E5 news

E5 news อัพเดตข่าวทุกวัน

ออฟโรด 4 แผ่นดิน "KHONBUDO OFFROAD CHALLENCE 5th 2024"นราธิวาส - ณ สนามบ้านค่าย อ.เมืองจ.นราธิวาส ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โ...
02/03/2024

ออฟโรด 4 แผ่นดิน "KHONBUDO OFFROAD CHALLENCE 5th 2024"

นราธิวาส - ณ สนามบ้านค่าย อ.เมืองจ.นราธิวาส ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผวจ.นราธิวาส เป็นประธานเปิดการแข่งขันออฟโรด 4 แผ่นดิน "KHONBUDO OFFROAD CHALLENCE 5th 2024" โดยมี ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนราธิวาส หัวหน้าส่วนราชการ พร้อมประธานชมรมคนบูโดออฟโรดนราธิวาสและคณะ off road จากอินโดนีเซีย มาเลเซีย ลาว และไทย เข้าร่วมกิจกรรมฯ

ออฟโรดครั้งนี้จัดขี้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จากการขยายตัวของอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยว สร้างงาน สร้างรายได้ เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว สร้างภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวและความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 - 3 มี.ค. 67 การแข่งขันแบ่งออกเป็น 6 รุ่น 1. รุ่น Super open 2. รุ่น Light core Big body (Winch 1 motor) 3. รุ่น Hard core Big body 4. รุ่น Light core Big body (No winch) 5. รุ่น Hard core Mini body 6. รุ่น Light core Mini body (No winch)

ประธานองคมนตรี ปิดกิจกรรม “ปอเนาะสานใจ สู่การพัฒนา” รุ่นที่ 2 ปัตตานี – เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 67  พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ...
02/03/2024

ประธานองคมนตรี ปิดกิจกรรม “ปอเนาะสานใจ สู่การพัฒนา” รุ่นที่ 2

ปัตตานี – เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 67 พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบประกาศนียบัตร ให้โอวาท และกล่าวปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ หลักสูตรเสริมสร้างศักยภาพโต๊ะครู และผู้ช่วยโต๊ะครูในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปอเนาะสานใจ สู่การพัฒนา) รุ่นที่ 2 จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 27 ก.พ.- 1 มี.ค. 67 โดยมี พลโท ปราโมทย์ พรหมอินทร์ แม่ทัพน้อยที่ 4 /รองผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า / ผู้อำนวยการศูนย์สันติวิธี พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษณ์ เลขาธิการศอ.บต. , นายอารีย์ วงศ์อารยะ รองประธานอำนวยการโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” , นางพาตีเมาะ สะดียามู ผวจ.ปัตตานี, รองผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้ง 5 จังหวัด , บาบอโต๊ะครู ทั้ง 5 จังหวัด (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา สตูล) สมาคมเยาวชนสานใจไทย สู่ใจใต้ และหัวหน้าส่วนราชการ ให้การต้อนรับ ณ โรงเเรมเซาท์เทิร์นวิว ปัตตานี อ.เมือง จ.ปัตตานี

พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี กล่าวว่า โต๊ะครู ผู้มีบทบาทสำคัญของประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลาม ถือเป็นประวัติศาสตร์ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ คำนึงถึงความสำคัญในการเป็นคนร่วมพัฒนาพื้นที่ สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในการพัฒนา เพื่อสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้เกิดขึ้นใน จชต. ข้าราชการไม่สามารถเข้าถึงและช่วยเหลือประชาชนได้เท่ากับโต๊ะครูและสถาบันปอเนาะ ซึ่งเป็นบุคคลที่ประชาชนเคารพและศรัทธา จึงต้องการยกฐานะโต๊ะครู ผู้ช่วยโต๊ะครูให้สูงขึ้น มีบทบาทในการพัฒนาทั้งเยาวชนในสถาบันปอเนาะ และพัฒนาประชาชน เพราะเข้าใจพื้นที่และบริบทสังคม จชต. มากที่สุด ต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาในพื้นที่ บูรณาการทุกภาคส่วน เพื่อลูกหลานให้มีอนาคตที่ดีในวันข้างหน้า

การจัดกิจกรรมสัมมนาฯ ได้ดำเนินการมาแล้ว 1 รุ่น มีสถาบันศึกษาปอเนาะเข้าร่วม จำนวน 20 แห่ง ช่วงเดือนส.ค. 66 ที่ผ่านมา ณ จ.สตูล เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และนำพลังศรัทธาของประชาชนที่มีต่อสถาบันศึกษาปอเนาะ มาเป็นกลไกในการขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชน สร้างการมีส่วนร่วมในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาชุมชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้

โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือ สถาบันศึกษาปอเนาะใน 5 จังหวัด จำนวน 20 แห่ง แห่งละ 3 คน รวม 60 คน โต๊ะครูหรือบาบอ มามาหรือผู้ช่วยโต๊ะครู แยกเป็น ปัตตานี 9 แห่ง ยะลา 4 แห่ง นราธิวาส 4 แห่ง สงขลา 2 แห่ง สตูล 1 แห่ง เน้นการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ประสบการณ์ การระดมความคิดเห็น ศึกษาดูงานการประกอบอาชีพ ณ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเลี้ยงผึ้งชันโรง บ้านเกาะแลหนัง อ.เทพา จ.สงขลา และการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยใช้ศาสนบำบัด ณ สถาบันศึกษาปอเนาะญาลันนันบารู บ้านเกาะแลหนัง ซึ่งเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลในการแก้ไขปัญหายาเสพติด

คลอดแล้ว 3 ข้อเสนอกมธ.สันติภาพชายแดนใต้ต่อรัฐบาล สร้างสันติภาพชายแดนภาคใต้กทม. - นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมาธิการ(...
01/03/2024

คลอดแล้ว 3 ข้อเสนอกมธ.สันติภาพชายแดนใต้ต่อรัฐบาล สร้างสันติภาพชายแดนภาคใต้

กทม. - นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) เผย ในฐานะประธาน กมธ.สันติภาพชายแดนใต้ฯ ได้เชิญหัวหน้าและตัวแทนคณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้มาชี้แจงข้อมูลเมื่อวันที่ 28 ก.พ.67 หลังจากได้รับฟังข้อมูลของคณะพูดคุยฯ แล้ว ทางกมธ. มีความเห็นต่อทิศทางการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในภาคใต้ดังต่อไปนี้

1. คณะกมธ. ได้รับฟังจากคณะพูดคุยฯ ว่า มีความยินดีในการรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลายและข้อวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่พึงกระทำได้และเป็นเรื่องปกติในสังคมประชาธิปไตย หากพิจารณากระบวนการสันติภาพในพื้นที่ความขัดแย้งอื่นๆ ทั่วโลก จะเห็นได้ว่าการเจรจาสันติภาพเป็นกลไกสำคัญของกระบวนการสร้างสันติภาพ เป็นพื้นที่สำหรับความคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลายและแสวงหาฉันทามติร่วมเพื่อนำไปสู่สันติภาพ โดยกมธ. วิสามัญฯ กระบวนการสันติภาพเชื่อว่าทุกฝ่ายต่างมีเจตนาที่ดีในการสร้างสันติภาพที่ยั่งยืน

