JUST READ เพจหนังสือที่รีวิวหนังสือได้นิดหน่อยน่ะครับ

😘
14/12/2024

😘

เรื่องแปลก ๆ ของหญิงสาวผู้แอบตามติดชีวิตของ "สาวกระโปรงม่วง" มองเผิน ๆ อาจคิดว่านี่คือเรื่องของสตอล์กเกอร์ที่หมกมุ่นอยู่...
14/12/2024

เรื่องแปลก ๆ ของหญิงสาวผู้แอบตามติดชีวิตของ "สาวกระโปรงม่วง" มองเผิน ๆ อาจคิดว่านี่คือเรื่องของสตอล์กเกอร์ที่หมกมุ่นอยู่กับสาวคนหนึ่งมากจนเกินไป แต่แท้จริงแล้ว กลับแอบซ่อนความอันตรายของสังคมญี่ปุ่นได้อย่างแยบยลที่สุดเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว

ด้วยวิธีการเล่าผ่านสายตาของหญิงสาวคนหนึ่งที่นิยามตัวเองว่า "สาวคาร์ดิแกนเหลือง" ซึ่งมักแอบสอดส่องพฤติกรรมและตามติดชีวิตประจำวันของ "สาวกระโปรงม่วง" ตั้งแต่เช้ายันเย็น รู้หมดว่าใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไรทั้งหมดของสาวกระโปรงม่วง เรียกว่าเป็นแฟนคลับตัวยงเลยก็ว่าได้

จนกระทั่งวันนึง เธอพยายามชักจูงให้สาวกระโปรงม่วงมาทำงานที่บริษัทเดียวกัน เพื่อหาโอกาสตีสนิทกันมากขึ้น แต่แล้วทุกสิ่งกลับผิดเพี้ยนไปหมด เกิดอะไรขึ้นกับสาวกระโปรงม่วงกันแน่...?

นั่นแหละคือ คำถามแรกที่ผมถามตัวเอง หลังอ่านจบในรอบแรก เกิดอะไรขึ้น? เรื่องมันยังไงนะ? ใครกับใคร? ทำไม? อะไร? มีคำถามเต็มไปหมด จนผมต้องตัดสินใจอ่านซ้ำอีกรอบ เพื่อเก็บรายละเอียดบางสิ่งที่อาจตกหล่นไประหว่างทางในรอบแรก

พอเริ่มอ่านซ้ำอีกรอบเท่านั้นแหละ โอโห้ เรื่องนี้แม่งโคตรแจ๋วเลยว่ะ!!! ความมหัศจรรย์ของมันคือ "เล่าเรื่องที่ไม่ปกติ ให้ดูปกติมากที่สุด" นั่นเอง ตัวเอกคือสตอล์กเกอร์ผู้ตามติดชีวิตของ "สาวกระโปรงม่วง" ในขณะเดียวกันตัวเอกก็เป็น "ผู้บรรยายหลัก" ด้วยเช่นกัน ถ้าอ่านผ่าน ๆ เราก็จะคุ้นชินกับการบรรยายตัวละครที่นิยายปกติก็ทำกัน แต่หากจับสังเกตให้ดีจะพบว่า ผู้บรรยายลงรายละเอียดที่ยิบย่อยยิ่งกว่า ราวกับตัวเองเข้าไปอาศัยใต้ชายคาเดียวกันเหยื่อผู้ถูกสะกดรอยตาม ยิ่งอ่านไปเรื่อย ๆ ยิ่งจับความผิดปกติและทัศนคติที่บิดเบี้ยวได้มากยิ่งขึ้นเท่านั้น

แถมมันยังสะท้อนเห็นถึง "ภาวะไร้ตัวตน" ของสาวคาร์ดิแกนเหลืองที่ใคร ๆ ต่างเมินเฉย ไม่สนใจใยดี หรือไม่รับรู้การมีตัวตนอยู่ของเธอ เราจะได้เห็นถึงความอิจฉาริษยาที่มีต่อสาวกระโปรงม่วง ซึ่งถูกคนส่วนใหญ่ "รับรู้" การมีตัวตนอยู่ของเธอ ไม่เธอจะทำอะไร ที่ไหน คนก็ให้ความสนใจ (แต่ไม่ได้มากเท่ายัยสาวคาร์ดิแกนเหลืองหรอก) บางทีลึก ๆ แล้วเธออาจเห็นว่า สาวกระโปรงม่วงก็ไม่ต่างจากเธอ (คือไร้เพื่อนฝูง โดดเดี่ยว ไร้ที่พึ่ง) แต่ขณะเดียวกันก็อิจฉาเธอ (ที่ยังมี "ตัวตน" อยู่ในสังคม เป็นที่สนใจของผู้คน ซึ่งต่างจากตนที่ไม่มีใครแลเห็นเลย)

นอกจากนี้ สิ่งที่ทำให้ผมชื่นชอบเรื่องนี้มากยิ่งขึ้นคือ "การสะท้อนความอันตรายของสังคมญี่ปุ่น" คนที่ไร้เลห์เหลี่ยม ไม่ทันคมคน ก็อาจตกอยู่ในอันตรายได้โดยไม่ทันได้ตั้งตัว ซึ่งมันสะท้อนให้เห็นผ่านสายตาของสตอล์กเกอร์สาวที่จับตาดูสาวกระโปรงม่วงไปด้วยในตัว จากที่น่าสงสารเพราะโดนสตอล์กอยู่แล้ว ยังมาซวยซ้ำซวยซ้อนเพราะ "ความหวังดี" โลกสวยของสาวคาร์ดิแกนเหลืองอีก เห้อ... สาสาร ×2 เลยแบบนี้

