Highlight Hot News

  • Home
  • Highlight Hot News

Highlight Hot News ข่าวดัง ข่าวเด่น จับกระแส เจาะประเด?

สร้างกระแสเดินทางท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ ททท. จัดใหญ่ ดึง “กลัฟ คณาวุฒิ” พร้อมเปิดแคมเปญ “ลดโลกเลอะกับกลัฟ เที่ยวทัชใจ ...
29/08/2024

สร้างกระแสเดินทางท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ

ททท. จัดใหญ่ ดึง “กลัฟ คณาวุฒิ” พร้อมเปิดแคมเปญ “ลดโลกเลอะกับกลัฟ เที่ยวทัชใจ ดีต่อใจ ดีต่อโลก” รณรงค์ท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ

เย็นวานนี้ (28 ส.ค. 2567)
ณ ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำโดย นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. พร้อมด้วย คุณมนาเทศ อันนวัฒน์ ผู้จัดการใหญ่ ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด คุณจิตตินันท์ เรืองวีรยุทธ ผู้อํานวยการกองจัดการความหลากหลายทางชีวภาพ สำนักนโยบายและแผน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้บริหาร ททท. และแฟนคลับร่วมเปิดแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ Responsible Tourism ลดโลกเลอะกับกลัฟ “เที่ยวทัชใจ ดีต่อใจ ดีต่อโลก” พบกับ “กลัฟ คณาวุฒิ” ตัวแทนวัยรุ่นยุคใหม่ ที่หลงรักการท่องเที่ยวไทยและพร้อมจะชวนทุกคนออกมาท่องเที่ยวและรักษ์โลกในคราวเดียวกัน

ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ททท. มีนโยบายมุ่งเน้นการท่องเที่ยวแบบรักษ์โลกและการท่องเที่ยวแบบรับผิดชอบมาโดยตลอด แคมเปญนี้มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวหันมาสนใจและเดินทางท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อมในระหว่างการเดินทาง

ภายในงานพบกับเวทีเสวนา RESPONSIBLE TALKS พูดคุยแลกเปลี่ยนเคล็ดลับในการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ และร่วมกัน #ลดโลกเลอะ สร้างการท่องเที่ยวยั่งยืน ให้กลายเป็นวัฒนธรรมท่องเที่ยวสุดคูล และอัปเดตเทรนด์การท่องเที่ยวของคนยุคใหม่ พร้อมแบ่งปันเคล็ดลับการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ และประชาสัมพันธ์กิจกรรมจิตอาสาร่วมกันลดโลกเลอะอย่างยั่งยืน

#ททท #ลดโลกเลอะ #ลดโลกเลอะกับกลัฟ #กลัฟคณาวุฒิ

📌FHT ผนึกสมาคมภัตตาคารไทย จัดหลักสูตรเทคนิคการทำธุรกิจอาหารให้ปัง ดังด้วย Super Content การเล่าเรื่องบนวีดีโอ ทำคลิปล้าน...
24/08/2024

📌FHT ผนึกสมาคมภัตตาคารไทย จัดหลักสูตรเทคนิคการทำธุรกิจอาหารให้ปัง ดังด้วย Super Content การเล่าเรื่องบนวีดีโอ ทำคลิปล้านวิว
นาทีนี้ไม่รู้เทคนิคออนไลน์แบบปังๆ ไม่ได้แล้ว เมื่อธุรกิจอาหารก้าวสู่บทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ขณะที่กำลังซื้อยังซบเซา จะทำอย่างไรให้เกิดชัยชนะในทะเลแดงเดือด
Food & Hospitality Thailand (FHT) ร่วมกับสมาคมภัตตาคารไทย, มีเดีย แอนด์ บล็อกเกอร์ คลับ และ Blogtech Academy จัดอบรมหลักสูตรเทคนิคการทำธุรกิจอาหารให้ปัง ดังด้วย Super Content การเล่าเรื่องบนวีดีโอ TikTok , Youtube , Reels ทำคลิปล้านวิว การใช้ APP Capcut เดินเรื่องให้เฉียบ พร้อมเทคนิคการปั้นตัวเองสู่ Content Creator และ Influencer ต่อยอดอย่างไรนำไปสู่การขายให้ปังในสนามการค้าออนไลน์
หลักสูตรนี้สอนโดยอาจารย์ไกรศร วิจารย์ประสิทธิ์ ผู้สอนเทคนิคตัดต่อวิดีโอด้วยมือถือเครื่องเดียวมากว่า 147 รุ่น ทำคลิปปังทะลุล้านวิวหลายโพส มีผลงานลูกค้านับร้อยกิจการ รางวัลผู้บริหารสื่อออนไลน์ยอดเยี่ยม อำนวยการสอนโดยนางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย ผู้ที่ขับเคลื่อนธุรกิจอาหารของไทยมายาวนาน
หัวข้อบรรยาย คือ เทคนิคการสร้างและเล่าเรื่องให้ปังทะลุล้าน View/Reach (Champion Content) บนวีดีโอใน Youtube , TikTok , Reels , Facebook , Instagram กลยุทธ์ดัน Content (SEO , Hashtag, Duet, Live) เทคนิคการสร้าง Engagement , ดูแล Community และ Social Proof วิธีดันตัวเองเป็น Influencer/Content Creator ถ่ายทำและตัดต่อวิดีโออย่างมืออาชีพผ่านแอพพลิเคชั่น Capcut เทคนิคการถ่ายภาพให้สวยเพื่อการโฆษณา และเทคนิคต่อยอดการตลาดเพื่อลงสนามการค้าออนไลน์
โดยจัดการบรรยายขึ้นในวันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม 2567 ช่วงเวลาการอบรมคือ 10.30-12.30 น. เทคนิคการถ่ายภาพ ทำคลิปวีดีโอ 13.30-15.30 น. เทคนิคการทำคลิปวีดีโอ คิด Content และปิดการขายด้วยแพลทฟอร์ม ณ Main Stage ภายในงาน Food & Hospitality Thailand ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ อบรมฟรี จองด่วน รับจำนวนจำกัด (ผู้อบรมได้รับประกาศนียบัตรหลักสูตร)
สอบถามรายละเอียด 081-817-2805 หรือไอดีไลน์ tatravel

01/08/2024

📍ททท. จับมือ สดร. ดำเนินโครงการ Amazing Dark Sky in Thailand 3 พร้อมประกาศ 18 โลเคชั่น ประจำปี 2567 แหล่งท่องเที่ยวใหม่ของเมืองไทย
#ททท. #สดร. #พร้อมประกาศ18โลเคชั่น #ประจำปี2567 #แหล่งท่องเที่ยว

🐕🐱ทาสหมา ทาสแมว เตรียมเฮ! Taiwan Excellence ชวนอวดคลิป Reels สัตว์เลี้ยงแสนรัก ชิงของรางวัลมูลค่ากว่า 65,000 บาทปัจจุบัน...
01/08/2024

🐕🐱ทาสหมา ทาสแมว เตรียมเฮ! Taiwan Excellence ชวนอวดคลิป Reels สัตว์เลี้ยงแสนรัก ชิงของรางวัลมูลค่ากว่า 65,000 บาท