2.คณะกมธ. ขอสนับสนุนการพูดคุยสันติภาพอย่างเป็นทางการที่กำลังดำเนินการอยู่ เป็นกลไกหนึ่งที่สำคัญนำมาสู่การคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งรุนแรง การสร้างสันติภาพที่ยั่งยืนไม่สามารถจะบรรลุความมุ่งหมายด้วยการยุติความรุนแรงในทางกายภาพ จำเป็นต้องจัดการรากเหง้าของปัญหาในลักษณะเป็นองค์รวม เช่น การไม่เข้าใจความหลากหลายทางอัตลักษณ์และวัฒนธรรมของคนในพื้นที่ ความเหลื่อมล้ำและความไม่เป็นธรรมทางสังคม การขาดการมีส่วนร่วมในการปกครองของประชาชน การจัดการทรัพยากรและมีส่วนในการจัดระบบการศึกษาที่เหมาะสมกับวิถีชีวิตของตนเอง เรื่องเหล่านี้มีความสำคัญต่อการสร้างความสงบสุขและสันติภาพที่ยั่งยืนในพื้นที่นี้ เป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญต่อการพัฒนาทางสังคม เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว

3.คณะกมธ. มีความเห็นว่ารั ฐบาลควรมีเจตจำนงทางการเมืองที่แน่วแน่และระดมสรรพกำลังเพื่อสร้างกลไกมาสนับสนุนกระบวนการสันติภาพในชายแดนใต้บนพื้นฐานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อให้บรรลุเจตนารมณ์ในการสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ท้ายที่สุดแล้วจะเป็นประโยชน์ร่วมกันของคนทั้งประเทศ

นายกฯ เตรียมยกระดับท่องเที่ยวเมืองเบตง ย้ำลงใต้เพื่อหาโอกาส สร้างมูลค่า เบตง – (28 ก.พ. 67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตร...
28/02/2024

นายกฯ เตรียมยกระดับท่องเที่ยวเมืองเบตง ย้ำลงใต้เพื่อหาโอกาส สร้างมูลค่า

เบตง – (28 ก.พ. 67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นำคณะ เดินทางโดยเครื่องบิน ATR จาก ท่าอากาศยานฯปัตตานี สู่ อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อเยี่ยมชมสถานที่สำคัญต่างๆ ในพื้นที่ และส่งเสริมการท่องเที่ยวในเบตง ประเดิมด้วยชมการเลี้ยงปลานิลสายน้ำไหล เบตง และปลาพลวงชมพู หรือปลากือเลาะ ซึ่งมีรูปแบบการเลี้ยงในระบบน้ำไหลผ่าน โดยเกษตรกรใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการผันน้ำจากลำธารเข้าสู่ฟาร์ม ซึ่งเป็นการใช้ประโยชน์จากต้นทุนทางธรรมชาติ มีเนื้อสีขาว รสชาติหวาน มีไขมันแทรกเล็กน้อย เมื่อนำไปประกอบอาหารจะมีเนื้อสัมผัสที่ดี ปราศจากกลิ่นสาบโคลน ไม่คาว โดยเชฟจุมพล แจ้งไพร ได้รังสรรค์เมนูปลานิลสายน้ำไหลนึ่งมะนาวส้มจี๊ด และปลานิลสายน้ำไหล ผัดพริกขิงสมุนไพร เสริฟขึ้นโต๊ะคณะรมต.อีกด้วย

จากนั้น คณะฯ ได้เดินทางเยี่ยมชมสวนดอกไม้เบตง หรือสวนหมื่นบุปผา มีประชาชนร่วมต้อนรับอย่างคับคั่ง มีการใส่ชุดพื้นเมืองในแต่ละหมู่บ้าน เพื่อแสดงถึงที่มา ประเพณีและอัตลักษณ์ของแต่ละชุมชน อาทิ ชาวเขาที่ย้ายถิ่นฐานมาจาก จ.เชียงราย ใส่ชุดลาหู่ พี่น้องหมู่บ้านคอมมิวนิสต์มลายา ใส่ชุดทหารจีนมาร่วมต้อนรับ

นายเศรษฐา ทวีสิน ได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนว่า การเดินทางมาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อหาโอกาส ดึงสิ่งซ่อนเร้นมาสร้างมูลค่าเพิ่ม ให้มองในการสร้างโอกาส ส่วนเรื่องการขนส่งคมนาคม โดยเฉพาะท่าอากาศยานเบตงที่ในปัจจุบัน แม้จะเป็นสนามบินนานาชาติ แต่ก็ต้องปิดให้บริการนั้น ได้หารือกับ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ต้องเข้าใจในเชิงพาณิชย์ ถ้าจะให้เอกชนเข้ามา ต้องมีดีมานด์ ตนเองมาที่นี่มาเพื่อมาสร้างดีมานด์ มาสร้างให้โลกรู้ว่า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นจังหวัดที่น่าท่องเที่ยว และไม่ต้องห่วง ถ้ามีดีมานด์มา เครื่องบินมาแน่

“การให้ความมั่นใจเรื่องความมั่นคงกับประชาชน ฝ่ายความมั่นคงทำงานมาด้วยดี ตลอดเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา พบปัญหาลดลงไปเยอะมาก ไม่มีใครอยากมีปัญหา วันนี้เราต้องพูดเรื่องโอกาสมากกว่า ถ้าเราลืมเรื่องความไม่มั่นคง ความทะเลาะเบาะแว้ง หันมาพูดเรื่องโอกาส เชื่อว่า ทุกคนอยากมีเงินในกระเป๋า ถ้าเศรษฐกิจดี มีความเสมอภาค มีความเท่าเทียม ได้รับการศึกษาที่ถูกต้อง ได้รับสิทธิที่เท่าเทียมกันทุกคนที่เป็นคนไทย ประชาชนอยากขยายธุรกิจ สิ่งที่เขาต้องการคือเงินทุน รัฐบาลก็ต้องพยายามจัดการ ทั้งธนาคารอิสลาม ให้เข้าใจถึงบริบทการอยู่อาศัยของพี่น้อง 3 จังหวัด รวมถึงธนาคารอื่น ๆ ก็ต้องมีการพูดคุยกันเพื่อรองรับ หากมีการอยากขยายการเพาะพันธุ์ปลานิลน้ำไหล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการเข้าไปช่วยเหลือ รวมถึงกระทรวงการคลังด้วย”

คณะนายกรัฐมนตรีได้ติดตามผลการดำเนินงานของด่านศุลกากรเบตง ณ ด่านศุลกากรเบตง จ.ยะลา ชมความสวยงามของอุโมงค์ปิยะมิตรเบตง เพื่อวางแนวทางยกระดับการท่องเที่ยวเมืองเบตงอีกด้วย

มทภ.4 เปิดแผนรอมฎอนสันติสุข และส่งเสริมสังคมพหุวัฒนธรรม ปี 67  ปัตตานี - ณ ห้องประชุม 1 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภ...
28/02/2024

มทภ.4 เปิดแผนรอมฎอนสันติสุข และส่งเสริมสังคมพหุวัฒนธรรม ปี 67

ปัตตานี - ณ ห้องประชุม 1 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พลโท ศานติ ศกุนตนาค มทภ.4 / ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 เป็นประธานในการประชุมแถลงแผนปฏิบัติการ (รอมฎอนสันติสุข และส่งเสริมสังคมพหุวัฒนธรรม ปี 2567 ) เพื่อให้ทุกหน่วยได้รับทราบ และเตรียมความพร้อมนำไปปฏิบัติตามแผนนโยบาย ให้เป็นรูปธรรม มีประสิทธิภาพ และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยมีหน่วยขึ้นตรงของกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ทั้งทหาร ตำรวจฝ่ายปกครอง ร่วมประชุมในครั้งนี้

