09/04/2023
ด่วน!!!!
คืบหน้าคดีใช้ปืน M16 ยิงถล่มอดีตผู้ใหญ่บ้านดับพร้อมเมียและญาติ รวมทั้งคนร้ายถูกยิงเสียชีวิตรวมเป็น 4 ล่าสุดศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้อนุมัติหมายจับ 2 ผู้ก่อเหตุและยังรอขอหมายเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง
จากกรณี เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 8 เมษายน พ.ต.ต.จเร ขำแก้ว สว.สอบสวน สภ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุ มีผู้ถูกยิงเสียชีวิต จำนวน 4 ราย เหตุเกิดบ้านในสวนปาล์มน้ำมัน พื้นที่ หมู่ 8 ต.กะเปา อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี
โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้แบบสองชั้นในสวนปาล์ม เลขที่ 91 หมู่ ที่ 8 ต.กะเปา บริเวณใกล้ศาลาหน้าบ้าน ข้างโอ่งน้ำ พบผู้แสียชีวิต 1 รายเป็นหญิง ทราบชื่อคือ นางนิลทิพย์ ปาลคะเชนทร์ หรือ แตง อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/1 หมู่ที่ 8 ต.กะเปา อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี ภรรยานายธรรมรงค์ นิลนิยมเจ้าของบ้านเกิดเหตุถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามที่บริเวณหน้าอก ศพที่ 2 ชื่อนายพรศักดิ์ เพชรชู หรือผู้ใหญ่กรอก อายุ 56 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 13 ต.ท่าขนอน มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธสงครามที่ขาและลำตัว นอนเสียชีวิตอยู่ใต้ราวตากผ้าบริเวณบ้านชั้นล่าง ศพที่ 3 ชื่อนายวัฒน์ ไม่ทราบนามสกุลถูกกระสุนไม่ทราบขนาดที่บริเวณลำตัว เสียชีวิตอยู่ใกล้กับบันใดบ้าน ศพที่ 3 ชื่อ นายธรรมรงค์ นิลนิยม หรือผู้ใหญ่รงค์ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/1 หมู่ที่ 1 ต.บางงอน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานีอดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 ต.บางงอน สภาพศพนุ่งกางเกงขาสั้นสภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธสงครามพรุนไปทั้งตัวนอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน8และพนักงานสอบสวนชุดสืบสวนจังหวัดได้ใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมงตรวจสอบและจัดเก็บพยานหลักฐานต่างๆ เช่น ปลอกกระสุนปืน อาวุธปืนของอดีตผู้ใหญ่บ้านทั้ง 2 รายและเก็บภาพกล้องวงจรปิดรอบตัวบ้าน 4-5 ตัวเพื่อตรวจภาพมัดตัวคนร้าย
หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งรอบตัวบ้านที่เกิดเหตุตลอดทั้งคืนจนพบภาพที่หลักฐานสำคัญว่า ด.ต.อรรถพร วิเชียร อายุ 46 ปี ชุดปราบปรามยาเสพติด สังกัด สภ.คีรีรัฐนิคม แต่ถูกย้ายไปช่วยราชการในตำแหน่ง ผบ.หมู่ (ป) สภ.กาญจนดิษฐ์ เป็นผู้ก่อเหตุพร้อมพวกอีก 3 คนยิง บิดา-มารดา-ญาติ ของภรรยา เสียชีวิต โดยหลังก่อเหตุโดยใช้ รถยนต์ HONDA City สีบรอนด์-เทา ทะเบียน กร 3948 สุราษฎร์ธานี หนีไปกับ น.ส.พนิดา หรือตั๊ก นิลนิยม บุตรสาวผู้ใหญ่รงค์ผู้ตาย นอกนั้นยังมีนายมานพ ว่างงาน อายุ 57 ปี ผู้ร่วมก่อเหตุหลบหนีไปด้วยกัน ส่วนนายธรรมรัตน์ หรือ วัฒน์ วิเชียร อายุ 48 ปีคนร้ายที่ถูกยิงตายในที่เกิดเหตุนั้นเป็นพี่ชายของ ด.ต.อรรถพร ด้าน น.ส.พนิดา หรือตั๊ก นิลนิยม บุตรสาวนายธรรมรงค์ นิลนิยม หรือผู้ใหญ่รงค์นั้น เป็นบุตรที่เกิดกับภรรยาคนแรก ส่วนนางนิลทิพย์ ปาลคะเชนทร์ หรือ แตง ที่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุเป็นภรรยาคนปัจจุบัน ส่วนประเด็นในการก่อเหตุในเบื้องต้นน่าจะมาจากปัญหาขัดแย้งภายในครอบครัวเนื่องจากนายธรรมรงค์มีที่ดินทั้งสวนยางสวนปาล์มน้ำมันหลาย 100 ไร่