โดยรวมแล้ว ถึงบางแต่มากเรื่อง แยบยลแถมพิศวงมากที่สามารถเล่าเรื่องราวนี้ได้อย่างดีเยี่ยม สมแล้วที่ได้รางวัล Akutagawa Prize ครั้งที่ 161 (2019) สั้นแต่โดนใจจริง ๆ เลยเรื่องนี้

ลองอ่านกันเถอะครับ สั้น ๆ แต่เหม่อนาน รับประกันความพิศวงปนแปลกประหลาดแน่นอนครับ

ตามติดชีวิต (ไม่) ลับของสาวกระโปรงม่วง
อิมามุระ นัตสึโกะ เขียน
ฉัตรขวัญ อดิศัย แปล
Page Publishing
ราคาปก 225 บาท
หนา 134 หน้า

ขนลุกจริง!!! นี่มัน "ภาพวาดปริศนาฯ" เวอร์ชั่นเดอะโกสต์ชัด ๆ ค้นหาความจริงจากเอกสารต่าง ๆ เรื่องลี้ลับทั้งหมดมันเกี่ยวข้อ...
13/12/2024

ขนลุกจริง!!! นี่มัน "ภาพวาดปริศนาฯ" เวอร์ชั่นเดอะโกสต์ชัด ๆ ค้นหาความจริงจากเอกสารต่าง ๆ เรื่องลี้ลับทั้งหมดมันเกี่ยวข้องกับภูมิภาคคิงคิได้ยังไง แล้วทำไมเพื่อนที่ร่วมสืบค้นด้วยถึงหายตัวไป ยิ่งอ่านยิ่งขนลุก แม่งทำซะเหมือนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในญี่ปุ่นเลย น่ากลัวฉิบหาย ยกให้เป็นนิยายสยองขวัญที่ชวนขนหัวลุกที่สุดในปีนี้เลย 😨

---

รีวิว

"เขตอาถรรพ์ในภูมิภาคคิงคิ" เป็นนิยายสยองขวัญเหนือธรรมชาติกึ่งสารคดี มีลักษณะคล้ายแฟ้มรวมข้อมูลเรื่องลี้ลับต่าง ๆ เช่น ข่าว บทสัมภาษณ์ กระทู้เว็บบอร์ด บทความ เรื่องสั้น เล่าตัดสลับกับผู้เขียนที่กำลังรวบรวมข้อมูลเหล่านี้กับเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งจู่ ๆ ก็หายตัวไปอย่างเป็นปริศนา หลังจากพยายามสืบค้นไปได้ไม่นาน จนผู้เขียนต้องประกาศตามหาเบาะแสตั้งแต่หน้าแรก...

ความขนลุกของเล่มนี้คือ "พวกข้อมูลต่าง ๆ" ที่เขารวบรวมมาให้เราอ่าน แรก ๆ มันก็เหมือนจะเป็นเรื่องสยองขวัญลี้ลับทั่ว ๆ ไป แต่เมื่ออ่านไปเรื่อย ๆ กลับพบความเชื่อมโยงบางอย่างที่คล้ายคลึงกันในแต่ละเรื่อง ยิ่งอ่านยิ่งสงสัย ยิ่งอยากรู้คำตอบว้ามันใช่แบบที่เราคิดไหมวะ แถมแต่ละเรื่องเองก็ชวนขนหัวลุกไม่แพ้กัน อย่างเรื่องที่ผมชอบที่สุดคือ "ข้อมูลที่รวบรวมจากอินเทอร์เน็ต 3" อ่านไปถึงช็อตเฉลยนี่ขนลุกทั้งตัว ถึงกลับต้องวนอ่านใหม่อีกรอบนึง โอ้โห ไอ้เชี่ย!!! หลอนฉิบหายจริง ไม่อยากจะคิดว่าถ้าอยู่ในเหตุการณ์นั้นจะทำยังไงวะ น่ากลัวเกิ๊น...

นอกจากนี้ อีกหนึ่งจุดเด่นที่ผมชอบมาก ๆ ในเล่มนี้นั่นคือ แต่ละเรื่องจะมีรูปแบบการนำเสนอที่แตกต่างกันไปตามแหล่งข้อมูลที่ได้มา เช่น "ข่าว" จะนำเสนอแบบภาษาข่าว รวบรัด กระชับ เน้นสื่ออารมณ์หรือโจมตีความผิดพลาดบางอย่างที่เกิดขึ้น ส่วน "เว็บบอร์ด" จะมาในรูปแบบคอมเมนต์พูดคุยแบบเรียงไทม์ไลน์ ใครตอบก่อน-หลัง เราจะเห็นลำดับเวลาชัดเจนในขณะที่เราค่อย ๆ ไล่อ่านคอมเมนต์ไปเรื่อย ๆ ด้วย เป็นต้น ทำให้เหตุการณ์ภายในเล่มนี้ยิ่งดูเรียลอย่างกับมันเคยเกิดขึ้นจริงในญี่ปุ่นมากจริง ๆ

อย่างไรก็ดี แม้จะชมขนาดนี้ แต่ผมก็มีจุดที่ติดใจอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะกับบทสรุปของเรื่องราวทั้งหมด แต่โดยรวมแล้ว ผมโคตรชอบ "พวกข้อมูล/เรื่องเล่าผี" ต่าง ๆ ที่ใส่เข้ามาในเล่มนี้มาก ๆ มากถึงมากที่สุด อยากให้ทุกคนได้อ่านเล่มนี้จริง ๆ

มาสัมผัสความน่าขนลุกสไตล์ "ภาพวาดปริศนาฯ" ไขปริศนาและเผชิญหน้ากับเรื่องราวลี้ลับเหล่านี้ไปด้วยกันและ

ขอบคุณที่อ่านจนจบ...

