Environman ll

  • Home
  • Environman ll

Environman ll Contact information, map and directions, contact form, opening hours, services, ratings, photos, videos and announcements from Environman ll, Media/News Company, .

‘เด็กปั้นปุ๋ย’ ความสำเร็จของโครงการ “ปั้น ปลูก คิด(ส์) by Tollway Green way” การประกวดโครงงานเยาวชนจิตอาสาพัฒนาชุมชนเพื่...
30/11/2022

‘เด็กปั้นปุ๋ย’ ความสำเร็จของโครงการ “ปั้น ปลูก คิด(ส์) by Tollway Green way” การประกวดโครงงานเยาวชนจิตอาสาพัฒนาชุมชนเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน สู่โรงผลิตปุ๋ยอัดเม็ดของชุมชนบ้านหนองโก อ.บรบือ จ.มหาสารคาม เพื่อประโยชน์ของชุมชนและเพื่อสิ่งแวดล้อม

โอกาสของทุกคนมาถึงแล้ว สำหรับใครที่อยากร่วมงานกับทีม Environman!Environman เปิดรับสมัครเพื่อนร่วมงาน 3 ตำแหน่ง ได้แก่📈 A...
15/11/2022

โอกาสของทุกคนมาถึงแล้ว สำหรับใครที่อยากร่วมงานกับทีม Environman!
Environman เปิดรับสมัครเพื่อนร่วมงาน 3 ตำแหน่ง ได้แก่
📈 Accounting & Admin (Full-Time)
📱 Social Media Admin (Full-Time)
✏️ Content Writer (Full-Time)
✅ ค่าตอบแทนและสวัสดิการ
- เงินเดือน
- ประกันสังคม
- วันหยุดตามธนาคาร
- Hybrid Working & Flexible Working (เวลาทำงานและวันที่เข้าออฟฟิศยืดหยุ่น)
- ที่พัก
📋 รายละเอียดการทำงาน
- ทำงาน 5 วันต่อสัปดาห์
- Flexible Working Hour (เวลาเข้างานยืดหยุ่น)
- Hybrid Working (เข้าออฟฟิศ 2 วัน Work from Home 3 วัน หรือวันที่นัดหมาย)
📍 สถานที่ทำงาน
Environman Office: ลาดพร้าววังหิน 7 (ใกล้ mrt ลาดพร้าว)
📩 หากสนใจสมัครสามารถส่ง Resume/ CV มาได้ที่
Email: [email protected]
โดยใส่ Subject ว่า สมัครงาน (ตามด้วยตำแหน่งที่สมัคร) เช่น สมัครงาน ตำแหน่ง Accounting & Admin
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
page: Environman
Mobile: 094-664-5989 (เก้า)
มาร่วมงานกับพวกเรา Environman และดูแลสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กันนะ 🌍
้าว-วังหิน 7 (ใกล้ mrt ลาดพร้าว)

SOS ชวนร่วมงาน ZERO SUMMIT 2022 “Regenerative and Recovery Future” มาร่วมค้นหาแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ที่ดีต่อสังคมและสิ...
14/11/2022

SOS ชวนร่วมงาน ZERO SUMMIT 2022 “Regenerative and Recovery Future” มาร่วมค้นหาแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ที่ดีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อก้าวสู่โลกที่มีขยะอาหารเป็นศูนย์ และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังให้ทุกคนได้อิ่มท้องทั่วกัน ซื้อบัตรได้เลยที่ http://go.eventpop.me/zerosummit2022 (พิเศษสำหรับผู้ติดตาม Environman ใช้โค้ด ENVZS22 ลดราคาค่าบัตร 10% จำนวนจำกัด 20 ใบเท่านั้น)
งานเสวนา ZERO SUMMIT (ซีโร่ ซัมมิท) โดย มูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ (SOS) กลับมาอีกครั้ง!
ปีที่แล้วเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยได้จัดงานเสวนา (ออนไลน์) เกี่ยวกับความยั่งยืนทางอาหารที่เน้นย้ำ เรื่องขยะอาหาร และความไม่มั่นคงทางอาหาร โดยมีเหล่าผู้เชี่ยวชาญในวงการอาหารระดับแนวหน้าในประเทศ ไทยมาร่วมแชร์ความรู้ ประสบการณ์และการปฏิบัติงานจริง และร่วมสร้างแรงผลักดันในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ และอุตสาหกรรมภาคอาหารในระดับประเทศอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน!
ในปี 2022 ทาง SOS มีความตั้งใจจะจัดงานนี้ให้ใหญ่ยิ่งขึ้น สร้างแรงกระเพื่อมและส่งเสียงเพื่อเรียกร้องการ เปลี่ยนแปลงให้ดังยิ่งกว่าเดิม โดยปีนี้พวกเราเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานเป็นการจัดงานในพื้นที่ประชุมจริง ที่ True Digital Park Grand Hall, สุขุมวิท 101 ในวันที่ 10 ธันวาคม 2565 ภายใต้คอนเซปงาน ZERO SUMMIT “Regenerative and Recovery Future” มาร่วมฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการฟื้นฟูความยั่งยืน เพื่ออนาคตของประเทศไทยไปกับเหล่าผู้เชี่ยวชาญแนวหน้าจากหลายหลายวงการ ผ่านการรับฟังถึงวิสัยทัศน์และ แนวทางการทำงานของพวกเขาสู่ความยั่งยืนทางอาหาร!
งาน ZERO SUMMIT 2022 เป็นการประชุมเสวนาแบบเต็มวัน ตั้งแต่ 9:00 น. ถึง 18:30 น. อัดแน่นไป ด้วยความรู้และประสบการณ์จริงผ่านการแชร์ในการเสวนา 4 หัวข้อและการจัดแสดงการทำอาหารจากวัตถุดิบ ส่วนเกินในช่วงท้ายของงาน
ห้ามพลาด! ที่นั่งมีจำนวนจำกัด สมัครเลยตอนนี้! มาร่วมค้นหาแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ที่ดีต่อสังคมและ สิ่งแวดล้อม เพื่อก้าวสู่โลกที่มีขยะอาหารเป็นศูนย์ และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังให้ทุกคนได้อิ่มท้องทั่วกัน
ช่วยพวกเราฟื้นฟูอนาคตและสร้างแรงผลักดันสู่โลกแห่งการเปลี่ยนแปลง สู่ความหิวโหยที่เป็นศูนย์ และขยะอาหาร ที่เป็นศูนย์! ซื้อบัตรเข้าร่วมเสวนาเพื่อมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงได้ที่ http://go.eventpop.me/zerosummit2022 พิเศษสำหรับผู้ติดตาม Environman ใช้โค้ด ENVZS22 ลดราคาค่าบัตร 10% (จำนวนจำกัด 20 ใบเท่านั้น)
รายได้จากบัตรทุกใบช่วยสนับสนุนการทำงานของมูลนิธิฯ ในการจัดการอาหารส่วนเกิน และโครงการครัวรักษ์ อาหารที่ส่งต่ออาหารปรุงสุกให้แก่ชุมชน ซึ่งงานนี้จะทำให้เราสามารถระดมเงินเพื่อสนับสนุนอาหารให้แก่คนที่ ต้องการได้มากถึง 24,000 มื้อ จากการเข้าร่วมของทุก ๆ ท่าน (ทุก ๆ 5 บาทของราคาตั๋วจะเท่ากับ 1 มื้อ)
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงาน Zero Summit 2022 “Regenerative and Recovery Future”
• วันและเวลา: 10 ธันวาคม 2022 เวลา 9:00 น. - 18:30 น.
• สถานที่: True Digital Park – Grand Hall
• Website: https://www.scholarsofsustenance.org/zero-summit-2022
• Email: [email protected]

