11/09/2021
The perks of being a wallflower (Stephen Chbosky,2012)
“Write about us, I will”
“นายเอาแต่นั่งมอง และทำความเข้าใจคนอื่น เหมือนดอกไม้ในซอกกำแพง”
“ฉันถามตัวเองว่า ทำไมนะ... ฉันแล้วก็ใครต่อใครรอบตัวฉัน ต้องไปชอบคนที่ไม่เห็นคุณค่าเรา, เรามักจะรักคนที่เราคิดว่าคู่ควรกับตัวเอง”
“นายยังไม่เข้าใจอีกหรอชาร์ลี ฉันไม่มีความสุขเลยสักนิด ฉันซึ้งใจในความคิดของนายนะแต่.. แต่จะมานั่งห่วงชีวิตของคนอื่นไม่ได้ อย่าคิดว่าความรักคือการเสียสละสิ”
“We can’t choose where come from but we can choose where we go from there”
“ฉันเข้าใจได้ทะลุปรุโปร่ง ชั่วขณะที่รู้ว่าชีวิตเราไม่ได้น่าสมเพชอะไรสักหน่อย มันรู้สึกมีชีวิตชีวาเหลือเกิน เมื่อนายลุกขึ้นยืนมองดูแสงไฟตามตึกระฟ้า อะไรๆก็ดูน่าตื่นตาไปหมด นายฟังเพลงนั้นขณะรถวิ่งไปข้างหน้ากับผู้คนที่นายรักที่สุดในโลก และชั่วขณะนี้ ฉันสบานได้เลย ชีวิตเราช่างน่าอัศจรรย์”
___
The perks of being a wallflower ภาพยนตร์แนว coming of age ถูกดัดแปลงมาจากวรรณกรรมภายใตชื่อเดียวกัน เขียนและกำกับโดย Stephen Chobsky
___
เป็นหนังเรื่องหนึ่งที่แอดมินดูกี่รอบก็ยังคงเศร้าและน้ำตาไหล หนังถ่ายทอดผ่านมุมมองของชาร์ลีเด็กไฮสคูลปี1ที่เข้าสังคมไม่เป็น และยังมีปมเกี่ยวกับการตายของป้าในวัยเด็ก หนังสอดแทรกปัญหาต่างๆที่วัยรุ่นได้พบเจอ เช่นการถูกกลั่นแกล้งจากโรงเรียน การไม่ยอมรับLGBT+ ความรักในวัยรุ่น รวมไปถึงถูกคุกคามทางเพศจากคนในครอบครัวเอง แต่หนังวัยในปี2012ยังคงมีจุดจบที่เป็น Happy endingอยู่ สุดท้ายแล้วชาร์ลีได้ข้ามผ่านปัญหา ปมในใจและหาทางใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้