Head News Suratthani ข่าวเด่น ข่าวเด็ด เศรษฐกิจ สังคม สุราษฎร์ธานี

WWF ประเทศไทย ขับเคลื่อน Plastic Smart Cities - TVA ร่วมกับ 4 เทศบาลเมืองนำร่อง ลดขยะพลาสติกได้มากกว่า 2,000 ตันด้วยกลยุ...
10/03/2025

WWF ประเทศไทย ขับเคลื่อน Plastic Smart Cities - TVA ร่วมกับ 4 เทศบาลเมืองนำร่อง ลดขยะพลาสติกได้มากกว่า 2,000 ตัน
ด้วยกลยุทธ์ Reduce & Recover ลดจากต้นทางและเพิ่มอัตราเก็บกลับมุ่งสู่เป้าหมาย ‘ไม่มีพลาสติกหลงเหลือในธรรมชาติ’

องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล สำนักงานประเทศไทย (WWF ประเทศไทย) จัดงาน “ถอดบทเรียน Plastic Smart Cities ก้าวสู่อนาคตไร้ขยะพลาสติก” เพื่อสรุปผลการดำเนินโครงการตลอดระยะเวลา 4 ปี และแลกเปลี่ยนแนวทางการพัฒนาในระยะต่อไป

ภายในงานได้รับเกียรติจาก นายประเสริฐ บุญประสพ นายกเทศมนตรีนครสุราษฎร์ธานี, นายวินัย ปิ่นทอง รองนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ รวมไปถึงผู้แทนจากชุมชน สถานศึกษา สถานประกอบการและองค์กรเครือข่ายในระดับท้องถิ่น ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการดำเนินโครงการ ร่วมพิธีมอบโล่ และใบประกาศเกียรติคุณแก่พันธมิตรที่ให้การสนับสนุนโครงการอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการเสวนาแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวทางปฏิบัติ ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการลดขยะพลาสติกต่อไป

โครงการ Plastic Smart Cities - TVA ภายใต้การดำเนินงานของ WWF ประเทศไทย
มีเป้าหมายหลักในการลดการรั่วไหลของขยะพลาสติกสู่ระบบนิเวศธรรมชาติ โดยดำเนินงานในเทศบาลนคร 4 แห่ง ได้แก่ สุราษฎร์ธานี, เกาะสมุย, สงขลา และหาดใหญ่ พร้อมร่วมกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่ เพื่อส่งเสริมแนวทางการจัดการขยะพลาสติกอย่างยั่งยืน ภายในระยะเวลา 4 ปี โครงการ Plastic Smart Cities - TVA ลดขยะพลาสติกจากต้นทางได้ กว่า 50 ตัน และนำพลาสติกกลับเข้าสู่ระบบรีไซเคิล มากกว่า 2,000 ตัน (ข้อมูล ณ ธันวาคม 2567)

“ความสำเร็จของโครงการนี้เกิดขึ้นได้ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วน ที่ช่วยกันสร้างระบบการจัดการพลาสติกที่ครบวงจร เสริมสร้างนโยบายที่แข็งแกร่งขึ้นในการขับเคลื่อนการลดขยะพลาสติกนำไปสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่ง WWF มั่นใจว่าพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้จะยังคงดำเนินต่อไป” ดร. ไมเคิล รอย ผู้อำนวยการฝ่ายอนุรักษ์ WWF ประเทศไทย กล่าว

เคล็ดลับสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน
“โครงการของเรามุ่งเน้นการวางรากฐานระยะยาว สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบที่สามารถดำเนินต่อไปได้อย่างยั่งยืน รวมถึงพัฒนาบุคลากรให้สามารถถ่ายทอดความรู้และก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำ เพื่อสานต่อโครงการและกิจกรรมในอนาคต ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้จากการที่ผู้ประสานงานในพื้นที่ทำงานกับภาคีที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ทำให้การดำเนินโครงการสอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ได้อย่างแท้จริง แม้ว่าโครงการจะจบลง หลายกิจกรรมของเรายังคงดำเนินต่อไปได้โดยภาคีเครือข่ายที่เกิดขึ้นจากโครงการ” ดร. บุญชนิต ว่องประพิณกุล ผู้จัดการโครงการ Plastic Smart Cities - TVA WWF ประเทศไทย กล่าว