12/10/2022
30/08/2022

ชวนฟังเสวนาสด “ฉลามที่ฉันรู้จัก” เนื่องในวันฉลามวาฬสากล (International Whale Shark Day)

🦈 ประสบการณ์การพบเจอและความสวยงามของฉลาม
🦈 สิ่งที่เรามักเข��าใจผิดเกี่ยวกับฉลาม
🦈 ความสำคัญของการปลูกฝังความรู้ด้านการอนุรักษ์ต่อเยาวชน
🦈 สิ่งที่ทุกคนทำได้เพื่อลดผลกระทบจากการบริโภคต่อท้องทะเลและสิ่งแวดล้อม

ฟังมุมมองจาก
คุณนัท สุมนเตมีย์ ช่างภาพสารคดีใต้น้ำ
คุณนท พนายางกูร ศิลปินและนักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม
คุณอเล็กซ์ เรนเดลล์ นักแสดงและผู้ก่อตั้ง EEC THAILAND (Environmental Education Centre)
ชวนคุยโดย คุณกีรติ ศิริสุทธิพัฒนา พิธีกร และ เจ้าของโรงเรียนสอนดำน้ำ พัฒนาสคูบาคลับ

5 อาหารที่ทำให้  #โลกน่าอยู่  #เราสุขภาพดี 🌏 🌿อาหาร คือหนึ่งในปัจจัยหลักของการดำรงชีวิตที่เราขาดไม่ได้ และระบบอาหาร หรือ...
05/05/2022

5 อาหารที่ทำให้ #โลกน่าอยู่ #เราสุขภาพดี 🌏 🌿
อาหาร คือหนึ่งในปัจจัยหลักของการดำรงชีวิตที่เราขาดไม่ได้ และระบบอาหาร หรือ food systems ก็เป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงปากท้องของผู้คนทั่วโลก อย่างไรก็ตามระบบอาหารเดียวกันนี้ กลับเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพมากมาย อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในตัวการของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม
การจะปฏิวัติระบบอาหารในระดับใหญ่นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อบรรลุการพัฒนาที่ยั่งยืน ดังนั้นสหภาพยุโรป จึงได้ออกยุทธศาสตร์ ‘Farm to Fork’ หรือ ‘จากฟาร์มสู่โต๊ะอาหาร’ ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการดำเนินงานภายใต้นโยบาย European Green Deal หรือแผนการปฏิรูปสีเขียว โดยมีเป้าหมายหลักเป็นการสร้างระบบอาหารที่มีความยั่งยืน ยุติธรรม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
โดยระบบอาหารยั่งยืนจะต้องมีส่วนในการช่วยบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ช่วยลดปัญหาการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ เสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารและโภชนาการที่ดี ตลอดจนสนับสนุนให้อาหารมีราคาที่เข้าถึงได้ง่าย แต่ยังคงไว้ซึ่งแฟร์เทรด (fair-trade) หรือระบบการค้าอย่างเป็นธรรม
วันนี้เราเลยอยากชวนทุกคนมาอ่าน 5 วิธีการบริโภค ว่าเราสามารถเลือกบริโภคอย่างไรให้โลกน่าอยู่ และเราสุขภาพดีจะมีอะไรบ้าง และแต่ละอย่างมีผลดีต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมในทางใด หากอยากรู้แล้ว ก็ตามมาอ่านในแคปชั่นกันเลย

เหลือเพียงชื่อ! โลมาอิรวดีตัวสุดท้ายของลาวตายแล้วในแม่น้ำโขงบริเวณชายแดนระหว่างลาว-กัมพูชา สูญพันธุ์ในประเทศ อ.ธรณ์ดันเป...
19/02/2022

เหลือเพียงชื่อ! โลมาอิรวดีตัวสุดท้ายของลาวตายแล้วในแม่น้ำโขงบริเวณชายแดนระหว่างลาว-กัมพูชา สูญพันธุ์ในประเทศ อ.ธรณ์ดันเป็นสัตว์ป่าสงวนไทย หวั่นไทยซ้ำรอยสูญพันธุ์ เหลือในทะเลสาบสงขลาเพียง 14 ตัว

LIFE: เหลือเพียงชื่อ! โลมาอิรวดีตัวสุดท้ายของลาวตายแล้วในแม่น้ำโขงบริเวณชายแดนระหว่างลาว-กัมพูชา สูญพันธุ์ในประเทศ อ.ธรณ์ดันเป็นสัตว์ป่าสงวนไทย หวั่นไทยซ้ำรอยสูญพันธุ์ เหลือในทะเลสาบสงขลาเพียง 14 ตัว
องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากลประเทศลาว WWF-Laos ได้เผยความเสียใจต่อการสูญเสียโลมาอิรวดีตัวสุดท้ายของลาว โดย เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีการพบซากโลมาอริวดีตายในแม่น้ำโขงพรมแดนระหว่างลาวและกัมพูชา โดยรายงานพบว่าสาเหตุจากอาการบาดเจ็บการติดอวนประมง ซึ่งการตายครั้งนี้หมายถึงการสูญพันธุ์ของโลมาอิรวดี หรือที่เรียกว่าปลาข่าของประเทศลาว
โลมาอิรวดี /โลมาหัวบาตร (Irrawaddy Dolphin) เป็นโลมาที่อยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์(Endangered) และปัจจุบันเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองของประเทศไทย มีลักษณะเด่นคือหัวที่มนกลม ลำตัวสีเทาเข้ม และมีครีบหลังเล็กๆ เป็นโลมาที่อาศัยอยู่ได้ทั้งน้ำเค็มและน้ำจืด เป็นโลมาชายฝั่ง และโลมาประจำถิ่นของประเทศไทยพบในแม่น้ำเช่นแม่น้ำโขง อ่าวไทย ทะเลสาบเขมร ทะเลสาบสงขลา ทะเลอันดามัน และในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภัยคุกคามมีหลายด้านอย่างการติดอวนประมง มลพิษของเสียในน้ำ การประมงแบบผิดกฎหมาย และการสร้างเขื่อนที่ส่งผลกระทบต่อแหล่งอาศัย
โดยข้อมูลจาก WWF ชี้ว่าในปี 2016 ทางลาวได้มีการประกาศการสูญพันธุ์ตามธรรมชาติ (Functionally extinct)” ของโลมาอิรวดี เนื่องจากมีประชากรเหลือเพียง 3 ตัวในขณะนั้น ซึ่งหมายถึงการที่ชนิดพันธุ์ไม่มีจำนวนสมาชิกเพียงพอที่จะผลิตประชากรรุ่นต่อไปได้หรือมีบทบาทในระบบนิเวศ ขณะในกัมพูชามีประชากรโลมาแม่น้ำอยู่ราว 89 ตัวในปี 2020
ขณะสถานการณ์ในไทยก็เลวร้ายเช่นกัน โดยมีโลมาอิรวดีในหลักร้อย และส่วนกลุ่มที่น่ากังวลคือที่อาศัยอยู่ในทะเลสาบสงขลา เขตจังหวัดพัทลุง ซึ่งข้อมูลจจากศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง มีการสำรวจประชากรของโลกมาอิรวดี ล่าสุดเดือนมิถุนายน 2563 คาดว่าประชากรของโลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลา มีจำนวนประมาณ 14 ตัว ส่วนใหญ่มีสาเหตุการตายมาจากการติดเครื่องมือประมงที่ผิดกฎหมาย การป่วยผสมสายพันธุ์เลือดชิด ใบพัดเรือ การลดลงของสัตว์ที่เป็นอาหารของโลมาอิรวดี
ด้านผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล และรองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เผยถึงการผลักดันให้โลมาอิรวดี เป็นสัตว์ป่าสงวนของไทยก่อนที่จะสูญพันธุ์ไปจากประเทศ
"น้องโลมายังอยู่ชายฝั่ง หรือบางกลุ่มเข้าไปอยู่ในน้ำจืด เช่น ทะเลสาบสงขลา จึงได้รับผลกระทบจากมนุษย์เยอะ ข้อมูลกรมทะเลระบุว่า ปัจจุบันไทยเหลือโลมาอิรวดีในหลักร้อย ส่วนใหญ่อยู่อ่าวไทย มีบ้างอยู่ในอันดามัน และ 14 ตัวในทะเลสาบสงขลา ยังเป็นโลมาที่เกยตื้นจากกิจกรรมของมนุษย์มากที่สุดของไทยในช่วง 5 ปี (นับจาก 2560) สถานภาพโลมาอิรวดีลำบากกว่ามาก ทั้งโลกมีน้อย ในเมืองไทยมีน้อยมาก ถูกคุกคามสูง แม้ไม่ได้ถูกล่าโดยตรง

