เอกรัฐออนไลน์

เอกรัฐออนไลน์ นำเสนอข่าวสารภายในจังหวัดเพชรบูรณ?

เพชรบูรณ์ หนุ่มโปรแกรมเมอร์เสียชีวิตญาติบริจาคอวัยวะช่วยชีวิตผู้อื่นได้อีกถึง 4 คนวันที่ 25 ธ.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่...
25/12/2024

เพชรบูรณ์ หนุ่มโปรแกรมเมอร์เสียชีวิตญาติบริจาคอวัยวะช่วยชีวิตผู้อื่นได้อีกถึง 4 คน
วันที่ 25 ธ.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ได้มีผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อมาคือนายชวลิต เอี่ยมสะอาด อายุ 42 ปี ชาว อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ และญาติได้บริจาคอวัยวะให้กับสภากาชาดไทย โดยมีแพทย์หญิงศรีสุดา ทรงธรรมวัฒน์ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ เป็นตัวแทนมอบประกาศเกียรติคุณและหรีดเคารพศพโดยมีแม่และน้องสาวของผู้เสียชีวิตเป็นผู้รับมอบ
นางสาวเกศินี เอี่ยมสะอาด น้องสาวของผู้เสียชีวิต อายุ 37 ปีเปิดเผยว่าพี่ชายของตนเองทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ให้กับบริษัท ปตท.โดยทำงานอยู่ที่บ้าน แต่เนื่องจากพี่ชายมีโรคประจำตัวคือโรคความดันสูง ในรุ่งเช้าเวลาประมาณตี 5 ของวันที่ 23 ธ.ค.2567 พบว่าพี่ชายของตนเองนอนฟุบอยู่หน้าห้องน้ำ จึงได้โทรแจ้ง 1669 เพื่อนำไปรักษาที่โรงพยาบาลบึงสามพัน และได้ส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลเพชบูรณ์ แต่แพทย์ได้แจ้งว่าพี่ชายมีภาวะสมองตาย ซึ่งในทางการแพทย์ถือว่าเสียชีวิตแล้ว และได้มีเจ้าหน้าที่มาแจ้งถึงโครงการบริจาคอวัยวะเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้อื่น สำหรับตนเองเห็นดีด้วยและเข้าใจถึงโครงการนี้ดี เพราะตนเองก็แจ้งความจำนงค์ในการบริจาคอวัยวะของตนเองไว้กับสภากาชาดไทยแล้วด้วย แต่ก็ต้องปรึกษาภรรยาและญาติๆ ซึ่งทุกคนก็เห็นดีด้วย เพราะพี่ชายเป็นคนชอบทำบุญอยู่แล้ว และครั้งนี้ถือว่าเป็นการทำบุญครั้งยิ่งใหญ่ของพี่ชายเพราะอวัยวะที่บริจาคสามารถนำไปช่วยชีวิตผู้อื่นได้อีกหลายคน
แพทย์หญิงศรีสุดา ทรงธรรมวัฒน์ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่าคนไข้มาด้วยอาการเลือดออกในสมอง ซึ่งแพทย์ก็ได้ทำการดูแลรักษาอย่างเต็มที่ แต่ต่อมาคนไข้มาอาการสมองตายในทางการแพทย์ถือว่าเสียชีวิตแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้ไปพูดคุยถึงโครงการบริจาคอวัยวะเพื่อช่วยเหลือคนอื่น ซึ่งญาติก็ยินดีที่จะบริจาค โดยอวัยวะที่บริจาคได้ประกอบด้วยไต 2 ข้าง ดวงตา 2 ข้าง ซึ่งสามารถนำไปช่วยให้บุคคลอื่นได้มีชีวิตใหม่ได้อีกถึง 4 คน ถือว่าเป็นมหาทานมหากุศลอันยิ่งใหญ่ในการให้ชีวิตผู้อื่น และเชื่อว่าผลบุญในครั้งนี้จะส่งผลให้ผู้บริจาคอวัยวะได้ไปสู่ภพภูมิที่ดี ดังนั้นจึงอยากจะเชิญชวนชาวเพชรบูรณ์และชาวไทยแสดงเจตจำนงค์ในการที่จะบริจาคอวัยวะได้ที่โรงพยาบาลทุกแห่งทั่วประเทศ
ด้านพระมหาภาคภูมิ ภัททเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุพระอารามหลวงซึ่งได้เดินทางมารับกิจนิมนต์รับบาตรเนื่องในวันปีใหม่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ได้กล่าวสัมโมทนียคาถาว่าคนเราถ้าเสียชีวิตแล้วเผาทิ้งก็จบเลยไร้ประโยชน์ แต่ถ้าได้เอาร่างกายมาเป็นประโยชน์กับคนต่อๆไปถือว่าหัวใจเขายิ่งใหญ่มาก

เขาค้อเปิดงานเทศกาลท่องเที่ยวฤดูหนาวอำเภอเขาค้อ “อบหมอก กอดหนาว ดูดาว ที่เขาค้อ” ครั้งที่ 22 เมื่อวันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม...
22/12/2024

เขาค้อเปิดงานเทศกาลท่องเที่ยวฤดูหนาวอำเภอเขาค้อ “อบหมอก กอดหนาว ดูดาว ที่เขาค้อ” ครั้งที่ 22
เมื่อวันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม 2567 นายศรัณยู มีทองคำ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ มอบหมายให้นายสมพงษ์ หอมสนิท ปลัดจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดงานเทศกาลท่องเที่ยวฤดูหนาวอำเภอเขาค้อ “อบหมอก กอดหนาว ดูดาว ที่เขาค้อ” ครั้งที่ 22 ประจำปี พ.ศ. 2567 และกิจกรรมเดินแบบผ้าไทยการกุศล "ผ้าไทยใส่ให้สนุกอำเภอเขาค้อ"ณ บริเวณจุดชมวิวอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
นายสุเทพ เบียร์ดี นายอำเภอเขาค้อ กล่าวว่าการจัดงานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวอำเภอเขาค้อ ให้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวในพื้นที่จำนวนมากขึ้น และเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่อำเภอเขาค้อ และจังหวัดเพชรบูรณ์ มีรายได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งในปีนี้กำหนดจัดงานในวันที่ 21 - 25 ธันวาคม พ.ศ. 2567 ณ บริเวณจุดชมวิวอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ในการจัดกิจกรรมวันดังกล่าว ประกอบด้วย การเดินขบวนพาเหรดของส่วนราชการ และภาคเอกชน การแสดงของ ชมรม TO BE NUMBER ONE , บาสโลบ โดยชมรม อสม. อำเภอเขาค้อ , การแสดงสาวม้งรำกระด้ง โดย อบต.เข็กน้อย บริเวณจุดชมวิวอำเภอเขาค้อ และ รับชมวีดีทัศน์ (VTR) “เปิดเทศกาลท่องเที่ยวอำเภอเขาค้อ”, ชุดการแสดง “นวัตวิถีม้ง” โดยกลุ่มสตรีตำบลเข็กน้อย, ชุดการแสดง “Amazing วิถีชนเผ่าม้ง รุ่งเรือง กระเดื่องแดนดิน ในถิ่นสยาม” โดยโรงเรียนร่มเกล้าเขาค้อ เพชรบูรณ์ พิธีเปิดฯ และการเดินแบบผ้าไทย ณ เวทีกลางจุดชมวิวอำเภอเขาค้อ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานในพื้นที่ นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 5 แห่ง ผู้บริหารสถานศึกษา กำนัน ผู้ใหญ่บ้านฯลฯ และนักท่องเที่ยว เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว

เพชรบูรณ์ ลูกสาวบริจาคดวงตาของพ่อที่เสียชีวิตให้แก่สภากาชาดไทย หลังคนในครอบครัวเคยมีประสบการณ์รอรับบริจาคถึง 3 ปี วันที่...
22/12/2024

เพชรบูรณ์ ลูกสาวบริจาคดวงตาของพ่อที่เสียชีวิตให้แก่สภากาชาดไทย หลังคนในครอบครัวเคยมีประสบการณ์รอรับบริจาคถึง 3 ปี
วันที่ 21 ธ.ค.2567 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตและญาติได้บริจาคกระจกตาทั้ง 2 ข้างให้ศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย โรงพยาบาลวิเชียรบุรี เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยรายอื่นได้มองเห็นต่อไปด้วยขณะนี้ได้นำร่างของผู้เสียชีวิตมาตั้งบำเพ็ญกุศล ณ บ้านเลขที่ 269 หมู่ 15 ต.สระกรวด อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ จึงเดินทางไปตรวจสอบพบว่าบ้านหลังดังกล่าวมีญาติๆ และชาวบ้านมาร่วมไว้อาลัย และร่วมอนุโมทนาบุญกุศลครั้งสุดท้ายที่ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้
นางสาวศรีสุวรรณ ศรีปะโค อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นบุตรสาวของผู้บริจาคอวัยวะ (กระจกตา) เล่าว่า พ่อป่วยด้วยอาการเลือดออกในสมอง เข้ารักษาตัวที่ รพ.ศรีเทพ และได้ส่งต่อรักษาตัวที่โรงพยาบาลวิเชียรบุรี ระหว่างการรักษาได้มีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลมาติดต่อชักชวนให้บริจาคดวงตาของพ่อ ซึ่งตอนแรกก็ตกใจ แต่หลังจากได้ศึกษาเอกสารก็มีความเข้าใจในระดับหนึ่ง ประกอบกับคนในครอบครัว มีประสบการณ์ในการรอรับบริจาคกระจกตา ซึ่งต้องรอนานถึง 3 ปี จนต้องตัดสินใจจ่ายเงินทำเลสิคเองมาแล้ว จึงมีความคิดว่าจะบริจาคอวัยวะกระจกตาของพ่อ แต่ทั้งนี้พ่อไม่เคยแสดงความจำนงค์ขอบริจาคอวัยวะมาก่อน จึงเป็นภาระการตัดสินใจของญาติที่ต้องตัดสินใจแทน ส่วนหนึ่งคิดว่า จะได้เป็นกุศลและขอกุศลแห่งบุญครั้งนี้ ส่งดวงวิญญาณของพ่อสู่ภพภูมิที่ดี ญาติๆทุกคนจึงตัดสินใจร่วมกันที่จะบริจาคกระจกตาให้สภากาชาดไทยในที่สุด
นางสาวศรีสุวรรณ ศรีปะโค เปิดเผยว่าอยากขอบอกทุกคนว่า มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด การบริจาคดวงตาไม่ได้ควักดวงตาออก แต่เป็นการผ่าตัดเอาเพียงกระจกตา ไม่ได้ทำให้ร่างกายของผู้เสียชีวิต จนน่ากลัวหรือผิดปกติแต่ย่างใด อีกทั้งผู้บริจาคและครอบครัว ได้รับการดูแลจากคณะผู้บริหารโรงพยาบาลวิเชียรบุรีเป็นอย่างดี พร้อมมอบเกียรติบัตรและพวงหรีดเคารพศพ แก่ครอบครัว ศรีปะโค และช่วยเหลือดูแลในการจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพให้อีกด้วย
ด้านนายเชิดชัย คงจำนงค์ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร โรงพยาบาลวิเชียรบุรี กล่าวว่า ศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย โรงพยาบาลวิเชียรบุรี เปิดทำการมาตั้งแต่ ปี พ.ศ.2566 สำหรับนายสว่าง ศรีประโค เป็นผู้บริจาครายที่ 3 ของศูนย์ดวงตาฯ ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่ส่งมาจากโรงพยาบาลศรีเทพ อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ส่งมาทำการรักษาต่อที่โรงพยาบาลวิเชียรบุรี และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ผู้ป่วยไม่ได้แจ้งความประสงค์บริจาคอวัยวะไว้ แต่ญาติมีประสบการณ์จากการอรับบริจาคอวัยวะ จึงเห็นความสำคัญและพูดคุยกับผู้บริจาคก่อนเสียชีวิต ญาติทั้งหมดจึงตกลงกันบริจาคอวัยวะกระจกตาดังกล่าว

ผู้ว่าลุยสำรวจเลยดั้นและถ้ำใหญ่น้ำหนาวพร้อมหาแนวทางส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยววันที่ 21 ธ.ค. 67 นายศรัณยู มีทองคำ ผู้ว่าราชก...
22/12/2024