มทภ.4 กล่าวว่า แผนรอมฎอนสันติสุขฯ ในปีนี้ ได้เตรียมความพร้อมทั้งก่อน ระหว่างและหลัง รวมถึงครอบคลุมไปถึงเทศกาลสำคัญต่างๆ ต้องการสร้างความสงบสุข ไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น โดยในห้วงเดือนรอมฎอนที่ใกล้ถึงนี้เป็นเดือนแห่งการทำความดี เน้นย้ำไปยังทุกหน่วยในพื้นที่ ให้ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนที่จะต้องเดินทางสัญจรไปมาโดยเฉพาะพี่น้องชาวไทยมุสลิมที่ต้องเดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจยาวไปถึงเทศกาลสงกรานต์ของพี่น้องชาวไทยพุทธ ซึ่งได้มีการเตรียมการทำแผนรองรับในการเดินทางของพี่น้องประชาชนทั้งในและนอกพื้นที่ เพื่อให้เกิดความสุขและเกิดความปลอดภัยแก่พี่น้องประชาชนทุกศาสนาและทุกคนในทุกเทศกาล

ในปีนี้ได้มีการปรับเปลี่ยนชื่อจาก “แผนรอมฎอนสันติสุข” เป็น “แผนรอมฎอนสันติสุข และส่งเสริมสังคมพหุวัฒนธรรม ”

สำหรับมาตรการการอำนวยความสะดวก จะมีการปรับด่านตรวจ ให้เป็นด่านอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งในพื้นที่มีด่านความมั่นคงทั้งหมด 23 ด่าน ซึ่งมีอยู่ในพื้นที่สามจังหวัด และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา เป็นการตรวจป้องกัน ป้องปรามทั้งในเรื่องของสิ่งของผิดกฎหมาย การอำนวยความสะดวกการสัญจรไปมาในการประกอบศาสนกิจช่วงรอมฎอน การเดินทางในช่วงเทศกาลต่างๆ เพื่อดูแลทั้งความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุระหว่างการเดินทางสัญจร เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายให้มีการดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ให้ประชาชนเข้าใจและให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เพื่อรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับพี่น้องประชาชน

โอกาสนี้ มทภ.4 ได้อวยพรแก่พี่น้องชาวไทยมุสลิมที่กำลังจะเข้าสู่ห้วงของเดือนรอมฎอนนี้ว่า “ขออำนวยพรให้พี่น้องมุสลิมปฏิบัติศาสนกิจอย่างเต็มที่ เต็มขีดความสามารถและมีความสุขตลอดเดือนรอมฎอน ฮิจเราะห์ศักราช 1445 ช่วยกันทำความดี ตามบทบัญญัติในอัลกุรอ่านที่ส่งเสริมให้ทุกคนทำความดีในห้วงเดือนรอมฎอนอันประเสริฐ ก่อเกิดผลบุญอย่างมหาศาล ทำความดีที่ไม่ผิดกฎหมาย”

เศรษฐา.. เปิดใจเยือนมัสยิดกลางปัตตานีครั้งแรกในช่วงค่ำวันนี้ นายกฯ เศรษฐา ได้พบปะพูดคุยกับผู้นำศาสนา เยี่ยมชมมัสยิดกลางจ...
27/02/2024

เศรษฐา.. เปิดใจเยือนมัสยิดกลางปัตตานีครั้งแรก

ในช่วงค่ำวันนี้ นายกฯ เศรษฐา ได้พบปะพูดคุยกับผู้นำศาสนา เยี่ยมชมมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี ซึ่งเป็นศาสนสถานที่ชาวมุสลิมปัตตานีนับถืออย่างเคร่งครัด เสมือนศูนย์กลางในการประกอบศาสนกิจของชาวไทยมุสลิมในภาคใต้ โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวความประทับใจที่ได้เข้าเยี่ยมชมมัสยิดแห่งนี้ว่า

“เป็นครั้งแรกที่ได้เข้ามาเยี่ยมชมมัสยิด รู้สึกประทับใจ ทั้งนี้ จากการรับฟังรายงานทราบว่า มัสยิดแห่งนี้สร้างเสร็จเมื่อปี 2506 ถือว่าเป็นมัสยิดที่มีความสวยงาม วันนี้ได้นำรัฐมนตรีมาหลายท่าน มาดูโอกาสของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดีใจที่ได้มาจังหวัดปัตตานีเป็นจังหวัดแรก ได้มาดูวัฒนธรรมประเพณี ได้เห็นศักยภาพของจังหวัดปัตตานี ยืนยันรัฐบาลให้การสนับสนุน เพื่อให้จังหวัดเมืองรองสามารถที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าในพื้นที่มากขึ้น เพื่อสร้างรายได้สู่จังหวัด โดยมอบให้ ศอ.บต. ไปดูเรื่องสาธารณูปโภคทั้งหมดของมัสยิดในพื้นที่ภาคใต้ ผู้คนมีความเป็นกันเอง ยิ้มแย้มแจ่มใส และขอขอบคุณในการต้อนรับอย่างอบอุ่นท่ามกลางสังคมพหุวัฒนธรรมแห่งนี้ นับเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพและพร้อมในหลายๆ มิติ ขออวยพรให้พื้นที่และประชาชนมีความสุขและเกิดสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเร็ว”

นอกจากนั้นนายกรัฐมนตรียังรับทราบการดำเนินการเรื่องการขึ้นทะเบียนนกกรงหัวจุกให้ถูกกฎหมาย โดยมีพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม รับเรื่องไปดำเนินการต่อ

เศรษฐาล่องใต้ ลงปัตตานี  27-28 ก.พ. รับปากทำฝันพี่น้องปัตตานีให้เป็นจริง  วันนี้ (27 ก.พ.2567) เวลา 14.30 น. ณ ศาลหลักเม...
27/02/2024

เศรษฐาล่องใต้ ลงปัตตานี 27-28 ก.พ. รับปากทำฝันพี่น้องปัตตานีให้เป็นจริง

วันนี้ (27 ก.พ.2567) เวลา 14.30 น. ณ ศาลหลักเมืองปัตตานี อ.เมืองปัตตานี นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนในพื้นที่ ร่วมต้อนรับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมสักการะศาลหลักเมืองปัตตานี พร้อมคณะฯ ประกอบด้วย นายอนุทิน ชาญวีระกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม, นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา, พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม, นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม, นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว จังหวัดชายแดนใต้ “เที่ยวใต้ สุดใจ” วันที่ 27-29 ก.พ. 2567 ณ จ.ปัตตานี วันที่ 27-28 ก.พ.

จากนั้นเดินทางเยี่ยมชมมัสยิดกรือเซะ ตลาดวิถีชุมชนพื้นบ้าน จ.ปัตตานี พบปะผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และประชาชน ณ มัสยิดกรือเซะ ต.ตันหยงลุโละ อ.เมืองปัตตานี โดยมี กลุ่มสตรี โรงเรียนในต.ตันหยงลุโละ กลุ่มบาราโหมบาซาร์ กลุ่มเกลือหวานปัตตานี บ้านเดินดิน เบญจเมธา ร่วมต้อนรับ

“ดีใจที่ได้เห็นรอยยิ้ม คำพูดของพี่น้องในพื้นที่ จะรับไปพิจารณาในเรื่องการบูรณะพิพิธภัณฑ์และเครื่องทองเหลืองให้เร็วที่สุด การนำเอาเมี่ยงสมุนไพรขึ้นเป็นอาหารบนการบินไทย ให้ความหวังเรื่องสะพานตะลุโบะของชาวปัตตานีเป็นจริง มีหลายอย่างที่สามารถทำได้ที่นี่ ปีหน้ามาใหม่ ถ้าไม่มีความคืบหน้า บอกผม” นายกฯ เศรษฐา รับปากกับพี่น้องชาวปัตตานี ณ มัสยิดกรือเซะ

