17/08/2023
ณ เวลานี้ ตลาดหุ้นไทยกำลังสร้างความหวาดกลัวให้กับนักลงทุน
จากวิกฤติหุ้น ทำให้นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น สิ่งที่ไม่เคยต้องติดตามหรือต้องอ่าน เชื่อว่าพอผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียนเริ่มปล่อยออกมา คนจะให้ความสนใจกับ "รายงานผู้ตรวจสอบบัญชี" มากขึ้น
อย่างในกรณีของหุ้น STARK ทำให้เกิดคำถามขึ้นว่า
มันพอจะมีสัญญาณ "แรกๆ" หรืออะไรพอที่จะเป็นเค้าลางแห่งหายนะ ในการบอกเราล่วงหน้าได้บ้างไหม ว่าหุ้นตัวนี้กำลังจะเกิดปัญหาขึ้น
สิ่งที่ผู้เขียนพอจะนึกออก คือ เรื่องของการเพิ่มทุน....
การเพิ่มทุนคือ การที่บริษัทระดมทุนอีกครั้งจากผู้ถือหุ้น ด้วยการออกหุ้นใหม่เพิ่มเติมจากหุ้นเดิมที่มีอยู่แล้ว หรือที่เรียกว่า "หุ้นเพิ่มทุน” และนำมาจำหน่ายสู่ตลาด เพื่อจุดประสงค์ใดจุดประสงค์หนึ่ง
การเพิ่มทุนก็มีอยู่หลายแบบ เช่น เพิ่มทุนเฉพาะเจาะจง เพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม เพิ่มทุนให้กับกลุ่มผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่
ส่วนใหญ่การเพิ่มทุนก็มักจะเป็นเรื่องของการไปซื้อกิจการ เพื่อสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด
หรือที่เรามักจะได้ยินคำสวยหรูอยู่บ่อยครั้ง คือคำว่า Synergy
ในความเป็น Synergy จะต้องแลกมาด้วยสิ่งที่จะตามมา 2 อย่างด้วยกันคือ
✅ 1. ระยะเวลาที่ยาวนานระดับหนึ่ง และค่าใช้จ่ายที่มากเป็นพิเศษ
อย่างเช่นกรณีของ TRUE กับ DTAC ที่ผ่านมาเกือบปีแล้วยังเห็นภาพ Synergy ไม่ชัด แถม TRUE ยังมีรายจ่ายพิเศษที่กดดันผลประกอบการอีก
แน่นอนว่าผลประกอบการไตรมาส 2 มุมมองบทวิเคราะห์หลายแห่งมองว่าน่าจะยังขาดทุนอยู่ และจะกลับมาเห็นผลชัดอีกครั้ง คือ ช่วงปี 2567 และกลับมากำไรได้ในปี 2568 พูดง่ายๆ คือ ในอีก 2 ปีข้างหน้า
✅ 2. การควบรวมกิจการ สิ่งที่จะตามมาคือการก่อหนี้
และถ้าบริษัทมีหนี้มาก หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีการ "เพิ่มทุน"
การเพิ่มทุนไม่ใช่สิ่งที่นักลงทุนปรารถนาเท่าไรนัก เพราะนี่คือการดูดเงินเข้าบริษัทของธุรกิจ
การดึงเงินจากผู้ถือหุ้นเข้าบริษัท จะส่งผลดีต่อฐานะทางการเงินของกิจการ แต่การมีจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นมานั้นก็จะทำให้กำไรต่อหุ้น (EPS) ลดลงซึ่งจะส่งผลต่อมูลค่าของกิจการ
ยิ่งไปกว่านั้นมูลค่าของหุ้นในทางทฤษฎีนั้น จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับกระแสเงินสดที่บริษัทจะจ่ายออกมาให้ผู้ถือหุ้นมากหรือน้อย และการมีจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้น เท่ากับว่าเงินที่จ่ายออกมาถูกแบ่งปันไปให้หุ้นอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้นมา
เท่ากับว่ามูลค่าของหุ้นจะลดลง ในระยะยาว
คำถามคือ ถ้าเราเจาะลึกประเด็นเรื่องของการเพิ่มทุน
กิจกรรมนี้ อาจจะกลายเป็นสัญญาณหายนะของหุ้นได้ 3 ประการ ที่ถูกส่งต่อออกมาโดยที่ผู้ถือหุ้นไม่รู้ คือ