ผู้ว่าลุยสำรวจเลยดั้นและถ้ำใหญ่น้ำหนาวพร้อมหาแนวทางส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยว
วันที่ 21 ธ.ค. 67 นายศรัณยู มีทองคำ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วย นายสมพงษ์ หอมสนิท ปลัดจังหวัดเพชรบูรณ์ นายธีรศักดิ์ ศรีสมพงษ์ นายอำเภอน้ำหนาว และคณะ ตรวจเยี่ยมพื้นที่ และสถานที่ท่องเที่ยว อ.น้ำหนาว เลยดั้น ลานหินมหัศจรรย์ และถ้ำใหญ่น้ำหนาว ต.หลักด่าน อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ เพื่อมอบนโยบายแก่ผู้เกี่ยวข้องในการส่งเสริมการท่องเที่ยว ดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว พร้อมทั้งนำมาวางแนวทางในการพัฒนาให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
เลยดั้น หรือลานหินเลยดั้น ตั้งอยู่ที่บ้านห้วยกะโปะ หมู่ 6 ตำบลหลักด่าน อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ อยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ติดกับลำน้ำเลย มีลักษณะเป็นลานหินทรายขนาดใหญ่ขวางลำน้ำ คล้ายสะพานหินข้ามแม่น้ำ บริเวณลานหินเต็มไปด้วยหลุมบ่อขนาดใหญ่-เล็ก ลึกลงไปในเนื้อหินคล้ายหลุมขนมครก ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของสายน้ำนานกว่า 100 ปี โดยลักษณะการกัดกร่อนของชั้นหินทรายนี้ มีชื่อเรียกทางวิชาการว่า กุมภลักษณ์ (Potholes) สามารถเห็นการกัดกร่อนได้ถึง 5 แบบ คือ แบบวงกลม แบบวงรี แบบเสาหิน แบบสะพานหิน และแบบกัดเซาะด้านข้าง นับเป็นความแปลกพิสดารและความสวยงามที่ธรรมชาติได้สร้างขึ้น
นอกจากนี้สิ่งที่เป็นความมหัศจรรย์อีกหนึ่งอย่างของเลยดั้น คือ การวางตัวของชั้นหินทราย จะเป็นการวางชั้นหินหันเข้าหาด้านต้นน้ำ น้ำที่ไหลลงมาตามชั้นหินเกิดการมุดตัวลงไปใต้ผิวดินหรือชั้นหิน แล้วไหลไปออกยังที่ต่ำกว่าที่อยู่ไกลออกไปทางปลายน้ำ ทำให้ดูเหมือนว่าสายน้ำในฤดูแล้งขาดหายไปเป็นช่วง ๆ จึงเป็นที่มาของชื่อ เลยดั้นนั่นเอง
ความสวยงามของลานหินเลยดั้นจะเห็นได้ชัดในช่วงฤดูแล้งที่ไม่มีน้ำท่วมสูง ประมาณเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม เพราะลานหินจะโผล่พ้นน้ำขึ้นมาชัดเจน นักท่องเที่ยวสามารถลงไปถ่ายภาพเก็บความประทับใจกันได้

เจริญอายุวัฒนเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อห้ามจนและเบิกเนตรท้าวเวสสุวรรณหน้าเทวดา 4 กร ผู้ร่วมพิธีไม่พลาดส่องเลขหางประทัด หวังโชคด...
22/12/2024

เจริญอายุวัฒนเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อห้ามจนและเบิกเนตรท้าวเวสสุวรรณหน้าเทวดา 4 กร ผู้ร่วมพิธีไม่พลาดส่องเลขหางประทัด หวังโชคดีต้อนรับปีใหม่
วันที่ 21 ธ.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่วัดใหม่สามัคคี (วัดหลวงพ่อห้ามจน) ต.ห้วยโป่ง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ได้มีการจัดพิธีทำบุญเนื่องในโอกาสเจริญอายุวัฒนมงคล ครบ46ปี พระครูอุปถัมภ์พัชรากร เจ้าอาวาสวัดฯ โดยได้รับความเมตตาจากพระพรหมวชิรานุวัตร เจ้าอาวาสวัดบพิตรพิมุขวรวิหาร กรุงเทพฯเป็นประธานรวมทั้งได้กราบอาราธนานิมนต์พระเกจิคณาจารย์ และพระเถรานุเถระในจังหวัดเพชรบูรณ์ และทั่วประเทศร่วมประกอบพิธีฯ พร้อมกันนี้ได้มีพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมพิธีในครั้งนี้จำนวนมาก
ทั้งนี้ก่อนที่จะมีพิธีเจริญอายุวัฒนมงคล ได้มีพิธีบวงสรวงเทพยาดาเพื่อประกอบพิธีเบิกเนตรท้าวเวสสุวรรณหน้าเทวดา นามว่า “สุพรรณพัชร” ปางจตุมหาราช 4 กรหรือ 4 มือ มีหนึ่งเดียวในจังหวัดเพชรบูรณ์ที่วัดใหม่สามัคคีได้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่บริเวณหน้าซุ้มประตูวัด มีขนาดความสูง 5.5 เมตร โดยมือ 2 ข้างถือหีบสมบัติชูขึ้นในระดับไหล่ มือที่สามถือไม้กระบอง ส่วนมือที่สี่ยื่นไปข้างหน้าเหมือนพระปางห้ามญาติ โดยที่ฝ่ามือมีอักษรเขียนว่า “ห้ามจน” โดยได้รับความเมตตาจากพระพรหมวชิรานุวัตร เจ้าอาวาสวัดบพิตรพิมุขวรวิหาร และพระธรรมสุธี ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 1 เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง กรุงเทพมหานครขึ้นกระเช้ารถเครนอธิฐานจิตเบิกเนตรเพื่อความเข้มขลัง
โดยหลังเสร็จพิธีเบิกเนตรได้มีการจุดประทัดมงคลถวายองค์ท้าวเวสสุวรรณหลังสิ้นเสียงประทัดผู้ที่ร่วมพิธีต่างก็แห่เข้าไปดูเลขหางประทัดเพื่อนำไปเป็นแนวทางในการเสี่ยงโชค หวังโชคดีต้อนรับปีใหม่โดยตัวเลขที่ปรากฏคือ 43และ815
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับวัดใหม่สามัคคีหรือวัดหลวงพ่อห้ามจนให้มีการอัญเชิญท้าวเวสสุวรรณ 4 กร หน้ายักษ์มาประดิษฐานและได้มีพิธีเบิกเนตรเมื่อวันที่ 9 พ.ย.2567 ที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้มีผู้โชคดีและได้จ้างลิเกมาแสดงเพื่อเป็นการแก้บนด้วย

เริ่มแล้วงานประเพณีเผาข้าวหลาม และมหกรรมของดีอำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์วันที่ 21 ธ.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช...
21/12/2024

เริ่มแล้วงานประเพณีเผาข้าวหลาม และมหกรรมของดีอำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์
วันที่ 21 ธ.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ วันที่ 20 ธันวาคม 2567 นายศรัณยู มีทองคำ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานเปิดงานประเพณีเผาข้าวหลาม และมหกรรมของดีอำเภอน้ำหนาวจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมี นายธีรศักดิ์ ศรีสมพงษ์ นายอำเภอน้ำหนาว กล่าวรายงาน พร้อมด้วย นายสมพงษ์ หอมสนิท ปลัดจังหวัดเพชรบูรณ์ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นักท่องเที่ยว และประชาชน เข้าร่วมที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์
ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่างานประเพณีเผาข้าวหลามและมหกรรมของดีอำเภอน้ำหนาว ประจำปี พ.ศ. 2567 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 - 22 ธันวาคม 2567 ณ สนามศูนย์ราชการอำเภอน้ำหนาว จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของอำเภอน้ำหนาว และส่งเสริมการท่องเที่ยว เป็นประเพณีที่เกิดมาจากสภาพความเป็นอยู่และวิถีชีวิตของชาวบ้านที่มีการดำรงชีวิตตามธรรมชาติในป่าน้ำหนาว งานประเพณีนี้ได้เริ่มขึ้นในช่วงต้นฤดูหนาวตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 จนถึงปัจจุบัน เพื่อเป็นการบ่งบอกถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่และปลูกฝังให้คนรู้สำนึกในคุณค่าของป่าไม้ รักษ์ป่า โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์จากป่าไม้ ป่าคือแหล่งอาหารที่สำคัญของชาว น้ำหนาว ข้าวหลามที่นำมาให้มนุษย์บริโภคนำมาจากป่าผืนนี้ ซึ่งในช่วงปลายเดือนธันวาคม จะเป็นช่วงข้าวใหม่ เหมาะกับการนำมาเผาในช่วงฤดูหนาว ชาวอำเภอน้ำหนาวจึงจัดงานประเพณีเผาข้าวหลามและของดีอำเภอน้ำหนาวทุกปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 เป็นต้นมา มีกิจกรรมการประกวดข้าวหลามจากทุกหมู่บ้าน ทั้งประเภทดั้งเดิมกระบอกใหญ่ยักษ์ และประเภทกระบอกเล็ก ข้าวดำ ข้าวขาว จะใส่ไส้เผือก ไส้ถั่วตามใจชอบ การประกวดขบวนแห่ของ แต่ละตำบล กิจกรรมการประกวดผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน การประกวดพันธุ์ข้าวพญาลืมแกงที่ใช้ทำข้าวหลาม การประกวดธิดาข้าวหลาม กิจกรรมมหรสพ กีฬา และสินค้าพื้นเมือง ซึ่งนับว่าเป็นเทศกาลที่สร้างความสุขให้แก่ประชาชนชาวอำเภอน้ำหนาวเป็นอย่างยิ่ง