---

หากใครสนใจ สามารถใช้โค้ด JUSTREAD15 ลด 15% (สูงสุด 50 บาท) ทันทีที่เว็บไซต์ phoenixnext.com นะครับ

เขตอาถรรพ์ในภูมิภาคคิงคิ
เซซุจิ เขียน
ณัฐ ตั้งภูมิ แปล
Phoenix Next
ราคาปก 370 บาท
หนา 330 หน้า

"อยากก็จัด ประหยัดทำไม" - คุริฮาระ (ไม่ได้กล่าว)
13/12/2024

"อยากก็จัด ประหยัดทำไม" - คุริฮาระ (ไม่ได้กล่าว)

อ่านอยู่ดี ๆ ก็มีน้ำตา... ไม่คิดว่าอ่านหนังสือของลุงมูแล้วจะทำให้ร้องไห้ให้กับเพลงแจ๊สและบทสนทนาของคนสองคน ผมชักเริ่มชอบ...
12/12/2024

อ่านอยู่ดี ๆ ก็มีน้ำตา... ไม่คิดว่าอ่านหนังสือของลุงมูแล้วจะทำให้ร้องไห้ให้กับเพลงแจ๊สและบทสนทนาของคนสองคน ผมชักเริ่มชอบลุงมูเพิ่มขึ้นนิดนึงแล้วแหละ

---

รีวิว

ครั้งแรกกับหนังสือของ 'ฮารูกิ มูราคามิ' อ่านวันเดียวจบพร้อมประสบภัยเป็นชายเศร้าซึมที่น้ำตาไหลพราก หลังจากอ่านจบไปสักพัก จู่ ๆ ก็อยากร้องไห้ อยากฟังเพลงแจ๊สที่ทั้งคู่ใช้เวลาร่วมกัน อยากฟังเพลงโปรดของฮาจิเมะ พอผมฟังแล้วก็ร้องไห้ตาม...

"การปรากฏตัวของหญิงสาวในคืนฝนตก" (South of The Border, West of The Sun) เป็นนิยายที่ไม่รู้จะนิยามมันว่าอะไรดี บอกได้แค่ว่ามันคือสไตล์ของ 'ฮารูกิ มูราคามิ' ที่แรกเริ่มผมค่อนข้างมีอคติกับงานของลุงมูเพราะเกรงว่าจะอ่านไม่เข้าใจอะไรเลย แต่พอลองอ่านเท่านั้นแหละ น้ำตาไหลเลย...

เหตุผลหลัก ๆ ที่ผมเสียน้ำตาให้กับหนังสือเล่มนี้ก็คงเพราะมันทำให้คิดถึงใครบางคนในอดีต อดีตที่ผมไม่อาจจับต้องได้ อดีตที่ผมมีประสบการณ์ร่วมคล้ายกับตัวละคร "ฮาจิเมะ" ในเรื่อง เราเหมือนกันมากในหลาย ๆ เรื่อง แต่ก็ต่างกันในหลาย ๆ บริบท

ยิ่งอ่านก็ยิ่งเศร้าใจ ยิ่งอ่านไปจนถึงตอนจบสุดท้าย กลับยิ่งรู้สึกว่างเปล่า เหมือนมีสิ่งใดขาดหายไปในห้วงเวลานี้ แต่ที่น่าเจ็บใจกว่าคือ ผมไม่น่าหาเรื่องให้ตัวเองไปฟังเพลงแจ๊สที่ปรากฏชื่อในเล่มเลย จังหวะนั้นคือไม่ไหวแล้ว ห้ามน้ำตาไว้ไม่อยู่จริง ๆ ราวกับเพลงนั้นคือบทสนทนาของคนทั้งสองที่ใช้ร่วมกันในช่วงเวลาสั้น ๆ มันงดงามแต่ก็รวดร้าวเมื่อคำนึงถึง

หลังจากนี้ผมคงต้องงดฟังเพลงแจ๊สไปอีกสักระยะ จนกว่าจะรู้สึกว่าไม่มีใครสักคนรอคอยอยู่ ณ ช่วงเวลาหนึ่งบนบทเพลงที่เราสองใช้เวลาร่วมกัน...

การปรากฏตัวของหญิงสาวในคืนฝนตก
(South of The Border, West of The Sun)
ฮารูกิ มูราคามิ เขียน
โตมร ศุขปรีชา แปล
สำนักพิมพ์กำมะหยี่
ราคาปก 255 บาท
หนา 198 หน้า

พฤหัสอ่าน | 12 ธ.ค. 67 | Week 50ชวนทุกคนมาใช้เวลาว่างทุกวันพฤหัสบดีไปกับ "การอ่านหนังสือ" ไม่ว่าจะหนังสือเรียน การ์ตูน น...
12/12/2024

พฤหัสอ่าน | 12 ธ.ค. 67 | Week 50

ชวนทุกคนมาใช้เวลาว่างทุกวันพฤหัสบดีไปกับ "การอ่านหนังสือ" ไม่ว่าจะหนังสือเรียน การ์ตูน นิยาย หรือแม้แต่นิตยสารก็ได้เช่นกัน (อ่านรูปแบบใดก็ได้) ซึ่งเราจะตั้งโพสต์แจ้งเตือนแบบนี้ทุกวันพฤหัสบดี (ตลอดจนถึงสิ้นปีเลย) ไม่มีการบังคับ ใครอยากมาร่วมสนุกท้าทายตัวเองไปด้วยกัน เราก็ยินดีมากครับ