โครงการ Plastic Smart Cities - TVA ขับเคลื่อนการจัดการขยะพลาสติกอย่างครบวงจรด้วยแนวทาง “เปลี่ยนแปลงเชิงระบบ” ผ่าน 2 กลยุทธ์หลัก ’Reduce & Recover’ ที่ทำให้การลดขยะเป็นเรื่องง่ายและยั่งยืน

1. Reduce:ลดพลาสติกจากต้นทาง
ปลูกฝังพฤติกรรมลดใช้พลาสติกและคัดแยกขยะในสถานศึกษาผ่านกิจกรรม "Plastic Free School" พร้อมทั้งร่วมมือกับร้านอาหาร คาเฟ่ และโรงแรมในพื้นที่ Plastic Smart Cities - TVA เพื่อลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว นอกจากนี้ ยังทำงานร่วมกับภาคธุรกิจ เช่น LINEMAN Wongnai และ foodpanda ผ่านกิจกรรม "Plastic ACTion" (PACT) รวมถึงการจัดแคมเปญสร้างความตระหนักรู้ เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมที่ยั่งยืน

2. Recover: นำขยะพลาสติกกลับเข้าสู่ระบบรีไซเคิล
โครงการสนับสนุนการคัดแยกขยะครัวเรือนและการจัดตั้งธนาคารขยะชุมชน ควบคู่ไปกับการเพิ่มศักยภาพของศูนย์คัดแยกขยะ เพื่อให้เกิดการซื้อขายขยะครบวงจร อีกทั้งยังร่วมมือกับภาคีในพื้นที่ เช่น กลุ่มบริษัทดัชมิลล์ และกลุ่มเซ็นทรัล จัดกิจกรรมรับคืนบรรจุภัณฑ์พลาสติกผ่าน "Take Back Program" เพื่อนำกลับเข้าสู่ระบบรีไซเคิล

ขยายผลสู่ระดับประเทศและนานาชาติ

“โครงการ Plastic Smart Cities - TVA ของ WWF ทำงานภายใต้วิสัยทัศน์ No Plastic in Nature หรือ ‘ไม่มีพลาสติกหลงเหลือในธรรมชาติ’ โดยมีเป้าหมายระดับโลกในการลดขยะพลาสติกลงร้อยละ 30 ภายในปี พ.ศ. 2573 การดำเนินงานในระดับเมืองเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยสร้างต้นแบบให้กับพื้นที่อื่น ๆ และสามารถขยายผลสู่ระดับประเทศและนานาชาติ โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามระดับสากล โดย WWF ทั่วโลกกำลังผลักดันให้เกิด ‘Global Plastic Treaty’ หรือสนธิสัญญาพลาสติกโลก เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน การแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกไม่สามารถทำได้โดยลำพัง แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ความสำเร็จจาก โครงการ Plastic Smart Cities - TVA ในประเทศไทย เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการจัดการพลาสติกอย่างเป็นระบบสร้างผลลัพธ์ได้ หากมีการบูรณาการการทำงานร่วมกันจากทุกภาคส่วน” ดร. ไมเคิล รอย กล่าวเสริม

18/01/2025

สวัสดีทุกคน! 🌟 คุณสามารถสนับสนุนฉันด้วยการส่งดาวที่จะช่วยให้ฉันสร้างรายได้เพื่อสร้างเนื้อหาที่คุณชื่นชอบต่อไป

คุณสามารถส่งดาวให้ฉันได้ทุกเมื่อที่เห็นไอคอนดาว!