18/12/2024
เปิดรับสมัครนางสาวนครบาลเพชรบูรณ์งานมะขามหวานเพชรบูรณ์วันที่ 18 ธ.ค.2567 ผู้สื่อข่าวายงานว่านายสืบพงษ์ นิ่มพูลสวัสดิ์ รอ...
18/12/2024

เปิดรับสมัครนางสาวนครบาลเพชรบูรณ์งานมะขามหวานเพชรบูรณ์
วันที่ 18 ธ.ค.2567 ผู้สื่อข่าวายงานว่านายสืบพงษ์ นิ่มพูลสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ประธานกรรมการฝ่ายจัดการประกวดนางสาวนครบาลเพชรบูรณ์ เป็นประธานการประชุมเตรียมการกำหนดหลักเกณฑ์การประกวดนางสาวนครบาลเพชรบูรณ์ ประจำปี 2568 ตามที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้กำหนดจัดงานมะขามหวาน นครบาลเพชรบูรณ์ ประจำปี 2568 ในระหว่างวันที่ 25 มกราคม - 2 กุมภาพันธ์ 2568 ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นงานที่มีกิจกรรมที่หลากหลายที่สามารถเอื้อถึงทิศทางการพัฒนาของจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อสนับสนุน และส่งเสริมผลิตผลทางการเกษตร โดยเฉพาะมะขามหวานเพชรบูรณ์ เพื่อประชาสัมพันธ์ แหล่งท่องเที่ยวเดิมและแหล่งท่องเที่ยวใหม่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในเขตจังหวัดและเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างความมั่นคงของประชาชนโดยเฉพาะเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้ยากไร้ และผู้ด้อยโอกาส จึงได้จัดให้มีการประกวดนางสาวนครบาลเพชรบูรณ์ ประจำปี 2568 ขึ้น
สำหรับผู้ที่จะเข้าประกวดนางสาวนครบาลเพชรบูรณ์ ประจำปี 2568 จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้ เป็นสุภาพสตรีต้องเป็นโสด ไม่เคยสมรสทั้งโดยนิตินัยและพฤตินัย มีอายุไม่ต่ำกว่า 17 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 25 ปีบริบูรณ์ในวันประกวด(วันที่ 31มกราคม 2568) เกิดในจังหวัดเพชรบูรณ์ หรือมีชื่อในทะเบียนบ้านในเขตจังหวัดเพชรบูรณ์ติดต่อกันมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือนจนถึงวันประกวด ไม่เคยได้รับตำแหน่งนางสาวนครบาลเพชรบูรณ์ ตำแหน่งรองชนะเลิศอันดันดับ 1 และตำแหน่งรองชนะเลิศ อันดับ 2 หากตรวจพบว่าผู้สมัครเข้ารับการประกวดผู้ใด เป็นผู้ที่ขาดคุณสมบัติจะถูกตัดสิทธิ์เข้าประกวดและรับรางวัล
ผู้ที่จะการสมัครเข้าประกวดจะต้องจัดส่งโดยที่ว่าการอำเภอ ส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน โดยจะเปิดรับสมัครในระหว่างวันที่ 6-17 มกราคม 2568 ในวันและเวลาราชการ ณ ห้องประชุมสภาเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ สำนักงานเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ โดยเปิดรับสมัครเพยง 50คน คนเท่านั้น และผู้สมัครต้องมาสมัครด้วยตนเองเท่านั้น พร้อมหลักฐานภาพถ่ายขนาด 2 นิ้ว จำนวน 2 ใบ, สูติบัตรฉบับจริงพร้อมสำเนา บัตรประจำตัวประชาชน ฉบับจริงพร้อมสำเนา และทะเบียนบ้านฉบับจริงพร้อมสำเนา จำนวน 2 ชุดโดยให้รับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ ยื่นพร้อมใบสมัคร ผู้สมัครจะต้องผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติจากคณะกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครเข้าร่วมประกวด ต้องรับการสแกนลายนิ้วมือในวันสมัครเข้าร่วมการประกวด และวันประกวดรอบชุดนครบาล เพื่อพิสูจน์ยืนยันว่าเป็นบุคคนเดียวกัน ผู้สมัครต้องจ่ายค่าประกันคนละ 1พันบาท โดยฝ่ายจัดการประกวดฯจะคืนให้ในวันสุดท้ายของการประกวด หากผู้สมัครไม่มาประกวดตามวัน/เวลาที่กำหนด ฝ่ายจัดการประกวดถือว่าสละสิทธิ์ จะไม่คืนเงินค่าประกันให้ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น และจะต้องทำบันทึกข้อตกลงและเงื่อนไขการประกวดนางสาวนครบาลเพชรบูรณ์ ประจำปี 2568 ผู้สมัครต้องส่งภาพถ่ายการแต่งกายชุดนครบาล ขนาด 4x6 นิ้ว ภาพถ่ายครึ่งตัว จำนวน 1 ภาพ และภาพถ่ายเต็มตัว จำนวน 1 ภาพ ส่งให้ฝ่ายรับสมัครในวันสมัครด้วย
สำหรับรางวัลการประกวดนางสาวนครบาลเพชรบูรณ์นั้นผู้ชนะเลิศจะได้รับรางวัลเงินสด 50,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศและสายสะพาย รองชนะเลิศ อันดับ 1ได้รับเงินสด 30,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศและสายสะพาย รองชนะเลิศ อันดับ 2 ได้รับเงินสด 20,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศและสายสะพาย และนอกจากนั้นยังมีรางวัลขวัญใจนางสาวนครบาลเพชรบูรณ์ โดยนับคะแนนจากดอกไม้กองเชียร์ เช็คเชียร์ ได้รับเงินสด 10,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศและสายสะพาย และรางวัลขวัญใจสื่อมวลชน ได้รับเงินสด 10,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศและสายสะพาย

29/11/2024

เตรียมจัดงาน เส็งกลอง ล่องโคมไฟ ไหว้พ่อขุนผาเมือง ประจำปี 2568 เพื่อเชิดชูพ่อขุนผาเมืองกษัตริย์นอกประวัติศาสตร์ผู้ขับไล่ขอมออกจากผืนแผ่นดินไทย
วันที่ 29 พ.ย.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 ที่ลานอนุเสาวรีย์พ่อขุนผาเมือง นายชนก มากพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วย ดร.ดิเรก ถึงฝั่ง อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ดร.วิศัลย์ โฆษิตานนท์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ นางสาวภคนันท์ วินิจฉัย ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่ง ประเทศไทย สาขาพิษณุโลก นายภาคภูมิ ภูมี นายอำเภอหล่มสัก ร่วมแถลงข่าวเตรียมจัดงานเส็งกลอง ล่องโคมไฟ ไหว้พ่อขุนผาเมือง ประจำปี 2568
สำหรับงานงานเส็งกลอง ล่องโคมไฟ ไหว้พ่อขุนผาเมือง ประจำปี 2568 กำหนดจัด ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2567 - 2 มกราคม 2568 เป็นงานเทศกาลของอำเภอหล่มสัก โดยถือกำเนิดมาจาก งานสมโภชอนุสาวรีย์พ่อขุนผาเมือง เมื่อปี พ.ศ. 2528 และจัดสืบต่อกันมาทุกปี ต่อมาได้เปลี่ยนชื่องานเป็น “งานเส็งกลอง ล่องโคมไฟ ไหว้พ่อขุนผาเมือง” โดยมี เพื่อเป็นการอนุรักษ์ และสืบสานงานประเพณีของชาวอำเภอหล่มสัก เพื่อเผยแพร่ประวัติ และเกียรติคุณพ่อขุนผาเมืองผู้สร้างประวัติศาสตร์ไทยให้เป็นอิสระจากขอม ให้เป็นที่รู้จักแก่เยาวชนและประชาชน ได้ทราบทั่วกัน เพื่อให้ราษฎรได้ดำรงประเพณี การสักการะอนุสาวรีย์พ่อขุนผาเมือง เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดเพชรบูรณ์ตามวิสัยทัศน์จังหวัด"ดินแดนแห่งความสุขของคนอยู่และผู้มาเยือน" และคำขวัญของจังหวัด"เมืองมะขามหวานอุทยานน้ำหนาว ศรีเทพเมืองเก่า เขาค้ออนุสรณ์ นครพ่อขุนผาเมือง" และ เพื่อหารายได้ไว้บูรณะ ทำนุบำรุง สถานที่ และอนุสาวรีย์พ่อขุนผาเมือง ให้มีความสมบูรณ์ สง่างาม สมเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวจังหวัดเพชรบูรณ์
สำหรับกิจกรรมในงานประกอบด้วยวันที่ 26 ธ.ค.2567 เวลา 16.00 น.พิธีสรงน้ำขอขมาบูชาองค์พ่อขุนผาเมือง วันที่ 28 ธ.ค.2567 เวลา 18.30 น.พิธีเจริญพระพุทธมนต์เย็นและอธิฐานจิต วันที่ 29 ธ.ค.2567 เวลา 07.00 น.พิธีบวงสรวง วางพวงมาลา เวลา 16.00 น.รำบวงสรวงและพิธีเปิดงาน วันที่ 30 ธ.ค.2567 เวลา 18.30 น.กิจกรรมทู บี นัมเบอร์ วัน วันที่ 31 ธ.ค.2567 เวลา 08.00 น.การประกวดการแข่งขันการร้องเพลงสรภัญญะ การประกวดทำบายศรีสามชั้น การประกวดการทำโต๊ะหมู่บูชา เวลา 18.00 น.การประกวดธิดาพ่อขุนผาเมือง วันที่ 1 ม.ค.2568 เวลา 08.000 น.การประกวดเส็งกลอง เวลา 19.00 น.พิธีเปิดงานเส็งกลองฯ วันที่ 2 ม.ค.2568 ชมหมอลำวงดังฟรี
นายภาคภูมิ ภูมี นายอำเภอหล่มสักเปิดเผยว่าในปีนี้เป็นปีครอบรอบ 40 ปี อนุสาวรัย์พ่อขุนผาเมือง จึงได้จัดกิจกรรมยิ่งใหญ่ว่าทุกปี โดยเฉพาะการรำยอหัตถาบูชาพ่อขุนผาเมืองในวันที่ 29 ธ.ค.2567 มีผู้ที่มีจิตศรัทธาทั้งหญิงและชายมาร่วมกว่า 4 พันคน อีกทั้งการเส็งกลองเพื่อถวายองค์พ่อขุนนั้นได้มีผู้ที่จะนำกลองมาร่วมเส็งแล้ว 103 ใบ และนอกจากนั้นยังมีการแสดง แสดงละครประกอบแสง สี เสียง อิงประวัติศาสตร์เรื่องพ่อขุนผาเมือง การแสดงนิทรรศการประวัติและเกียรติคุณของพ่อขุนผาเมือง การออกร้านของหน่วยงานราชการ ร้านผลิตภัณฑ์ หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ และการจัดสรรรายได้ส่วนหนึ่งเป็นทุนการศึกษา แก่นักเรียนที่ตั้งใจเรียนแต่มีฐานะยากจน ดังนั้นจึงขอเชิญชาวเพชรบูรณ์และนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมพร้อมทั้งขอพรองค์พ่อขุนผาเมืองในวันขึ้นปีใหม่ ตามวันและเวลาดังกล่าว
สำหรับขุนผาเมืองทรงเป็นโอรสของพ่อขุนศรีนาวนำถม หัวหน้าชนเผ่าไทยกลุ่มหนึ่งมีน้องสาวชื่อนางเสือง มีลูกพี่ลูกน้องชื่อขุนบางกลางท่าว พุทธศตวรรษที่ 17 ของเป็นชาติที่มีอำนาจปกครองแหลมทองไทย แม้ตั้งเป็นชุมชนของตนเองก็ตกอยู่ภายใต้อำนาจของขอมด้วย ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ระยะนี้พ่อขุนศรีนาวนำถมได้ส่งพ่อขุนบางกลางท่าวไปซุ่มส้อมสุมผู้คนที่เมืองบางยาง (อ.นครไทย จ.พิษณุโลก) และพ่อขุนผาเมืองไปที่เมืองราด( ต.บ้านหวาย อ.หล่มสัก) เจ้าเมืองขอมพิจารณาเห็นว่าพ่อขุนผาเมืองมีฝีมือที่แข็งกล้า ต้องการเอาไว้เป็นพวกจึงยกพระนางสิงขรเทวีราชธิดา ให้เป็นมเหสีพร้อมกับพระราชทานบรรดาศักดิ์ว่า “กมรเต็งอัญศรีอินทรบดินทราทิตย์” แต่ด้วยความเจ็บแค้นของพระองค์ที่เห็นขอมภายใต้การนำของขอมสมาดโขลญลำพงที่ตั้งกองบัญชาการอยู่ที่กรุงสุโขทัย ดูถูกเหยียดหยามกดขี่ข่มเหงคนไทย ดังนั้นเมื่อมีโอกาสพระองค์ทรงนัดหมายกับพ่อขุนบางกลางท่าวเข้ายึดเมืองศรีสัชนาลัย ซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านของกรุงสุโขทัยไว้ได้
ถ้าพิจารณาโดยชอบแล้ว ตำแหน่งกษัตริย์ของกรุงสุโขทัย น่าจะเป็นของพ่อขุนผาเมือง แต่พระองค์ทรงมอบตำแหน่งนี้ให้กับพ่อขุนบางกลางท่าวทรงถวายพระนามว่า “พ่อขุนศรีอินทราทิตย์” พร้อมกับยกน้องสาวให้เป็นมเหสี เพราะทรงตระหนักดีว่ามเหสีของพระองค์เป็นขอมนับว่าเป็นการเสียสละอย่างใหญ่หลวงที่น่าสรรเสริญยิ่ง
เมื่อสถาปนาพ่อขุนบางกลางท่าวและพระนางเสืองครองเมืองเรียบร้อยแล้ว พ่อขุนผาเมืองจึงเดินทางกลับเมืองราด แต่ถูกพระนางสิงขร ทรงหาว่าทรยศต่อพระบิดา โดยขอให้ยกกำลังไปตีกรุงสุโขทัยคืนให้มาอยู่ใต้อำนาจของขอมเหมือนเดิม แต่พระองค์ไม่ยอม พระนางสิงขรจึงมีความแค้นและได้ลักลอบเผาเมืองราดจนเสียหาย ส่วนพระนางได้กระโดดน้ำตายในแม่น้ำป่าสัก
พ่อขุนผาเมืองจึงได้หนีจากเมืองราดล่องไปตามแม่น้ำป่าสักไปพักอยู่ที่เมืองศรีเทพ และเดินทางวกไปทางเมืองเวียงจันทร์ ในที่สุดได้ไปพักอยู่ที่เมืองละเม็ง( อ.เชียงแสน จ.เชียงราย) และสิ้นพระชนม์ ณ หมู่บ้านละเม็งนี้เอง
อารีย์ สีแก้ว จังหวัดเพชรบูรณ์ 064-3565598

