อธิปบูรพา

อธิปบูรพา ข่าวเข้มข้น บนความจริง

เริ่มแล้ว การแข่งขันขี่ม้า  "Princess's Cup Thailand 2024” ยกระดับกีฬาขี่ม้าไทยสู่ระดับนานาชาติ ระหว่าง 9-15 ธ.ค.นี้ ณ ส...
10/12/2024

เริ่มแล้ว การแข่งขันขี่ม้า "Princess's Cup Thailand 2024” ยกระดับกีฬาขี่ม้าไทยสู่ระดับนานาชาติ ระหว่าง 9-15 ธ.ค.นี้ ณ สนามไทยโปโลคลับ และอีเควสเทรี่ยน พัทยา

ณ สนามไทยโปโลคลับ และอีเควสเทรี่ยน พัทยา ชลบุรี ได้มีการจัดแข่งขันขี่ม้า Princess's Cup Thailand 2024 เป็นการจัดการแข่งขันครั้งที่ 10 ตามพระวินิจฉัยของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เพื่อส่งเสริมกีฬาขี่ม้าในประเทศไทย ตลอดจนเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์อันดีของนักกีฬาขี่ม้าและสโมสรขี่ม้าต่าง ๆ และเพื่อยกระดับกีฬาขี่ม้าไทยสู่ระดับนานาชาติระหว่างวันที่ 9-15 ธันวาคม 2567 ณ สนามขี่ม้าไทยโปโล แอนด์ อีเควสเทรี่ยน คลับ พัทยา จังหวัดชลบุรี และ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ กรุงเทพมหานคร

โดยในส่วนสนามขี่ม้าไทยโปโล แอนด์ อีเควสเทรี่ยน คลับ พัทยา จะเป็นการแข่งขันกีฬาขี่ม้า ใน 2 รายการใหญ่ คือ 1. FEI SEA Cup (CSIJ-B Pattaya 2024) ชิงถ้วยรางวัลของสหพันธ์กีฬาขี่ม้านานาชาติ เพื่อพัฒนาและส่งเสริมนักกีฬาในรุ่นเยาวชน 7 ประเทศ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกอบด้วย กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เมียนมา และ ประเทศไทย ให้มีความต่อเนื่อง จึงจัดการแข่งขัน FEI SEA Cup ขึ้น ในปีที่ไม่มีการแข่งขันซีเกมส์ หรือกีฬาขี่ม้าไม่ได้ถูกบรรจุในซีเกมส์ และ 2. รายการ Princess's Cup Thailand ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา แบ่งเป็น การแข่งขัน 5 ประเภท ได้แก่ 1. ศิลปะบังคับม้า (Dressage) 2. การขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง (Show Jumping) 3. อีเวนท์ติ้ง (Eventing) 4. สุดยอดผู้ดูแลม้า (Best Groom) และ 5. สุดยอดช่างเกือกม้า (Best Farrier)

ส่วนการแข่งขันในวันนี้ (9 ธ.ค.67) ประกอบด้วย รุ่น Princess's Cup Dressage Junior A อันดับที่ 1 ได้แก่ MAETHUS KHUPTAWINTHU รุ่น Princess's Cup Dressage Senior B อันดับที่ 1 ได้แก่ PRINWAT AMONJIRATANAWONG และรุ่น Princess's Cup Dressage Senior A ผลการแข่งขัน อันดับที่ 1 ได้แก่ PAKINEE PANTAPA

ผู้ว่าฯชลบุรี นำทัพนักกีฬาสู้ศึก "จันท์เกมส์" ครั้งที่ 49       พ่อเมืองชลบุรี นำทัพนักกีฬาลูกน้ำเค็ม และเจ้าหน้าที่ 800...
10/12/2024

ผู้ว่าฯชลบุรี นำทัพนักกีฬา
สู้ศึก "จันท์เกมส์" ครั้งที่ 49

พ่อเมืองชลบุรี นำทัพนักกีฬาลูกน้ำเค็ม และเจ้าหน้าที่ 800 กว่าชีวิต ลงสู้ศึกในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 49 “จันท์เกมส์” เผยยอดนักกีฬาชาย-หญิง เข้าชิงชัยใน 48 ชนิดกีฬา “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รองนายกรัฐมนตรีไทย และ รมว.คมนาคม เดินทางมากดปุ่มพิธีเปิดสุดยิ่งใหญ่ มั่นใจนักกีฬาจาก “เมืองทะเลงาม ข้าวหลามอร่อย อ้อยหวาน จักสานดี ประเพณีวิ่งควาย” คาดมีสิทธิกวาดเหรียญทองในศึกครั้งนี้แน่นอน

ผู้สื่อข่าว รายงานเมื่อวันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม 2567 เวลา 17.30 น. ณ สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองฯ จังหวัดจันทบุรี นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 49 (พ.ศ.2567) “จันท์เกมส์” โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดฯ

พร้อมด้วย ดร.ก้องศกด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศ นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ในฐานะประธานจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 49 (พ.ศ.2567) “จันท์เกมส์” และการแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งชาติ ครั้งที่ 39 (พ.ศ.2568) “อัญมณีเกมส์” นายพีระวัฒณ์ มงคลศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดชลบุรี นายสัมฤทธิ์ พงษ์วิรัตน์ เลขาธิการสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดชลบุรี คณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่จังหวัดชลบุรี ร่วมพิธีฯ

ด้วยการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้กำหนดจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 49 ภายใต้ชื่อ "จันท์เกมส์" ระหว่างวันที่ 9 ถึง 20 ธันวาคม 2567 ณ จังหวัดจันทบุรี โดยมีการแข่งขันกีฬารวม 54 ชนิดกีฬาและกีฬาสาธิต 5 ชนิดกีฬา

สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดชลบุรีในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบได้ส่งทีมนักกีฬาจังหวัดชลบุรีเข้าร่วมการแข่งขันกีฬา จำนวน 48 ชนิดกีฬา รวมนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ จำนวน 871 คนประกอบด้วย นักกีฬาชาย 356 คน นักกีฬาหญิง 347 คน และเจ้าหน้าที่ 168 คน คาดว่าจะสามารถกวาดเหรียญทองมาได้สำเร็จในหลายรายการแข่งขัน

จังหวัดชลบุรี จัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากลประเทศไทย ประจำปี 2567               วันนี้ นายชัยพร แพภิรมย์รัตน์ รองผู้ว่า...
10/12/2024

จังหวัดชลบุรี จัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากลประเทศไทย ประจำปี 2567

วันนี้ นายชัยพร แพภิรมย์รัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นำคณะข้าราชการ ทหาร ตำรวจ อัยการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมประกาศเจตนารมณ์การป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เนื่องในงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากลประเทศไทย ณ ห้องแก้วเจ้าจอม องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี พร้อมมอบบัตรประกาศเกียรติคุณให้กับองค์กรปกครองส่วนถิ่น จำนวน 30 หน่วยงานอีกด้วย

