Hroyrang Studio "สลัดเน่าเล่าข่าว: ลุงสักชวนเครียด! ติดต่องานได้ที่: [email protected] แต่อย่าลืมนะครับ กดไลค์ กดแชร์ ไม่งั้นสลัดนี้จะเน่าไปถึงกล่องเมล์คุณเลย!" 😆

13/01/2025

เคยได้ยินบางคนพูดว่า พรรคก้าวไกล มันก้าวร้าว วัฒนธรรมประเพณีไทย ต้องมีสัมมาคาราวะ รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ รู้จักให้รู้จักแบ่งปัน 🙄
นี่แหละแบบไทยๆ

13/01/2025
13/01/2025

UPDATE: สมศักดิ์ไม่รู้ ปมกรมอนามัยเตรียมของบทำมุ้งสู้ฝุ่น เผยมีเงิน สปสช. ใช้ได้ 400-500 ล้านบาท อบจ. ประสานขอเงินได้เลย
วันนี้ (13 มกราคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่กรมอนามัยเตรียมเสนอของบประมาณเพื่อดำเนินโครงการมุ้งสู้ฝุ่นว่า วันนี้ค่า PM2.5 เกินกว่า 1 มิลลิกรัมต่อ 1 ลูกบาศก์เมตร ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขดูแลกลุ่มเปราะบาง ผู้ป่วยติดเตียง หรือโรคภัยไข้เจ็บ ดูแลรักษาไม่ให้ฝุ่นไปทำร้าย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีโครงการมุ้งป้องกัน PM2.5 และห้องปลอดฝุ่น ซึ่งมีอยู่ประมาณ 3,000 แห่ง รองรับการใช้งานประมาณ 1,000,000 คน
ในวันนี้กรมอนามัยจะไปรณรงค์เรื่องมุ้งสู้ฝุ่นเป็นตัวอย่างในพื้นที่อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เพื่อให้เห็นว่ามุ้งผ้าฝ้าย ขนาดกว้าง 1.5 เมตร ยาว 2.2 เมตร สูง 1.7 เมตร และจะมีมอเตอร์ขนาดเล็กสำหรับคัดกรองอากาศ มูลค่าตัวละ 1,400 บาท ส่วนตัวมุ้งราคา 400-500 บาท ต้องดูว่าจะนำงบประมาณตรงไหนเข้าไปช่วยกลุ่มเปราะบางได้บ้าง ซึ่งก็เป็นเรื่องของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ 30 บาทรักษาทุกที่ รวมถึงงบประมาณขององค์การบริหารส่วนจังหวัดที่สามารถนำไปใช้ป้องกัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้สามารถเริ่มแจกได้แล้วหรือไม่ สมศักดิ์กล่าวว่า สามารถเอาไปให้ดูได้เลย มีแบบ ส่วนผู้ที่จะได้รับจำเป็นจะต้องมาลงทะเบียน หรือไม่อย่างนั้น อบจ. จะเป็นผู้ประสานกับ สปสช. ที่มีการแบ่งงบประมาณไว้ 400-500 ล้านบาท อบจ. สามารถแบ่งจ่ายเป็นรายจังหวัดได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การใช้มุ้งสู้ฝุ่นจะสามารถลดค่ารักษาพยาบาลได้ 50,000 บาทต่อราย หมายความว่าอย่างไร สมศักดิ์กล่าวว่า จากการประเมินพบว่าหากไม่มีการคัดกรองอากาศและเกิดเจ็บป่วยจะมีค่ารักษาพยาบาลประมาณ 40,000-50,000 บาทต่อราย
เมื่อถามว่าจะสามารถเริ่มแจกมุ้งได้เมื่อไร สมศักดิ์กล่าวว่า อบจ. สามารถทำเรื่องเบิกจ่ายไปยัง สปสช. ได้ ส่วนเรื่องของมุ้ง กรมอนามัยจะเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปีที่แล้วไปกว่า 1,400 หลัง ที่จะแจกจ่ายให้กับ อบจ. เพื่อเป็นตัวอย่าง
สมศักดิ์กล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่ทราบเรื่องที่กรมอนามัยเตรียมจะเสนอของบประมาณเพิ่มเติมในการจัดทำมุ้งสู้ฝุ่น แต่เป็นไปได้ว่าเขาอาจไม่ทราบว่ามีงบประมาณของ สปสช. อยู่ หากรู้อาจไม่เสนอของบประมาณในส่วนนี้