นี่คือสัตว์ทะเลที่ตกอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์จากพื้นที่มากที่สุดของไทย หากไม่ทำอะไร ผมเชื่อว่าในอีกไม่เกิน 10 ปีข้างหน้า เราจะมีข่าวโลมาตัวสุดท้ายของทะเลสาบสงขลาจากไป และนั่นคงเป็นเรื่องเศร้าสุดๆ การอนุรักษ์โลมาในทะเลสาบไว้ให้ได้ ไม่สามารถทำได้ด้วยวิธีการในปัจจุบัน เราต้องทำมากกว่านั้น

ในระดับนโยบาย
- ผลักดันโลมาอิรวดีเป็นสัตว์สงวน หากดูตามสถานภาพระดับโลก เหมาะสมทุกประการดังที่บอกไปแล้ว ยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี การรอคอย 2-3 ปีกว่าจะได้

บางทีความตายของโลมาอาจไม่รอกระบวนการทางกฎหมาย หาทุกทางออก รวมถึงวิธีนอกกรอบ แม้จะเสี่ยงว่าไม่เคยทำ แต่บางครั้งเราต้องลอง เทคนิควิธีเหล่านั้นต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญพูดคุยกันให้ชัดเจน ให้ความสำคัญมากขึ้น บางครั้งการรอให้เป็นสัตว์สงวนเพื่อสร้างกระแส/ความสนใจ เพิ่มงบประมาณบุคลากร อาจไม่ทันต่อความเป็นจริง

แต่ในสถานการณ์งบประมาณกระทรวงทรัพยากรฯ เหลือน้อย โดนสถานการณ์ฉุกเฉินดึงไปอีก ทำให้โอกาสรอดโลมายิ่งริบหรี่ บางทีเรากำลังเข้าสู่ทางตัน รอวันโลมาจากไป

ก็คงได้แต่บอกเพื่อนธรณ์ว่า หากอยากช่วยโลมา ช่วยให้อีก 10 ปี หน้าเราไม่ต้องเศร้า พลางคิดว่าทำไมเราไม่ทำอะไรก่อนหน้านี้ เราก็ต้องทำในวันนี้

ทุกคนช่วยได้ด้วยการสนับสนุนสร้างกระแส แชร์ไลค์/สื่อต่างๆ กระบวนการสัตว์สงวนอาจเร็วขึ้น ระหว่างนั้น อาจมีการหาทางเตรียมการช่วยโลมารอด ดำเนินไปควบคู่กัน ทำทุกทางเท่าที่ได้ เพื่อความเศร้าของโลมาตัวสุดท้ายในลาว จะไม่เป็นความเศร้าของโลมาตัวสุดท้ายในทะเลสาบสงขลา ในเวลาอีกไม่นานครับ" ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ เผย
ที่มา

https://www.wwf.org.la/?uNewsID=372355&fbclid=IwAR0_0B_ZfcGFOmEm6u0gfb7UXRXScN7y38icZkzoF08gpqHa2INDx6tYn9Y

https://www.rfa.org/english/news/cambodia/mekong-dolphin-02172022181253.html

https://www.khmertimeskh.com/501025729/the-only-dolphin-at-anglong-koh-chheuteal-dies/

https://www.iucnredlist.org/species/15419/123790805

https://www.facebook.com/100000156385897/posts/5616943371654153/?d=n

https://www.facebook.com/1523107561151019/posts/4269373199857761/

https://www.facebook.com/1523107561151019/posts/4227798237348591/

29/10/2021
  : เอาใจสายแคมป์ปิ้ง - ‘Happier Camper HC1’ แคมป์เปอร์รูปทรง Retro น่ารัก พร้อมผจญภัย ไปแคมป์ปิ้งได้ทุกที่ :‘Happier Ca...
07/10/2021

: เอาใจสายแคมป์ปิ้ง - ‘Happier Camper HC1’ แคมป์เปอร์รูปทรง Retro น่ารัก พร้อมผจญภัย ไปแคมป์ปิ้งได้ทุกที่
:
‘Happier Camper HC1’ คือรถบ้านขนาดเล็กจิ๋วกระทัดรัด ออกแบบมาในรูปทรง Retro สวยงามน่ารักน่าเอ็นดู มีหลากหลายสีพาสเทลให้เลือกใช้ อำนวยความสะดวกเมื่อคุณไปตั้งแคมป์ท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ
การติดตั้งภายในสามารถปรับประกอบได้ตามสะดวก ไม่ว่าจะเป็นที่นั่ง โต๊ะ เบาะพับนอน หรืออุปกรณ์เครื่องครัว รวมถึงเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้สามารถถอดประกอบออกมาใช้งานกลางแจ้งได้ด้วย
มากไปกว่านั้นยังมาพร้อมกับที่ชาร์จอุปกรณ์ และระบบลำโพง โดยมีแผงโซลาร์ที่อยู่ด้านบนเพื่อผลิตไฟฟ้าไว้ใช้งาน ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งแคมป์เปอร์ที่น่าสนใจสำหรับสายแคมปิ้งอย่างมากเลยทีเดียว
:
เราอาจจะไม่ค่อยได้เห็นรถบ้านมากในประเทศไทย (หรือแอดเองอาจจะไม่ค่อยได้ไปแคมป์ปิ้งเลยไม่เจอ) แต่ก็ถือเป็นอีกรูปแบบการออกแคมป์ที่ประหยัดพลังงานกว่าทั่วไป รวมถึงการที่ได้ออกไปแคมป์ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราได้คอนเนคกับธรรมชาติและเข้าใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แต่ไม่ว่าจะไปเที่ยวยังไงรูปแบบไหน ก็ช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยเด้อ
——————
แหล่งที่มา:
Yanko Design - https://bit.ly/3mvnWLW


  : 'Short Story' บ้านจากกระดาษรีไซเคิลและดิน อีกหนึ่งแนวทางในการสร้างบ้านเพื่อช่วยลดผลกระทบจากการก่อสร้างที่มีต่อสิ่งแว...
06/10/2021

: 'Short Story' บ้านจากกระดาษรีไซเคิลและดิน อีกหนึ่งแนวทางในการสร้างบ้านเพื่อช่วยลดผลกระทบจากการก่อสร้างที่มีต่อสิ่งแวดล้อม
:
'Short Story' ไม่ได้แปลว่าเรื่องสั้น แต่มันคือชื่อของบ้านที่สร้างขึ้นโดยใช้วัสดุที่ยั่งยืน เช่น กระดาษรีไซเคิล ไม้ และดินในการก่อสร้าง เพื่อลดผลกระทบจากการก่อสร้างให้น้อยที่สุด รวมถึงมีการนำทฤษฎีทางสถาปัตยกรรมอย่าง Raumplan มาออกแบบ เพื่อจัดสรรพื้นที่ที่มีอยู่อย่างจำกัดให้ถูกใช้งานได้อย่างคุ้มค่าที่สุด
นี่เป็นผลงานของ 'Roundhouse' แพลตฟอร์มที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสาธารณชนในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น สถาปัตยกรรม โดยพวกเขาใช้เวลาก่อสร้าง Short Story ประมาณ 3 สัปดาห์
มองจากภายนอกก็ดูเป็นบ้านเล็กๆ ที่เรียบง่ายสวยงาม เป็นดีไซน์ที่เหมาะกับสายมินิมอลที่ไม่ต้องการเฟอร์นิเจอร์หรือของที่เยอะแยะ รวมถึงยังเป็นการก่อสร้างและออกแบบที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
:
——————
แหล่งที่มา:
Yanko Design - https://bit.ly/2WK4qT0
Designboom - https://bit.ly/3BkOrK8
Constructing Architect - https://bit.ly/3048HlF (Raumplan)