ตามที่ได้มีการประชุมใหญ่ของสมัชชาสหประชาชาติ (UN) มีมติเห็นชอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ.2003 (UNCAC) และประเทศภาคีสมาชิกสหประชาชาติ จำนวน 191 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทยได้ร่วมลงนามในอนุสัญญาดังกล่าว ณ ประเทศเม็กซิโก เมื่อวันที่ 9 – 11 ธันวาคม 2546 ซึ่งมีเป้าหมายให้ประเทศสมาชิกฯ ได้ประสานความร่วมมือระหว่างกันเพื่อทำให้การป้องกันและปราบปรามการทุจริตภายในประเทศและระดับสากลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงประกาศให้วันที่ 9 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (International Anti-Corruption Day)

จังหวัดชลบุรี พร้อมด้วยสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดชลบุรี ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน เยาวชน และภาคประชาสังคม ร่วมกิจกรรมจัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากลประเทศไทย (จังหวัดชลบุรี) ประจำปี 2567 เป็นการประกาศเจตนารมณ์ และรณรงค์วันต่อต้านคอร์รัปชันสากลในปีนี้ อยู่ภายใต้แนวคิด “FIGHT AGAINST CORRUPTION สู้ให้สุด หยุดการโกง” พร้อมกับส่วนกลางผ่านการถ่ายทอดสัญญาณช่อง NBT ณ ฮอลล์ 7 อาคารศูนย์การประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี โดยมีนายวิทยา อาคมพิทักษ์ กรรมการ ป.ป.ช. ทำหน้าที่แทนประธานกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวต้อนรับและกล่าววัตถุประสงค์การจัดงานครั้งนี้ ซึ่งมีนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน

นายวิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ประเทศไทยในฐานะหนึ่งในประเทศภาคีสมาชิกสหประชาชาติ นำโดยรัฐบาลร่วมกับภาคีเครือข่ายทางการศึกษา ศาสนา รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน เยาวชน ภาคประชาสังคม ได้ประสานความร่วมมือกับสำนักงาน ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่ปฏิบัติภารกิจหลักในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตผ่านกลไกต่างๆ โดยในส่วนของจังหวัดชลบุรีในปีนี้เป็นการบูรณาการความร่วมมือของจังหวัดชลบุรี สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดชลบุรี และองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี จัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากลประเทศไทย (จังหวัดชลบุรี)

สำหรับการจัดงานในวันนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงเจตนารมณ์ของทุกหน่วยงานภาครัฐในจังหวัดชลบุรี ที่มีความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาการทุจริตและต้องการให้คนไทยไม่โกง โดยมีเป้าหมายการดำเนินงานเพื่อยกระดับค่าดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชัน (Corruption Perception index:CPI) และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่จังหวัดชลบุรี เพื่อให้ประสานความร่วมมือระหว่างองค์กร ภาคีเครือข่าย หน่วยงาน และทุกภาคส่วนร่วมมือกันในการป้องกันการทุจริต ลดปัญหาทุจริตคอร์รัปชันในประเทศไทย และเพื่อให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลในการสร้างความสุขให้ประชาชนควบคู่ไปกับการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการสร้างความตระหนักในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต สร้างค่านิยมความซื่อสัตย์สุจริต และน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิตต่อไป

นายชัยพร แพภิรมย์รัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า จังหวัดชลบุรี ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดชลบุรี และองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เล็งเห็นความสำคัญของทุกภาคส่วนซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาการทุจริตได้ในที่สุด เพราะการคอร์รัปชันทุกรูปแบบเป็นปัญหาของคนทั้งประเทศ ซึ่งทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการแก้ไข เร่งสร้างกลไกตรวจสอบและเพื่อมาตรการรวมถึงแนวทางการป้องกันการทุจริตอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจังหวัดชลบุรีขอเป็นส่วนหนึ่งในการนำพาประเทศไปสู่การพัฒนาอย่างมั่นคง และโปร่งใสเป็นที่ยอมรับในระดับสากลต่อไป

ชื่นชม ตำรวจสัตหีบใช้ภาษามือเกลี้ยกล่อมสาวใบ้คิดฆ่าตัวตาย        เมื่อเวลา 04.30 น. 10 ธ.ค.67 ศูนย์วิทยุสภ.สัตหีบ ได้รับ...
10/12/2024

ชื่นชม ตำรวจสัตหีบใช้ภาษามือเกลี้ยกล่อมสาวใบ้คิดฆ่าตัวตาย

เมื่อเวลา 04.30 น. 10 ธ.ค.67 ศูนย์วิทยุสภ.สัตหีบ ได้รับแจ้งมีบุคคลพยายามฆ่าตัวตายโดยใช้มีดปาดคอและจะพยายามกระโดดให้รถชน บริเวณริมถนนสุขุมวิท ปากซอยยางงาม ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จึงได้ประสานงาน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถาน พร้อมส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.สัตหีบเข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ พบหญิงอายุประมาน20ปี (เป็นใบ้) พูดจาไม่รู้เรื่องพยายามจะฆ่าตัวตาย มีรอยมีดกรีดที่คอหลายรอย เจ้าหน้าที่เกลี้ยกล่อมอยู่เกือบชั่วโมง จนเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ภาษามือในการพูดคุยทำให้เกลี้ยกล่อมจนสำเร็จ

จากการสอบถามเพื่อนเล่าว่าไปกินเหล้าที่ร้านแห่งหนึ่งและโทรศัพท์ตกแตกเลยเครียดไม่มีโทรศัพท์ติดต่อครอบครัวจึงคิดสั้นดังกล่าว

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สัตหีบที่เกลี้ยกล่อมโดยใช้ภาษามือ ทราบชื่อคือ ส.ต.อ. วิวัฒน์ คำศรี ผบ.หมู่(ป.) สภ.สัตหีบ ส.ต.ท. จักรี คำภิมูล ผบ.หมู่(ป.) สภ.สัตหีบ ถือว่าเป็นตัวอย่างของการปฏิบัติหน้าที่อย่างมืออาชีพและใส่ใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สัตหีบ ที่ใช้ความสามารถพิเศษในการใช้ภาษามือเพื่อช่วยเหลือผู้ที่กำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤตชีวิต นับเป็นเรื่องราวที่น่าชื่นชมและสร้างแรงบันดาลใจให้กับสังคมในเรื่องการช่วยเหลือผู้อื่นอย่างจริงใจและรอบคอบ

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงให้เห็นถึงความมีสติและความเข้าใจในสถานการณ์ โดยการใช้ภาษามือในการสื่อสารกับผู้ประสบเหตุที่เป็นใบ้จนสามารถคลี่คลายสถานการณ์ที่ยากลำบากได้สำเร็จ แสดงถึงความสำคัญของการเตรียมพร้อม และหาทักษะพิเศษในงานตำรวจที่นอกเหนือจากภารกิจปกติ และเหตุการณ์นี้ยังสะท้อนถึงความสำคัญของการให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนผู้ที่อยู่ในสถานการณ์เปราะบางด้วยความอ่อนโยนและเข้าใจ จนสามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้

หนุ่มใหญ่ไปนั่งดื่มกินที่ริมหาด ถูกทหารเรือไล่กลับบ้านหาว่าเสียงดัง ก่อนมีปากเสียงทะเลาะกัน สุดท้ายถูกรุมยำเจ็บทหารเรือ ...
09/12/2024