13/01/2025
13/01/2025

ปปง. แจ้งความเอาผิดบิ๊กโจ๊ก-ภรรยา เปลี่ยนสภาพกรมธรรม์จาก 1.7 ล้านบาท

13/01/2025
13/01/2025

ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษากลับ จำคุก 1 เดือน “ไมค์ ภาณุพงศ์” คดี พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ กรณีจัดกิจกรรม “ใคร สั่ง อุ้ม? วันเฉลิม” หลังศาลชั้นต้นยกฟ้อง
13 ม.ค. 2568 เวลา 09.00 น. ศาลแขวงระยองนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 คดีของ “ไมค์” ภาณุพงศ์ จาดนอก ในข้อหาฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากการจัดกิจกรรม “ใคร สั่ง อุ้ม? วันเฉลิม” ที่บริเวณหน้าอาคารศูนย์เยาวชน สวนสาธารณะสวนศรีเมือง จังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2563
เหตุของคดีนี้สืบเนื่องมาจากการจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2563 ทวงถาม “ใคร สั่ง อุ้ม?” วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ถูกอุ้มหายที่พนมเปญ กัมพูชา ขณะลี้ภัยทางการเมือง ที่บริเวณด้านหน้าหอสมุดและศูนย์เยาวชน เทศบาลนครระยอง สวนศรีเมือง ต.ท่าประดู่ อ.เมืองระยอง
ในกิจกรรม มีการผูกโบว์ข้อมือซ้าย และเดินถือป้ายแห่รอบสวนศรีเมืองเป็นเวลา 40 นาที คือระหว่าง 17.00-17.30 น. กิจกรรมเป็นไปด้วยความสงบ มีการป้องกันการแพร่โรคโดยการสวมหน้ากากอนามัย ทั้งนี้ ในระหว่างการจัดกิจกรรม มีตำรวจนอกเครื่องแบบ สภ.เมืองระยอง และตำรวจสันติบาลจังหวัดระยอง คอยสังเกตการณ์ด้วย
ย้อนไปเมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2567 ศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาโดยสรุปเห็นว่า จำเลยทำกิจกรรมเพียง 40 นาที โดยที่ประชาชนไม่ได้ให้การสนใจ อีกทั้งจำเลยยังใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา พื้นที่ในการทำกิจกรรมเป็นที่โล่งแจ้ง อากาศถ่ายเท ประกอบกับในช่วงที่จัดกิจกรรมมีการผ่อนปรนมาตรการป้องกันโควิด-19 เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดลดลง ศาลจึงพิพากษายกฟ้อง
ต่อมา โจทก์ได้ยื่นอุทธรณ์คดีนี้ต่อศาลอุทธรณ์ภาค 2 โดยอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูงภาค 2 เป็นผู้รับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
⭕ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ จำคุก 1 เดือน ชี้กิจกรรมเป็นการร่วมชุมนุมในสถานที่สาธารณะที่มีคนพลุกพล่านและมีพฤติการณ์ยั่วยุให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย เสี่ยงต่อการแพร่โรค
ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 3 มีเพียงผู้รับมอบฉันทะทนายจำเลยเดินทางมาฟังคำพิพากษา ผู้พิพากษาออกนั่งพิจารณาคดีและอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ สรุปใจความได้ดังนี้
ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2563 จำเลยกับพวกประมาณ 10 คน ได้ร่วมชุมนุมทำกิจกรรมชูป้ายที่มีรูปของวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เดินไปรอบ ๆ สวนศรีเมือง จังหวัดระยอง เป็นเวลาประมาณ 40 นาที
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ว่า จำเลยกระทำความผิดตามฟ้องโจทก์หรือไม่ เห็นว่า ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นโรคระบาดร้ายแรงและแพร่กระจายอย่างกว้างขวางและรวดเร็ว รัฐบาลจึงได้ออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร และมีการขยายระยะเวลาเรื่อยมาจนถึงวันเกิดเหตุคดีนี้