“ดีใจมากครับที่ท่านนายกชื่นชอบและซื้อภาพวาดเด็กชายมุสลิมกับเณร ราคา 30,000 บาท วันนี้ตรงกับลูกสาวคนเล็กคลอดพอดี ริสกีมินัลลอฮ” สุไลมาน ยาโม ศิลปินดับไฟใต้ด้วยปลายพู่กัน บอกความรู้สึกภูมิใจที่นายกรัฐมนตรีชื่นชอบในผลงานภาพวาดของเขา

จากนั้น ได้เดินเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวเมืองปัตตานี ได้แก่ บ้านขุนพิทักษ์รายา, บ้านเลขที่ 5 กือดาจีนอ, ตลาดวัฒนธรรมกือดาจีนอ, ศาลเจ้าเล่งจูเกียง (เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว) พร้อมเยี่ยมชมมหกรรมท่องเที่ยวปัตตานีอาเซียน “กตัญญูคู่ฟ้ามหาสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวปัตตานี” ประจำปี 2567 บริเวณถนนอาเนาะรู ช่วงค่ำ นายกรัฐมนตรีฯ พร้อมคณะฯ เดินทางไปยังมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี พบปะคณะกรรมการอิสลามและคณะกรรมการมัสยิด เยี่ยมชมความงดงามของมัสยิดกลางในยามค่ำคืนและบันทึกภาพเป็นที่ระลึก ซึ่งสิ้นสุดภารกิจของวันนี้

สำหรับเป้าหมายของการเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว จังหวัดชายแดนใต้ “เที่ยวใต้ สุดใจ” เพื่อต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพิ่มกิจกรรมการท่องเที่ยวในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งมีความโดดเด่นทั้งทางด้านศิลปวัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และอาหารท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อ อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและความครึกครื้นภายในจังหวัด ดึงดูดนักท่องเที่ยว เข้ามาสัมผัสเรื่องราวดีๆ ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แม้มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม แต่มีความรักความสามัคคีมีอัธยาศัยดี จ.ปัตตานี พร้อมเป็นเจ้าบ้านที่ดี ในการต้อนรับนักท่องเที่ยว และผู้มาเยือน

10 องค์กรผู้นำปัตตานี (SEPAKAT PATANI] จัดระดมทุนเพื่อเด็กกำพร้าในจังหวัดปัตตานี10 องค์กรผู้นำปัตตานี (SEPAKAT PATANI] จ...
27/02/2024

10 องค์กรผู้นำปัตตานี (SEPAKAT PATANI] จัดระดมทุนเพื่อเด็กกำพร้าในจังหวัดปัตตานี

10 องค์กรผู้นำปัตตานี (SEPAKAT PATANI] จัดระดมทุนเพื่อเด็กกำพร้าในจังหวัดปัตตานี แข่งขันฟุตบอลการกุศล ระดมทุนจัดเลี้ยงอาหารเต็กกำพร้า 350 โต๊ะ พร้อมมอบเงินแก่เด็กกำพร้า (พ่อ) 1,500 คน

องค์กรผู้นำจังหวัดปัตตานี (SEPAKAT PATANI) 10 องค์กร คือ สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี องค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี สมาคมนายกองค์การบริหารส่วนตำบลจังหวัดปัตตานี สมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดปัตตานี สมาคมโรงเรียนเอกชนจังหวัดปัตตานี ชมรมตาดีกาจังหวัดปัตตานี ชมรมผู้อำนวยการโรงเรียน สพฐ/สพมจังหวัดปัตตานี ชมรมสถาบันการเงิน/นักธุรกิจจังหวัดปัตตานี ชมรมแพทย์/พยาบาลมุสลิมจังหวัดปัตตานี และชมรมคณาจารย์มุสลิมมหาวิทยาสงขลานครินทร์ปัตตานี/มหาวิทยาลัยฟาตอนี ร่วมแถลงข่าวระดมทุนเพื่อเด็กกำพร้า 1500 คน ณ สนามฟาตอนีสเตเดี้ยม อ.เมือง จ.ปัตตานี

อิสลามส่งเสริมให้มนุษย์มีความเมตตา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อผู้ที่ยากจน ผู้ตกทุกข์ได้ยากและผู้ที่อ่อนแอกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "เด็กกำพร้า" ที่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ยากจน ขัดสน ขาดอาหารการกิน ขาดโอกาสทางการศึกษา และอื่นๆ ที่จะหล่อหลอมให้เติบโตมาเป็นคนที่มีคุณภาพ การช่วยเหลือต่อเด็กกำพร้าจึงเป็นความรับผิดชอบสำหรับมุสลิมทุกคนที่มีความสามารถ โดยอัลกุรอานและชุนนะห์ของท่านนปีได้ให้ความสำคัญต่อการอุปถัมภ์และให้ความสนใจต่อเด็กกำพร้า ให้รักษาสิทธิและให้ความเมตตาเอ็นดูต่อเด็กกำพร้า แม้ว่าขาดพ่อไป แต่ยังมีพี่น้องมุสลิมอีกมากมายที่เปรียบเสมือนพ่อ คอยดูแลเมตตา โดยผู้ที่กระทำเช่นดังกล่าวจะได้รับผลบุญมากมาย
ดังเช่นหะดิษที่มีใจความว่า ท่านรอชูลุลลอฮฺ (ซ.ล.) กล่าวว่า "ฉันกับผู้ให้การอุปถัมภ์เด็กกำพร้าจะอยู่ด้วยกันในสวรรค์ดังเช่นนี้ แล้วท่านก็ชูนิ้วชี้และนิ้วกลางขึ้นห่างกันเล็กน้อย" และรายงานจากอิบนิอับบาส จากท่านนบี (ซ.ล.) กล่าวว่า "ผู้ใดก็ตามที่เอาเด็กกำพร้าไปเลี้ยงอาหาร อัลลอยก็จะให้เขาได้รับสวรรค์อย่างแน่นอน ยกเว้นเขากระทำความผิดที่มิอาจให้อภัย"

จากความสำคัญของเด็กกำพร้า องค์กรผู้นำจังหวัดปัตตานี (SEPAKAT PATANI) 10 องค์กร ได้จัดโครงการมหกรรมระดมทุนเพื่อเด็กกำพร้าในจังหวัดปัตตานี ครั้งที่ 1/2567 ด้วยการจัดกิจกรรมแข่งขันฟุตบอลการกุศลระดมทุนเพื่อเด็กกำพร้าในจังหวัดปัตตานี จัดเลี้ยงอาหารเด็กกำพร้าพร้อมมารตา จำนวน 150 โต๊ะ ส่งมอบเงินแก่เด็กกำพร้า (พ่อ) ในจังหวัดปัตตานี จำนวน 500 คน รายละ 1,000 บาท โดยการแข่งขันฟุตบอลกุศลเพื่อเด็กกำพร้าพ่อในจังหวัดปัตตานี ระหว่างวันที่ 9 - 10 มีนาคม 2567 ณ สนามฟาตอนีสเตเดียม จำนวนทีมแข่งขัน 48 ทีม ได้แก่ รุ่นอายุ 35 - 49 ปี 24 ทีม และรุ่นอายุ 50 ปีขึ้นไป 24 ทีม โดยการเข้าร่วมแช่งขันฟุตบอลการกุศลในครั้งนี้ไม่มีค่าสมัคร แต่ขอสนับสนุนทีมละ 5,000 บาท เพื่อช่วยเด็กกำพร้า 5 คน ชิงถ้วยรางวัลเกียรติยศ ประธานรัฐสภา รมว.ยุติธรรม จุฬาราชมนตรี สส.ปัตตานีทั้ง5 คน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลจังหวัดปัตตานี ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี นายกสมาคมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านจังหวัดปัตตานี