ขอให้มีความสุขกับการอ่านหนังสือนะครับ ❤

จาก "ฉากนรก" สู่ "เฟือง" จดหมายลาตายที่เข้าใจยากที่สุดของ 'ริวโนะสุเกะ อะคุตะงะวะ' ก่อนตัดใจลาโลกนี้ไปตลอดกาล...คำเตือน ...
11/12/2024

จาก "ฉากนรก" สู่ "เฟือง" จดหมายลาตายที่เข้าใจยากที่สุดของ 'ริวโนะสุเกะ อะคุตะงะวะ' ก่อนตัดใจลาโลกนี้ไปตลอดกาล...

คำเตือน : นวนิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับความตาย การฆ่าตัวตาย ภาวะซึมเศร้า หดหู่ และทรมานใจ มีประเด็นที่อ่อนไหวมาก และไม่ได้มีเจตนาชี้ชวนให้ใครจากโลกนี้ไป โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

---

รีวิว

ผลงานที่เปรียบดั่ง "จดหมายลาตาย" ของผู้แต่งที่พ่ายแพ้ให้กับชีวิต จึงบรรจงเขียนเรื่องราวสุดท้ายอันบ้าคลั่งด้วยอารมณ์ของความสับสนวิกลจริตบิดเบี้ยว ไร้แก่นไร้สารใด ๆ ราวกับคนบ้าหยิบปากกาเขียนหนังสือ ก่อนจะสิ้นใจจากโลกนี้ไปแบบไม่มีวันหวนกลับ...

นี่คือเรื่องราวของ "เฟือง" นวนิยายแนว Plotless & I-novel ของ 'ริวโนะสุเกะ อะคุตะงะวะ' เรื่องท้าย ๆ ในชีวิตของเขา ซึ่งถ่ายทอดความรู้สึกและความคิดผ่านตัวละครสมมติที่โลดแล่นบนหน้ากระดาษแห่งความว่างเปล่าและมืดมิด เต็มไปด้วยสัญญะว่าด้วยเรื่อง "ความตาย" และ "นรก" ที่ตัวละครจะต้องพบประสบเจอตลอดเส้นทางชีวิต ราวกับมันกำลังออกล่าตัวเขาอยู่

โดยจุดเด่นของเรื่องราวนี้คือ "ความไร้โครงสร้าง" ไม่มีแก่นสารหลักที่ชัดเจนแต่ก็สามารถดำเนินเรื่องไปจนจบได้ เหมือนมื้ออาหารที่เชฟโอมากาเสะเป็นผู้ปรุงแต่งอาหารให้ มีอาหารอยู่จริงแต่ไม่รู้ว่ามันคือเมนูอะไร อร่อยหรือไม่ ถูกปากเราหรือเปล่า ซึ่งนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในนวนิยายเรื่องนี้ ไม่ใช่ทุกคนที่อ่านจบแล้วจะชอบมัน หรือเข้าใจมัน จึงไม่แปลกนักถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจอะไรเลยที่เกิดขึ้นในเล่มนี้ มันยากจริงนั่นแหละ น่าจะเป็นผลงานที่เข้าใจยากที่สุดของเขาด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ มันยังยากไปอีกขั้นเพราะมันคือ I-novel อีกด้วย (I-novel คือนวนิยายที่ผู้เขียนใส่ตัวตนหรือประวัติส่วนตัวลงไปในผลงานของตัวเอง หากทราบหรือเข้าใจความเป็นมาของผู้เขียนแล้ว จะยิ่งส่งผลต่อความเข้าใจในผลงานของผู้เขียนมากขึ้น) จำเป็นจริง ๆ ที่ผู้อ่านต้องรู้จักประวัติของผู้เขียน ซึ่งตัวเล่มเองก็มีประวัติอยู่ช่วงบทกล่าวตาม ส่วนนี้จะพอช่วยอธิบายว่าผลงานชิ้นนี้มีรากฐานมาจากอะไรในตัวของ 'ริวโนะสุเกะ อะคุตะงะวะ' บ้าง