  : เตรียมดาบไลท์เซเบอร์ให้พร้อม ! โรงแรม 'Star Wars' กำลังจะเปิดให้บริการใน 'Disney World' ในเมือง Florida สหรัฐอเมริกา...
04/10/2021

: เตรียมดาบไลท์เซเบอร์ให้พร้อม ! โรงแรม 'Star Wars' กำลังจะเปิดให้บริการใน 'Disney World' ในเมือง Florida สหรัฐอเมริกา วันที่ 1 มีนาคม 2022 นี้
:
"ข้าไม่ชอบทราย มันร่วนและหยาบ ทำให้ผิวหนังแสบ และมันก็เข้าไปทุกที่" แฟนหนัง Star Wars คนไหนที่ยังมูฟออนจากประโยคเด็ดนี้ไม่ได้ ก็เตรียมฝึกซ้อมแล้วเอาไปโคฟเวอร์กับสถานที่จริงกันได้เลย (แต่ถ้ายังรู้จักประโยคนี้คุณอาจไม่เด็กแล้วนะ ฮ่าๆ)
รู้สึกว่าตอนนี้จะเปิดให้จองตั๋วแล้วด้วย ใครที่มีแพลนจะบินไปฉีดวัคซีนแล้วไม่มีอะไรทำ ก็ไปฟันดาบซะเลยกับโปรแกรม Star Wars: Galactic Starcruiser ที่จะทำให้ 2 คืนของคุณเปลี่ยนไปตลอดกาล (เราไม่ได้ค่าคอมในการขายใดๆ นะ ฮ่าๆ)
โดยเขาออกแบบมาให้เราได้รู้สึกเหมือนหลุดไปอยู่บนยานอวกาศอันแสนไกล และมีการผจญภัยมากมายรออยู่ เราจะได้ทั้งประลองฝีดาบไลท์เซเบอร์กับอุปกรณ์ฝึก ได้ทดลองเรียนรู้การควบคุมยานบินอวกาศ หรือจะไปนั่งชิวๆ ที่เลานจ์ เล่นเกม Sabacc พร้อมจิบเครื่องดื่มมึนเมา ก็ถือเป็นการผ่อนคลายที่ดี
เดินเล่นได้ไม่มีเบื่อ เพราะสถานที่ต่างๆ ภายในถูกตกแต่งเหมือนยานอวกาศแบบสมจริง ขนาดหน้าต่างในห้องนอนและห้องต่างๆ ยังโชว์ให้เห็นวิวในอวกาศเหมือนในหนังเปี๊ยบเลย และไหนๆ ก็เหมือนอยู่บนอวกาศแล้ว ทางโรงแรมก็จะมีเสิร์ฟอาหารอวกาศแปลกๆ ให้กินกันอีกด้วย
แค่นี้ไลท์เซเบอร์ในมือก็สั่นไปหมดแล้ว อ่อคืออยากไป ? ป่าว ปวดฉี่ (แฮ่) ชงเองตบเองเล่นเอง แต่ถ้าอยากสัมผัสบรรยากาศอวกาศแบบ Star Wars ก็ต้องไปเองเท่านั้นเด้อ
:
editor - ic.
——————
ขอบคุณภาพจาก 'Disney World' (https://disneyworld.disney.go.com)
แหล่งที่มา:
Disney World - https://bit.ly/3iuMnrO
Disney World - https://bit.ly/3oq7SxI
CNBC - https://cnb.cx/3l4OJiL
Designboom - https://bit.ly/3iuubOZ


  : ‘Smart Baton Light’ โคมไฟขนาดเล็กสุดน่ารัก ชาร์จแบตได้ พกพาสะดวก มีระบบเซนเซอร์เปิดปิดอัตโนมัติ:ถึงอนาคตจะมืดมน แต่ว...
03/10/2021

: ‘Smart Baton Light’ โคมไฟขนาดเล็กสุดน่ารัก ชาร์จแบตได้ พกพาสะดวก มีระบบเซนเซอร์เปิดปิดอัตโนมัติ
:
ถึงอนาคตจะมืดมน แต่ว่าวงยังต้องสว่างอยู่
ถามว่าเกี่ยวอะไรกับวงศ์สว่าง ก็ต้องตอบว่าไม่เกี่ยว (ฮ่าๆ) แค่อยากเล่นมุขซักเล็กน้อยก่อนเข้าสู่สิ่งที่จะมาแนะนำในวันนี้ นั่นก็คือ ‘Smart Baton Light’ โคมไฟแบบแท่งขนาดเล็ก อย่างกับดาบไลท์เซเบอร์ เป็นผลงานของ Gingko Design ซึ่งออกแบบมาให้มีความมินิมอล
โคมไฟทุกดวงจะมีแม่เหล็กติดอยู่ เผื่อเอาไปแปะใช้งานตรงนั้นทีตรงนี้ทีตามสะดวก มีปุ่มเปิดปิดเหมือนทั่วๆ ไป แต่นอกจากนี้ยังมีระบบเซนเซอร์ที่จะทำให้ไฟเปิดอัตโนมัติเมื่อเราเดินผ่าน แล้วก็ดับลงในอีก 15 วินาทีหลังจากนั้น
เมื่อถึงเวลาชาร์จก็สามารถนำออกมาชาร์จเสียบกับสายชาร์จ USB ได้ ชาร์จครั้งนึงจะอยู่ได้ประมาณ 15-30 วันขึ้นอยู่กับความถี่ของการใช้งาน
:
ก็คือดีนะ น่าโดนอยู่ รู้สึกว่ามีประโยชน์ เหมาะสำหรับคนที่หิวแสง หรือสายมูก็พกแทนเครื่องรางของขลังได้ ประมาณว่าชีวิตจะได้ไม่มืดมน มีแสงสว่างติดตัวนำทางอยู่ตลอดเวลา
editor - ic.
——————
แหล่งที่มา:
Yanko Design - https://bit.ly/3B9e68O
Gingko Design - https://bit.ly/3l6IKdn


  : หลังจากที่ Sky สำนักข่าวด้านกีฬาชั้นนำในอังกฤษ จับมือกับสโมสร Tottenham Hotspur ผลักดันให้ศึก ‘London Derby’ ระหว่าง...
01/10/2021