กิจกรรมระดมทุนจัดเลี้ยงอาหารเด็กกำพร้าพร้อมมารดา จำนวน 150 โต๊ะๆ ละ 3,000 บาท เป็นเงิน 450,000 บาท โดยเสนอให้ชาวปัตตานีหรือจังหวัดใกล้เคียงเลี้ยงอาหารเด็กกำพร้า1 โต๊ะเด็กกำพร้า 4 - 5 คน กิจกรรมมอบเงินแก่เด็กกำพร้า (พ่อ) ในจังหวัดปัตตานี จำนวน 500 คน คนละ 1,000 บาท โดยส่งมอบเงินในช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฏอน พร้อมร่วมละศีลอด
ดร.แวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดปัตตานี กล่าวถึงกิจกรรมครั้งนี้ว่าเป็นกิจกรรมที่ดีได้ช่วยเหลือเด็กกำพร้า เป็นความรับผิดชอบสำหรับมุสลิมทุกคนที่มีความสามารถ โดยอัลกุรอานและซุนนะห์ของท่านนบี ได้ให้ความสำคัญต่อการอุปถัมภ์ ให้ความสนใจ รักษาสิทธิ และให้ความเมตตาเอ็นดูต่อเด็กกำพร้า แม้ว่าขาดพ่อไป แต่ยังมีพี่น้องมุสลิมอีกมากมายที่เปรียบเสมือนพ่อคอยดูแลเมตตา โดยผู้ที่กระทำเช่นดังกล่าวจะได้รับผลบุญมากมาย ขอเรียนเชิญทุกท่าน หน่วยงาน และองค์กรต่างๆ ร่วมให้การสนับสนุนงานมหกรรมครั้งนี้ โดยสามารถเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลการกุศล ระดมทุนจัดเลี้ยงอาหารเด็กกำพร้าพร้อมมารดา และร่วมบริจาคผ่านบัญชีธนาคารอิสลาม ชื่อบัญชี :"Sepakat Pattni 10 Organisasi เพื่อลูกกำพร้า (ANAK YATEEM PATTANI)" เลขที่บัญชี 103-1-36031-1 รายได้จากกิจกรรมจะมอบเป็นเงินทุนช่วยเหลือแก่เด็กกำพร้าพ่อในจังหวัดปัตตานี จำนวน 1,500 คน

“กิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อรักษาความรู่สึกและยกระดับเด็กกำพร้าให้มีความเท่าเทียม เป็นปัญหาที่ต้องร่วมกันรับผิดชอบ การตั้งองค์กรนี้เพื่อช่วยเหลือสังคมอยู่แล้ว ทั้งน้ำท่วม ไฟไหม้ ซึ่ง 3 กิจกรรมนี้เพื่อนำเงินไปช่วยเด็กพร้า เงินจากค่าสมัคร การจัดโต๊ะเลี้ยง เงินที่เหลือนำมาช่วยเหลือสังคมและเด็กกำพร้าคนละ 1,000 บาท หลักเกณฑ์คือ ขาดพ่อแม่(เสียชีวิต ) ขาดพ่อ อายุ 12 ปีลงมา และความยากจน ต่อไปจะเปิดโอกาสให้ทุกอายุ การศึกษา” นายเศรษฐ์ อัลยุฟรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานีกล่าว
ในการแถลงข่าวมีการแข่งขันฟุตบอลระหว่าง ทีมปัตตานีเอฟซี และทีมเน็ตไอดอล ผลการแข่งขัน ทีมเน็ตไอดอลชนะ โดยมี พ.ต.อ.ทว สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้โอวาทและมอบถ้วยรางวัล

นกกรงหัวจุกร่วม 1000 ตัว ร่วมชิงแชมป์ ปัตตานี ครั้งที่ 1ปัตตานี - ปชช.ชายแดนใต้แห่นำนกเลี้ยง ร่วมแข่งขันในมหกรรม “นกกรงห...
25/02/2024

นกกรงหัวจุกร่วม 1000 ตัว ร่วมชิงแชมป์ ปัตตานี ครั้งที่ 1

ปัตตานี - ปชช.ชายแดนใต้แห่นำนกเลี้ยง ร่วมแข่งขันในมหกรรม “นกกรงหัวจุก ศึกชิงแชมป์ จังหวัดปัตตานี” กีฬาพื้นบ้าน สื่อถึงอัตลักษณ์ ประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นชายแดนใต้

(25 ก.พ.67) ชมรมผู้เลี้ยงและผู้เพาะพันธุ์นกกรงหัวจุกจังหวัดปัตตานี จัดมหกรรมการแข่งขันนกกรงหัวจุก ศึกชิงแชมป์ จังหวัดปัตตานี ณ สนามกีฬากลางปัตตานี มีประชาชนผู้เลี้ยงนกเข้าร่วมแข่งขันมากกว่า 1,000 ตัว เพื่อสร้าง soft power จากการแข่งขันนกกรงหัวจุกให้นำไปสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ สร้างความสามัคคีในกลุ่มผู้เลี้ยงนกกรงหัวจุกในปัตตานีและจังหวัดใกล้เคียง โดยมี นายรอมดอน หะยีอาแว ผู้ช่วยเลขาธิการศอ.บต. เป็นประธานเปิดกิจกรรม

นายรอมดอน หะยีอาแว กล่าวว่า ศอ.บต. พร้อมส่งเสริมวิถีชีวิตของประชาชน ตามความเชื่อ อัตลักษณ์และประเพณี การเลี้ยงนกกรงหัวจุกในพื้นที่จชต. เป็นวิถีชีวิตที่ดำเนินมาตั้งแต่อดีต ขณะนี้ ศอ.บต. ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เดินหน้าผลักดันการถอดบัญชีนกปรอดหัวโขน (นกกรงหัวจุก) ออกจากบัญชีรายชื่อสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 17 ให้เป็นสัตว์ป่าชนิดที่เพาะพันธุ์ได้ตามพระราชบัญญัติการเพาะพันธุ์สัตว์ป่า พร้อมจัดตั้งอนุกรมคณะกรรมการฯ เพื่อดำเนินการปลดล็อค เมื่อมีข่าวดีจะสามารถสร้างรอยยิ้มแก่ชาวบ้านในพื้นที่ที่เลี้ยงและหวงแหนนกกรงหัวจุก หมายถึง การสามารถเลี้ยงนกกรงหัวจุกได้อย่างถูกกฎหมาย

นายอับดุลเลาะ สารีมา ประธานชมรมผู้เลี้ยงและผู้เพาะพันธุ์นกกรงหัวจุก จังหวัดปัตตานี ประธานจัดงานฯ กล่าวว่า การเลี้ยงนกกรงหัวจุกเป็นวัฒนธรรมพื้นบ้านและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เป็นกีฬาพื้นบ้านที่สร้างความผ่อนคลาย เพลิดเพลิน สามัคคี ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี

“ปัจจุบันศอ.บต. ยังได้ผลักดันนกกรงหัวจุกให้เป็นซอฟท์พาวเวอร์เพื่อขับเคลื่อนสัตว์เศรษฐกิจในพื้นที่ ชมรมผู้เลี้ยงและผู้พาะพันธุ์นกกรงหัวจุกจ.ปัตตานีเห็นความสำคัญของการแข่งขัน โดยมีสมาชิกนำนกเข้าร่วมแข่งขันจำนวนประมาณ 1,000 ตัว เป็นการแข่งขันประเภท 4 ยก 8 ดอก ชิงชัยทั้งหมด 100 รางวัล แบ่งเป็นรางวัลนก 50 รางวัล พร้อมถ้วยเกียรติยศ และรางวัลชิงโชค จำนวน 50 รางวัล”