"เพราะฉันเห็น ฉันจึงหวาดกลัว และเพราะฉันกลัว ฉันจึงหนีมันไม่พ้น"
หากจะวิเคราะห์สั้น ๆ ว่า มันเกิดอะไรขึ้นภายในเรื่อง "เฟือง" บ้าง เท่าที่เข้าใจคือ มันเป็นภาพสะท้อนของเรื่องสั้นอีกเรื่อง ("ฉากนรก" - ราโชมอน และเรื่องสั้นอื่น ๆ) แต่ในบริบทและองค์ประกอบมาจากเรื่องส่วนตัวของผู้เขียนเป็นส่วนใหญ่ เขาเห็นนรกเกือบจะตลอดเวลา เหมือน 'เฟือง' ที่โผล่ขึ้นมาตรงหน้าเขา ยิ่งมีมากยิ่งน่าหวาดกลัว มันโปร่งแสงไร้สัมผัสแต่กลับมองเห็นได้อย่างชัดเจน ราวกับพวกมันสลักลงบนดวงตาของเขา การปรากฏตัวของ 'เฟือง' จึงเปรียบได้กับ 'ความตาย' ที่กำลังคืบคลานเข้าใกล้ตัวเขาขึ้นเรื่อย ๆ
นอกจากนี้มันมีสัญญะอื่น ๆ อีกซึ่งสื่อถึงความตายเช่นเดียวกัน 'เฟือง' เรียกได้ว่าผู้เขียนหมกมุ่นนึกถึงแต่ความตายกับชีวิตอันไร้ค่าของตัวเองแทบตลอดเวลาในช่วงบั้นปลายของชีวิต แถมยังสะท้อนภาวะของอาการป่วยด้วยโรคซึมเศร้า "กลัวตายนะแต่ก็อยากหายไปจากโลกใบนี้" ที่น่าเศร้าคือเขาทำมันสำเร็จจริง ๆ ในเดือนกรกฎาคมปี 1927 สิริรวม 35 ปีแห่งความทรมานที่อยู่บนโลกใบนี้...
โดยรวมแล้ว มันอาจไม่ใช่นวนิยายที่ดีที่ใครหลายคนมองหา แต่อาจเป็นหนึ่งในเครื่องเตือนสติและพึงระลึกไว้เสมอว่า 'ความตาย' นั้นเป็นของใกล้ตัวและไม่มีใครหนีมันพ้น ส่วนใครจะอ่านเข้าใจหรือไม่ ขอให้ทุกคนได้ไปหามาลองอ่านกันเองแล้วกันนะครับ สำหรับผมเล่มนี้ทำหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดีแล้ว ผมชอบ ผมเข้าใจ และผมขอนับถือในความกล้าบ้าบิ่นของ 'ริวโนะสุเกะ อะคุตะงะวะ' ที่แสดงให้เราเห็นว่า นรกของเขาหน้าตาเป็นอย่างไรบ้าง ก่อนจะจากลาโลกนี้ไปนั่นเอง...

เฟือง
ริวโนะสุเกะ อะคุตะงะวะ เขียน
ปัญญดา สรัคคานนท์ แปล
Zombie Books Z-Books
ราคาปก 200 บาท
หนา 108 หน้า

ยากทุกครั้งเวลาอยู่หน้ากองดอง 😂
10/12/2024

ยากทุกครั้งเวลาอยู่หน้ากองดอง 😂

จิตตกฉิบหาย!!! เนื้อเรื่องโคตรทำร้ายจิตใจขั้นรุนแรง เรื่องเข้าใจผิดที่ทำให้เด็กคนนึงถูกเพื่อนร่วมชั้นกลั่นแกล้งและยังถูก...
10/12/2024

จิตตกฉิบหาย!!! เนื้อเรื่องโคตรทำร้ายจิตใจขั้นรุนแรง เรื่องเข้าใจผิดที่ทำให้เด็กคนนึงถูกเพื่อนร่วมชั้นกลั่นแกล้งและยังถูกครูประจำชั้นเกลียดขี้หน้า กลั่นแกล้งสารพัดจนไม่หลงเหลือความเป็นมนุษย์... 💀

---

รีวิว (มีสปอยนิดหน่อย)

"ซากศพสีฟ้า" เป็นผลงานเรื่องสั้นสุดสั่นสะเทือนอารมณ์ของ "โอตสึ อิจิ" เป็นเรื่องราวของเด็กคนนึงนามว่า "มาซาโอะ" เป็นเด็กเก็บตัวและขี้กลัว ซึ่งถูกเข้าใจผิดเรื่องไม่เป็นเรื่องจนนำไปสู่การกลั่นแกล้งจากเพื่อนร่วมชั้นและครูประจำชั้นคนใหม่ เปลี่ยนให้เด็กคนคนนึงกลายเป็นที่รับรองอารมณ์ลบของทุกคนในชั้นเรียน ทำร้ายจิตใจและบั่นทอนความเป็นมนุษย์จนไร้ซึ่งการต่อต้าน... และเรื่องทั้งหมดจะจบลงเช่นไร ลองไปตามต่อได้ใน "ซากศพสีฟ้า" กันนะครับ

สำหรับผมเรื่องสั้นนี้น่าขนลุกและน่าอึดอัดใจมากตลอดระหว่างการอ่าน เพราะเรื่อง "การกลั่นแกล้ง" เป็นประสบการณ์ใกล้ตัวที่ใคร ๆ ก็อาจพบเจอกับตัวหรือบางครั้งเราก็เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดดลั่นแกล้งผู้อื่น เราจึงสะท้อนภาพที่เกิดขึ้นในเรื่องสั้นนี้ทับซ้อนกับประสบการณ์ชีวิตของเราได้โดยง่าย นี่จึงเป็นเรื่องที่น่ากลัวยิ่งถ้าพบว่าเรากับ "มาซาโอะ" อาจมีบางส่วนคล้ายกันจนมากเกินไป (ซึ่งผมหวังว่าจะไม่เป็นแบบนั้นนะ ถ้าใช่แนะนำว่าอย่าอ่านเลยครับ)

ความเจ๋งของเรื่องสั้นนี้คือ "วิธีการเล่า" ที่ค่อนข้างใจเย็นราบเรียบเหมือนกำลังทำให้เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องปกติธรรมดาทั่วไป โดยสะท้อนความรู้สึกแย่และความเคียดแค้นผ่านอีกหนึ่งตัวละครซึ่งก็คือ "อาโอะ" นั่นเอง (เพื่อนในจินตนาการของมาซาโอะ) เพราะทุกครั้งที่มาซาโอะโกรธหรือไม่พอใจอะไร เขาจะมองเห็นอาโอะอยู่ที่ไหนสักแห่งรอบตัวเขา