สสว. เดินหน้าจัด กิจกรรม Roadshow "SME Academy On Tour ครั้งที่ 2 ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีเรียนรู้ธุรกิจฟรี กับ academy 36...
14/11/2024

สสว. เดินหน้าจัด กิจกรรม Roadshow "SME Academy On Tour ครั้งที่ 2 ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เรียนรู้ธุรกิจฟรี กับ academy 365 เสริมศักยภาพ SME ให้ธุรกิจเติบโตในยุคดิจิทัล
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ขอเชิญผู้ประกอบการ SME นักธุรกิจ และประชาชนที่สนใจต่อยอดธุรกิจของตัวเอง กับกิจกรรมดี ๆ ที่มาให้ความรู้ถึงที่ กับกิจกรรม Roadshow "SME Academy On Tour" ภายใต้แนวคิด "เสริมศักยภาพ เติมเต็มความรู้ เพิ่มโอกาสเติบโตให้ธุรกิจด้วย SME Academy 365 โดยจัดกิจกรรมครั้งที่ 2 ที่จังหวัดจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในวันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2567 เวลา 08.30 – 16.00 น. ณ ห้องประชุมสมใจหมาย โรงแรมแก้วสมุย

ภายในงานพบกับกิจกรรมสัมมนา 3 Session ได้แก่ Session ที่ 1 “SME Academy on Stage" กับหัวข้อ “LIVE Commerce Trends 2025” โดย ภญ.โสภา พิมพ์สิริพานิชย์ หรือโค้ช โซอี้ จาก โซอี้ Digital Shortcut ผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์การตลาดดิจิทัล และหัวข้อ “ภาษีเบื้องต้นสำหรับผู้ประกอบการ” โดย คุณอภิรดี ชัยกิจอุราใจ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี จากเพจ Taxster ภาษี อย่าไปกลัว Session ที่ 2 "Wisdom of the Success" เสวนาถ่ายทอดภูมิปัญญาแห่งความสำเร็จ โดยนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในพื้นที่ ที่จะมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ โดย คุณกิตติศักดิ์ ศรีไพโรจน์ ผู้บริหารมหาวิทยาลัยตาปี คุณนายชัชวัสส์ โมรา โครงการLakana อ่าวนาง ร้านเรียวกัง และคุณอมลณัฐ โมรา เจ้าของร้านกะปิ ร้านถ่าน และ ร้านเซียนตี๋ชาบู
และSession ที่ 3 "Hands on Workshop" เรียนรู้ด้านการตลาดออนไลน์ วิธีการ Live ขายของออนไลน์บนช่องทาง TikTok อย่างมืออาชีพ โดย อาจารย์ยศ สอนไลฟ์ สุดยอดปรมาจารย์ด้าน TikTok Live

นอกจากนี้ผู้ประกอบการสามารถรับคำปรึกษาทางธุรกิจได้ที่กิจกรรม SME Clinic จากทีมที่ปรึกษา SME Coach และซุ้ม KIOSK ให้ความรู้แนะนำบริการต่าง ๆ ของ สสว. รวมถึงหน่วยงานภาคีเครือข่ายการส่งเสริม SME ที่จะมาร่วมเติมเต็มความรู้และโอกาสทางธุรกิจให้แก่ผู้ร่วมงาน รวมถึงสิทธิประโยชน์มากมายภายในกิจกรรมพร้อมลุ้นรับของรางวัล และผู้ที่สนใจ กิจกรรม Roadshow "SME Academy On Tour ครั้งที่ 1 ที่จังหวัดสงขลา สามารถลงทะเบียนหน้างาน หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่คุณธิรดา เบอร์โทรศัพท์ 090-499-6292 คุณสุทธิตา เบอร์โทรศัพท์ 093 546 6394

ทั้งนี้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จะดำเนินการจัดกิจกรรม Roadshow "SME Academy On Tour ไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ทั้งหมด 12 ครั้ง โดยเริ่มจัดกิจกรรมตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 ถึง วันที่ 23 ธันวาคม 2567 สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารกิจกรรมเพิ่มเติมที่ Facebook เพจ SMEAcademy365, Facebook เพจ Osmepสสว และ เวบไซต์ https://sme.go.th/
////////////////////////////////////////////////