ปัจจุบันเทรนด์การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเป็นเสมือนดังสมาชิกในครอบครัวเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว คนส่วนใหญ่ให้ความรัก ความผูกพัน และดูแลสัตว์เลี้ยงดังเป็นลูก (Pet Parent) Taiwan Excellence ตราสัญลักษณ์ “ผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมของไต้หวัน” เข้าใจถึงพลังความรักของเหล่าทาสหมา-ทาสแมว ที่อยากอวดความน่ารัก แสนรู้ของสัตว์เลี้ยงแสนรักต่อสังคม มาทำให้สัตว์เลี้ยงของเราเป็นดังเซเลบริตี้ที่มอบรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความสุขกับผู้พบเห็น

Taiwan Excellence มีนโยบายการเข้ามีส่วนร่วมในสังคมและชุมชนที่ดำรงอยู่ พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนให้ดีขึ้นด้วยนวัตกรรมผ่าน “ผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมของไต้หวัน” ขอเป็นสื่อกลางให้คนไทยมีพื้นที่แบ่งปันความน่ารักของสัตว์เลี้ยงของตนผ่านการสร้างสรรค์คลิปสั้น Reels ร่วมประกวดในโครงการ Share Your Pet Story โดยการโพสต์คลิปสั้น Reels ลงช่องทาง Facebook ส่วนตัว พร้อมติดแฮชแท็ก ในระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม – 10 กันยายน 2567

คณะกรรมการจะคัดเลือก 20 คลิปที่โดดเด่น ที่สามารถบอกเล่าอารมณ์ความรู้สึกของสัตว์เลี้ยงได้อย่างสร้างสรรค์ พร้อมมอบความสุข และพลังงานบวกให้กับผู้ชม เพื่อเปิดให้ประชาชนทั่วไปร่วมโหวตผลงานที่ชื่นชอบในระหว่างวันที่ 16-30 กันยายน 2567 ซึ่งผลงานที่ได้รับการโหวตสูงสุด 5 คลิป จะได้รับเครื่องฟอกอากาศ Acerpure Cool C2-AC551-50W 2 in 1 Air Circulator and Purifier และผู้เข้ารอบ 15 คลิปที่เหลือจะได้รับ Gift Voucher มูลค่ารางวัลละ 1,000 บาท รวมมูลค่าของรางวัลทั้งโครงการกว่า 65,000 บาท

ผู้ที่สนใจสามารถสร้างสรรค์ผลงานโดยการถ่ายคลิปสั้น Reels ความยาวไม่เกิน 15 วินาที บอกเล่าเรื่องราวน่ารักๆ ของสัตว์เลี้ยงแสนรัก โดยเลือกผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมของไต้หวันที่ช่วยให้คุณมีช่วงเวลาแสนพิเศษกับสัตว์เลี้ยงแสนรักจำนวน 1 รายการ จาก 19 รายการ เป็นองค์ประกอบในการเล่าเรื่อง ได้แก่

• AceFly AceFly® ผ้าขนหนูที่ดูดซับน้ำได้ดี ทนทาน เหมาะกับทุกคนในครอบครัว

• Acerpure Pro Vero Air Purifier เครื่องฟอกอากาศ ดีไซน์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมมอบอากาศสะอาดบริสุทธิ์ให้กับสัตว์เลี้ยงของคุณ

• Acerpure RO Water Purifier เครื่องกรองน้ำที่มอบน้ำดื่มสะอาดบริสุทธิ์ให้ทั้งครอบครัว

• Acetec Acetec® waterproof and breathable fabric สนุกสนานกับกิจกรรมกลางแจ้งด้วยนวัตกรรมผ้า Acetec® ช่วยปกป้องอุปกรณ์ของสัตว์เลี้ยงคุณ

• ASUS Ozone Water Sanitizer อุปกรณ์ฆ่าเชื้อโรคในน้ำเพื่อทำความสะอาดสิ่งของเครื่องใช้ของสัตว์เลี้ยงของคุณให้ปราศจากเชื้อโรค

• ASUS ROG Phone 7 Ultimate สมาร์ทโฟนที่ช่วยบันทึกภาพสัตว์เลี้ยงได้อย่างคมชัด

• BenQ LED Smart Portable Ceiling Projector ชมภาพยนตร์เรื่องโปรด และแบ่งปันช่วงเวลาแห่งความสุขกับสัตว์เลี้ยงของคุณ

• BenQ 65-inch 4K QLED Google TV ใช้ช่วงเวลาในวันหยุดสุดพิเศษกับการรับชมโทรทัศน์ ภาพสวยคมชัดเสมือนจริง

• BESV VOTANI F3 Smart eBike ออกผจญภัยในเมืองไปกับสัตว์เลี้ยงของคุณด้วยจักรยานคันนี้

• Dacian Microparticle Stopper Mask ปกป้องคุณจากมลภาวะในขณะที่ออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งกับสัตว์เลี้ยงของคุณ

• GIGABYTE AERO 16 OLED Creator Laptop สร้างสรรค์เรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของคุณผ่านโน๊ตบุ๊คที่มีฟังก์ชันการใช้งานครบครัน

• ible Wearable Ionic Air Purifier เครื่องฟอกอากาศพกพา มอบอากาศสะอาดบริสุทธ์ ลดอาการแพ้ขนสัตว์

• ible Airvida E1 เครื่องฟอกอากาศพกพา พร้อมหูฟังตัดเสียงรบกวน ให้อากาศสะอาดบริสุทธ์ ลดอาการแพ้ขนสัตว์

• PGO Spring B&W ออกเดินทางสร้างความทรงจำร่วมกับสัตว์เลี้ยงของคุณด้วยรถจักรยานยนต์คันนี้

• SHENNONA Pixsee Play and Pixsee Friends Smart Baby Camera and AI-linked Toy Set กล้องอัจฉริยะพร้อมชุดของเล่นเด็ก

• SteelFlex Power Runner ยกระดับการออกกำลังกาย สนุกกับการเคลื่อนไหวไปกับสัตว์เลี้ยง

• Sunon Flow2one Plus เครื่องหมุนเวียนอากาศขนาดกะทัดรัดเพื่ออากาศบริสุทธ์

• Tokuyo Sofa Massage chair เก้าอี้นวดไฟฟ้าที่กันรอดขีดข่วนจากสัตว์เลี้ยง

• YZTEK e+Autoff อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยเตาแก๊สอัจฉริยะ ให้คุณทำอาหารได้อย่างปลอดภัย ป้องกันไฟไหม้

เริ่มสร้างสรรค์ผลงานคลิปสั้นส่งเข้าประกวดกันได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม และสมัครเข้าร่วมประกวดได้ที่ bit.ly/ShareYourPetStory.