หนุ่มใหญ่ไปนั่งดื่มกินที่ริมหาด ถูกทหารเรือไล่กลับบ้านหาว่าเสียงดัง ก่อนมีปากเสียงทะเลาะกัน สุดท้ายถูกรุมยำเจ็บ

ทหารเรือ ยกพวกนับ10 คน วิ่งกรูรุมกระทืบ คว้ากระบองฟาดหน้าผากชาวบ้านแตก 11 เข็ม หาว่าส่งเสียงดังหน้าฐานทัพเรือสัตหีบ

จากกรณีในโลกโซเชียลได้แชร์คลิปวีดีโอ จากกล้องวงจรปิด ของผู้ใช้เฟสบุ๊คคนหนึ่ง เป็นภาพกลุ่มทหารเรือนับสิบนาย กำลังรุมทำร้ายชายคนหนึ่ง พร้อมกับข้อความระบุว่า "นั่งดื่มสังสรรค์ริมทะเล ทหารเรือมาเตือนเสียงดัง เตือนไม่ฟังเลยมีปากเสียง ผลสุดท้ายทหารเรือนับสิบรุมตุ๊บตั๊บซะ" จนมีคนในโลกออนไลน์พากันมา comment วิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานานั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.67 นายอนันต์ นรินทร อายุ 43 ปี ผู้เสียหายซึ่งเป็นบุคคลภายในคลิป ได้ออกมาพบผู้สื่อข่าว ในสภาพหน้าผากแตก เย็บถึง 11 เข็ม และตามร่างกายมีร่องรอยฟกช้ำ โดยนายอนันต์ เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. ของวันที่ 8 ธ.ค. ขณะตนกับเพื่อนรวม 4 คน กำลังนั่งดื่มกินสังสรรค์อยู่บริเวณชายทะเล ตรงข้ามโรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จู่ๆ มีทหารเรือ สวมชุดลายพราง และชุดพลเรือน กว่า 10 คน พร้อมกระบองครบมือ เดินจากจุดรักษาการณ์ ประตูค่ายฐานทัพเรือสัตหีบ เข้ามาตักเตือนให้แยกย้ายกลับบ้าน เนื่องจากส่งเสียงดัง

นายอนันต์ ยังเล่าให้ฟังอีกว่า ขณะที่พวกตนกำลังจะกลับ เกิดมีปากเสียงทะเลาะกัน จากนั้นกลุ่มทหารทั้งหมดได้วิ่งกรู เข้ามารุมทำร้ายร่างกาย และใช้กระบองฟาดที่หน้าผากตน จนแตกเลือดอาบหน้า หลังเกิดเหตุได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ฐานิต ทีภักดี พนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ ไว้เป็นหลักฐาน แล้ววอนขอให้เจ้าหน้าที่ให้ความเป็นธรรมด้วย.

รวบหนุ่มอ้างตัวเป็นตำรวจ ใช้ปืนปลอมข่มขู่-จับแฟนสาวขังไว้ในห้องพักเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 8 ธ.ค.2567 ร.ต.อ.สนธยา ขนทรั...
09/12/2024

รวบหนุ่มอ้างตัวเป็นตำรวจ ใช้ปืนปลอมข่มขู่-จับแฟนสาวขังไว้ในห้องพัก

เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 8 ธ.ค.2567 ร.ต.อ.สนธยา ขนทรัพย์ รอง สวป.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีคนใช้อาวุธปืนข่มขู่ จับขังหญิงไทยภายในห้องพัก "สแปนิส คอนโดมิเนียม" พัทยากลาง หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.ชัยณรงค์ จิตต์สุนทร สว.สส. นำกำลังตำรวจสายตรวจ และชุดสืบสวน เดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบ นายเทพบารมี เหมือนวงค์ธรรม อายุ 35 ปี ยืนถืออาวุธปืน ไม่ทราบขนาดอยู่ พร้อมกับจับ น.ส.รุ่งสุรางค์ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี แฟนสาว ขังไว้ภายในห้อง จึงพยายามเจรจาเกลี้ยกล่อม กระทั่งนายเทพบารมี ยอมปล่อยตัว น.ส.รุ่งสุรางค์ และให้ตำรวจจับกุมแต่โดยดี ไม่มีการต่อสู้ขัดขืนใดๆ ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ พบว่าเป็นเพียงปืนพลาสติก

สอบปากคำเพื่อนของผู้เสียหาย (ขอสงวนชื่อ-นามสกุล) ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงทั้งคู่ทะเลาะกันอย่างรุนแรง ก่อนที่จะได้ยินเสียง น.ส.รุ่งสุรางค์ ร้องขอความช่วยเหลือ กินข้าวไปห้ามปรามแต่กลับถูกนายเทพบารมี ใช้อาวุธปืนมาจ่อที่ศีรษะ พร้อมกับข่มขู่ไม่ให้ยุ่ง ไม่เช่นนั้นจะยิงให้ตาย สุดท้ายเลยรีบโทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ

สอบสวน นายเทพบารมี เบื้องต้นให้การอ้างว่า เป็นอาสาสังกัด สภ.บางละมุง เลิกทะเลาะกับแฟนอยู่เป็นประจำ ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติพบว่า เจ้าตัวมักจะอ้างตัวกับคนทั่วไปว่าเป็นตำรวจอยู่เป็นประจำ อย่างไรก็ตามภายหลังจึงได้ควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

พิธี 5 ศาสนาทำบุญถวายพระราชกุศล     ปราสาทสัจธรรม ร่วมกับ หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน จัดพิธี 5 ศาสนาทำบุญถวายพระราชกุศล ธ...
09/12/2024

พิธี 5 ศาสนาทำบุญถวายพระราชกุศล

ปราสาทสัจธรรม ร่วมกับ หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน จัดพิธี 5 ศาสนาทำบุญถวายพระราชกุศล ธ สถิตในดวงใจ ตราบนิรันดร์ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

(9 ธ.ค.67) ณ พิพิธภัณฑ์ปราสาทสัจธรรม พัทยา นายพิจารณ์ - นางวรากล วิริยะพันธุ์ ผู้บริหาร บริษัท เมืองโบราณ จำกัด นำพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 100 รูป และสามเณรจำนวน 400 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยมีจ่าเอก พิทยาภรณ์ ก่อแก้ว ปลัดอาวุโสอำเภอบางละมุง เข้าร่วมพิธี

ในเวลาต่อมา นางวรากร วิริยะพันธุ์ รองประธานบริหาร บริษัท เมืองโบราณ จำกัด เป็นประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยพิธี 5 ศาสนา ทำบุญถวายพระราชกุศล เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยมีนายบรรลือ กุลละวณิชย์ ประธานสภาเมืองพัทยา คณะสงฆ์ คณะผู้นำทางศาสนาทั้ง 5 ศาสนา คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์ปราสาทสัจธรรมพร้อมประชาชนที่ให้ความสนใจเข้าร่วมในพิธีกันเป็นจำนวนมาก