: หลังจากที่ Sky สำนักข่าวด้านกีฬาชั้นนำในอังกฤษ จับมือกับสโมสร Tottenham Hotspur ผลักดันให้ศึก ‘London Derby’ ระหว่าง Spurs กับ Chelsea เป็นการแข่งขัน ‘ฟุตบอลไร้คาร์บอน’ ครั้งแรกของโลก (ผลคือ Chelsea ชนะไป 3-0) วันนี้เราก็จะพาอ่านอีกหนึ่งความกรีนของฟุตบอลในอังกฤษ กับสโมสรที่ขึ้นชื่อว่ารักษ์โลกที่สุดอย่าง 'Forest Green Rovers'
:
Forest Green Rovers เป็นสโมสรฟุตบอลใน League Two จากเมือง Nailsworth เนลสเวิร์ธ แคว้น Gloucestershir ประเทศอังกฤษ พวกเขาได้รับการเชิดชูจากองค์กรระดับโลกอย่างสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ให้เป็นสโมสรที่รักษ์โลกที่สุด และล่าสุด UN ก็ได้ประกาศให้พวกเขาเป็น สโมสรแห่งแรกของโลกที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ด้วย
จุดเริ่มต้นของความกรีนนี้มาจาก เมื่อปี 2010 สโมสรเองไม่มีเงินสนับสนุนและไปต่อไม่ได้ ทางสโมสรจึงทาบทามให้ Dale Vince ผู้ก่อตั้งบริษัท Ecotricity บริษัทพลังงานสะอาด เข้ามาเป็นประธานสโมสร
Dale Vince ตอบตกลงทันที และโดยไม่ลังเล เขาเอาหลักการด้านสิ่งแวดล้อมของเขามาสู่สนาม ว่าแต่จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันดีกว่า!
เริ่มต้นด้วยเรื่องของอาหาร ร้านค้าในสนามจะเสิร์ฟอาหารมังสวิรัติทั้งหมด และได้ตรารับรองจาก the Vegan Society ด้วย ส่วนนักฟุตบอลและสต๊าฟฟ์ในสโมสรก็ไม่พ้น ต้องกินเมนูวีแกนเหล่านี้ด้วย ซึ่ง Vince ก็เล่าให้สำนักข่าว ABC ฟังว่า พวกเขาก็เปิดมาก ๆ และพร้อมที่จะกิน บางคนมองว่าอาหารเหล่านี้ทำให้พวกเขามีสุขภาพที่ดีด้วยซ้ำ น้ำมันที่ได้จากการทำอาหารในสโมสรก็จะถูกนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงชีวภาพอีกด้วย
ด้านพลังงาน สโมสรได้ติดตั้งแผงโวลาร์เซลล์ไว้ที่หลังคาของอัฒจันทร์ฝั่งใต้ของสนามในปี 2011 หญ้าในสนามก็จะถูกตัดด้วยเครื่องตัดหญ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และรถยนต์ของสโมสรก็เป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดด้วย ซึ่งในลานจอดรถก็จะมีจุดให้ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเสร็จสรรพ
ซึ่งหญ้าในสนามก็เป็นหญ้าออแกร์นิก ใช้ปุ๋ยอินทรีย์จากสาหร่าย และไม่มีการใช้ยาปราบศัตรูพืชใด ๆ น้ำที่ใช้รดหญ้าก็คือน้ำฝนที่ตกลงมาจะถูกกักเก็บไว้เพื่อนำไปรีไซเคิล
เรื่องของพลาสติก สโมสรนี้แบนการใช้พลาสติกใช้แล้วทิ้วจำพวกขวดน้ำ และแห้วน้ำทั้งหมด
ยูนิฟอร์มของนักเตะก็กรีนด้วย เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ยูนิฟอร์มเหล่านี้จะทำจากเยื่อไผ่ แต่ปีนี้สโมสรมีทางเลือกที่ปังกว่าเดิม คือทำจากกากกาแฟที่ใช้แล้ว เป็นการลดปริมาณการใช้ใยสังเคราะห์พลาสติกในเสื้อที่อาจปล่อยเกิดไมโครพลาสติก และลดขยะอาหารไปในตัว
Forest Green Rovers เป็นสโมสรอันดับต้น ๆ ในระดับ League Two หรือลีกดิวิชั่น 4 แต่ในอนาคตพวกเขาก็หวังไว้ว่าจะได้ไปเล่นในลีค Championship ได้
Vince เผยว่า เขาอยากให้สโมสรประสบความสำเร็จในสนามแข่งด้วย เพราะยิ่งประสบความสำเร็จ ยิ่งมีชื่อเสียง ก็จะยิ่งสามารถกระจายไอเดียเรื่องความกรีน ความรักษ์โลกต่อได้
อนาคตพวกเขาก็ต้องใจที่จะสร้างตัวสเตเดียมให้กรีนมากขึ้นด้วย เช่น ให้ทั้งสเตเดียมทำจากไม้มั้งหมด และทำให้กลายเป็นสเตเดียมที่ปล่อยคาร์บอนน้อยที่สุดในโลก
:
ความรักษ์โลกนี่มีต่อทุกวงการจริง ๆ และเอาจริง ๆ พวกนักฟุตบอลพวกนี้ก็ได้รับผลกระทบจากโลกร้อนเหมือนกันนะ คิดดูว่า ถ้าอุณหภูมิโลกสูงขึ้น อากาศร้อนขึ้น นักกีฬาบางคนอาจจะไม่ชินกับการเล่นในที่ ๆ อากาศร้อนขนาดนั้นก็ได้ แอดไม่ได้ดูบอลเป็นการส่วนตัว แต่ต้องขอบอกเลยว่าเอาใจช่วยให้ Forest Green Rovers ไต่ไปลีค Championship ให้ได้ หรือไป Premier League ให้ได้ด้วยเลย เพื่อที่จะได้สื่อสาร บอกเล่าเรื่องปัญหาสภาพภูมิอากาศ และพัฒนาความกรีนนี้ให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไปอีก !
——————
ภาพ: Facebook Forest Green Rovers Football Club
แหล่งที่มา:
ABC - https://ab.co/3FcpOC2
BBC - https://bbc.in/3FjnxVJ
CNBC - https://cnb.cx/3kVkXwO
BBC - https://bbc.in/3B3LCNq


  : ‘ร่มที่แปลว่ากระเป๋า’ แบรนด์ญี่ปุ่นชุบชีวิตซากร่มเก่าให้กลายเป็นกระเป๋าคูลๆ ช่วยลดปัญหาขยะร่มพลาสติกก่อนอื่นต้องบอกว...
28/09/2021

: ‘ร่มที่แปลว่ากระเป๋า’ แบรนด์ญี่ปุ่นชุบชีวิตซากร่มเก่าให้กลายเป็นกระเป๋าคูลๆ ช่วยลดปัญหาขยะร่มพลาสติก
ก่อนอื่นต้องบอกว่า ‘ญี่ปุ่นเป็นเมืองฝน’ เมื่อผ่านฤดูที่ซากุระบาน ก็จะตามมาด้วยฤดูพายุฝนฟ้าคะนองและมรสุมต่างๆ ทำให้คนญี่ปุ่นต้องอยู่กับฝนมากกว่าครึ่งปี
‘ร่ม’ เป็นเหมือนชุดกันฝนที่นิยมมากที่สุด ถ้าสังเกตตามหนังญี่ปุ่น (ไม่ใช่หนังอย่างว่านะ) จะชอบมีฉาก bird eye view ที่ถ่ายลงมาแล้วเห็นภาพของร่มเต็มไปหมด ถึงขนาดที่คนมักจะพูดกันว่า ‘ดอกร่มบานสะพรั่งยิ่งกว่าซากุระ’
ซึ่งก็ไม่เว่อร์นะ จากที่ได้ไปหาข้อมูลมา คนญี่ปุ่นอินกับร่มมาก และมีตัวเลขที่บอกว่า จำนวนร่มที่คนญี่ปุ่นใช้เยอะกว่าจำนวนประชากรในประเทศซะอีก แสดงว่าคนนึงมีร่มมากกว่าหนึ่งคัน
ร่มที่ญี่ปุ่นมีหลายเกรด ถ้าเป็นแบบพลาสติกใสก็จะถูกหน่อย ราคาประมาณ 400-500 เยน (ประมาณ 148 บาท) แต่มันพังง่าย ต้องเปลี่ยนบ่อย เลยทำให้ร่มที่มีประโยชน์กลายเป็นตัวปัญหาที่สร้างขยะต่อสิ่งแวดล้อม
เมื่อมีปัญหาก็ต้องหาทางออก Mondo Design บริษัทออกแบบในญี่ปุ่น จึงได้รวบรวมร่มพลาสติกที่ถูกทิ้งจนเป็นกองภูเขา มาเนรมิตชุบชีวิตให้กลายเป็น ‘กระเป๋าสุดคูล’ มีทั้งแบบกระเป๋าถือและแบบสะพายข้าง ภายใต้ชื่อแบรนด์ว่า ‘Plasticity’
พวกเขานำผ้าใบพลาสติกที่ติดอยู่กับโครงร่มออก นำมาทำความสะอาด อัดให้เป็นรูป และเย็บให้เป็นกระเป๋าแบบต่างๆ ซึ่งมีให้เลือกหลายไซส์หลายลาย
กิมมิกก็คือ เมื่อผ้าใบพลาสติกถูกอัดเป็นเลเยอร์ ตัวผิวของผ้าใบจะเกิดลายคล้ายๆ กับฝนที่กำลังโปรยลงมา แบรนด์เลยตั้งชื่อลายว่า ‘Glass Rain’ (ฝนแก้ว)
ราคาจะขึ้นอยู่กับแบบกระเป๋าและไซส์ซึ่งจะมีตั้งแต่ 2 พันกว่าบาทไปจนถึง 4 พันกว่าบาท จากร่มหลักร้อยเอามาทำให้กลายเป็นกระเป๋าหลักพัน ก็คือว้าวมาก
ทางแบรนด์เองมีสโลแกนในการขายด้วยนะ เป็นประโยคว่า “เราหวังว่าแบรนด์ของเราจะปิดตัวลงในอีก 10 ปีข้างหน้า” ซึ่งเหมือนกับจะบอกเป็นนัยๆ ว่าพวกเขาคงไม่ต้องทำแล้ว เพราะกองขยะร่มพลาสติกจะไม่มีให้เห็นอีกต่อไปในญี่ปุ่น เนื่องจากผู้คนเริ่มใส่ใจสิ่งแวดล้อมและจัดการขยะมากขึ้น
:
writer - DJ
editor - ic.
——————
แหล่งที่มา:
Sora News 24 - https://bit.ly/3oseImv
Plasticity - https://bit.ly/3CTdYdO