🎉 ยินดีกับ...อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท จ.อุดรธานี มรดกทางวัฒนธรรมแห่งที่ 5 ของไทย ที่ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียน ยูเนสโ...
28/07/2024

🎉 ยินดีกับ...อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท จ.อุดรธานี มรดกทางวัฒนธรรมแห่งที่ 5 ของไทย
ที่ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียน ยูเนสโก 🎉

#อีสานเขียวเที่ยวหน้าฝนดลบันดาลใจ
#หลงรักแผ่นดินถิ่นอีสาน


#อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท
#อุดรธานี

สทน.ชูผลงาน รอบ 4 ปี สร้างรายได้ 650 ล้านบาท เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ถึง 7,486 ล้านบาทวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 สถาบั...
16/07/2024

สทน.ชูผลงาน รอบ 4 ปี สร้างรายได้ 650 ล้านบาท เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ถึง 7,486 ล้านบาท

วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทน. ได้จัดแถลงข่าวนโยบายการดำเนินงาน สทน. เนื่องในโอกาสที่ รศ.ดร. ธวัชชัย อ่อนจันทร์ ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ เข้ารับตำแหน่งในวาระที่ 2 การแถลงข่าวจัดขึ้นที่ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) สำนักงานใหญ่ อำเภอ องครักษ์ จังหวัด นครนายก

รศ.ดร. ธวัชชัย อ่อนจันทร์ ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า สทน. มุ่งมั่นขับเคลื่อนกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ ตามภารกิจและนโยบายของรัฐบาล โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการพัฒนาประเทศ และร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ดียิ่งขึ้น สถาบันฯได้ดำเนินการแบบครบวงจร คือ การวิจัย การบริการ และการถ่ายทอดองค์ความรู้ในด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์สู่ภาคส่วนต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดการนำเทคโนโลยีนิวเคลียร์ไปใช้อย่างกว้างขวางมากขึ้น โครงการสำคัญ เช่น การพัฒนาเทคโนโลยีฟิวชัน ซึ่งจะกลายเป็นพลังงานสะอาดของโลกอนาคต หรือ ที่เรียกกันทั่วไปว่า "ดวงอาทิตย์ประดิษฐ์" สถาบันได้ร่วมทำงานกับหลายภาคส่วนทั้ง มหาวิทยาลัย สถาบันวิจัย และภาคเอกชน ระดมผู้เชี่ยวชาญทางด้านสาขาต่าง ๆ มาต่อยอดเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อสร้างองค์ความรู้และสามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติในอนาคตได้ และการยกระดับอาหารพื้นถิ่นฉายรังสีเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจของอาหารพื้นถิ่น การให้ความรู้กับผู้ประกอบการทางภาคต่างๆ ของประเทศไทย ในการเผยแพร่ความรู้ทางด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ให้เป็นที่รู้จักแก่ประชาชนทั่วไป รวมถึงได้ให้คำปรึกษาในการที่จะเริ่มต้นทำธุรกิจทางด้านอาหารฉายรังสีให้กับผู้ประกอบการอีกด้วย ด้านการบริการ สถาบันฯได้ดำเนินการในหลายรูปแบบทั้ง การผลิตสารไอโซโทปรังสีเพื่อตรวจและรักษาโรคมะเร็งโดยผ่านการให้บริการกับทางโรงพยาบาลหลายแห่งในประเทศไทย และนอกจากนี้ สทน. ยังได้พัฒนางานบริการและงานวิจัยอย่างต่อเนื่องเช่น การฉายรังสีสินค้าเกษตรและอาหารเพื่อการส่งออก และการตรวจสอบสินค้าอุตสาหกรรมต่าง ๆ เป็นต้น สำหรับสรุปผลการดำเนินงานของ สทน. แบ่งออกเป็นสองด้านหลักๆ คือ งานด้านการให้บริการ และงานด้านการวิจัย แต่ละด้านมีผลการดำเนินงาน ดังนี้

ด้านการให้บริการ

1. รายได้ที่เกิดจากการให้บริการและผลิตภัณฑ์จากเทคโนโลยีนิวเคลียร์ ในช่วงปี พ.ศ. 2563 – 2566 มีมูลค่าตามลำดับ ดังนี้ 147.18 ล้านบาท 149.77 ล้านบาท 175.51 ล้านบาท 178.07 ล้านบาท รวมรายได้ในรอบ 4 ปี เป็นจำนวน 650.3 ล้านบาท

2. มูลค่าทางเศรษฐกิจที่เกิดจากผลิตภัณฑ์และการให้บริการทางด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ ในช่วงปี พ.ศ. 2563 – 2566 มีมูลค่าตามลำดับดังนี้ 1,573 ล้านบาท , 1,694 ล้านบาท , 1,926 ล้านบาท , 2,293 ล้านบาท รวมมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในรอบ 4 ปี เป็นจำนวน 7,486 ล้านบาท

3. จำนวนผู้ประกอบการที่รับบริการด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ ปี พ.ศ. 2565 มีจำนวน 3,534 ราย ปี พ.ศ. 2566 มีจำนวน 4,590 ราย

4. จำนวนผู้ประกอบการที่รับบริการฉายรังสี ในช่วงปี พ.ศ. 2563 – 2566 มีดังนี้ 317 ราย , 401 ราย , 319 ราย และ 502 ราย รวมในรอบ 4 ปี มีจำนวนผู้ประกอบการที่รับบริการฉายรังสี ทั้งสิ้น 1,539 ราย

5. จำนวนผู้เข้าถึงการรักษาและวินิจฉัย ในช่วงปี พ.ศ. 2563 – 2566 มีจำนวนผู้เข้าถึงตามลำดับ ดังนี้ ปี พ.ศ. 2565 จำนวน 22,800 ราย และปี พ.ศ. 2566 มีจำนวนผู้เข้าถึง 42,000 ราย รวมผู้เข้าถึงการรักษาและวินิจฉัยในช่วง 2 ปี มีจำนวน 64,800 ราย

6. จำนวนคนที่ได้รับการพัฒนาด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์เพื่อสนับสนุน งานด้านอุตสาหกรรม ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2563 – 2566 มีจำนวน ดังนี้ 549 ราย, 163 ราย , 1,575 ราย , 2,076 ราย รวมจำนวนคนที่ได้รับการพัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์ในรอบ 4 ปี มีจำนวนทั้งสิ้น 4,363 ราย

ด้านการวิจัย

1. จำนวนการยื่นจดสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตร ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2563 – 2566 มีผลงานการขึ้นทะเบียนตามลำดับ ดังนี้ 13 เรื่อง , 11 เรื่อง , 13 เรื่อง , และ 31 เรื่อง รวมผลงานที่จดทะเบียนสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตรในรอบ 4 ปี เป็นจำนวน 68 เรื่อง

2. ผลงานวิจัยพัฒนาและเทคโนโลยีพร้อมใช้ที่ถูกนำไปใช้ในเรื่องการสร้างมูลค่าเชิงพาณิชย์ ให้กับภาคการผลิต บริการ และการแพทย์และสาธารณสุข ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2563 – 2566 มีจำนวนผลงานตามลำดับ ดังนี้ 14 เรื่อง , 13 เรื่อง , 12 เรื่อง และ 14 เรื่อง รวมผลงานที่มีการนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ในรอบ 4 ปี มีจำนวน 53 เรื่อง

3. ผลงานการตีพิมพ์ในระดับนานาชาติ ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2563 – 2566 มีผลงานการตีพิมพ์ตามลำดับ ดังนี้ 23 เรื่อง , 39 เรื่อง , 62 เรื่อง , และ 63 เรื่อง รวมผลงาน ตีพิมพ์ในช่วง 4 ปี เป็นจำนวน 187 เรื่อง