นอกจากนี้ยังมีหนึ่งตัวละครที่ผมค่อนข้างให้ความสนใจมากคือ "มิซิโอะ" เพื่อนสนิทของมาซาโอะ ทุกครั้งที่มิซิโอะออกมาคุยกับมาซาโอะ เราจะได้ข้อมูลบางอย่างกลับมาเพิ่มซึ่งนอกเหนือจากมุมมองของมาซาโอะ (สังเกตอีกทีช่วงท้าย ๆ เรื่องจะมีบอกใบ้บางอย่างถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น) และอีกตัวละครที่เป็น MVP ของเรื่องนี้คือ "ครูฮาเนดะ" บุคคลส้นตีนที่สุดในเรื่องราวทั้งหมดนี้ ตัวละครที่ทำให้ผมโกรธมากที่สุดตั้งแต่อ่านหนังสือมาทั้งหมด เป็นเหี้ยอะไรนักหนา อีตอนจบท้ายเรื่องกูยังไม่สาแก่ใจนะ เดี๋ยวมึงโดนกูแน่!!! ก็ประมาณนั้นครับ ใครอ่านแล้วจะเข้าใจที่ผมเล่าไปเมื่อสักครู่นี้เอง

อีกเรื่องสำคัญคือ สรุปแล้วเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงหรือเป็นเพียงจินตนาการของมาซาโอะคนเดียว สำหรับผมคิดว่า มันจริงในบางเรื่องแต่ไม่ใช่ทุกอย่างที่จริงทั้งหมด เพราะเหตุการณ์นี้เล่าผ่านมุมมองของคนเพียงคนเดียว ดังนั้นลองไปชั่งใจกับดูกันนะครับว่า สิ่งที่มาซาโอะเล่ามาเป็นจริงแค่ไหนกัน...

โดยรวมแล้ว เราชอบและเกลียดเรื่องสั้นนี้ในเวลาเดียวกัน ไม่อ่านซ้ำรอบสองแน่นอน จิตตกเกินไป ขอผ่านไปอ่านอะไรสบาย ๆ หน่อยก่อนดีกว่าแล้วครับ 💀

ซากศพสีฟ้า
โอตสึ อิจิ เขียน
รัตน์จิต ทองเปรม แปล
Hummingbooks Publishing
ราคาปก 215 บาท
หนา 139 หน้า

หดหู่จนผมจะร้องไห้ นิยายที่อ้างอิงจากเหตุการณ์จริงในเกาหลีใต้ เมื่อเด็กผู้พิการทางการได้ยินถูกครูใหญ่และผู้สมรู้ร่วมคิด ...
09/12/2024

หดหู่จนผมจะร้องไห้ นิยายที่อ้างอิงจากเหตุการณ์จริงในเกาหลีใต้ เมื่อเด็กผู้พิการทางการได้ยินถูกครูใหญ่และผู้สมรู้ร่วมคิด ล่วงละเมิดทางเพศ ข่มขืน กักขัง และทำร้ายร่างกายในโรงเรียนโดยไม่มีใครช่วยเหลือได้ จุดเริ่มต้นของการต่อสู้เพื่อสิทธิและอิสรภาพของเด็ก ๆ ที่ถูกข่มเหงมาอย่างยาวนาน...

Trigger Warning: นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาที่โหดร้าย การล่วงละเมิดทางเพศ การทารุณกรรม การข่มขืนเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี การทำร้ายร่างกาย การฆ่าตัวตาย พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมต่าง ๆ และอื่น ๆ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

---

รีวิว

เรื่องนี้ทำผมจะร้องไห้กับเรื่องราวของความโหดร้ายที่เกิดขึ้นในรั้วโรงเรียน เมื่อเด็กผู้พิการการได้ยินถูกครูใคญ่ ครูธุรการ และครูดูแลหอพักล่วงละเมิดทางเพศ กักขัง ข่มขืน และทำร้ายร่างกาย โดยไม่มีใครตั้งข้อสงสัยหรือตรวจสอบใด ๆ

เหตุที่ทำให้เรื่องนี้เป็นกระแสและบานปลายจนใครหลายคนต้องยื่นมือเข้าช่วยเหลือเหล่าเด็ก ๆ คือครูอัตราจ้างคนใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาในเมือง เขาเพียงสังเกตเห็นและไม่ทนอยู่เฉยต่อการกระทำผิดของเหล่าผู้ใหญ่ในคราบนักบุญพวกนี้ได้ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นสู่การสู้เพื่ออิสรภาพและความถูกต้องของเด็กผู้พิการทุกคนในโรงเรียนแห่งนั้น...

จุดที่ทำให้ผมใจสลายเหี้ย ๆ คือ การที่เด็ก ๆ ผู้ถูกกระทำชำเราต้องออกมาบอกเล่าถึงฝันร้าย ความเจ็บปวดทรมานในอดีตต่อหน้าผู้อื่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพียงเพื่อบอกว่า พวกเขาเองเจ็บปวดเจียนตายกับเหตุการณ์เหล่านี้แค่ไหน ไม่มีใครยื่นมือช่วยเหลือพวกเขามาโดยตลอด จนสูญเสียความหวังที่จะใช้ชีวิตต่อไปในอนาคต สูญเสียความเชื่อใจที่มีต่อครู สังคม ผู้ใหญ่ทุกคนในเมืองแห่งนั้นที่ปิดหูปิดตาให้กับความเลวทราม ให้กับคนสันดานหมาชาตินรกในคราบนักบุญผู้อุปการะดูแลผู้พิการ จังหวะที่เด็ก ๆ เล่าให้เห็นถึงความโหดร้ายเหล่านั้น มันบีบหัวใจเหลือเกิน โดนจนนับครั้งไม่ได้ โดนจนเกือบจะชินชา มันหนักหนาจริง ๆ