WDC เสริมกำลังตลาดภาคใต้ ทุ่มงบ 20 ล้านบาท ขยายโชว์รูมแห่งที่ 9 จ.สุราษฎร์ธานีลุยสินค้ารักษ์โลก พร้อมเปิดตัว Friends of ...
12/11/2024

WDC เสริมกำลังตลาดภาคใต้ ทุ่มงบ 20 ล้านบาท ขยายโชว์รูมแห่งที่ 9 จ.สุราษฎร์ธานี
ลุยสินค้ารักษ์โลก พร้อมเปิดตัว Friends of Brand ปี 2568

WDC เดินแผนธุรกิจ 3-5 ปี สร้างการเติบโตต่อเนื่อง ผ่าน 3 กลยุทธ์สำคัญ “การพัฒนาสินค้า-ขยายช่องทางจำหน่าย-การสร้างแบรนด์” วางเป้าจบปี 2570 มีสาขา 12-15 แห่ง จากล่าสุดเปิดสาขาใหม่แห่งที่ 9 จ.สุราษฎร์ธานี หลังทุ่มงบกว่า 20 ล้าน สร้างโชว์รูมรูปแบบใหม่ผสานอัตลักษณ์ท้องถิ่น ขณะที่แผนปี 2568 ลุยทำตลาดสินค้ากลุ่มรักษ์โลกติดฉลาก EPD ด้านสิ่งแวดล้อม รายแรกและรายเดียวในไทย ชี้ Quiet Luxury เป็นกลุ่มสินค้ามาแรงแห่งปี พร้อมเตรียมเปิดตัว Friends of Brand สาวคนใหม่รักษ์สิ่งแวดล้อม ช่วยสร้างการรับรู้พร้อมกระตุ้นยอดขายโตสองหลัก

นางสาวศุภมาส ใจน้อย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เวสเทิร์น เดคอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WDC ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัสดุตกแต่งพื้นและผนังระดับพรีเมียม เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2568 ว่า จะยังคงดำเนินธุรกิจตามแผนยุทธศาสตร์ในระยะ 3-5 ปีนับจากปัจจุบัน ซึ่งมุ่งเน้นสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องภายใต้ 3 กลยุทธ์หลัก คือ 1.การพัฒนาสินค้า 2.การขยายช่องทางการจัดจำหน่าย และ 3.การสร้างแบรนด์ โดยให้ความสำคัญกับ 3 DNA สำคัญของบริษัทที่ประกอบด้วย นวัตกรรม (Innovation) ความสวยงามจากการออกแบบ (Design) และความคุ้มค่า (Value) หรือราคาที่เหมาะสม ทั้งในเรื่องของสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคจะได้รับ ซึ่ง WDC ที่ยึดถือและดำเนินมาโดยตลอด

สำหรับกลยุทธ์ด้านการพัฒนาสินค้า บริษัทยังเน้นทำตลาดสินค้ากระเบื้องที่มีเทคโนโลยี MICROTEC Technology เป็นนวัตกรรมที่ทำให้กระเบื้องมีคุณสมบัติกันลื่น แต่มีผิวที่นุ่มเดินแล้วไม่บาดเท้า เมื่อกระเบื้องโดนน้ำจะมีค่าความหนืดสูง ลดโอกาสการลื่นล้มและได้รับบาดเจ็บ ซึ่ง WDC เป็นบริษัทแรกที่นำกระเบื้องดังกล่าวเข้ามาขายในประเทศไทย เป็นกลุ่มสินค้าที่ได้รับความนิยม และการตอบรับที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงยังเป็นเทรนด์ที่ผู้บริโภคยังคงให้ความสำคัญและต้องการใช้ทั้งปัจจุบันและในอนาคต