ด้าน นายวิชัย มาเด็น ประธานชมรมผู้เลี้ยงและเพาะพันธุ์นกกรงหัวจุกสงขลา บอกว่า มีสมาชิกจากจะนะมาร่วมกว่า 100 กรง ซึ่งปัตตานีตั้งเป้าไว้ 500 เลข แต่คนมาร่วมกว่า 1,000 เลข กระแสตอบรับเกินความคาดหมาย ชาวบ้านขายกล้วยได้หมด คนทำกรงก็ขายได้หมด อาหารนกก็ขายดี ในวันนี้มีการแข่งขันนกกรงหัวจุกสนามใหญ่ที่หาดใหญ่และนครศรีธรรมราช ซึ่งคนเต็มทุกสนาม ชิงรางวัลใหญ่ทุกสนาม แสดงว่ามีผู้สนใจเลี้ยงนกกรงหัวจุกเพิ่มขี้นมาก

“ซึ่งมีทั้งชาวมาเลย์และสิงคโปร์ที่เลี้ยงและมาแข่งขัน เป็นสัตว์เศรษฐกิจที่น่าส่งเสริม มีราคาสูงสุดตอนนี้ตัวละ 1.5 ล้านบาท บ้านเราสามารถพัฒนาให้ครบวงจรและรัฐควรสนับสนุนด้วย"

ภายในงาน มีการจำหน่ายอาหารเลี้ยงนก สำหรับเลี้ยงนกกรงหัวจุกทั่วไป อาหารสำหรับวันแข่งขันนกฯ และอาหารนกสำหรับช่วงถ่ายขน พร้อมทั้งยังมีการจำหน่ายกรงนกจากฝีมือของประชาชนในพื้นที่ สื่อถึงอัตลักษณ์ความเป็นอยู่ในการเลี้ยงนกกรงหัวจุกของประชาชนชายแดนใต้ที่มีมาอย่างยาวนาน

เริ่มแล้ว “กตัญญูคู่ฟ้า มหาสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวปัตตานี ประจำปี 2567” เทศกาลสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวป้ตตานีปัตตานี ...
25/02/2024

เริ่มแล้ว “กตัญญูคู่ฟ้า มหาสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวปัตตานี ประจำปี 2567”

เทศกาลสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวป้ตตานี

ปัตตานี - บริเวณศาลเจ้าเล่งจูเกียง (ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว) ถนนอาเนาะรู ถนนปะนาเระ ถนนสายบุรี ถนนนรินทราช อ.เมือง จ.ปัตตานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธานเปิดงานมหกรรมท่องเที่ยวปัตตานีอาเซียน กตัญญูคู่ฟ้า มหาสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวปัตตานี ประจำปี 2567

โดยมี นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวต้อนรับ และนายธาดา คณานุรักษ์ ประธานมูลนิธิเทพปูชนียสถาน กล่าวรายงาน ประชาชนเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
งานมหกรรมท่องเที่ยวปัตตานีอาเซียนฯ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-27 ก.พ. 67

สำหรับงานสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว เป็นพิธีโบราณที่ชาวไทยเชื้อสายจีนเคารพนับถือ ปฏิบัติสืบทอดมาหลายชั่วอายุคน จัดขึ้นในวันที่ 14 เดือนหนึ่ง ตามจันทรคติจีน ตรงกับวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ทั้งนี้ จ.ปัตตานี ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวและการส่งเสริมทางวัฒนธรรมและรักษาประเพณีวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน ยกระดับกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ชายแดนใต้ ประจำปีงบประมาณ 2567 เพื่อเป็นการยกระดับกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เป็นที่รู้จัก และมีความแปลกใหม่น่าสนใจ มีการสร้างสรรค์กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวใหม่ ให้ตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ และประชาชนได้มากขึ้น

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วน ที่ได้ร่วมมือร่วมแรงร่วมใจสร้างสรรค์กิจกรรนี้ จัดงานอย่างยิ่งใหญ่ให้ทุกอย่างมีสีสัน มีชีวิตชีวาและมีความจริงใจ ส่งเสริมการท่องเที่ยว ภายใต้การอยู่ร่วมกันพาความหลากหลายทางวัฒนธรรม

“มหกรรมท่องเที่ยวปัตตานีอาเซี่ยน กตัญญูคู่ฟ้า มหาสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ประจำปี 2567” จัดระหว่างวันที่ 21-27 ก.พ.67 ณ บริเวณศาลเจ้าเล่งจูเกียง ถ.อาเนาะรู ถ.ปะนาเระ ถ.ปัตตานีภิรมย์ ถ.นรินทราช ถ.สายบุรี อ.เมือง จ.ปัตตานี

กสศ.ร่วม ธนาคารโลก ถอดบทเรียนการพัฒนาทักษะทุนชีวิตต่างประเทศกสศ.ร่วม ธนาคารโลก ถอดบทเรียนการพัฒนาทักษะทุนชีวิตต่างประเทศ...
24/02/2024

กสศ.ร่วม ธนาคารโลก ถอดบทเรียนการพัฒนาทักษะทุนชีวิตต่างประเทศ

กสศ.ร่วม ธนาคารโลก ถอดบทเรียนการพัฒนาทักษะทุนชีวิตต่างประเทศ และตัวอย่างการขับเคลื่อนระดับท้องถิ่น 3 จังหวัดของไทย

กสศ. ร่วมกับ ธนาคารโลก และ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดเวทีเสวนาแลกเปลี่ยน กรณีศึกษาความร่วมมือการพัฒนาทักษะทุนชีวิตในสังคมแห่งการเรียนรู้จากต่างประเทศ และการพัฒนาทักษะทุนชีวิตไทย หลังพบผลสำรวจแรงงานไทยกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ มีทักษะทุนชีวิตด้านการอ่าน ด้านดิจิทัล ด้านอารมณ์และสังคมไม่ถึงเกณฑ์

วันที่ 22 ก.พ. 2567 ที่ห้องประชุม เวิลด์ บอลรูม บี โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอนด์ บางกอกคอนเวนชัน เซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ร่วมกับ ธนาคารโลก (World Bank) และ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดเวทีการขับเคลื่อนทักษะทุนชีวิตในระดับท้องถิ่นและจังหวัด เพื่อแลกเปลี่ยน กรณีศึกษาความร่วมมือการพัฒนาทักษะทุนชีวิตในสังคมแห่งการเรียนรู้จากเมืองโบโกต้า ประเทศโคลัมเบีย และนำเสนอการขับเคลื่อนพัฒนาทักษะทุนชีวิตจาก 3 จังหวัด คือ ระยอง พะเยา และปัตตานี ที่มีบริบทพื้นที่ต่างกัน

นายพัฒนะพงษ์ สุขมะดัน ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า โครงการสำรวจทักษะและความพร้อมของเยาวชนและแรงงานที่เกิดขึ้นนี้ เป็นความร่วมมือของ ธนาคารโลก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สำนักงานสถิติแห่งชาติ และ กสศ. ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันมาเป็นระยะเวลา 2 ปี นับตั้งแต่ปี 2564 เป็นการศึกษาการพัฒนาทักษะทุนชีวิต 3 ด้าน คือ การอ่านออกเขียนได้ ทักษะทางดิจิทัล และทักษะอารมณ์และสังคม ในช่วงอายุ 15-64 ปี 7,300 คนทั่วประเทศ เป็นการศึกษาของไทยครั้งแรกที่มีความเป็นสากล และที่ครอบคลุมในการอธิบายประชากรทั้งหมดของประเทศ หรือ เทียบเคียงกับ PISA ที่ศึกษาประชากรนักเรียน สำหรับผลการศึกษา พบว่า เยาวชนและประชากรวัยแรงงาน “ขาดทักษะทุนชีวิตที่ต่ำกว่าเกณฑ์” ทำให้เราเกิดความท้าทายในการทำงานในช่วงก้าวสู่ศตวรรษที่ 21

