03/09/2022
ถ้าจะถามถึงคอร์สทำเล่นสู่ธุรกิจ
ที่ไม่ใช่แค่จองยาก จองเย็น รับน้อย
สอนนาน สายปลาย ในตำนาน
ก็มีเคาะกระโหลกนี้แหละ
ที่จะมีโอกาสในสัมผัส
อ.แก๊บ ในมุมมองของธุรกิจ
เค้าว่ากันว่า สิ่งที่ยากที่สุดของการทำธุรกิจ
คือ การบริหารคน
ไม่ใช่แค่จะจ้างมาทำงาน
แต่ต้องจ้างยังไงให้ได้ใจพนักงานด้วย
เพราะ ไม่ว่าจะงานหนักแค่ไหน
เงินบางทีก็ดึงพนักงานไม่อยู่
แล้วอะไรที่ทำให้พนักงานยังอยากจะอยู่ทำงาน
กับเราไปนาน ๆ
เงิน สวัสดิการ ยอด เป้าหมาย ความมั่นคง
นั่นของพื้นๆ ค่ะ
เราทำงานกับแก๊บมานาน
เรารู้ว่า คนนี้มีของ
แต่ไม่บอก จะบอกในคอร์ส 3,900 บาท
เน้นๆ ในเคาะกระโหลกเท่านั้น > https://forms.gle/6tHkLTnZ4kjVKAHa9
ถ้าอยากจะรอจองคอร์สทำเล่นสู่ธุรกิจ
แบบ Full Option รุ่น 3 ยังไม่ประกาศ
>> m.me/formplaytobiz
หนึ่งในกระบวนการที่จะทำให้เจ้าของหลายคนเริ่มหลุดออกจากการการทำงานได้ที่ง่ายที่สุด คือการจ้างคนมาทำแทน
แต่ถ้าคุณเคยจ้างคนมาทำแทน คุณจะรู้เลยว่า ไอ้นี่มัน "ง่าย" แต่มันไม่ได้ "แก้ปัญหา"
ผมเองก็เคยมีแนวคิดที่ว่า ขายไม่ทัน ก็จ้างเพิ่ม ทำไม่ทันก็จ้างไปเรื่อยๆ หรือ ไม่อยากทำส่วนไหนก็จ้างไป โดยที่ไม่ได้ดูเลยว่าปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจคืออะไร
สิ่งที่คุณควรรู้เมื่อคุณเริ่มจ้างพนักงานหนึ่งคน ก็คือ เขาจะมีความคาดหวังกับคุณด้วย ไม่ใช่แค่คุณคาดหวังกับเขาเพียงแค่ฝ่ายเดียว
พนักงานคาดหวังเรื่องราวเช่น
1. รายได้
2. สวัสดิการที่ไม่น้อยหน้า หรือ ถ้าน้อยกว่าก็ต้องจ่ายมากกว่า
3. ความมั่นคงในการทำงาน
4. ความก้าวหน้า หรือ โอกาสที่เขาจะมีความก้าวหน้า
5. ความชัดเจนในหน้าที่ หรือ กรอบที่เขาจะมีสิทธิในการตัดสินใจ
6. ความสุขในการทำงาน
7. ประวัติที่มีชื่อ บ คุณอยู่ในการทำงาน
8. ความลับในการทำงานของบริษัทคุณ
9. โจทย์ชีวิตบางอย่างที่ไปเติมเต็มฝั่งเขา
10. คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเมื่อทำกับคุณ
แน่นอนบางทีมันก็อาจจะไม่ต้องมีทุกข้อ บางคนอาจจะมองแค่รายได้ บางคนอาจจะต้องการทั้งหมด หรือ บางคนอาจจะสนใจแค่เรียนรู้แล้วค่อยย้าย
การจ้างพนักงานจึงเป็นการ "แลกเปลี่ยน" แบบ ยื่นหมูยื่นแมว โดยที่มีกฎหมายเป็นตัวกำหนดและควบคุม และกฎหมายนี้ก็ไม่ได้อยู่ฝั่งนายจ้าง เพราะมันอยู่ฝั่งลูกจ้างเสียเป็นส่วนใหญ่ และถึงฟ้องไปก็ไม่คุ้มอยู่ดี ทำได้อย่างมากก็แค่หยอกให้กลัว แต่สุดท้ายก็ต้องจ่าย แต่ปัญหาส่วนใหญ่ที่เจอกันไม่ใช่เรื่องของการฟ้องร้อง แต่เป็นการรักษาและทำให้ทีมงานโตให้ทันกับการเติบโตของบริษัทมากกว่า
บางคนจ้างงานมาเพื่อวันนี้ พนักงานทำงานได้อย่างดี แต่อีกสามเดือนต่อมา ก็มีการโตอย่างก้าวกระโดด พนักงานคนเดิมจากที่ทำได้ดี กลายเป็นทำงานได้ไม่เข้าตา จนกลายเป็นว่าสุดท้ายก็ไม่ผ่านงาน หรือ โดนบีบให้ออก
บางคนจ้างงานมาเพื่ออนาคต แต่ไม่ได้มีการวางแผนการสร้างอนาคตไว้อย่างชัดเจน เพราะเราไม่ได้ลงระบบการทำงาน หรือ แตกส่วนการทำงานไว้ คนเก่งก็เริ่มโดนโถมงานจากคนเก่งเริ่มกลายเป็นคนหมกงาน ไม่ใช่อะไร ทำไม่ทันไปก็มีจ้าาา