นอกจากสินค้าเทคโนโลยีดังกล่าวแล้ว กลุ่มสินค้ารักษ์โลกเพื่อความยั่งยืน เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยม และเป็นที่ต้องการของลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ในปีหน้าบริษัทจะมุ่งเน้นทำตลาดในกลุ่มดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีกลุ่มสินค้ารักษ์โลกสัดส่วน 65-70% ของสินค้าทั้งหมด และเป็นสินค้าที่ได้รับรองฉลาก EPDหรือ Environmental Product Declaration ซึ่งเป็นประกาศด้านสิ่งแวดล้อมที่มอบให้กับผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการตรวจสอบ Life Cycle Assessment หรือ LCA ตั้งแต่ที่มาของส่วนผสม กระบวนการผลิต การขนส่ง การเก็บรักษา การใช้งานสินค้า ไปจนถึงการนำกลับมาใช้ใหม่ ว่าในแต่ละช่วงอายุของผลิตภัณฑ์ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากน้อยเพียงใด โดยได้รับการรับรองจากองค์กรอิสระที่น่าเชื่อถือ ซึ่ง WDC เป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศไทยที่ได้รับรองฉลาก EPD บนกลุ่มสินค้าที่มีโครงสร้างราคาแบบเอเชีย

นางสาวศุภมาส กล่าวอีกว่า เทรนด์สินค้าในปีหน้านอกจากฟังก์ชั่นป้องกันการลื่น ที่ผู้บริโภคยังให้ความสำคัญและมีความต้องการสูง ผู้บริโภคยังมีความต้องการสินค้าที่มีดีไซน์สวยงาม มีลวดลายเหมือนวัสดุธรรมชาติ เป็นสินค้าที่มีความหรูหราแต่เรียบง่าย หรือ Quiet Luxury ที่ได้รับความนิยมในวงการแฟชั่นมาหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเริ่มเข้ามาสู่สินค้ากลุ่มวัสดุตกแต่ง ถือเป็นเทรนด์สินค้ามาแรงในปี 2568 บริษัทจึงเตรียมสินค้าคอลเลคชั่นใหม่ในกลุ่มดังกล่าวเข้ามาทำตลาดเพิ่มอีก 2-3 คอลเลคชั่น ซึ่งเตรียมเปิดตัวทำตลาดในปีหน้าด้วย

ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย บริษัทได้เปิดโชว์รูมแห่งใหม่ล่าสุดที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นสาขาลำดับที่ 9 จากก่อนหน้าที่ขยายสาขาจังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้รับการตอบรับดีจากกลุ่มลูกค้าในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง จึงเดินหน้าขยายสาขาในพื้นที่โซนภาคใต้ต่อเนื่อง โดยใช้งบลงทุนก่อสร้างกว่า 20 ล้านบาท และถือเป็นสาขาแรกที่ได้ปรับคอนเซ็ปต์ใหม่ ด้วยการผสมผสานวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณีและสถาปัตยกรรมในท้องถิ่น ซึ่ง WDC ได้รับแรงบันดาลใจจากความงดงามของ เขาสกและเขื่อนรัชชประภา ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของสุราษฎร์ธานีที่มีทิวทัศน์อันงดงาม เต็มไปด้วยภูเขาและชะง่อนผาหินปูนที่โอบล้อม ซึ่ง WDC ได้นำมาตีความและปรับเป็นผนังตกแต่งหลักหรือ accent wall ที่ติดโลโก้ WDC ไว้เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสถึงการให้บริการวัสดุตกแต่งคุณภาพสูงที่เราได้นำมาไว้ให้บริการที่สุราษฎร์ธานีและพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีในการซื้อสินค้าให้กับกลุ่มลูกค้าในพื้นที่

โดยตามแผนธุรกิจระยะ 3-5 ปี หรือภายในปี 2570 WDC วางเป้าหมายมีสาขารวมทั้งหมด 12-15 แห่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ จากปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 9 แห่ง พร้อมกับจะเริ่มทำตลาดต่างประเทศอย่างจริงจัง ด้วยการหาพันธมิตรเพื่อขยายตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียน พร้อมสร้างแบรนด์ WDC ให้เป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทเริ่มสำรวจความเป็นไปได้ใหม่ ในการขยายตลาดในต่างประเทศอีกด้วย