  : ย้อนดูผลงานของนักเรียนจากโรงเรียนในจ.ระยอง สร้างสรรค์ไอเดียผลิตแพคเกจจิ้งที่สามารถทิ้งแล้วกลายเป็นปุ๋ยหรือต้นไม้ได้ ...
27/09/2021

: ย้อนดูผลงานของนักเรียนจากโรงเรียนในจ.ระยอง สร้างสรรค์ไอเดียผลิตแพคเกจจิ้งที่สามารถทิ้งแล้วกลายเป็นปุ๋ยหรือต้นไม้ได้ ซึ่งเป็นช่วยโลกถึง 3 เด้ง ลดพลาสติก เพิ่มพื้นที่สีเขียว และช่วยเกษตรกร โดยไอเดียนี้ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับชาติในปี 2561
:
ผลงานนี้เป็นโครงงานอาชีพของนักเรียนกลุ่ม 'ฮัก' จากโรงเรียนวังจันทร์วิทยา จ.ระยอง ที่คิดนอกกรอบอย่างสร้างสรรค์ ออกมาเป็นไอเดียที่ตั้งใจจะเข้ามาแก้ปัญหาปริมาณการใช้ถุงพลาสติกที่เพิ่มมากยิ่งขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรที่ลดต่ำลง โดยพวกเขาเรียกว่าโปรเจคนี้ว่า ‘Food for the Future’
เกิดมาเป็น ‘ภาชนะ’ ที่ทำจากวัตถุดิบธรรมชาติอย่างใบตองแห้ง นำเอากากมาอัดเข้ากับแป้งเปียก ขึ้นรูปเป็นภาชนะโดยไม่ต้องใช้กาวแม้แต่นิดเดียว อีกส่วนที่น่าสนใจคือพวกเขามีการฝังเมล็ดพันธุ์พืชไว้ในตัวภาชนะด้วย เพื่อให้มันเกิดใหม่กลายเป็นต้นไม้ได้ในอนาคต
ไปๆ มาๆ กลายเป็นไอเดียที่ช่วยโลกถึง 3 เด้ง ทั้งช่วยลดขยะพลาสติก เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับโลก รวมถึงเป็นการช่วยเพิ่มผลผลิตให้เกษตรกรไทยอีกด้วย
นับเป็นผลงานที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนอย่างแท้จริง ซึ่งมาจากความต้องการแก้ปัญหาและสร้างสังคมที่ดียิ่งขึ้น เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของสภาพแวดล้อมและผู้คนไปด้วยกัน
ไม่มีใครตัวเล็กเกินกว่าที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่
:
writer - ร่มธรรม ขำนุรักษ์ (หวาย)
editor - ic.
——————

  : ยิ่งเหลือน้อย ยิ่งเลือนลางใกล้หายไป! แคมเปญรูปภาพสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ พิกเซลตามจำนวนประชากรที่เหลืออยู่ :การโฆษณาถื...
25/09/2021

: ยิ่งเหลือน้อย ยิ่งเลือนลางใกล้หายไป! แคมเปญรูปภาพสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ พิกเซลตามจำนวนประชากรที่เหลืออยู่
:
การโฆษณาถือว่าเป็นสิ่งที่ดึงดูดคนให้เข้ามาดูแคมเปญต่าง ๆ ที่แต่ละองค์กรกำลังโปรโมทได้ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งโฆษณาที่เคยโด่งดัง และก็กลับมาไวรัลอีกครั้งหลังจากที่ Reddit นำมาพูดถึง แต่เบื้องหลังไอเดียที่สร้างสรรค์นี้ เรื่องจริงมันกลับน่าเศร้า เพราะแคมเปญนี้พูดถึงจำนวนประชากรสัตว์ที่เหลือน้อยลง
แคมเปญนี้เป็นของ WWF Japan เมื่อปี 2008 ครีเอทีฟ Nami Hoshino, Yoshiyuli Mikami และดีไซเนอร์ Kazuhiro Mochizuki พวกเขาออกโปสเตอร์ภาพสัตว์มา 4 ตัวแต่ภาพเหล่านั้นกลับไม่ชัด ประกอบไปด้วยพิกเซลเบลอ ๆ
จุดภาพหรือพิกเซลแต่ละช่องจะเท่ากับสัตว์หนึ่งตัวที่ยังคงมีชีวิตอยู่ ดังนั้นภาพไหนดูไม่ชัด มีพิกเซลน้อยจะเท่ากับจำนวนประชากรสัตว์ที่เหลือน้อย ภาพไหนที่ดูชัดขึ้นมาหน่อย ประกอบด้วยหลายพิกเซลก็จะเท่ากับจำนวนประชากรสัตว์ที่เหลือเยอะมากขึ้น
อย่างในโปสเตอร์ ภาพกอริลลาภูเขาแฟริกันมีความชัดแค่ 325 ภาพของนกอินทรีย์มีความชัด 500 พิกเซล ภาพของสุนัขจิ้งจอกมี 440 พิกเซล และภาพของแพนด้ายักษ์มีความชัดขึ้นมาอยู่ที่ 1,600 พิกเซล แสดงว่าในทั้งหมดนี้ประชากรของแพนด้ามีเยอะสุด
และเมื่อปี 2019 JJSmooth44 จากเว็บไซต์ BoredPanda ได้ลองทำภาพพิกเซลตามแคมเปญนี้อีกครั้งกับสัตว์สายพันธุ์อื่น ๆ ผลลัพธ์ที่ออกมาก็น่าทึ่งพอกัน บางภาพนั้นดูไม่ออกด้วยซ้ำว่ามันคือตัวอะไร
อย่างภาพของเสือดาวอามูร์ (ภาพที่ 5) ที่เหลืออยู่แค่ 60 ตัวในโลก และภาพของแบล๊คฟรุทฟรอเรท (ภาพที่ 6) ที่เหลืออยู่แค่ 300 ตัว มันแถบมองไม่ออกด้วยซ้ำว่าภาพนั้นคือตัวอะไร
ส่วนลิงซิมแปนซี (ภาพที่ 7) ภาพของมันยังชัดอยู่เพราะมันเหลืออยู่ประมาณ 172,700-299,700 ตัว
แต่หนึ่งสิ่งที่อาจจะทำให้เราใจชื้นได้มาหน่อยคือภาพของแพนด้ายักษ์ที่ทาง JJSmooth44 ได้ลองนำมาทำอีกครั้ง มันเหลือ 1,864 ตัว จากเดิม 1,600 ตัว จากภาพที่มันเบลอ ๆ ก็เริ่มชัดขึ้นมาหน่อย เนื่องจากมีความพยายามในการอนุรักษ์ที่ดีขึ้น
การนำสัตว์สายพันธุ์ต่าง ๆ มาทำภาพแบบนี้ก็ถือว่าเป็นการช่วยสร้างความตระหนัก และทำให้คนตั้งคำถามมากมาย เป็นหนึ่งอิทธิผลของการโฆษณาที่ทำให้เราเริ่มเห็นภาพเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับสัตว์น้อยใหญ่เหล่านี้ได้มากขึ้น
มันถึงเวลาแล้วที่เราต้องอนุรักษ์ก่อนที่ภาพเหล่านี้มันจะไม่ชัดเจน และจางหายไปมากขึ้น ภาพมันเบลอหรือว่าเธอไม่ชัดเจน ก็คงอันตรายสู้ภาพมันเบลอเพราะจำนวนประชาสัตว์มีน้อยลงแล้ว
(ประชากรของสัตว์เหล่านี้เป็นของปี 2019 ตอนนี้จำนวนอาจเปลี่ยนไป)
:
writer - DJ
——————
แหล่งที่มา:
BoredPanda - https://bit.ly/3COw0xI
Reddit (Design P**n) - https://bit.ly/39Rj26h