นางวรากร วิริยะพันธุ์ รองประธานบริหาร บริษัท เมืองโบราณ จำกัด กล่าวว่า สำหรับการจัดงานประกอบพิธี 5 ศาสนาในครั้งนี้ ได้มีการจัดประกอบพิธีกรรมของทั้ง 5 ศาสนาจะประกอบไปด้วยศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลาม พราหมณ์-ฮินดู และซิกข์ ซึ่งแต่ละพิธีกรรมจะแสดงออกถึงการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ความกตัญญู และความจงรักภักคีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่พระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการเป็นอเนกอนันต์ ด้วยพระวิริยะอุตสาหะ ทรงดำรงพระองค์ในหลักทศพิธราชธรรมทุกหนแห่งบนผืนแผ่นดินไทย นำผาสุกมาสู่พสกนิกรและประเทศชาติ พร้อมทั้งทรงดำรงอยู่ในฐานะพุทธมามกะ และทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภก ทรงให้การอุปถัมภ์สนับสนุนทุกศาสนาอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนา ทำให้พสกนิกรทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนาในราชอาณาจักรไทย แม้จะมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม การดำรงชีวิต และคติความเชื่อที่แตกต่างกัน แต่ผู้คนบนพื้นแผ่นดินไทยก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุขใต้ร่มพระบารมี

ภายในงานยังได้มีการกล่าวคำปฏิญาณตนเป็นคนดีของแผ่นคิน ตามพระบรมราโชวาท ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอคุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมวางช่อดอกไม้ ของผู้นำแต่ละศาสนา ศาสนิกชน หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และพสกนิกรทุกหมู่เหล่า เพื่อแสดงออกถึงการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ นอกจากนี้ภายในงานยังมีบูธนิทรรศการของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจ

รมว.ยุติธรรม สั่งการเรือนจำในพื้นที่ จชต. นำผู้ต้องขังชั้นดี เข้าช่วยฟื้นฟูพื้นที่ประสบปัญหาอุทกภัยวันนี้ พันตำรวจเอกทวี...
09/12/2024

รมว.ยุติธรรม สั่งการเรือนจำในพื้นที่ จชต. นำผู้ต้องขังชั้นดี เข้าช่วยฟื้นฟูพื้นที่ประสบปัญหาอุทกภัย

วันนี้ พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงสถานการณ์ปัญหาอุทกภัยในหลายจังหวัดของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ในขณะนี้ปริมาณน้ำในหลายพื้นที่ลดลงสู่สภาวะปกติ แต่ปัญหาสำคัญคือการฟื้นฟูสภาพบ้านเรือน โดยเฉพาะการทำความสะอาดอาคารบ้านเรือนและร้านค้าในเขตเศรษฐกิจ ซึ่งได้สั่งการให้เรือนจำในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นำผู้ต้องขังราชทัณฑ์ออกช่วยเหลือทำความสะอาดพื้นที่สาธารณประโยชน์ ทั้งถนน ตลาดสด โรงเรียนและวัดในพื้นที่ รวมถึงการเข้าช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงที่อาศัยอยู่ในที่พักพิง และครัวประกอบอาหารของเขตเทศบาลนครยะลา

นายศรชัย ตลาสุข ผู้บัญชาการเรือนจำลางยะลา กล่าวว่า รมว.ยุติธรรม อยากให้ผู้ต้องขังได้มีใจจิตอาสา ทำตนให้เป็นประโยชน์ กิจกรรมนี้ถือได้ว่าเป็นกิจกรรมที่ผู้ต้องขังทุกคน ได้ร่วมทำความดีเพื่อสังคม สร้างความภาคภูมิใจ และเห็นคุณค่าในตนเองในการทำประโยชน์ให้กับผู้อื่น สร้างทัศนคติที่ดี เตรียมพร้อมทั้งกายและใจในการกลับคืนสู่สังคมได้อย่างปกติสุข ไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก

ตำรวจสัตหีบตามจับผัวเก่า หลังบุกเผาบ้านอดีตเมียวอดเกือบทั้งหลังจากกรณี เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่  8  ธ.ค.67 ตำรวจ สภ.สัต...
09/12/2024

ตำรวจสัตหีบตามจับผัวเก่า หลังบุกเผาบ้านอดีตเมียวอดเกือบทั้งหลัง

จากกรณี เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 8 ธ.ค.67 ตำรวจ สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเลขที่ 174/21 ม.9 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จนทรัพย์สินเสียหายทั้งหมด โดย น.ส.วัฒนา ลีสีใส อายุ 59 ปี เจ้าของบ้าน ให้การว่า สาเหตุของเพลิงไหม้ มาจากฝีมือของนายบุญเลิศ ทับวรรณ์ อดีตสามีวัย 58 ปี ที่บุกมาเผา แล้วหลบหนีไป

ล่าสุดเมื่อกลางดึกของวันที่ 9 ธ.ค.67 พ.ต.ท.สุวิจักขณ์ เรืองนวมดี รองผกก.สส.สภ.สัตหีบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ เนมมีย์ สวป. พร้อมกำลังชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุมตัว นายบุญเลิศ ทับวรรณ์ สามีเก่าของ น.ส.วัฒนา ลีสีใส ขณะอยู่ในบ้านพัก จัดการสอบสวนเบื้องต้นยังให้การวกไปวนมา ลักษณะคล้ายคนเมาสุรา จึงนำตัวไปทำประวัติที่ สภ.สัตหีบ และรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

08/12/2024

สาวคลั่งปีนสะพานลอย หวังกระโดดลงมาจบปัญหาชีวิต กลุ่มทหารเรือจอดรถติดไฟแดงเห็นพอดี "ฮีโร่" บุกชาร์จรวบตัวช่วยได้ทัน

เมื่อเวลาประมาณ 13.45 น. วันที่ 8 ธ.ค.67 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ต.จิระศักดิ์ ศักดิ์พันธ์ สังกัดกรมการเงินทหารเรือ ว่าขณะที่กำลังขับรถยนต์เดินทางจะไปทำธุระที่เมืองพัทยา โดยมี พ.จ.อ.มนตรี เจริญฤทธิ์ สังกัดกองกิจการพิเศษ ฐานทัพเรือสัตหีบ และนักเรียนจ่าทหารเรืออีก 3 นาย โดยสารมากับรถ จู่ๆ ไปเจอเหตุการณ์คนกำลังจะฆ่าตัวตาย และสามารถช่วยเหลือไว้ได้

โดย น.ต.จิระศักดิ์ ศักดิ์พันธ์ เล่าให้ฟังว่า ในระหว่างที่จอดรถติดไฟแดงอยู่บริเวณหน้า ศูนย์ฝึกทหารใหม่ จู่ๆ เหลือบไปเห็นหญิงสาว อายุประมาณ 25 ปี นั่งห้อยขาออกมานอกราวสะพานลอย ในสภาพร้องไห้ฟูมฟาย และทำท่าจะกระโดดลงมา ท่ามกลางรถราที่สัญจรผ่านไป-มา บนถนนสุขุมวิท จำนวนมาก