27/11/2024

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเพชรบูรณ์ ปรับปรุงภูมิทัศน์และจัดระเบียบสายสื่อสาร ถนนเฉลิมพระเกียรติข้างศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์
เวลา 08.30 น. วันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ นายศรัณยู มีทองคำ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานเปิดกิจกรรมปรับปรุงภูมิทัศน์ตัดต้นไม้ใกล้แนวระบบจำหน่าย และจัดระเบียบสายสื่อสารโทรคมนาคมบนเสา กฟภ. บริเวณถนนเฉลิมพระเกียรติข้างศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมี นายเมธี บุญพรหมู ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 3 (ภาคเหนือ) จังหวัดลพบุรี กล่าวรายงาน พร้อมด้วย นายกกชัย ฉายรัศมีกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบูรณ์ หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาเมืองเพชรบูรณ์ เข้าร่วมกิจกรรม
นายเมธี บุญพรหม ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 3 (ภาคเหนือ) จังหวัดลพบุรี กล่าวว่า ด้วยสภาพความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยของสายสื่อสารเป็นปัญหาที่สะสมมาเป็นเวลานาน ยากต่อการแก้ไขให้สำเร็จในเวลาอันรวดเร็วโดยหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเพียงลำพัง ที่ผ่านมา PEA ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาด้วยหลากหลายวิธี ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการนำสายลงใต้ดิน และการแก้ไขปัญหาสายบนเสา แต่เนื่องจากการนำสายลงใต้ดินต้องใช้งบประมาณสูง อีกทั้งพื้นที่ความรับผิดชอบของ PEA มีมาก การนำสายลงดินจึงทำได้เพียงพื้นที่สำคัญๆ บางส่วนเท่านั้น โดยมุ่งเน้นแก้ไขปัญหาที่เสาไฟฟ้าเป็นหลักเพื่อเป็นมาตรฐานการดำเนินงานเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งประเทศ
นายเมธี บุญพรหม กล่าวต่อว่า ทาง PEA ได้จัดทำแผนปฏิบัติการจัดระเบียบสายสื่อสารโทรคมนาคมบนเสาไฟฟ้า เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการจัดการสาย และอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยอย่างเป็นระบบ เป็นการสร้างทัศนียภาพที่สวยงาม สร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยส่วนรวม รวมทั้งยังก่อให้เกิดความมั่นคงในระบบจำหน่ายไฟฟ้าของ PEA อีกด้วย นอกจากนี้ PEA ได้ขอความร่วมมือจากหน่วยงานผู้ประกอบการเจ้าของสายสื่อสารเข้าร่วมดำเนินการ ต่อจากนั้นจะเป็นกระบวนการยุบรวมสายสื่อสารให้มีสายคงเหลือเป็นไปตามมาตรฐานของ PEA ในที่สุด
ขอขอบคุณภาพ/ข่าว จากสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบูรณ์

คำเตือน!!!!!!เตรียมเสื่อ เสื้อ สติให้พร้อม แล้วมาสนุกด้วยกัน 🥳--------Chang Music Connection Presents Overcoat Music Fes...
26/11/2024

คำเตือน!!!!!!
เตรียมเสื่อ เสื้อ สติให้พร้อม แล้วมาสนุกด้วยกัน 🥳
--------
Chang Music Connection Presents
Overcoat Music Festival 2024 #14
ไม่อนุญาตให้นำบุหรี่ไฟฟ้าทุกรูปแบบเข้าภายในงาน
และไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่ภายในพื้นที่จัดงาน ยกเว้นพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ให้ ⚠️
📌 สถานที่จัดแสดง พื้นที่นั่งชม และทุกโซนภายในงานเป็นเขตปลอดบุหรี่ 📌
หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎ มีโทษทางกฎหมาย
--------
เทศกาลดนตรีรับลมหนาวใจกลางขุนเขา ⛰️🍃
📍07 DEC 2024
📍Jolly Land Starlight Amphitheater เขาค้อ เพชรบูรณ์
#เติมเต็มคำว่าเพื่อน