  : 24 กันยายน ที่ผ่านมา Coldplay ได้ปล่อยซิงเกิลใหม่ล่าสุด ‘My Universe’ ที่มี  BTS บอยแบนด์ชื่อดังจากเกาหลีใต้มาร่วมแจ...
25/09/2021

: 24 กันยายน ที่ผ่านมา Coldplay ได้ปล่อยซิงเกิลใหม่ล่าสุด ‘My Universe’ ที่มี BTS บอยแบนด์ชื่อดังจากเกาหลีใต้มาร่วมแจมด้วย
:
ซิงเกิลนี้อยู่ในอัลบั้ม ‘Music of the Spheres’ ที่จะปล่อยให้ฟังเต็มที่วันที่ 15 ตุลาคม แต่ซิงเกิล My Universe นี้จะปล่อยแยกออกมาก่อน จะมีทั้งให้แฟน ๆ ซื้อซีดี ซื้อไวนิล และซื้อเทปคาสเซ็ตก่อนผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งในซีดีจะมีจะ 2 เพลง เป็น My Universe เวอร์ชั่นธรรมดากับเวอร์ชั่นเพลงบรรเลง
แต่จุดที่น่าสนใจมาก ๆ ของการซื้อสิ่งของเหล่านี้คือ ทุก ๆ การสั่งซื้อใน Coldplay Store ทาง Coldplay จะเอาไปใช้ปลูกต้นไม้ 1 ต้นร่วมกับโครงการที่พวกเขาทำงานด้วยคือโครงการ ‘One Tree Planted’
และเพื่อเอาใจเหล่า Army และแฟน ๆ ของ Coldplay ด้านในกล่องจะมีเนื้อเพลงเพลงนี้เขียนด้วยลายมือของสมาชิกของทั้งสองวง
แต่ตอนนี้ ได้ข่าวว่ากล่องซีดีขายหมดแล้ว จะเหลือแค่อาร์ทเวิร์ค และซิงเกิลที่มีให้ซื้อออนไลน์เท่านั้น ยังไงก็ไปดูกันได้ที่ https://eustore.coldplay.com/collections/my-universe
ก่อนหน้านี้ถ้าใครติดตาม Coldplay จะเห็นว่าพวกเขาอินเรื่องสิ่งแวดล้อมมาก พวกเขาเคยขายเสื้อ เพื่อนำเงินมาให้กับโครงการ One Tree Planted มาก่อน เช่นเดียวกันเมื่อปี 2019 Chris Martin ประกาศว่า Coldplay จะพักแผนการทัวร์คอนเสิร์ต และหาวิธีทำให้การทัวร์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Coldplay ยังบริจาคเงินจากการทัวร์คอนเสิร์ตให้องค์กร ClientEarth ที่ทำงานด้านกฎหมายปกป้องสิ่งแวดล้อม ล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคม 2021 Coldplay ก็ร่วมมือกับองค์กร Ocean Clean Up สร้างเรือเก็บขยะแม่น้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ ! ดักเก็บขยะในมาเลเซียก่อนไหลลงทะเล
ส่วน BTS เอง ทั้งวงเคยขึ้นพูดในพิธี SDG Moment หนึ่งในพิธีของการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ครั้งที่ 76 (United Nation’s General Assembly: UNGA) ที่นิวยอร์ก ชักชวนให้คนรุ่นใหม่ออกมาแสดงพลัง เพื่อก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 และใส่ใจวิกฤตสภาพภูมิอากาศไปด้วยกัน
:
——————
แหล่งที่มา:
EU Store - https://bit.ly/2XYetEH
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
BTS ขึ้นพูดงาน SDG Moment - https://bit.ly/2ZpwlIR
Coldplay ร่วมมือ Ocean Clean Up - https://bit.ly/3i8tGtA
Coldplay ประกาศพักทัวร์คอนเสิร์ต - https://bit.ly/3odZ8ue

 : My hump My hump อะไรอยู่ใน My hump? มาร่วมกันไขความลับของอูฐ สัตว์สุดทรหด กับหนอกที่ไม่ได้มีน้ำอยู่ข้างในอย่างที่ทุกค...
24/09/2021