“กลุ่มประชากรที่ทำการสำรวจและพบอุปสรรคอย่างมาก คือ กลุ่มผู้สูงอายุ ที่อาจจะไม่จบการศึกษาในระดับอุดมศึกษา กระจุกตัวในชนบท และอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคใต้ วันนี้เป็นกิจกรรมต่อเนื่องจากงานวิจัย ที่จะนำไปสู่การเตรียมคน เตรียมความพร้อมในการพัฒนาทักษะ ในพื้นที่ระดับท้องถิ่น” นายพัฒนะพงษ์

นางมาเรีย วิคตอเรีย แองกูโล (Ms. Maria Victoria Angulo) อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และเลขาธิการการศึกษาเมืองโบโกต้า ประเทศโคลัมเบีย นำเสนอบทเรียนทางการศึกษาโบโกต้า สู่การปรับใช้ในประเทศไทย ว่าหัวใจสำคัญของโบโกต้าไม่เพียงให้ความสำคัญเฉพาะเรื่องการศึกษา แต่ยังให้ความสำคัญกับ “ความสุข” และ “ท้องถิ่น” เพื่อที่จะทำให้การศึกษาช่วยพัฒนาคนและเมือง โดยมีการวางแผนการดำเนินงานระยะ 5 ปี โดยมีการรับฟังเสียงจาก ครู นักเรียน เพื่อนำไปพัฒนากิจกรรมต่างๆ ในพื้นที่ร่วมกัน เช่น ห้องสมุด สวนสาธารณะ เราพยายามทำให้เห็นว่า การศึกษาสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตได้ โดยมีรูปแบบการทำงานสำคัญ เช่น การดูแลเด็กแบบครบวงจร สิ่งแวดล้อมเพื่อการมีความเป็นอยู่ ชีวิตที่ดี โดยสิ่งที่โบโกต้าดำเนินการ ประกอบด้วย เส้นทางการดูแลเด็กปฐมวัยแบบครบวงจร โครงการสิ่งแวดล้อมโรงเรียนเพื่อชีวิตและการอยู่ร่วมกัน มีศูนย์นวัตกรรมครูแห่งแรก มีโปรแกรมร่วมกับธนาคารโลก Emotions for Life “อารมณ์เพื่อชีวิต” การออกแบบโปรแกรมการให้อาหารในโรงเรียนให้เป็นโปรแกรมเพื่อสุขภาพ การปฏิวัติโรงเรียน โดยการสร้างพื้นฐานให้ดีขึ้น มีการจัดการเรียนเสริม เช่น กีฬาและศิลปะ เป็นต้น

“โปรแกรมเหล่านี้มาจากการตัดสินใจร่วมกันในท้องถิ่น และสามารถทำเพื่อส่งต่อเป็นนโยบายในระดับท้องถิ่นได้ โครงการที่เชื่อว่าจะมีประโยชน์ต่อท้องถิ่นไทย คือ การทำเรื่องการศึกษาตั้งแต่ระดับปฐมวัยที่มีคุณภาพ และสร้างการออกแบบในการประเมินการศึกษา มีการอบรมครู และการสร้างโมเดลที่ทำให้เกิดผลเชิงบวกในการศึกษาได้ โดยรัฐบาลระดับชาติจำเป็นต้องดำเนินงานในระดับท้องถิ่น” นางมาเรีย กล่าว

นายมนตรี ชนะชัยวิบูลวัฒน์ ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง กล่าวว่า
จังหวัดระยอง เป็นฐานเศรษฐกิจใหม่ของประเทศ เป็นแหล่งงาน ดังนั้นการเตรียมคนเป็นหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) มีความยินดีที่อย่างยิ่งที่ กสศ. และธนาคารโลกมาสนับสนุน และยังสามารถนำความรู้จากต่างประเทศมาให้ปรับใช้สำหรับการพัฒนาลูกหลานที่จะนำไปสู่การทำงานในพื้นที่ในอนาคต สำหรับการพัฒนาคนของ จังหวัดระยอง ทางด้านการศึกษา ย้อนกลับไปเมื่อ 16 ปีก่อน ได้เปลี่ยนที่ดินราชทัณฑ์เดิมมาเป็นโรงเรียน ที่ให้โอกาสนักเรียนที่หลุดจากโรงเรียนดังของจังหวัด และพ่อแม่ผู้ปกครองที่ฐานะยากจน โดยสามาถผ่อนส่งค่าเล่าเรียนได้ มีกองทุน มีมูลนิธิสนับสนุนนักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจน ทำให้สามารถส่งเด็กเรียนจบสาขาวิชาชีพต่างๆ ได้จำนวนมาก ซึ่งเป็นโรงเรียนที่สร้างคนคุณภาพ รองรับสายงานในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)

“ปัจจุบันพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เป็นแหล่งของนักลงทุน ทางจังหวัดได้ทุ่มงบประมาณ 713 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมการศึกษา โดยสร้างสถานศึกษา 5 แห่งเป็นโรงเรียนนวัตกรรมทางการศึกษา ที่ดึงเครือข่ายเอกชน ภาคประชาชนมาสนับสนุน โดยมียุทธศาสตร์ คือ การสร้างการศึกษา ที่มีการเรียนในเรื่องการเป็นพลเมืองดี ทักษะภาษาไทย อังกฤษ จีน และภาษาคอมพิวเตอร์ รวมทั้งการสนับสนุนทักษะด้านกีฬา ดนตรี พร้อมเปิดพื้นที่การแสดงออก รวมไปถึงการสร้างงาน สร้างอาชีพด้วย หัวใจสำคัญคือปัจจัยความสำเร็จ คือการมีพันธมิตร ภาคเอกชนที่มีความพร้อมมาช่วยในการสนับสนุน และขับเคลื่อนทำงานเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ทักษะทุนชีวิต คือความยั่งยืน อยากสร้างตรงนี้ขึ้นมาให้ได้ ประเทศต้องการนักเรียนอาชีวะ มากขึ้น 10 เท่า การศึกษาที่นำอารมณ์ ของนักศึกษาเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นหัวใจที่ทำให้เราพัฒนาทักษะ ด้วยการศึกษา หากทุกฝ่ายร่วมกัน เราจะสร้างความยั่งยืนได้” นายมนตรี กล่าว


ด้าน นายโชคดี สกุลกวีพร ผู้อำนวยการกองการศึกษาเทศบาลเมืองพะเยา กล่าวว่า จังหวัดพะเยา เป็นท้องถิ่นเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้ชิดประชาชนมาก และทักษะทุนชีวิตก็เป็นนโยบายหลักของ จังหวัดพะเยา โดยมองว่าการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญเพราะเป็นการเตรียมความพร้อม ซึ่งทางจังหวัดมีนโยบายจัดการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน ทั้งในและนอกระบบโรงเรียน และจากผลสำรวจที่น่าเป็นห่วง คือ ทักษะการอ่านออกเขียนได้ของภาคเหนือที่ต่ำกว่าเกณฑ์ ทำให้เกิดการเน้นการพัฒนาตั้งแต่เด็กปฐมวัย เน้นทักษะการฟังให้เด็กเล็ก เมื่อเขาฟังจะเกิดเป็นจินตนาการ และนำไปสู่เรื่องการเขียน และเมื่อเด็กมีความพร้อมเราจะส่งเข้าสู่ระบบการศึกษา การอ่านได้อย่างเดียวไม่พอ แต่ต้องสอนให้สามารถสะกดคำและอ่านเข้าใจความหมายด้วย เมื่อเรียนในระดับสูงขึ้น ก็จะเพิ่มทักษะการวิเคราะห์ด้วย เพราะภาษาไทยเป็นพื้นฐานของทุกศาสตร์ ขณะที่ทักษะด้านดิจิทัล ได้ส่งเสริมให้ สอนเด็กเรียน Coding มีหุ่นยนต์ในการฝึกเขียนคำสั่งสำหรับเด็กเพื่อให้เขามีพื้นฐาน