14/11/2024

เริ่มแล้วฟุตบอลสะเดียงคัพ มีทีมลงฟาดแข้ง 155 ทีม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงเย็นวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมาชมรมฟุตบอลสะเดียง จัดการแข่งขันฟุตบอล 7 คน ต้านยาเสพติด สะเดียงคัพ ครั้งที่ 24 โดยมี ดร.เสกสรร นิยมเพ็ง นายเทศมนตรีเมืองเพชรบูรณ์ เป็นประธานและมีแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมพิธีเปิด อาทิ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดเพชรบูรณ์ นายสมพงษ์ ทองหนูนุ้ย นายอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ดร.โกศลรอดมา รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตเพชรบูรณ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ อำนวยการโรงเรียนบ้านสะเดียง รวมทั้งชาวบ้านสะเดียง และกองเชียร์นักกีฬา เข้าร่วม ณ สนามโรงเรียนบ้านสะเดียง ต.สะเดียง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์
ก่อนพิธีเปิดได้มีขบวนพาเหรดโรงเรียนบ้านสะเดียงเชิญถ้วยและขบวนธงชาติเข้าสู่สนาม จากนั้นเป็นพิธีเปิดการแข่งขันโดย พ.ต.ท.ชูชาติ แก้วเรือง รอง ผกก.(สส.) สภ.บ้านโคก ประธานชมรมฟุตบอลบ้านสะเดียงในฐานะประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันฯกล่าวว่า ตามที่ชมรมฟุตบอลบ้านสะเดียง ร่วมกับกรมพลศึกษาและเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์และองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านสะเดียง ได้จัดให้มีการแข่งขันขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้เด็กและเยาวชน ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์หลังจากเลิกเรียนหันมาเล่นกีฬาเพื่อต่อด้านยาเสพติด การจัดการแข่งขันในครั้งนี้แบ่งการแข่งขันออกเป็น 8 ประเภทคือ เยาวชนอายุไม่เกิน 10 ปี เยาวชนอายุไม่เกิน 12 ปี เยาวชนอายุไม่เกิน 14 ปีเยาวชนอายุไม่เกิน 16 ปี หน่วยงาน อาวุโส ร0 ปีและประชาชนชาย ทำ การแข่งขัน ระหว่างวันที่ 12 พฤศจิกายน - 4 ธันวาคม 2567 มีทีมส่งเข้าร่วมทำการแข่งขันทั้งหมด จำนวน 155 ทีม
ด้าน ดร.เสกสรร นิยมเพ็ง นายเทศมนตรีเมืองเพชรบูรณ์ กล่าวว่า การจัดการแข่งขันฟุตบอล 7 คน ต้านยาเสพติด สะเดียงคัพ ครั้งที่ 24ในครั้งนี้ เป็นการจัดต่อเนื่องเรื่อยมา เป็นประจำทุกปี มีทีมส่งเข้าร่วมการแข่งขันมากมาย แสดงให้เห็นถึงความสมัครสมานสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจ เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคณะกรรมการชมรมฟุตบอลบ้านสะเดียง และพี่น้องชาวบ้านสะเดียงทุกท่าน โดยเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์สนับสนุนงบประมาณในการจัดการเเข่งขันตลอดมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังพิธีเปิดการแข่งขันได้มีการมอบเงินจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่อสนับสนุนการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ หลังจากนั้นได้มีการแข่งขันฟุตบอลคู่พิเศษระหว่างทีมยุติธรรมเพชรบูรณ์กับทีมหน่วยงานราชการ การแข่งขันเป็นไปอย่างสนุกสนาน ผลปรากฏว่าทีมหน่วยงานราชการสามารถเอาชนะไปด้วยสกอร์ประตู 2 ต่อ 1

12/11/2024

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม และเทศกาลวันลอยกระทง ประจำปี 2567
วันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บริเวณลานหน้าสถานีตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ พล.ต.ต.สารนัย คงเมือง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม ช่วงเทศการวันลอยกระทง ประจำปี 2567 โดยมี นายชนก มากพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ รักษาราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ พันเอก สาธิต ไวยนนท์ รองผู้บัญชาการ กองพลทหารม้าที่ 1, พันเอกภาณุมาส จีนานุรักษ์ รองผู้บัญชาการ มณฑลทหารบกที่ 36 พันเอก อาคม อินทร์พินิจ /ผู้แทน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเพชรบูรณ์, รองผู้บังคับการ ภ.จว.เพชรบูรณ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองเพชรบูรณ์ ,ท่าพล บ้านโคก ร่วมปล่อยแถว และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง เข้าร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้
พล.ต.ต.สารนัย คงเมือง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำหนดมาตรการ ป้องกันปราบปรามอาชญากรรม การรักษาความสงบเรียบร้อย และดูแลอำนวยความสะสะดวก ด้านการจราจร ในช่วงเทศกาลวันลอยกระทง ประจำปี 2567 และกำหนด ให้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรม ในระหว่างวันที่ 8 – 14 พฤศจิกายน 2567 โดยให้เพิ่ม ความเข้มข้นในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม/ ทุกประเภท /รวมถึงการบังคับใช้กฎหมาย/และมาตรการป้องกันการแข่งรถในทาง และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง อันเป็นต้นเหตุ ที่ก่อความเดือดร้อนแก่ประชาชน อย่างเด็ดขาด และเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ และป้องปรามเหตุ ตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ จึงได้จัดพิธีปล่อยแถวระดมกวาล้างอาชญากรรม โดยมีข้าราชการตำรวจ ประกอบด้วย สถานีตำรวจภูธรเมืองเพชบูรณ์ 50 นาย สถานีตำรวจภูธรท่าพล 20 นาย สถานีตำรวจภูธรบ้านโคก 20 นาย กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ 20 นาย ตำรวจทางหลวงจังหวัดเพชบูรณ์ ตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์ และ ตำรวจสันติบาลจังหวัดเพชรบูรณ์ ฝ่าย ทหารประกอบด้วย กองพลทหารม้าที่ 1 จำนวน 10 นาย มณฑลทหารบกที่ 36 จำนวน 10 นายและ กองอำนวยการรักษาความ มั่นคงภายในจังหวัดเพชรบูรณ์ฝ่ายปกครองประกอบด้วย พล กองร้อยอาสารักษาดินแดน จำนวน 10 นาย และอาสาสมัครตำรวจบ้าน จำนนวน 20 นาย เข้าร่วมพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม กันอย่างพร้อมเพียง ณ บริเวณหน้าอาคารที่ทำการ ตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์
พล.ต.ต.สารนัย คงเมือง กล่าวเพิ่มเติมและให้โอวาทแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานว่า ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งเป็นวันลอยกระทง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยประชาชนในทุกพื้นที่ จึงได้ออกมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ในช่วงเทศกาลลอยกระทง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน/พร้อมทั้ง ให้เพิ่มความเข้มข้น ในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ทุกประเภท โดยประสานความร่วมมือ บูรณาการ ร่วม 3 ฝ่ายซึ่งได้แก่ฝ่ายทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง ซึ่งถือเป็นภารกิจสำคัญร่วมกัน จึงขอให้ผู้ปฏิบัติภารกิจทุกนาย ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อสร้างความเชื่อมันให้กับประชาชน และขอเน้นย้ำในการปฏิบัติภารกิจ ให้ทุกคนปฏิบัติตามหลักยุทธวิธีตำรวจ และคู่มือการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สายงานป้องกันปราบปราม อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของตนเองและประชาชน
อารีย์ สีแก้ว 064-3565598