ในส่วนของโครงการที่สำคัญๆ ที่ สทน.ดำเนินการช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2563 - พ.ศ. 2566 มี 2 โครงการคือ 1. โครงการศูนย์ฉายรังสีอิเล็กตรอนบีม 2. โครงการเครื่องโทคาแมคเพื่อวิจัยเทคโนโลยีฟิวชัน

สำหรับแนวนโยบายในการปฏิบัติงานของ สทน. ในปี 2567- 2570 สทน. เน้นเป้าหมายสำคัญใน 3 ด้าน คือ

เป้าหมายที่ 1 การนำเทคโนโลยีนิวเคลียร์ไปสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจ SMEs เพื่อเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจอาหารและการเกษตร เช่น การต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์จากผู้ประกอบการที่ได้รับการคัดเลือกจากโครงการ “ฉายรังสีปลอดภัย อาหารพื้นถิ่นปลอดโรค” การวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อส่งเสริมการใช้ประโยชน์ในภาคอุตสาหกรรม

เป้าหมายที่ 2 การยกระดับงานวิศวกรรม เน้นการพัฒนาต่อยอดด้านเทคโนโลยี ให้สามารถพัฒนานวัตกรรมและเครื่องมือทางนิวเคลียร์ได้ โดยความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ เช่น ระบบการตรวจสอบท่อใต้น้ำ ระบบวัดคุณสมบัติของพลาสมา การพัฒนาอุปกรณ์วัดรังสี และโครงการอื่นๆ ที่กำลังดำเนินการ

เป้าหมายที่ 3 การเปลี่ยนผ่านงานสู่ระบบดิจิทัล การนำ AI มาประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์และประเมิน เพื่อความรวดเร็วในการปฏิบัติงาน และการให้บริการ มีกิจกรรมที่สำคัญ เช่น การพัฒนาแอปพลิเคชั่น หรือ ระบบการให้บริการในรูปแบบดิจิทัลเพื่อสนับสนุนการบริการ การพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการข้อมูลและการใช้ประโยชน์จากข้อมูล การพัฒนาทรัพยากรบุคคล และทักษะด้านดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพ และการปรับปรุงการบริหารจัดการและกระบวนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลภายในองค์กร

✨ททท.อีสาน ขอเชิญไปชมความตระการตาของแสงสีในงาน “VIJITR 5 ภาค @อุบลราชธานี" แสงศิลป์แห่งศรัทธา 13-21 กรกฎาคม 2567ถ่ายทอดอ...
12/07/2024

✨ททท.อีสาน ขอเชิญไปชมความตระการตาของแสงสีในงาน “VIJITR 5 ภาค @อุบลราชธานี" แสงศิลป์แห่งศรัทธา 13-21 กรกฎาคม 2567
ถ่ายทอดอัตลักษณ์ความงดงามในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดอุบลราชธานี ระหว่างวันที่ 13-21 กค.2567 ตั้งแต่เวลา 18.00 น. - 24.00 น.
ประกอบไปด้วยเทคนิคแสง สี เสียงในรูปแบบสมัยใหม่ ทั้ง Light Up, Projection Mapping, การแสดงศิลปวัฒนธรรมที่สะท้อนความงดงามของวิถีชีวิต ภูมิปัญญาและประเพณีท้องถิ่นของจังหวัดอุบลราชธานีใน 7 พิกัด 15 จุดการแสดง คือ
✅ทุ่งศรีเมือง 6 จุด
1.ประเพณีแห่งศรัทธา
2.แสงเรืองรองส่องศรัทธา
3.แสงศิลป์ยุคสมัย
4.สถาปัตยศิลป์
5.วันวานที่สานศิลป์
6.เปลวเทียนส่องศิลป์

✅พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอุบลราชธานี 4 จุด
7.แสงสี ศิลป์ ราชธานี
8.ศรัทธาที่ผลิบาน
9.รากเหง้าศรัทธาศิลป์
10.เจริญศิลป์เรืองรอง

✅วัดบูรพาราม 1 จุด
11.แสงศิลป์บัวพ้นน้ำ

✅วัดมหาวนาราม 1 จุด
12.สวรรค์แสงศิลป์

✅ศาลหลักเมือง
13.แสงศิลป์ ศิวิไล

✅วัดสุปัฏนารามวรวิหาร 1 จุด
14.สุปัตยศิลป์

✅วัดทุ่งศรีเมือง หอไตรกลางน้ำ 1 จุด
15.แสงศิลป์ยอดพระไตร

📍จัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

—————————————

✨Let’s witness the dazzling lights at the event of “VIJITR 5 Regions at Ubon Ratchathani” the Light of Faith conveying the identity of beauty in important historical places of Ubon Ratchathani from 13- 21 July 2024,Time: 06.00 p.m. - 12.00 a.m.
Province consisting of modern light, color, and sound techniques, including Light Up

📍Proudly presented by the Tourism Authority of Thailand

#วิจิตร5ภาค
#วิจิตร5ภาคอุบลราชธานี
#แสงศิลป์แห่งศรัทธา
#เที่ยวอุบลราชธานี
#หลงรักแผ่นดินถิ่นอีสาน

“กาแล็คซี่ อารีน่า” ก้าวสู่การเป็น “สปอร์ตฮับ” ชั้นนำระดับโลกร่วมติดปีกมาเก๊า สู่ “เมืองแห่งกีฬา”​กาแล็คซี่ อารีน่า (Gal...
17/06/2024

“กาแล็คซี่ อารีน่า” ก้าวสู่การเป็น “สปอร์ตฮับ” ชั้นนำระดับโลก
ร่วมติดปีกมาเก๊า สู่ “เมืองแห่งกีฬา”​

กาแล็คซี่ อารีน่า (Galaxy Arena) เขตบริหารพิเศษมาเก๊า ตั้งอยู่ในกาแล็คซี่ มาเก๊า (Galaxy Macau) เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ครบวงจรชั้นนำระดับโลก ล่าสุดได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลเนชันส์ ลีก 2024 หรือ VNL 2024 ได้รับเสียงชื่นชมมากมายต่อความสวยงามและยิ่งใหญ่ของสนามจัดกิจกรรมในร่มแห่งนี้ ทั้งในหมู่ผู้ชม ตลอดจนทัพนักกีฬาและคณะผู้ติดตาม เนื่องด้วยกาแล็คซี่ อารีน่า ถือเป็นอารีน่าที่ใหม่ที่สุดและแกรนด์ที่สุดในมาเก๊า เป็นสถานที่สำหรับจัดอีเวนท์ คอนเสิร์ตและการแข่งขันกีฬาระดับเวิล์ดคลาส จัดเต็มทั้งห้องพัก สิ่งอำนวยความสะดวก สถานที่ซ้อม และสนามแข่งเพื่อรองรับการแข่งขันกีฬาระดับโลก ตอกย้ำการเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญในการผลักดันให้ “มาเก๊า” ก้าวสู่การเป็น “ศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการจัด กีฬาระดับโลก” ตามนโยบายการผลักดันของรัฐบาลจีน ที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้มาเก๊า นับตั้งแต่ยุคหลังโควิด-19 เป็นต้นมา ให้พลิกโฉมสู่การเป็นฮับแห่งใหม่ของโลกในด้านการท่องเที่ยวและกิจกรรมสันทนาการ ไม่ว่าจะเป็นการจัดกิจกรรมความบันเทิง กีฬา วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว

ทั้งนี้ ตลอดที่มีการแข่งขันที่มาเก๊าทั้ง 4 นัด นักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยได้เข้าพักที่โรงแรมแอนดาส มาเก๊า (Andaz Macau) โรงแรมระดับห้าดาว หนึ่งในโรงแรมหรูแปดแห่งซึ่งตั้งอยู่ในอาณาจักร กาแล็คซี่ มาเก๊า ทำให้ทีมนักกีฬาลูกตบสาวไทย สามารถดื่มด่ำกับการพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ และยังสามารถใช้ บริการสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อการ ฝึกซ้อมชั้นยอด ได้โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง เพราะสิ่งอำนวยความสะดวก ทุกอย่าง รวมไว้ครบในที่เดียว สามารถเดินเชื่อม ถึงกันได้หมด เพียงแค่ลงมาจากโรงแรมที่พักก็เดินเชื่อมต่อเข้าสู่สถานที่แข่งขันได้เลยทันที

โค้ชยะ - ณัฐพนธ์ ศรีสมุทรนาค หัวหน้าผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย กล่าวว่า “ขอบคุณสำหรับ การต้อนรับที่อบอุ่น และสิ่งอำนวยความสะดวกอันแสนยอดเยี่ยมที่ทางกาแล็กซี่ มาเก๊าได้จัดเตรียมไว้ให้ โดยเฉพาะสถานที่ จัดงานอย่าง กาแล็คซี่ อารีน่า จัดว่าเป็นอารีน่าที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านกีฬาที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ก็ว่าได้ ที่สำคัญ​ นอกจากจะทำให้ทัพนักกีฬาได้มีพื้นที่ในการฝึกซ้อมและสนามแข่งที่ยอดเยี่ยม เมื่อผนวกกับความ เป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ที่ครบวงจรระดับโลกของกาแล็คซี่ มาเก๊า ที่มีทั้งห้องพักที่หรูหรา ร้านอาหารที่หลากหลาย ตลอดจนสิ่งอำนวยความ สะดวกมากมาย ถือเป็นการช่วยยกระดับประสบการณ์นอกสนามของพวกเราไปในตัว”

ด้าน เควิน เคลลี่ กรรมการผู้อํานวยการฝ่ายปฏิบัติการ (COO) Macau of Galaxy Entertainment Group กล่าวว่า กาแล็คซี่ อารีน่า ถือเป็นสนามในร่มที่ใหญ่และใหม่ที่สุดในมาเก๊า ​เปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว สามารถรองรับ ผู้ชมได้ 16,000 ที่นั่ง ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่งานประชุมขนาดใหญ่ นิทรรศการ กิจกรรมด้าน ความบันเทิง ดนตรี และกีฬา ซึ่งล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญในการผลักดันการพัฒนามาเก๊าให้กลายเป็น “เมืองแห่งกีฬา”
“กาแล็คซี่ มาเก๊ามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสต้อนรับนักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ที่เดินทางมาร่วมการ แข่งขัน VNL 2024 ที่ กาแล็กซี่ อารีนา เราหวังว่า นี่จะเป็นอีกทริปที่น่าจดจำของทุกคน แม้จะเป็นครั้งแรกที่กาแล็คซี่ อารีน่า ได้รับเลือกเป็นสถานที่จัดการแข่งขันวอลเลย์บอล หลังจากก่อนหน้านี้ เราประสบความสำเร็จอย่างสวยงามจากการเป็น เจ้าภาพ จัดการแข่งขัน ITTF World Cup ซึ่งเป็นการแข่งขันเทเบิลเทนนิสชิงแชมป์โลก ซึ่งทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นการตอกย้ำ ความมุ่งมั่นของเรา ในการขับเคลื่อนให้ให้มาเก๊าเป็นสปอร์ตฮับชั้นนำ และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในอนาคตจะมีได้มีโอกาส เป็นเจ้าภาพ ในการจัดกีฬาระดับโลก เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทยและทั่วโลกได้สัมผัสควบคู่ไป กับประสบการณ์เข้าพักในเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ครบวงจรชั้นนำระดับโลก”
ทั้งนี้ กาแล็คซี่ มาเก๊า ถือเป็นเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ครบวงจรชั้นนำระดับโลกที่เปิดให้บริการในมาเก๊ามานานกว่า 13 ปี ตอกย้ำ การเป็น "จุดหมายปลายทางที่พร้อมมอบ ความบันเทิง และการพักผ่อนที่น่าตื่นเต้นที่สุดในโลก" ด้วยพื้นที่ที่ครอบคลุมกว่า 1.1 ล้านตาราเมตร ใช้เม็ดเงินลงทุนถึง 4.3 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง เพื่อสร้างสรรค์ ประสบการณ์ความบันเทิงและการพักผ่อนที่หาไม่ได้จากที่ไหนในมาเก๊าไว้ ครบจบในที่เดียว ภายในอาณาจักร กาแล็คซี่ มาเก๊า ประกอบด้วยโรงแรมหรูระดับโลกที่ได้รับรางวัล 8 แห่ง มีไฮไลต์ คือ Grand Resort Deck สวนน้ำขนาดใหญ่กว่า 75,000 ตารางเมตร และ Skytop Wave Pool ที่ใหญ่ที่สุด สร้างคลื่นได้สูงถึง 1.5 เมตร พร้อมชายหาดซึ่งมีทรายขาวบริสุทธิ์ยาวถึง 150 เมตร ตอบโจทย์ความต้องการในทุกไลฟ์สไตล์ ในฐานะจุดหมายปลายทางด้านอาหารชั้นนำของเอเชีย กาแล็คซี่ มาเก๊า มีตัวเลือก ร้านอาหารมากกว่า 120 แห่ง ตั้งแต่ระดับมิชลินสตาร์ ไปจนถึงอาหารท้องถิ่นอันเลื่องชื่อ ​Galaxy Promenade ศูนย์การค้าที่ได้รับรางวัลด้านไลฟ์สไตล์ ลักซ์ชูรี ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 100,000 ตารางเมตร ครบครันด้วยร้านค้าแฟล็กชิป ของแบรนด์ดัง รวมถึงบูติกระดับไฮเอนด์กว่า 200 แห่ง

16/05/2024

เริ่มแล้ววันนี้ ความสุข ทุก Lifestyle กับบัตรโดยสารรถไฟฟ้าสายสีแดง ทุกประเภท

“เครื่องประดับ ของขวัญ ของใช้ส่วนตัว ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม สนามกอล์ฟ เครื่ิองสำอางค์ สุขภาพ ความงาม เครดิตเงินคืน .. . “

