01/08/2023
“ทำไมไม่ไปหางานอื่นที่ได้เงินเดือนดีกว่านี้หล่ะ? ทำงานช่วยเหลือสังคมมันก็ดี แต่จะเลี้ยงตัวเองไหวเหรอ?”
นี่เป็นเสียงจากคนใกล้ตัวที่รักและเป็นห่วงฉัน เมื่อฉันตัดสินใจที่จะทำงานรับใช้พระเจ้าแทนที่จะทำงานบริษัทเอกชนเหมือนเดิม สำหรับคนรอบข้าง การตัดสินใจยุติหน้าที่การงานที่กำลังไปได้สวยเพื่อมารับใช้พระเจ้าในวัย 30 ดูจะเป็นความคิดตื้นเขินในมุมมองของคนสูงวัยกว่า
ฉันได้แต่ยืนยันว่าฉันคงหันหลังกลับไม่ได้ เพราะในใจร่ำร้องว่าการทำงานรับใช้ในองค์กรคริสเตียนนั้นคือจุดหมายของชีวิตขณะนี้ แม้ลึกๆ ในใจฉันจะมีความกลัวอยู่เพราะรายได้หายไปมากกว่า 70% แต่ฉันก็เลือกที่จะเชื่อในพระสัญญาว่าพระองค์จะทรงดูแลฉัน
เป็นเวลาหลายปีผ่านไปตั้งแต่ลาออกและมารับใช้พระเจ้า ชีวิตของฉันไม่ได้อู้ฟู่ใช้ของมีราคาเหมือนก่อน แต่ขอบคุณพระเจ้าที่ฉันก็ไม่เคยขาดสิ่งจำเป็นใดๆ จวบจนวันที่ฉันมีสามีมีลูก และรถคันเก่าๆ ของฉันใช้งานได้ไม่เหมือนเดิม ซ่อมหมดเงินไปเยอะก็ยังอาการไม่ดีขึ้น ฉันไม่รู้จะทำเช่นไร เมื่อคิดถึงสถานะทางการเงินของครอบครัวก็ยิ่งคิดไม่ออกว่าจะมีเงินเพียงพอที่จะซื้อรถคันใหม่หรือ? ฉันและสามีอธิษฐานต่อพระเจ้าขอพระองค์ช่วยเรื่องรถเพราะเราก็คิดไม่ออก
เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากอธิษฐาน ญาติของฉันโทรมาและบอกว่าอยากจะมอบรถของเขาให้ฉัน! พระเจ้ากระทำหลายสิ่งเหลือเกินที่ “มากยิ่งกว่าทูลขอหรือคิดได้” พระองค์สัตย์ซื่อต่อพระสัญญาที่ว่าพระองค์จะทรงดูแลฉัน
หลายครั้งหลายคราที่พระเจ้ายืนยันกับเราว่าพระองค์จะทรงดูแลเรา “วันเวลาของข้าพระองค์อยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์” (สดุดี 31:15ก) วันนี้แม้คุณอาจอยู่ในสถานการณ์ที่ดูร้ายแรง บ้านเมืองอาจไม่ได้เป็นไปตามหวัง แต่ “ชีวิตของเราอยู่ในพระหัตถ์พระเจ้า” และพระองค์ทรงกระทำ “มากยิ่งกว่า” ที่เราคิดได้
หากวันนี้คุณยังไม่รู้จักพระเจ้า inbox มาทางเพจเพื่อพูดคุยเพิ่มเติม หรือส่งคำอธิษฐานมาให้เราได้นะคะ ทีมงานหวังว่าท่านจะได้พบพระเจ้าผู้ทำได้มากกว่าที่คุณขอหรือคุณคิดค่ะ พระเจ้าอวยพรค่ะ