10/11/2024

พิธีทำบุญอายุวัฒนมงคลพระครูโอมวัดหลวงพ่อห้ามจนและพิธีเบิกเนตรท้าวเวสสุวรรณ 4 กร หนึ่งเดียวในเพชรบูรณ์
วันที่ 9 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่วัดใหม่สามัคคี ต.ห้วยโป่ง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันทั่วไปว่าวัดหลวงพ่อห้ามจน ได้จัดพิธีทำบุญอายุวัฒนมงคล 33 ปี พระครูปลัดปริยัติวัฒน์ เลขานุการรองเจ้าคณะอำเภอหนองไผ่ ผู้สร้างตำนานปลดหนี้ 100 ล้าน โดยได้รับความเมตตาจากพระพรหมวชิรานุวัตร เจ้าอาวาสวัดบพิตรพิมุขวรวิหาร กรุงเทพฯเป็นประธานรวมทั้งพระเถรานุเถระร่วมเจริญพระพุทธมนต์และมีพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ด้วย
หลังจากเสร็จพิธีทำบุญอายุวัฒนมงคลแล้ว ได้มีพิธีเบิกเนตรท้าวเวสสุวรรณ นาม“ท้าวหิรัญพัชร์“ ปางจตุมหาราช 4 กร โดยได้รับความเมตตาจากพระพรหมวชิรานุวัตร เจ้าอาวาสวัดบพิตรพิมุขวรวิหาร กรุงเทพฯ เบิกเนตรและประพรมน้ำมนต์ โดยระหว่างพิธีเบิกเนตรนั้นพระสงฆ์ผู้ทรงวิทยาคมจากวัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหารเจริญพระคาถาบทเทวาภิเษก
สำหรับท้าวเวสสุวรรณ นาม“ท้าวหิรัญพัชร์“ ปางจตุมหาราช 4 กรหรือ 4 มือ มีหนึ่งเดียวในจังหวัดเพชรบูรณ์ที่วัดใหม่สามัคคีได้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่บริเวณหน้าซุ้มประตูวัด มีขนาดความสูง 5.5 เมตร โดยมือ 2 ข้างถือหีบสมบัติชูขึ้นในระดับไหล่ มือที่สามถือไม้กระบอง ส่วนมือที่สี่ยื่นไปข้างหน้าเหมือนพระปางห้ามญาติ โดยที่ฝ่ามือมีอักษรเขียนว่า “ห้ามจน”
หลังเสร็จพิธีเบิกเนตรได้มีการจุดประทัดมงคลถวายองค์ท้าวเวสสุวรรณหลังสิ้นเสียงประทัดผู้ที่ร่วมพิธีต่างก็แห่เข้าไปดูเลขหางประทัดเพื่อนำไปเป็นแนวทางในการเสี่ยงโชคในงวดวันที่ 16 พฤศจิกายน 2567
อารีย์ สีแก้ว จังหวัดเพชรบูรณ์ 064-3565598

08/11/2024

แชะ ชิม ช็อป ริมเขื่อน ส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนบ้านป่าแดง
วันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 เวลา 18.00 น. ที่บริเวณหน้าโครงการชลประทานเพชรบูรณ์ สำนักงานชลประทานที่ 10 ตำบลป่าเลา อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ นายสมพงษ์ ทองหนูนุ้ย นายอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ เป็นประธานเปิด "โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนบ้านป่าแดง ตำบลป่าเลา อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์" โดยมี นายสุทธิศักดิ์ จงขจรพงษ์ หัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง ที่ทำการปกครองอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ กล่าวรายงาน พร้อมด้วย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ประชาชน และนักท่องเที่ยวเข้าร่วม
นายสุทธิศักดิ์ จงขจรพงษ์ หัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง ที่ทำการปกครองอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มอบ นโยบายของผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย กำหนดให้ 5 นโยบายหลักที่จะนำไปสู่เป้าหมายการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น ทั้ง 3 ด้าน คือ ด้านความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ และด้านความสะดวกสบาย ซึ่งมี 2 เรื่องหลักจากนโยบายหลัก 5 เรื่อง คือ สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ให้ประชาชน และ ส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนและสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ เห็นศักยภาพของพื้นที่บ้านป่าแดง จึงได้ขับเคลื่อนการดำเนินโครงการตลาดชุมชนเพื่อสนองนโยบายของรัฐบาล เป็นการส่งเสริม และพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ก่อให้เกิดรายได้ และแก้ปัญหาการว่างงานของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤตทางการเงิน สร้าง ชุมชนให้เข้มแข็งและพึ่งตนเองได้
ซึ่งการจัดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนบ้านป่าแดง มีวัตถุประสงค์เพื่อ สร้างความเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานกับชุมชน ในการส่งเสริมการสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนโดยรอบ สนับสนุนและเชื่อมโยงการท่องเที่ยวของชุมชนด้วยบริบทวิถีชีวิต ภูมิปัญญาท้องถิ่น อัตลักษณ์ของชุมชนและ สิ่งแวดล้อมที่ทรงคุณค่า สร้างชุมชนเข้มแข็งในการดูแล ปกป้อง รักษา ภูมิปัญญาท้องถิ่นและสิ่งแวดล้อมควบคู่กันอย่างสมดุล พัฒนาศักยภาพชุมชนให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนาตนเองในด้านการประกอบธุรกิจการค้า การบริหารจัดการ ด้วยตนเอง จนสามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการอื่น ๆ ได้อย่างยั่งยืน ประชาสัมพันธ์สินค้า ผลิตภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่นและการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย และ เพิ่มช่องทางการตลาด ส่งผลให้ชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยภายในงานมี การจำหน่ายอาหาร สินค้าชุมชน พร้อมจัดทุ่งดอกไม้ จุดถ่ายรูปให้นักท่องเที่ยวได้มาถ่ายรูปเช็คอิน กำหนดจัดเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ในวันเสาร์ อาทิตย์ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2567 ถึง เดือนมีนาคม 2568 จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมตลาด ช้อป ชิม ริมเขื่อน ชุมชนบ้านป่าแดง อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์
อารีย์ สีแก้ว 064-3565598 , 0835187558

ที่อยู่

75 ถ. นิกรบำรุง ต. ในเมือง

เบอร์โทรศัพท์

+66643565598

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ เอกรัฐออนไลน์ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง เอกรัฐออนไลน์:

วิดีโอทั้งหมด

แชร์

ประเภท