✅ 1. ราคาหุ้นแพงเกินกว่าความเป็นจริง
ถ้าสมมุติว่าบริษัท XYZ มีมูลค่าทางบัญชีอยู่ที่ 10 บาท แต่ราคาหุ้นอยู่ที่ 20 บาท (เท่ากับ P/BV 2 เท่า) การที่บริษัทต้องการเงิน 100 บาท เขาอาจจะออกหุ้นใหม่อีก 5 หุ้น เพื่อให้ได้เงินเพิ่มทุน 100 บาท
ในทางกลับกัน ถ้าราคาหุ้นอยู่ 5 บาท (เท่ากับ P/BV 0.5 เท่า) เขาอาจจะต้องออกหุ้นใหม่อีก 20 หุ้น เพื่อให้ได้เงิน 100 บาท
พูดง่ายๆ คือ การเพิ่มทุนเมื่อราคาหุ้นสูงๆ จะมีความได้เปรียบ เพราะบริษัทได้เงินเข้ามามาก โดยออกหุ้นใหม่น้อย
และยังไม่ถูกกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมต่อว่าด้วยว่าทำไมถึงขายในราคาต่ำ
แต่ถ้าหุ้นเล่นต่ำกว่ามูลค่า บริษัทเองก็ไม่อยากเพิ่มทุน เพราะถ้าเพิ่มราคาสูงกว่ากระดาน ก็คงไม่มีใครอยากเพิ่ม หรือถ้าใครอยากได้จริงๆ ไปซื้อในกระดานดีกว่า การออกหุ้นมากเกินความจำเป็น และอาจจะถูกกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมไม่พอใจที่เพิ่มในราคาต่ำๆ
ดังนั้นเวลาบริษัทไหนมีการเพิ่มทุน ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการบ่งบอกว่าราคาหุ้นแพงเกินความเป็นจริง
✅ 2. หนี้สูง กู้เพิ่มไม่ได้ จึงจำเป็นต้องเพิ่มทุน
โดยส่วนใหญ่แล้ว การเพิ่มทุนมักจะเป็นทางเลือกสุดท้ายของบริษัท
เพราะถ้าประกาศออกไปแล้ว ราคาหุ้นมักจะตก และตกเป็นเป้าหมายว่าฐานะทางการเงินแย่กว่าความเป็นจริง
ดังนั้นการจะขอเพิ่มทุน ก็อาจจะเป็นการส่งสัญญาณว่าบริษัทมีหนี้สินที่สูง กระแสเงินสดไม่พอ หรือไม่มีธนาคารไหนเสี่ยงยอมปล่อยกู้เพิ่มอีกแล้ว จึงต้องมาขอเพิ่มทุน
✅ 3. ไม่แน่ใจว่าโครงการที่ลงมือทำ (จากการเพิ่มทุน) จะได้ผลตอบแทนดีแค่ไหน
เวลาบริษัทจะทำโครงการอะไรก็ตาม เงินลงทุนที่จะเป็นประตูด่านแรก คือ การไปขอกู้เงินจากธนาคาร
ฝ่ายบริหารเห็นว่าโครงการที่จะทำประสบความสำเร็จ ได้ผลตอบแทนสูง ธนาคารเห็นด้วยและพิจารณาจากฐานะทางการเงิน เลยยอมปล่อยกู้
แสดงให้เห็นว่าโครงการนี้มีโอกาสสูงมากที่จะประสบความสำเร็จจึงยอมกู้เงินจากแหล่งเงินทุนที่มีต้นทุนสูงก่อนในทางตรงกันข้ามการขอเพิ่มทุน คือการแสดงให้เห็นว่าโครงการที่กำลังจะทำ ไม่แน่ใจว่าประสบความสำเร็จไหม
หรือถ้าประสบความสำเร็จ ก็อาจจะต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนานและผลตอบแทนก็ต่ำมากๆ จึงต้องขอเพิ่มทุนซึ่งเป็นแหล่งเงินทุนที่มีต้นทุนต่ำและไม่ถูกกดดันจากระยะเวลา
กลับไปที่คำถามคือ ถ้าเราไม่อยากเจอหุ้นแบบ STARK อีก ต้องทำอย่างไร ?
คำตอบคือ หลีกเลี่ยงหุ้นที่เพิ่มทุน เคยมีอดีตเพิ่มทุน โดยเฉพาะเพิ่มทุนช่วงที่ราคาหุ้นตกต่ำเป็นสัญญาณเตือนแรกๆ ที่ต้องระมัดระวัง
แต่หลายๆ ครั้ง หุ้นที่เพิ่มทุนแล้วลงทุนประสบความสำเร็จ มูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้นในระยะยาว ก็มีให้เห็น
เพียงแต่เป็นส่วนน้อยมากๆ และส่วนใหญ่จะออกไปทางล้มเหลวซะมากกว่า
#อ ่านต่อ : https://line.me/ti/p/SR3gjQvaCa