ร้านค้า บริการ ที่ร่วมรายการ
• SEIKO CASIO ALBA LUMINOX
• สนามกอล์ฟ พัฒนา สปอร์ต รีสอร์ท
• ธนาคารทหารไทยธนชาต
• โรงแรมอมารีดอนเมือง แอร์พอร์ต กรุงเทพฯ : Amari Don Muang Airport Bangkok
• โรงแรมเบสท์เวสท์เทิร์น จตุจักร กรุงเทพฯ : Best Western Hotels & Resorts
• เอี่ยวไถ่ สุกี้โบราณ
• ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว Margidish
• ยาดมสมุนไพร ตราดัมเบิ้ล : Dumble Inhaler
• เบลล่าลินคลินิก : Bellalin Clinic
• คาเมลเลีย คลินิก : Camellia Clinic
• ทิพยประกันภัย

(เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด บริษัทขอสงวนสิทธ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข ยกเลิกได้ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า)

รายละเอียดเพิ่มเติม Call Center 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง www.srtet.co.th หรือ inbox ใน Facebook Fan Page พิมพ์ชื่อ “RED Line SRTET”

“มากกว่าการเดินทางคือ .. . ความพิเศษ”

รถไฟฟ้าสายสีแดงยกระดับคุณภาพชีวิตชานเมือง

1690 ☎️ ตลอด 24 ชม.

depa x Brand'sBRAIN CAMPบูสต์สมองเด็กไทย สู่โลก AI ไร้ขีดจำกัด   's  #บูสต์สมองเด็กไทยสู่โลกAIไร้ขีดจำกัด
09/05/2024

depa x Brand's
BRAIN CAMP
บูสต์สมองเด็กไทย สู่โลก AI ไร้ขีดจำกัด
's #บูสต์สมองเด็กไทยสู่โลกAIไร้ขีดจำกัด

ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพ  #กัณฑ์เทศน์มหาชาติ  #งานเทศน์มหาชาติ เนื่องในวาระ 100 ปี พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน พิพิธภัณฑ์พระบาทส...
06/05/2024

ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพ #กัณฑ์เทศน์มหาชาติ #งานเทศน์มหาชาติ เนื่องในวาระ 100 ปี พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้ายู่หัว วันพฤหัสบดีที่ 16 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป (ฎีกาพระมาลัยและสวดคาถาพัน) วันศุกร์ที่ 17 พ.ค.67 เวลา 05.00 เป็นต้นไป (เทศน์มหาชาติ 13 กัณฑ์) และเชิญเข้าชม #พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว วันเสาร์ที่ 18 และวันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม 2567 เวลา 09.00 - 17.00 น. ณ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน อําเภอชะอํา จังหวัดเพชรบุรี

น.ส.เกล้ามาศ ยิบอินซอย #ผู้อำนวยการสำนักงานมูลนิธิพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เผยว่า เนื่องในวาระพระบรมราชสมภพครบ 12 รอบมะโรงนักษัตรของพระบาทสมเด็จพระมงกฎุเกล้าเจ้าอยู่หัวและในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบมะโรงนักษัตรของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ประจวบกับวาระครบ 100 ปี ที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงประกาศเขตพระราชฐานพระราชนิเวศน์มฤคทายวน พร้อมทรงกําหนดเป็นเขตพระราชฐานพร้อมกําหนดเป็นเขตอภัยทานแก่สัตว์ทั้งหลายเมื่อวันวิสาขบูชาขึ้น 15 ค่ํา เดือน 6 ตรงกับวันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม พุทธศักราช 2567

#มูลนิธิพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี จะกลับมาเปิดพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ให้เข้าชมเป็นปกติ (ทุกวันพฤหัสบดี สําหรับนักรียนนิสิต นักศึกษา และผู้ประสงค์เข้าชมเป็นหมู่คณะโดยทําการนัดหมายล่วงหน้า และวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ สําหรับผู้สนใจเข้าชมทั่วไป) ในรูปแบบของพิพิธภัณฑ์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อคราวพระราชทานโฉนดที่ดินในพระปรมาภิไธยจํานวน 23 โฉนด แก่กระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 เพื่อใช้ในราชการของตํารวจตระเวนชายแดน และพิพิธภัณฑ์ของ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวาระอันเป็นมงคลยิ่งนี้ และเพื่อเป็นการน้อมรําลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาท สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมทั้งเฉลิมพระเกียรติสนองพระเดชพระคุณพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน อ. ชะอํา จ. เพชรบุรี ดําริจัดเทศน์มหาชาติ พร้อมสวดฎีกาพระ มาลัย และคาถาพัน ในวันพฤหัสบดีที่ 16 และวันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม และเปิดให้ผู้สนใจเข้าชมพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน และร่วมทําบุญตามจิตศรัทธา จนถึงวันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม 2567 โดยงดเว้นค่าเข้าชม

โอกาสนี้ ขอเรียนเชิญท่านผู้มีภักดีจิตเป็นกุศล ประสงค์จะบํารุงพระศาสนาและเป็นการน้อม รําลึกในพระมหากรุณาธิคุณและเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้ง 2 พระองค์ ร่วมเป็นเจ้าภาพกัณฑ์เทศน์มหาชาติและร่วมฟังฎีกาพระมาลัย คาถาพันและเทศน์มหาชาติในวันพฤหัสบดีที่ 16 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00 น. วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 05.00 น.

เทศน์มหาชาติ ณ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ครั้งนี้นําเสนอรูปแบบการเทศน์มหาชาติตามแบบฉบับ เมืองเพชร โดยอาราธนาพระธรรมจากวัดต่าง ๆ ทั่ว เมืองเพชรบุรีเป็นผู้แสดงพระธรรมเทศนาทั้ง 13 กัณฑ์ รวมถึงฎีกาพระมาลัยและสวดคาถาพัน ทั้งได้จ้ดจําลองพระที่นั่งสโมสรเสวกามาตย์ เป็นป่าหิมพานต์ตามความในมหาเวสสันดรชาดก อาทิ การประดับตกแต่งมณฑลพิธีจากพืชพรรณไม้ผลนานาชนิด ผสมผสานกับพรรณไม้ของสังคมพืชบนสันดอนทรายชายฝั่ง อันเป็นลักษณะที่ตั้งของพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน รวมถึงนํางานปูนปั้นสัตว์หิม พานต์และงานฝีมืออื่น ๆ จากสกุลช่างเมืองเพชรมาประดับในพิธีเทศน์มหาชาติครั้งนี้ด้วย เพื่อร่วมส่งเสริมและเผยแพร่องค์ความรู้ด้านศิลปะ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีของจังหวัดเพชรบุรีให้คงอยู่สืบไป

ในวาระ 100 ปีพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน มูลนิธิฯได้จัดทําพิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เน้นการนําเสนอกระบวนการการบูรณะและอนุรักษ์หมู่พระที่นั่ง พร้อมกับการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ทั้งในด้านธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงด้านวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณี โดยบันทึกข้อมูลและผลลัพธ์ที่ได้จากกระบวนการต่าง ๆ เก็บไว้เป็นหลักฐานและนําเสนอข้อมูลองค์ความรู้แบบองค์รวม มีการบูรณะณาการความรู้จากผู้เชี่ยวชาญสาขาต่าง ๆ

