sabai sabai By p'Ning Nongs

official facebook โสภณ เกตุใหม่

ครีเอเตอร์ดิจิทัล

24/01/2024

บรรยากาศยามเช้าและหนาว.. sabai sabai By p'Ning Nongs ดูแลสุขภาพด้วยนะครับเพื่อนๆ

รักและห่วงใยเพื่อนห่างไกล

13/01/2024

การสาธิตปลูกทุเรียนตั้งใจเอาใจใส่เป็นอย่างมา
ตรวจสอบการดูแลอาการของทางใบ

12/01/2024

ศุกร์ 12/1/2567เวลา 10:21น.กิจวัตรยามสายที่ร้อน sabai By p'Ning Nongs รดน้ำต้นเข็มหน้าบ้าน

12/01/2024

ศุกร์ 12/1/2567 เวลา 07:47น.เปิดน้ำปกติจากสองวัน
สังเกดอาการใบทุเรียนรัดยอดงามตา #เหนื่อยก็ต้องทำหลายขั้นต้อน

เหนื่อยกับทุกอย่างเพื่อทูเรียน ดกๆเด้อ
sabai sabai By p'Ning Nongs ครับเพื่อนๆ

12/01/2024

ขอบคุณเครื่องมือนักสำรวจ
สำเร็จระดับที่ 1ผ่านแล้ว ด้วยความสำเร็จอีกขั้นตอน
เข้าสู้ระดับที่ 2 คลิป Reels ต่อไป

11/01/2024

#ผลงานยามเย็น sabai sabai By p'Ning Nongs
ฟฤ 11/1/2567เวลา17:35 น.ผู้ช่วยทำหน้าที่รดต้นเข็ม

พร้อมทั้งตกแต่งก้านกล้วยที่แห้งออกเพื่อกันเพรี้ย และไก่เเจ ที่จะเกิดโรคมาจากต้นกล้วย

ตกแต่งก้านกล้วยแห่งออกเพื่อจะได้ออกหน่วย #เดินดูต้นทุเรียนดูอาการจากทางใบ

11/01/2024

ระวังไรแดงมันสำปะหลังระบาด

ในสภาวะที่อากาศร้อนและแห้งแล้ง ฝนทิ้งช่วงนานๆ เป็นช่วงที่เหมาะสมต่อการระบาดของไรแดงมันสำปะหลัง จึงขอแจ้งเตือนให้เกษตรกรที่ปลูกมันสำปะหลังหมั่นสำรวจแปลงปลูก เพื่อป้องกันกำจัดก่อนที่มันสำปะหลังจะแสดงอาการรุนแรงส่งผลกระทบต่อการให้ผลผลิต โดยตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยงบริเวณใต้ใบและสร้างเส้นใยอยู่เหนือผิวใบบริเวณที่ไรดูดทำลาย ซึ่งผลจากการดูดกินน้ำเลี้ยงของไรตรงบริเวณใต้ใบทำให้หน้าใบเกิดจุดประด่างขาว โดยเฉพาะตามแนวเส้นใบ ต่อมาขยายแผ่กว้างขึ้น ทำให้หน้าใบทั้งหมดมีสีขาวซีด ใบกระด้าง กรอบ หากระบาดรุนแรงใบจะร่วงหลุดจากต้น ซึ่งมีผลต่อการเจริญเติบโตและการสร้างหัวของมันสำปะหลัง
ปัจจุบันพบการระบาดในพื้นที 5 จังหวัด (กาฬสินธุ์ นครราชสีมา สุรินทร์ อุบลราชธานี และชลบุรี) จำนวน 31 ไร่ การระบาดเพิ่มขึ้น 3 ไร่ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค. 66)

วิธีป้องกันและกำจัดไรแดงมันสำปะหลัง แนะนำให้เกษตรกรหมั่นตรวจแปลงในช่วงสภาพอากาศแห้งแล้งถ้าพบการระบาดไม่รุนแรงให้เก็บใบมันสำปะหลังที่พบไรแดงมาทำลาย กรณีที่มีการระบาดรุนแรงให้เลือกใช้สารป้องกันกำจัดไรชนิดใดชนิดหนึ่งและใช้ตามอัตราที่แนะนำ ได้แก่ เฮกซีไทอะซอกซ์ 1.8% EC อัตรา 100 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร ทีบูเฟนไพแรด 36% EC อัตรา 5-10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร ไพริดาเบน 20% WP อัตรา 10-15 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ไซฟลูมิโทเฟน 20% EC อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร สไปโรมีซิเฟน 24% SC อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร เฟนบูทาติน ออกไซด์ 55% SC อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร โดยพ่นเมื่อพบไรแดงทำลายบริเวณใบส่วนยอดและใบส่วนล่างเริ่มแสดงอาการเหี่ยวโดยเฉพาะพืชยังเล็ก พ่นให้ทั่วทั้งต้น ใต้ใบ และบนใบ จำนวน 1-2 ครั้ง ห่างกัน 10 วัน อย่างไรก็ตามการใช้สารฆ่าไร ควรพ่นให้ทั่วบริเวณใต้ใบและหลังใบ และพ่นสารเฉพาะบริเวณที่พบการทำลายของไรเท่านั้น รวมทั้งไม่ควรพ่นสารชนิดเดียวกันติดต่อกันเกิน 3 ครั้ง ควรสลับชนิดสารเพื่อป้องกันการต้านทานต่อสารของแมลง