“นอกจากนี้ โรงเรียนเทศบาลเมืองพะเยาที่ให้โอกาสผู้คนทุกชั้น ไม่มีการคัดเลือก ใครพาเข้ามาเรียนเรารับหมด เพราะเรามีโอกาสในการพัฒนาลูกหลาน ที่เสริมการเรียนทักษะดิจิทัล ทักษะภาษาอังกฤษ และจีน รวมทั้งการศึกษานอกระบบ ที่มีมหาวิทยาลัยพะเยา ร่วมจัดทำหลักสูตรกับ สกร. มีหลักสูตรระยะสั้นตามความสนใจของประชาชน เช่น การประดิษฐ์สิ่งของ การเป็นยูทูบเบอร์ ซึ่งจะมีไปประกาศรับรองที่เทียบเกรดกับ มหาวิทยาลัยพะเยา ได้” นายโชคดี กล่าว

นายเศรษฐ์ อัลยุฟรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า สิ่งที่ทำมีความแตกต่างด้วยบริบทของพื้นที่ โดยพยายามใช้ต้นทุนที่มีในพื้นที่ 3 จังหวัด โดยใช้หลักคิดเรียบเรียงคำว่า “ทักษะทุนชีวิต” เป็น “ชีวิต ทุน ทักษะ” กล่าวคือ ต้องให้ความสำคัญกับการมีชีวิตก่อน และเมื่อมีทุนมาส่งเสริมก็จะช่วยให้เกิดเป็นทักษะ ซึ่งการศึกษาในพื้นที่ภาคใต้จะแตกต่างจากพื้นที่อื่น คือมีทั้ง “สามัญ” และ “ศาสนา” ในทุกระดับชั้นการศึกษา จะมีหลักสูตรทางศาสนาเข้ามาในชั้นเรียน เรียกว่าเป็น “การสร้างชีวิต” โดยในวงจรการศึกษา คือ เริ่มตั้งแต่การ “อุ้มท้อง” จำเป็นต้องให้ความรู้ในการดูแลตั้งแต่ในท้อง เพื่อให้เด็กที่เกิดมามีความแข็งแรงและพร้อม เติบโตขึ้นมาเรียนรู้วิชาชีวิต


“เราสนับสนุนจัดระบบการศึกษาที่มี ศาสนา และ สามัญ เราสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กของเรา เมื่อเขาประสบความสำเร็จ จะทำให้เกิดความยั่งยืน ให้เด็กค้นหาตัวตนได้ก่อน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเรียนปริญญาตรีมาแล้ว มากองอยู่ไม่มีงานทำ เพราะเราสร้างการศึกษาที่ไม่ตอบโจทย์ รวมทั้งการปรับทัศนคติพ่อแม่ ที่มุ่งว่าอยากให้ลูกเป็นข้าราชการ โดยไม่ถามลูก ไม่ดูศักยภาพลูก เราควรส่งเสริมให้เด็กกลับมาทำงานที่บ้านเกิดและการส่งไม้ต่อทางการศึกษานั้นสำคัญมาก ต้องมีการบูรณาการในการรับไม้-ต่อส่งไม้ และส่งเสริมการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างเด็กดี เด็กเก่ง และสำเร็จในอาชีพ อย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม” นายเศรษฐ์


นางสาวธันว์ธิดา วงศ์ประสงค์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนานวัตกรรมเพื่อสร้างโอกาสการเรียนรู้ กสศ. กล่าวถึงการแลกเปลี่ยนครั้งนี้สะท้อนประเด็นการพัฒนาทักษะทุนชีวิตในระดับจังหวัด ว่าปัจจุบันกว่า 40 ประเทศทั่วโลกทำการศึกษาวิจัยในด้านนี้ ซึ่งของไทยนับว่าเป็นครั้งแรกที่มีการสำรวจ โดย 3 ทักษะที่สำคัญ คือ ทักษะรู้หนังสือทักษะดิจิทัล และทักษะทางด้านอารมณ์ โดยเฉพาะการรู้หนังสือ เป็นปัญหาที่ลงลึกไปถึงผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน อย่างการอ่านฉลากยา นับว่าเป็นทักษะพื้นฐานที่สำคัญต่อการมีอาชีพและใช้ชีวิตประจำวัน ส่วนทักษะดิจิทัล เช่น การซื้อของออนไลน์ การรับสวัสดิการของรัฐ พบว่าในแรงงานกลุ่มเปราะบางไม่สามารถทำเรื่องนี้ได้ ขณะที่ทักษะด้านอารมณ์และสังคม ก็ได้รับเสียงสะท้อนมาว่า แรงงานขาดทักษะเรื่องการคิดวิเคราะห์ จัดการอารมณ์ ความคิดสร้างสรรค์ การมีส่วนร่วม โดยพบว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของแรงงานไทย มีทักษะที่ไม่ถึงเกณฑ์ใน 3 ด้านนี้ ที่เรียกว่าทักษะทุนชีวิต มีผลให้เกิดความเสียหายทางมูลค่าเศรษฐกิจระดับประเทศถึง 1 ใน 5 ของจีดีพี ส่วนในระดับบุคคล พบว่า คนที่ผ่านเกณฑ์กับคนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ มีรายได้ต่างกันเฉลี่ยสูงถึง 6,700 บาทต่อเดือน อีกกลุ่มคือ คนที่อยู่นอกระบบการศึกษา และแรงงานนอกระบบ กว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของประชาการ ทำให้ประกอบอาชีพที่ดีขึ้น และเพื่อยกระดับรายได้


“การทำงานที่สำคัญ คือ การมองลงไปที่ระดับพื้นที่หรือท้องถิ่น ที่จะทำงานไปด้วยกัน โดยสิ่งที่สามารถทำได้คือ การวิเคราะห์รายงานของตนเอง สามารถบอกได้ว่าแรงงานกลุ่มไหนทักษะอ่อน กลุ่มไหนเปราะบาง เพื่อให้การพัฒนาทักษะทำได้แบบเจาะกลุ่ม ไม่ใช่การหว่านแห ทั้ง 3 จังหวัด มีเป้าหมายในการทำงานนี้ เช่น จังหวัดระยอง แสดงวิสัยทัศน์ให้เราได้เห็นความพร้อมของแรงงาน มีขีดความสามารถ เป็นตัวชี้วัดที่ทำให้เห็นว่าพื้นที่มีความพร้อม จังหวัดพะเยา ก็มีศักยภาพท่ามกลางบริบทที่แตกต่าง แต่มีวิสัยทัศน์ในการสร้างพื้นที่การเรียนรู้ และจังหวัดปัตตานี เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้คนทุกกลุ่ม ตอนนี้เรามีข้อมูลสถานการณ์ให้แล้ว และยังมีกองทุนของจังหวัดในการดำเนินการ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นตัวอย่างแนวทางที่เราจะเดินหน้าต่อไปด้วยกัน” นางสาวธันว์ธิดา กล่าว

Address


Alerts

Be the first to know and let us send you an email when E5 news posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Videos

Shortcuts

  • Address
  • Telephone
  • Alerts
  • Videos
  • Claim ownership or report listing
  • Want your business to be the top-listed Media Company?

Share