บางคนเข้ามาก็รับเข้ามาแบบง่ายๆ เรียกว่าสัมภาษณ์จบ ถูกใจก็ทำเลย พอทำไปสักอาทิตย์เพิ่งมารู้ว่าความสามารถไม่ได้ดั่งใจ ตอนจะบอกว่าไม่ผ่านงานก็บอกได้แค่ว่า น้องทำได้ไม่ถูกใจพี่ แต่ไม่ถูกใจเพราะอะไรก็จะงงๆหน่อย เพราะเราก็ไม่รู้ว่าจะเอาอะไรมาวัดกันแน่
บางที่โดยเฉพาะ startup หรือ เจ้าที่เพิ่งเริ่มเลยต้องมีวิธีในการรักษาและพัฒนาพนักงานไปพร้อมๆกัน แต่จะพัฒนาไปในเส้นทางไหน หรือ จะส่งไปเรียนอะไรก็เป็นอีกเรื่อง และส่งไปแล้วมีการวัดผลหรือไม่ก็อีกเรื่องเช่นกัน
สิ่งนึงที่เจ้าของบริษัทควรทราบคือพนักงานทุกคนมีค่าใช้จ่ายที่มากกว่าที่คิด เงินเดือนอย่างเดียว×12 ถ้าจ่ายที่หมื่นนึง ปีนึงก็แสนสองแล้ว ถ้า บริษัทคุณมีพนักงานสิบคนทำงาน ปีนั้นคุณก็ต้องกล้าการันตีให้ได้ด้วยว่าคุณจะมีกำไรอย่างน้อย 1.2 ล้านเพื่อมาจ่ายค่าพนักงานส่วนนี้ นิกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเบี้ยขยัน ค่าพัฒนาพนักงาน ค่าเรียน สวัสดิการ และอื่นๆที่คุณจะต้องคิดและวางให้ดี
นอกจากนี้การจะรับพนักงานเข้ามาก็ไม่ได้การันตีว่าเขาจะทำงานได้ทันทีเช่นกัน เราเลยต้องมีช่วงเวลาการฝึกงานอย่างน้อยๆสามเดือน ซึ่งถ้าเราโชคดีคือผ่านงานทำงานได้ แต่ส่วนใหญ่ฝึกงานสามคน อาจจะผ่านงานแค่คนเดียว หรือไม่ผ่านทั้งหมดเลยก็ได้ ซึ่งตรงนี้ก็เป็นค่าใช้จ่ายที่เรียกว่า "ต้องยอมเสีย" เพื่อเรียนรู้ และเพื่อให้โอกาสพนักงานฝึกงานในการฉายแสงด้วย บางบริษัทเรียกได้เลยว่า จ้างสิบได้1 หรือง่ายๆคือถ้าจะหาพนง.ขายดีๆสักคนอาจจะต้องยอมจ่ายเงิน 10คนx3เดือน×10,000บาท หรือสามแสนบาทกว่าจะได้พนักงานดีๆสักคน
นี่ยังไม่รวมกระบวนการในการค้นหาพนักงานและเวลาที่ต้องเสียไปในการค้นหาพนักงานที่ดี รวมถึงการรักษาไว้เพื่อไม่ให้ต้องมาเสียเงินในการพัฒนาความสามารถใหม่อีก
พูดแล้วในฐานะของเจ้าของธุรกิจที่เคยผ่านกระบวนการนี้มาก่อนก็ต้องบอกว่า "เรื่องพนักงานควรคิดมากกว่าที่คิด" และ อย่ารับง่ายๆ แต่ถ้าคุณอยากรับพนักงานจริงๆสักคนแบบไม่เสียเงินมาก และอยากลดอัตราการลาออกของพนักงานในช่วงทดลองงานหรือในระยะเวลา 1 ปีหลังจากรับเข้าทำงาน จริงๆแล้วมันก็มีวิธี แต่วิธีนี้มันเริ่มต้นจาก “ตัวของคุณเอง”
นี่คือบางส่วนที่คุณจะต้องคิด
1. งานนี้ทำอะไร
2. อนาคตจะไปทางไหน
3. กระบวนการนี้ future proof หรือไม่
4. ช่องว่าง (?)
5. ....
6. ...
7. ..
8. .
ปกติผมจะเล่าทั้งหมดแบบเต็มๆในคลาส ทำเล่นสู่ทำธุรกิจ (สอนตั้งแต่ 10โมงยันเที่ยงคืน)
แต่รอบนี้ผมจะคั้นเรื่องเหล่านี้ให้ฟังบางส่วนในงานเคาะกะโหลกนี้ในส่วนที่สำคัญภายใน 1 ชั่วโมง
จากคนที่เคยรับพนักงานแบบ ทดลองงาน 10 เหลือ 1 เพราะทยอยลาออก
พอวางระบบ ขอบเขต และแนวคิดเหล่านี้กลายเป็นว่า
เราคัดคนที่เหมาะสมออกจากคนไม่เหมาะสมได้ตั้งแต่ตอนสัมภาษณ์
ให้ความยุติธรรมตั้งแต่ตอนฝึกงาน จน ตอนประเมิน
เรารู้ว่าคนไหนต้องวัดกันที่อะไร ช่วงไหนเออ ปล่อยเขาไป (เลิกจ้าง) หรือ ส่งเสริมเขาต่อ
แล้วเจอกันในงานเคาะกะโหลกครับ
สมัครที่ : https://forms.gle/6tHkLTnZ4kjVKAHa9
-----------------
แต่ถ้ามีเวลาจริงๆ
แนะนำคอร์สทำเล่นสู่ทำธุรกิจที่เจ้าของธุรกิจมือใหม่บอกว่า เรียนแล้วกลับไปเขย่าองค์ตัวเองทันที ได้ที่ fb.me/fromplaytobiz