โดยเปิดให้ทุกท่านมีส่วนร่วมสนับสนุนการดําเนินงานของ พิพิธภัณฑ์ผ่านรูปแบบการเป็นสมาชิกบูรโณปถัมภ์ เพื่อให้พิพิธภัณฑ์สามารถพัฒนาได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ตามวัตถุประสงค์และจุดมุ่งหมายในการอนุรักษ์มรดกทางสถาปัตยกรรม มรดกทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มรดกทางวัฒนธรรม ซึ่งเป็นพื้นฐานของการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างครบวงจรและสนองพระราชประสงค์ของ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ทรงพระราชทานที่ดินให้เป็นพิพิธภัณฑ์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎ เกล้าเจ้าอยู่หัวได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์

ทั้งนี้ พระราชนิเวศน์มฤคทายวันจะกลับมาเปิดให้สมาชิกบูรโณปถัมภ์และบุคคลทั่วไปเข้าเยี่ยมชม ศึกษาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 18 และวันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป และหลังจากนี้จะเปิดให้เข้าชมทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 09.00 - 16.00 น. และเป็นหมู่คณะเปิดในทุกวัน พฤหัสบดี เวลา 08.30 – 16.30 น. โดยติดต่อพร้อมส่งหนังสือแจ้งความประสงค์มายังสํานักงานมูลนิธิฯ เพื่อนัดหมายวันและเวลาเข้าเยี่ยมชม
รายละเอียดการร่วมเป็นเจ้าภาพกัณฑ์เทศน์มหาชาติ 13 กัณฑ์ เจ้าภาพกัณฑ์เทศน์หลัก กองบุญละ 60,000 บาท จํานวน 10 กอง ต่อกัณฑ์ เจ้าภาพกัณฑ์เทศน์รอง กองบุญละ 30,000 บาท จํานวน 10 กองต่อกัณฑ์ เจ้าภาพกัณฑ์เทศน์ร่วม กองบุญละ 15,000 บาท จํานวน 10 กองต่อกัณฑ์ เจ้าภาพกัณฑ์เทศน์สมทบ กองบุญละ 150 บาท และ 300 บาทประกอบไปด้วยฎีกาพระมาลัย(10 หรือ 20 บาท) คาถาพัน (10 หรือ 20 บาท) และเทศนม์หาชาติ 13 กัณฑ์ (130 หรือ 260 บาท) หรือร่วมทําบุญตามจิตศรัทธา

ผู้มีจิตศรัทธาโปรดแจ้งความประสงคม์าที่สํานักงานมูลนิธิพระราชนิเวศน์มฤคทายวันในพระอุปถัมภ์ฯ โทร. 032-508-443, 032 - 408 - 445

ผู้ประสานงานเทศน์มหาชาติ ศุภรดา 089- 470 - 4117 ปริชานันท์ 085 - 650 - 9161 หรือบริจาคฝ่ายระบบ E-Donation

ติดตามข่าวสารและสอบถามเพิ่มเติมได้ทาง พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน / Mrigadayavan Palace โทร. 032 -508 - 443 และ 032- 508 - 445 และ 085 - 650-9161 (เวลาทําการ 08.30 - 17.00 น.)

📍หมายเหตุ : ยอดกองบุญของทุกท่านที่ร่วมบริจาค สามารถลดหย่อนภาษีได้เต็มจำนวนตามสิทธิ์การหักลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปีของแต่ละท่าน โดยระบบของธนาคารที่ท่านเลือกใช้จะทำการส่งข้อมูลยอดบริ
จาคไปยังกรมสรรพากรโดยอัตโนมัติ (ระบบ e-Donation)

17/04/2024

📍กระทรวงพลังงานผนึกกำลัง กับ สมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไทย-จีน (TSAST) และCAS-ICCB
จัดงาน “Green Technology Expo 2024”
“เปิดประตูสู่อนาคต ”
Driving Sustainable Solutions: Advancing Business Through Green Technology
ส่งเสริมแผนงานความยั่งยืน ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยเทคโนโลยีสีเขียว
#เทรนด์วันนี้ #เปิดประตูสู่อนาคต #ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยเทคโนโลยีสีเขียว

04/04/2024

“อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์” ผนึกพันธมิตร จัดงาน Jewellery & Gem ASEAN Bangkok 2024
ผลักดันผู้ประกอบการอัญมณี และเครื่องประดับไทยสู่เวทีโลก

“อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย” จับมือพันธมิตร กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม กลุ่มอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมการค้ากลุ่มอัญมณีเครื่องประดับและโลหะมีค่าสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมการค้าอัญมณีและเครื่องประดับอาเซียน สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) สมาคมผู้ส่งออกเครื่องประดับเงินไทยและสมาคมช่างทองไทย ร่วมกันจัดงาน “Jewellery & Gem ASEAN Bangkok” (JGAB) “จิวเวลเลอรี่แอนด์เจม อาเซียน แบงค็อค 2024” ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 1-4 พฤษภาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ บนพื้นที่กว่า 17,000 ตร.ม. โดยงานนี้เป็นการรวมตัวครั้งสำคัญของผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับ คาดปีนี้จะมีผู้ซื้อคุณภาพไม่ต่ำกว่า 10,000 ราย จากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ร่วมผลักดันผู้ประกอบการกลุ่มอัญมณีเครื่องประดับไทยฟื้นกลับสู่เวทีโลก

นายสรรชาย นุ่มบุญนำ ผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า JGAB 2024 ปีนี้ นอกจากจะเป็นเวทีสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการไทยได้พบปะเจรจาธุรกิจกับผู้เข้าชมจากต่างประเทศแล้ว ยังเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยในภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอัญมณีและเครื่องประดับ โดยเฉพาะกลุ่ม SME ได้มีโอกาสแสดงศักยภาพสินค้าที่ผลิตในประเทศไทยโดยฝีมือคนไทย (Made in Thailand) ให้เป็นที่ประจักษ์ในระดับนานาชาติ

โดยคาดการณ์ผู้ร่วมออกแสดงสินค้า รวมกว่า 500 บริษัท จาก 15 ประเทศ โดยเป็นผู้ประกอบการผู้ค้าอัญมณี และเครื่องประดับชั้นนำจากต่างประเทศมากกว่า 30 % อาทิ จีน ฮ่องกง อินเดีย อิตาลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ตุรกี และคาดการณ์ว่าจะมีกลุ่มผู้ซื้อคุณภาพกว่า 10,000 รายจากประเทศในอาเซียน จีน อินเดีย และอีกกว่า 50 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วมงานในปีนี้อย่างพร้อมเพรียง
ภายในงาน Jewellery & Gem ASEAN Bangkok 2024 ประกอบไปด้วยโซนที่น่าสนใจ อาทิ Fine Jewellery (เครื่องประดับอัญมณี) Gold Jewellery(ทองและเครื่องประดับทอง) Silver Jewellery(เงินและเครื่องประดับเงิน) Platinum(แพลตตินั่ม) Gemstone(พลอยและเครื่องประดับพลอย) Loose Diamonds (เพชรและเครื่องประดับเพชร) Pearls(ไข่มุกและเครื่องประดับมุก) Equipment & Tool(อุปกรณ์และเครื่องมือ) และกลุ่มManufacturing & Packaging(ผู้ผลิตและบรรจุภัณฑ์) รวมถึง การจัดประกวด The Next Gem Contest 2024 ภายใต้แนวคิด “Jewellery & Gem: The Spirit of Thai Cultural Treasure” ที่เปิดโอกาสให้นักออกแบบรุ่นใหม่ได้แสดงความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบเครื่องประดับอัญมณีระดับอาเซียน