นางสาวศุภมาส กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ บริษัทได้ให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาได้มี “เจมส์-จิรายุ” นักแสดงชื่อดังแถวหน้าของเมืองไทย มาช่วยในการสื่อสารและสร้างการรับรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี MICROTEC สำหรับปี 2568 บริษัทวางแผนสร้างแบรนด์และสร้างการรับรู้อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน บริษัทได้บรรลุข้อตกลงในการทำการตลาดกับ Friends of Brand คนใหม่ เป็นศิลปินผู้หญิงที่ให้ความสนใจและทำงานเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ที่จะเข้ามาช่วยสื่อสารการตลาดและสร้างการรับรู้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์รักษ์โลก

“หลังจาก WDC ทำตลาดและสร้างแบรนด์มาประมาณ 5 ปี ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักและมีความแข็งแรงเพิ่มมากขึ้น ผลจากการสร้างแบรนด์ดังกล่าว สะท้อนความสำเร็จออกมาให้เห็นจากยอดสั่งซื้อสินค้า ในกลุ่มลูกค้าบางเซ็กเมนต์ที่ไม่เคยสั่งซื้อกับบริษัทมาก่อนเริ่มมีเข้ามา ในปีหน้าบริษัทจึงเตรียมงบการตลาดไว้มากที่สุดนับตั้งแต่ดำเนินธุรกิจมากว่า 20 ปี เพื่อสร้างแบรนด์และทำตลาดรับสัญญาณการฟื้นตัวของตลาดวัสดุตกแต่งพื้นและผนัง” นางสาวศุภมาส กล่าวและว่า

สำหรับภาพรวมตลาดวัสดุตกแต่งพื้นและผนังในปีนี้ เริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัวมาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีมูลค่าตลาดกว่า 30,000 ล้านบาท โดยคาดว่าปีนี้น่าจะเติบโตในอัตราเลขตัวเดียว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตลาดอยู่ในภาวะทรงตัว โดยในปี 2568 คาดว่าจะกลับมาเติบโตเพิ่มมากขึ้นกว่าปีนี้ เนื่องจากคาดว่าสภาพเศรษฐกิจจะฟื้นตัวดีขึ้น การลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ WDC คาดว่าปีนี้จะสามารถเติบโตในอัตราเลขสองหลัก ซึ่งเติบโตได้มากกว่าภาพรวมของตลาด และ WDC มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ประมาณ 3-5% ของมูลค่าตลาดรวม

# # #

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงร่วมงานดนตรีไทยการอุดมศึกษา ครั้งที่ 46 “ศรีวิช...
25/07/2023

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงร่วมงานดนตรีไทยการอุดมศึกษา ครั้งที่ 46 “ศรีวิชยคีตา ปัญญาสมวรรษราชภัฏสุราษฎร์ธานี”
---------------------------------------------
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทอดพระเนตรและทรงซอด้วงร่วมกับนิสิต นักศึกษา ทรงบรรเลงเพลงชื่นชุมนุมกลุ่มดนตรี เพลงโหมโรงไอยเรศ และเพลงกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และพระราชทานพระราชดำรัสแก่นักดนตรีไทยและผู้ร่วมงานดนตรีไทยอุดมศึกษา ครั้งที่ 46 “ศรีวิชยคีตา ปัญญาสมวรรษราชภัฏสุราษฎร์ธานี” มีสถาบันอุดมศึกษาเข้าร่วมงาน จำนวน 64 สถาบัน มีนิสิต นักศึกษา รวมทั้งครูดนตรีไทยเข้าร่วมงาน กว่า 1,300 คน ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สร้างประสบการณ์ มุ่งส่งเสริม สร้างความตระหนักคุณค่าของดนตรีไทยมรดกวัฒนธรรมชาติที่สืบทอดมาช้านาน ซึ่งในโอกาสนี้ มีศาสตราจารย์ สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. วัฒนา รัตนพรหม รักษาราชการแทนอธิการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (มรส.) กล่าวคำกราบบังคมทูล เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2566 ณ หอประชุมวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
สำหรับงานดนตรีไทยอุดมศึกษา ครั้งที่ 46 “ศรีวิชยคีตา ปัญญาสมวรรษราชภัฏสุราษฎร์ธานี” จัดขึ้นโดย มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าภาพจัดงาน ภายใต้การสนับสนุนจากกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ระหว่างวันที่ 23-26 กรกฎาคม 2566 เพื่อส่งเสริมให้ นิสิต นักศึกษา มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักถึงคุณค่าของศิลปะการบรรเลงดนตรีไทย วัฒนธรรมประจำชาติ ตลอดการเปิดโลกทัศน์ เปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษา ได้เข้าร่วมกิจกรรมทางวัฒนธรรมร่วมกับสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ อีกทั้ง สร้างเครือข่าย แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เผยแพร่ผลงานด้านดนตรีไทย จากสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศในระดับชาติ ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 5 ทศวรรษจากวิทยาลัยครูสุราษฎร์ธานี เติบโตเป็นสถาบันราชภัฏสุราษฎร์ธานีและพัฒนาเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยแห่งการบูรณาการ ผสานองค์ความรู้ สู่การสร้างนวัตกรรม