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้(9 เม.ย.66) ที่ สภ.คีรีรัฐนิคม พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.ศรัญญู ชํานาญราช ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ประชุมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเพื่อเร่งคลี่คลายคดีใช้อาวุธสงครามยิงถล่มอดีตผู้ใหญ่บ้านดับพร้อมเมียและญาติ 3 และมีคนร้ายถูกอดีตผู้ใหญ่ยิงสวนไปดับ 1 รวมผู้เสียชีวิตจำนวน 4 ราย แล้ล่าสุดตำรวจเร่งไล่ล่า ด.ต.อรรถพร วิเชียร อายุ 46 ปี ผบ.หมู่ (ป) สภ.กาญจนดิษฐ์ ผู้ต้องสงสัยเป็นผู้ลงมือก่อเหตุยิง โดยหลังก่อเหตุโดยใช้ รถยนต์ HONDA City สีบรอนด์-เทา ทะเบียน กร 3948 สุราษฎร์ธานี หนีไปกับ น.ส.พนิดา หรือตั๊ก นิลนิยม บุตรสาวนายธรรมรงค์ นิลนิยม หรือผู้ใหญ่รงค์ ผู้ตาย
หลังใช้เวลาประชุมประมาณ 2 ชั่วโมงเศษได้เปิดเผยว่า พล.ต.ท.สุรพงศ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวว่าขณะที่อดีตผู้ใหญ่เจ้าของบ้านกำลังปรึกษาหารือกันอยู่ในบ้าน โดยที่นางนิลทิพย์ อยู่ที่ศาลาหน้าบ้านก็มี ด.ต.อรรถพร เป็นตำรวจอยู่ สภ.คีรีรัฐนิคม เดินทางไปที่บ้านเพื่อที่จะเจรจา โดยที่ ด.ต.อรรถพร หย่าร้างกับภรรยาเมื่อปลายปี 2565 ส่วนน.ส.พนิดา หรือตั๊ก นิลนิยม ลูกสาวคนเดียวของผู้ใหญ่รงค์ก็หย่าร้างกับสามีมาเมื่อกลางปี 65 ทั้งสองก็มาอยู่กินกันในฐานะสามีภรรยาแล้วก็จดทะเบียนสมรสกันแต่ว่าทางนายธรรมรงค์หรือผู้ใหญ่รงค์พ่อตาค่อนข้างเกลียด เนื่องจาก ด.ต.อรรถพร เป็นตำรวจที่มีฐานะที่ด้อยกว่าก็พยายามบอกให้ลูกสาวหย่าร้างกับลูกเขย ตรงนี้น่าจะเป็นประเด็นหลัก ทั้งนี้ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้กำชับให้เร่งรัดคดีเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ใช้อาวุธปืนหลายขนาด
โดยตอนนี้ยังจับกุมผู้ก่อเหตุไม่ได้ ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุมีทั้งอาวุธปืนเล็กยาว เป็นปืนลูกซอง อาวุธปืนขนาด 5.56 มิลลิเมตร หรือ เอ็ม.16 ขนาด 9 มิลลิเมตร ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานกำลังเร่งตรวจอยู่ โดยตนเองจะลงไปที่เกิดเหตุ ส่วนประเด็นอื่นๆก็ไม่ตัดทิ้ง และไม่อยากสันนิษฐานใดๆดูตามพยานหลักฐาน โดยคนร้ายยังบอกไม่ได้ว่ามีใครบ้าง แต่มีมากกว่า 3 คน ส่วนภาพวงจรปิดเป็นหลักฐานทางคดี การนำไปเผยแพร่ยังไม่ถูกต้องนัก และภาพยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบอยู่ ส่วนสื่อบางสำนักที่นำไปเผยแพร่ เขารับผิดชอบเอง ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุจะต้องนำไปตรวจสอบกับต้นสังกัดว่ามีการเบิกจ่ายออกมาจริงหรือไม่ ส่วนซิมโทรศัพท์มือถือของผู้ก่อเหตุสามารถจับสัญญาณได้หรือไม่นั้นขออนุญาตไม่ตอบ ส่วนชนวนการก่อเหตุที่ชัดคือ เรื่องที่ผู้ใหญ่รงค์ต้องการให้ลูกสาวหย่าร้างกับ ด.ต.อรรถพรผู้ก่อเหตุ ส่วนสาเหตุอื่นยังมองไม่เห็น
และล่าสุดเมื่อเวลา 17.00 น. ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้อนุมัติหมายจับกุม ด.ต.อรรพร วิเชียร อายุ 46 ปี , นายมานพ ว่างงาน อายุ 57 ปี ต่อใน ความผิดฐาน ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ,มีอาวุธปินและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร ออกหมายจับคนร้าย จำนวน 2 คน และยังรอการพิสูจน์บุคคลที่ทำหน้าที่ขับรถที่ใช้เป็นยานพาหนะที่ใช้ก่อเหตุ เพื่อยื่นคำร้องขอออกหมายจับเพิ่มเติมต่อไป ส่วนนายธรรมรัตน์ หรือวัฒน์ วิเชียร อายุ 48 ปี หนึ่งในผู้ก่อเหตุเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
ส่วนการไล่ล่าจับกุมทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ส่งชุดปฎิบัติการพิเศษร่วมกับชุดปฎิบัติการพิเศษของสืบสวนภูธรภาค8 กว่า 100 นายเข้าทำการปิดล้อมกดดันกลุ่มผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ในพื้นที่ตามรอยต่ออำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ซึ่งคาดว่าน่าจะได้ตัวในค่ำคืนนี้
ข่าวเช้า