นอกจากนี้คือ นิยายยังสะท้อนให้เห็นถึงสังคมเมืองอันเป็นเบ้าหลอมที่สำคัญของเรื่องราวตรงนี้ เมืองที่ผู้คนต่างเมินเฉยต่อความผิด หลับตาข้างเดียว ฟังความฝ่ายเดียว เลือกรับแต่สิ่งดี ๆ แต่ทิ้งปัญหาหมกไว้ใต้พรม เรื่องราวมันถึงได้เลวร้ายและยาวนานมาได้หลายสิบปี แต่ที่เหี้ยยิ่งกว่าคือ "อำนาจและเงิน" มีบทบาทมากกว่าชีวิตคน ใช้มันปกปิดความผิดจนเคยตัว อะไร ๆ ก็แก้ปัญหาด้วยเงิน สินบน เส้นสาย เมืองเหี้ยนี้แทบไม่เหลือพื้นที่ปลอดภัยให้กับเด็ก ๆ เหล่านี้ได้เลย

เป็นนิยายที่ตีแผ่สังคมได้สุดจริง ๆ ครับ ไม่มีใครในเรื่องขาวหรือดำสนิท ชีวิตเทา ๆ กันแทบทุกคน ยิ่งตัวเอกยิ่งเห็นชัด ยังมีกิเลส มีความเห็นแก่ตัว โกหก ขี้ขลาด แต่อย่างน้อยเขายังมีสิ่งที่เรียกว่า "สำมัญสำนึก" และเลือกจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง

ใครไม่พร้อมไม่ต้องอ่านก็ได้นะ มันหนักหนาสาหัสจริง ๆ เรื่องราวมันหนักหน่วงโหดร้ายต่อจิตใจมาก และยิ่งรู้ว่า นี่อ้างอิงจากเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริงในเกาหลีใต้ ยิ่งสะเทือนใจเข้าไปใหญ่ ดังนั้น ไม่ไหวก็ไม่ต้องอ่านก็ได้นะ แต่ถ้าอยากสัมผัสกับรสขมยิ่งอมถ่าน ลองดูได้ครับ มาร่วมแบ่งปันความทุกข์ยากนี้ด้วยกัน...

เสียงที่ไม่มีใครได้ยิน
คงจีย็อง เขียน
มินตรา อินทรารัตน์ แปล
Page Publishing
ราคาปก 395 บาท
หน้า 381 หน้า

ชอบหนังสือ ชอบอ่าน ชอบเสียงพลิกกระดาษ ชอบสัมผัสเนื้อกระดาษ ชอบกลิ่นหนังสือทั้งเก่าและใหม่ แม้หลายครั้งจะหวั่นไหวกับราคาห...
08/12/2024

ชอบหนังสือ ชอบอ่าน ชอบเสียงพลิกกระดาษ ชอบสัมผัสเนื้อกระดาษ ชอบกลิ่นหนังสือทั้งเก่าและใหม่ แม้หลายครั้งจะหวั่นไหวกับราคาหนังสือที่แพงไปหน่อย แต่ก็ยังซื้อมาดองไว้ก่อนอยู่ดี

เมื่อไหร่จะอ่านหมด 😏
07/12/2024

เมื่อไหร่จะอ่านหมด 😏

"ใครโกหกยกมือขึ้น" คือนิยายแนวสืบสวนจิตวิทยาสะท้อนสังคมอันโด่งดังในประเทศญี่ปุ่น จากผลงานของ 'อาซาคุระ อากินาริ' ผู้เขีย...
06/12/2024

"ใครโกหกยกมือขึ้น" คือนิยายแนวสืบสวนจิตวิทยาสะท้อนสังคมอันโด่งดังในประเทศญี่ปุ่น จากผลงานของ 'อาซาคุระ อากินาริ' ผู้เขียนเดียวกับเล่ม "คดีดราม่าทวีตล่าฆาตกร" นั่นเอง

ซึ่งเรื่องราวนี้จะเกี่ยงข้องกับนักศึกษาทั้ง 6 คนที่ยื่นสมัครงานกับบริษัทยักษ์ใหญ่ในตำแหน่งเดียวกัน เดิมทีทางบริษัทตั้งใจจะรับพวกเขาทั้งหมด แต่แล้วบริษัทกลับเปลี่ยนแผน โดยแจ้งว่า จะมีเพียง 1 คนเท่านั้นที่ได้รับเลือกเป็นพนักงานบริษัทแห่งนี้ และจะคัดเลือกจากความสมัครใจของทุก ๆ คน...

จาก 6 ต้องเหลือ 1 ไม่มีอีกแล้วความร่วมมือ มีเพียงผู้แพ้กับผู้ชนะ สงครามประสาทแห่งคำโป้ปดจึงได้เริ่มต้นขึ้น ใครกันที่เริ่มโกหก ใครกันที่คิดหลอกลวง ปริศนานี้จะจบลงที่ตรงไหน ลองยกมือสิเดี๋ยวบอกคำตอบให้...