เพื่อพัฒนาชุมชนท้องถิ่นอย่างยั่งยืน มีพันธกิจสำคัญในการมุ่งส่งเสริมให้นักศึกษามีความรู้คู่คุณธรรม มีสำนึกความเป็นไทย และความภาคภูมิใจในภูมิปัญญาและศิลปวัฒนธรรมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านดนตรีที่มหาวิทยาลัยมุ่งเน้นให้เกิดการพัฒนาองค์ความรู้ผ่านการจัดการเรียนการสอนและพัฒนาทักษะผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดจนการสร้างพื้นที่แห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย
กิจกรรมภายในงาน ประกอบไปด้วย การบรรเลงดนตรีไทยวงเดี่ยวสถาบันและวงกลุ่มสถาบัน ณ ห้อง Auditorium อาคารทีปังกรรัศมีโชติ ห้องประชุมธรรมโฆษณ์ อาคารสำนักศิลปะและวัฒนธรรม หอศิลป์ธรรมโฆษณ์ และหอประชุมวชิราลงกรณ ชมการแสดงชุด ศรีวิชยคีตา โดยกลุ่มสถาบันภาคใต้ การแสดงชุด แขกขาวเถา โดยกลุ่มสถาบันภาคกลาง 7 การแสดงชุดจระเข้หางยาวทางสักวา ออกระบำศรีวิชัย โดยกลุ่มสถาบันภาคกลาง 1 การแสดงชุด แขกขาวเถา โดยกลุ่มสถาบันภาคกลาง 4 การแสดงชุดสักวาจีนเก็บบุปผา โดยกลุ่มสถาบันภาคกลาง 3 การแสดงและขบวนอัญเชิญตราสัญลักษณ์งานดนตรีไทยอุดมศึกษา พร้อมพิธีส่งมอบตราสัญลักษณ์ให้กับปลัดกระทรวงการอุดมศึกษาฯ เพื่อส่งมอบตราสัญลักษณ์งานดนตรีไทยอุดมศึกษา แก่ผู้แทนมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เจ้าภาพงานดนตรีไทยอุดมศึกษา ครั้งที่ 47 ต่อไป

---------------------------------------------

#สื่อสารองค์กรมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี

กนกรัตน์ ศรียาภัย /ข่าว
อดิสรณ์ เนาวโคอักษร /ถ่ายภาพ

สำนักพระราชวัง ขอเชิญชวนประชาชนร่วมลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ ๒๘ ...
20/07/2023

สำนักพระราชวัง ขอเชิญชวนประชาชนร่วมลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๖ ผ่านระบบออนไลน์ ที่เว็บไซต์หน่วยราชการในพระองค์ ระหว่างวันที่ ๒๓ – ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๖ www.royaloffice.th/2023/07/20/ลงนามถวายพระพรออนไลน์_28-07-2566/

ที่อยู่

323/32-33 ม. 4 ถ. โฉลกรัฐ
Mueang Surat Thani District
84000

เบอร์โทรศัพท์

+66826589429

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Head News Suratthaniผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Head News Suratthani:

แชร์