เมื่อเห็นคนกำลังจะฆ่าตัวตายต่อหน้าต่อตา จึงรีบขับรถไปจอดข้างทาง ก่อนลงไปดูเหตุการณ์ พร้อมกับโทรศัพท์ประสานตำรวจ และ 1669 ให้ทราบเรื่อง จากนั้นจึงแบ่งหน้าที่กัน โดยตนเองกับ พ.จ.อ.มนตรี อยู่ด้านล่าง พยายามพูดคุยเจรจาเกลี้ยกล่อม ให้หญิงสาวคนดังกล่าวสงบสติอารมณ์ ส่วนนักเรียนจ่าทหารเรือทั้ง 3 คน ประกอบด้วย นรจ.ดนัยเทพ ชูศรี , นรจ.สัมฤทธิ์ คำวงศ์ และ นรจ.ทัชนุชา สณฑ์วเนจร รีบขึ้นไปบนสะพานลอย คอยหาจังหวะช่วยเหลือ ท่ามกลางชาวบ้านในละแวกดังกล่าวที่เพิ่งทราบข่าว ต่างพากันออกมาดูเหตุการณ์จำนวนหนึ่ง

น.ต.จิระศักดิ์ เล่าให้ฟังต่อไปว่า จนเวลาผ่านไป 5-10 นาที หญิงสาวก็ไม่มีทีท่าจะเชื่อฟัง แถมยังทำท่าจะกระโดดลงมา ตนเห็นแล้วไม่เข้าท่า จึงพูดจาเบี่ยงเบนความสนใจ และส่งสัญญาณให้หลานชาย ซึ่งเป็นหนึ่งในนักเรียนจ่าทหารเรือ ได้ทราบ เพื่อคอยหาจังหวะช่วยเหลือ ในระหว่างที่หญิงสาวเผลอ หลานชายกับเพื่อนๆ ถึงรีบวิ่งเข้าไปคว้าตัวลงมาได้ในสภาพทุลักทุเล และยังคงร้องไห้ฟูมฟายตลอดเวลา

จากการสอบถามชาวบ้านในละแวกนั้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุหญิงคนดังกล่าวทะเลาะกับแฟนชาวต่างชาติอย่างรุนแรง เรื่องไปมีหญิงคนใหม่ เจ้าตัวเลยตัดสินใจขึ้นไปบนสะพานลอย เพื่อหวังจะกระโดดลงมาปลิดชีพตัวเอง โชคดีที่พวกตนเห็นเหตุการณ์ และช่วยไว้ได้

"ตนเองก็เพิ่งจะเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้ ตอนแรกก็ชั่งใจอยู่ว่า จะรอให้เจ้าหน้าที่มาก่อนดีไหม แต่จังหวะนั้นเหตุการณ์มันพาไป หากไม่ตัดสินใจเข้าช่วย หญิงคนนั้นก็อาจจะกระโดดลงมา โดยส่วนตัวรู้สึกภาคภูมิใจ ที่มีโอกาสได้ช่วยชีวิตคน"

น.ต.จิระศักดิ์ กล่าว.

สาวคลั่งปีนสะพานลอย หวังกระโดดลงมาจบปัญหาชีวิต กลุ่มทหารเรือจอดรถติดไฟแดงเห็นพอดี "ฮีโร่" บุกชาร์จรวบตัวช่วยได้ทันเมื่อเ...
08/12/2024

สาวคลั่งปีนสะพานลอย หวังกระโดดลงมาจบปัญหาชีวิต กลุ่มทหารเรือจอดรถติดไฟแดงเห็นพอดี "ฮีโร่" บุกชาร์จรวบตัวช่วยได้ทัน

เมื่อเวลาประมาณ 13.45 น. วันที่ 8 ธ.ค.67 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ต.จิระศักดิ์ ศักดิ์พันธ์ สังกัดกรมการเงินทหารเรือ ว่าขณะที่กำลังขับรถยนต์เดินทางจะไปทำธุระที่เมืองพัทยา โดยมี พ.จ.อ.มนตรี เจริญฤทธิ์ สังกัดกองกิจการพิเศษ ฐานทัพเรือสัตหีบ และนักเรียนจ่าทหารเรืออีก 3 นาย โดยสารมากับรถ จู่ๆ ไปเจอเหตุการณ์คนกำลังจะฆ่าตัวตาย และสามารถช่วยเหลือไว้ได้

โดย น.ต.จิระศักดิ์ ศักดิ์พันธ์ เล่าให้ฟังว่า ในระหว่างที่จอดรถติดไฟแดงอยู่บริเวณหน้า ศูนย์ฝึกทหารใหม่ จู่ๆ เหลือบไปเห็นหญิงสาว อายุประมาณ 25 ปี นั่งห้อยขาออกมานอกราวสะพานลอย ในสภาพร้องไห้ฟูมฟาย และทำท่าจะกระโดดลงมา ท่ามกลางรถราที่สัญจรผ่านไป-มา บนถนนสุขุมวิท จำนวนมาก

เมื่อเห็นคนกำลังจะฆ่าตัวตายต่อหน้าต่อตา จึงรีบขับรถไปจอดข้างทาง ก่อนลงไปดูเหตุการณ์ พร้อมกับโทรศัพท์ประสานตำรวจ และ 1669 ให้ทราบเรื่อง จากนั้นจึงแบ่งหน้าที่กัน โดยตนเองกับ พ.จ.อ.มนตรี อยู่ด้านล่าง พยายามพูดคุยเจรจาเกลี้ยกล่อม ให้หญิงสาวคนดังกล่าวสงบสติอารมณ์ ส่วนนักเรียนจ่าทหารเรือทั้ง 3 คน ประกอบด้วย นรจ.ดนัยเทพ ชูศรี , นรจ.สัมฤทธิ์ คำวงศ์ และ นรจ.ทัชนุชา สณฑ์วเนจร รีบขึ้นไปบนสะพานลอย คอยหาจังหวะช่วยเหลือ ท่ามกลางชาวบ้านในละแวกดังกล่าวที่เพิ่งทราบข่าว ต่างพากันออกมาดูเหตุการณ์จำนวนหนึ่ง

น.ต.จิระศักดิ์ เล่าให้ฟังต่อไปว่า จนเวลาผ่านไป 5-10 นาที หญิงสาวก็ไม่มีทีท่าจะเชื่อฟัง แถมยังทำท่าจะกระโดดลงมา ตนเห็นแล้วไม่เข้าท่า จึงพูดจาเบี่ยงเบนความสนใจ และส่งสัญญาณให้หลานชาย ซึ่งเป็นหนึ่งในนักเรียนจ่าทหารเรือ ได้ทราบ เพื่อคอยหาจังหวะช่วยเหลือ ในระหว่างที่หญิงสาวเผลอ หลานชายกับเพื่อนๆ ถึงรีบวิ่งเข้าไปคว้าตัวลงมาได้ในสภาพทุลักทุเล และยังคงร้องไห้ฟูมฟายตลอดเวลา

จากการสอบถามชาวบ้านในละแวกนั้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุหญิงคนดังกล่าวทะเลาะกับแฟนชาวต่างชาติอย่างรุนแรง เรื่องไปมีหญิงคนใหม่ เจ้าตัวเลยตัดสินใจขึ้นไปบนสะพานลอย เพื่อหวังจะกระโดดลงมาปลิดชีพตัวเอง โชคดีที่พวกตนเห็นเหตุการณ์ และช่วยไว้ได้

"ตนเองก็เพิ่งจะเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้ ตอนแรกก็ชั่งใจอยู่ว่า จะรอให้เจ้าหน้าที่มาก่อนดีไหม แต่จังหวะนั้นเหตุการณ์มันพาไป หากไม่ตัดสินใจเข้าช่วย หญิงคนนั้นก็อาจจะกระโดดลงมา โดยส่วนตัวรู้สึกภาคภูมิใจ ที่มีโอกาสได้ช่วยชีวิตคน"

น.ต.จิระศักดิ์ กล่าว.

