bet size หลักที่ใช้ ก็มักจะใช้ไซส์เล็ก (ไม่เกิน ⅓ pot เป็นหลัก) ทั้ง value และ bluff เนื่องจากเป็นบอร์ดที่สามารถหาก value ได้จาก caller ได้ค่อนข้างยาก (เพราะเขาไม่ค่อยมี advantage หากใช้ไซส์ใหญ่ จะทำให้คู่แข่ง fold บ่อยเกินไป จนไม่บาลานซ์) ทำให้เราจึงสามารถหา bluff มาบาลานซ์ได้ในราคาที่ไม่แพงอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ก็มีบางบอร์ดที่เราสามารถใช้ bet size ตั้งแต่กลาง-ใหญ่ ได้ คือบอร์ด HLL ที่ H ไม่ใช่ A และ L เป็น paired (เช่น K22, Q55, J33) เพราะเป็นบอร์ด static ที่ caller จำเป็นต้อง defend ให้มากพอ กับพวก pocket pair และ High card ต่างๆ เพื่อไม่ให้ถูก exploit ทำให้ pocket pair สูงๆ และ High card สูงๆของเราที่ dominate อีกฝ่าย สามารถหา value ได้เยอะขึ้นมากนั่นเอง (แต่ถ้า high เป็น A จะหา value ได้น้อยลง เพราะ K ของอีกฝ่ายจะ call ได้ยาก)
=================================
แล้วแฮนด์อะไรใน range เราที่สามารถเลือกมา cbet ได้บ้าง?
แฮนด์ไหนที่เราจะ cbet ได้มากน้อยแค่ไหน ก็มักจะเป็นไปตาม concept พื้นฐานของโป๊กเกอร์ เช่น :
1. บอร์ดที่เรามี range advantage มากๆ และค่อนข้าง static เช่น HHH ที่เป็น pair board เราสามารถ cbet ได้ทั้ง range (ได้ทุกแฮนด์)
2. แฮนด์ที่มี equity สูงๆ ตั้งแต่ top pair high kicker ขึ้นไป
3. Bluff ที่มี blocker effect เช่น block straight หรือ block flush draw อย่างน้อย 1 ใบ
4. Pocket pair เล็กๆ ที่ไม่ค่อยมี showdown value เช่น pocket 22-55 บนบอร์ดใหญ่ๆ
ที่เหลือ พวก equity กลางๆ หรือต่ำๆ ที่ไม่มี blocker effect เรามักจะ check เกือบทั้งหมด รวมถึง top pair ที่ kicker ไม่ค่อยดีมาก เพื่อบาลานซ์ กับแฮนด์ที่ไม่มี showdown value ของเรานั่นเอง
================================
หวังว่าทุกคนจะได้แนวทางการ cbet flop เมื่อเราเป็น preflop aggressor ที่ OOP ใน single raised pot อย่างถูกต้องไปใช้ เพื่อให้การเล่นของเราบาลานซ์มากขึ้นกันนะครับ แต่อย่าลืมว่า เนื้อหาตรงนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการศึกษา spot หนึ่งๆในภาพรวม ซึ่งอาจจะยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมาก ยังไงเราก็ควรไปศึกษาเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่มากขึ้นนะครับ