และออกข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ลงวันที่ 25 มี.ค. 2563 ห้ามมิให้มีการชุมนุมการทำกิจกรรม หรือการมั่วสุมกัน ณ ที่ใด ๆ ในสถานที่แออัดหรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย โดยไม่มีข้อยกเว้นว่าหากเป็นการชุมนุมโดยสงบหรือสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันโรคระบาดแล้วจะไม่เป็นความผิดตามกฎหมาย หรือหากการชุมนุมทำกิจกรรมโดยไม่เสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรคแล้วจะไม่เป็นความผิดตามกฎหมาย
ข้อกำหนดดังกล่าวออกในช่วงเวลาที่ประเทศอยู่ในภาวะฉุกเฉินอันเนื่องจากเกิดโรคระบาดที่อันตรายร้ายแรงและแพร่กระจายอย่างกว้างขวางและรวดเร็วเป็นอันตรายต่อชีวิต สุขภาพ และอนามัยของประชาชน รัฐบาลจะไม่อนุญาตให้มีการชุมนุมในที่สาธารณะหรือสถานที่ใด ๆ โดยเด็ดขาด
ดังนั้น กิจกรรมดังกล่าวของจำเลยกับพวกจึงเป็นการร่วมกันชุมนุมในสถานที่สาธารณะซึ่งเป็นสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่านและเป็นการชุมนุมที่มีพฤติการณ์ยั่วยุให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย มีลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ต้องห้ามและเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
ข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของโจทก์ที่นำสืบรับฟังได้ว่าจำเลยได้กระทำความผิดตามฟ้องโจทก์ แต่ที่โจทก์มีคำขอให้สั่งห้ามจำเลยออกนอกเคหสถานหรือห้ามเข้าเขตกำหนด หรือห้ามเข้าไปในท้องที่หรือสถานที่ที่กำหนด หรือมีคำสั่งให้จำเลยทำทัณฑ์บน และหากจำเลยไม่ยอมทำทัณฑ์บนหรือหาประกันไม่ได้ให้กักขังจำเลยไว้จนกว่าจะทำทัณฑ์บนหรือหาประกันได้นั้น เนื่องจากปัจจุบันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้คลี่คลายลง และรัฐบาลมิได้ขยายเวลาให้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินให้มีผลใช้บังคับอีกต่อไป จึงไม่มีความจำเป็นต้องสั่งห้ามจำเลยมิให้กระทำการหรือให้กระทำการตามคำขอของโจทก์ดังกล่าว
ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมายังไม่อาจรับฟังได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยและมีลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค พิพากษายกฟ้องนั้น ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้น
🔻 พิพากษากลับเป็นว่า จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาตรา 9 (2) วรรคหนึ่ง และมาตรา 18 จำคุก 1 เดือน ส่วนที่โจทก์มีคำขอให้นับโทษจำคุกของจำเลยต่อจากโทษจำคุกในคดีอื่นนั้น ไม่ปรากฏว่าในคดีดังกล่าวศาลได้มีคำพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย จึงให้ยกคำขอนับโทษต่อ และคำขออื่นของโจทก์นอกจากนี้ให้ยก
ผู้พิพากษาที่ลงนามในคำพิพากษา ได้แก่ ประทีป เหมือนเตย, สุนทรียา เหมือนพะวงศ์ และ มนัส อานามวัฒน์
ทั้งนี้ สำหรับการจัดกิจกรรมทวงคืนความเป็นธรรมให้วันเฉลิม หรือ ันเฉลิม เกิดขึ้นตั้งแต่มีข่าวการหายตัวไปของวันเฉลิมในประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2563 โดยมีการแสดงออกทางสัญลักษณ์โดยใช้โบว์สีขาว เช่น กลุ่ม สนท.ผูกโบว์ขาวที่รั้วกรมทหารราบที่ 11 รวมไปถึงการจัดกิจกรรม “ทวงความเป็นธรรมให้วันเฉลิม” บริเวณสกายวอล์คหน้าห้างมาบุญครอง เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2563 และการยื่นจดหมายทวงถามความเป็นธรรมหน้าสถานทูตกัมพูชา โดย 4 นักกิจกรรมเครือข่าย People Go และ กป.อพช. ในวันที่ 8 มิ.ย. 2563
📌 อ่านบนเว็บไซต์ในคอมเมนต์