เริ่มแล้ว "เดินกินถิ่นนาเกลือ ปีที่ 16” ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตลอดเดือนนี้ ถึง 12 มกราคมปีหน้า           เมื่อค่ำ วันที่ 7...
08/12/2024

เริ่มแล้ว "เดินกินถิ่นนาเกลือ ปีที่ 16” ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตลอดเดือนนี้ ถึง 12 มกราคมปีหน้า

เมื่อค่ำ วันที่ 7 ธันวาคม 2567 นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา เป็นประธานในพิธีเปิดงานเทศกาล เดินกินถิ่นนาเกลือ ครั้งที่ 16 พร้อมด้วย นางสาวฐิติพันธ์ เพ็ชรตระกูล รองนายกเมืองพัทยา นายบรรลือ กุลละวณิชย์ ประธานสภาเมืองพัทยา นายบรรจง บัณฑูรประยุกต์ รองประธานสภาเมืองพัทยา คณะผู้บริหารเมืองพัทยา สมาชิกสภาเมืองพัทยา หัวหน้าส่วนราชการเมืองพัทยา โดยมีนางสาวลิปิการ์ กําลังชัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม นางสาวคนึง ไข่ลือนาม วัฒนธรรมจังหวัดชลบุรี และหน่วยงานภาครัฐ- เอกชน ร่วมในพิธีเปิด ณ เวทีหลักหน้าธนาคารออมสิน สาขาบางละมุง

งานเดินกินถิ่นนาเกลือ เป็นกิจกรรมประจำปี ที่เมืองพัทยา โดยการดูแลของสำนักการท่องเที่ยวและกีฬา ด้วยหวังให้เกิดการพัฒนาพื้นที่นาเกลือ ขึ้นมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับ และแรงสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนที่อยู่ในท้องถิ่นเป็นอย่างดี สร้างโอกาส สร้างรายได้ให้กับชุมชน และสร้างการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการท้องถิ่นของตนเอง รวมถึงเกิดประโยชน์ในด้านการบริหารจัดการสภาพแวดล้อม และทรัพยากร มีการสร้างมูลค่าเพิ่มจากทรัพยากรดั้งเดิม เป็นการพัฒนาร่วมกันอย่างยั่งยืนมายาวนาน ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสสิ่งเหล่านั้น เมื่อมาเดินเที่ยวชมและมีส่วนร่วมกับงานเดินกินถิ่นนาเกลือ ที่พัทยา

สำหรับงานเดินกิน ถิ่นนาเกลือ ปีที่ 16 จัดขี้นทุกวันเสาร์ -อาทิตย์ ระหว่างวันที่ 7 ธ.ค 2567- 12 ม.ค. 2568 ตั้งแต่ต้นโพธิ์นาเกลือ จนถึงสะพานยาวนาเกลือ ภายใต้แนวคิดระหว่างการสร้างสรรค์พื้นที่การจัดงานให้เป็นตลาดอาชีพดั้งเดิมของชุมชนนาเกลือ ด้วยการส่งเสริมการขายอาหารท้องถิ่น อาหารทะเล อาหารอร่อย และภายใต้แนวคิดตามหารสชาติอาหารท้องถิ่นที่หายไป โดยจะมีการนำเมนูอาหารที่หายาก และแปลกใหม่มานำเสนอสลับสับเปลี่ยนกันไปในแต่ละสัปดาห์ เพื่อสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการจัดงาน

ดาบตำรวจเมาเหล้าขาว เสพกัญชารั่ว ควงปืนยิงขึ้นฟ้า ชาวบ้านผวา แจ้งตำรวจล้อมจับสยบคลั่ง     เมื่อเวลา 15.36น. วันที่ 7 ธัน...
08/12/2024

ดาบตำรวจเมาเหล้าขาว เสพกัญชารั่ว ควงปืนยิงขึ้นฟ้า ชาวบ้านผวา แจ้งตำรวจล้อมจับสยบคลั่ง

เมื่อเวลา 15.36น. วันที่ 7 ธันวาคม 2567 พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุงรับแจ้งเหตุ มีบุคคลใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า เหตุเกิดภายในซอยวัดบุญสัมพันธ์ หรือซอยเขาน้อย ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และกำลังมุ่งหน้าเข้า ไปก่อเหตุต่อเนื่องพื้นที่ใกล้เคียง เกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อประชาชน จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางละมุง พร้อม ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.หนองปรือ รีบไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุที่บ้านเลขที่93/9 ม.5 ภายในซอยวัดบุญสัมพันธ์ห้า ต.หนองปรือ พบผู้ก่อเหตุทราบชื่อภายหลังคือ ด.ต. สุนทร เหมพันธ์ ผบ.หมู่ป.สภ.นาจอมเทียน ในอาการมึนเมาอย่างหนัก ตะโกนโหวกเหวกโวยวายอาละวาด เจ้าหน้าที่ตำรวจ กว่า 50 นายได้นำกำลังล้อมบ้านไว้ พร้อมกันประชาชนออกห่างจากที่เกิดเหตุเพื่อความปลอดภัยหากเกิดเหตุการณ์ปะทะรุนแรง ใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงจึงสามารถควบคุมตัวได้ พร้อมอาวุธปืนขนาด .357 ม.ม. พร้อมปอกกระสุน ที่ยิงแล้วจำนวนหลายนัด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบถามชาวบ้านที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าดาบตำรวจนายนี้ ชอบดื่มสุรา ช่วงหลังหันมาดื่มเหล้าขาว และสูบกัญชา ส่งผลให้เวลาเมาจะมีอาการเพี้ยน คลุ้มคลั่งขว้างปาข้าวของ ที่หนักคือมักจะชอบใช้อาวุธปืนประจำกายยิงขึ้นฟ้า ยิงใส่ในตัวบ้าน จนชาวบ้านในละแวกนี้เกิดความหวาดกลัว แต่ก็ไม่กล้ายุ่งเนื่องจากเห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทั่งเกิดเหตุในวันนี้

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่าดาบตำรวจนายนี้ ก่อเหตุใช้วุธปืนยิงขึ้นฟ้า เริ่มต้นจากปากซอยเขาน้อย และช่วงบริเวณกลางซอยเขาน้อย ซึ่งมีประชาชนสัญจรไปมาเป็นจำนวนมาก ก่อนจะกลับเข้ามาที่บ้านพัก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังมาปิดล้อมบ้านไว้ จนกระทั่งสามารถควบคุมตัวไว้ได้ พร้อมของกลาง อยู่ในสภาพมึนเมาอย่างหนักพูดจาไม่รู้เรื่อง ทั้งยังด่าทอใส่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมดังกล่าว