อีกสองกิจกรรมพิเศษที่น่าสนใจนั่นคือ Special showcase เครื่องประดับเงิน สนับสนุนโดย สมาคมผู้ส่งออกเครื่องประดับเงินไทย จัดแสดงเครื่องประดับเงินภายใต้แนวคิด “From Local to Global” เพื่อเป็นการแสดงศักยภาพของอุตสาหกรรมเครื่องประดับเงินไทย และ Gems Museum showcase เป็นการนำเสนอเรื่องราวของพลอยไทย ผ่านประสบการณ์ใหม่ด้วยรูปแบบ Immersive Digital art พร้อมชมคอลเล็กชัน Masterpiece ของพลอยหายากที่เน้นคุณภาพและความสวยงาม
“นอกจากนี้ยังมีหัวข้อสัมมนา เวิร์คช็อปที่น่าสนใจอีกมากมายซึ่งปีนี้คาดการณ์ว่าภายในงานจะมีเงินเดินสะพัดมากกว่า 5,000 ล้านบาท จากการจับคู่เจรจาธุรกิจตลอด 4 วันของการจัดงาน” นายสรรชาย กล่าวทิ้งท้าย

ซึ่งปีนี้ “อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย” ได้ร่วมมือกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม กลุ่มอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมการค้ากลุ่มอัญมณีเครื่องประดับและโลหะมีค่าสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมการค้าอัญมณีและเครื่องประดับอาเซียน สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) สมาคมผู้ส่งออกเครื่องประดับเงินไทยและสมาคมช่างทองไทย จัดงาน “Jewellery & Gem ASEAN Bangkok 2024” (JGAB 2024) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-4 พฤษภาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยงานนี้เป็นการรวมตัวครั้งสำคัญของผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับทั่วโลกทั้งกลุ่มผู้ซื้อ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ค้าปลีก ผู้ค้าส่ง ผู้ผลิต รวมถึงนักออกแบบจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังมีงานสัมมนาจากผู้ค้าอัญมณีทั่วโลกอีกด้วย

นายสุทธิพงษ์ ดำรงค์สกุล ประธานสมาคมการค้าอัญมณี และเครื่องประดับอาเซียน เปิดเผยว่า สมาคมฯ ก่อตั้งขึ้นด้วยความร่วมมือระหว่างสมาคมการค้าอัญมณีและเครื่องประดับในภูมิภาคอาเซียน และยังมุ่งสร้างเครือข่ายพันธมิตรนอกภูมิภาคอาเซียน ได้แก่ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ตุรกี อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยทำหน้าที่เป็นองค์กรกลางระดับนานาชาติ เชื่อมโยง แบ่งปันแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการค้า รวมทั้งประสานความร่วมมือกันในกลุ่มอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ เพื่อสนับสนุน ส่งเสริมให้อุตสาหกรรมเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน
และสำหรับงาน Jewellery & Gem ASEAN Bangkok 2024” (JGAB 2024) ในปีนี้ทางสมาคมฯ ถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่จะเชื่อมโยงธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับระหว่างกลุ่มสมาชิกในอาเซียน ด้วยการเชิญกลุ่มผู้ซื้อคุณภาพจากประเทศต่างๆ โดยได้รับเชิญจากทางสมาคมฯ กว่า 100 ราย ให้เข้าร่วมงาน JGAB โดยปีนี้ทางสมาคมฯ คาดหวังว่าจะมีการเจรจาธุรกิจไม่น้อยกว่า 300 ครั้ง อีกด้วย นอกจากนี้ทางสมาคมยังขอเรียนเชิญผู้ที่สนใจเข้าร่วมฟังเสวนาภายใต้หัวข้อ ASEAN + Gold and Jewellery Industry, current situations, exploring opportunities โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและลงทะเบียนเข้าฟังได้ที่เว็บไซต์ของผู้จัดงาน

ทางด้าน นายวิบูลย์ หงษ์ศรีจินดา ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอัญมณี และเครื่องประดับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สถานการณ์ส่งออกอัญมณี และเครื่องประดับไทยในปี 2566 ที่ผ่านมา มูลค่าการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยในปี 2566 ลดลง 2.83% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ที่มีมูลค่า 15,063.48 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่ 14,636.88 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นสินค้าส่งออกในอันดับที่ 3 คิดเป็นสัดส่วน 5.14% ของสินค้าส่งออกโดยรวมของไทย ทั้งนี้ หากนำมูลค่าดังกล่าวข้างต้นหักออกด้วยการส่งออกทองคำที่ยังมิได้ขึ้นรูป พบว่า การส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่แท้จริงมีมูลค่า 8,658.11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 8.40%

สำหรับงาน JGAB 2024 ปีนี้ สภาอุตฯ ได้ร่วมผลักดันผู้ประกอบการกลุ่มอัญมณีเครื่องประดับไทยฟื้นกลับสู่เวทีโลก ด้วยการสนับสนุนงาน Jewellery & Gem ASEAN Bangkok 2024 ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ที่มาเข้าร่วมจัดแสดงงานในปีนี้ ผ่านโครงการ "SME ปัง ตังได้คืน"กว่า 900 ตารางเมตร และร่วมจัดสัมมนากับสมาคมผู้ส่งออกเครื่องประดับเงินไทย ในการให้ความรู้เกี่ยวกับธุรกิจเครื่องเงินและเครื่องประดับ ภายในงานยังมี Special Showcase เครื่องเงินภายใต้คอนเซ็ป From Local to Global ที่สื่อให้เห็นถึงการก้าวกระโดดของงานออกแบบเครื่องประดับเงินไทยจากอดีตสู่ปัจจุบัน

งาน Jewellery & Gem ASEAN Bangkok 2024 (JGAB 2024) จะจัดขึ้นวันที่ 1-4 พฤษภาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ Hall 1-3 สำหรับผู้ที่สนใจเข้าชมงานสามารถติดตามรายละเอียดและข้อมูลตัวงานเพิ่มเติม รวมถึงลงทะเบียนเข้าชมงานล่วงหน้าได้ที่เว็บไซต์ www.jewellerygemaseanbkk.com และร่วมติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของงานได้ทาง Facebook และ Instagram /JGABThailand

📌วันที่ 1-4 พฤษภาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ Hall 1-3

Send a message to learn more

Address


Alerts

Be the first to know and let us send you an email when Highlight Hot News posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Contact The Business

Send a message to Highlight Hot News:

Videos

Shortcuts

  • Address
  • Telephone
  • Alerts
  • Contact The Business
  • Videos
  • Claim ownership or report listing
  • Want your business to be the top-listed Media Company?

Share