13/01/2025

’นายกฯ แพทองธาร‘ เผย ครม.เห็นชอบหลักการ ร่าง พรบ.เอ็นเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์ ยัน ‘กฤษฎีกา’ ไม่ได้ขวาง บอกถ้าเกิดเร็วก็ดี จะทำให้ GDP โตขึ้นมาก เกิดผลดีต่อประเทศในอนาคต ชี้ โลกปัจจุบัน ถ้าเอาทุกอย่างมาทำให้โปร่งใสได้ เป็นประโยช

เมื่อถามต่อว่าข้อกังวลเรื่องมาเฟีย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องอยู่กับความเป็นจริง ทุกวันนี้มีการพนันไม่ถูกฎหมายเต็มไปหมด เพราะฉะนั้น การส่งเสริมการท่องเที่ยว จะเป็นการแก้ปัญหาผู้มีอิทธิพล ทำอะไรที่อยู่นอกกฎหมาย ทำให้กฎหมายครอบคลุมชัดเจน ชีวิตประชาชนปลอดภัยด้วย และเงินที่ได้ก็เป็นภาษีเข้าประเทศอีก ต้องมองว่าโลกปัจจุบัน ถ้าเอาทุกอย่างมาทำให้โปร่งใสได้ ก็จะเป็นประโยชน์ให้กับประเทศ เป็นเรื่องใหม่ในประเทศเรา เป็นเรื่องความเปลี่ยนแปลง แต่ไม่เป็นไร เราต้องสื่อสารบ่อยหน่อย ฝากสื่อมวลชนถามคำถาม และจะให้กระทรวงต่าง ๆ ชี้แจงรายละเอียดเพื่อให้เข้าใจภาพรวมพร้อมกัน

วันที่ 13 เม.ย.68 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี ว่าที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบหลักการ ร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้ จะส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในบางประเด็น จากนั้นจะส่งเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร

สาระเป็นการกำหนดให้มีกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เช่น กำหนดให้มีคณะกรรมการสถานบันเทิงครบวงจร คณะกรรมการบริหารจัดตั้งสำนักงานสถานบันเทิงครบวงจร และมีการกำหนดหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน วัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มการท่องเที่ยวในประเทศ และส่งเสริมการลงทุนในประเทศ และแก้ปัญหาการพนันที่ผิดกฎหมายในปัจจุบัน และทำให้เกิดผลดีในอนาคต ในภาพรวม เป็นหนึ่งในการสนับสนุนการท่องเที่ยวยั่งยืน ตามที่เคยแถลงนโยบายต่อรัฐสภาไป

เมื่อถามว่า เมื่อ ครม.เห็นชอบแล้วจะสามารถส่งให้สภาพิจารณาได้เลยหรือไม่ หรือต้องนำความเห็นจากกฤษฎีกากลับมาเข้า ครม.อีกครั้ง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ความเห็นเฉย ๆ และก็บอกว่าไม่ได้ขวาง แต่จะปรับเนื้อหาข้างใน เพราะที่อ่านข่าวมามีบอกว่า ขวาง ยืนยันว่าไม่ได้ขวาง แค่จะปรับคำให้เข้ากับที่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว และหลังจากนี้ก็สามารถเข้าสภาได้เลย

เมื่อถามว่าเป้าหมายจะเป็นปีนี้เลยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็พยายามเร่ง แต่กระบวนการต่าง ๆ จะผ่านอย่างไร ถ้าเกิดเร็วก็ดี เช่น ประเทศสิงค์โปร์ มีกาสิโน 10% และที่ท่องเที่ยวอีก 80 - 90% แม้ในอดีตจะบอกว่ามีน้อย แต่เมื่อมีเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เข้ามา ก็ทำให้ GDP โตขึ้นอย่างมาก และจะเกิดผลดีต่อประเทศในอนาคต ถ้าผลักดันให้เกิดขึ้นได้ ส่วนรายละเอียดจกระทรวงการคลังจะแถลงอีกที

