31/08/2021
คนที่เล่น "เกม" เก่ง...มีโอกาสเป็นคนสำเร็จได้เร็วกว่าคนทั่วไป เพราะถูกฝึกให้รู้กติกา ทำงานแบบทีม ปรับตัวได้ และชอบเอาชนะ ทั้งหมดนี้ เมื่อปรับเอามาใช้กับชีวิตจริง จึงหาทางเอาชนะ ในเกมส์ชีวิตได้ดีกว่า
เมื่อนำวิธีการเล่นเกมมาเปรียบเทียบกับวิธีการเพิ่มความฉลาด และศักยภาพในการแก้ปัญหาต่าง ๆ
- พบว่ามีรูปแบบที่คล้ายกันไม่ว่าจะเป็นการทำสิ่งที่ท้าทาย คิดนอกกรอบ รวมถึงทักษะการทำงานหลาย ๆ อย่าง ในเวลาเดียวกันก็ถูกพัฒนามาจากการเล่นเกมส์
- หากเล่นเกมส์อย่างเหมาะสม และนำมาประยุกต์กับการเรียนรู้ หรือแม้กระทั่งในการทำงานก็ตาม
- การเล่นเกมส์นั้นเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับเด็กโดยเฉพาะในยุคสมัยที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญมาก ผู้ปกครองบางคนอาจมีความกังวลว่าการเล่นเกมจะมีผลเสียกับเด็กหรือเปล่า
- ซึ่งถ้าเรามองอีกด้านของการเล่นเกมส์
และได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว พบว่าเกมส์นั้นมีข้อดีหลายอย่าง และที่สำคัญเกมส์ทำให้เด็กฉลาดมากขึ้นด้วย
- 'เก๊บ ซิเชอร์เมนน์' (Gabe Zichermann) นักธุรกิจ
และนักเขียนในวงการเกมส์คือตัวอย่างของผู้ที่เล่นเกมส์จนได้ดี เขารักการเล่นเกมส์และสามารถทำอาชีพจากเกมส์ได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานกับนักพัฒนาเกมส์ หรือเป็นนักเขียนเกี่ยวกับเรื่อง Gamification (คือการเอาระบบเกมไปประยุกต์ใช้ในเรื่องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเรียน หรือการทำงาน)
- ในบางครั้งผู้เชี่ยวชาญทางด้านประสาทวิทยาก็ กล่าวว่า เกมนั้นไม่ได้ช่วยให้เด็กจดจ่อกับอะไรได้นาน ๆ หรือมีข้อสังเกตว่าการที่เด็กเล่นเกมเยอะนั้นเป็น เพราะว่าโลกแห่งความจริงนั้น ‘ไม่น่าสนใจ’ สำหรับพวกเขาแล้ว
- แต่เก๊บกับเห็นต่างไป เขาคิดว่า จริง ๆ แล้ว
การที่เด็กสมัยนี้ไม่มีสมาธิจดจ่ออยู่กับอะไรสักอย่าง
(เช่น เล่นเกมส์ไม่สนใจโลกแห่งความจริงมากนัก)
หรือว่าอันที่จริงในโลกแห่งความจริงมันล้าหลังตามโลกในเกมไม่ทันกันแน่
- เป็นที่น่าสังเกตว่าสมัยก่อนอาจเล่นเกมส์ผ่านจอยสติ๊ก แต่เด็กในยุคนี้เล่นเกมส์ออนไลน์ โดยที่สามารถโต้ตอบกับผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามได้ และแน่นอนว่าต้องมาคอยจัดการกับผู้ปกครองที่ชอบเข้ามาขัดจังหวะ (ไม่ว่าจะเป็นการเรียกให้ไปทำการบ้านหรือล้างจาน ก็ตาม)
- นั่นหมายความเด็กสมัยนี้มี Multitasking Skill
ที่ดีมากเป็นพิเศษนั่นเอง
(Multitasking Skill เป็นทักษะที่สามารถทำอะไรได้
มากกว่า 1 ทักษะในเวลาเดียวกัน)
- นอกจากนี้ยังมีพบว่ามี 5 วิธีหลักที่สามารถ
ทำให้ ‘Fluid Intelligence’ เพิ่มขึ้น
(การบรรยายของ Andrea Kuszewski ที่มหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ด)
- Fluid Intelligence คือความฉลาดทางเชาวน์ปัญญา ที่ได้รับถ่ายทอดมาทางพันธุกรรม เป็นความฉลาดในการแก้ไขปัญหา การหาเหตุผล
- ซึ่ง 5 วิธีหลักนั้นได้แก่
(1) การเสาะหาสิ่งใหม่ ๆ
(2) การทำสิ่งที่ท้าทาย
(3) การคิดนอกกรอบ
(4) การทำสิ่งยาก ๆ
(5) การสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์กับผู้อื่น
- และเมื่อลองเอามาเทียบดูแล้ว 5 วิธีหลักนี่แหละ
คือกระบวนการที่มีอยู่ในเกมส์ที่ประสบความสำเร็จ
- คุณลองสังเกตดูสิว่าการเล่นเกมส์ ไม่ว่าจะ ROV PUBG หรือ Free Fire ต้องมีการวางแผนว่าจะเล่นยังไง วางกลยุทธ์ รวมไปถึงการเล่นแบบ ‘ทีมเวิร์ค’
(ไม่ให้เพื่อนแบกทีมคนเดียว และเรามาโดนด่าทีหลัง)
- แต่อย่างไรก็ดี การเล่นเกมส์ก็มีด้านที่ต้องพิจารณาต่อไปเหมือนกัน ในเรื่องของความรุนแรง แต่ก็มีการศึกษาแล้วว่าเกมส์ไม่ได้ทำให้เด็ก มีพฤติกรรมรุนแรง ซึ่งพฤติกรรมนั้นขึ้นอยู่กับตัวเด็กมากกว่า
ถ้าเด็กมีแนวโน้มจะมีพฤติกรรมรุนแรงอยู่แล้ว
เกมส์อาจเป็นแค่ปัจจัยเล็ก ๆ แต่ไม่ได้หมายความว่า เด็กที่เล่นเกมส์ทุกคนจะมีพฤติกรรมรุนแรงเสมอไป
- เราต้องมองอย่างเป็นกลางและเปิดใจในการเล่นเกมส์ของเด็ก ไม่ใช่ว่าการเล่นเกมส์จะไม่มีผลกระทบด้านลบ แน่นอนว่ามีแต่ต้องอาศัยความเข้าใจและปรับตัวกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป
- ในยุคหนึ่งการเล่นสนุกหรือผ่อนคลายอาจเป็นการจิบชา อ่านหนังสือ เล่นหมากฮอส เล่นกีฬากลางแจ้ง
แต่เด็กสมัยนี้ไม่ใช่แล้ว
- ถ้าคุณเห็นเด็กเล่นเกมส์ อย่าเพิ่งตื่นตระหนกไปว่าเกมส์จะทำให้เด็กเสียคน หรือเสียการเรียน หากการเล่นเกมส์นั้นอยู่ในจุดที่เหมาะสม
- ลองเปิดใจ ทำความเข้าใจว่าเด็ก ๆ เล่นเกมส์ยังไง คุณต้องลองมานั่งเล่นเกมส์กับลูกหลานดูอาจพบวิธีการอะไรใหม่ ๆ ที่นำมาปรับใช้กับการทำงานได้
เรียบเรียงโดย เพจ ไปให้ถึง100ล้าน
#ไปให้ถึง100ล้าน
อ้างอิง
https://bit.ly/2NTfoRI