: My hump My hump อะไรอยู่ใน My hump? มาร่วมกันไขความลับของอูฐ สัตว์สุดทรหด กับหนอกที่ไม่ได้มีน้ำอยู่ข้างในอย่างที่ทุกคนคิด!
:
ก่อนอื่น ขอเล่าประวัติเจ้าอูฐก่อน อูฐเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในวงศ์เดียวกับ อัลปากา (Alpaca) และยามา หรือลามะ (Llama) ในปัจจุบัน มีอูฐอยู่เพียงแค่สองสายพันธุ์คือ อูฐหนอกเดียว หรือ Arabian Camel (Camelus Dromedarius) ซึ่งมีถิ่นฐานอยู่ในออสเตรเลียและตะวันออกกลาง ส่วนอูฐสองหนอก (เอ้ย หนองจอก เอ้ยสองหนอก เอ้ย ถูกแล้ว!!) หรือ Bactrian Camel (Camelus Bactrianus) เป็นอูฐที่อาศัยอยู่ในเอเชียกลาง
ถึงแม้ว่าอูฐทั้งสองสายพันธุ์จะอาศัยอยู่คนละพื้นที่ และมีจำนวนหนอกไม่เท่ากัน แต่จริง ๆ แล้วหนอกของมันก็ทำหน้าที่คล้ายกัน ซึ่งเราเชื่อว่า ทุกคนต้องเคยสงสัยกันอยู่บ้างว่า ทำไมอูฐต้องมีหนอก และข้างในนั้นมีอะไรกันแน่?
เอาไว้กักเก็บน้ำหรือเปล่า?
จริง ๆ แล้ว… ไม่ใช่เลยครับท่านผู้ชม เพราะข้างในหนอกคือก้อนไขมันขนาดใหญ่ ซึ่งอูฐก็เป็นสัตว์ชนิดเดียวที่เก็บไขมันทั้งหมดไว้ในจุด ๆ เดียว โดยหนอกแต่ละอันสามารถจุไขมันได้มากถึง 36 กิโลกรัม! และหากไม่มีอาหาร พวกมันก็สามารถอยู่รอดได้เป็นอาทิตย์ ๆ หรือเป็นเดือน ๆ เพราะว่าไขมันเหล่านี้มีทั้งกรดไขมัน วิตามิน และแร่ธาตุอยู่เป็นจำนวนมาก
และการมีแหล่งอาหารฉุกเฉินอยู่ภายในหนอกนี่เอง ก็เป็นวิวัฒนาการที่ช่วยให้พวกมันรอดพ้นจากสภาพอากาศอันโหดร้ายในยุคน้ำแข็งมาได้ นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า เมื่อประมาณ 3.5 ล้านปีที่แล้ว บรรพบุรุษของอูฐที่เราเห็นอยู่ทุกวันนี้ อาศัยอยู่ในทุ่งหิมะแถบอาร์กติก ถึงแม้จะฟังดูขัดกับภาพลักษณ์ที่เราคุ้นเคย แต่ในปี 2013 นักวิจัยก็เคยพบซากกระดูกขาของบรรพบุรุษของอูฐบน Ellesmere Island เกาะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศแคนาดา
หลังจากนั้น อูฐก็อพยพผ่านช่องแคบแบริง (Bering Strait) จนมาถึงทวีปเอเชียและแอฟริกา ซึ่งหนอกของมันก็มีประโยชน์มากสำหรับการใช้ชีวิตในทะเลทรายโกบี และทะเลทรายซาฮาราที่ร้อนระอุ เพราะไขมันที่อยู่ในจุด ๆ เดียวทำให้อูฐสามารถระบายความร้อนออกจากร่างกายได้ดี ไม่เหมือนกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่น ๆ อย่างมนุษย์ที่มีไขมันกระจายอยู่ทั่วร่างกาย พูดแล้วก็เศร้า
นอกจากไขมันจุดเดียวนี้แล้ว อูฐก็ยังสามารถอาศัยอยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งได้อย่างสบาย ๆ เนื่องจากพวกมันมีเซลล์เม็ดเลือดแดงทรงรี ที่มีประสิทธิภาพในการกักเก็บน้ำสูง และสามารถขยายตัวได้มากถึง 240%! (ในระหว่างที่เซลล์เม็ดเลือดแดงของสัตว์อื่น ๆ นั้นขยายตัวได้แค่ประมาณ 150%) ดังนั้น พวกมันจึงอึด ถึก ทน มาก ๆ และสามารถดื่มน้ำปริมาณ 115 ลิตรภายใน 10 นาทีได้ง่าย ๆ นับว่าเป็นหนึ่งในสัตว์ที่น่าทึ่งมาก ๆ
แล้วเพื่อน ๆ รู้จักสัตว์อะไรที่มีการปรับตัวเจ๋ง ๆ เหมือนกับอูฐบ้างไหม?
:
writer: เม
——————
แหล่งที่มา
Business Insider - https://bit.ly/3zDSVd6
Ask Nature - https://bit.ly/2XJNQTs

  : Sky จับมือสโมสร Tottenham Hotspur จัดการแข่งขัน ‘ฟุตบอลไร้คาร์บอน’ ครั้งแรกของโลก ในแมทช์ที่ Spurs จะพบกับ Chelsea ใ...
16/09/2021

: Sky จับมือสโมสร Tottenham Hotspur จัดการแข่งขัน ‘ฟุตบอลไร้คาร์บอน’ ครั้งแรกของโลก ในแมทช์ที่ Spurs จะพบกับ Chelsea ในวันที่ 19 กันยายนที่จะถึงนี้
:
คอบอลทั้งหลาย เราผ่านศึกแดงเดือดกันมากี่ครั้ง ผ่านเอลกลาซิโกกันมากี่หน เชียร์ฟุตบอลกันทุกอาทิตย์ แต่เราเคยเอะใจไหมว่า ‘ฟุตบอลส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร’
สำหรับท่านที่ไม่คุ้นเคยกับกีฬานี้ ขอเล่าให้ฟังง่ายๆ ว่า ฟุตบอลก็เหมือนงานอีเวนต์งานหนึ่ง อารมณ์ประมาณคอนเสิร์ตอะไรทำนองนั้นแต่ถี่กว่าเยอะ เพราะฟุตบอลมีเตะแทบทุกอาทิตย์ ช่วงพีคๆ ก็คือ 2-3 วันเตะที แล้วพร้อมใจกันเตะแบบไม่ได้นัดหมายกันทั่วโลก ละเตะทีนึงเป็นร้อยๆ ทีม โอ้ย ! เตะกันเก่ง และด้วยที่มันเป็นกีฬาที่นิยมมาก แฟนบอลก็แห่กันไปเชียร์ทีมโปรดของตัวเองกันอย่างล้นหลาม มีคนก็ต้องมีกิจกรรม มีของกิน มีคอนเสิร์ตขนาดย่อมปลุกระดมก่อนเตะ บางนัดจุดพลุกันเฮ้ละโล้สนุกสนาน ก็ประมาณนี้แหละฟุตบอล
แต่อย่าเพิ่งด่วนตัดสิน อย่าเพิ่งคิดว่า “เอาอีกละ พวกอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมนี่กะจะให้ชีวิตนี้ไม่ทำอะไรเลยหรอไง ? นี่จะบอกให้เลิกดูบอล ให้เขาเลิกแข่งกันใช่ไหม ?" คำตอบก็คือ “โน้” (เสียงสูงด้วย) เรื่องพวกนี้มันอยู่ที่การจัดการ และก็แค่จะเล่าให้ฟังว่าในประเทศโซนยุโรปเขาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้แล้ว เพราะ Climate Change ก็ส่งผลกระทบต่อการแข่งขันเหมือนกัน
นี่จึงเป็นส่วนหนึ่งของที่มาที่ Sky สำนักข่าวด้านกีฬาชั้นนำในอังกฤษ ได้ร่วมมือกับสโมสร Tottenham Hotspur ผลักดันให้ศึก ‘London Derby’ ระหว่าง Spurs กับ Chelsea กลายเป็นการแข่งขันฟุตบอลแบบ ’ไร้คาร์บอน’ ครั้งแรกของโลก และได้รับการสนับสนุนจาก COP26 และ Premier League อีกด้วย
การแข่งขันนี้จะใช้แท็ค เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับภัยคุกคามจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสร้างแรงบันดาลใจให้แฟนๆ ทำการเปลี่ยนแปลงง่ายๆ ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้
และเพื่อให้การแข่งขันมีการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ Sky และ Tottenham จะร่วมกันลดปล่อยมลพิษในวันแข่งให้ได้มากที่สุด ส่วนที่เหลือจะชดเชยด้วยโครงการสิ่งแวดล้อมที่จะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศโลก
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น มีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งต่อไป ซึ่งหลังจากนี้ทั้ง Sky, COP26, Premier League และ รัฐบาลของอังกฤษก็จะมีการผลักดันให้การแข่งขันหลังจากนี้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น
ปล. ขอให้เสมอนะจ้ะ แอดไม่ได้เชียร์ทั้งคู่
:
writer - ic.
——————
แหล่งที่มา:
Sky Sports - https://bit.ly/397Err9
Football for Future - https://bit.ly/3tWlkdz


Address


Website

Alerts

Be the first to know and let us send you an email when Environman ll posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Contact The Business

Send a message to Environman ll:

Shortcuts

  • Address
  • Alerts
  • Contact The Business
  • Claim ownership or report listing
  • Want your business to be the top-listed Media Company?

Share