เมื่อถามต่อว่าข้อกังวลเรื่องมาเฟีย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องอยู่กับความเป็นจริง ทุกวันนี้มีการพนันไม่ถูกฎหมายเต็มไปหมด เพราะฉะนั้น การส่งเสริมการท่องเที่ยว จะเป็นการแก้ปัญหาผู้มีอิทธิพล ทำอะไรที่อยู่นอกกฎหมาย ทำให้กฎหมายครอบคลุมชัดเจน ชีวิตประชาชนปลอดภัยด้วย และเงินที่ได้ก็เป็นภาษีเข้าประเทศอีก ต้องมองว่าโลกปัจจุบัน ถ้าเอาทุกอย่างมาทำให้โปร่งใสได้ ก็จะเป็นประโยชน์ให้กับประเทศ เป็นเรื่องใหม่ในประเทศเรา เป็นเรื่องความเปลี่ยนแปลง แต่ไม่เป็นไร เราต้องสื่อสารบ่อยหน่อย ฝากสื่อมวลชนถามคำถาม และจะให้กระทรวงต่าง ๆ ชี้แจงรายละเอียดเพื่อให้เข้าใจภาพรวมพร้อมกัน

13/01/2025

ให้ออกจากราชการไว้ก่อน “นายอำเภอเหนือคลอง” ปมเรียกรับผลประโยชน์

เป็นความคืบหน้าของกระทรวงมหาดไทย ต่อกรณีที่นายอำเภอพร้อมเจ้าหน้าที่ปกครอง อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ถูกจับกุมตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง กรณีถูกกล่าวหาเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการรับเหมาว่า ด้วยประเด็นนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนในวงกว้าง

ล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า นายอำเภอคนดังกล่าว ถูกออกจากราชการไว้ก่อน และมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://thepublisherth.com/130125-6/

#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #ป้องกันและปราบปรามการทุจริต #อนุทินชาญวีรกูล
- - - - - - - - - - - - - - - - - -
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
https://thepublisherth.com/

13/01/2025

‘วอชด๊อก ไทยแลนด์’ โพสต์แจ้ง ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษาจำคุก 16 เดือน ไม่รอลงอาญา คดี ทารุณกรรมสัตว์-ลักทรัพย์ สุนัข ‘เตี้ย มช.’ พร้อมชดใช้ให้ ม.เชียงใหม่ 1 แสนบาท

วันที่ 13 ม.ค.68 ‘วอชด๊อก ไทยแลนด์’ โพสต์

“ #ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษาจำคุกทันที 16 เดือนคดีเตี้ยมช.

ผลพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 5 คดีเตี้ย มช.

#ผู้ต้องหาในความผิด ยืนตามศาลชั้นต้นคือ จำคุก 6 หกเดือนทันที ไม่รอลงอาญา ศาลอุทธรณ์พิพากษา ลดโทษเหลือหนึ่งในสาม คงจำคุกสี่เดือน

#ผู้ต้องหามีความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยเหตุที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้รับการพิจารณาว่า เป็นผู้ดูแลผู้ครอบครองเตี้ย มช.

เตี้ย มช.จึงเป็นหมามีเจ้าของ ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน ลดโทษเหลือหนึ่งในสาม คงจำคุก 12 เดือน

รวมโทษจำคุกทั้งสิ้น 16 เดือน ไม่รอลงอาญา

ศาลพิพากษาให้ชดใช้ค่าเสียหาย ต่อมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในฐานะเจ้าของ ผู้ครอบครอง ผู้ดูแล เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 100,000 บาท

#พี่เตี้ยมช. #ได้รับความยุติธรรมแล้ว

ที่อยู่

Surat Thani
84000

เว็บไซต์

https://www.blockdit.com/hroyrang

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Hroyrang Studioผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Hroyrang Studio:

วิดีโอทั้งหมด

แชร์