นอกจากเวอร์ชั่นนิยายแล้ว เรื่องนี้ยังถูกดัดแปลงเป็นมังงะ 3 เล่มจบ (ในชื่อเดียวกัน) ซึ่งยังไม่มีเจ้าไหน LC ชุดนี้มาแปลไทยนะครับ

และอีกเวอร์ชั่นนั่นคือภาพยนตร์ (ในชื่อเดียวกัน) มีกำหนดฉายในโรง 20 ธันวาคมนี้ในไทยแล้วครับ หากได้ชมแล้ว เดี๋ยวมาเขียนรีวิวกันอีกทีนะครับ ยังเหลือเวลาอ่านอีก 2 สัปดาห์ ใครยังไม่ลองแนะนำเลยครับ

🥹
06/12/2024

🥹

เห็นแล้วอยากได้โว้ย!!! นี่คือ Boxset ซีรีส์ชุด The Robert Hunter 13 เล่มขอบเลือด!!! เรียงตัวอักษร"R O B E R T _ H U N T ...
05/12/2024

เห็นแล้วอยากได้โว้ย!!! นี่คือ Boxset ซีรีส์ชุด The Robert Hunter 13 เล่มขอบเลือด!!! เรียงตัวอักษร

"R O B E R T _ H U N T E R" (13 ตัวพอดี)

โคตรเท่ โคตรอันตราย หวังว่าตอนแปลไทยถึงเล่มที่ 13 แล้ว ทาง สนพ. จะพิจารณาทำ Boxset แบบนี้หน่อยนะครับ 🙏🩸❤️

พฤหัสอ่าน | 5 ธ.ค. 67 | Week 49ชวนทุกคนมาใช้เวลาว่างทุกวันพฤหัสบดีไปกับ "การอ่านหนังสือ" ไม่ว่าจะหนังสือเรียน การ์ตูน นิ...
05/12/2024

พฤหัสอ่าน | 5 ธ.ค. 67 | Week 49

ชวนทุกคนมาใช้เวลาว่างทุกวันพฤหัสบดีไปกับ "การอ่านหนังสือ" ไม่ว่าจะหนังสือเรียน การ์ตูน นิยาย หรือแม้แต่นิตยสารก็ได้เช่นกัน (อ่านรูปแบบใดก็ได้) ซึ่งเราจะตั้งโพสต์แจ้งเตือนแบบนี้ทุกวันพฤหัสบดี (ตลอดจนถึงสิ้นปีเลย) ไม่มีการบังคับ ใครอยากมาร่วมสนุกท้าทายตัวเองไปด้วยกัน เราก็ยินดีมากครับ

ขอให้มีความสุขกับการอ่านหนังสือนะครับ ❤

🤏📚
05/12/2024

🤏📚

[Spoiler Alert] สรุปผังตัวละครจากเรื่อง "The Night Stalker" (นักตั้งเวลาตาย) นิยายลำดับที่ 3 ในซีรีส์ชุด The Robert Hunt...
04/12/2024

[Spoiler Alert] สรุปผังตัวละครจากเรื่อง "The Night Stalker" (นักตั้งเวลาตาย) นิยายลำดับที่ 3 ในซีรีส์ชุด The Robert Hunter Series

"นักตั้งเวลาตาย" (The Night Stalker) เป็นนิยายแนวสืบสวนระทึกขวัญจิตวิทยาสายโหด ลำดับที่ 3 ของซีรีส์ชุด The Robert Hunter Series เขียนโดย Chris Carter ซึ่งเคยแปลไทยแล้วในชื่อ "คืนเพชฌฆาต" นั่นเอง

"มันอยู่ในตัวแก"

ทุกอย่างมันเริ่มต้นจากเหตุสุดวิสัย เมื่อจู่ ๆ ศพหญิงสาวนิรนามเกิดระเบิดขึ้นในห้องชันสูตร ทำให้หมอวินสตันและผู้ช่วยเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที นักสืบโรเบิร์ตและคู่หูของเขาการ์เซีย พบความไม่ชอบมาพากล ศพถูกเย็บปิดปาก ปิดอวัยวะเพศ ฆาตกรใส่อะไรบางอย่างในตัวเธอ ก่อนเย็บปิด และรอเวลาที่มันจะคร่าชีวิตเธอ... ฆาตกรรายนี้บิดเบี้ยวกว่าครั้งไหน ๆ มีกี่คนที่ถูกลักพาตัวไป มันทำอะไรกับเหยื่อของมันกันแน่ เตรียมเสียวสันหลังวาบกับวิธีสังหารเหยื่อที่คุณจะนึกไม่ถึง!!!

---

ผังตัวละครชุดนี้ ผมพยายามใช้ชื่อตัวละครเกือบทุกตัวที่มีบทบาททั้งหมดในนิยาย มีบ้างที่ตัดบางตัวละครออกเพราะมีบทน้อยหรือแค่กล่าวลอย ๆ ไม่มีมูลเหตุอะไรเป็นพิเศษ แต่โดยหลักแล้วคาดว่าอยู่ครบทุกตัว และจะสานต่อไปยังเล่มถัดไปว่า ใครอยู่ต่อหรือหายไปบ้าง ซึ่งผมจะค่อย ๆ เก็บรวบรวมทำผังขนาดใหญ่อีกทีครับ

ส่วนคอนเทนต์อื่น ๆ ในชุดนี้ กำลังทยอยทำนะครับ รอติดตามต่อไปนะครับ จะพยายามทำออกมาให้รู้เรื่องที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ 😅

ปล. บอกได้นะครับ ถ้าดูผังไม่ออก หรือถ้ามองไม่เห็น สามารถขอไฟล์ PDF ได้นะครับ

ที่อยู่

Bangkok
10210

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ JUST READผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

วิดีโอทั้งหมด

แชร์