เบื้องต้นได้ควบคุมตัว ด.ต. สุนทร เหมพันธ์ ผบ.หมู่ป.สภ.นาจอมเทียน พร้อมของกลางเป็นอาวุธปืนและเครื่องกระสุน ไปสงบสติอารมณ์ที่สภ.บางละมุง ขณะที่กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพดาบตำรวจขี้เมา เดินใช้ อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า จำนวนหลายนัด จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

นอกจากนี้ยัง มีชาวบ้านให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าสาเหตุที่ดาบตำรวจรายนี้ มีอาการคลุ้มคลั่งอาละวาดใช้วุธปืนยิงขึ้นฟ้า เนื่องจากมีอาการมึนเมาสุราอย่างหนัก ประกอบกับไม่พอใจร้านค้าในละแวกใกล้เคียงไม่ยอมให้ ค้างค่าสุราและค่าอาหาร จึงเป็นต้นเหตุให้ดาบตำรวจรายนี้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

ปกครอง-ตำรวจ สนธิกำลังทลายผับ "อีเลฟเว่น พัทยา"ซองยาเกลื่อน-ชงผู้ว่าฯปิดถาวร!     หัวหน้าชุดฯบุกทลาย “ผับฉาว”กลางเมืองพั...
08/12/2024

ปกครอง-ตำรวจ สนธิกำลัง
ทลายผับ "อีเลฟเว่น พัทยา"
ซองยาเกลื่อน-ชงผู้ว่าฯปิดถาวร!

หัวหน้าชุดฯบุกทลาย “ผับฉาว”กลางเมืองพัทยา ชงเรื่องเสนอผู้ว่าฯชลบุรี พิจารณาสั่งปิดสถานบันเทิงชื่อ “อิเลฟเว่น พัทยา”อย่างถาวร หลังนำเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง สนธิกำลังตำรวจเมืองพัทยา ปิดล้อมจู่โจมกลางดึก พบนักเที่ยวกว่า 200 คน กำลังนัวเนียเมากันปลิ้น จับตรวจฉี่เจอเป็นสีม่วง 54 คน อีกทั้งเจอซองพลาสติกติดคราบผงสีขาวตกเกลื่อนพื้น

ขณะเดียวกันภายในห้องวีไอพีเจอกลุ่มวัยรุ่นชาย-หญิง เปิดห้องจัดปาร์ตี้ “ยาอี”ผสมเคตามีน กันอย่างเมามัน จึงแจ้ง 4ข้อหาหนัก เปิดสถานบันเทิงเถื่อน ไม่มีใบอนุญาต, แหล่งมั่วสุมยาเสพติด,ไม่มีใบอนุญาตจำหน่ายสุรา และเปิดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เกินเวลาที่กฏหมายกำหนด

ปฏิบัติการทลาย “ผับผี” เจอทั้งยาอี-ยาไอซ์รายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 04.06 น.วันที่ 8 ธันวาคม 2567 ว่าที่ร้อยตรี ชลธิศ เลยานนท์ ปลัดป้องกันจังหวัดชลบุรี,จ่าเอกพิทยา ก่อแก้ว ปลัดอำเภอบางละมุง รักษาราชการตำแหน่งนายอำเภอบางละมุง,นายวรภพ คงธนจรัส ปลัดอำเภอบางละมุง สนธิกำลังร่วมกับ พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา และ พ.ต.ท.ศิรชัช หนูเทศ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองพัทยา ซึ่งการสนธิกำลังในครั้งนี้ อยู่ภายใต้การอำนวยการและคำสั่งของ นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าจังหวัดชลบุรี และ นายชัยพร แพภิรมย์รัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี

นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดชลบุรี,เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง,เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพัทยา กว่า 100 นาย บุกจับสถานบันเทิง ลักษณะเปิดเป็นผับชื่อ “อิเลฟเว่น พัทยา” ตั้งอยู่ท้องที่หมู่ที่ 10 ริมถนนพัทยาใต้ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยจับกุมนักท่องราตรีซึ่งตรวจพบปัสสาวะสีม่วง 54 คน นอกจากนี้ยังตรวจเจอยาเสพติดอยู่ภายในร้านอีกจำนวนหนึ่ง

ก่อนที่ปฏิบัติการบุกจู่โจมทลายผับชื่อดังครั้งนี้จะเกิดขึ้น สืบเนื่องมาจาก ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า สถานบันเทิงแห่งนี้มีกลุ่มนักท่องเที่ยวใช้ยาเสพติด จึงได้ส่งสายลับเข้าไปหาข่าว ซึ่งพบว่าเป็นไปตามข้อร้องเรียนจริง จึงประสานกับทางตำรวจ ร่วมวางแผนจับกุม

เมื่อชุดปฏิบัติการไปถึง ได้แบ่งกำลังส่วนหนึ่งปิดกั้นเส้นทางเข้า-ออก ขณะที่กำลังอีกส่วนหนึ่งของชุดปฏิบัติการ ได้จู่โจมเข้าไปด้านในแบบไม่ให้ทันตั้งตัว พบว่านักท่องราตรีทั้งชายและหญิง กำลังหัวส่ายเต้นไปตามจังหวะดนตรี คลอเคล้าด้วยเหล้า-เบียร์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กันอย่างเมามันในอารมณ์ เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้ปิดเพลงเปิดไฟจนสว่างโร่

โดยนักเที่ยวกว่า 200 คน รวมทั้งพนักงานของร้าน ไม่ทันได้ตั้งตัว เมื่อทุกอย่างอยู่ในความสงบ เจ้าหน้าที่สั่งให้แยกผู้ชายและผู้หญิง เพื่อตรวจบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งไม่พบว่ามีอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ ต่อจากนั้นได้เริ่มตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกาย พบว่ามีนักเที่ยวปัสสาวะสีม่วง ทั้งหมด 54 คน เป็นผู้ชาย 40 คน ผู้หญิง14คน

ระหว่างกำลังดำเนินการ เจ้าหน้าที่ฯได้ตรวจค้นทุกซอกทุกมุม ของร้านอย่างละเอียด พบซองพลาสติกใสแบบซิปรูดปิด-เปิด ถูกทิ้งตกอยู่ด้านหลังโซฟาและตามถังขยะใต้โต๊ะ ภายในซองพลาสติกมีคราบผงสีขาวติดอยู่ และยังพบตกอยู่ที่พื้นอีกจำนวนหนึ่ง จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน เพื่อนำส่งไปตรวจพิสูจน์ผงสีขาวที่เจอว่าเป็นยาเสพติดชนิดใด

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ยังบุกเข้าไปภายในห้องวีไอพี ของร้าน พบมีกลุ่มวัยรุ่นผู้ชายและผู้หญิง กำลังมั่วสุมนัวเนีย ดื่มเหล้า ร้องเพลง เมื่อเจ้าหน้าที่บุกเข้าไป พบยาเสพติดชนิดเม็ด ตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าเป็นยาอี 4 เม็ด และวัตถุคล้ายยาเสพติดประเภทยาเค ตกอยู่

ต่อมา เจ้าหน้าที่ฯได้ควบคุมตัวนักเที่ยวที่มีปัสสาวะสีม่วง 54 คน ส่งตรวจคัดแยกสารในร่างกาย หากพบว่ามีสารเสพติดก็จะต้องส่งไป บำบัดตามขั้นตอน พร้อมทั้งควบคุมตัวผู้ที่รับเป็นผู้ดูแลร้าน ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี

โดยกล่าวหาว่า

1.เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต
2.จำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลาที่กฎหมายกำหนด
4.ปล่อยปะละเลยให้มียาเสพติดในสถานบริการ

พร้อมกันนี้ ทางหัวหน้าชุดจับกุม จะทำหนังสือแจ้งผลของการปฏิบัติงาน รายงานตรงต่อ นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมทั้งเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้พิจารณาสั่งปิดผับชื่อ “อิเลฟเว่น พัทยา” ซึ่งเข้าข่ายสถานบริการมั่วยาเสพติด อย่างถาวรต่อไป

เจ้าของคาร์แคร์แสบออกอุบายจัดโปรพิเศษหลอกผู้เสียหาย สุดท้ายย้ายบ้าน-เชิดรถหนี!!!เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 7 ธ.ค.2567 ที่...
08/12/2024

เจ้าของคาร์แคร์แสบออกอุบายจัดโปรพิเศษหลอกผู้เสียหาย สุดท้ายย้ายบ้าน-เชิดรถหนี!!!

เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 7 ธ.ค.2567 ที่หน้า สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้มีกลุ่มผู้เสียหายจำนวน 3 ราย รวมตัวกันเข้าร้องเรียนสื่อมวลชน หลังจากถูกเจ้าของคาร์แคร์ชื่อ "บีบี" ซึ่งเป็นร้านล้างอัดฉีด ตั้งอยู่ในซอยหนองเกตุใหญ่ ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลอกเชิดรถยนต์ และรถจักรยานยนต์หลบหนีไป และเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง ไว้ก่อนหน้านี้แลัว

ส่วนรถของผู้เสียหายทั้ง 3 ราย ที่คนร้ายเชิดหลบหนีไปประกอบด้วย 1.รถ จยย.บิ๊กไบค์ ยี่ห้อ เบลลี่ 500 ซีซี สีดำ ทะเบียน 2 กล 5463 ชลบุรี , 2.รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมิซูบิชิ มิราท ทะเบียน 5 กฐ 7004 กรุงเทพมหานคร และ 3.รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า ยาริส สีขาว

สำหรับพฤติกรรมในการก่อเหตุ เหมือนกันทั้ง 3 ราย คือก่อนหน้านี้ผู้เสียหาย ได้นำรถไปล้างที่คาร์แคร์ดังกล่าว โดยมีชายวัยรุ่นซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเจ้าของคาร์แคร์ ออกมารับรถ หลังจากให้บริการล้างรถตามคำสั่งเจ้าของเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ชายคนดังกล่าวก็ได้ออกอุบายเสนอโปรโมชั่นขัดสีรถในราคาพิเศษ ทางผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงตัดสินใจใช้บริการและ ชำระค่าบริการทั้งหมดแล้ว เมื่อถึงกำหนดวันรับรถ กลับไม่สามารถติดต่อ ชายเจ้าของคาร์แคร์คนดังกล่าวได้ เมื่อพากันมาดูที่ร้านปรากฏว่า เจ้าของร้านได้ขนทรัพย์สินทั้งหมดหลบหนีไปแล้ว จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ และเกรงว่าคดีจะไม่คืบหน้า เลยพากันมาร้องสื่อมวลชนให้ช่วยอีกแรง

"บัญชีธนาคารที่โอนเงินให้เจ้าของคาร์แคร์ เจ้าของบัญชีเป็นชื่อเด็กชายคนหนึ่ง ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะนำมาใช้เป็นบัญชีม้า จึงอยากฝากตำรวจช่วยตามล่าจับกุมตัว และนำรถของพวกตนตนกลับมาให้ได้"

หนึ่งในผู้เสียหายกล่าว.

ปกครอง-ตำรวจพัทยา บุกจับ "อีเลฟเว่นผับ" พบยาเค-ยาไอซ์ถูกทิ้งเกลื่อนพื้น ตรวจฉี่นักเที่ยวเจอสีม่วง 54 รายเมื่อเวลา 04.00 ...
08/12/2024

ปกครอง-ตำรวจพัทยา บุกจับ "อีเลฟเว่นผับ" พบยาเค-ยาไอซ์ถูกทิ้งเกลื่อนพื้น ตรวจฉี่นักเที่ยวเจอสีม่วง 54 ราย

เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 8 ธ.ค.2567 นายธวัชชัย ศรีทอง ผวจ.ชลบุรี นายชัยพร แพพิรมย์รัตน์ รอง ผวจ. สั่งการให้ว่าที่ ร.ต.ชลธิศ เลยานนท์ ปลัดป้องกันจังหวัดชลบุรี จ่าเอกพิทยา ก่อแก้ว ปลัดอำเภอบางละมุง รักษาการตำแหน่งนายอำเภอบางละมุง นายวรภพ คงธนจรัส ปลัดอำเภอบางละมุง สนธิกำลังกับตำรวจ สภ.เมืองพัทยา โดยการนำของ พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก. พ.ต.ท.ศิรชัช หนูเทศ รอง ผกก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กว่า 100 นาย บุกเข้าตรวจสอบร้าน อีเลฟเว่นผับ พัทยา ตั้งอยู่ ริมถนนพัทยาใต้ พื้นที่หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้รับเรื่องร้องเรียนว่าสถานบันเทิงดังกล่าว เปิดเกินเวลาและมักมีวัยรุ่นเข้าไปมั่วสุมเสพยาเสพติด

จากการตรวจสอบพบนักเที่ยวชาย-หญิงนับร้อยคน กำลังนั่งดื่มกิน และเต้นไปตามจังหวะเพลง เจ้าหน้าที่สั่งให้พนักงานปิดเพลงและเปิดไฟ ก่อนกระจายกำลังกันปิดล้อม ทั้งในส่วนของห้องรวมและห้อง VIP จากนั้นจึงทำการตรวจบัตรประชาชน และตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด ปรากฏว่ามนักเที่ยวจำนวน 54 ราย แบ่งเป็นชาย 40 ราย หญิง 14 ราย มีสารเสพติดในร่างกาย นอกจากนี้ที่บริเวณพื้นยังพบซองใส่ผงสีขาวลักษณะค้ายาเสพติด และยาเคจำนวนหนึ่ง ถูกทิ้งไว้ที่พื้นโดยไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของ

เบื้องต้น ได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ดูแลร้าน จำนวน 4 ข้อหา คือ 1.เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.จำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินที่กฎหมายกำหนด และ 4.ปล่อยปละละเลยให้มียาเสพติดในสถานบริการ ก่อนทำหนังสือถึงนายธวัชชัย ศรีทอง ผวจ.ชลบุรี เพื่อพิจารณาสั่งปิดสถานบันเทิงแห่งนี้ ส่วน นักเที่ยวทั้ง 54 คนที่มีฉี่สีม่วง เบื้องต้นได้ส่งตัวไปดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.

ที่อยู่

เมืองพัทยา
ชลบุรี
20150

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ อธิปบูรพาผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

วิดีโอทั้งหมด

แชร์